บทที่ 3
"นายชื่อพายุใช่ไหม" "อืม"" ฉัน สญามน นะ" "รู้แล้ว เธอเป็นคนให้ดูบัตร" "......." พายุขับรถมาได้ร่วมชั่วโมงเริ่มเข้าใกล้กลางเมืองมากขึ้น แต่เพราะดึกมากเเล้วทำให้รถไม่ติดเท่าไรนัก "ถ้าง่วงก็หลับได้นะ ถึงแล้วเดี๋ยวฉันเรียก" " โอโห นั้นอะไรน่ะ" จู่ ๆ สญามนก็เอ่ยออกมาเสียงดัง "อะไร …." "นู่น ๆ เหมือนรถไฟแต่มันอยู่บนนั่นน่ะ" "ไม่รู้จริงอ่ะ" "ฉันพึงเคยเห็นครั้งแรก" เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น "รถไฟฟ้านะ ใต้ดินก็มีนะ" "จริงเหรอ ใต้ดินนี้นะ " "ใช่" พายุตอบกลับและแอบขำกับอาการตื่นเต้นของเธอ "หูย… นี้มันเมืองสวรรค์หรอ นายดูไฟพวกนั้นสิ นั้นตึกใช่ไหมทำไมถึงสูงอย่างนั้นล่ะ" ตลอดทางสมญามนยังไม่เลิกตื่นตากับสิ่งที่เห็นตามทางที่ผ่านมา เหมือนเธอจะลืมอาการเศร้าและหวาดกลัวไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่นานนักก็ถึงคอนโดที่ พายุอาศัยอยู่ เขาขับรถเข้ามาจอดยังที่จอดรถ และพาหญิงสาวขึ้นลิฟท์มายังชั้นที่สามสิบแปด หญิงสาวก้าวเข้ามาในลิฟท์ เธอมองสำรวจไปทั่ว เมื่อลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้น ร่างบางจึงเซถลา พายุยืนอยู่กลางลิฟท์สองมือลวงกระเป๋ากางเกง อยู่หญิงสาวก็เซมาเกาะแขนเขาอยู่ เขาเหล่ตาลงมองเธอที่เกาะแขนเขาไว้จนแน่น "อย่าบอกนะว่าไม่เคยขึ้นลิฟท์" "ใช่ และนี้เป็นครั้งแรก" สญามนเงยหน้าขึ้นมาสบตาขายหนุ่ม พายุดึงมือที่ล้วงกระเป๋าอยู่ออกมา และจับตัวเธอให้ยืนตรง ๆ "ยืนตรง ๆ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว" "......" ประตูลิฟท์เปิดออกหญิงสาวจึงเดินตามชายหนุ่มไป จนถึงห้องพักสุดหรู "นายอยู่คนเดียวเหรอ" "ใช่" ชายหนุ่มเดินเข้าห้องนอนไป สญามนจึงเดินดูรอบห้องเขา ข้างของเครื่องใช้ที่ดูแปลกตามากมาย เธอเดินจนมาถึงระเบียง "โอโห สูงมากเลย ตึกพวกนี้สูงระฟ้าไปหมด นี้ปี 2566 จริง ๆ ใช่ไหมทำไมฉันถึงมาอยู่นี่ได้ล่ะ" หญิงสาวพึมพำเบา "หรือนี้แค่ฝัน ฉันต้องฝันอยู่ แน่ ๆ เดี๋ยวก็คงตื่น" "สญามน" เสียงทุ้มเอ่ยเสียงจากด้านหลัง เธอจึงหันกลับมา "ฉันไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิง เธออาบน้ำใส่ชุดนี้ไปก่อน และนอนในห้องได้เลย เดี๋ยวผมนอนโซฟาข้างนอกเอง" สญามนมองตามมือที่ พายุชี้โซฟาและรับชุดนั้นมาถือไว้ ก่อนจะเดินเข้าห้องไป เธอเดินเข้ามาในห้องจัดการอาบน้ำจนเสร็จ หยิบชุดที่ชายหนุ่มให้มาใส่ "เสื้อนี้ยาวจะถือเข่าเลย จะสูงไปไหน" สญามนมองดูตัวเองให้กระจกเงา สวมเสื้อของพายุที่ตัวใหญ่มาก "ชั้นในก็ไม่มี " เธอก้มลงมองหน้าอกตนเองก็รู้สึกโล่งแปลก ๆ แถมเสื้อยังทิ้งตัวแนบไปกับหน้าอกจนมองเห็นเป็นรูปทรงเลย สญามนแง้มประตูชโงกออกมา เห็นพายุกำลังนั่งกินบ้างอย่างอยู่ ด้วยความหิวเพราะตั้งแต่เย็นเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย จึงเดินออกมาทันที ชายหนุ่มเมื่อเห็นเธอเดินออกมาดีจึงเรียกในมากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยกัน พายุได้เตรียมเพื่อเธอด้วย เพราะคิดว่ายังไงหญิงสาวก็คงจะหิวเหมือนกัน "ทำเพื่อ มากินสิ" พายุเอ่ยบอก สญมานจึงรีบเดินมานั่งด้านตรงกันข้ามพายุตรงที่เขาวางบะหมี่เอาไว้ หญิงสาวนั่งลงอย่างลืมตัว เตรียมตัวลงมือกินบะหมี่ทันที แต่พายุกับหยุดชะงักและดวงตามองค้าง สายตาเขานั้นจับจ้องไปที่หน้าอกอิ่ม เเละจุกที่ชูชันดันเสื้อออกมามันเด่นหล่าจนดึงดูดสายตาเขา "แค๊ก ๆ แค๊ก ๆ "พายุหันหน้าหนีแล้วรีบลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์ครัว "นายอิ่มแล้วเหรอ… พายุเป็นอะไรบะหมี่ติดคอหรือไง" หญิงสาวเอ่ยถามไล่หลังเขามา "เปล่า ๆ เธอกินเลยไม่ต้องสนใจ" ชายหนุ่มตระโกนกับมา (บ้าเอ้ยลืมไปเลยว่าผู้หญิงต้องใส่ชั้นใน แต่ตัวเล็กแค่นั้น ขนาดมัน… หยุด ๆ ไอ้ยุ หยุดเลยเลิกคิดไม่ดี) ชายหนุ่มยืนทะเลาะกับความคิดตัวเองอยู่ในครัว "พายุ ฉันกินหมดเเล้วเอาไว้ไหน" เพราะชายหนุ่มมัวแต่ทะเลาะกับความคิดตัวเองอยู่ รู้สึกตัวอีกที่หญิงสาวก็มายืนอยู่เบื้องหน้าแล้ว ใบหน้าหล่อจึงมองเธอเเต่สายตาไม่รักดีมันกับเลือนต่ำไปที่หน้าอก "วะ วางไว้เดี๋ยวล้างเอง" พายุรีบหันหลังให้เธอ "ฉันช่วยล้างให้ไหม" "ไม่ ไม่ เธอว่างได้แล้วไปนอนเถอะ" "ก็ได้" หญิงสาวจึงว่าถ้วยไว้เเล้วเดินเข้าห้องนอน "ถ้าฉันหลับไปแล้วพรุ่งนี้จะตื่นขึ้นมากลับไปเป็นเหมือนเดิมไหมนะ" สญามนล้มตัวลงบนที่นอนขนาดใหญ่ และหลับไปในที่สุด เช้าวันใหม่ แสงแดดอ่อนสาดเข้ากระทบกับใบหน้าสวยที่หลับตาพริ้ม สญามนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและกระพริบตาเพื่อปรับแสง ภาพเบื้องหน้าเธอเห็นชายหนุ่มกำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาว ผมเปี้ยก ๆ ยังไม่ได้จัดทรง กับแสงแดดอ่อนสาดส่องใบหน้าและรูปร่างสูงร่างที่สูงโปร่งของเขา ทำเอาเธอมองค้าง ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงครึ่งหน้า (เขาหล่อจัง) "ตื่นแล้วใช่ไหม พอดีผมมีเรียนแต่เช้า" "อืมตื่นแล้ว" เธอตอบออกมา "นะ นายเข้ามาทำไม" "มาเอาเสื้อผ้า เสื้อผ้าฉันอยู่ในห้องไง" "อะ อ๋อ" เมื่อชายหนุ่มแต่งตัวเสร็จเขาก็เดินออกจากห้องไป หญิงสาวจึงลุกจากที่นอนแล้วเดินตามออกมา "แล้วฉันล่ะ" "ก็อยู่ที่นี้ไปก่อน ฉันจะกลับมาตอนเย็น ถ้าหิวก็ทำอาหารง่าย ๆ กินก่อนได้เลยพอมีของอยู่ในตู้เย็น หรือถ้าเบื่อก็เปิดทีวีดูได้เลยนะ" จน "ทีวีหรอ" "ใช่ นู่นไง" พายุชี้ไป สญามนจึงมองตาและเดินไปใกล้ ๆ "อันนี้นี่นะ" เธอมองมันอย่างสงสัย ทีวีจอแบนขนาดห้าสิบสองนิ้วจอบางเฉียบ พายุจึงเดินมาหา เขาสาธิตวิธีเปิดให้และส่งรีโมตทีวีให้เธอ "หูย…ภาพสีด้วย" ดวงตาเธอจ้องอยู่ที่ทีวีอย่างตื่นตาตื่นใจมือก็กดเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ "น่าทึ่งมาก ทันสมัยจริง ๆ " "ทันสมัยอีกแล้ว" พายุทวนคำพูดเธอเบา "ผมไปก่อนนะ แล้วอย่าเปิดประตูให้ใครล่ะถ้าไม่ใช่ผม" "ค่ะ" สญามนหันหน้ามาตอบรับ "เดี๋ยว" เธอเรียกชายหนุ่มไว้ "มีอะไร" "อย่าพึงไป อุปกรณ์ทำอาหารบ้านนายนะ เปิดตรงไหนสอนฉันก่อน" พายุจึงต้องเดินกลับมาสอนเธอใช้อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อีกครั้ง (หรือเธอจะมาจากปี 2502 จริง ๆ ) เขาได้แต่คิดในใจ ใช้เวลาไม่นานสญามนก็เข้าใจ และใช่สิ่งของพวกนี้เป็น เธอจึงมานั่งดูทีวีต่อ "นี้ปี 2566 จริง ๆ ใช้ไหม ฉันไม่ได้ฝันไปจริงเหรอ " หญิงสาวมีแววตาเศร้าลงเล็กน้อย แต่เพราะทีวีฉายภาพบ้างอย่าง จึงดึงความสนใจเธอไปทันที สี่โมงเย็น พายุกับมาถึงคอนโด เปิดประตูเข้ามาก็ต้องถึงกับอุดหูตัวเองได้ ยังดีที่ห้องที่คอนโดนี้เก็บเสียงไม่งั้นข้างห้องได้มาด่าแน่นอน ชายหนุ่มรีบเดินเข้ามาเห็นสญามนนั่งอยู่หน้าทีวีน่าตาดูมีความสุข "คิมนัมจุน! คิมซอกจิน! มินยุนกิ! จองโฮซอก! ปาร์คจีมิน! คิมแทฮยอง! จอนจองกุก! BTS!" พรึ่บ! จอทีวีดับลง สญามนมองไปที่มือของพายุ เขาถือรีโมททีวีอยู่ "เปิดอะไรของเธอเสียงดังลั่นขนาดนี้" "นี้ ฉันกำลังดูวงศิลปินเกาหลีอยู่นะ" เธอกล่าวเสียงแข็งออกมา "เธอก็เปิดเบาหน่อยสิ" "ก็ได้ ขอรีโมทหน่อย" สญามนรับรีโมทีวีคืนมาเปิดมันอีกครั้ง และปรับเสียงให้เบาลง "ปี 2566 นี้ดีจังเลยนะ มีศิลปินหล่อ ๆ เยอะเลย" "เธอกลายเป็นติ่งเกาหลีไปแล้วหรอ" "ห่ะ ติ่งเกาหลี คืออะไร" "ก็วงเกาหลีที่เธอดูอยู่ไง เป็นแฟนคลับอะไรแบบนี้" "อ๋อ ถ้าเราชื่นชอบศิลปินเขาจะเรียกว่าติ่งใช่ไหม" "คงงั้น" "นายดูสิพวกเขาหน้าตาดีมากเลย เต้นก็เก่ง" "หน้าเหมือนกันหมด" "เหมือนกันหมดที่ไหน แต่ละคนหล่อกันคนละแบบเลย ชิ นายอิจฉาเขาใช่ไหม" "......" พายุเงียบมองเธอ "แต่นายก็หล่อใช้ได้อยู่นะ หน้านายไปทางเกาหลีแบบหนุ่ม ๆ บีทีเอสเลย คนไหนนะ อ๋อพี่จิน คิมซอกจิน!" "จริงหรอ ไหนคนไหน" "นี่ ๆ คนนี่ ๆ " "โอ้ย ! " ทั้งสองเพ่งมองไปที่ทีวีจนหัวชนกัน "นายจะเข้ามาใกล้ทำไม" ทั้งสองเงียบ พายุจ้องมองไปที่ดวงตากลมนั้น เธอก็มองเขากลับเช่นกัน "นายคล้ายพี่จิน จริง ๆ ด้วย " สญามนยกมืขึ้นมอง ทำท่าคล้าย ๆ ว่ากำลังวัดใบหน้าชายหนุ่ม "พอเลย ดูช่องอื่น" พายุแย่งรีโมทมาเปลี่ยนช่อง "นี้ดูข่าวบ้าง มีข่าวตัวเองบ้างไหม หายออกมาจากบ้านพ่อแม่ญาติพี่น้องเธอตามหาบ้างหรือเปล่า" "นั้นสิ" สญามนนั่งนิ่งน้ำเสียงส่อแววเศร้า ดวงตาจ้องดูข่าวอยู่ที่ทีวี เธอนั่งดูอยู่อย่างนั้นแต่ก็ไร้วีแววข่าวคนหายแบบเธอ "อ่ะนี้" พายุยื่นถุงขนาดใหญ่หลายใบให้เธอ "อะไรเหรอ" "......." พายุไม่ตอบอะไร เดินหันหลังตรงไปเคาน์เตอร์ครัว สญามนค่อย ๆเปิดดูทีละถุงและหยิบมันขึ้นมา "เสื้อผ้าผู้หญิง นายรู้ไซส์ฉันได้ไง" เธอเอ่ยถาม "ฉันกะ ๆ เอา " "อ๋อ" จนถุงสุดท้ายเธอหยิบมันยกขึ้นมาและรีบยัดกลับเข้าทันที พร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรือ (ชุดชั้นในหลายชุดเลย นี้เขาก็ซื้อมาด้วยบ้าเอยเขินจัง) พายุสังเกตุเห็นว่าเธอเงียบไป คิดว่าเธอน่าจะเห็นถุงนั้นแล้ว "เอ่อ ถุงนั้นฉะนซื้อมาหลายขนาดไม่แน่ใจว่า ซะ ไซส์ไหน" เขากล่าวอย่างเก้ ๆ กัง ๆ "เอ่อ ขอบคุณนะ" สญามนรวบถุงเหล่านั้นขึ้นมาย่างเขิน ๆ แล้วเดินเข้าห้องไปบทที่ 4 สญามนกลับเข้าห้องไปสักพัก เธอจึงออกมาด้วยชุดใหม่ และมายืนตรงหน้าชายหนุ่ม"เป็นไง" "อืม ฉันใส่ได้พอดีเลย ขอบคุณนะ""ไปนั่งสิ" "ไม่เป็นไร ฉันช่วย" ทั้งสองช่วยกันทำอาหารเย็นด้วยกัน และเริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่าง ๆ มีหลาย ๆ สิ่งที่เธอไม่รู้มากมาย และหลายสิ่งที่ชายหนุ่มก็ได้ความรู้ใหม่จากเธอไม่น้อย "พรุ่งนี้ฉันมีเรียนแค่ช่วงเช้า เดี๋ยวบ่าย ๆ พาไปหาบ้านเธอกัน ""อืม ไปสิ" ทั้งคู่นั่งคุยกันระหว่างกินข้าวสญามนมองที่ใบหน้าชายหนุ่เขาช่างเป็นคนดีจริง ๆ แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือทุกอย่าง ช่วงบ่ายของอีกวันหลังจากที่พายุกลับถึงคอนโด พายุก็พาหญิงสาวขับรถมุ่งหน้ามายังสมุทรสาคร สถานที่ ที่เจอเธอเมื่อหลายวันก่อน สญามนยืนอยู่หน้าตลาด ที่เธอบอกกับพายุว่าเป็นบ้านของเธอ แต่ตอนนี้มันกับไม่ใช้อย่างนั้น ที่แห่งนี้เปลี่ยนไป ไม่ใช่บ้านที่คนอาศัยอยู่ มีแต่ตลาดร้านค้า ผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ เธอยืนอย่างทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรก่อน จนชายหนุ่มที่มองดูเธออยู่ เดินเข้ามาใกล้ ๆ "ลองถามร้านค้าแถวนี้ไหม" พายุเอ่ยถาม แต่พอเธอหันหน้ากลับมา มองที่ชายหนุ่ม เขากับเห็น
บทที่ 5 "ฉันจะไม่ลืมนายเลยนะ" พายุได้ยินเสียงของหญิงสาว ผ่านสายลมที่เเรงขึ้น ทั้งฝุ่นผงเศษใบไม้และดอกไม้ปลิวว่อน"สญามน เดี๋ยว" ชายหนุ่มยกแขนขึ้นบังดวงตา ฝ่ามืออีกข้างยกขึ้นมาปัดป้องไปมา แต่ก็ไม่สามารถป้องกันฝุ่นได้ "ฉันจะได้กลับแล้วใช่มั้ย" หญิงสาวหลับตาลง ยืนอยู่ท่ามกลางสายลมนั้นพายุกระพริบตาถี่ ๆ ชายหนุ่มเริ่มมองไม่เห็นตัวของหญิงสาว ดวงตาของเขาไม่อาจต้านทานลมได้ เวลาผ่านไปไม่ถึงนาที ลมเริ่มเบาบางลง ชายหนุ่มกระพริบตาที่พร่ามัวไปด้วยฝุ่นผง เเล้วเพ่งมองไปจุดที่สญามนยืนอยู่"สญามน" เสียงเรียกของชายหนุ่มดังขึ้น"พายุ นะ นาย" หญิงสาวเริ่มมองไปรอบ ๆ "ฉันยังอยู่ที่เดิม ทำไม ทำไมล่ะ " เธอทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดอาลัยตายอยากเมื่อดวงตาหายพร่ามั่ว พายุจึงรีบเดินเข้ามาหาหญิงสาวตรงที่เธอนั่งอยู่ เขาทรุดตัวนั่งลงใช้เข่าแตะพื้นหนึ่งข้าง ฝ่ามือใหญ่เอื้อมไปหยิบเศษใบไม้ ดอกไม้ออกจากผมของเธอ สญามนมองใบหน้าของพายุ อย่างลืมตัว เมื่อชายหนุ่มจัดการกับผมของเธอเสร็จแล้ว สายตาจึงเลือนมามองใบหน้าของหญิงสาว ทั้งสองต่างจ้องมองสึกกันเเละกัน"เธอเป็นไรไหม" "......" สญามนส่ายหน้าไปมา "กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยว
วันที่ 6 กันยายน 2566วัดป่าเอี๊ยด !! "เฮ้ย อะไรว่ะ" เสียงเบรครถอย่างกระทันหันพร้อมร้องอุทานออกมา เมื่อจู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่ง ปรากฎตัวอยู่หน้ารถของพายุ ชายหนุ่มที่กำลังจะเดินทางออกจากวัดป่าแห่งนี้ ดีที่ที่นี่เป็นบริเวณวัด เขาจึงไม่ได้ขับรถเร็วมากนัก จึงเบรคได้ทัน ชายหนุ่มจึงเปิดประตูรถลงมาขายาว ๆ ของเขารีบก้าวมายังหน้ารถยนต์คันหรูภาพเบื้องหน้าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งนอนสลบอยู่ติดกับหน้ารถเขาพอดี ถ้าใครมาเห็นก็คงคิดว่าเขาต้องเป็นคนขับรถชนเธอแน่ ๆ เเต่เขาก็มั่นใจว่าตนเองนั้นไม่ได้ชนโดนตัวเธอสักนิด ชายหนุ่มจึงรีบไปประคองตัวเธอคนนั้นขึ้นมา"เธอ เธอ นี้ เธอ " พายุเอ่ยเรียกหญิงสาวซ้ำ ๆ แต่เธอก็ไม่ตอบสนองใด ๆ เขามองสำรวจร่างกายเธอรายละเอียด ไม่พบบาดแผลสักนิด รอยฟกช้ำก็ไม่มี พายุมองไปรอบ ถนนลาดยางเส้นเล็ก ๆ บริเวณหลังวัดนี้ สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นลั่นทมดอกสีขาว ๆ ร่วงโรยส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมันอบอวลฟุ้งอยู่ในบรรยากาศ ที่บัดนี้เริ่มมืดสลัด ชายหนุ่มหันกลับมาที่หญิงสาว พยายามเรียกเธออีกหลายครั้งแต่ก็ยังนิ่งเหมือนเดิม"หรือหัวกระแทก เลือดก็ไม่มี" พายุพึมพำออกมาและจับศีรษะเธอดู"ยังไงก็ต้อง
บทที่ 2 ความรู้สึกเย็นเยียบจากเครื่องปรับอากาศของรถยนต์ แขนเรียวของสญามนขยับขึ้นมากอดตัวไว้ เปลือกตาสวยค่อย ๆ ลืมขึ้นมา พร้อมกระพริบตาถี่เริ่มเพ่งมองไปรอบ ๆ ตัว "นี้ที่ไหน" จู่ ๆ หญิงสาวที่สลบอยู่หน้ารถเมื่อครู่นี้ ก็เอ่ยขึ้นมา พายุจึงรีบจอดรถเข้าข้างทาง "นายเป็นใคร จะพาฉันไปไหน นายลักพาตัวฉันมาเหรอ " สญามนกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก เมื่อตื่นมาก็เจอชายแปลกหน้า และยังอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ "เดี๋ยว เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันขับรถของดี ๆ อยู่ ๆ คุณก็มายืนเป็นลมขวางหน้ารถ" "อะไรนะ" หญิงสาวพยายามนึก "ดีนะที่ฉันขับไม่เร็วไม่งั้นเหยียบเละไปแล้ว" "ฉันเป็นลมอยู่หน้ารถนาย" "ใช่ เรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น เลยจะพาไปโรงพยาบาลนี้ไง แล้วเธอบาดเจ็บตรงไหนไหม" สญามนยังคงงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเริ่มสำรวจร่างกายตนเอง ก็พบว่าไม่มีตรงไหนที่รู้สึกเจ็บ "ฉันไม่เป็นไร" เธอตอบเขาออกไปเริ่มมองสำรวจรถคันนี้แต่ เพราะมันมืดมากแล้วธอจึงมองไม่เห็นไม่ชัดเท่าไรนัก "ถ้าไม่เป็นไรแล้วจะให้ฉันไปไปส่งที่ไหน" "ที่วัดป่าก็ได้ค่ะ พอดีฉันมางานประจำปีที่วัดกับเพื่อน" "งานประจำปี ? " "ใช่ค่ะคืนนี้มีรำวง" "ห่ะ?? รำวง"
บทที่ 5 "ฉันจะไม่ลืมนายเลยนะ" พายุได้ยินเสียงของหญิงสาว ผ่านสายลมที่เเรงขึ้น ทั้งฝุ่นผงเศษใบไม้และดอกไม้ปลิวว่อน"สญามน เดี๋ยว" ชายหนุ่มยกแขนขึ้นบังดวงตา ฝ่ามืออีกข้างยกขึ้นมาปัดป้องไปมา แต่ก็ไม่สามารถป้องกันฝุ่นได้ "ฉันจะได้กลับแล้วใช่มั้ย" หญิงสาวหลับตาลง ยืนอยู่ท่ามกลางสายลมนั้นพายุกระพริบตาถี่ ๆ ชายหนุ่มเริ่มมองไม่เห็นตัวของหญิงสาว ดวงตาของเขาไม่อาจต้านทานลมได้ เวลาผ่านไปไม่ถึงนาที ลมเริ่มเบาบางลง ชายหนุ่มกระพริบตาที่พร่ามัวไปด้วยฝุ่นผง เเล้วเพ่งมองไปจุดที่สญามนยืนอยู่"สญามน" เสียงเรียกของชายหนุ่มดังขึ้น"พายุ นะ นาย" หญิงสาวเริ่มมองไปรอบ ๆ "ฉันยังอยู่ที่เดิม ทำไม ทำไมล่ะ " เธอทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดอาลัยตายอยากเมื่อดวงตาหายพร่ามั่ว พายุจึงรีบเดินเข้ามาหาหญิงสาวตรงที่เธอนั่งอยู่ เขาทรุดตัวนั่งลงใช้เข่าแตะพื้นหนึ่งข้าง ฝ่ามือใหญ่เอื้อมไปหยิบเศษใบไม้ ดอกไม้ออกจากผมของเธอ สญามนมองใบหน้าของพายุ อย่างลืมตัว เมื่อชายหนุ่มจัดการกับผมของเธอเสร็จแล้ว สายตาจึงเลือนมามองใบหน้าของหญิงสาว ทั้งสองต่างจ้องมองสึกกันเเละกัน"เธอเป็นไรไหม" "......" สญามนส่ายหน้าไปมา "กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยว
บทที่ 4 สญามนกลับเข้าห้องไปสักพัก เธอจึงออกมาด้วยชุดใหม่ และมายืนตรงหน้าชายหนุ่ม"เป็นไง" "อืม ฉันใส่ได้พอดีเลย ขอบคุณนะ""ไปนั่งสิ" "ไม่เป็นไร ฉันช่วย" ทั้งสองช่วยกันทำอาหารเย็นด้วยกัน และเริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่าง ๆ มีหลาย ๆ สิ่งที่เธอไม่รู้มากมาย และหลายสิ่งที่ชายหนุ่มก็ได้ความรู้ใหม่จากเธอไม่น้อย "พรุ่งนี้ฉันมีเรียนแค่ช่วงเช้า เดี๋ยวบ่าย ๆ พาไปหาบ้านเธอกัน ""อืม ไปสิ" ทั้งคู่นั่งคุยกันระหว่างกินข้าวสญามนมองที่ใบหน้าชายหนุ่เขาช่างเป็นคนดีจริง ๆ แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือทุกอย่าง ช่วงบ่ายของอีกวันหลังจากที่พายุกลับถึงคอนโด พายุก็พาหญิงสาวขับรถมุ่งหน้ามายังสมุทรสาคร สถานที่ ที่เจอเธอเมื่อหลายวันก่อน สญามนยืนอยู่หน้าตลาด ที่เธอบอกกับพายุว่าเป็นบ้านของเธอ แต่ตอนนี้มันกับไม่ใช้อย่างนั้น ที่แห่งนี้เปลี่ยนไป ไม่ใช่บ้านที่คนอาศัยอยู่ มีแต่ตลาดร้านค้า ผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ เธอยืนอย่างทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรก่อน จนชายหนุ่มที่มองดูเธออยู่ เดินเข้ามาใกล้ ๆ "ลองถามร้านค้าแถวนี้ไหม" พายุเอ่ยถาม แต่พอเธอหันหน้ากลับมา มองที่ชายหนุ่ม เขากับเห็น
บทที่ 3"นายชื่อพายุใช่ไหม" "อืม""ฉัน สญามน นะ""รู้แล้ว เธอเป็นคนให้ดูบัตร""......."พายุขับรถมาได้ร่วมชั่วโมงเริ่มเข้าใกล้กลางเมืองมากขึ้น แต่เพราะดึกมากเเล้วทำให้รถไม่ติดเท่าไรนัก "ถ้าง่วงก็หลับได้นะ ถึงแล้วเดี๋ยวฉันเรียก"" โอโห นั้นอะไรน่ะ" จู่ ๆ สญามนก็เอ่ยออกมาเสียงดัง"อะไร ….""นู่น ๆ เหมือนรถไฟแต่มันอยู่บนนั่นน่ะ""ไม่รู้จริงอ่ะ" "ฉันพึงเคยเห็นครั้งแรก" เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น "รถไฟฟ้านะ ใต้ดินก็มีนะ" "จริงเหรอ ใต้ดินนี้นะ " "ใช่" พายุตอบกลับและแอบขำกับอาการตื่นเต้นของเธอ "หูย… นี้มันเมืองสวรรค์หรอ นายดูไฟพวกนั้นสิ นั้นตึกใช่ไหมทำไมถึงสูงอย่างนั้นล่ะ" ตลอดทางสมญามนยังไม่เลิกตื่นตากับสิ่งที่เห็นตามทางที่ผ่านมา เหมือนเธอจะลืมอาการเศร้าและหวาดกลัวไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่นานนักก็ถึงคอนโดที่ พายุอาศัยอยู่ เขาขับรถเข้ามาจอดยังที่จอดรถ และพาหญิงสาวขึ้นลิฟท์มายังชั้นที่สามสิบแปด หญิงสาวก้าวเข้ามาในลิฟท์ เธอมองสำรวจไปทั่ว เมื่อลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้น ร่างบางจึงเซถลาพายุยืนอยู่กลางลิฟท์สองมือลวงกระเป๋ากางเกง อยู่หญิงสาวก็เซมาเกาะแขนเขาอยู่ เขาเหล่ตาลงมองเธอที่เกาะแขนเขาไว้จนแน่น"อย่
บทที่ 2 ความรู้สึกเย็นเยียบจากเครื่องปรับอากาศของรถยนต์ แขนเรียวของสญามนขยับขึ้นมากอดตัวไว้ เปลือกตาสวยค่อย ๆ ลืมขึ้นมา พร้อมกระพริบตาถี่เริ่มเพ่งมองไปรอบ ๆ ตัว "นี้ที่ไหน" จู่ ๆ หญิงสาวที่สลบอยู่หน้ารถเมื่อครู่นี้ ก็เอ่ยขึ้นมา พายุจึงรีบจอดรถเข้าข้างทาง "นายเป็นใคร จะพาฉันไปไหน นายลักพาตัวฉันมาเหรอ " สญามนกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก เมื่อตื่นมาก็เจอชายแปลกหน้า และยังอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ "เดี๋ยว เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันขับรถของดี ๆ อยู่ ๆ คุณก็มายืนเป็นลมขวางหน้ารถ" "อะไรนะ" หญิงสาวพยายามนึก "ดีนะที่ฉันขับไม่เร็วไม่งั้นเหยียบเละไปแล้ว" "ฉันเป็นลมอยู่หน้ารถนาย" "ใช่ เรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น เลยจะพาไปโรงพยาบาลนี้ไง แล้วเธอบาดเจ็บตรงไหนไหม" สญามนยังคงงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเริ่มสำรวจร่างกายตนเอง ก็พบว่าไม่มีตรงไหนที่รู้สึกเจ็บ "ฉันไม่เป็นไร" เธอตอบเขาออกไปเริ่มมองสำรวจรถคันนี้แต่ เพราะมันมืดมากแล้วธอจึงมองไม่เห็นไม่ชัดเท่าไรนัก "ถ้าไม่เป็นไรแล้วจะให้ฉันไปไปส่งที่ไหน" "ที่วัดป่าก็ได้ค่ะ พอดีฉันมางานประจำปีที่วัดกับเพื่อน" "งานประจำปี ? " "ใช่ค่ะคืนนี้มีรำวง" "ห่ะ?? รำวง"
วันที่ 6 กันยายน 2566วัดป่าเอี๊ยด !! "เฮ้ย อะไรว่ะ" เสียงเบรครถอย่างกระทันหันพร้อมร้องอุทานออกมา เมื่อจู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่ง ปรากฎตัวอยู่หน้ารถของพายุ ชายหนุ่มที่กำลังจะเดินทางออกจากวัดป่าแห่งนี้ ดีที่ที่นี่เป็นบริเวณวัด เขาจึงไม่ได้ขับรถเร็วมากนัก จึงเบรคได้ทัน ชายหนุ่มจึงเปิดประตูรถลงมาขายาว ๆ ของเขารีบก้าวมายังหน้ารถยนต์คันหรูภาพเบื้องหน้าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งนอนสลบอยู่ติดกับหน้ารถเขาพอดี ถ้าใครมาเห็นก็คงคิดว่าเขาต้องเป็นคนขับรถชนเธอแน่ ๆ เเต่เขาก็มั่นใจว่าตนเองนั้นไม่ได้ชนโดนตัวเธอสักนิด ชายหนุ่มจึงรีบไปประคองตัวเธอคนนั้นขึ้นมา"เธอ เธอ นี้ เธอ " พายุเอ่ยเรียกหญิงสาวซ้ำ ๆ แต่เธอก็ไม่ตอบสนองใด ๆ เขามองสำรวจร่างกายเธอรายละเอียด ไม่พบบาดแผลสักนิด รอยฟกช้ำก็ไม่มี พายุมองไปรอบ ถนนลาดยางเส้นเล็ก ๆ บริเวณหลังวัดนี้ สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นลั่นทมดอกสีขาว ๆ ร่วงโรยส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมันอบอวลฟุ้งอยู่ในบรรยากาศ ที่บัดนี้เริ่มมืดสลัด ชายหนุ่มหันกลับมาที่หญิงสาว พยายามเรียกเธออีกหลายครั้งแต่ก็ยังนิ่งเหมือนเดิม"หรือหัวกระแทก เลือดก็ไม่มี" พายุพึมพำออกมาและจับศีรษะเธอดู"ยังไงก็ต้อง