공유

บทที่ 1059

작가: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
จวนเป่ยหมิงอ๋อง ยังคงสว่างไสวในเวลากลางคืน

อาจารย์หยูลงทะเบียนรางวัลที่ฝ่าบาทมอบให้ในหนังสือและจัดวางมันเป็นพิเศษ รอภายภาคหน้ารุ่ยเอ๋อร์กลับจวนเสนาบดีกั๋วกงสืบทอดยศถาบรรดาศักดิ์แล้วค่อยคืนให้

ซ่งซีซีจับมือรุ่ยเอ๋อร์แล้วเดินเล่นในสวน เรื่องวันนี้ นางกลัวว่าจะทำให้รุ่ยเอ๋อร์เกิดปมในใจ จึงพาเขาออกไปเดินเล่น และถามอารมณ์ของเขาและความเห็นกับเหตุการณ์วันนี้

แต่ไม่คาดคิดว่าความกังวลของนางมันเป็นส่วนเกินเลย รุ่ยเอ๋อร์ทำหน้านิ่งเฉย และเงยหน้าขึ้นมองอาเล็ก "ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ก็แค่คำพูดคำหนึ่ง ไม่คุ้มที่จะโกรธ ไทเฮาและฝ่าบาทปฏิบัติต่อข้าอย่างดีมาก ของที่มอบให้ข้ามากมายนั้นสู้คำพูดเดียวไม่ได้หรือ อีกอย่าง องค์ชายใหญ่ยังเด็ก พอโตขึ้นก็รู้จักเคารพผู้อื่นแหละ"

ซ่งซีซีเกาจมูกของเขาแล้วพูดว่า "เจ้าฉลาดน้อย บอกว่าองค์ชายใหญ่ยังเด็กอยู่ แล้วเจ้าอายุเท่าไหร่เล่า?"

"ยังไงข้าก็มีอายุมากกว่าองค์ชายใหญ่ไง" รุ่ยเอ๋อร์เป็นคนอ่อนไหว เขารู้ว่าท่านอาเป็นห่วงตนเอง แม้แต่ ท่านอาเขยยังไม่วางใจ บัดนี้ยังติดตามด้านหลังอย่างลับๆล่อๆ อยู่เลย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ว่า "ก็แค่เรื่องเล็กน้อย หลังจากพวกท่านจากไป
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1060

    ก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีไม่เคยสนใจเรื่องการแต่งตั้งรัชทายาทหนึ่งคือฝ่าบาทยังอายุน้อย อาจจะไม่แต่งตั้งรัชทายาทเร็วขนาดนี้สองคือราชวงศ์นี้จะมีบุตรชายของฮองเฮาซึ่งเป็นบุตรคนโต นี่เป็นเรื่องที่หายาก ตระกูลขุนนางต่างๆ ก็มีบุตรชายคนโตจากอนุกด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝ่าบาทมีสนมมากมายเพียงใด หากพระสนมคนอื่นๆ ตั้งครรภ์ก่อนฮองเฮา ก็มีโอกาสให้กำเนิดบุตรชายคนโตได้การกระทำของตระกูลขุนนางส่วนใหญ่คือ ก่อนที่ภรรยาเอกแต่งเข้าจวน จะไม่อนุญาตให้สาวใช้ต้นห้องมีลูก ทุกครั้งที่ร่วมหอเสร็จก็ต้องกินสมุนไพรคุมกำเนิด หากไม่ระวังท้องขึ้นมาก็ต้องกินยาทำแท้งด้วยแต่ราชวงศ์นั้นแตกต่างออกไป เมื่อพระสนมตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงต่างก็เป็นสายเลือดราชวงศ์พระสนมกงเฟยตั้งครรภ์ก่อนฮองเฮา ตอนนั้นฮองเฮาทรงกังวลว่าพระสนมกงเฟยจะคลอดบุตรชายคนโตของฮ่องเต้ให้ ต่อมา เมื่อพระสนมกงเฟยให้กำเนิดองค์หญิงใหญ่ และฮองเฮาก็โล่งใจซีซีได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้จากแม่ของนางในสมัยก่อน หลังๆ นางก็ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้อีกเลยนางคิดว่าถ้าฝ่าบาทมีบุตรชายคนโตจากฮองเฮา เขาจะอบรมสั่งสอนอย่างดีแน่ๆ ทว่าไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นเช่นนี้ อีกอย่างฮอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1061

    อันหวินหลูยังคงนวดต่อไปและถามเบาๆ "องค์หญิงใหญ่ ตอนนี้แม่ทัพซูตกลงที่จะถอนกำลังทหารกลับแล้ว ท่านวางแผนจะทำอะไรกับเซี่ยงผิงเพคะ"“อยากขอร้องให้เมตตากับนางหรือ”อันหวินหลูลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "นางมีเจตนาที่จะสังหารองค์หญิง ไม่อาจให้อภัยได้ แต่ขุนนางหญิงมีน้อยอยู่แล้ว ถึงยังไงเซี่ยงผิงยังมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไป ส่วนข้าคงไม่มีโอกาสก้าวไปอีกขั้นแล้ว องค์หญิงใหญ่ยอมให้โอกาสนางอีกครั้งหีือไม่?”ดวงตาขององค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง "นางไม่มีโอกาสแล้ว"“นางแค่ต้องการล้างแค้นให้รัชทายาทด้วย…”“อันหวินหลู!” องค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่ผลักมือของนางออกไปและเตือนอย่างเอาความว่า “ถ้าเจ้าคิดว่าตำแหน่งของนางยากที่จะมีผู้หญิงคนอื่นจะดำรงได้ ก็ยิ่งไม่ควรขอร้องให้นาง พวกเจ้ากว่าจะมีทุกวันนี้ได้ก็ใช่ว่าเรื่องง่าย ไม่กล้าทำผิดแม้แต่น้อย แค่ความผิดเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจถูกจับผิดให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ โดยเฉพาะนาง นางควรระวัดระวังยิ่งกว่าใครอีก ก่อนจะตั้งสินใจทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน ต้องคำนึงถึงว่าขุนนางหญิงเป็นยาก อย่าให้คนอื่นมาดูถูกได้ แต่นางกลับไปไกล เอาแต่คิดเรื่องการแก้แค้น ถึง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1062

    ยี่ฝางตกใจมาก นางไม่เคยลืมหมู่บ้านทั้งสองแห่งนี้เลยนางหายใจเข้าลึกๆ วางข้อศอกลงบนพื้น แล้วคลานไปข้างหน้า "ไม่ ไม่ ข้าจะไม่ไป พวกเจ้าจะพาข้ากลับไปที่เมืองหลวงของซีจิงมิใช่หรือ?""แน่นอนว่าจะพาเจ้ากลับไป" อันหวินหลูพูดอย่างเย็นชา "เอาแค่หัวของเจ้ากลับไปก็พอ ไม่เสียแรง"ยี่ฝางตกใจจนตัวสั่น และคว้ารั้วเหล็กด้วยมือสองข้างอย่างยากลำบาก "ไม่ ขอร้องล่ะ อย่าส่งข้าไปหมู่บ้านสุราชิง พวกเจ้าพาข้าไปเมืองหลวง ฆ่าข้าต่อหน้าสุสานของรัชทายาทเลย"ใบหน้าของอันหวินหลูเต็มไปด้วยความเกลียดชัง "เจ้ามีสิทธิ์ใดไปสุสานของรัชทายาทตอนเป็นๆ ยี่ฝาง อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังวางแผนอะไรอยู่ คิดว่าสามีขี้ขลาดของเจ้าจะมาช่วยเจ้าหรือ อย่าฝันไปเลย เขาไม่มาหรอก""ไม่ เจ้าเข้าใจผิด" ยี่ฝางกลอกตาไปมาอย่างประหม่า "ข้าสำนึกผิดจริงๆ ข้าไม่ควรใช้วิธีที่โหดร้ายเช่นนี้กับชาวบ้านในเมืองลู่เปินเอ่อร์ ข้าทำผิดแล้ว ข้าก้มหัวกราบให้ ไม่ขอร้องให้พวกเจ้ายกโทษให้ข้า แค่ขอให้พาข้ากลับไปที่สุสานของรัชทายาท และให้ข้าไปกล่วขอโทษด้วยตนเอง""มันน่าขำจริงๆ" อันหวินหลูมองเหยียดลง ทำลายคำหลอกลวงของนาง "เราได้รับรายงานว่าจ้านเป่ยว่างไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1063

    อันหวินหลูถือโคมไฟแล้วเดินไปทาง ฮั่วหย้าถิง เซี่ยงผิง ด้านนอกเซี่ยงผิงไม่ได้ถูกควบคุมตัวไว้ แต่นางก็รู้ด้วยว่าชะตากรรมที่กำลังรอนาง อยู่คือยังไงกันนางไม่กลัวตาย ตราบใดที่เห็นยี่ฝางถูกหั่นเป็นชิ้นๆ นางก็เต็มใจที่จะตาย"ข้าบอกนางไปแล้ว นางกลัวมาก" อันหวินหลูมองไปที่ฮั่วหย้าถิง จากนั้นเหลือบมองเซี่ยงผิงเรียบๆ"เป็นการดีที่จะปล่อยให้นางสัมผัสกับความกลัวก่อนตาย" ฮั่วหย้าถิงกล่าว"นางตายแล้ว งั้นข้าก็ตายหลับตาได้" เซี่ยงผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับแม่น้ำที่ไหลล้นตลิ่งฮั่วหย้าถิงกล่าวว่า "แต่เดิมเจ้าไม่ต้องตาย เรื่องการฆ่ายี่ฝางมันเป็นเรื่องต้องทำอยู่แล้ว แต่เจ้ากลับทำเรื่องโง่ๆ ไปก่อน"เซี่ยงผิงปาดน้ำตา "ข้าไม่เสียใจเลย แม้ว่าให้ข้าเลือกอีกครั้ง ข้าก็ยังจะทำเช่นนี้"ความโกรธแวบขึ้นมาในดวงตาของอันหวินหลู "เจ้ายังพูดแบบนั้นอยู่เหรอ? เจ้าไม่สำนึกผิด ทำไมต้องยอมรับความผิดต่อหน้าองค์หญิงใหญ่เล่า แล้วบอกว่าเจ้าเสียใจ"ลมยามค่ำคืนพัดเสื้อผ้าของเซี่ยงผิง และทำเอาผมยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดวงตาและปลายจมูกของนางเป็นสีแดง แต่มีความเกลียดชังและไม่ยอมอย่างลึกซึ้งในก้นตา "ข้าไม่ต้องก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1064

    ดวงตาที่โกรธแค้นและแสดงความเกลียดชังนั้นรวมตัวกันเป็นเปลวไฟ ดูเหมือนว่าเปลวไฟจะลุกไหม้ได้ ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเหมือนถูกย่างบนกองไฟความหวาดกลัวปกคลุมหน้าอกของนาง เกือบจะบีบหัวใจของนางจนแตกออกไปได้เสียงตะโกนของพวกเขาสั่นสะเทือนไปทั่วท้องฟ้า "ฆ่านาง ฆ่าปีศาจตัวนี้ เพื่อสังเวยดวงวิญญาณของชาวบ้านที่ถูกสังหารหมู่ในสวรรค์"ยี่ฝางตกใจมากจนฉี่ราดมีขี้ออกด้วย นางซุกตัวอยู่ในรถนักโทษ ไม่กล้าที่จะลืมตามองดูพวกเขา แต่ได้ยินเสียงเรียกร้องให้ฆ่าไปทั่วซูลันซือยกแขนขึ้นแล้วตะโกนว่า "ชาวบ้านทั้งหลายถอยออกไปก่อน และช่วยเปิดทางให้พวกเราด้วย เราจะส่งเพชฌฆาตคนนี้ไปที่หลุมศพต้าเกิง เมื่อไปถึงที่นั่น ข้าจะปล่อยนางออกมาแล้วแต่ทุกคนจะจัดการเลย...แต่มีข้อหนึ่ง ต้องเก็บศีรษะของนางกลับเมืองหลวงเพื่อรายงานให้ฝ่าบาท ดังนั้นทุกคนสามารถตัดเนื้อบนตัวของนางออกทีละชิ้นได้ แต่ห้ามสับศีรษะของนาง ไม่งั้นฝ่าบาทจะจำนางไม่ได้"ทุกคนรอคอยวันนี้มานานมากแล้วจริงๆแม้ว่าทุกคนโมโหจนตาแดง แต่ไหนๆ นักโทษก็ถูกส่งมาแล้ว ไม่ต้องรีบร้อนเช่นนี้ รอให้นำตัวไปที่หลุมศพต้าเกิงก่อนแล้วค่อยจัดการกับนาง เพื่อถวายดวงวิญญาณของบุคคลที่เสีย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1065

    นั่นเป็นสุสานขนาดใหญ่ สูงเท่าเนินเขา มีป้ายหลุมศพขนาดใหญ่สลักชื่อไว้มากมายความกลัวของยี่ฝางถึงจุดสูงสุด และนางส่งเสียงกรีดร้องและขอความช่วยเหลือองครักษ์คนหนึ่งเปิดประตูรถนักโทษ จากนั้นคว้าผมของนางเพื่อดึงนางออกมา และโยนนางลงไปที่พื้น ยี่ฝางรู้สึกว่าร่างกายสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด และขดตัวพลางคลานไปด้านข้างองครักษ์รีบคว้าผมของนางและลากไปที่หลุมศพขนาดใหญ่ด้านหน้า เขากดนางไว้ที่หน้าหลุมศพ ชี้ไปที่ชื่อบนนั้นแล้วคำรามว่า "ชื่อพวกนี้ เจ้าอ่านได้หรือไม่ ล้วนเป็นคนที่ถูกเจ้าฆ่าตาย"ยี่ฝางส่ายหัวด้วยความตื่นตระหนก "ไม่ ไม่ใช่ข้า…"ก่อนที่นางจะพูดจบ ชาวบ้านที่ขุ่นเคืองก็รุมเข้าไปหานางเสียงร้องโอดโอยของยี่ฝางดังมาจากฝูงชนและก้องอยู่ในหุบเขา ทำให้นกบินกระจายออกไปด้วยความตกใจเมฆสีดำรวมตัวกันจากทุกทิศทุกทาง ปกคลุมท้องฟ้าให้ตกอยู่ในความมืดทันที และทันใดนั้นฟ้าร้องก็คำรามเสียงดัง กลืนกินเสียงกรีดร้องของยี่ฝางเลือดไหลออกมาจากฝูงชนเหมือนลำธารเล็กๆพวกเซี่ยงผิงและอันหวินหลูที่อยู่ข้างนอกนั้นไม่รู้ว่าพวกเขาปฏิบัติต่อยี่ฝางอย่างไร แต่จากงเสียงร้องโอดโอยและคราบเลือดบนมีด ขวาน และจอบที่ร่วงหล่นจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1066

    เขาหายเฮือกใหญ่ ราวกับมีมือใหญ่บีบหัวใจของเขาเอาไว้ ทำให้เขาหายใจไม่ออกเลย"เจ้าเป็นอะไร" หวังชิงหลูถูกปลุกให้ตื่นขึ้น จากนั้นก็เห็นเขาลุกขึ้นนั่งและมีท่าทางใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงถามอย่างหงุดหงิดว่า "เจ้าฝันร้ายอีกแล้วหรือ?"ช่วงนี้เขาฝันร้ายบ่อยๆ และไม่รู้ว่าได้ทำสิ่งเลวร้ายไปมากขนาดไหนเชียวสิ่งที่ทำให้หวังชิงหลูรำคาญมากที่สุดก็คือหลายครั้งที่เขาฝันร้ายมักจะเรียกชื่อยี่ฝางเมื่อเห็นเขาเงียบและเอาแต่กุมหน้าอกและหายใจเฮือกใหญ่ นางก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเย็นชาว่า "ฝันถึงยี่ฝางอีกแล้วหรือ? ฝันว่านางตายหรือเปล่า?""นางตายแล้ว" จ้านเป่ยว่างพึมพำโดยไม่รู้ว่าบนใบหน้านั้นเป็นน้ำตาหรือเหงื่อบนกันเชียว "เหมือนจริงมาก ข้าฝันว่านางถูกชาวบ้านฟันจนตาย ตายอย่างอนาถ ขนาดศีรษะถูกตัดออกด้วย มีเลือดออกเต็มพื้น และร่างกายถูกฟันจนไม่น่ามอง"เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ในกลางดึกเช่นนี้ หวังชิงหลูก็รู้สึกชาที่หนังศีรษะและดุว่า "เอาล่ะ นางจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็เป็นเรื่องของนาง เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย รีบเข้านอนได้แล้ว"จ้านเป่ยว่างลุกจากเตียงด้วยเท้าเปล่า "เจ้านอนเถอะ ข้าจะไปนอนที่ห้องหนังสือ"หวังชิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1067

    จ้านเป่ยว่างไม่ได้สนใจนาง กลับเดินโซเซขึ้นไปบนบันไดหินแล้วผลักประตูเข้าไปข้างในมืดสนิท และเขาคลำหาอยู่นานกว่าจะพบไม้จุดไฟและจุดตะเกียง แสงไฟสลัวๆ ส่องสว่างทุกสิ่งในเรืองมงคลที่นี่เรียบง่ายมาก โต๊ะ เก้าอี้ และเครื่องเรือนล้วนเป็นของธรรมดาๆ ทั้งสิ้น ของล้ำค่าจริงๆ คือประตูและหน้าต่าง นางใช้ไม้เหล็กเพื่อเสริมความแข็งเขาแค่นั่งอยู่ที่นี่อย่างว่างเปล่า ปล่อยให้หวังชิงหลูสาปแช่งอยู่ข้างนอกหวังชิงหลูด่าอยู่พักหนึ่ง แต่เขาก็ยังคงเพิกเฉย หวังชิงหลูจึงพูดด้วยความโกรธว่า "ในเมื่อเจ้าเอาแต่หวนนึกถึงคนอดีต งั้นเราสองคนก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากัน หย่ากันเถอะ"คำว่า "หย่า" กระทบจิตใจของเขาและพาเขากลับมาจากความทรงจำที่สิ้นหวังเขาเงยหน้าขึ้น และแสงไม่สามารถส่องเข้าถึงดวงตาของเขา "หย่า?""หย่าเลย!" หวังชิงหลูโยนร่มและตะเกียงออกไปแล้วตากฝนเข้าไปด้วยท่าทางบ้าคลั่ง "ไหนๆ ข้าก็หย่ามาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่สนใจว่าจะมีครั้งที่สอง จ้านเป่ยว่าง ในใจของเจ้าไม่มีข้า และข้าก็ไม่ชอบเจ้า เจ้าสิบเอ็ดฝางยังไม่ได้แต่งงาน เขาต่างหากที่เป็นสามีของข้า ข้าจะไปหาเขา"จ้านเป่ยว่างอึ้งไปพักหนึ่ง "เจ้าสิบเอ็ดฝางงั้นเหรอ

최신 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status