/ แฟนตาซี / สญามน ข้ามเวลา / บทที่ 3 เมืองสวรรค์

공유

บทที่ 3 เมืองสวรรค์

last update 최신 업데이트: 2025-04-23 12:14:06

บทที่ 3

"นายชื่อพายุใช่ไหม"

"อืม""

ฉัน สญามน นะ"

"รู้แล้ว เธอเป็นคนให้ดูบัตร"

"......."

พายุขับรถมาได้ร่วมชั่วโมงเริ่มเข้าใกล้กลางเมืองมากขึ้น แต่เพราะดึกมากเเล้วทำให้รถไม่ติดเท่าไรนัก

"ถ้าง่วงก็หลับได้นะ ถึงแล้วเดี๋ยวฉันเรียก"

" โอโห นั้นอะไรน่ะ" จู่ ๆ สญามนก็เอ่ยออกมาเสียงดัง

"อะไร …."

"นู่น ๆ เหมือนรถไฟแต่มันอยู่บนนั่นน่ะ"

"ไม่รู้จริงอ่ะ"

"ฉันพึงเคยเห็นครั้งแรก" เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น

"รถไฟฟ้านะ ใต้ดินก็มีนะ"

"จริงเหรอ ใต้ดินนี้นะ "

"ใช่" พายุตอบกลับและแอบขำกับอาการตื่นเต้นของเธอ

"หูย… นี้มันเมืองสวรรค์หรอ นายดูไฟพวกนั้นสิ นั้นตึกใช่ไหมทำไมถึงสูงอย่างนั้นล่ะ"

ตลอดทางสมญามนยังไม่เลิกตื่นตากับสิ่งที่เห็นตามทางที่ผ่านมา เหมือนเธอจะลืมอาการเศร้าและหวาดกลัวไปชั่วขณะหนึ่ง

ไม่นานนักก็ถึงคอนโดที่ พายุอาศัยอยู่ เขาขับรถเข้ามาจอดยังที่จอดรถ และพาหญิงสาวขึ้นลิฟท์มายังชั้นที่สามสิบแปด

หญิงสาวก้าวเข้ามาในลิฟท์ เธอมองสำรวจไปทั่ว เมื่อลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้น ร่างบางจึงเซถลา

พายุยืนอยู่กลางลิฟท์สองมือลวงกระเป๋ากางเกง อยู่หญิงสาวก็เซมาเกาะแขนเขาอยู่ เขาเหล่ตาลงมองเธอที่เกาะแขนเขาไว้จนแน่น

"อย่าบอกนะว่าไม่เคยขึ้นลิฟท์" 

"ใช่ และนี้เป็นครั้งแรก" สญามนเงยหน้าขึ้นมาสบตาขายหนุ่ม

พายุดึงมือที่ล้วงกระเป๋าอยู่ออกมา และจับตัวเธอให้ยืนตรง ๆ

"ยืนตรง ๆ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว"

"......"

ประตูลิฟท์เปิดออกหญิงสาวจึงเดินตามชายหนุ่มไป จนถึงห้องพักสุดหรู

"นายอยู่คนเดียวเหรอ"

"ใช่" 

ชายหนุ่มเดินเข้าห้องนอนไป สญามนจึงเดินดูรอบห้องเขา ข้างของเครื่องใช้ที่ดูแปลกตามากมาย เธอเดินจนมาถึงระเบียง

"โอโห สูงมากเลย ตึกพวกนี้สูงระฟ้าไปหมด นี้ปี 2566 จริง ๆ ใช่ไหมทำไมฉันถึงมาอยู่นี่ได้ล่ะ" หญิงสาวพึมพำเบา

"หรือนี้แค่ฝัน ฉันต้องฝันอยู่ แน่ ๆ เดี๋ยวก็คงตื่น"

"สญามน" เสียงทุ้มเอ่ยเสียงจากด้านหลัง เธอจึงหันกลับมา

"ฉันไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิง เธออาบน้ำใส่ชุดนี้ไปก่อน และนอนในห้องได้เลย เดี๋ยวผมนอนโซฟาข้างนอกเอง"

สญามนมองตามมือที่ พายุชี้โซฟาและรับชุดนั้นมาถือไว้ ก่อนจะเดินเข้าห้องไป

เธอเดินเข้ามาในห้องจัดการอาบน้ำจนเสร็จ หยิบชุดที่ชายหนุ่มให้มาใส่

"เสื้อนี้ยาวจะถือเข่าเลย จะสูงไปไหน" สญามนมองดูตัวเองให้กระจกเงา สวมเสื้อของพายุที่ตัวใหญ่มาก

"ชั้นในก็ไม่มี " เธอก้มลงมองหน้าอกตนเองก็รู้สึกโล่งแปลก ๆ แถมเสื้อยังทิ้งตัวแนบไปกับหน้าอกจนมองเห็นเป็นรูปทรงเลย

สญามนแง้มประตูชโงกออกมา เห็นพายุกำลังนั่งกินบ้างอย่างอยู่ ด้วยความหิวเพราะตั้งแต่เย็นเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย จึงเดินออกมาทันที ชายหนุ่มเมื่อเห็นเธอเดินออกมาดีจึงเรียกในมากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยกัน พายุได้เตรียมเพื่อเธอด้วย เพราะคิดว่ายังไงหญิงสาวก็คงจะหิวเหมือนกัน

"ทำเพื่อ มากินสิ" พายุเอ่ยบอก

สญมานจึงรีบเดินมานั่งด้านตรงกันข้ามพายุตรงที่เขาวางบะหมี่เอาไว้  หญิงสาวนั่งลงอย่างลืมตัว เตรียมตัวลงมือกินบะหมี่ทันที

แต่พายุกับหยุดชะงักและดวงตามองค้าง สายตาเขานั้นจับจ้องไปที่หน้าอกอิ่ม เเละจุกที่ชูชันดันเสื้อออกมามันเด่นหล่าจนดึงดูดสายตาเขา

"แค๊ก ๆ แค๊ก ๆ "พายุหันหน้าหนีแล้วรีบลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์ครัว

"นายอิ่มแล้วเหรอ… พายุเป็นอะไรบะหมี่ติดคอหรือไง" หญิงสาวเอ่ยถามไล่หลังเขามา

"เปล่า ๆ เธอกินเลยไม่ต้องสนใจ" ชายหนุ่มตระโกนกับมา

(บ้าเอ้ยลืมไปเลยว่าผู้หญิงต้องใส่ชั้นใน แต่ตัวเล็กแค่นั้น ขนาดมัน… หยุด ๆ ไอ้ยุ หยุดเลยเลิกคิดไม่ดี) ชายหนุ่มยืนทะเลาะกับความคิดตัวเองอยู่ในครัว

"พายุ ฉันกินหมดเเล้วเอาไว้ไหน"

เพราะชายหนุ่มมัวแต่ทะเลาะกับความคิดตัวเองอยู่ รู้สึกตัวอีกที่หญิงสาวก็มายืนอยู่เบื้องหน้าแล้ว ใบหน้าหล่อจึงมองเธอเเต่สายตาไม่รักดีมันกับเลือนต่ำไปที่หน้าอก

"วะ วางไว้เดี๋ยวล้างเอง" พายุรีบหันหลังให้เธอ

"ฉันช่วยล้างให้ไหม"

"ไม่ ไม่ เธอว่างได้แล้วไปนอนเถอะ"

"ก็ได้" หญิงสาวจึงว่าถ้วยไว้เเล้วเดินเข้าห้องนอน

"ถ้าฉันหลับไปแล้วพรุ่งนี้จะตื่นขึ้นมากลับไปเป็นเหมือนเดิมไหมนะ" สญามนล้มตัวลงบนที่นอนขนาดใหญ่ และหลับไปในที่สุด

เช้าวันใหม่

แสงแดดอ่อนสาดเข้ากระทบกับใบหน้าสวยที่หลับตาพริ้ม สญามนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและกระพริบตาเพื่อปรับแสง

ภาพเบื้องหน้าเธอเห็นชายหนุ่มกำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาว ผมเปี้ยก ๆ ยังไม่ได้จัดทรง กับแสงแดดอ่อนสาดส่องใบหน้าและรูปร่างสูงร่างที่สูงโปร่งของเขา ทำเอาเธอมองค้าง ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงครึ่งหน้า

(เขาหล่อจัง)

"ตื่นแล้วใช่ไหม พอดีผมมีเรียนแต่เช้า"

"อืมตื่นแล้ว" เธอตอบออกมา

"นะ นายเข้ามาทำไม"

"มาเอาเสื้อผ้า เสื้อผ้าฉันอยู่ในห้องไง"

"อะ อ๋อ"

เมื่อชายหนุ่มแต่งตัวเสร็จเขาก็เดินออกจากห้องไป หญิงสาวจึงลุกจากที่นอนแล้วเดินตามออกมา

"แล้วฉันล่ะ"

"ก็อยู่ที่นี้ไปก่อน ฉันจะกลับมาตอนเย็น ถ้าหิวก็ทำอาหารง่าย ๆ กินก่อนได้เลยพอมีของอยู่ในตู้เย็น หรือถ้าเบื่อก็เปิดทีวีดูได้เลยนะ" จน

"ทีวีหรอ"

"ใช่ นู่นไง" พายุชี้ไป สญามนจึงมองตาและเดินไปใกล้ ๆ

"อันนี้นี่นะ" เธอมองมันอย่างสงสัย ทีวีจอแบนขนาดห้าสิบสองนิ้วจอบางเฉียบ พายุจึงเดินมาหา เขาสาธิตวิธีเปิดให้และส่งรีโมตทีวีให้เธอ

"หูย…ภาพสีด้วย" ดวงตาเธอจ้องอยู่ที่ทีวีอย่างตื่นตาตื่นใจมือก็กดเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ

"น่าทึ่งมาก ทันสมัยจริง ๆ "

"ทันสมัยอีกแล้ว" พายุทวนคำพูดเธอเบา

"ผมไปก่อนนะ แล้วอย่าเปิดประตูให้ใครล่ะถ้าไม่ใช่ผม"

"ค่ะ" สญามนหันหน้ามาตอบรับ

"เดี๋ยว" เธอเรียกชายหนุ่มไว้

"มีอะไร"

"อย่าพึงไป อุปกรณ์ทำอาหารบ้านนายนะ เปิดตรงไหนสอนฉันก่อน"

พายุจึงต้องเดินกลับมาสอนเธอใช้อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อีกครั้ง

(หรือเธอจะมาจากปี 2502 จริง ๆ ) เขาได้แต่คิดในใจ

ใช้เวลาไม่นานสญามนก็เข้าใจ และใช่สิ่งของพวกนี้เป็น เธอจึงมานั่งดูทีวีต่อ

"นี้ปี 2566 จริง ๆ ใช้ไหม ฉันไม่ได้ฝันไปจริงเหรอ "

หญิงสาวมีแววตาเศร้าลงเล็กน้อย แต่เพราะทีวีฉายภาพบ้างอย่าง จึงดึงความสนใจเธอไปทันที

สี่โมงเย็น

พายุกับมาถึงคอนโด เปิดประตูเข้ามาก็ต้องถึงกับอุดหูตัวเองได้ ยังดีที่ห้องที่คอนโดนี้เก็บเสียงไม่งั้นข้างห้องได้มาด่าแน่นอน

ชายหนุ่มรีบเดินเข้ามาเห็นสญามนนั่งอยู่หน้าทีวีน่าตาดูมีความสุข

"คิมนัมจุน! คิมซอกจิน! มินยุนกิ! จองโฮซอก! ปาร์คจีมิน! คิมแทฮยอง! จอนจองกุก! BTS!" 

พรึ่บ! จอทีวีดับลง สญามนมองไปที่มือของพายุ เขาถือรีโมททีวีอยู่

"เปิดอะไรของเธอเสียงดังลั่นขนาดนี้"

"นี้ ฉันกำลังดูวงศิลปินเกาหลีอยู่นะ" เธอกล่าวเสียงแข็งออกมา

"เธอก็เปิดเบาหน่อยสิ"

"ก็ได้ ขอรีโมทหน่อย"

สญามนรับรีโมทีวีคืนมาเปิดมันอีกครั้ง และปรับเสียงให้เบาลง

"ปี 2566 นี้ดีจังเลยนะ มีศิลปินหล่อ ๆ เยอะเลย"

"เธอกลายเป็นติ่งเกาหลีไปแล้วหรอ"

"ห่ะ ติ่งเกาหลี คืออะไร"

"ก็วงเกาหลีที่เธอดูอยู่ไง เป็นแฟนคลับอะไรแบบนี้"

"อ๋อ ถ้าเราชื่นชอบศิลปินเขาจะเรียกว่าติ่งใช่ไหม"

"คงงั้น"

"นายดูสิพวกเขาหน้าตาดีมากเลย เต้นก็เก่ง"

"หน้าเหมือนกันหมด"

"เหมือนกันหมดที่ไหน แต่ละคนหล่อกันคนละแบบเลย ชิ นายอิจฉาเขาใช่ไหม"

"......" พายุเงียบมองเธอ

"แต่นายก็หล่อใช้ได้อยู่นะ หน้านายไปทางเกาหลีแบบหนุ่ม ๆ บีทีเอสเลย คนไหนนะ อ๋อพี่จิน คิมซอกจิน!"

"จริงหรอ ไหนคนไหน"

"นี่ ๆ คนนี่ ๆ "

"โอ้ย ! " ทั้งสองเพ่งมองไปที่ทีวีจนหัวชนกัน

"นายจะเข้ามาใกล้ทำไม"

ทั้งสองเงียบ พายุจ้องมองไปที่ดวงตากลมนั้น เธอก็มองเขากลับเช่นกัน

"นายคล้ายพี่จิน จริง ๆ ด้วย " สญามนยกมืขึ้นมอง ทำท่าคล้าย ๆ ว่ากำลังวัดใบหน้าชายหนุ่ม

"พอเลย ดูช่องอื่น" พายุแย่งรีโมทมาเปลี่ยนช่อง

"นี้ดูข่าวบ้าง มีข่าวตัวเองบ้างไหม หายออกมาจากบ้านพ่อแม่ญาติพี่น้องเธอตามหาบ้างหรือเปล่า"

"นั้นสิ" สญามนนั่งนิ่งน้ำเสียงส่อแววเศร้า ดวงตาจ้องดูข่าวอยู่ที่ทีวี เธอนั่งดูอยู่อย่างนั้นแต่ก็ไร้วีแววข่าวคนหายแบบเธอ

"อ่ะนี้" พายุยื่นถุงขนาดใหญ่หลายใบให้เธอ

"อะไรเหรอ"

"......." พายุไม่ตอบอะไร เดินหันหลังตรงไปเคาน์เตอร์ครัว

สญามนค่อย ๆเปิดดูทีละถุงและหยิบมันขึ้นมา

"เสื้อผ้าผู้หญิง นายรู้ไซส์ฉันได้ไง" เธอเอ่ยถาม

"ฉันกะ ๆ เอา "

"อ๋อ"

จนถุงสุดท้ายเธอหยิบมันยกขึ้นมาและรีบยัดกลับเข้าทันที พร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรือ

(ชุดชั้นในหลายชุดเลย นี้เขาก็ซื้อมาด้วยบ้าเอยเขินจัง)

พายุสังเกตุเห็นว่าเธอเงียบไป คิดว่าเธอน่าจะเห็นถุงนั้นแล้ว

"เอ่อ ถุงนั้นฉะนซื้อมาหลายขนาดไม่แน่ใจว่า ซะ ไซส์ไหน" เขากล่าวอย่างเก้ ๆ กัง ๆ

"เอ่อ ขอบคุณนะ" สญามนรวบถุงเหล่านั้นขึ้นมาย่างเขิน ๆ แล้วเดินเข้าห้องไป

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สญามน ข้ามเวลา   บทที่ 17 รักใคร่กลมเกลียว

    พายุกลับมาถึงบ้านของพ่อและแม่ เขาทิ้งตัวลงบนที่นอน อารมณ์เศร้าหมองพาความรู้สึกเขาดิ่งลงจนน้ำใส ๆ เอ่อล้นไหลผ่านหางตาไป ไม่มีสิ่งใดสามารถปลอบประโลมความรู้สึกเจ็บช้ำที่จิตใจเขาได้ในขณะนี้ภาพทุกอิริยาบถต่าง ๆ ของหญิงสาวไหลผ่านคลื่นสมองผุดเป็นภาพต่าง ๆ ห้วนให้ชายหนุ่มยิ่งคิดถึง ชายหนุ่มพลิกตะแคงงอตัวกำผ้าปูที่นอนไว้แน่ซุกหน้าร้องไห้โฮไปกับที่นอนใหญ่ ด้วยความอ่อนล้าจากการอดนอนมาหลายวันจนร่างกายไม่สามารถจะทานทนได้ ในที่สุดเขาก็หลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนในห้วนฝันของชายหนุ่มขณะที่เขาหลับไหล ในนั้นเขาได้อยู่กับสญามนได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่ เมื่อมองออกไปยังสนามหน้าบ้านมีเด็กผู้หญิงที่กำลังนั่งเล่นขายของบนเสื่อ แล้วยังมีเด็กผู้ชายที่ดูโตกว่าไม่กี่ปีปั่นจักรยานเล่นอยู่ใกล้ ๆ กัน ส่วนเขากับเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะค่อยมองดู ๆ เด็กสองคนนั้นอย่างมีความสุขชายหนุ่มสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาก็สายของอีกวัน เขายังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง คิดทบทวนความฝันเมื่อคืนนี้แล้วมันทำให้เขาไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมาเลยสักนิดเสียงถอนลมหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด ชายหนุ่มชันกายลุกขึ้นในท่านั่ง มองไปยังรูปพ่อแม่และเขาเองเมื่อครั้

  • สญามน ข้ามเวลา   บทที่ 16 ประตูมิติเปิดขึ้นอีกครั้ง

    “ยุ..”“มีอะไรเหรอครับแม่น้ำเสียงดูจริงจัง”“หลวงตาลูกเขาบอกกับแม่ว่า”“ว่าอะไรหรอครับ”“ประตูมิติเวลามันจะเปิดขึ้นอีกครั้ง”เมื่อได้ยินคำที่ประโยคที่ไม่อยากจะได้ยิน หัวใจของชายหนุ่มไหววูบ เขาหันกลับเข้ามามองยังภายในห้องก็เจอกับหญิงสาวยืนส่งยิ้มหวานให้เขาอยู่เบื้องหน้า"ยุ.. ยุยังฟังแม่อยู่ไหม" ปลายสายเห็นเงียบไปเลยเอ่ยเรียกขึ้น"ครับผมฟังอยู่" เขาพยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติที่สุดแล้วตอบกลับไป หญิงสาวเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยังคุยต่อเธอจึงเดินกลับมานั่งที่โซฟาหน้าทีวีปล่อยให้เขาคุยโทรศัพท์ไป"เมื่อไรครับ หลวงตาได้บอกไหม"พายุเอื้อมมือไปปิดประตูกระจกแล้วกลับมาคุยโทรศัพท์กับแม่ของตนต่อ"ไม่ได้บอกอะไรต่อลูก ท่านบอกมาแค่นี้แล้วก็หลับไป ท่านอ่อนแรงมากเลยลูก"“.........” ชายหนุ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง“ยุ ค่อย ๆ คิดนะลูก มีอะไรมาปรึกษาพ่อกับแม่ได้ตลอด”“ครับ” เขากดปิดสายโทรศัพท์ และกำมันไว้จนแนน่นแทบจะแหลกค้างมือ ด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำมันสบสนไปหมด ดวงตาชายหนุ่มเหม่อมองเข้ามาในห้อง มองหญิงสาวที่เขารักเธอก็หันมาส่งยิ้มให้เขาอีกเช่นกัน แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่กำลังเคร่งเครียดของชายหนุ่ม เธอจึงหุบยิ้มแล

  • สญามน ข้ามเวลา   บทที่ 15 NC 18+

    ตอนที่ 15ร่างบางเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ หญิงสาวยกแขนขึ้นบิดตัวไปมาด้วยความปวดเมื่อยร่างกาย "หายไปไหนของเขานะ" สญามนชันกายลุกขึ้นนั่ง มองหาชายหนุ่มจนทั่วห้องนอนแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ร่างบางก้าวลงจากเตียงคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบตัวไว้ เปิดประตูห้องนอกชะโงกหน้าออกมามองหาชายหนุ่ม ก็เห็นแผ่นหลังของเขายืนอยู่บริเวณระเบียบห้องพร้อมกับควันบางอย่างที่ลอยขึ้นมาสญามนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอเดินตรงมาที่ระเบียบและเปิดกระจกออก กลิ่นควันบุหรี่ก็ลอยเข้าจมูกเธอทันที"ฉันไม่เคยรู้ว่านายก็สูบบุหรี่ด้วย" เมื่อได้ยินเสียงเธอชายหนุ่มก็กดบุหรี่ลงยังที่รองเพื่อดับมัน "ฉันมีเรื่องให้คิดนะ" เขาตอบกลับเธออกไป"นายคิดเรื่องอะไร ไหนเราคุยกันแล้วไงถ้ามีปัญหาอะไรให้บอกกัน นายก็บอกฉันมาสิฉันจะได้ช่วยแบ่งเบาความคิดให้นายได้บาง" ชายหนุ่มมองใบหน้าหญิง สายตาเลือนลงมองผ้าขนหนูที่เธอพันร่างกายอยู่ก็ยิ้มออกมา"แค่เรื่องเรียนนะ""จริงหรอ""จริง""แล้วให้ฉันช่วยอะไรไหม""มากอดหน่อย" พายุอ้าแขนรอ สญามนจึงเดินเข้ามาชิดร่างใหญ่ให้เขาได้กอด เธอเองก็กอดเข้าตอบเช่นกัน "นายอย่าสูบมั

  • สญามน ข้ามเวลา   บทที่ 14 เรื่องเซอร์ไพรส์

    "แม่ฉันโทรมาบอกว่าหลวงตาฟื้นแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยบอกเธอ เมื่อวางสายหลังจากคุยกับแม่ไป"ดีจัง แล้วท่านเป็นไงบ้าง""แม่บอกว่า ท่านพอพูดคุยด้วยแต่ยังไม่ค่อยมีแรงเท่าไรนัก""แล้วเราจะเข้าไปหาท่านกันไหม ไม่สิ ๆ นายไปคนเดียวก่อนดีกว่า เพื่อเห็นฉันแล้วเกิดท่านตกใจขึ้นมาล่ะ""งั้นฉันไปคนเดียวก่อน วันหลังค่อยพาเธอไปนะ""โอเค"ทั้งสองตกลงกันเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงขับรถมุ่งหน้าต่อเพื่อกลับคอนโด(โรงพยาบาล)ช่วงสายวันต่อมา พายุเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมหลวงตา เมื่อมาถึงห้องผู้ป่วย ก็พบเจอพ่อและแม่ของตนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว พวกท่านยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยที่มีหลวงตากึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่"หลานสุดที่รักมาแล้วค่ะหลวงพ่อ" ผู้เป็นแม่รีบเอ่ยบอกเมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามา เธอมองเลยพายุไปแต่ก็ไร้เงาของสญามน ตอนแรกกะจะเอ่ยถามแต่ก็เลือกที่ยังจะไม่ถามดีกว่าพายุกล่าวสวัสดีทุกคน แล้วเดินตรงมายังข้างเตียง ชายหนุ่มโน้มตัวลงกราบไปที่มือที่เหี่ยวไปตามวัย นั้นของพระชราหลวงตาเองก็ค่อย ๆ ยกมืออันสั่นเทาขึ้นมาลูบหัวหลานชายสุดที่รัก พายุพงกหัวรีบประคองมือของหลวงตาไว้ทันที"หลวงตาครับ….""ว่ายังไง" น้ำเสียงแหบต่ำของ

  • สญามน ข้ามเวลา   บทที่ 13 ว่าที่สามี

    บทที่ 13พายุลงมาที่ชั้นล่างเพื่อตามหาหญิงสาว เมื่อก้าวเช้ามาในบริเวณร้านกาแฟ ชายหนุ่มเห็นร่างบางที่คุ้นเคยนั้นทันที ถึงแม้ว่าเธอจะหันหลังอยู่ก็ตาม พายุเดินอ้อมมานั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของหญิงสาว ตอนนี้เธอมีสีหน้าเรียบเฉย ทั้งสองสบตากันไปมา“ฉันขอโทษที่คำพูดของฉันทำให้เธอคิดมาก”“...................” เธอยังคงมองชายหนุ่มนิ่ง“สญามน” เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด“ฉันรู้แล้ว ไม่ได้โกรธอะไรนายหรอก ฉันเข้าใจ นายแค่ไม่อยากให้ฉันเป็นกังวล”“ตอนนี้ฉันก็เข้าใจเธอ เธอไม่ต้องคิดมากนะ ไม่ว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน ฉันก็ยังคงรักเธอ ไม่รู้ว่ามันเริ่มเมื่อไร แต่ตอนนี้รักมากบอกเลย” พายุกล่าวความรู้สึกออกมาจากใจทั้งหมด จนทำให้หญิงสาวยิ้มออกอย่างเขินอาย“เรากับขึ้นไปบนห้องกันเถอะ”“อืม” ทั้งสองจึงเดินกลับขึ้นมาเพื่อหาหลวงตาอีกครั้ง“ตอนที่ฉันนั่งกินกาแฟอยู่เมื่อกี้ฉันมาคิด ๆ ดูแล้ว เราไม่รู้ว่ามิติเวลามันจะเปิดขึ้นอีกเมื่อไรตอนไหน ฉันเลยอยากใช้เวลาอยูกับนายให้นานที่สุด” สญามนก้มหน้าพยายามเก็บความรู้กลัวจนอยากจะร้องไห้ออกมา “ไม่ ไม่มีทางฉันจะไม่ยอมให้เธอไปไหนทั้งนั้นเธอจะอยู่กับฉัน เราจะต้อง

  • สญามน ข้ามเวลา   บทที่ 12 ว่าที่ลูกสะใภ้

    "วันนี้นายไม่มีเรียนเหรอ"ร่างเปลือยเปล่าของหนุ่มสาว ที่นอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ มือเรียวเกลี่ยไรผมที่ปิดใบหน้าหล่อของชายหนุ่มที่เปลือกตายังปิดสนิท"อืมมม" เสียงต่ำครางอยู่ในลำคอ ลำแขนใหญ่เริ่มขยับ และเกี่ยวเอาคนตัวเล็กที่เอ่ยคำถามเมื่อครู่เอามากอดไว้แน่น"พายุ.. ฉันถามว่าวันนี้นายไม่มีเรียนเหรอ" เธอเอ่ยถามย้ำชายหนุ่มปรือตามอง ร่างบางในอ้อมกอด ก่อนจะกดจูบลงที่หน้าผากเธออย่างแผ่วเบา"ยังเช้าอยู่เลยนอนต่ออีกนิดนะ" กล่าวจบจมูกโด่ง ก็หอมฟอดใหญ่ไปที่แก้มเนียน ก่อนจะเลื่อนลงซุกไซร้ที่ซอกคอหญิงสาว"คริ คริ คริ ฮ่า ฮ่า พอได้แล้ว " สญามนหดคอ หัวเราะคิกคักก่อนจะดิ้น ลุกออกจากเตียงเดินมานอกห้องนอนพายุมองตามแผ่นหลังบางนั้นจดลับสายตา ชายหนุ่มก็ได้ลุกจากที่นอน เพื่อเตรียมตัวไปมหาลัยวันนี้ไม่นานชายหนุ่มเดินออกมาจากห้อง ด้วยชุดนักศึกษา รูปร่างสูงผิวที่ดูขาวสะอาดใบหน้าหล่อเหลาออกไปทางแนวเกาหลี มันทำให้หญิงสาวต้องมองจนตาค้างพายุก็จ้องตาเธอกลับเช่นกัน แถมยังหมุนตัวโชว์หญิงสาวไปหนึ่งรอบ พร้อมกลับเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเธอ เขาโน้มตัวลงมาให้ใบหน้าตรงกับใบหน้าของเธอหญิงสาวหรี่ตามอง และทำหน้าสง

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status