บทที่ 3
"นายชื่อพายุใช่ไหม" "อืม"" ฉัน สญามน นะ" "รู้แล้ว เธอเป็นคนให้ดูบัตร" "......." พายุขับรถมาได้ร่วมชั่วโมงเริ่มเข้าใกล้กลางเมืองมากขึ้น แต่เพราะดึกมากเเล้วทำให้รถไม่ติดเท่าไรนัก "ถ้าง่วงก็หลับได้นะ ถึงแล้วเดี๋ยวฉันเรียก" " โอโห นั้นอะไรน่ะ" จู่ ๆ สญามนก็เอ่ยออกมาเสียงดัง "อะไร …." "นู่น ๆ เหมือนรถไฟแต่มันอยู่บนนั่นน่ะ" "ไม่รู้จริงอ่ะ" "ฉันพึงเคยเห็นครั้งแรก" เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น "รถไฟฟ้านะ ใต้ดินก็มีนะ" "จริงเหรอ ใต้ดินนี้นะ " "ใช่" พายุตอบกลับและแอบขำกับอาการตื่นเต้นของเธอ "หูย… นี้มันเมืองสวรรค์หรอ นายดูไฟพวกนั้นสิ นั้นตึกใช่ไหมทำไมถึงสูงอย่างนั้นล่ะ" ตลอดทางสมญามนยังไม่เลิกตื่นตากับสิ่งที่เห็นตามทางที่ผ่านมา เหมือนเธอจะลืมอาการเศร้าและหวาดกลัวไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่นานนักก็ถึงคอนโดที่ พายุอาศัยอยู่ เขาขับรถเข้ามาจอดยังที่จอดรถ และพาหญิงสาวขึ้นลิฟท์มายังชั้นที่สามสิบแปด หญิงสาวก้าวเข้ามาในลิฟท์ เธอมองสำรวจไปทั่ว เมื่อลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้น ร่างบางจึงเซถลา พายุยืนอยู่กลางลิฟท์สองมือลวงกระเป๋ากางเกง อยู่หญิงสาวก็เซมาเกาะแขนเขาอยู่ เขาเหล่ตาลงมองเธอที่เกาะแขนเขาไว้จนแน่น "อย่าบอกนะว่าไม่เคยขึ้นลิฟท์" "ใช่ และนี้เป็นครั้งแรก" สญามนเงยหน้าขึ้นมาสบตาขายหนุ่ม พายุดึงมือที่ล้วงกระเป๋าอยู่ออกมา และจับตัวเธอให้ยืนตรง ๆ "ยืนตรง ๆ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว" "......" ประตูลิฟท์เปิดออกหญิงสาวจึงเดินตามชายหนุ่มไป จนถึงห้องพักสุดหรู "นายอยู่คนเดียวเหรอ" "ใช่" ชายหนุ่มเดินเข้าห้องนอนไป สญามนจึงเดินดูรอบห้องเขา ข้างของเครื่องใช้ที่ดูแปลกตามากมาย เธอเดินจนมาถึงระเบียง "โอโห สูงมากเลย ตึกพวกนี้สูงระฟ้าไปหมด นี้ปี 2566 จริง ๆ ใช่ไหมทำไมฉันถึงมาอยู่นี่ได้ล่ะ" หญิงสาวพึมพำเบา "หรือนี้แค่ฝัน ฉันต้องฝันอยู่ แน่ ๆ เดี๋ยวก็คงตื่น" "สญามน" เสียงทุ้มเอ่ยเสียงจากด้านหลัง เธอจึงหันกลับมา "ฉันไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิง เธออาบน้ำใส่ชุดนี้ไปก่อน และนอนในห้องได้เลย เดี๋ยวผมนอนโซฟาข้างนอกเอง" สญามนมองตามมือที่ พายุชี้โซฟาและรับชุดนั้นมาถือไว้ ก่อนจะเดินเข้าห้องไป เธอเดินเข้ามาในห้องจัดการอาบน้ำจนเสร็จ หยิบชุดที่ชายหนุ่มให้มาใส่ "เสื้อนี้ยาวจะถือเข่าเลย จะสูงไปไหน" สญามนมองดูตัวเองให้กระจกเงา สวมเสื้อของพายุที่ตัวใหญ่มาก "ชั้นในก็ไม่มี " เธอก้มลงมองหน้าอกตนเองก็รู้สึกโล่งแปลก ๆ แถมเสื้อยังทิ้งตัวแนบไปกับหน้าอกจนมองเห็นเป็นรูปทรงเลย สญามนแง้มประตูชโงกออกมา เห็นพายุกำลังนั่งกินบ้างอย่างอยู่ ด้วยความหิวเพราะตั้งแต่เย็นเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย จึงเดินออกมาทันที ชายหนุ่มเมื่อเห็นเธอเดินออกมาดีจึงเรียกในมากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยกัน พายุได้เตรียมเพื่อเธอด้วย เพราะคิดว่ายังไงหญิงสาวก็คงจะหิวเหมือนกัน "ทำเพื่อ มากินสิ" พายุเอ่ยบอก สญมานจึงรีบเดินมานั่งด้านตรงกันข้ามพายุตรงที่เขาวางบะหมี่เอาไว้ หญิงสาวนั่งลงอย่างลืมตัว เตรียมตัวลงมือกินบะหมี่ทันที แต่พายุกับหยุดชะงักและดวงตามองค้าง สายตาเขานั้นจับจ้องไปที่หน้าอกอิ่ม เเละจุกที่ชูชันดันเสื้อออกมามันเด่นหล่าจนดึงดูดสายตาเขา "แค๊ก ๆ แค๊ก ๆ "พายุหันหน้าหนีแล้วรีบลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์ครัว "นายอิ่มแล้วเหรอ… พายุเป็นอะไรบะหมี่ติดคอหรือไง" หญิงสาวเอ่ยถามไล่หลังเขามา "เปล่า ๆ เธอกินเลยไม่ต้องสนใจ" ชายหนุ่มตระโกนกับมา (บ้าเอ้ยลืมไปเลยว่าผู้หญิงต้องใส่ชั้นใน แต่ตัวเล็กแค่นั้น ขนาดมัน… หยุด ๆ ไอ้ยุ หยุดเลยเลิกคิดไม่ดี) ชายหนุ่มยืนทะเลาะกับความคิดตัวเองอยู่ในครัว "พายุ ฉันกินหมดเเล้วเอาไว้ไหน" เพราะชายหนุ่มมัวแต่ทะเลาะกับความคิดตัวเองอยู่ รู้สึกตัวอีกที่หญิงสาวก็มายืนอยู่เบื้องหน้าแล้ว ใบหน้าหล่อจึงมองเธอเเต่สายตาไม่รักดีมันกับเลือนต่ำไปที่หน้าอก "วะ วางไว้เดี๋ยวล้างเอง" พายุรีบหันหลังให้เธอ "ฉันช่วยล้างให้ไหม" "ไม่ ไม่ เธอว่างได้แล้วไปนอนเถอะ" "ก็ได้" หญิงสาวจึงว่าถ้วยไว้เเล้วเดินเข้าห้องนอน "ถ้าฉันหลับไปแล้วพรุ่งนี้จะตื่นขึ้นมากลับไปเป็นเหมือนเดิมไหมนะ" สญามนล้มตัวลงบนที่นอนขนาดใหญ่ และหลับไปในที่สุด เช้าวันใหม่ แสงแดดอ่อนสาดเข้ากระทบกับใบหน้าสวยที่หลับตาพริ้ม สญามนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและกระพริบตาเพื่อปรับแสง ภาพเบื้องหน้าเธอเห็นชายหนุ่มกำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาว ผมเปี้ยก ๆ ยังไม่ได้จัดทรง กับแสงแดดอ่อนสาดส่องใบหน้าและรูปร่างสูงร่างที่สูงโปร่งของเขา ทำเอาเธอมองค้าง ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงครึ่งหน้า (เขาหล่อจัง) "ตื่นแล้วใช่ไหม พอดีผมมีเรียนแต่เช้า" "อืมตื่นแล้ว" เธอตอบออกมา "นะ นายเข้ามาทำไม" "มาเอาเสื้อผ้า เสื้อผ้าฉันอยู่ในห้องไง" "อะ อ๋อ" เมื่อชายหนุ่มแต่งตัวเสร็จเขาก็เดินออกจากห้องไป หญิงสาวจึงลุกจากที่นอนแล้วเดินตามออกมา "แล้วฉันล่ะ" "ก็อยู่ที่นี้ไปก่อน ฉันจะกลับมาตอนเย็น ถ้าหิวก็ทำอาหารง่าย ๆ กินก่อนได้เลยพอมีของอยู่ในตู้เย็น หรือถ้าเบื่อก็เปิดทีวีดูได้เลยนะ" จน "ทีวีหรอ" "ใช่ นู่นไง" พายุชี้ไป สญามนจึงมองตาและเดินไปใกล้ ๆ "อันนี้นี่นะ" เธอมองมันอย่างสงสัย ทีวีจอแบนขนาดห้าสิบสองนิ้วจอบางเฉียบ พายุจึงเดินมาหา เขาสาธิตวิธีเปิดให้และส่งรีโมตทีวีให้เธอ "หูย…ภาพสีด้วย" ดวงตาเธอจ้องอยู่ที่ทีวีอย่างตื่นตาตื่นใจมือก็กดเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ "น่าทึ่งมาก ทันสมัยจริง ๆ " "ทันสมัยอีกแล้ว" พายุทวนคำพูดเธอเบา "ผมไปก่อนนะ แล้วอย่าเปิดประตูให้ใครล่ะถ้าไม่ใช่ผม" "ค่ะ" สญามนหันหน้ามาตอบรับ "เดี๋ยว" เธอเรียกชายหนุ่มไว้ "มีอะไร" "อย่าพึงไป อุปกรณ์ทำอาหารบ้านนายนะ เปิดตรงไหนสอนฉันก่อน" พายุจึงต้องเดินกลับมาสอนเธอใช้อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อีกครั้ง (หรือเธอจะมาจากปี 2502 จริง ๆ ) เขาได้แต่คิดในใจ ใช้เวลาไม่นานสญามนก็เข้าใจ และใช่สิ่งของพวกนี้เป็น เธอจึงมานั่งดูทีวีต่อ "นี้ปี 2566 จริง ๆ ใช้ไหม ฉันไม่ได้ฝันไปจริงเหรอ " หญิงสาวมีแววตาเศร้าลงเล็กน้อย แต่เพราะทีวีฉายภาพบ้างอย่าง จึงดึงความสนใจเธอไปทันที สี่โมงเย็น พายุกับมาถึงคอนโด เปิดประตูเข้ามาก็ต้องถึงกับอุดหูตัวเองได้ ยังดีที่ห้องที่คอนโดนี้เก็บเสียงไม่งั้นข้างห้องได้มาด่าแน่นอน ชายหนุ่มรีบเดินเข้ามาเห็นสญามนนั่งอยู่หน้าทีวีน่าตาดูมีความสุข "คิมนัมจุน! คิมซอกจิน! มินยุนกิ! จองโฮซอก! ปาร์คจีมิน! คิมแทฮยอง! จอนจองกุก! BTS!" พรึ่บ! จอทีวีดับลง สญามนมองไปที่มือของพายุ เขาถือรีโมททีวีอยู่ "เปิดอะไรของเธอเสียงดังลั่นขนาดนี้" "นี้ ฉันกำลังดูวงศิลปินเกาหลีอยู่นะ" เธอกล่าวเสียงแข็งออกมา "เธอก็เปิดเบาหน่อยสิ" "ก็ได้ ขอรีโมทหน่อย" สญามนรับรีโมทีวีคืนมาเปิดมันอีกครั้ง และปรับเสียงให้เบาลง "ปี 2566 นี้ดีจังเลยนะ มีศิลปินหล่อ ๆ เยอะเลย" "เธอกลายเป็นติ่งเกาหลีไปแล้วหรอ" "ห่ะ ติ่งเกาหลี คืออะไร" "ก็วงเกาหลีที่เธอดูอยู่ไง เป็นแฟนคลับอะไรแบบนี้" "อ๋อ ถ้าเราชื่นชอบศิลปินเขาจะเรียกว่าติ่งใช่ไหม" "คงงั้น" "นายดูสิพวกเขาหน้าตาดีมากเลย เต้นก็เก่ง" "หน้าเหมือนกันหมด" "เหมือนกันหมดที่ไหน แต่ละคนหล่อกันคนละแบบเลย ชิ นายอิจฉาเขาใช่ไหม" "......" พายุเงียบมองเธอ "แต่นายก็หล่อใช้ได้อยู่นะ หน้านายไปทางเกาหลีแบบหนุ่ม ๆ บีทีเอสเลย คนไหนนะ อ๋อพี่จิน คิมซอกจิน!" "จริงหรอ ไหนคนไหน" "นี่ ๆ คนนี่ ๆ " "โอ้ย ! " ทั้งสองเพ่งมองไปที่ทีวีจนหัวชนกัน "นายจะเข้ามาใกล้ทำไม" ทั้งสองเงียบ พายุจ้องมองไปที่ดวงตากลมนั้น เธอก็มองเขากลับเช่นกัน "นายคล้ายพี่จิน จริง ๆ ด้วย " สญามนยกมืขึ้นมอง ทำท่าคล้าย ๆ ว่ากำลังวัดใบหน้าชายหนุ่ม "พอเลย ดูช่องอื่น" พายุแย่งรีโมทมาเปลี่ยนช่อง "นี้ดูข่าวบ้าง มีข่าวตัวเองบ้างไหม หายออกมาจากบ้านพ่อแม่ญาติพี่น้องเธอตามหาบ้างหรือเปล่า" "นั้นสิ" สญามนนั่งนิ่งน้ำเสียงส่อแววเศร้า ดวงตาจ้องดูข่าวอยู่ที่ทีวี เธอนั่งดูอยู่อย่างนั้นแต่ก็ไร้วีแววข่าวคนหายแบบเธอ "อ่ะนี้" พายุยื่นถุงขนาดใหญ่หลายใบให้เธอ "อะไรเหรอ" "......." พายุไม่ตอบอะไร เดินหันหลังตรงไปเคาน์เตอร์ครัว สญามนค่อย ๆเปิดดูทีละถุงและหยิบมันขึ้นมา "เสื้อผ้าผู้หญิง นายรู้ไซส์ฉันได้ไง" เธอเอ่ยถาม "ฉันกะ ๆ เอา " "อ๋อ" จนถุงสุดท้ายเธอหยิบมันยกขึ้นมาและรีบยัดกลับเข้าทันที พร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรือ (ชุดชั้นในหลายชุดเลย นี้เขาก็ซื้อมาด้วยบ้าเอยเขินจัง) พายุสังเกตุเห็นว่าเธอเงียบไป คิดว่าเธอน่าจะเห็นถุงนั้นแล้ว "เอ่อ ถุงนั้นฉะนซื้อมาหลายขนาดไม่แน่ใจว่า ซะ ไซส์ไหน" เขากล่าวอย่างเก้ ๆ กัง ๆ "เอ่อ ขอบคุณนะ" สญามนรวบถุงเหล่านั้นขึ้นมาย่างเขิน ๆ แล้วเดินเข้าห้องไปพายุกลับมาถึงบ้านของพ่อและแม่ เขาทิ้งตัวลงบนที่นอน อารมณ์เศร้าหมองพาความรู้สึกเขาดิ่งลงจนน้ำใส ๆ เอ่อล้นไหลผ่านหางตาไป ไม่มีสิ่งใดสามารถปลอบประโลมความรู้สึกเจ็บช้ำที่จิตใจเขาได้ในขณะนี้ภาพทุกอิริยาบถต่าง ๆ ของหญิงสาวไหลผ่านคลื่นสมองผุดเป็นภาพต่าง ๆ ห้วนให้ชายหนุ่มยิ่งคิดถึง ชายหนุ่มพลิกตะแคงงอตัวกำผ้าปูที่นอนไว้แน่ซุกหน้าร้องไห้โฮไปกับที่นอนใหญ่ ด้วยความอ่อนล้าจากการอดนอนมาหลายวันจนร่างกายไม่สามารถจะทานทนได้ ในที่สุดเขาก็หลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนในห้วนฝันของชายหนุ่มขณะที่เขาหลับไหล ในนั้นเขาได้อยู่กับสญามนได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่ เมื่อมองออกไปยังสนามหน้าบ้านมีเด็กผู้หญิงที่กำลังนั่งเล่นขายของบนเสื่อ แล้วยังมีเด็กผู้ชายที่ดูโตกว่าไม่กี่ปีปั่นจักรยานเล่นอยู่ใกล้ ๆ กัน ส่วนเขากับเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะค่อยมองดู ๆ เด็กสองคนนั้นอย่างมีความสุขชายหนุ่มสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาก็สายของอีกวัน เขายังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง คิดทบทวนความฝันเมื่อคืนนี้แล้วมันทำให้เขาไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมาเลยสักนิดเสียงถอนลมหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด ชายหนุ่มชันกายลุกขึ้นในท่านั่ง มองไปยังรูปพ่อแม่และเขาเองเมื่อครั้
“ยุ..”“มีอะไรเหรอครับแม่น้ำเสียงดูจริงจัง”“หลวงตาลูกเขาบอกกับแม่ว่า”“ว่าอะไรหรอครับ”“ประตูมิติเวลามันจะเปิดขึ้นอีกครั้ง”เมื่อได้ยินคำที่ประโยคที่ไม่อยากจะได้ยิน หัวใจของชายหนุ่มไหววูบ เขาหันกลับเข้ามามองยังภายในห้องก็เจอกับหญิงสาวยืนส่งยิ้มหวานให้เขาอยู่เบื้องหน้า"ยุ.. ยุยังฟังแม่อยู่ไหม" ปลายสายเห็นเงียบไปเลยเอ่ยเรียกขึ้น"ครับผมฟังอยู่" เขาพยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติที่สุดแล้วตอบกลับไป หญิงสาวเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยังคุยต่อเธอจึงเดินกลับมานั่งที่โซฟาหน้าทีวีปล่อยให้เขาคุยโทรศัพท์ไป"เมื่อไรครับ หลวงตาได้บอกไหม"พายุเอื้อมมือไปปิดประตูกระจกแล้วกลับมาคุยโทรศัพท์กับแม่ของตนต่อ"ไม่ได้บอกอะไรต่อลูก ท่านบอกมาแค่นี้แล้วก็หลับไป ท่านอ่อนแรงมากเลยลูก"“.........” ชายหนุ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง“ยุ ค่อย ๆ คิดนะลูก มีอะไรมาปรึกษาพ่อกับแม่ได้ตลอด”“ครับ” เขากดปิดสายโทรศัพท์ และกำมันไว้จนแนน่นแทบจะแหลกค้างมือ ด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำมันสบสนไปหมด ดวงตาชายหนุ่มเหม่อมองเข้ามาในห้อง มองหญิงสาวที่เขารักเธอก็หันมาส่งยิ้มให้เขาอีกเช่นกัน แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่กำลังเคร่งเครียดของชายหนุ่ม เธอจึงหุบยิ้มแล
ตอนที่ 15ร่างบางเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ หญิงสาวยกแขนขึ้นบิดตัวไปมาด้วยความปวดเมื่อยร่างกาย "หายไปไหนของเขานะ" สญามนชันกายลุกขึ้นนั่ง มองหาชายหนุ่มจนทั่วห้องนอนแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ร่างบางก้าวลงจากเตียงคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบตัวไว้ เปิดประตูห้องนอกชะโงกหน้าออกมามองหาชายหนุ่ม ก็เห็นแผ่นหลังของเขายืนอยู่บริเวณระเบียบห้องพร้อมกับควันบางอย่างที่ลอยขึ้นมาสญามนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอเดินตรงมาที่ระเบียบและเปิดกระจกออก กลิ่นควันบุหรี่ก็ลอยเข้าจมูกเธอทันที"ฉันไม่เคยรู้ว่านายก็สูบบุหรี่ด้วย" เมื่อได้ยินเสียงเธอชายหนุ่มก็กดบุหรี่ลงยังที่รองเพื่อดับมัน "ฉันมีเรื่องให้คิดนะ" เขาตอบกลับเธออกไป"นายคิดเรื่องอะไร ไหนเราคุยกันแล้วไงถ้ามีปัญหาอะไรให้บอกกัน นายก็บอกฉันมาสิฉันจะได้ช่วยแบ่งเบาความคิดให้นายได้บาง" ชายหนุ่มมองใบหน้าหญิง สายตาเลือนลงมองผ้าขนหนูที่เธอพันร่างกายอยู่ก็ยิ้มออกมา"แค่เรื่องเรียนนะ""จริงหรอ""จริง""แล้วให้ฉันช่วยอะไรไหม""มากอดหน่อย" พายุอ้าแขนรอ สญามนจึงเดินเข้ามาชิดร่างใหญ่ให้เขาได้กอด เธอเองก็กอดเข้าตอบเช่นกัน "นายอย่าสูบมั
"แม่ฉันโทรมาบอกว่าหลวงตาฟื้นแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยบอกเธอ เมื่อวางสายหลังจากคุยกับแม่ไป"ดีจัง แล้วท่านเป็นไงบ้าง""แม่บอกว่า ท่านพอพูดคุยด้วยแต่ยังไม่ค่อยมีแรงเท่าไรนัก""แล้วเราจะเข้าไปหาท่านกันไหม ไม่สิ ๆ นายไปคนเดียวก่อนดีกว่า เพื่อเห็นฉันแล้วเกิดท่านตกใจขึ้นมาล่ะ""งั้นฉันไปคนเดียวก่อน วันหลังค่อยพาเธอไปนะ""โอเค"ทั้งสองตกลงกันเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงขับรถมุ่งหน้าต่อเพื่อกลับคอนโด(โรงพยาบาล)ช่วงสายวันต่อมา พายุเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมหลวงตา เมื่อมาถึงห้องผู้ป่วย ก็พบเจอพ่อและแม่ของตนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว พวกท่านยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยที่มีหลวงตากึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่"หลานสุดที่รักมาแล้วค่ะหลวงพ่อ" ผู้เป็นแม่รีบเอ่ยบอกเมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามา เธอมองเลยพายุไปแต่ก็ไร้เงาของสญามน ตอนแรกกะจะเอ่ยถามแต่ก็เลือกที่ยังจะไม่ถามดีกว่าพายุกล่าวสวัสดีทุกคน แล้วเดินตรงมายังข้างเตียง ชายหนุ่มโน้มตัวลงกราบไปที่มือที่เหี่ยวไปตามวัย นั้นของพระชราหลวงตาเองก็ค่อย ๆ ยกมืออันสั่นเทาขึ้นมาลูบหัวหลานชายสุดที่รัก พายุพงกหัวรีบประคองมือของหลวงตาไว้ทันที"หลวงตาครับ….""ว่ายังไง" น้ำเสียงแหบต่ำของ
บทที่ 13พายุลงมาที่ชั้นล่างเพื่อตามหาหญิงสาว เมื่อก้าวเช้ามาในบริเวณร้านกาแฟ ชายหนุ่มเห็นร่างบางที่คุ้นเคยนั้นทันที ถึงแม้ว่าเธอจะหันหลังอยู่ก็ตาม พายุเดินอ้อมมานั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของหญิงสาว ตอนนี้เธอมีสีหน้าเรียบเฉย ทั้งสองสบตากันไปมา“ฉันขอโทษที่คำพูดของฉันทำให้เธอคิดมาก”“...................” เธอยังคงมองชายหนุ่มนิ่ง“สญามน” เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด“ฉันรู้แล้ว ไม่ได้โกรธอะไรนายหรอก ฉันเข้าใจ นายแค่ไม่อยากให้ฉันเป็นกังวล”“ตอนนี้ฉันก็เข้าใจเธอ เธอไม่ต้องคิดมากนะ ไม่ว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน ฉันก็ยังคงรักเธอ ไม่รู้ว่ามันเริ่มเมื่อไร แต่ตอนนี้รักมากบอกเลย” พายุกล่าวความรู้สึกออกมาจากใจทั้งหมด จนทำให้หญิงสาวยิ้มออกอย่างเขินอาย“เรากับขึ้นไปบนห้องกันเถอะ”“อืม” ทั้งสองจึงเดินกลับขึ้นมาเพื่อหาหลวงตาอีกครั้ง“ตอนที่ฉันนั่งกินกาแฟอยู่เมื่อกี้ฉันมาคิด ๆ ดูแล้ว เราไม่รู้ว่ามิติเวลามันจะเปิดขึ้นอีกเมื่อไรตอนไหน ฉันเลยอยากใช้เวลาอยูกับนายให้นานที่สุด” สญามนก้มหน้าพยายามเก็บความรู้กลัวจนอยากจะร้องไห้ออกมา “ไม่ ไม่มีทางฉันจะไม่ยอมให้เธอไปไหนทั้งนั้นเธอจะอยู่กับฉัน เราจะต้อง
"วันนี้นายไม่มีเรียนเหรอ"ร่างเปลือยเปล่าของหนุ่มสาว ที่นอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ มือเรียวเกลี่ยไรผมที่ปิดใบหน้าหล่อของชายหนุ่มที่เปลือกตายังปิดสนิท"อืมมม" เสียงต่ำครางอยู่ในลำคอ ลำแขนใหญ่เริ่มขยับ และเกี่ยวเอาคนตัวเล็กที่เอ่ยคำถามเมื่อครู่เอามากอดไว้แน่น"พายุ.. ฉันถามว่าวันนี้นายไม่มีเรียนเหรอ" เธอเอ่ยถามย้ำชายหนุ่มปรือตามอง ร่างบางในอ้อมกอด ก่อนจะกดจูบลงที่หน้าผากเธออย่างแผ่วเบา"ยังเช้าอยู่เลยนอนต่ออีกนิดนะ" กล่าวจบจมูกโด่ง ก็หอมฟอดใหญ่ไปที่แก้มเนียน ก่อนจะเลื่อนลงซุกไซร้ที่ซอกคอหญิงสาว"คริ คริ คริ ฮ่า ฮ่า พอได้แล้ว " สญามนหดคอ หัวเราะคิกคักก่อนจะดิ้น ลุกออกจากเตียงเดินมานอกห้องนอนพายุมองตามแผ่นหลังบางนั้นจดลับสายตา ชายหนุ่มก็ได้ลุกจากที่นอน เพื่อเตรียมตัวไปมหาลัยวันนี้ไม่นานชายหนุ่มเดินออกมาจากห้อง ด้วยชุดนักศึกษา รูปร่างสูงผิวที่ดูขาวสะอาดใบหน้าหล่อเหลาออกไปทางแนวเกาหลี มันทำให้หญิงสาวต้องมองจนตาค้างพายุก็จ้องตาเธอกลับเช่นกัน แถมยังหมุนตัวโชว์หญิงสาวไปหนึ่งรอบ พร้อมกลับเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเธอ เขาโน้มตัวลงมาให้ใบหน้าตรงกับใบหน้าของเธอหญิงสาวหรี่ตามอง และทำหน้าสง