LOGINพายุฝนกำลังจะโหมกระหน่ำใส่แวดวงขุนนางในเมืองหลวง……หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม พระราชวัง ภายในตำหนักอิงอู่เสนาบดีกรมอาญาหลิงเฮ่าหรานรายงานการตัดสินใจของฉู่หนิงต่อฮ่องเต้บนราชบัลลังก์ ฮ่องเต้ฟังหลิงเฮ่าหรานรายงานจนจบด้วยสีพระพักตร์ไร้อารมณ์ แต่กลับนิ่งเงียบไปพักใหญ่ภายในห้องโถงที่ว่างเปล่า บรรยากาศเงียบสงัด ทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างยิ่งหลิงเฮ่าหรานยืนก้มโค้ง สายตามองปลายจมูก รอคอยคำตอบของฮ่องเต้เงียบๆทุกคนที่มีตาล้วนสามารถมองออก ฉู่หนิงต้องการอาศัยคดีลอบสังหารออกหน้าให้หลิวโส่วเริ่น จงใจตรวจสอบกรมการคลังเพื่อระบายความโกรธในฐานะเสนาบดีกรมอาญา มีพระบัญชาของฮ่องเต้อยู่เบื้องหน้า หลิงเฮ่าหรานไม่กล้าขัดคำพูดของฉู่หนิงแต่ในฐานะผู้มีความประพฤติดี หลิงเฮ่าหรานไม่อยากกลายเป็นมีดในมือฉู่หนิง ลงมือกับเพื่อนร่วมงานในราชสำนักด้วยกันจึงทำได้เพียงให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยเรื่องนี้แทนบนราชบัลลังก์ ฮ่องเต้เงียบขรึมไปพักใหญ่ แววพระเนตรเปลี่ยนไปมา ดวงพระเนตรเปล่งแสงเย็นที่น่าตกใจออกมาเป็นระยะหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฮ่องเต้หรี่พระเนตร ทรงตรัสถามเสียงเย็น “การตัดสินใจของฉู่หนิง ถูกส่งมาถึงเจ้าหลัง
“ท่านอ๋อง คดีลอบสังหารของท่านไม่เกี่ยวข้องกับขุนนางกรมการคลังเลยนะ”เฉินกั๋วเวยกล่าวอย่างขมขื่น สีหน้าเต็มไปด้วยความจนใจ “ยิ่งกว่าไปนั้น กรมการคลังเกี่ยวข้องกับรากฐานของต้าฉู่ หากมีการตรวจสอบทั้งหมด จะต้องนำมาซึ่งความวุ่นวายแน่นอนอีกทั้งตอนนี้เป็นช่วงเพราะปลูกของฤดูใบไม้ผลิ ไม่ควรสร้างปัญหาให้ราชสำนักตอนนี้ ท่านอ๋องโปรดพิจารณา” หากมีการตรวจสอบกรมการคลังจริง มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้ารับการตรวจสอบได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยนิสัยของฉู่หนิง หากจะมีการตรวจสอบจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นแค่การตรวจสอบทั่วไป แต่มันคือการแก้แค้นคราวนี้ยุ่งยากแล้วล่วงเกินดาวหายนะท่านนี้ ไม่รู้เลยว่าควรจะจบเรื่องนี้อย่างไรฉู่หนิงมองเฉินกั๋วเวยที่ทำหน้าขมขื่น แล้วกล่าวเสียงเรียบ “ใต้เท้าเฉินคิดจะใช้ความชอบธรรมของราชสำนักมาข่มข้าอย่างนั้นหรือ?”“นี่……กระหม่อมไม่กล้า”“ไม่กล้า?”“ฮึ่ม!”ฉู่หนิงแค่นเสียงเย็น ‘ฮึ่ม’ แล้วลุกพรวดขึ้นมา รัศมีบนกายแผ่ออกมากดดันเฉินกั๋วเวย และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้าพูดอ้อมไปอ้อมมาก็คือกำลังข่มขู่ข้า!”“เหตุใดหลายปีมานี้ ท้องพระคลังของต้าฉู่จริงขาดแคลน แม้แต่อาหารและเงินก็ไม
ตอนแรกอธิบายว่าตนเองทำตามกฎระเบียบ ไม่ได้ละเมิดกฎหมายต้าฉู่ จากนั้นก็บอกว่าข้าไม่มีอำนาจยุ่งเรื่องนี้ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะเตรียมตัวมาอย่างดีเลย!ฉู่หนิงเผยอมุมปากเล็กน้อย “พูดเช่นนี้แสดงว่าวันนี้ใต้เท้าเฉินมาเพื่ออธิบายเรื่องนี้เท่านั้น ไม่มีจุดประสงค์อื่น?”เฉินกั๋วเวยรีบกล่าว “ท่านอ๋องโปรดพิจารณา กระหม่อมทำตามกฎหมายของราชสำนักมาโดยตลอด ไม่ได้มีเจตนาเป็นปรปักษ์กับใครเลย”ไม่ได้มีเจตนาเป็นปรปักษ์กับใครเลยอย่างนั้นหรือ?เจ้าหมอนี่เจ้าเลห์จริงๆ คำพูดไร้ที่ติ ไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อยฉู่หนิงพลันแสยะยิ้ม “พูดได้ดี หากขุนนางทุกคนในราชสำนักล้วนมีความชอบธรรมเช่นใต้เท้าเฉิน ราชวงศ์ต้าฉู่ของเราจะต้องเจริญรุ่งเรืองแน่นอนแต่ขณะที่ข้ากำลังรับใช้ชาติที่เมืองตุนหวง กลับมีคนในราชสำนักใช้มีดแทงข้างหลังข้า หากเรื่องนี้ไม่สามารถให้คำอธิบายแก่ข้า แล้วต่อไปใครยังจะกล้าทำงานให้ราชสำนักอีก?” น้ำเสียงพลันเย็นยะเยือก เจตนาฆ่าพรั่งพรูออกมา น้ำเสียงเคร่งขรึม “หร่านหมิง ไปฆ่าหัวหน้าแผนกคนนั้นซะ!”“พ่ะย่ะค่ะ!” หร่านหมิงหัวเราะแฮ่ๆ จากนั้นก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วจนทิ้งเงาภาพติดตาไว้ก่อนที่เฉินกั๋วเวยจ
กลางดึก หร่านหมิงคุมตัวมือลอบสังหารทั้งเก้าไปที่กรมอาญาด้วยตนเองแต่สิ่งที่ทำให้ฉู่หนิงผิดหวังคือ ไม่มีการซุ่มโจมตีระหว่างทางใดๆ เลยแผนเหยื่อล่อประสบความล้มเหลววันรุ่งขึ้น จวนอ๋อง โถงรับรองฉู่หนิงที่กินอาหารเช้าแล้วนั่งอยู่ตรงเก้าอี้หลัก กำลังฟังหร่านหมิงรายงาน “ดูเหมือนว่าคู่ต่อสู้ครั้งนี้ของข้าจะเก่งใช้ได้เลยนะ!”ฉู่หนิงหรี่ตาลง มีแววพินิจสายหนึ่งแลบผ่าน “อีกฝ่ายไม่กลัวว่าคนที่โดนจับจะยอมสารภาพเลย จึงไม่ได้รีบร้อนลงมือช่วยคน”หร่านหมิงไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ดวงตาของเขาฉายแววดุร้าย กำหมัดแน่น กล่าวด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “ท่านอ๋อง ในเมื่อคนพวกนี้ไม่มีประโยชน์แล้ว ไม่สู้ให้กระหม่อมจัดการพวกมันเสียดีกว่า!”ฉู่หนิงมองบนไปทีหนึ่งคุยกับเจ้าหมอนี่มันน่าโมโหจริงๆ เอะอะก็จะฆ่าคน“ไม่ต้อง เก็บคนพวกนี้ไว้อาจมีประโยชน์”ฉู่หนิงขัดความคิดของหร่านหมิง “เก็บเก้าคนนี้ไว้ก่อน!”ระหว่างสนทนา มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ข้าง ทหารคนหนึ่งเดินเข้ามารายงาน “เรียนท่านอ๋อง เสนาบดีกรมการคลังใต้เท้าเฉินมาขอพบขอรับ”“ฮืม? เขามาแล้ว!”ฉู่หนิงยิ้มอย่างเย้ยหยัน “ข้ากำลังคิดว่าจะไปหาเขาอยู่เลย ให้เขาเข้ามา
เจ้าฉู่หนิงเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ครั้งนี้จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน เตรียมการไว้ล่วงหน้าอาจลดความเสียหายได้บ้างแต่ฉู่หนิงกลับส่ายศีรษะ เขาขมวดคิ้วกล่าว “เรื่องการลอบสังหาร ลูกก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน ตอนนี้ไม่มีเบาะแสอะไรเลย”ใครจะไปเชื่อ!ฮ่องเต้มองบนทีหนึ่ง “ผู้อื่นจะฆ่าเจ้า แต่เจ้ากลับไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เจ้าคิดว่าเราเชื่อเจ้าหรือ?”ฉู่หนิงลูบปลายจมูก แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “อันที่จริงแรกเริ่มลูกสงสัยองค์รัชทายาทกับเสด็จพี่คนอื่นๆ”“ฮืม? แรกเริ่มสงสัยพวกเขา? เช่นนั้นก็แสดงว่า ตอนนี้เจ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ฝีมือของพวกเขา?”ฮ่องเต้จับประเด็นในคำพูดของฉู่หนิงได้ทันที จึงจี้ถามต่อ “เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าไม่ใช่ฝีมือของพวกเขา?”หากสามารถตัดรัชทายาทและคนอื่นออก เรื่องนี้ก็จัดการได้ง่ายขึ้นแล้ว ขอแค่ไม่ใช่พี่น้องเข่นฆ่ากันเอง ก็สามารถปล่อยให้ฉู่หนิงไปสืบสวนเรื่องนี้อย่างเต็มที่เพียงแต่เจ้าหนูฉู่หนิงมั่นใจได้อย่างไรว่าไม่ใช่ฝีมือของรัชทายาทกับองค์ชายคนอื่นๆ?ภายใต้สายตาที่ประหลาดใจของฮ่องเต้ ฉู่หนิงกล่าวเสียงเรียบ “ตอนนั้นลูกอยู่ใกล้ถึงเมืองตุนหวง อีกทั้งข่าวลงนามหนังสือพันธมิตร
“ข้อเรียกร้องสามข้อ?”ฮ่องเต้หรี่พระเนตร จ้องฉู่หนิงเขม็ง พลางขมวดพระขนงแล้วตรัส “มันจะเยอะเกินไปหรือไม่?” “เยอะหรือ?”ฉู่หนิงยักไหล่ แล้วกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ถ้าหากเสด็จพ่อรู้สึกว่าลูกเรียกร้องมากเกินไป เช่นนั้นลูกก็ไม่กล้ารับประกันว่าเรื่องนี้จะไม่รั่วไหลออกไป”เจ้าหนูนี่ถึงกับกล้าขู่เรา!ฮ่องเต้รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งแต่เมื่อนึกถึงผลที่จะตามมาหากเรื่องนี้รั่วไหลออกไป ฮ่องเต้ทำได้เพียงอดกลั้นความไม่สบอารมณ์ พลางเลิกพระขนงแล้วตรัสเสียงเย็น “ลองพูดข้อเรียกร้องของเจ้ามาก่อน”หากข้อเรียกร้องไม่หนักหนาเกินไป ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถตอบตกลงแต่หากฉู่หนิงฉวยโอกาสเรียกร้องมากเกินไป เราจะไม่ตอบตกลงเด็ดขาดฉู่หนิงพลันแสยะยิ้ม “ข้อเรียกร้องแรกของลูกง่ายมาก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากราษฎรของที่อื่นจะมาปิงโจว เสด็จพ่อโปรดอย่าห้าม”ฮ่องเต้ที่เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องถูกฉู่หนิงขู่รีดถึงกับตะลึงงันทีนทีนี่เรียกข้อเรียกร้องด้วยหรือ?ปิงโจวตั้งอยู่ที่บริเวณชายแดน ถูกทหารแคว้นจ้าวรุกรานตลอดปี ประกอบกับมีที่นาไม่มาก ไม่มีใครอยากไปเจ้าหนูฉู่หนิงกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงได้เสนอข้อเรียกร้องที่ไร้