เข้าสู่ระบบธุระที่สิโรจน์พูดถึงคือการมาเดินชอปปิงห้าง คนไม่คุ้นชินอย่างเหมือนจันทร์ถึงกับทำตัวไม่ถูก ยิ่งตลอดการเดินซื้อของมีสายตามากมายจับจ้องยิ่งทำให้ประหม่า วางสีหน้าแทบไม่เป็น
“เกร็งอะไรขนาดนั้น เป็นผู้หญิงของเสี่ยไม่ต้องอาย ใครๆก็อยากเป็น”แต่ไม่ใช่กับเธอ เหมือนจันทร์ตอบประโยคต่อในใจ ไม่ได้พูด และเป็นเด็กดีเดินตามเขาพาเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ Uniqlo “เลือกชุดที่ชอบ ถูกใจกี่ชุดเอามาให้หมด หรือจะเหมาทั้งร้านก็ได้” โอ้โห อวดรวยจริงๆ เหมือนจันทร์ทำทีเป็นเดินดู แอบหยิบป้ายราคาหลักพันขึ้นทั้งนั้น ราคาแรงจนไม่กล้าหยิบจับอะไรอีก คนเดินตามหลังอย่างสิโรจน์ก็ขมวดคิ้ว เพราะเห็นเธอเดินวนเกือบทั่วร้านแต่ยังไม่หยิบชุดสักชุด “ไม่ถูกใจเหรอ” เหมือนจันทร์หยุดเท้า หันไปสบตากับสิโรจน์ พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ “เปล่าค่ะ ชุดสวยมาก แต่จันทร์ไม่อยากได้อะไรค่ะ แค่ของที่คอนโดก็พอแล้ว” สิโรจน์เลิกคิ้ว หรี่ตาจับจ้องหญิงสาวอีกครั้งราวกับค้นคว้า ปกติ พวกผู้หญิงที่พามาซื้อก็อ้อนให้ซื้อโน่นซื้อนี่เยอะแยะ แต่พอเป็นเหมือนจันทร์ นอกจากไม่เอาอะไรแล้วยังคิดจะใช้ผ้าเน่าๆของเธออีก ใครรู้เข้า เสี่ยอย่างเขาคงเสียชื่อแน่ “เลือกชุดที่เข้ากับคุณผู้หญิงสิบชุด จัดส่งตามที่อยู่คอนโดนี้”สิโรจน์ยื่นบัตรเดรดิตพร้อมออกคำสั่งกับพนักงาน “ได้ค่ะ”พนักงานมองเหมือนจันทร์เล็กน้อยแล้วจึงรับบัตรไปทำเรื่องจ่ายเงิน “จันทร์ไม่อยากได้นะคะ” “ซื้อให้ มีปัญหาด้วย?” เหมือนจันทร์อดจะชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ใครจะอยากติดหนี้เขาเพิ่มอีก และเหมือนสิโรจน์จะอ่านใจได้ เขาเดินเข้ามาใกล้ รวบเอวคอดแนบชิด กระซิบข้างใบหูด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ “วางใจเถอะ ฉันไม่คิดหนี้เพิ่มหรอก ซื้อให้เพราะพิศวาสล้วนๆ” “เสี่ยมีผู้หญิงคนใหม่อีกแล้วเหรอ โธ่เอ้ย เจ้าชู้ไม่ตกเลยนะ ไปอยู่ที่ไหน ได้เมียที่นั่นทุกที คุณสุรพลคงไม่โมโหความดันขึ้นอีกหรอกนะ” เสียงบ่นคล้ายไม่พอใจแต่ก็เหมือนไม่ได้ใส่ใจมากนักแถมมิวายแขวะสุรพลหรือบิดาของสิโรจน์ ซึ่งตอนนี้อายุปาเข้าเลขเจ็ด หวังอยากให้ลูกชายมีครอบครัว อยากอุ้มหลานจะแย่ แต่ก็ยังเป็นเพียงความหวังซึ่งยังไม่เห็นแม้แต่ปลายทาง เธอทรุดตัวนั่งที่ประจำของตัวเองหลังจากได้ยินสาวๆบนโต๊ะคุยกัน “ถ้าไม่ได้นี่สิแปลก พี่นิ สงสารคุณสุรพลเหมือนกันนะเนี่ย รอปีแล้วปีเล่า อยากให้เสี่ยแต่งงานแต่ดันมีเมียเพิ่มเอาๆ”นิ หรือณิกา ธงชัย คนเอ่ยประโยคเมื่อครู่นั่นเอง ส่วนเธอที่นั่งข้างๆ ชื่อ นวิยา มงคลภักดี พวกเธอเป็นหนึ่งในเมียของเสี่ย “รีบกินข้าวแล้วแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง เสี่ยจะกลับบ้านเร็วๆนี้”เสียงทรงอำนาจและเรียบนิ่งดังขึ้นจากหัวโต๊ะ เป็นกานดา สุขประเสริฐ เมียหลวงคนสำคัญที่สิโรจน์ยกย่องให้ดูแลบรรดาเมียๆของเขา “ค่ะ พี่กาน” บ้านที่ว่านี้ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เชียงราย เหนือสุดของแดนสยาม เพียงแต่อยู่ต่างอำเภอกับบ้านเกิดแท้ๆของสิโรจน์ซึ่งอยู่ภายในเมือง เขาแยกอยู่กับพ่อบังเกิดเกล้า ซึ่งนานๆหนจะกลับบ้านในเมือง ส่วนมากหากไม่ติดงานจังหวัดอื่น สิโรจน์ก็จะกลับมาพักที่นี่ และแน่นอนว่าบรรดาเมียๆอย่างพวกเธอล้วนแล้วต้องปรนนิบัติสิโรจน์อย่างสุดความสามารถ ไม่มีใครเป็นที่หนึ่ง เพราะสิโรจน์ไม่คิดแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสาวสวยคนไหนทั้งนั้น เขาเหมือนเป็นนักสะสมเห็นของสวยเข้าตาก็เพียงแค่ซื้อมาดูมาเล่น ทว่า ไม่มีสิ่งไหนสะกดใจให้หลงใหลจนถึงขั้นหยุดความต้องการนี้ได้ เหมือนจันทร์เป่าปากโล่งอก คำกล่าวจากไรยาบอกว่าสิโรจน์กลับบ้านที่เชียงราย ไม่มีกำหนดกลับมาที่นี่อย่างแน่นอน เพราะงานที่มีปัญหาตรงนี้เคลียร์เสร็จแล้ว เขาอาจต้องเดินทางไปที่อื่นต่อซึ่งอาจจะเป็นเดือน สองเดือน หรือมากกว่านั้น แน่นอน นี่เป็นสิ่งที่เหมือนจันทร์อยากได้ยินมากที่สุด “แม่คะ หายเร็วๆนะคะแม่ จันทร์อยากกินกับข้าวฝีมือแม่ที่สุดเลย”เหมือนจันทร์บีบมือส่งกำลังใจให้กนกนุชซึ่งนอนพักฟื้นอยู่บนเตียง สิโรจน์จัดการให้พยาบาลพิเศษดูแลและไม่ยอมให้เธออยู่เฝ้า ให้เหตุผลว่าเวลาของเธอคือของเขา “จันทร์”ยังมีอาการปวดหัวและเพลียมากโข พูดเสียงเบา ใบหน้าซีดเผือด บาดแผลฟกช้ำทางร่างกายหายดีคงเหลือเพียงแผลจากการผ่าตัด “อย่าเพิ่งคิดอะไรเลยนะคะแม่ สิ่งสำคัญตอนนี้คือแม่ต้องพักผ่อนให้ดีๆ ต้องหายมาอยู่กับจันทร์เหมือนเดิม”เหมือนจันทร์น้ำตาคลอ ในชีวิตนี้ไม่มีใครอื่นนอกจากกนกนุชที่รักและหวังดีปกป้อง หากเป็นอะไรไปเธอจะอยู่อย่างไร พูดคุยกับกนกนุชอีกเกือบสิบนาทีจึงออกจากห้องพักฟื้น เนื่องจากตอนบ่ายมีเข้างานที่ร้านอาหารของบรรวรรณ จากตอนเย็นกลายเป็นช่วงบ่ายแทนด้วยการจัดการของสิโรจน์นั่นเอง เหมือนจันทร์เดินทางมาถึงร้านอาหารตอนเที่ยง จัดการเปลี่ยนชุด ทานข้าว ระหว่างรอเปลี่ยนงานกับพนักงานอีกคน “แม่จันทร์เป็นยังไงบ้าง พี่เพิ่งได้ข่าวจากคนในหมู่บ้านว่า…เอ่อ ช่างเถอะ อย่าพูดถึงเรื่องพวกนั้นดีกว่า ตอนนี้ปลอดภัยแล้วใช่ไหม”บรรวรรณไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์ร้ายๆที่เหมือนจันทร์ผ่านพ้นมาแล้ว คนในหมู่บ้านเล่าว่าดนัยติดหนี้พนันจนเป็นบ้า ทำร้ายสองแม่ลูกแล้วหอบโกยเงินหนีไปไม่เห็นมาหลายอาทิตย์แล้ว “ใช่ค่ะ ขอบคุณพี่วรรณที่เป็นห่วงแม่นะคะ”เหมือนจันทร์ชะงักเล็กน้อย ดวงตาหม่นเทาลง ยิ้มจืดจาง “ที่บอกว่าร้อนเงิน เพราะเรื่องของแม่ใช่ไหม”บรรวรรณกุมมือข้างหนึ่งของเหมือนจันทร์ บีบบางเบาส่งกำลังใจให้ แววตาทอดมองเห็นอกเห็นใจและสงสาร “ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วค่ะ” “คนที่ช่วย ใช่เสี่ยสิโรจน์หรือเปล่า” เหมือนจันทร์เบิกตากว้างเล็กน้อยไม่คิดว่าบรรวรรณก็รู้จักด้วย “พะ พี่วรรณ คือ”เธออับอายจนพูดไม่ออก ทั้งที่ปฏิเสธงานของบรรวรรณแต่สุดท้ายกลับยอมขายตัวเพื่อแลกเงินอยู่ดี “ไม่ต้องพูดอะไรนะจันทร์ พี่เข้าใจจันทร์ทุกอย่าง บางที นี่อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้” เหมือนจันทร์หน้าซึม พยักหน้ารับบางเบา ใช่…นี่เป็นทางเลือกเดียวที่เธอสามารถเลือกเดินได้ แม้ไม่รู้หนทางข้างหน้าจะมืดมนสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเลือกเดินแล้วก็หันหลังกลับไม่ได้ เหมือนจันทร์เลิกงานสี่โมงครึ่ง กลับถึงคอนโดห้าโมงนิดๆ ดวงตากลมโตกวาดมองรอบด้านอย่างละเอียด เห็นไรยาเดินออกจากห้องครัวพร้อมอาหารเย็นวันนี้ยกวางบนโต๊ะกินข้าว “กลับมาแล้วเหรอคะคุณจันทร์ หิวหรือยัง ฉันทำอาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ” “ขอบคุณค่ะคุณไรยา เอ่อ เสี่ยกลับบ้านไปแล้วใช่ไหมคะ” ไรยารู้สึกตกใจและอึ้งเล็กน้อย ปกติ ผู้หญิงของเสี่ยมักอยากให้เสี่ยอยู่ด้วยตลอด ใช้ทุกวิธีการหลอกล่อ แต่เหมือนจันทร์นี่สิแปลก พอเสี่ยไม่อยู่กลับทำหน้าเหมือนดีใจเสียแบบนั้น “ใช่ค่ะ” “คุณไรยารู้ไหมคะ ว่าเสี่ยกลับไปนานแค่ไหน” “ไม่ทราบเลยค่ะ ปกติ เสี่ยไปๆมาๆไม่ได้แจ้งล่วงหน้าอยู่แล้ว อ้อ จริงสิ อันนี้เสี่ยซื้อให้ค่ะ บอกว่าบันทึกเบอร์โทรและแอดไลน์ไว้เรียบร้อยแล้ว รหัสล็อกหน้าจอ 010102 ถ้าเข้าแล้วสามารถเปลี่ยนเป็นของคุณจันทร์เองได้เลยค่ะ”ไรยาเดินไปหยิบไอโฟน 16 promax ยื่นให้เหมือนจันทร์ เด็กเสี่ยถึงกับตาโตหลุบมองโทรศัพท์ราคาแพงที่เธอไม่มีวันอาจเอื้อมถึง เมื่อก่อนใช้แต่รุ่นถูกๆราคาไม่เกินพันเท่านั้น แถมยังพังเพราะถูกดนัยโยนลงพื้นระบายโทสะ เธอจึงไม่ได้มีเครื่องมือสื่อสารตั้งแต่เรียนจบกลับมาอยู่บ้าน “เอ่อ ให้จันทร์เหรอคะ” ไรยาพยักหน้าพร้อมยิ้ม เหมือนจันทร์ค่อยๆรับมาไว้ในมืออย่างเชื่องช้า รู้สึกไม่อยากมีเสียแบบนั้นเมื่อเปิดดูรายชื่อติดต่อแล้วเห็นการบันทึกชื่อของสิโรจน์ ผัวจันทร์ บ้าสิ ใครเป็นเมียเขากัน น่าอายจริงๆเลย “เสี่ยยังบอกอีกว่าห้ามเปลี่ยนชื่อเบอร์และชื่อไลน์ ห้ามเพิ่มเพื่อนหรือเพิ่มรายชื่อติดต่ออื่นนอกจากเสี่ย ถ้าเสี่ยโทรมาต้องรีบรับ ถ้าไลน์มาต้องรีบตอบ หากติดต่อไม่ได้เกินครึ่งชั่วโมง เสี่ยจะให้ลูกน้องมาดูคุณจันทร์ค่ะ” คนโมโหกำลังกดเปลี่ยนชื่อถึงกับชะงัก เงยหน้ามองคนพูดราวกับหูฟาดไม่อยากเชื่อว่ากฎเกณฑ์บ้าบอจะเยอะขนาดนี้ ตัวไม่อยู่แต่ก็ยังสร้างเรื่องวุ่นวายได้อีก เหลือเชื่อจริงๆ “ผู้หญิงของเสี่ย ต้องทำแบบนี้ทุกคนเลยเหรอ” ไรยาไม่ตอบแต่พยักหน้า แปลว่าเขาเปย์สาวด้วยโทรศัพท์พิเศษซึ่งมีเขาเป็นเพื่อนได้คนเดียวแบบนี้ทุกคนเลยสินะ แถมยังบันทึกชื่อชวนอ้วกแบบนั้นอีก แค่คิด เหมือนจันทร์ก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที คนเจ้าชู้ บ้ากาม มักมาก “ถ้าไลน์มาตอนหลับ หรือโทรมาตอนติดธุระสำคัญล่ะจะทำยังไง”เหมือนจันทร์ครุ่นคิดแล้วรีบถาม “คุณจันทร์สามารถไลน์ทิ้งไว้ได้ค่ะ เสร็จแล้วก็ค่อยโทรทีหลัง” “แปลว่าต้องรายงานเสี่ยทุกวันว่าตอนนี้จะนอนแล้ว วันนี้เวลานี้ไม่ว่างนะ ถ้าโทรมาเดี๋ยวโทรกลับงี้เหรอ มีผู้หญิงตั้งมากมายรายงานเสี่ยจะอ่านไหวเหรอ” ไรยารู้สึกขำกับสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังของเหมือนจันทร์ เธอทำเหมือนกฎเกณฑ์เหล่านี้ยากมาก ทั้งที่สาวๆคนอื่นล้วนชื่นชอบ “ความจริงไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ เรื่องพวกนี้จะเป็นแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น ไม่เกินเดือนคุณจันทร์ค่อยๆหายเงียบไปได้ค่ะ เพราะความสนใจเสี่ยจะหมดไปและเริ่มใหม่กับคนใหม่เสมอ” วูบหนึ่งเหมือนจันทร์รู้สึกดีใจ แต่ต่อมากลับรู้สึกเศร้าเล็กๆ นั่นสินะ สิโรจน์เป็นผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะหยุดกับผู้หญิงคนไหน เขาสนใจสิ่งใหม่ๆเสมอ และยากจะย้อนกลับมามองของเก่าที่เคยผ่านไปแล้ว “งั้นจันทร์ก็รายงานเขาเดือนหนึ่งก็น่าจะพอแล้วใช่ไหมคุณไรยา” “น่าจะค่ะ แต่การเป็นผู้หญิงของเสี่ยไม่ใช่ว่าจะหายไปมีคนอื่นได้เลย เมื่อไหร่ที่เสี่ยจับได้เท่ากับยุติความสัมพันธ์ แถมจะสั่งสอนที่กล้านอกใจเสี่ยอย่างโหดเหี้ยมที่สุดด้วยค่ะ” เหมือนจันทร์ลอบกลืนน้ำลาย ทำหน้าหวาดผวาเล็กน้อย เพียงแค่นึกถึงสีหน้าเรียบนิ่ง ดวงตาดุๆนั่นก็ชวนเสียวหลังวาบ “ไม่กล้า ไม่ทำแบบนั้นแน่นอน”สัญญาของเธอและสิโรจน์อยู่กันแค่ปีเดียว นั่นแปลว่า เขาอาจจะมาหาเธอแค่เดือนสองเดือน หลังจากนั้นก็… เหมือนจันทร์ยกยิ้มดีใจนิดๆ ขณะที่ไรยาผละตัวออกไปจัดเก็บของเรียบร้อยแล้วจึงกล่าวลาเหมือนจันทร์เพื่อกลับไปพักผ่อน เหมือนจันทร์ทิ้งตัวนั่งกินข้าว ส่วนมือก็ตั้งใจจิ้มโทรศัพท์ ไม่ได้เปลี่ยนข้อมูลเป็นของตัวเองอย่างที่ไรยาบอก เธอเพียงเข้าออกดูสื่อบันเทิงต่างๆเท่านั้น ของที่สิโรจน์ให้มาแพงเกินไป เธอรับไม่หมดหรอก เมื่อถึงเวลา ส่วนที่คืนได้เธอต้องคืนกลับ ใช้เวลาส่วนตัวไปหลายชั่วโมง อาบน้ำจะนอนแล้วจึงนึกขึ้นได้ รีบกดเข้าไลน์ ส่งข้อความไปทันที Jun:จันทร์หลับแล้วนะคะ โอ้โห แม้แต่ชื่อไลน์สิโรจน์ก็จัดการสมัครเป็นของเธอเสียด้วย ใส่ใจเทกแคร์ผู้หญิงในเครือเขาดีจัง เหมือนจันทร์ขยับตัวนอนในท่าสบาย วางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง กำลังจะเอื้อมปิดไฟ เสียงโทรไลน์ก็ดังเข้ามา ร่างเล็กลุกพรวดหันมองชื่อไลน์เด่นหราซึ่งเขียนชัดเจนว่าผัวจันทร์ ก็ทำให้ใบหน้าร้อนเห่อขึ้นจนต้องรีบกดรับสายทันที “ไหนว่านอนแล้ว” เสียงเข้มนิ่งดังเล็ดลอดออกมา เหมือนจะมีเสียงแปลกแทรกมาด้วยแต่ไม่ดังเท่าไหร่ “ก็ถ้าเสี่ยไม่โทรมาจันทร์ก็นอนแล้วค่ะ” “ยอกย้อนด้วย” “เปล่านะคะ จันทร์ง่วงแล้วค่ะ เสี่ยโทรมามีอะไรหรือเปล่าคะ”เหมือนจันทร์ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงกุกกัก ตามมาด้วยเสียงครางของผู้หญิง ทำเอาเธอหน้าร้อนวูบ เสียงแปลกๆเมื่อครู่คล้ายกันเลย “อยากได้ยินเสียง หรือจันทร์ไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ” คิดถึงคนบ้ากามอย่างคุณกับผีน่ะสิ “ค่ะ งั้นจันทร์นอนก่อนนะคะ” “อืม”เหมือนจันทร์รีบกดตัดสายเพราะไม่รู้ว่าประโยคทิ้งท้ายนั้นเขาตอบรับเธอหรือตอบรับผู้หญิงที่กำลังกกกอดอยู่กันแน่ “ไอ้เฒ่าบ้ากาม โรคจิต แก่ขนาดนี้ยังมักมากไม่รู้จักพอ น่าอายจริงๆ”อดจะก่นด่าคนอย่างสิโรจน์ไม่ได้ อยู่กับสาวอื่นแท้ๆดันโทรมาเสียได้ ไม่รู้จักอายบ้างเลย สิโรจน์ครางรับในลำคอ วางโทรศัพท์ลงกับโซฟา ใช้มือชักรูดกายแกร่งด้วยจังหวะรัว มองภาพเคลื่อนไหวบนหน้าคอมฯ จินตนาการว่าเป็นคนที่เขาต้องการ กัดกรามแน่น คำรามเสียงทุ้มต่ำ เกร็งกระตุก พร้อมกับเสียงกรีดร้องสุขสมในคอมฯเช่นกัน ไม่อยากเชื่อ ว่าการลิ้มรสจากผู้หญิงคนนั้นจะทำให้สิโรจน์ไม่อยากอาหารหวานอย่างอื่น นอกจากคนที่เพิ่งวางสายเมื่อครู่จนต้องพึ่งหนังผู้ใหญ่เพื่อปลดปล่อย ทั้งที่มีหญิงงามถึงหกคนอยู่ใกล้เพียงเอื้อม แค่ลงไปก็จัดหนักจัดเต็มได้ไม่ยากไม่เสียเวลา แต่ใจกลับไม่อยาก เอาแต่วนเวียนนึกถึงใบหน้าอ่อนหวานและเสียงเล็กไพเราะเท่านั้น อ่า…เหมือนจันทร์ ชื่อนี้ช่างทำให้ซาบซ่านตื่นเต้นดีนัก สิโรจน์กลับบ้านพักในรอบสองเดือน เมื่อคืนเขาดึงนภัส มากมี ไปเพื่อผ่อนคลาย ทว่า กลับไม่มีอารมณ์จนต้องแยกย้าย เช้าวันนี้สิโรจน์ยังไม่ลงมา บรรดาเมียๆทั้งหกจึงได้ตั้งวงแอบนินทาเบาๆ “นานๆทีเสี่ยจะกลับมา อุตส่าห์เรียนท่วงท่าเอาไว้ตั้งเยอะ ไม่ได้ใช้เลย” คนอื่นพากันหัวเราะเบาๆ “ทำราวกับว่าเสี่ยจะกินบ่อยงั้นแหละ อย่าลืมสิ เสี่ยน่ะชอบของใหม่สดตลอด”ปิยะดา อรุณ เอ่ยต่อ “แต่ว่ารอบนี้แปลกมาก”นภัสพูดขึ้น ทำหน้าชวนสงสัย “แปลก?”นวิยา มงคงภักดี ทวนคำอย่างสงสัย “เสี่ยเหมือนมีอารมณ์ แต่กลับขึ้นห้องไป” ทั้งห้าสาว อันประกอบด้วย กานดา สุขประเสริฐ นภัส นวิยา ปิยะดา ปรียา วรรณสิริ ต่างมีสีหน้าแปลกประหลาด “เสี่ยยังติดใจคนใหม่?”กานดาเปรยอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ “ไม่รู้สิ”นภัสยักไหล่ไม่สนใส่ใจเท่าไหร่ “แบบนี้คืนนี้ต้องให้พี่กานช่วยยืนยันแล้วล่ะ”ปิยะดาพูด ทุกสายตาจึงตกอยู่ที่กานดา คนที่สิโรจน์ยกย่องว่าเป็นเมียหลวงซึ่งทุกคนต้องเคารพมากที่สุด กานดาถอนหายใจเล็กน้อย สุดท้ายจำต้องพยักหน้ารับแม้ไม่แน่ใจว่าจะทำภารกิจสำเร็จหรือเปล่า “ว่ายังไงพี่กาน เมื่อคืนนี้เป็นยังไงบ้าง”นวิยารีบเอ่ยถามเมื่อกานดาในเช้าวันใหม่ คนอื่นๆก็ตามเข้ามานั่งเก้าอี้ประจำบนโต๊ะอาหารรอสิโรจน์ลงมา กานดาลอบยิ้มมีเล่ห์กล ทำให้คนอื่นๆถึงกับเลิกคิ้ว “งานนี้น่าสนุก” “หรือว่าเมื่อคืนเสี่ยไม่ได้นอนกับพี่เหรอ”นภัสรีบเอ่ยอย่างสงสัย กานดาหัวเราะเบาๆ พยักหน้ารับ นั่นทำให้สาวๆอีกห้าคนถึงกับนิ่งกึกไป “แปลว่าเสี่ยกำลังติดใจของใหม่จนไม่อยากกินของเก่าอย่างพวกเราสินะ”ปรียาพูดขึ้นช้าๆ “นั่นไม่ใช่เรื่องดีเหรอไง คุณสุรพลคงมีลุ้นงานแต่งก็คราวนี้”ปิยะดาเอ่ยต่อไม่แยแส สิโรจน์เป็นคนน่านับถือคนหนึ่ง อยู่กับเขามานาน รู้ว่าเนื้อแท้แล้วเป็นคนดีไม่ใช่คนเลวแข็งกระด้างเสียทีเดียว หากจะมีครอบครัว บางทีนี่อาจเป็นเรื่องดี “พูดเป็นเล่น อย่างเสี่ยคงไม่คิดผูกชีวิตกับใครหรอก”นภัสแย้ง “นั่นสิ หากเสี่ยคิดจะมีจริงๆคงไม่รอนานขนาดนี้”นวิยาเสริมต่อ การถกเถียงประเด็นเด็กใหม่ยังมีขึ้นเรื่อยๆจนสุดท้ายกานดาต้องเบรกก่อนที่สิโรจน์จะลงมาแล้วได้ยินเข้า “ไม่ว่าเสี่ยจะตัดสินใจยังไง พวกเราย่อมต้องเคารพและยอมรับ สิ่งที่เสี่ยปฏิบัติอย่างดีกับพวกเรามาตลอด พวกเราก็ต้องปฏิบัติดีตอบกลับด้วย” สาวๆทั้งหกรู้ดี การดำรงชีวิตแบบนี้ไม่ใช่สิ่งถาวร สิ่งที่ได้รับจากสิโรจน์นั้นมีมากมายจนอาจเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้สบายๆ แต่พวกเธอยังคงอาลัยอาวรณ์ชีวิตเรียบหรูที่อยู่ภายใต้การดูแลของสิโรจน์ หากวันใดวันหนึ่งสิโรจน์ค้นพบหัวใจตัวเอง พวกเธอคงได้แต่ชอกช้ำใจหอบข้าวของจากไปอย่างเงียบงันเท่านั้นเหมือนจันทร์ทำงานสนุกจนลืมวันลืมคืน คิดไม่ถึงว่าจะครบหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่สิโรจน์หายไป ตอนแรกๆยังกังวลและว้าวุ่นนิดหน่อย พอครบเดือนอย่างที่ไรยาพูด ตอนนี้จึงได้ดูสบายใจมากเหมือนจันทร์ยังทำงานที่ร้านอาหารบรรวรรณตามสัญญาสามวัน และไลฟ์สดขายเสื้อผ้าในวันหยุดทุกวัน สม่ำเสมอ ขยัน อดทน ไม่ย่อท้อ แม้แรกเริ่มจะมีคนดูเพียงสิบกว่าคน แต่เมื่อมีคนรีวิวสินค้าต่างๆ ลูกค้าก็เพิ่มขึ้น จากหลักสิบเป็นหลักร้อย จากร้อยเป็นพัน กลายเป็นว่าขายดิบขายดีจนต้องสั่งเสื้อผ้าเพิ่ม จากคอนโดซึ่งมีพื้นที่ว่างเต็ม ตอนนี้เต็มไปด้วยกองเสื้อผ้าจนไรยาได้แต่กุมขมับ แต่ถึงอย่างนั้น พอเห็นเหมือนจันทร์อดหลับอดนอนแพ็กสินค้าถึงตีสามตีสี่ เธอก็จำต้องเก็บความไม่สบายใจไว้แล้วคอยช่วยอีกฝ่ายแพ็กสินค้าส่งไม่น่าเชื่อว่าเวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ที่หญิงสาวขึ้นไลฟ์ จะขายดีเหมือนเป็นเดือนขนาดนี้“หากทำต่อไปเรื่อยๆ พี่ว่าจันทร์ไม่ต้องทำงานร้านอาหารแล้วล่ะ”เหมือนจันทร์ยิ้มร่า ไม่คิดว่าไลฟ์ขายของจะได้เงินขนาดนี้ หากตอนนั้นเธอมีทุนสักก้อนอย่างตอนนี้ ไม่แน่อาจไม่ต้องกลายมาเป็นผู้หญิงของเสี่ย“พี่ไรยาก็พูดไป”เหมือนจันทร์ยิ้มกว้างมากขึ้น อาจเพร
เหมือนจันทร์อดเม้มปากด้วยความขัดใจไม่ได้เมื่อเสียงไลน์โทรเข้ามาในเวลาสามทุ่มทุกวันนับแต่ที่สิโรจน์จากไป ทำราวกับกลัวเธอหายไป ทั้งที่ไรยาคงรายงานอยู่ตลอดแท้ๆเหมือนจันทร์สูดหายใจลึกกล้ำกลืนความรู้สึกไม่ชอบใจลง กดรับสายขานรับเสียงอ่อน“ค่ะเสี่ย”“วันนี้ทำอะไร”น้ำเสียงเรียบนิ่งดังตามสาย ตามด้วยเสียงกุกกักราวกำลังทำบางอย่างอยู่คงไม่ใช่ทำกิจกรรมอย่างว่าอีกหรอกนะเหมือนจันทร์คิดแล้วก็ทำหน้าบึ้งไม่พอใจเล็กน้อย“อยู่ห้องสิคะ วันนี้วันหยุดนี่นา”ก็เล่นให้ทำงานอาทิตย์ละสามวัน เธอยังจะไปไหนได้กัน“งั้นอยู่ห้องทำอะไรบ้าง”“อืม ทำกับข้าว ซักผ้า เก็บห้อง กวาด ถูบ้าน อะไรพวกนี้ค่ะ”เหมือนจันทร์เปิดลำโพง วางโทรศัพท์ลงกับเตียงนอน ขณะที่เธอนั่งด้านล่าง พับผ้าอย่างตั้งใจ“ของพวกนี้เป็นหน้าที่ของไรยาไม่ใช่เหรอ”มือบางชะงักก่อนพับเสื้อผ้าต่อ“ก็มันว่างนี่คะ เสี่ยไม่ให้ไปทำงานที่ร้านอาหาร ให้กินๆนอนๆอย่างเดียวเลย”“ไปชอปปิง เดินห้าง ซื้อของ เที่ยวก็ได้นี่ ไม่ได้ห้ามสักหน่อย”“ไม่เอาค่ะ”เหมือนจันทร์ตอบแทบจะทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอของสิโรจน์ เธอไม่อยากใช้เงินเขามากไปกว่านี้ “กลัวติดหนี้เพิ่มหรือยังไง”คนตัวเ
ธุระที่สิโรจน์พูดถึงคือการมาเดินชอปปิงห้าง คนไม่คุ้นชินอย่างเหมือนจันทร์ถึงกับทำตัวไม่ถูก ยิ่งตลอดการเดินซื้อของมีสายตามากมายจับจ้องยิ่งทำให้ประหม่า วางสีหน้าแทบไม่เป็น“เกร็งอะไรขนาดนั้น เป็นผู้หญิงของเสี่ยไม่ต้องอาย ใครๆก็อยากเป็น”แต่ไม่ใช่กับเธอ เหมือนจันทร์ตอบประโยคต่อในใจ ไม่ได้พูด และเป็นเด็กดีเดินตามเขาพาเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์ Uniqlo “เลือกชุดที่ชอบ ถูกใจกี่ชุดเอามาให้หมด หรือจะเหมาทั้งร้านก็ได้”โอ้โห อวดรวยจริงๆ เหมือนจันทร์ทำทีเป็นเดินดู แอบหยิบป้ายราคาหลักพันขึ้นทั้งนั้น ราคาแรงจนไม่กล้าหยิบจับอะไรอีก คนเดินตามหลังอย่างสิโรจน์ก็ขมวดคิ้ว เพราะเห็นเธอเดินวนเกือบทั่วร้านแต่ยังไม่หยิบชุดสักชุด“ไม่ถูกใจเหรอ”เหมือนจันทร์หยุดเท้า หันไปสบตากับสิโรจน์ พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ“เปล่าค่ะ ชุดสวยมาก แต่จันทร์ไม่อยากได้อะไรค่ะ แค่ของที่คอนโดก็พอแล้ว”สิโรจน์เลิกคิ้ว หรี่ตาจับจ้องหญิงสาวอีกครั้งราวกับค้นคว้า ปกติ พวกผู้หญิงที่พามาซื้อก็อ้อนให้ซื้อโน่นซื้อนี่เยอะแยะ แต่พอเป็นเหมือนจันทร์ นอกจากไม่เอาอะไรแล้วยังคิดจะใช้ผ้าเน่าๆของเธออีกใครรู้เข้า เสี่ยอย่างเขาคงเสียชื่อแน่“เลือกชุดที่เข้าก
เหมือนจันทร์เรียกกำลังใจให้ตัวเองอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเคาะประตูห้องนอน“เสี่ยคะ จันทร์เองค่ะ”“เข้ามา”น้ำเสียงดุดันดังขึ้น ทำเอาเหมือนจันทร์อยากจะหันหลังหนีไปจากตรงนี้จริงๆ หากไม่ติดว่าเป็นลูกหนี้ เธอคงไม่อยู่รอแล้วสูดหายใจลึกแล้วเปิดประตูก่อนจะปิดลง ปั้นหน้ายิ้มสุดความสามารถ สาวเท้าไปหยุดข้างๆสิโรจน์ซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียง นัยน์ตาคมกริบหรี่ลงสำรวจเรือนกายเล็ก ใบหน้าวางนิ่งเฉยเสียจนคนเข้ามาใจเสีย มือหนาตบที่ว่างข้างตัว โดยไม่มีคำพูดใด “จันทร์ขอโทษค่ะ จันทร์ไม่รู้ว่าเสี่ยจะมา”เหมือนจันทร์ทิ้งตัวนั่งข้างๆ มือประสานกันแน่นบนตัก เงยหน้ามองสิโรจน์“ไปไหนมา”“คือ จันทร์ไปทำงานที่ร้านอาหารพี่วรรณมาค่ะ”คนฟังขมวดคิ้ว หรี่ตาลงดุดัน วางมือบนมือนุ่มแล้วบีบแน่น สีหน้าเย็นชาจนคนมองหน้าเจื่อน“อนุญาตให้ไปทำเหรอ”“จันทร์ไม่ทราบว่าต้องขออนุญาตจากเสี่ยด้วย”“เป็นผู้หญิงของเสี่ย ทุกตารางนิ้วบนร่างกายคือของฉัน”ฝ่ามือร้อนช้อนใบหน้างามแหงนขึ้นให้ตนสำรวจถี่ถ้วน อีกข้างก็เลื่อนจากมือเล็กไปรวบเอวคอด ดึงเข้ามาจนเหมือนจันทร์ต้องใช้มือยันอกกว้าง “จันทร์อยากทำงานค่ะเสี่ย ให้จันทร์ทำเถอะนะคะ จันทร์อยากมีเงิน
เหมือนจันทร์ยังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ สิโรจน์ก็เร่งรัดจะทำตอนนี้เลยเหรอ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อตอบตกลงไปแล้ว“เสี่ยจะไม่ผิดสัญญาใช่ไหม”เหมือนจันทร์ยังลังเล หวาดกลัวการถูกหลอกนัก สิโรจน์ยืดตัวนั่งตรง เดินไปหยิบเอกสาร ขีดฆ่าแล้ววางลงตรงหน้าพร้อมกับนั่งที่เดิม“สัญญาลูกหนี้หนึ่งปี เซ็นซะสิ”ในสัญญามีลายเซ็นของสิโรจน์อยู่แล้ว มีสองฉบับ คาดว่าอีกฉบับให้เธอ เหมือนจันทร์จับปากกาไว้แน่น เซ็นชื่อลงไปอย่างรวดเร็ว พอเสร็จ อีกฝ่ายก็ยื่นฉบับหนึ่งมาให้เธอเก็บไว้จริงๆ“ทีนี้ จันทร์ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี”เหมือนจันทร์สูดหายใจลึก ข่มความรู้สึกขมขื่นในอกไว้ กัดฟันยอมทิ้งศักดิ์ศรีไป เธอลุกขึ้นเชื่องช้าเล็กน้อยเพราะตามร่างกายเจ็บระบมไปหมด กระนั้นก็ไม่ปริปากบ่น ถอดเสื้อยืดเก่าๆของตนออกตามด้วยกางเกงขายาว เหลือไว้เพียงชุดชั้นในสองชิ้นสิโรจน์กวาดมองเรือนร่างเย้ายวนเบื้องหน้า แม้ตามตัวจะมีรอยฟกช้ำรอยแดงเรื่อ ทว่าก็ไม่อาจปกปิดความงามของเธอได้ เขาลุกแล้วเดินมาหยุดตรงหน้า มือหยาบกระด้างวางทาบบั้นท้ายงอนงาม บีบขยำเบาๆจนหญิงสาวจิกเล็บเท้าลงกับพื้น หลุบตาต่ำไม่ได้สบตา“ไปห้องน้ำ”ไม่ได้รอฟังคำตอบ สิโรจน์ช้อนตัวเธอข
เหมือนจันทร์ได้สติอีกครั้งเมื่อบางอย่างเย็นๆแนบใบหน้า เธอปรือตาขึ้นอย่างยากเย็นเพราะมันยังรู้สึกหนักอึ้งและมึนศีรษะ แต่พอเห็นชายแปลกหน้าชัดเจน เหมือนจันทร์ก็เบิกตากว้าง ผลักอกเขา ขยับตัวนั่งติดหัวเตียง ใบหน้าขาวนวลซีดเผือด สำรวจเรือนร่างตนเองพบว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบจึงพอเบาใจ ใช้แขนกอดตัวเองแน่น จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความเกลียดชังและหวาดหวั่น“คุณ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ที่นี่คือที่ไหน คุณทำอะไรฉัน”คุณ ที่เธอถามนั้น ก็คือผู้ชายแปลกหน้าซึ่งขโมยจูบแรกของตนไปนั่นเองสิโรจน์ยกยิ้มนิดๆ แววตาแสดงความพึงพอใจ เขาวางผ้าเย็นสำหรับเช็ดหน้าผิวอ่อนโยนลงกับโต๊ะข้างเตียง จากนั้นจึงย้ายสายตามาประสานกับหญิงสาว“ใจเย็นๆ ไม่ต้องกังวล เธออยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งของฉัน และฉันก็คือเจ้าหนี้ที่เธอต้องอยู่ชดใช้ วางใจ ฉันไม่ใช่คนชอบบังคับฝืนใจใคร”ใบหน้าคมคายไม่ทุกข์ร้อน ทุกคำพูดราบเรียบเหมือนคุยเรื่องปกติทั่วไป ทั้งที่ประโยคเหล่านั้นมันกำลังทำให้เธอสั่นกลัวเพิ่มมากขึ้น“คุณ คุณคือเสี่ยสิโรจน์ คือเจ้าหนี้ของพ่อเหรอ”เหมือนจันทร์แทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่ขโมยจูบแรกไปจะกลายมาเป็นเจ้าหนี้ของตนไปได้คนฟังพยักหน้ารับ สีหน้าร







