공유

บทที่ 331

작가: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
หลังจากเข้าไปในจวนอ๋องแล้ว ซ่งซีซีก็ได้ยินเสียงดังวุ่นวายมากมายผสมกับคำอวยพรด้วย บางเสียงก็คุ้นหูและบางเสียงก็ไม่คุ้นเคย

นอกจากนี้ยังมีเสียงที่น่ารำคาญขององค์หญิงใหญ่ โอ้ ท่านหญิงเจียอี้ที่น่ารำคาญคนนั้นก็อยู่ด้วย มีแต่ทำเอางานแต่งงานของนางสกปรกได้

ศิษย์พี่เป็นคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่แขก และบดบังนางที่เป็นเจ้าสาวอีกด้วย แต่ก็ไม่สำคัญเพราะเสิ่นว่านจือแอบเข้ามาอย่างเงียบๆ และจับมือนาง "เดาสิว่าข้าเป็นใคร?"

"ทำตัวเป็นเด็กเลย!" ซ่งซีซีพูดด้วยรอยยิ้ม "เจ้าคือกุ้นเอ๋อร์"

"กุ้นเอ๋อร์อะไร" เสิ่นว่านจือหัวเราะเบาๆ "กุ้นเอ๋อร์ในยามนี้น่าจะถูกแสดงอยู่ในห้องโถงด้านข้างนี่น่ะ เขาเป็นสินเดิม"

ซ่งซีซีก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา รู้สึกหายเครียดไม่น้อยเลย

ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำขั้นตอนอะไรอยู่ แต่ซ่งซีซีก็ยืนอยู่ที่นี่และดูเหมือนว่ากำลังจัดชุดสำหรับการไหว้ นางกำลังคิดแบบสุ่มอยู่ในใจ จัดชุดสำหรับการไหว้งั้นเหรอ? นางกับเซี่ยหลูโม่ไหว้เป็นสหายแล้วหรือ?

ฮ่าๆ น่าตลกจังเลย

ก็ได้ อันที่จริงมันไม่ตลกเลย แต่จิตใจของนางอดไม่ได้ที่จะคิดฟุ้งซ่าน เพราะนางมองไม่เห็นอะไรเลย

ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงคนใค
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (2)
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้พบกันแล้ว
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
ยกผ้าคลุมหัวสีแดงออก
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 332

    หลังจากยกผ้าคลุมหัวสีแดงขึ้นแล้ว แม่สื่อก็เดินเข้าไปถอดผ้าออกโดยตรงดวงตาของพวกเขาสบกัน และดวงตาของกันและกันเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในขณะนั้น ทั้งคู่กลั้นหายใจหัวใจของเซี่ยหลูโม่เต้นเร็วขึ้น และเขาไม่อาจจะละสายตาจากใบหน้าของนางได้แม้แต่น้อย วันนี้ นางสวยมาก เขาไม่เคยเห็นความงามเช่นนี้มาก่อน เหมือนนางฟ้าดอกทอที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นทอซ่งซีซีมองเขาที่กำลังเหม่อลอย เขาหล่อเหล่าและดูสดใสมากกว่าที่นางเห็นในก่อนหน้านี้ ลายมังกรบนชุดแต่งงานของเขาแสดงให้เห็นสถานะของเขา ไม่มีความเย็นชาในรัศมีของชนชั้นสูง มีเพียงแววความอ่อนโยนฉายผ้่นดวงตาของเขา และพระวรกายอันสูงและสง่าราวกับเทพเจ้าเสด็จมาทั้งสองมองหน้ากันด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ แต่ก็ยังไม่อยากละสายตาออกไปบางสิ่งบางอย่างมันบอกไม่ถูก เมื่อสบตากันนั้น ต่างก็รู้สึกถึงจนกระทั่งแม่สื่อพูดจากด้านข้างว่า "ท่านอ๋อง ท่านพระชายา พวกฮูหยินและคุณหนูที่อยู่ข้างนอกอยากเข้ามาขอเงินนำโชคเพื่อร่วมสุขด้วยเจ้าคะ"ซ่งซีซีถึงกับสะดุ้ง ไม่ใช่ว่าต้องดื่มสุหราร่วมกันก่อนหรือก่อนที่นางจะถามออกมา ก็เห็นคนจำนวนมากวิ่งเข้ามาในเรือนหอสิ่งที่ทำให้ซ่งซีซีประทับใจมากก็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 333

    การนินทาอาจารย์ของตนเองกับอาจารย์ของคนอื่น เป็นเรื่องสบายมากซ่งซีซีสะบัดมือขึ้น แล้วให้สาวใช้พวกนางออกไปเฝ้าประตูเสิ่นว่านจือกล้าพูดทุกเรื่อง นางพูดว่า "เราอยู่ที่นี่มาสองวันแล้ว แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมือง อาจารย์ของเจ้าเป็นคนสั่ง ให้เราอยู่ในโรงเตี้ยมในอำเภอเล็กๆ ที่นอกเมือง ขโมยที่นั่นก็มีไม่น้อย ดีที่เรามีคนต่อศู้เก่งๆ มากมาย ถึงไม่ได้ทำให้สินเดิมหาย"เมื่อสองวันก่อน นั่นก็คือวันเวลาที่ที่ศิษย์พี่ใหญ่จากไป อาจจะออกจากเมืองเพื่อไปพบกับอาจารย์"แต่ อาจารย์ของเจ้าจะพาศิษย์พี่สาวรองของเจ้าเข้าเมืองหลวงทุกวัน มาตั้งแต่เช้ากลับเย็น ไม่รู้ว่าเขาสอบถามข่าวอะไร วันนี้พวกเรารออยู่นอกเมืองตอนเที่ยง เมื่อถึงเวลาสินเดิมของเจ้ากำลังจะออกเดินทางแล้ว เราก็วิ่งเข้าเมืองอย่างรวดเร็ว"เสิ่นว่านจือบ่นว่า "ข้าไม่เคยตกอยู่ในสภาพน่าอนาถเช่นนี้ แต่ก็มีความสุขมาก รู้สึกเหมือนคนทั้งเมืองกำลังให้ความสนใจเรา"เฉินเฉินก็รู้สึกตื่นเต้นมาก "ข้าไม่เคยเห็นฉากนี้มาก่อน ว้าว มันครึกครื้นมากจริงๆ นิกายจิ้งฮัวของเราเป็นศิษย์พี่รายงาน เสียงของศิษย์ได้ดังก้องมาก ข้าว่าทุกคนในเมืองหลวงจะได้ยินมันหมดเลย"ซ่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 334

    วันนี้ จวนอ๋องคึกคักมากเป็นพิเศษขุนนางต่างๆ ตราบใดที่มีระดับชั้นสี่ขึ้นไป ส่วนมากก็มาแล้ว ส่วนที่ไม่มานั้น หากไม่ได้ไปงานเลี้ยงออกเรือนของจวนป๋อผิงซี ไม่ก็ไปงานเลี้ยงแต่งงานของฝ่ายจ้านเป่ยว่างอย่างไรก็ตาม หัวข้อที่ทุกคนกล่าวถึงมากสุด กลับไม่ใช่ซ่งซีซีผู้เป็นพระชายาท่านอ๋อง กลับเป็นเหรินหยางอวิ๋นนำกลุ่มผู้ต่อสู้จากแวดวงการต่อสู้เพียงหัวข้อเรื่องเหรินหยางอวิ๋นอย่างเดียวก็มากเพียงพอที่ทุกคนแอบกระซิบลับหลังแล้วเหรินหยางอวิ๋นคือใครกัน? ตระกูลเหรินเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลในเมืองหลวงในสมัยก่อน เพียงแต่สุดท้ายพวกเขาก็ถอนตัวออกจากกลุ่มชนชั้นสูง และก่อตั้งสถาบันขึ้น ผู้ที่รู้ความบางคนกล่าวว่าแม้ว่าจะไม่มีผู้นำในแวดวงการต่อสู้ แต่ด้วยสถานะของเหรินหยางอวิ๋นนั้น โดยหลักแล้วก็เท่ากับผู้นำแวดวงการต่อสู้ไม่มีอะไรมากไปกว่าต่อสู้เก่งมีเงินเยอะต่อสู้เก่ง มีทักษการต่อสู้เก่งจนน่าทึ่ง ไม่รู้ว่าบุคคลนี้ได้เจออะไรมา กลับสามารถฝึกฝนทักษการต่อสู้อย่างเหลือเชื่อจริงๆมีเงินเยอะ นี่คงไม่ต้องอธิบาย ทรัพย์สินสมบัติที่ตระกูลเหรินสะสมมาหลายชั่วอายุคน และคาดว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถนับจำนวนเนินเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 335

    หลังจากดื่มไปสักพักแล้ว เหรินหยางอวิ๋นก็นำลูกศิษย์ของสถาบันว่านซงเหมินออกไปดื่มอวยพรอย่าว่าแต่เหรินหยางอวิ๋น แม้ว่ามีเสิ่นชิงเหอจะอยู่ด้วย เมื่อพวกเขาก็มาดื่มอวยพร แล้วเสนาบดีก็ต้องยืนขึ้นและตอบสนองเดิมทีการแต่งงานครั้งนี้รับประกันโดยหยานไท่ฟู่ ดังนั้นเหรินหยางอวิ๋นจึงเสนอดื่มให้หยานไท่ฟู่สามแก้ว และเขาจะดื่มหมดแก้ว ส่วนหยานไท่ฟู่เพียงจิบสักหน่อยก็พอ ถือว่าให้เกียรติไท่ฟู่มากแล้ว และคำนึกถึงสุขภาพของเขาไม่เหมาะที่ดื่มมากด้วยทันใดนั้นดวงตาของซ่งซีซีก็แดงขึ้นขณะที่นางมองดูผู้คนจากสถาบันว่านซงเหมินยืนขึ้นเพื่อดื่มอวยพรให้แขกต่างๆไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขากำลังสร้างหน้าตาให้นาง แม้ว่าสถานที่จัดงานในวันนี้จะอยู่ที่จวนเป่ยหมิงอ๋อง ทว่าพวกเขาก็ต้องบอกทุกคนว่าสถานที่นี้จะเป็นของนาง ซ่งซีซีจากนี้ไปเช่นกันแม้ว่าการแต่งงานในตระกูลชั้นสูงจะไม่มีกฎเกณฑ์ดังกล่าวเช่นนี้ แต่พวกเขาก็มาจากแวดวงการต่อสู้ ใครจะไปถือสาพวกเขาล่ะ? นอกจากนี้ เหรินหยางอวิ๋นก็เกิดมาในครอบครัวชั้นสูงด้วย และยังมีเสิ่นชิงเหออยู่ด้วย ผู้ใดที่ไม่เห็นแก่หน้าเขาบ้าง?ใครกล้าว่าพวกเขาทำผิด?ส่วนองค์หญิงใหญ่และท่านหญิงเจียอี้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 336

    ท่านหญิงเจียอี้หัวเราะอยู่ข้างๆ ว่า "ท่านแม่ ไม่ได้เลยนะ ถ้าซ่งซีซีถามขึ้นมาในภายหลัง และโทษไทเฟย จะไม่... โอ้ อย่าพูดเลย ไทเฟยไม่กล้าหรอก"บอกตรงๆ ว่า แม่ลูกสองคนพวกนางรู้วิธีจัดการสนมฮุ่ยไทเฟย นางอย่างง่ายดาย นาง "ไร้เดียงสา" มากจนน่ากลัว และยิ่งรับมือกับลูกไม้ที่คนอื่นมายั่วยุนางไม่ได้มากที่สุดนางพูดทันที "ก็แค่ไข่มุกตงจูไม่กี่เม็ดนี่เอง หากข้าหยิบแล้ว นางกล้าโกรธจริงๆ หรือ"เห็นๆ อยู่ว่าเมื่อกี้นางยังกังวลว่า ซ่งซีซีมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง นางที่เป็นแม่สามีจะสร้างอำนาจไม่ได้ แต่พอคำพูดไม่กี่คำในตอนนี้ นางก็ทำได้แล้ว มีความมั่นใจมากด้วยนางออกจากโต๊ะทันที ยกคางขึ้นแล้วพาแม่นมเกาไปที่ห้องโถงด้านข้างในขณะนี้ มีกินเลี้ยงบ้าง ดื่มอวยพรบ้าง คนที่เฝ้าสินเดิมนั้นมีแค่สองสามตน เพราะแขกรับเชิญในจวนต่างเป็นผู้มีอำนาจ ไม่มีใครจะทำต่ำช้าแบบนี้คนที่ดูแลสินเดิมนั้นคือองครักษ์ที่อาจารย์หยูจินจัดให้ เมื่อพวกเขาเห็นสนมฮุ่ยไทเฟยมา ก็ไม่ได้สงสัยอะไร ดังนั้นจึงโค้งคำนับและปล่อยให้นางเข้าไปสนมฮุ่ยไทเฟยประสานมือไว้ด้านหลัง แล้วเดินไปรอบๆ ห้องที่เต็มไปด้วยสินเดิม เป็นเรื่องยากมากที่จะเดินทาง พื้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 337

    เขาไม่ได้พูดอะไรเลย วันนี้เป็นวันสำคัญของท่านอ๋อง ดังนั้นทุกอย่างจึงต้องเลื่อนออกไปแต่อาจารย์หยูก็ถอนหายใจว่า ไทเฟยคิดอะไรอยู่เนี่ย? ทำไมถึงเอาสินเดิมของลูกสะใภ้ให้คนอื่นล่ะ?คนปกติสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้หรือ?ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไม ไทเฟยที่ "ไร้เดียงสา" ขนาดนี้ ถึงให้กำเนิดลูกชายที่ฉลาดอย่างกับท่านอ๋องได้ซ่งซีซีเพียงดื่มอวยพรสักรอบเท่านั้น เซี่ยหลูโม่ก็กลับเรือนหอพร้อมนาง เขาเป็นเจ้าบ่าว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ถูกจะปล่อยเขากลับเร็วขนาดนี้ ดังนั้น เขาจึงต้องออกไปข้างนอกอีกครั้งซ่งซีซีถูกเขาจับมือไปจนสุดทาง และมองดูเขาจากไป ฝ่ามือของตนเองดูเหมือนจะยังคงมีความอบอุ่นของเขาหลงเหลืออยู่ข้างในห้องยังคงมีเตาทำความอุ่นเผาไหม้อยู่ ช่างอบอุ่นเลยอบอุ่นจนถึงหัวใจเลยปรากฎว่าการหวั่นไหวนั้นคือสิ่งที่ตนเองควบคุมไม่ได้ นางอยากควบคุมใจของตนเอง จะได้แต่ดูดายหัวใจของตนเองจมอยู่กับดวงตาที่อ่อนโยนของเซี่ยหลูโม่แม่นมเหลียงเข้ามา ให้พวกเป่าจู ออกไปร่วมกินเลี้ยง คนรับใช้ก็ทานมือ้หนึ่งได้ และอาหารก็มีมากมายหลายอย่าง แต่อยู่ที่ลานหลัง แทนที่อยู่ลานหลักเมื่อกี้พวกเป่าจูติดตามคุณหนูไปดื่มอวยพรมา เด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 338

    แม่นมทายาบนมืออีกข้างของนาง ลดคิ้วลง และปกปิดความโศกเศร้าในดวงตาที่ต้องเล่าถึงฮูหยิน "ตอนที่เจ้ากลับมาเพื่อหาคู่ครอง คนที่มาสู่ขอมีเยอะมากมาย พวกผู้ลากมากดี ลูกหลานตนะกูลชั้นสูงไม่รู้ตั้งเท่าไร"ซ่งซีซีพยักหน้า "เรื่องนี้ข้ารู้""อืม แต่มีเรื่องที่ท่านไม่รู้ด้วย นั่นคือตอนนั้นท่านยังไม่ได้กลับมาจากภูเขาเหม่ยชาน" แม่นมเหลียงนวดยาเบาๆ แล้วถอนหายใจ "ตอนนั้น ข่าวที่ท่านโหว... ท่านเสนาบดีกั๋วกงคุณกัวและพวกคุณชายน้อยเสียชีวิตถูกส่งกลับมา แล้วแน้วหน้าจะไม่มีแม่ทัพได้ยังไง ดังนั้นให้เป่ยหมิงอ๋องดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาเพื่อฟื้นฟูเขตหนานเจียง"ซ่งซีซีดึงมือของนางกลับ นวดมือเองพลางลดตาลง และขนตาของนางก็เปื้อนไปด้วยความชื้น "เรื่องพวกนี้ ข้ารู้ทั้งนั้น แม่นมไม่ต้องพูดอีก"วันนี้มาพูดถึงท่านพ่อและพวกพี่ชาย นางจะรู้สึกเศร้ามาก"ฟังแม่นมพูดจบนะ" แม่นมกลั้นน้ำตาไว้ ไม่ว่ายังไงวันนี้ต้องไม่ให้หลั่งน้ำตาออกมา "คืนก่อนที่ท่านเป่ยหมิงอ๋องจะนับจำนวนกองทหารและออกเดินทางไปจากเมือง ข้าจำได้ว่ามันเป็นเวลายามไฮ่ ฮูหยินก็พักผ่อนแล้ว เมื่อได้ยินมาว่า เป่ยหมิงอ๋องมาเยี่ยม ฮูหยินก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกไปพ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 339

    หลังจากที่แม่นมเหลียงพูดจบ สาวใช้ก็เดินเข้ามาพร้อมบะหมี่หนึ่งชามเมื่อกี้ซ่งซีซียังรู้สึกหิวเลย แต่เมื่อเวลานี้มองดูบะหมี่กำลังร้อนนั้นกลับไม่อยากอาหารแล้วแม่นมเหลียงพูดเบาๆ "กินเถอะ ฮูหยินที่อยู่สวรรค์คงจะมีความสุขมากเมื่อเห็นท่านแต่งงานกับท่านอ๋อง แม่นมรับประกันกับท่าน"ซ่งซีซีถือชามบะหมี่ น้ำตาไหลลงมาบนแกงบะหมี่ทีละหยด นาง สำลักว่า "มงกุฎเฟิ่งฮวงนี้หนักมากจริงๆ มันหนักมากจนคอของข้าเจ็บ มันเจ็บมากจนข้าอยากจะร้องไห้"แม่นมปาดน้ำตาให้นาง ตนเองพยายามจะไม่ร้องไห้ แต่เจ้าสาวสามารถร้องไห้สักหน่อยได้ "เด็กโง่เอ๊ย กินบะหมี่ให้เสร็จเร็วๆ เดี๋ยวจะถอดมงกุฎให้ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า คืนนี้ข้างนอกคึกคักมาก ไม่ถึงยามจือท่านอ๋องคงกลับเรือนดอกบ๊วยไม่ได้นะ"ซ่งซีซีกินบะหมี่ไปสองสามคำ สะอื้นเล็กน้อย และเสียงของนางก็นุ่มนวลขึ้นมาก "กริชที่เขาให้ไปอยู่ที่ไหน? ตอนนั้นท่านแม่ไม่ได้ส่งของแทนใจให้เขาเป็นการตอบกลับเหรอ?"“กริชถูกวางไว้ในคลังอาวุธของท่านเสนาบดีกั๋วกง ข้าน้อยได้เก็บไว้ พรุ่งนี้ไปหยิบมาให้ท่านดู แน่นอนว่าฮูหยินมีของแทนใจตอบกลับ” แม่นมเหลียงกล่าวพลางหัวเราะอีกครั้ง "มอบผ้าเช็ดหน้าให้ บอก

최신 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status