ในที่สุดก็ทำให้เสด็จพ่อทรงเชื่อใจได้อีกครั้งฉู่หนิงเอ๋ยฉู่หนิง อีกไม่นานทุกสิ่งที่ถูกเจ้าแย่งชิงไปข้าจะเอามันกลับคืนมาทั้งหมด!เสี้ยวขณะนี้ รัชทายาทระเบิดความมั่นใจเต็มเปี่ยมขณะเดียวกัน ภายในโถงรับรองของจวนฉู่อ๋อง ฉู่หนิงกำลังต้อนรับเหอเผิงเสนาบดีกรมโยธาธิการ“คารวะฉู่อ๋อง!” เหอเผิงยิ้มพลางประสานมือทำความเคารพฉู่หนิงจ้องมองคนสนิทของรัชทายาทด้วยสีหน้าราบเรียบ นึกแปลกใจอยู่บ้าง เจ้าคนผู้นี้มาพบข้าเพื่ออะไร?“ใต้เท้าเหอไม่ต้องมากพิธี ใครก็ได้ ยกน้ำชามา!”สาวใช้สองคนยกน้ำชาร้อนเข้ามา กลิ่นหอมจาง ๆ ลอยอบอวลไปทั่วห้อง ชวนให้รู้สึกปลอดโปร่งสดชื่นขึ้นทันตาเหอเผิงจิบน้ำชาคำหนึ่งเบา ๆ ก่อนจะผุดยิ้มแล้วกล่าวขึ้นว่า “ชาดี!”ฉู่หนิงจ้องมองเขาด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ชานี้ต่อให้ดีเพียงใด ก็เกรงว่าจะดีสู้ชาที่ตำหนักบูรพาไม่ได้กระมัง?”คำพูดนี้จงใจจี้จุดเหอเผิงว่าคนสนิทของรัชทายาทอย่างเจ้ามาที่จวนฉู่อ๋องเพื่ออะไร?เหอเผิงยิ้มเหยเก “ฉู่อ๋องพูดตลกแล้ว ชาของตำหนักบูรพากับชาของจวนฉู่อ๋องต่างมีดีไปคนละแบบ ตัดสินมิได้หรอกว่าใครดีใครด้อย”ฉู่หนิงส่ายศีรษะ คร้านจะต่อล้อต่อเถียงกับคนผ
เย็นวันนั้น ตะวันรอนลับไปทางทิศประจิม เหลือเพียงแสงอัสดงสีแดงสุดท้ายส่องระยิบระยับภายในพระตำหนักอิงอู่เบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้เรียงรายไปด้วยอาหารโอชารสมากมาย ทว่าสีพระพักตร์ของเขากลับเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มเป็นกังวล ไม่มีอารมณ์จะเสวยแม้เพียงสักนิดฉู่หนิงเจ้าเด็กบ้านั่นยังอาจพูดออกมาได้ว่าไม่ต้องอยากดูแลปิงโจวแล้ว?เราเพียงถอดตำแหน่งราชการของเขาออกชั่วคราว มิได้บอกว่าจะไม่ให้เขาดูแลปิงโจวสักหน่อยเจ้าเด็กบ้านี่ ช่างดื้อด้านเสียจริงปิงโจวเป็นเขตชายแดน หากฉู่หนิงไม่ดูแลที่นั่นแล้ว จะให้ข้ารับผิดชอบเบี้ยหวัดและเสบียงของพวกทหารเองอย่างนั้นหรือ?บัดนี้ท้องพระคลังว่างเปล่าเต็มที ไหนเลยจะมีเงินและเสบียงส่งไปให้กองทัพทหารแนวหน้าที่ปิงโจวกันเล่า!ฮ่องเต้ที่ยิ่งคิดยิ่งมีโทสะพลันถอนหายใจเฮือกยาวเหยียดออกมา สุราอาหารบนโต๊ะตรงหน้าบัดนี้ไม่หอมหวานชวนเจริญอาหารไปเสียอย่างนั้นทว่าในตอนนี้เอง เสียงรัชทายาทพลันแว่วดังมาจากนอกพระตำหนัก “เสด็จพ่อ กระหม่อมขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้พลันเลิกพระขนงขึ้น เผยสีหน้าแปลกใจออกมารัชทายาทมาเข้าเฝ้ายามนี้มีธุระอันใด?“เข้ามาเถิด” ฮ่องเต้โบกพระหัตถ์สื
รัชทายาทที่ตอนแรกยังแสยะมุมปากยิ้มเยาะพลันสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แววตาฉายประกายประหลาดใจออกมาแม้ไม่อยากยอมรับ ทว่าคำพูดของเหอเผิงก็มีเหตุผลอยู่บ้างทว่า เมื่อรัชทายาทลองคิดอีกมุมหนึ่ง สมองพลันปรากฏอีกความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมาทันที“หรือฉู่หนิงมันรู้ตัวว่าพวกเรากำลังสงสัยมัน เหตุนี้ถึงได้จงใจปล่อยข่าวนี้ออกมา!”รัชทายาทแค่นเสียงเย็นเยียบออกมา “บางทีมันอาจเตรียมอุบายสังหารองค์หญิงเกาผิงไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว ส่วนเรื่องร่วมเรือนหอเมื่อคืนก็แค่วิธีบดบังสายตาที่เขาใช้ปิดหูปิดตาคนอื่นก็เท่านั้น!”“เรื่องนี้......”เหอเผิงหัวเราะเสียงเจื่อน “รัชทายาท สำหรับฉู่อ๋องแล้วการปลิดชีวิตองค์หญิงเกาผิง ไม่เป็นประโยชน์อันใดต่อตัวเขาแม้แต่น้อยพ่ะย่ะค่ะ“ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนยังเป็นคืนร่วมเรือนหอ คนอย่างฉู่อ๋องหรือจะยอมทำความชั่วในวันพิเศษเช่นนี้?”รัชทายาทเงียบไปเขาไม่ใช่คนโง่เขลา ย่อมเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของเหอเผิงดีถึงแม้ฉู่หนิงจะมีเรื่องบาดหมางกับองค์หญิงเกาผิงมาก่อน ทว่าหากองค์หญิงเกาผิงถูกสังหาร ก็ไม่เป็นผลดีต่อตัวฉู่หนิงเช่นกันเรื่องที่ต้องเปลืองแรงเปล่าโดยไม่ก่อประโยชน์เช่นนี้
ครึ่งชั่วยามให้หลังราวตากผ้าที่เรือนหลังของจวนอ๋องมีผ้ามากมายตากเรียงรายไว้พื้นที่ส่วนนี้ล้วนเป็นพื้นที่ซึ่งสงวนไว้ใช้ตากผ้าของฉู่หนิงและเสิ่นหว่านอิ๋งซึ่งมีฐานะเป็นพระชายาเท่านั้นทว่าวันนี้ กลับมีผู้คนมากมายกำลังมุงดูผ้าผืนยาวสีขาวผ่องผืนหนึ่งแม้เป็นผ้าที่พบเห็นได้ทั่วไป ทว่าบนผ้าผืนนั้นกลับมีรอยเลือดสีแดงเปื้อนเป็นแนวยาว เลือดสีแดงสดกระจายเป็นหย่อม ๆ ตำแหน่งตรงกลางดูราวกับเป็นดอกเหมย ปรากฏชัดเจนถนัดสายตายิ่งนักบ่าวรับใช้ในจวนอ๋องถูกผ้าผืนนี้ดึงดูดความสนใจได้อยู่หมัด พวกเขาต่างพากันหยุดชะงัก จากนั้นก็เริ่มส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมา“นี่แหละร่องรอยที่พระชายาเหลือไว้เมื่อคืน!”“จะไม่ใช่ได้อย่างไร ได้ยินว่าเมื่อคืนถูกท่านอ๋องทรมานทั้งคืนเชียว”“ชู่ว~ เบาหน่อยสิ คำพูดนี้เจ้าอย่าให้ท่านอ๋องได้ยินเชียวนะ”“จะกลัวอะไรเล่า ท่านอ๋องยังหนุ่มยังแน่นมีกำลังวังชา เมื่อคืนอาจจะเป็นครั้งแรกก็ได้กระมัง มิเช่นนั้นหรือจะมีแรงตะบี้ตะบันทำทั้งคืน ทำเอาเมื่อคืนข้าไม่กล้าเฉียดเข้าไปใกล้ด้วยซ้ำ ได้แต่ต้องหนีออกไปไกล ๆ เลยเชียว”การนินทา เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์เสมอมาไม่นานบ่าวรับใช้ในจวนอ๋อง
ส่วนเรื่องของฉู่หนิงและหลิงเฟยเยียน ได้แต่ต้องพักไว้ชั่วคราวไปก่อนแน่นอนว่า เหตุผลโดยมากล้วนมาจากคำอธิบายของฉู่หนิงอย่างไรเสีย เมื่อคืนของทั้งสองก็ดุเดือดกันตลอดทั้งคืน นางไม่เชื่อหรอกว่าวันนี้ฉู่หนิงจะมีเรี่ยวแรงไปทำเรื่องอย่างว่ากับหลิงเฟยเยียนอีกสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เสิ่นหว่านอิ๋งทำให้ตนเองใจเย็นลง“ท่านสงสัยว่ารัชทายาทส่งคนไปสังหารองค์หญิงเกาผิง และที่เมื่อคืนเขาอยู่กับจ้าวอู๋จี๋ จุดประสงค์ก็เพื่อสร้างหลักฐานยืนยันว่าตนเองมิได้อยู่ในที่เกิดเหตุ?”“ไม่ผิด!”ฉู่หนิงเอ่ยด้วยเสียงทุ้มเข้ม “ถึงแม้จะมีเพียงข้าที่ครอบครองหน้าไม้บรรจุดอก แต่เจ้าอย่าลืม ว่าตอนที่สร้างหน้าไม้บรรจุดอก ข้าได้ขอยืมกำลังช่างฝีมือมาจากเหอเผิงเสนาบดีกรมโยธาธิการมาถึงสามพันคนเชียว!“ถึงแม้จะเป็นหน้าไม้บรรจุดอกที่สร้างแบบแยกชิ้นส่วน ทว่าขอเพียงรวบรวมช่างฝีมือเหล่านั้นเข้าด้วยกันแล้ว พวกเขาก็สามารถสร้างหน้าไม้บรรจุดอกที่สมบูรณ์ได้แล้ว“อีกอย่างเหอเผิง ก็เป็นคนของรัชทายาท!”เสิ่นหว่านอิ๋งพยักหน้าเบา ๆ ความจริงในใจของนางก็มีความคิดนี้เช่นกัน เพียงแต่เรื่องเกี่ยวข้องกับรัชทายาท นางจึงมิบังอาจพูดออกมาอย่างส่
ฉู่หนิงยื่นมือออกไปรับราชโองการจ้าวหมิงพลันถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งเคราะห์ดีที่ราชโองการฉบับนี้ถูกรับไปเสียที มิเช่นนั้นวันนี้หากตนเองทำหน้าที่นี้ไม่สำเร็จ กลับไปจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอนทว่า ในขณะที่จ้าวหมิงคิดจะเอ่ยปากทูลลา ฉู่หนิงกลับยิ้มพลางเอ่ยขึ้นเสียก่อน “รบกวนหัวหน้าจ้าวกลับไปทูลต่อเสด็จพ่อด้วยว่า ในเมื่อข้ามิใช่ผู้ตรวจการแห่งปิงโจวแล้ว เช่นนั้นเรื่องในปิงโจวข้าก็ขอไม่ยุ่งเกี่ยวอีกต่อไป”“เอ่อ......เรื่องนี้......”สีหน้าของจ้าวหมิงย่ำแย่ลงเล็กน้อยทางปิงโจวยังมีพลทหารม้าศึกของแคว้นต้าจ้าวอีกหลายหมื่นนายยึดครองกำแพงเมือง หากฉู่อ๋องไม่ดูแลเรื่องที่ปิงโจวแล้ว เกิดว่าทหารปิงโจวฉวยโอกาสนี้บุกโจมตีขึ้นมา......“ฉู่อ๋อง ท่านจะตัดสินใจด้วยอารมณ์เช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”จ้าวหมิงรีบเกลี้ยกล่อม “ราชโองการฉบับนี้ของฝ่าบาทหาได้แอบแฝงนัยอื่น เพียงต้องการให้ท่านเร่งสืบหาความจริงเรื่องการปลงพระชนม์องค์หญิงเกาผิงให้กระจ่างโดยเร็วที่สุดเท่านั้น ไว้ความจริงกระจ่างเมื่อใด ฝ่าบาทจะต้องคืนตำแหน่งผู้ตรวจการปิงโจวให้ท่านได้ดำรงต่อไปแน่”ฉู่หนิงยักไหล่ไม่แยแส “ข้าเองก็มิได้สนใจตำแหน่งผู้ตรวจก