Share

บทที่ 11

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“ท่านจะให้ข้าทอดทิ้งผู้คุ้มกันที่กำลังจะไปสนามรบเหล่านี้ เพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของข้าอย่างนั้นหรือ?”

ในดวงตาของฉู่หนิงฉายแววอำมหิต ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว “หรือท่านไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่แนวหน้ากำลังวิกฤต ต้องการกำลังคนสนับสนุนอย่างเร่งด่วน? ในยามนี้กลับจะมาสังหารเพื่อนร่วมแคว้นของตนเอง ท่านไม่คู่ควรกับการเป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหม!”

ทหารผ่านศึกเหล่านี้เขาได้มาอย่างยากลำบาก จะยอมให้เฝิงอันกั๋วสังหารไปง่าย ๆ ได้อย่างไร

จ้าวอวี่ กวนอวิ๋น และทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนได้ฟังก็ซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

พวกเขารู้ดีว่า ในยามนี้การทอดทิ้งพวกเขาคือทางเลือกที่ดีที่สุด

ทว่า ฉู่หนิงไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา!

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจว่า การที่พวกเขาเลือกฉู่หนิงนั้นไม่ผิด!

ผู้มีความสามารถมีอยู่มากมาย แต่ผู้ที่มองเห็นและส่งเสริมความสามารถนั้นหาได้ยาก

เพื่อพวกเขาแล้ว ฉู่หนิงถึงกับยอมมาตีอาวุธด้วยตนเอง กระทั่งยอมละเมิดกฎหมายเพื่อการนี้!

ชีวิตนี้ได้พบนายท่านผู้ปราดเปรื่องเช่นนี้ ก็เพียงพอแล้ว!

ทว่า เฝิงอันกั๋วกลับไม่สนใจฉู่หนิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว กล่าวอย่างเรียบเฉย “จวิ้นอ๋อง โปรดไตร่ตรองให้ดี หากวันนี้พวกเขาไม่ตาย คนที่ต้องตายอาจจะเป็นท่าน!

การลักลอบตีอาวุธ ประกอบกับฐานะองค์ชายของท่าน ย่อมทำให้ฝ่าบาททรงคิดว่าท่านมีเจตนาอื่นแอบแฝงได้”

คำพูดนี้ เท่ากับเป็นการตัดทางหนีทีไล่ของฉู่หนิงที่จะไกล่เกลี่ยเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว

ผู้คุ้มกันกลุ่มนี้ เฝิงอันกั๋วตัดสินใจแล้วว่าจะต้องฆ่า!

กวนอวิ๋นทนเห็นฉู่หนิงถูกหยามเช่นนี้ไม่ได้ ตวัดดาบยาวในมือทันที มายืนคุ้มกันฉู่หนิงไว้ด้านหลัง

“ท่านอ๋อง ท่านไปก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ ที่นี่มอบให้พวกเราจัดการ ต่อให้ต้องตาย พวกเราก็จะขอลากใครสักคนไปเป็นเพื่อน!”

จ้าวอวี่ก็ค่อย ๆ หันปลายหอกยาวในมือเล็งไปที่เฝิงอันกั๋ว กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านอ๋อง โปรดปล่อยท่านอ๋องไป!”

ท่านอ๋องได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหาหนทางรอดให้พวกเขาแล้ว แต่น่าเสียดายที่เฝิงอันกั๋วผู้นี้เผด็จการเกินไป ยึดติดกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ยอมปล่อย

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างมากก็แค่สู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

เพียงแต่น่าเสียดาย พวกเขาไม่มีโอกาสได้ติดตามจวิ้นอ๋องไปรับใช้บ้านเมืองที่แนวหน้าด้วยกันแล้ว

แต่ว่า ก่อนตายจะต้องกำจัดคนอย่างเฝิงอันกั๋วเพื่อท่านอ๋องให้ได้!

กล้ามาหยามท่านอ๋องถึงเพียงนี้ ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องกำจัดคนผู้นี้ให้ได้

สิ่งนี้ คือสิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำให้จวิ้นอ๋องได้ในตอนนี้

แน่นอนว่าเฝิงอันกั๋วไม่ได้คิดจะลงมือกับฉู่หนิงจริง ๆ จึงโบกมือครั้งใหญ่ทันที “จวิ้นอ๋อง รีบจากไปเถิด กระหม่อมจะประหารคนเหล่านี้ ณ ที่แห่งนี้!”

เมื่อสิ้นเสียงคำพูดนี้ ทหารของกรมกลาโหมก็กำอาวุธในมือแน่น รอเพียงคำสั่งสุดท้ายเท่านั้น

ทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนในตอนนี้ก็กลั้นหายใจ เตรียมพร้อมที่จะสู้ตาย

กวนอวิ๋นกล่าวเสียงทุ้ม “ท่านอ๋อง อย่าได้ไปขอร้องใครเพื่อพวกเราอีกเลยพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้พวกเราถูกฆ่าในวันนี้ ก็ไม่อยากเห็นท่านต้องไปขอร้องใครเช่นนี้!”

ในฐานะองค์ชาย ควรจะมีเกียรติและศักดิ์ศรีของราชวงศ์ จะไปขอร้องใครเพื่อพวกเขาได้อย่างไร

ถึงแม้ฉู่หนิงจะไม่ถือสา แต่พวกเขาก็ถือสา

ฉู่หนิงเห็นทั้งสองฝ่ายกำลังจะปะทะกัน ก็พลันถอนหายใจยาว “เฮ้อ คาดไม่ถึงว่าต้าฉู่ของเราในยามนี้ นอกจากจะต้องเผชิญกับภัยคุกคามภายนอกแล้ว ยังต้องมาเผชิญกับภัยคุกคามภายในอีก!”

“การลักลอบตีอาวุธ ก็เพื่อปกป้องบ้านเมือง ไม่ได้มีเจตนาส่วนตัวแอบแฝง หากใต้เท้าเฝิงยืนกรานจะใช้กฎหมายมาจัดการพวกเขา ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด!”

เฝิงอันกั๋วหัวเราะเยาะในใจ

ก็ต้องการให้เจ้าไม่มีอะไรจะพูดนี่แหละ!

ต้องการจะฆ่าคนของเจ้าต่อหน้าเจ้า

ใครใช้ให้เจ้าไปล่วงเกินองค์ชายรองเล่า!

“แต่ว่า...”

ฉู่หนิงสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาดุจพญาอินทรีจ้องเขม็งไปที่เฝิงอันกั๋ว กล่าวเสียงทุ้ม “เดิมทีคนเหล่านี้คือผู้ที่จะคุ้มกันข้าไปที่แนวหน้า หากถูกฆ่าไป ใต้เท้าเฝิงก็ต้องจัดสรรกำลังคนบางส่วนมาเป็นผู้คุ้มกันให้ข้า!”

หยุดไปครู่หนึ่ง ฉู่หนิงก็เหลือบมองทหารของกรมกลาโหมที่ล้อมตนเองอยู่ พยักหน้าพลางเอ่ยขึ้น “คนเหล่านี้ล้วนรูปร่างกำยำแข็งแรง ในมือยังมีทั้งอาวุธและชุดเกราะ ก็ให้พวกเขาติดตามข้าไปแนวหน้าด้วยกันเถิด!”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา เหล่าทหารของกรมกลาโหมตกใจจนหน้าซีดเผือด รู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลัง

แนวหน้า ใครมันจะกล้าไปกัน!

ที่นั่นแทบจะเป็นแดนประหารที่ต้องตายอย่างแน่นอน จะไปสบายเหมือนกับการรับราชการอยู่ในกรมกลาโหมที่เมืองหลวงได้อย่างไร

เฝิงอันกั๋วได้ยินดังนั้นสีหน้าก็ยิ่งเขียวคล้ำ จ้องฉู่หนิงเขม็ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จวิ้นอ๋องอย่าได้เปลี่ยนเรื่อง ตอนนี้กระหม่อมกำลังพูดถึงเรื่องที่คนกลุ่มนี้ลักลอบตีอาวุธ!”

ฉู่หนิงยักไหล่ “คนก็อยู่ที่นี่แล้ว จะฆ่าก็ฆ่าไป แต่หากท่านฆ่าพวกเขาแล้ว ข้าจะทูลขอให้เสด็จพ่อส่งท่านและพวกเขาทั้งหมดไปที่แนวหน้า!”

สีหน้าของเฝิงอันกั๋วเปลี่ยนไปทันที

เหตุใด...ถึงได้ลามมาถึงตัวเองได้?

“ท่านอ๋องอย่าได้พูดจาเหลวไหล กระหม่อมในฐานะรองเสนาบดีกรมกลาโหม จะไปสนามรบง่าย ๆ ได้อย่างไร?”

“อย่างนั้นหรือ? ใต้เท้าเฝิงก็รู้ว่าตนเองเป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหมนี่นา เช่นนั้นก็พอดีเลยสิ กรมกลาโหมก็คือหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการรบ!”

ฉู่หนิงกล่าวอย่างเรียบเฉย “ข้าเติบโตในหมู่สามัญชน ในกองทัพไม่มีบารมี คำพูดของข้า ทหารที่แนวหน้าอาจจะไม่ฟัง แต่หากมีใต้เท้าเฝิงติดตามไปด้วย ย่อมสามารถข่มขวัญเหล่าทหารที่แนวหน้าได้อย่างแน่นอน”

เฝิงอันกั๋วใจหายวาบ

หากเป็นยามปกติ ในฐานะรองเสนาบดีกรมกลาโหมย่อมไม่ต้องไปที่แนวหน้า

แต่แนวหน้าในยามนี้เปรียบเสมือนเผือกร้อน ทั้งยังไม่มีใครกล้าไปจัดการ หากฉู่หนิงทูลเสนอขึ้นมา แล้วฮ่องเต้ทรงอนุญาตขึ้นมาเล่า?

ถึงแม้ฉู่หนิงจะเป็นองค์ชายขยะ แต่ก็เป็นถึงองค์ชาย เป็นโอรสของฮ่องเต้!

ประกอบกับฝ่าบาทเพิ่งจะสั่งฆ่าล้างตระกูลเซียวหมิงเพื่อฉู่หนิง

ฉู่หนิงยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ฝ่าบาทยังทรงกำจัดเซียวหมิงให้ หากฉู่หนิงเอ่ยปากขึ้นมา ฝ่าบาทอาจจะทรงอนุญาตให้ตนเองไปแนวหน้าจริง ๆ ก็ได้

อย่างไรเสีย แนวหน้าก็ต้องการความมั่นคง หากส่งรองเสนาบดีกรมกลาโหมอย่างตนไปจริง ๆ ตนจะกล้าขัดรับสั่งได้อย่างไร?

ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนรน เฝิงอันกั๋วไม่เหลือท่าทีหยิ่งผยองเมื่อครู่อีกต่อไป แรงกดดันบนร่างก็ลดฮวบลงไป

“จวิ้นอ๋องล้อเล่นแล้ว ฝ่าบาททรงแต่งตั้งให้ท่านไปแนวหน้า กระหม่อมจะกล้าล่วงเกินได้อย่างไร?”

เฝิงอันกั๋วยิ้มเจื่อน ๆ “ส่วนเรื่องที่นี่ คงจะเป็นการเข้าใจผิดเป็นแน่ ทหาร รีบถอนกำลังกลับ!”

เขาไม่กล้าพนัน!

หากพนันแพ้ จะต้องไปที่แนวหน้า

ทางที่ดีที่สุดคือการยอมสงบศึก แม้จะไม่สามารถไปรายงานองค์ชายรองได้ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าการไปตายที่แนวหน้า!

สิ้นเสียงคำสั่ง ทหารของกรมกลาโหมก็รีบถอนกำลังทันที

กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่รวมถึงคนอื่น ๆ ต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก

ทว่า ฉู่หนิงกลับไม่คิดจะปล่อยเฝิงอันกั๋วไปง่าย ๆ

คิดจะมาฆ่าคนของเขาฉู่หนิงต่อหน้าสาธารณชน ก็จะต้องชดใช้

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก ใบหน้าแสดงความใสซื่อดูไม่มีพิษมีภัย

“ใต้เท้าเฝิงจะไปทั้งอย่างนี้แล้วหรือ?”

เฝิงอันกั๋วที่กำลังจะหันหลังเดินจากไป สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย มุมปากกระตุก เอ่ยขึ้นเสียงเบา “ไม่ทราบว่าท่านอ๋องยังมีอะไรจะสั่งอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ตนเองก็ไม่เอาความเรื่องลักลอบตีอาวุธแล้ว เจ้าฉู่หนิงยังจะต้องการอะไรอีก?

ฉู่หนิงชี้ไปยังกวนอวิ๋นและคนอื่น ๆ “เรื่องที่พวกเขาตีอาวุธ ใต้เท้าเฝิงไม่สืบสวนแล้วหรือ?”

“นี่...พวกเขาล้วนทำเพื่อบ้านเมือง แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จะต้องสืบสวนไปไย?”

“อย่างนั้นหรือ? แต่วันนี้ใต้เท้าเฝิงเป็นคนพาคนมาที่นี่ หากวันพรุ่งนี้เป็นใต้เท้าคนอื่นจากกรมกลาโหมนำคนมาสืบสวนที่นี่อีกเล่า?”

“เรื่องนี้ง่ายมาก ท่านนำป้ายอาญาสิทธิ์ของกระหม่อมไปที่กรมกลาโหมเพื่อขอหนังสือรับรองก็พอแล้ว มีหนังสือรับรอง ท่านจะตีอาวุธสักห้าร้อยชิ้นก็ยังได้!”

ฉู่หนิงยื่นมือไปรับป้ายอาญาสิทธิ์ที่เฝิงอันกั๋วยื่นให้ บนใบหน้าเผยความพึงพอใจออกมา

“ในเมื่อใต้เท้าเฝิงไม่เอาความแล้ว เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ให้จบลงเพียงเท่านี้ จ้าวอวี่ เจ้านำป้ายอาญาสิทธิ์ของใต้เท้าเฝิงไปเอาหนังสือรับรองที่กรมกลาโหม!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวอวี่รับป้ายอาญาสิทธิ์แล้วรีบมุ่งหน้าไปยังกรมกลาโหมทันที

เฝิงอันกั๋วถอนหายใจอย่างโล่งอก “หากท่านอ๋องไม่มีอะไรจะสั่งแล้ว กระหม่อมขอทูลลา”

ฉู่หนิงมองแผ่นหลังของคนผู้นี้ที่จากไปราวกับหนีตาย บนใบหน้าเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เรื่องอาวุธจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเมื่อเสด็จพ่อทรงทราบเรื่องนี้แล้วจะทรงมีความคิดเห็นเช่นไร”

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ฮ่องเต้จะไม่รู้

ในตอนแรกที่อ่อนข้อให้เฝิงอันกั๋ว ก็เป็นเพียงการแสดงให้คนอื่นดูเท่านั้น

จุดประสงค์ที่แท้จริง ก็คือการทำให้ฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องนี้!

เมื่อฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องนี้ ย่อมต้องมีการตอบโต้

ถึงแม้จะไม่ได้ใกล้ชิดกับฮ่องเต้ไร้ค่าผู้เป็นบิดามากนัก แต่ฮ่องเต้ไร้ค่าผู้นั้นก็เป็นคนรักหน้าตาอย่างยิ่ง วันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จะต้องทรงเรียกเขาไปเข้าเฝ้าเป็นแน่

ถึงตอนนั้น เขาจะมอบสิ่งประหลาดใจให้กับเฝิงอันกั๋ว!

คิดจะฆ่าเขาฉู่หนิง ก็จะต้องชดใช้!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 339

    วีรกรรมของเฝิงมู่หลานทำให้ทุกคนตกตะลึงขุนนางกว่าสิบคนที่มาดื่มอวยพร จอกสุราในมือล้วนถูกเฝิงมู่หลานรับไปดื่มรวดเดียวหมดแม้แต่ฮ่องเต้ก็ทรงตะลึงลานแม้จะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของเฝิงมู่หลานอยู่บ้าง และรู้จักนิสัยของนางดี แต่การได้เห็นความห้าวหาญของเฝิงมู่หลานด้วยตาตนเองเป็นครั้งแรกเช่นนี้ ก็ยังทำให้อดตกตะลึงไม่ได้!แต่อย่างไร การเรียกคืนอำนาจทางทหารก็ไม่อาจล่าช้าเพราะเฝิงมู่หลานเมื่อไม่อาจกรอกสุราต่อไป ก็ต้องใช้วิธีที่แข็งกร้าวแทนโชคดีที่ฉู่หนิงก็ดื่มไปไม่น้อยแล้ว บางทีสติสัมปชัญญะอาจไม่แจ่มใสเท่าเดิมฮ่องเต้พลันทรงหัวเราะออกมาเสียงกังวาน “เราได้ยินมานานแล้วว่าบุตรสาวของใต้เท้าเฝิงเป็นวีรสตรี ครั้งนี้ไม่เพียงสร้างคุณูปการที่สนามรบแนวหน้า แม้แต่การดื่มสุราก็ช่างห้าวหาญยิ่งนัก!”“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉู่หนิงก็ดื่มไปไม่น้อย นับว่าพอสมควรแล้ว”บรรดาขุนนางที่มาดื่มอวยพรได้ยินเช่นนั้นก็พากันโล่งอก พร้อมใจกันคำนับถอยออกจากศาลาเสิ่นหว่านอิ๋งถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เพียงฮ่องเต้มีรับสั่ง เรื่องนี้ก็ถือว่าจบเพียงเท่านี้นางดึงมือเฝิงมู่หลานเบา ๆ ด้วยความเป็นห่วงเฝิงมู่หลานส่ายหน้าให้เส

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 338

    ข้าต้องขู่ให้รู้สำนึกเสียบ้าง!เป็นเพียงรองเสนาบดีคนหนึ่งเท่านั้น แค่ได้รับการเสนอชื่อจากฉู่หนิงให้มานั่งที่โต๊ะนี้เข้าหน่อย เจ้าก็คิดว่าตนเองมีคุณสมบัติดีพอจะรับจอกแทนฉู่หนิงแล้วหรือ?“นี่...”หลิวโส่วเริ่นเหลือบมองฮ่องเต้ที่อยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง รู้สึกลำบากใจยิ่งนักหากตนเองไม่ออกมา ท่านอ๋องต้องถูกกรอกสุราจนเมามายแน่แต่หากยืนกรานจะรับจอกแทนต่อไป ย่อมถูกตีตราว่าเป็นพรรคพวกฉู่อ๋อง ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งต่อตนเองและท่านฉู่อ๋องในขณะที่ลังเล ฮ่องเต้ก็ทรงหรี่พระเนตร จ้องมองหลิวโส่วเริ่นแล้วตรัสเสียงเรียบว่า “ใต้เท้าหลิว ท่านช่างจงรักภักดีต่อฉู่หนิงจริง ๆ”คำพูดนี้ทำให้หลิวโส่วเริ่นตกใจจนเหงื่อกาฬแตกผลั่กการบอกว่าตนจงรักภักดีต่อฉู่หนิง นั่นก็คือไม่จงรักภักดีต่อฮ่องเต้นี่เป็นการเตือนตนเองว่า ไม่ควรรับจอกดื่มแทนผู้อื่นหลิวโส่วเริ่นรีบคำนับ “ฝ่าบาท กระหม่อมเพียงแต่สงสารท่านฉู่อ๋อง มิได้มีเจตนาอื่นใดพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ไม่ตรัสอะไรแต่องค์รัชทายาทกลับหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เพียงดื่มสุราเท่านั้น ใต้เท้าหลิวก็สงสารแล้ว หากฉู่อ๋องมีเรื่องอื่น ใต้เท้าหลิวคงรีบร้อนเข้าหาราวกับฝูงนกบินไปรับอา

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 337

    อาหารเลิศรสที่ถูกยกมาจัดวางส่งกลิ่นหอมฟุ้งเตะจมูก บรรยากาศพลันผ่อนคลายลงไม่น้อยฮ่องเต้ต้องการให้บรรยากาศรื่นเริงขึ้น จึงบอกให้ทุกคนยกจอกดื่มอวยพรกันในช่วงนี้ชั่วครู่หนึ่ง ทุกคนต่างสลับจอกกันดื่ม ช่างครึกครื้นยิ่งนักแน่นอนว่า ในฐานะดาวเด่นของงาน ฉู่หนิงย่อมตกเป็นเป้าหมายในการรุมล้อมของทุกคน“ขอแสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งใหญ่ของท่านฉู่อ๋อง!”“จอกนี้กระหม่อมขอมอบให้ฉู่อ๋อง!”“ช่างเป็นวีรบุรุษในวัยหนุ่มจริง ๆ ฉู่อ๋องยังหนุ่มแน่นแต่กลับมีผลงานเช่นนี้ ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก”“ท่านอ๋อง กระหม่อมขอดื่มให้พระองค์หมดจอก ส่วนพระองค์ก็ตามสบายเลยพ่ะย่ะค่ะ!”ภายใต้การ “รุมล้อม” ของทุกคน แม้ฉู่หนิงจะเป็นคนคอแข็งแต่ก็ยังต้องดื่มจนใบหน้าแดงก่ำแล้วแม้สุราในยุคนี้จะไม่ได้ร้อนแรงอันใด แต่ดื่มมากไปก็เมามายได้เช่นกันเมื่อมีขุนนางหลายสิบคนผลัดกันมาดื่มอวยพร ต่อให้เป็นเทพสุรามาอยู่ตรงนี้ก็คงต้านทานไม่ไหวภาพนี้ทำให้เสิ่นหว่านอิ๋งที่อยู่ด้านข้างรู้สึกกังวลยิ่ง ใบหน้าอ่อนหวานปรากฏความร้อนใจเป็นครั้งแรกหากดื่มต่อไปเช่นนี้ ฉู่หนิงจะทนไหวได้อย่างไร!อีกทั้งเหล่าองค์ชายยังไม่ได้มาดื่มอวยพร หากบรรดาองค

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 336

    อีกทั้งนางยังเป็นสตรีคนแรกในใต้หล้าที่ได้ออกสู่สนามรบ หากเรื่องนี้เป็นที่เลื่องลือออกไป ชื่อเสียงของแคว้นต้าฉู่ย่อมเหนือกว่าราชวงศ์อื่นใด“พูดดีมีเหตุผล!”ฮ่องเต้พยักพระพักตร์เล็กน้อย ตรัสยิ้ม ๆ ว่า “โต๊ะนี้ควรมีที่นั่งสำหรับนาง!”“ขอบพระทัยฝ่าบาท!” เฝิงมู่หลานแย้มยิ้มพริ้มเพรา ก้าวเข้าไปในศาลาอย่างสง่างาม แล้วนั่งลงเคียงข้างเสิ่นหว่านอิ๋งฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรไปยังเหล่าขุนนางและองค์ชายทั้งหลายที่อยู่ร่วมงานเลี้ยง พบว่ายังไม่มีผู้ใดคัดค้าน จึงอดร้อนพระทัยไม่ได้เราคิดหาวิธีกดดันฉู่หนิงแทบตาย พวกเจ้ากลับไม่ให้ความร่วมมือเสียนี่ยังเหลืออีกหนึ่งตำแหน่ง ดูซิว่าฉู่หนิงจะเลือกผู้ใดอีก!แม่ทัพผู้ร่วมรบกับฉู่หนิงที่กลับมาก็มีเพียงจ้าวอวี่กับเฝิงมู่หลานเท่านั้น คราวนี้เจ้าคงไม่มีคนให้แนะนำแล้วกระมัง“ยังเหลืออีกหนึ่งตำแหน่ง ฉู่หนิง เจ้าคิดว่าผู้ใดควรได้นั่ง?” ฮ่องเต้ทรงตรัสถามอย่างสงบนิ่งฉู่หนิงเพิ่งจะอ้าปาก องค์รัชทายาทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกลับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ “น้องสิบแปด ตำแหน่งสุดท้ายนี้สำคัญยิ่ง เจ้าต้องคิดให้ดีก่อนพูดยังมีพี่ชายอีกสิบหกคนที่ไม่ได้เข้ามา เจ้าตั้งใจจะมอบตำแหน่

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 335 

    ภายในศาลา ฉู่หนิงกับองค์รัชทายาท คนหนึ่งนั่งฝั่งซ้าย คนหนึ่งนั่งฝั่งขวาของฮ่องเต้เสิ่นหว่านอิ๋งกับพระชายารัชทายาทก็ย่อมนั่งข้างผู้ชายของตนเองหนึ่งโต๊ะมีแปดที่นั่ง ตอนนี้นั่งไปห้าคนแล้ว องค์ชายที่เหลือจ้องที่นั่งที่เหลืออีกสามที่จนตาแดงฮ่องเต้ย่อมสังเกตเห็นเรื่องแค่นี้ ในสายพระเนตรจึงมีแววพินิจแลบผ่าน“ฉู่หนิง โต๊ะของพวกเรายังเหลือที่นั่งอีกสามที่ เจ้าคิดว่าควรให้ใครนั่งดี?”เมื่อครู่ช่วยฉู่หนิงคลี่คลายสถานการณ์ ควรเก็บดอกเบี้ยสักหน่อย ไม่อย่างนั้นเจ้าลูกทรพีพวกนั้นจะรู้สึกว่าเราลำเอียงแน่นอน ยังสามารถใช้โอกาสนี้หยั่งเชิงฉู่หนิง ดูว่าเขาอยากให้ใครมาร่วมโต๊ะเมื่อคำพูดนี้ออกมา สายตาของทุกคนไปรวมกันที่ตัวฉู่หนิงโดยเฉพาะองค์ชายทั้งหลาย แต่ละคนจ้องฉู่หนิงตาแดงก่ำ ราวกับว่าถ้าฉู่หนิงไม่ให้พวกเขาร่วมโต๊ะ ก็จะกลืนเขาลงท้องทั้งเป็นองค์รัชทายาทมองฉู่หนิงแวบหนึ่ง บนใบหน้าปรากฏแววเย้ยหยันสิ่งที่เสด็จพ่อถนัดที่สุดก็คือการสร้างความสมดุล เมื่อครู่จงใจช่วยฉู่หนิงคลี่คลายสถานการณ์ ตอนนี้ก็จะให้โจทย์ยากแก่ฉู่หนิงยังเหลือองค์ชายอีกสิบหกคน ดูซิว่าเจ้าจะเลือกอย่างไรไม่ว่าเขาให้ใครมาร่ว

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 334

    “ฉู่อ๋องก็จริงๆ เลย เหตุใดต้องไปทะเลาะกับองค์รัชทายาทด้วย แค่ต่อว่าเจ้าคำสองคำ อดกลั้นไว้ก็สิ้นเรื่อง”“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ ฉู่อ๋องมองสถานการณ์ไม่ออกเลย”“ในเมืองหลวงแห่งนี้ นอกจากฝ่าบาทแล้ว คำพูดขององค์รัชทายาทใหญ่สุด ฉู่อ๋องเป็นศัตรูกับองค์รัชทายาท ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเลย”ขุนนางส่วนใหญ่รู้สึกว่าฉู่หนิงไม่ควรพูดเช่นนี้เขาเป็นรัชทายาท ส่วนเจ้าเป็นแค่ชินอ๋อง องค์รัชทายาทต่อว่าเจ้า แล้วเจ้าทำอะไรเขาได้?ต่อให้เจ้ามีอำนาจทางทหารในมือแล้วอย่างไร ทหารอยู่ที่แนวหน้า เจ้าอยู่ในเมืองหลวง องค์รัชทายาทอยากจัดการเจ้าง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ!องค์รัชทายาทย่อมได้ยินคำพูดของเหล่าขุนนาง เขามองฉู่หนิงอย่างเย้ยหยัน “ดูเหมือนน้องสิบแปดไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของข้านะ ข้าว่าเจ้ามาสาย เจ้าก็มาสาย!”“หากเจ้าไม่เชื่อ ก็ลองถามใต้เท้าทุกท่านดูสิ”ต่อว่าเจ้ายังไม่พอใจ?เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะอาศัยคนหมู่มากรังแกเจ้า!ภาพนี้ทำให้สีหน้าของจ้าวอวี่ที่เดินตามหลังฉู่หนิงเปลี่ยนฉับพลัน และจะก้าวออกมาพูดแทนฉู่หนิงทันทีแต่ฉู่หนิงกลับยื่นมือไปขวางจ้าวอวี่เอาไว้ เขามององค์รัชทายาทแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่องค์รัชทายาทพูด

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status