Share

บทที่ 11

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“ท่านจะให้ข้าทอดทิ้งผู้คุ้มกันที่กำลังจะไปสนามรบเหล่านี้ เพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของข้าอย่างนั้นหรือ?”

ในดวงตาของฉู่หนิงฉายแววอำมหิต ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว “หรือท่านไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่แนวหน้ากำลังวิกฤต ต้องการกำลังคนสนับสนุนอย่างเร่งด่วน? ในยามนี้กลับจะมาสังหารเพื่อนร่วมแคว้นของตนเอง ท่านไม่คู่ควรกับการเป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหม!”

ทหารผ่านศึกเหล่านี้เขาได้มาอย่างยากลำบาก จะยอมให้เฝิงอันกั๋วสังหารไปง่าย ๆ ได้อย่างไร

จ้าวอวี่ กวนอวิ๋น และทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนได้ฟังก็ซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

พวกเขารู้ดีว่า ในยามนี้การทอดทิ้งพวกเขาคือทางเลือกที่ดีที่สุด

ทว่า ฉู่หนิงไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา!

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจว่า การที่พวกเขาเลือกฉู่หนิงนั้นไม่ผิด!

ผู้มีความสามารถมีอยู่มากมาย แต่ผู้ที่มองเห็นและส่งเสริมความสามารถนั้นหาได้ยาก

เพื่อพวกเขาแล้ว ฉู่หนิงถึงกับยอมมาตีอาวุธด้วยตนเอง กระทั่งยอมละเมิดกฎหมายเพื่อการนี้!

ชีวิตนี้ได้พบนายท่านผู้ปราดเปรื่องเช่นนี้ ก็เพียงพอแล้ว!

ทว่า เฝิงอันกั๋วกลับไม่สนใจฉู่หนิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว กล่าวอย่างเรียบเฉย “จวิ้นอ๋อง โปรดไตร่ตรองให้ดี หากวันนี้พวกเขาไม่ตาย คนที่ต้องตายอาจจะเป็นท่าน!

การลักลอบตีอาวุธ ประกอบกับฐานะองค์ชายของท่าน ย่อมทำให้ฝ่าบาททรงคิดว่าท่านมีเจตนาอื่นแอบแฝงได้”

คำพูดนี้ เท่ากับเป็นการตัดทางหนีทีไล่ของฉู่หนิงที่จะไกล่เกลี่ยเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว

ผู้คุ้มกันกลุ่มนี้ เฝิงอันกั๋วตัดสินใจแล้วว่าจะต้องฆ่า!

กวนอวิ๋นทนเห็นฉู่หนิงถูกหยามเช่นนี้ไม่ได้ ตวัดดาบยาวในมือทันที มายืนคุ้มกันฉู่หนิงไว้ด้านหลัง

“ท่านอ๋อง ท่านไปก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ ที่นี่มอบให้พวกเราจัดการ ต่อให้ต้องตาย พวกเราก็จะขอลากใครสักคนไปเป็นเพื่อน!”

จ้าวอวี่ก็ค่อย ๆ หันปลายหอกยาวในมือเล็งไปที่เฝิงอันกั๋ว กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านอ๋อง โปรดปล่อยท่านอ๋องไป!”

ท่านอ๋องได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหาหนทางรอดให้พวกเขาแล้ว แต่น่าเสียดายที่เฝิงอันกั๋วผู้นี้เผด็จการเกินไป ยึดติดกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ยอมปล่อย

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างมากก็แค่สู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

เพียงแต่น่าเสียดาย พวกเขาไม่มีโอกาสได้ติดตามจวิ้นอ๋องไปรับใช้บ้านเมืองที่แนวหน้าด้วยกันแล้ว

แต่ว่า ก่อนตายจะต้องกำจัดคนอย่างเฝิงอันกั๋วเพื่อท่านอ๋องให้ได้!

กล้ามาหยามท่านอ๋องถึงเพียงนี้ ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องกำจัดคนผู้นี้ให้ได้

สิ่งนี้ คือสิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำให้จวิ้นอ๋องได้ในตอนนี้

แน่นอนว่าเฝิงอันกั๋วไม่ได้คิดจะลงมือกับฉู่หนิงจริง ๆ จึงโบกมือครั้งใหญ่ทันที “จวิ้นอ๋อง รีบจากไปเถิด กระหม่อมจะประหารคนเหล่านี้ ณ ที่แห่งนี้!”

เมื่อสิ้นเสียงคำพูดนี้ ทหารของกรมกลาโหมก็กำอาวุธในมือแน่น รอเพียงคำสั่งสุดท้ายเท่านั้น

ทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนในตอนนี้ก็กลั้นหายใจ เตรียมพร้อมที่จะสู้ตาย

กวนอวิ๋นกล่าวเสียงทุ้ม “ท่านอ๋อง อย่าได้ไปขอร้องใครเพื่อพวกเราอีกเลยพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้พวกเราถูกฆ่าในวันนี้ ก็ไม่อยากเห็นท่านต้องไปขอร้องใครเช่นนี้!”

ในฐานะองค์ชาย ควรจะมีเกียรติและศักดิ์ศรีของราชวงศ์ จะไปขอร้องใครเพื่อพวกเขาได้อย่างไร

ถึงแม้ฉู่หนิงจะไม่ถือสา แต่พวกเขาก็ถือสา

ฉู่หนิงเห็นทั้งสองฝ่ายกำลังจะปะทะกัน ก็พลันถอนหายใจยาว “เฮ้อ คาดไม่ถึงว่าต้าฉู่ของเราในยามนี้ นอกจากจะต้องเผชิญกับภัยคุกคามภายนอกแล้ว ยังต้องมาเผชิญกับภัยคุกคามภายในอีก!”

“การลักลอบตีอาวุธ ก็เพื่อปกป้องบ้านเมือง ไม่ได้มีเจตนาส่วนตัวแอบแฝง หากใต้เท้าเฝิงยืนกรานจะใช้กฎหมายมาจัดการพวกเขา ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด!”

เฝิงอันกั๋วหัวเราะเยาะในใจ

ก็ต้องการให้เจ้าไม่มีอะไรจะพูดนี่แหละ!

ต้องการจะฆ่าคนของเจ้าต่อหน้าเจ้า

ใครใช้ให้เจ้าไปล่วงเกินองค์ชายรองเล่า!

“แต่ว่า...”

ฉู่หนิงสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาดุจพญาอินทรีจ้องเขม็งไปที่เฝิงอันกั๋ว กล่าวเสียงทุ้ม “เดิมทีคนเหล่านี้คือผู้ที่จะคุ้มกันข้าไปที่แนวหน้า หากถูกฆ่าไป ใต้เท้าเฝิงก็ต้องจัดสรรกำลังคนบางส่วนมาเป็นผู้คุ้มกันให้ข้า!”

หยุดไปครู่หนึ่ง ฉู่หนิงก็เหลือบมองทหารของกรมกลาโหมที่ล้อมตนเองอยู่ พยักหน้าพลางเอ่ยขึ้น “คนเหล่านี้ล้วนรูปร่างกำยำแข็งแรง ในมือยังมีทั้งอาวุธและชุดเกราะ ก็ให้พวกเขาติดตามข้าไปแนวหน้าด้วยกันเถิด!”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา เหล่าทหารของกรมกลาโหมตกใจจนหน้าซีดเผือด รู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลัง

แนวหน้า ใครมันจะกล้าไปกัน!

ที่นั่นแทบจะเป็นแดนประหารที่ต้องตายอย่างแน่นอน จะไปสบายเหมือนกับการรับราชการอยู่ในกรมกลาโหมที่เมืองหลวงได้อย่างไร

เฝิงอันกั๋วได้ยินดังนั้นสีหน้าก็ยิ่งเขียวคล้ำ จ้องฉู่หนิงเขม็ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จวิ้นอ๋องอย่าได้เปลี่ยนเรื่อง ตอนนี้กระหม่อมกำลังพูดถึงเรื่องที่คนกลุ่มนี้ลักลอบตีอาวุธ!”

ฉู่หนิงยักไหล่ “คนก็อยู่ที่นี่แล้ว จะฆ่าก็ฆ่าไป แต่หากท่านฆ่าพวกเขาแล้ว ข้าจะทูลขอให้เสด็จพ่อส่งท่านและพวกเขาทั้งหมดไปที่แนวหน้า!”

สีหน้าของเฝิงอันกั๋วเปลี่ยนไปทันที

เหตุใด...ถึงได้ลามมาถึงตัวเองได้?

“ท่านอ๋องอย่าได้พูดจาเหลวไหล กระหม่อมในฐานะรองเสนาบดีกรมกลาโหม จะไปสนามรบง่าย ๆ ได้อย่างไร?”

“อย่างนั้นหรือ? ใต้เท้าเฝิงก็รู้ว่าตนเองเป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหมนี่นา เช่นนั้นก็พอดีเลยสิ กรมกลาโหมก็คือหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการรบ!”

ฉู่หนิงกล่าวอย่างเรียบเฉย “ข้าเติบโตในหมู่สามัญชน ในกองทัพไม่มีบารมี คำพูดของข้า ทหารที่แนวหน้าอาจจะไม่ฟัง แต่หากมีใต้เท้าเฝิงติดตามไปด้วย ย่อมสามารถข่มขวัญเหล่าทหารที่แนวหน้าได้อย่างแน่นอน”

เฝิงอันกั๋วใจหายวาบ

หากเป็นยามปกติ ในฐานะรองเสนาบดีกรมกลาโหมย่อมไม่ต้องไปที่แนวหน้า

แต่แนวหน้าในยามนี้เปรียบเสมือนเผือกร้อน ทั้งยังไม่มีใครกล้าไปจัดการ หากฉู่หนิงทูลเสนอขึ้นมา แล้วฮ่องเต้ทรงอนุญาตขึ้นมาเล่า?

ถึงแม้ฉู่หนิงจะเป็นองค์ชายขยะ แต่ก็เป็นถึงองค์ชาย เป็นโอรสของฮ่องเต้!

ประกอบกับฝ่าบาทเพิ่งจะสั่งฆ่าล้างตระกูลเซียวหมิงเพื่อฉู่หนิง

ฉู่หนิงยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ฝ่าบาทยังทรงกำจัดเซียวหมิงให้ หากฉู่หนิงเอ่ยปากขึ้นมา ฝ่าบาทอาจจะทรงอนุญาตให้ตนเองไปแนวหน้าจริง ๆ ก็ได้

อย่างไรเสีย แนวหน้าก็ต้องการความมั่นคง หากส่งรองเสนาบดีกรมกลาโหมอย่างตนไปจริง ๆ ตนจะกล้าขัดรับสั่งได้อย่างไร?

ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนรน เฝิงอันกั๋วไม่เหลือท่าทีหยิ่งผยองเมื่อครู่อีกต่อไป แรงกดดันบนร่างก็ลดฮวบลงไป

“จวิ้นอ๋องล้อเล่นแล้ว ฝ่าบาททรงแต่งตั้งให้ท่านไปแนวหน้า กระหม่อมจะกล้าล่วงเกินได้อย่างไร?”

เฝิงอันกั๋วยิ้มเจื่อน ๆ “ส่วนเรื่องที่นี่ คงจะเป็นการเข้าใจผิดเป็นแน่ ทหาร รีบถอนกำลังกลับ!”

เขาไม่กล้าพนัน!

หากพนันแพ้ จะต้องไปที่แนวหน้า

ทางที่ดีที่สุดคือการยอมสงบศึก แม้จะไม่สามารถไปรายงานองค์ชายรองได้ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าการไปตายที่แนวหน้า!

สิ้นเสียงคำสั่ง ทหารของกรมกลาโหมก็รีบถอนกำลังทันที

กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่รวมถึงคนอื่น ๆ ต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก

ทว่า ฉู่หนิงกลับไม่คิดจะปล่อยเฝิงอันกั๋วไปง่าย ๆ

คิดจะมาฆ่าคนของเขาฉู่หนิงต่อหน้าสาธารณชน ก็จะต้องชดใช้

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก ใบหน้าแสดงความใสซื่อดูไม่มีพิษมีภัย

“ใต้เท้าเฝิงจะไปทั้งอย่างนี้แล้วหรือ?”

เฝิงอันกั๋วที่กำลังจะหันหลังเดินจากไป สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย มุมปากกระตุก เอ่ยขึ้นเสียงเบา “ไม่ทราบว่าท่านอ๋องยังมีอะไรจะสั่งอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ตนเองก็ไม่เอาความเรื่องลักลอบตีอาวุธแล้ว เจ้าฉู่หนิงยังจะต้องการอะไรอีก?

ฉู่หนิงชี้ไปยังกวนอวิ๋นและคนอื่น ๆ “เรื่องที่พวกเขาตีอาวุธ ใต้เท้าเฝิงไม่สืบสวนแล้วหรือ?”

“นี่...พวกเขาล้วนทำเพื่อบ้านเมือง แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จะต้องสืบสวนไปไย?”

“อย่างนั้นหรือ? แต่วันนี้ใต้เท้าเฝิงเป็นคนพาคนมาที่นี่ หากวันพรุ่งนี้เป็นใต้เท้าคนอื่นจากกรมกลาโหมนำคนมาสืบสวนที่นี่อีกเล่า?”

“เรื่องนี้ง่ายมาก ท่านนำป้ายอาญาสิทธิ์ของกระหม่อมไปที่กรมกลาโหมเพื่อขอหนังสือรับรองก็พอแล้ว มีหนังสือรับรอง ท่านจะตีอาวุธสักห้าร้อยชิ้นก็ยังได้!”

ฉู่หนิงยื่นมือไปรับป้ายอาญาสิทธิ์ที่เฝิงอันกั๋วยื่นให้ บนใบหน้าเผยความพึงพอใจออกมา

“ในเมื่อใต้เท้าเฝิงไม่เอาความแล้ว เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ให้จบลงเพียงเท่านี้ จ้าวอวี่ เจ้านำป้ายอาญาสิทธิ์ของใต้เท้าเฝิงไปเอาหนังสือรับรองที่กรมกลาโหม!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวอวี่รับป้ายอาญาสิทธิ์แล้วรีบมุ่งหน้าไปยังกรมกลาโหมทันที

เฝิงอันกั๋วถอนหายใจอย่างโล่งอก “หากท่านอ๋องไม่มีอะไรจะสั่งแล้ว กระหม่อมขอทูลลา”

ฉู่หนิงมองแผ่นหลังของคนผู้นี้ที่จากไปราวกับหนีตาย บนใบหน้าเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เรื่องอาวุธจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเมื่อเสด็จพ่อทรงทราบเรื่องนี้แล้วจะทรงมีความคิดเห็นเช่นไร”

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ฮ่องเต้จะไม่รู้

ในตอนแรกที่อ่อนข้อให้เฝิงอันกั๋ว ก็เป็นเพียงการแสดงให้คนอื่นดูเท่านั้น

จุดประสงค์ที่แท้จริง ก็คือการทำให้ฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องนี้!

เมื่อฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องนี้ ย่อมต้องมีการตอบโต้

ถึงแม้จะไม่ได้ใกล้ชิดกับฮ่องเต้ไร้ค่าผู้เป็นบิดามากนัก แต่ฮ่องเต้ไร้ค่าผู้นั้นก็เป็นคนรักหน้าตาอย่างยิ่ง วันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จะต้องทรงเรียกเขาไปเข้าเฝ้าเป็นแน่

ถึงตอนนั้น เขาจะมอบสิ่งประหลาดใจให้กับเฝิงอันกั๋ว!

คิดจะฆ่าเขาฉู่หนิง ก็จะต้องชดใช้!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 696

    แต่ก็มีคนก้าวออกมาคัดค้านทันที “ฮึ่ม ใต้เท้าเหอดูแลกรมโยธาธิการ หากย้ายไปกรมการคลัง ใครจะรับผิดชอบงานของกรมโยธาธิการ?”“ถูกต้อง ใต้เท้าเหอไม่เหมาะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลัง ให้ใต้เท้าจางดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังเหมาะสมกว่า”“ใต้เท้าจางไม่เหมาะ ให้ใต้เท้าเผิงดำรงตำแหน่งเหมาะสมที่สุด”“ฝ่าบาท ในความเห็นของกระหม่อม ใต้เท้าโม่เหมาะกับตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังที่สุด”ทุกคนพากันก้าวออกมา ปกป้องผู้ที่ตนเองจงรักภักดีตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังมีความสำคัญอย่างยิ่ง พวกเขาต้องแย่งตำแหน่งนี้มาให้เจ้านายของตนเองให้ได้ ไม่เช่นนั้นต่อไปอยู่ในราชสำนัก จะตกอยู่ใต้อำนาจผู้อื่นแต่พวกเขายิ่งทะเลาะกัน รอยยิ้มบนใบหน้าฉู่หนิงก็ยิ่งกว้างทะเลาะเลย ทะเลาะเยอะๆ ทะเลาะจนทำให้เสด็จพ่อรำคาญพวกเจ้า ถึงเวลานั้น ตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังก็จะเป็นของหลิวโส่วเริ่นเจ้าพวกนี้ยังคิดจะฉวยโอกาส แต่หารู้ไม่ว่าเสด็จพ่อ ถนัดเรื่องการถ่วงดุลอำนาจมากที่สุดตอนนี้พวกเจ้าแต่ละคนให้ขุนนางที่สนับสนุนตนเองออกมาร่วมวงด้วย นี่ไม่เท่ากับกำลังบอกฮ่องเต้ว่า : คนพวกนี้เป็นคนของพวกเจ้า!ด้วยนิสัยของฮ่องเต้ ไม่มีทางปล่อยให้ฝ่ายใด

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 695

    “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าใต้เท้าหลิวเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลัง!”ฉู่หนิงก้าวออกมาพูดแทนหลิวโส่วเริ่น “ในช่วงนี้ ขุนนางกรมการคลังขาดแคลน ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถจัดการได้ทันท่วงที ใต้เท้าหลิวเป็นคนประคับประคองกรมการคลังมาโดยตลอดดูจากใต้เท้าหลิวจัดการงานของกรมการคลังในช่วงที่ผ่านมา เขาสามารถดำรงตำแหน่งนี้ได้อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”การมีคนในราชสำนักย่อมทำให้ทำงานง่ายขึ้น หากสามารถควบคุมกรมการคลังที่เป็นหนึ่งในหกกรม ก็เท่ากับมีหูตาอยู่ในราชสำนักนี่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาปิงโจวในอนาคตอย่างมากยิ่งไปกว่านั้น หลิวโส่วเริ่นมีพื้นเพมาจากปิงโจว และยังเคยเป็นเจ้าเมืองเมืองติ้งเซียง มีความผูกพันกับปิงโจว หลังจากกลายเป็นเสนาบดีกรมการคลัง จะต้องหาวิธีดูแลปิงโจวแน่นอนราชสำนักในอดีต ท้องพระคลังขาดแคลน กรมการคลังมีแต่ชื่อ ไม่มีอำนาจมากนักแต่ตอนนี้ต่างออกไปแล้ว ท้องพระคลังได้รับเงินมากมายเช่นนั้น กรมการคลังในอนาคต เป็นเนื้อก้อนโตเลยทีเดียว!แต่ก็เพราะเป็นเนื้อก้อนโต องค์รัชทายาทกับองค์ชายคนอื่นๆ ก็อยากชิงดูสักตั้ง!ทันทีที่สิ้นเสียงฉู่หนิง องค์รัชทายาทก้าวออกมาคัดค้านเป็นคนแรก“น้องส

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 694

    เพราะอย่างไรเสีย ฉู่หนิงก็เป็นคนทวงเงินกลับคืนมาทันทีที่สิ้นเสียง ขุนนางที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาขององค์รัชทายาทก้าวออกมาสนับสนุนทันที เมื่อองค์ชายรองและคนอื่นๆ เห็นดังนี้ก็หันไปสบตากัน จากนั้นก็พากันเห็นด้วย เวลานี้ ขุนนางคนอื่นๆ จึงจะเข้าใจเหล่าองค์ชายเห็นพ้องต้องกัน!แต่มาลองคิดดูมันก็ถูก ครั้งนี้ฉู่หนิงได้สร้างความดีความชอบอันใหญ่หลวงเช่นนี้ ทำให้เขาเด่นเกินหน้าเกินตา ในฐานะองค์ชาย ใครก็ต้องหวั่นเกรงในเรื่องของการพระราชทานรางวัล เหล่าองค์ชายย่อมไม่อยากให้ฉู่หนิงได้เปรียบเหล่าขุนนางที่เข้าใจแล้ว ก็พากันก้าวออกมาสนับสนุน“ฝ่าบาท องค์รัชทายาทพูดถูก!”“ชีวิตของฉู่อ๋องในปิงโจวลำบากมาก เมื่อก่อนราชสำนักไม่มีเงิน ได้แต่ปล่อยให้ฉู่อ๋องพึ่งพาตนเอง ตอนนี้ราชสำนักมีเงินแล้ว ก็ควรดูแลฉู่อ๋องเป็นพิเศษ!”“กระหม่อมก็รู้สึกว่าควรพระราชทานเงิน”“ขอฝ่าบาทโปรดทรงมีพระราชโองการ!”คำพูดของขุนนางบุ๋นบู๊ ทำให้หลิวโส่วเริ่นที่เป็นผู้รักษาการณ์กรมการคลังทนดูต่อไปไม่ได้แล้วเขาก้าวออกมากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ฝ่าบาท ฉู่อ๋องช่วยราชสำนักทวงเงินกลับคืนมานับร้อยล้าน ช่วยแก้ปัญหาท้องพระคลังขาดแ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 693

    วันต่อมา ยามเหมายามเช้าในเดือนห้า ท้องฟ้าสว่างจนมองเห็นชัดฉู่หนิงสวมชุดอ๋องสีม่วง ควบม้ามาถึงหน้าประตูพระราชวัง“คำนับท่านอ๋อง!”หน้าประตูพระราชวัง ขุนนางหลายคนพากันประสานมือคารวะฉู่หนิงสามารถทำให้เหล่าตระกูลใหญ่ยอมอ่อนข้อเพียงลำพัง ทั่วราชวงศ์ต้าฉู่มีเพียงฉู่หนิงที่ทำได้ไม่ว่าเหล่าขุนนางจะอยู่ฝ่ายใด ล้วนชื่นชมฉู่หนิงมากฉู่หนิงกวาดมองทุกคนแวบหนึ่ง พยักหน้าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี”ขณะที่กำลังพูด มีเสียงกีบเท้าม้า องค์ชายรองฉู่หมิงควบม้ามาถึงแล้ว“น้องสิบแปด ช่างหน้าใหญ่จริงๆ!” องค์ชายรองมองฉู่หนิงที่ถูกทุกยกยอจนแทบตัวลอย แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“พี่รองล้อเล่นแล้ว ข้าเพิ่งมาถึงเอง เป็นเพราะขุนนางทุกท่านเกรงใจเกินไปต่างหาก”“พอแล้ว รีบเข้าไปเถิด การประชุมเช้ากำลังจะเริ่มแล้ว”เมื่อกล่าวจบ องค์ชายรองพลิกกายลงจากม้า แล้วเดินตรงไปที่ประตูของพระราชวังฉู่หนิงพลันยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินตามไปโดยไม่พูดอะไรมากที่หน้าประตูตำหนักจินหลวน มีองค์ชายและขุนนางมารออยู่แล้ว เมื่อเห็นองค์ชายรองกับฉู่หนิงเดินมา ก็พากันคารวะองค์รัชทายาทเพียงกวาดมองฉู่หนิงด้วยสีหน้าไร้อารม

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 692

    ผู้หญิงคนนี้หนีไปได้ ไม่แน่อาจเป็นปัญหาใหญ่ในวันข้างหน้าแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องเหล่านี้ จัดการคนเจ็ดคนนี้ก่อนค่อยว่ากัน“ฮึ่ม ว่ามา เหตุใดต้องลอบสังหารข้า?” ฉู่หนิงจ้องคนทั้งเจ็ดอย่างเย็นชาและถามหัวหน้าตระกูลทั้งเจ็ดเงียบทันทีเหตุใดลอบสังหารเจ้า? ในใจเจ้าไม่รู้เลยหรือ?เดิมทีปิงโจวอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลใหญ่ แต่พอเจ้าฉู่หนิงไปปิงโจว ยึดที่ดินทั้งหมดคืน ตระกูลใหญ่จะอยู่รอดได้อย่างไรไม่ฆ่าเจ้าแล้วจะฆ่าใคร?แต่พวกเขาไม่กล้าพูดคำพูดนี้ออกมา เพราะกลัวฉู่หนิงจะลงมือกับตนเอง“ไม่พูดใช่หรือไม่?”ฉู่หนิงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เด็กๆ ฆ่าพวกมันให้หมด!”ทันทีที่คำสั่งดังขึ้น ก่อนคนทั้งเจ็ดจะตั้งสติได้ หร่านหมิงพลันยิ้มอย่างดุร้าย เงื้อมดาบในมือขึ้น ก็ตัดศีรษะของหัวหน้าตระกูลคนหนึ่งหลุดโดยตรง เมื่อทัพอาชาคนอื่นเห็นดังนี้ ก็พากันลงดาบในมือ พริบตาเดียว ที่เกิดเหตุมีดวงวิญญาณเพิ่มมาหกดวงกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งจนฉุนจมูก ฉู่หนิงปิดจมูก พลางโบกมือสั่ง “เผาศพ แล้วฝังไว้ตรงนี้!”หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ทุกคนเดินทางกลับเมืองเ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 691

    ในที่สุดก็หาตัวผู้อยู่เบื้องหลังคดีลอบสังหารเจอเสียทีเป็นไปตามที่ฉู่หนิงคาดการณ์ เป็นฝีมือของแปดตระกูลใหญ่แห่งปิงโจว ที่จริงเดาออกนานแล้วว่าเป็นฝีมือของคนเหล่านี้ เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานก็เท่านั้นเองตอนนี้มีการชี้ตัวของเหล่าตระกูลใหญ่ การจับกุมแปดตระกูลใหญ่แห่งปิงโจว ก็เป็นไปอย่างมีความชอบธรรมและหลักฐานองค์รัชทายาทมองดูแผ่นหลังที่เดินจากไปของฉู่หนิง มีความไม่เต็มใจเสี้ยวหนึ่งแลบผ่านแววตาวันนี้เจ้าหมอนี่ไม่เพียงทวนเงินคลังที่ถูกยักยอกกลับคืนมา และยังหาเงินสำหรับการสร้างสุสานให้เสด็จพ่อด้วย เสด็จพ่อคงจะโปรดปรานเขามากขึ้นแน่!ไม่ได้ ปล่อยให้ฉู่หนิงทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาดองค์รัชทายาทพลันหรี่ตาลง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เสด็จพ่อ ปัจจุบันน้องสิบแปดใจกล้าบ้าบิ่น จะต้องทำให้เหล่าตระกูลใหญ่ เกิดความไม่พอใจต่อเขาแน่นอน นี่ไม่เป็นผลดีต่อราชวงศ์ต้าฉู่ของเรานะ เพราะวันข้างหน้ายังมีเรื่องอีกมากมายต้องพึ่งพาเหล่าตระกูลใหญ่”แต่เวลานี้ฮ่องเต้กำลังจมอยู่กับความปีติยินดีของการสร้างสุสานหลวง เมื่อได้ยินองค์รัชทายาทว่าร้ายฉู่หนิง สีพระพักตร์จึงเคร่งขรึมลงทันที“รัชทายาท เรารู้ว่า

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status