Share

บทที่ 722

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ทันทีที่เสิ่นว่านจือตื่นขึ้นมา ก็ได้ยินว่าซีซีกำลังจะเข้ารับราชการในราชสำนัก เป็นผู้บัญชาการกองทัพซวนเจียอย่างแท้จริง จากนี้ไปจะรับผิดชอบกองกำลังเมืองหลวง ค่ายลาดตระเวน และทหารรักษาพระราชวังเป็นต้น

ราวกับอยู่ในความฝัน นางส่งเสียงร้อง จากนั้นขยี้ตาแล้วถามว่า "เจ้าจะรับข้าราชการชั่วๆ นั้นจริงๆ หรือ"

ซ่งซีซีหัวเราะเบาๆ "ข้าราชการชั่วๆ อะไรกัน จะเป็นข้าราชการดีๆ ไม่ได้หรือไง?"

"งั้นก็เป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์" เสิ่นว่านจือยกมือขึ้นแล้วใช้นิ้วแตะที่คางจากนั้นเดินรอบๆ ซ่งซีซี "ก็ได้ ซีซีของเราสามารถเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ได้"

ซ่งซีซีจำได้ว่าพวกนางเคยอยู่ในแวดวงการต่อสู้ แล้วตอนนั้นก็เหมือนกับพวกนักสู้ทั่วๆ ไปดูถูกข้ารชการท้องถิ่น โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเป็นผู้ทุจริต ก็จะเรียกพวกเขาว่า "ข้าราชการชั่วๆ"

แน่นอนว่าพวกนางได้พบกับข้าราชการดีๆ เช่นกัน เป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์ ทำเพื่อประชาชน และสมเป็นข้าราชการอย่างแท้จริง พวกนางต่างก็ชื่นชมเขามาก

น่าเสียดายที่พวกนางออกไปมองโลกไม่ได้นานเท่าไหรก็ถูกจับตัวกลับไป ยังถูกศิษย์อาจำคุกเป็นเวลาครึ่งเดือน

เมื่อนึกถึงอดีตในภูเขาเหม่ยชาน รอยยิ้มของซ่งซีซีก็ส
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
wipart skulphapnimit
ชอบเเนวสงครามนางเอกเก่งตอนเเรกๆๆสนุกมาก... หลังๆๆก็ชวนติดตาม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 723

    มีอยู่วันหนึ่ง มีเหตการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในเมืองหลวง คุณท่านหยูได้ยินคนรับใช้ที่ออกไปซื้อของกลับมาเล่าเรื่องแล้วด้วย เขากำชับคนใช้อย่าไปสนใจ หลานชายทำหน้าที่หัวหน้าดูแลจวนในจวนเป่ยหมิงอ๋อง พวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งกับการเมือง แม้แต่พูดถึงคำเดียวก็ไม่ได้แน่นอนว่าคุณท่านหยูไม่คิดว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขา อย่างไรก็ตาม เมื่ออาศัยอยู่ในเมืองหลวง พวกเขาจะยึดหลักการข้อเดียวคือต้องระมัดระวังทั้งคำพูดและการกระทำเพื่อไม่ให้สร้างปัญหาให้หลานชายหลังอาหารเช้า คุณท่านอาบแดดในลานบ้าน อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ และหลังจากเข้าฤดูหนาว แสงอาทิตย์จะหายากมาก"ท่านพ่อ ได้ยินเสี่ยวเอ๋อบอกว่าท่านกินข้าวเช้าน้อยมาก รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า" นางหยู ท่านแม่ของอาจารย์หยูเดินเข้าไปถามพ่อตาพลางคารวะให้"กินไม่ลง ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง" คุณท่านหยูลืมตาขึ้นและเห็นลูกสะใภ้ที่ดูเหนื่อยล้า เขาก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ?”นางหยูไม่สามารถซ่อนความเศร้าของนางได้ "เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้ามักจะฝันถึงเสี่ยวไป๋ ไม่รู้ว่าทำไม"คุณท่านหยูถอนหายใจ เขารู้ว่าความฝันที่ลูกสะใภ้บอกว่าฝันถึง ไม่ใช่แ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 724

    ขณะที่รถม้ามุ่งหน้าสู่จวนอ๋อง นางหยูก็ถือกล่องอาหารไม้สองชั้นไว้ในมือ แม้ว่านางจะพยายามกลั้นไว้แล้ว แต่น้ำตาก็ยังคงไหลรินราวกับลูกปัดที่แตกออกสิบแปดปี ทั้งหมดมีวันมากเท่าไร งั้นก็ต้องทนทุกข์ทรมานนานมากเท่านั้น ไม่มีวันลืมนางเสียใจทุกๆ วันว่าทำไมตนเองไม่ปฏิบัติต่อนางให้ดีกว่านั้นพ่อแม่สามี สามีะละ ลูกชายที่บ้านต่างรักใคร่หยูไป๋ มีแต่นางคนเดียวที่เข้มงวดกับนาง เคยตบฝ่ามือของนาง ลงโทษนางให้ขังบริเวณ ให้นางอดอาหาร...หลายปีที่ผ่านมา มีเรื่องมากมายเบลอไป แต่ใบหน้าเล็กๆ นางที่รู้สึกคับข้องใจนั้นยังจำได้ชัดเจน ใบหน้าเล็กๆ อาบน้ำตา และเมื่อถูกสั่งสอนแล้วก็จะเข้ามาใกล้ ทุกฉากรวมๆ กันมันเป็นความทรงจำที่ฝังลึกในใจ ได้โจมตีหัวใจลึกๆ ของนางทุกวันนางยกโทษให้ตัวเองไม่ได้ เด็กก็ไม่ได้ซุกซนมากนัก แล้วทำไมต้องดุนาง? ทำไมต้องตีนาง ? ทำให้ให้นางร้องไห้? ให้ตามใจนางเหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้หรือ?บนรถม้า อาจารย์หยูเล่าให้พวกเขาฟังเรื่องที่หยูไป๋เจอหลังจากที่นางถูกลักพาตัวอย่างละเอียด นางหยูฟังดูแล้วน้ำตาก็หลั่งไม่หยุดนางเกือบตาย และถูกทิ้งให้อยู่ในป่าทั้งๆ ที่ยังเป็นไข้อยู่แต่นางก็โชคดีที่มีคนรับน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 725

    เสิ่นว่านจือชอบเห็นการรวมตัวกันอย่างมีความสุขมากที่สุด แต่กลัวการร้องไห้เมื่อต้องเห็นการแยกจากกันและความตายนางไม่รู้ว่าจะปลอบหยูไป๋อย่างไร ดังนั้นจึงทำได้แค่ลูบหลังหยูไป๋ "เจ้าอย่าเศร้าใจมากเกินไป ล้วนเป็นโชคชะตาเลย หัวหน้ากลุ่มต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วย... แม้ว่าความตายไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่อย่างน้อยไม่ได้ตายอย่างทรมาน"ในขณะนี้ เสิ่นว่านจือหวังว่าหัวหน้ากลุ่มจะถูกแทงคอด้วยดาบในขณะที่เขาหลับนอนอยู่จริงๆที่จริงแล้วอาจารย์หยูเสนอแนะให้บอกนางว่าหัวหน้ากลุ่มเสียชีวิตด้วยอาการป่วยแต่ทั้งท่านอ๋องและซีซีต่างไม่เห็นด้วย หยูไป๋มีสิทธิ์รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าหัวหน้ากลุ่มนางเองก็คิดเช่นนั้น หากคนฆ่าอาจารย์ของนาง... บ๊ะ บ๊ะๆ แค่สมมต งั้นนางต้องรู้ว่าใครเป็นศัตรูแทนที่จะถูกปกปิดไว้อย่างโง่ๆหยูไป๋ยังคงร้องไห้เศร้าใจ และเสิ่นว่านจือได้แต่พูดว่า "อย่าเศร้าเลย ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปหาอาจารย์หยู ท่านปู่เจ้า และท่านแม่เจ้าด้วย ท่านพ่อของเจ้าก็กำลังเดินทางมาเมืองหลวงเช่นกัน ข้าเชื่อว่าหากหัวหน้ากลุ่มอยู่ในสวรรค์ได้เห็นเจ้าตามหาคนของครอบครัวเจอ ก็จะดีใจแทนเจ้าแน่ๆ"เมื่อได้ยินว่าจะไปพบกับคนในครอบค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 726

    หยูไป๋รู้สึกคับข้องใจมาก เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกอุ้มผู้หญิงอ่อนแอข้างหน้าไว้ ความคับข้องใจทั้งหมดที่ได้รับในอดีตหลั่งไหลออกมาราวกับแม่น้ำที่เปิดประตูนี่คือแม่แท้ๆ ของนาง นางไม่เคยฝันว่าจะได้อุ้มแม่ไว้ในอ้อมแขนแบบนี้จากนั้นอาจารย์หยูก็พาปู่เข้าไปหา หลังจากได้เจอหน้า ชายชราและอาจารย์หยูก็หลั่งน้ำตาทันที และเข้าไปในห้องโถงหลัก นางหยูยังคงจับมือของลูกสาวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย หยูไป๋ในความทรงจำของนางแค่เจ็ดขวบเอง บัดนี้ก็อายุยี่สิห้าปีแล้วภาพในความทรงจำของหยูไป๋ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น แต่แม่ในความทรงจำของนางยังสาวอยู่ เป็นคนแข็งแกร่ง ตอนที่ดุนาง ขนาดเพื่อนข้างบ้านก็สามารถได้ยิน เวลานี้กลับไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะพูดคุยเสิ่นว่านจือและซ่งซีซีซ่อนตัวอยู่ข้างนอกและเฝ้าดูโดยเช็ดน้ำตาไปด้วยฟังพวกเขาร้องไห้พลางพูดคุยเกี่ยวกับอดีต ทั้งสองคนก็หลั่งน้ำตาเช่นกัน รู้สึกทั้งตื้นตันใจและอึดอัดด้วยปรากฎว่าอาจารย์หยูเป็นคนอบอุ่นตั้งแต่เด็ก และเอ็นดูน้องสาวมากเช่นนั้น ที่แท้นางหยูเคยเป็นผู้หญิงแข็งแกร่ง ที่แท้หยูไป๋เคยเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ จอมซน คล้ายกับตอนที่พวกนางอยู่ใน ภูเขาเหม่ยชานซ่งซีซียังเจียดเว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 727

    ในห้องโถงด้านข้าง อู๋ต้าปั้นเพิ่งกินขนมเสร็จ และดื่มชาหนึ่งแก้ว เมื่อเห็นพระชายาเข้ามา เขาก็ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มเพื่อไหว้นางซ่งซีซีรีบยกมือเพื่อทำท่าปฏิเสธ "อู๋กงกง ไม่ต้องมากพิธี เชิญนั่งเลย"นางรู้ว่าอู๋ต้าปั้นได้ช่วยนางทั้งแบบเปิดเผยและอย่างลับๆ มาไม่น้อย ยังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเขาแบบต่อหน้าจริงๆ วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีเลยหลังจากที่อู๋ต้าปั้นนั่งลง ซ่งซีซีก็คารวะให้เขา "กงกง หลายปีที่ผ่านมาข้ารู้ว่าเจ้าช่วยท่านแม่และข้ามากมาย หลังจากที่ข้าแต่งงานเข้าจวนอ๋อง เมื่อต่อหน้าฮ่องเต้ ข้าว่าเจ้าคงช่วยพูดแทนให้ท่านอ๋องไปไม่น้อย ขอบคุณจริงๆ"อู๋ต้าปั้นมองนา ด้วยรอยยิ้มที่สดใส "พระชายากล่าวขอบคุณเช่นนี้ ข้าน้อยไม่กล้ารับเลย รีบนั่งลงเถอะ ข้าน้อยมีเรื่องจะคุยกับท่าน"ซ่งซีซีนั่งลงด้วยสายตาอันอบอุ่น "กงกงพูดได้เลย""สำหรับงานนี้" อู๋ต้าปั้นมองดูนาง สีหน้าค่อยๆ เริ่มจริงจังขึ้น "ท่านแค่ทำงานให้เต็มที่ ในเมื่อฮ่องเต้ไว้ใจท่าน ใช้งานท่าน งั้นก็จะเชื่อใจท่านอย่างเท่าที่ทำได้ แต่พระชายาทรงจำอย่างหนึ่งไว้ สามีภรรยาอย่าเกิดความบาดหมางกัน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ขอแค่ไม่ได้ทำเรื่องที่ทำให้ผิดหวังงั้น

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 728

    จวนองค์หญิงใหญ่ในปัจจุบันอยู่ในความยุ่งเหยิงคนที่ดูแลจวนทั้งหมดรวมทั้งองค์หญิงใหญ่ถูกนำตัวไป ส่วนทาสในจวนให้อยู่ในจวนองค์หญิงต่อ หอต้าหลี่ส่งคนไปเฝ้าดู อีกเดี๋ยวพอต้องสอบปากคำนั้นก็ต้องนำตัวไปด้วยกองกำลังเมืองหลวงและค่ายลาดตระเวนถอนตัวออก และคดีนี้ถูกส่งมอบให้กับหอต้าหลี่เฉินยี ผู้ช่วยหอต้าหลี่จัดคนไปจัดการกับสตรีเหล่านี้ ส่งจดหมายถึงครอบครัวของพวกนาง เมื่อคดีจบลง หากต้องยึดทรัพย์สินในจวน งั้นจะให้ทางจวนองค์หญิงใหญ่ออกเงินมาชดเชยให้พวกนางสำหรับหลินเฟิ้งเอ๋อ เนื่องจากครอบครัวของนางอยู่ในเมืองหลวงอยู่แล้ว จึงให้นางกลับบ้านก่อน กู้ชิงหลานมารับเอง กู้ชิงหลานเหมือนกับกำลังฝันอยู่ นางไม่กล้าจะเชื่อว่าแผนการไม่ได้เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำที่ตุลาคม แต่เป็นวันขึ้น ๑ ค่ำที่ตุลาคม พระชายายังปกปิดนางด้วยนางรู้สึกโกรธมาก พระชายาไม่ไว้ใจนาง นางบอกทุกอย่างให้พระชายารู้หมด ถึงขนาดพาท่านพ่อไปด้วย แต่พระชายายังปกปิดแผนการเอาไว้บนรถม้ากลับบ้าน หลินเฟิ้งเอ๋อได้บอกนางว่า "พ่อของลูกไม่คิดที่จะร่วมมือกับพระชายาเลย เขายังเปิดเผยแผนงานวันขึ้น ๑๕ ค่ำให้องค์หญิง หากมิใช่เพราะแผนการของพวกเจ้าได้เลื่อนเวลาขึ้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 729

    กู้ชิงหลานรู้สึกใจสั่น "ไม่ได้หรอก ถ้านางต้องการหาครอบครัวที่มีอำนาจร่ำรวยให้เป็นที่พึ่งพาจริงๆ งั้นเหลียงถ้านฮัวคนนั้นก็ไม่เลวมิใช่หรือ เหลียงเส้าคนนั้นก็ชอบใจนางมาก"ในใจของของหลินเฟิ้งเอ๋อเต็มไปด้วยความขมขื่น "เหลียงเส้าเป็นซื่อจื่อของจวนเฉิงเอินป๋อ และเป็นถ้านฮัวด้วย เขาแต่งงานกับท่านหญิงหยงอันจากจวนอ๋องฮวย นางไม่มีความหวังที่จะเป็นภรรยาเอกได้ นอกจากนี้ เหลียงเส้าปากบอกว่ารักนางแต่ไม่เคยทำอะไรเพื่อนางเลย รักใครนางเช่นนั้น กลับไม่กล้าแต่งตั้งให้นางเป็นภรรยาที่เท่าเทียมกันด้วยซ้ำ"กู้ชิงหลานอึ้งไป "ภรรยาที่เท่าเทียมกันเหรอ?"ขณะที่รถม้าเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ หลินเฟิ้งเอ๋อพูดด้วยสายตาที่แผ่วเบา "ใช่ นางบอกว่ามีแต่เป็นภรรยาที่เท่าเทียมเท่านั้นจึงจะสามารถมีโอกาสที่จะครองตำแหน่งภรรยาเอกหลังจากที่ภรรยาคนแรกตายไป ถ้าไม่สามารถเป็นภรรยาที่เท่าเทียมได้ งั้นได้แต่เป็นแค่อนุ ต่อให้นายหญิงเสียชีวิต นางก็เป็นภรรยาเอกไม่ได้ นางบอกว่านางเป็นอนุภรรยาได้ แต่ไม่มีทางเป็นอนุภรรยาไปตลอดชีวิต"กู้ชิงหลานรู้สึกสับสนอยู่มาก และพึมพำ "เป็นเรื่องปกติที่พี่สาวไม่ต้องการเป็นอนุภรรยา หากมิใช่จำเป็นจริงๆ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 730

    วันนี้ หอต้าหลี่ยุ่งมากจริงๆ ต้าหลี่ซื่อชิงออกคำสั่งและยกเลิกวันหยุดทั้งหมดของเจ้าหน้าที่สำนัก แม้แต่ต้าหลี่เฉิง (ชื่อตำแหน่งงานในหอต้าหลี่)สวีผิงอันยังอยู่บ้านเพื่อไว้ทุกข์ กำลังกังวลอยู่ว่าหลัวจากกับไว้ทุกข์เสร็จ ตำแหน่งงานนี้ยังจะรักษาไว้อยู่หรือไม่ แต่แล้วกับเกิดคดีกบฏ หลังจากท่านอ๋องรายงานกับฮ่องเต้แล้ว เขาก็สวมเครื่องแบบกลับหอต้าหลี่เลยองค์หญิงใหญ่และฝู้หม่ากู้ถูกนำตัวกลับไปที่หอต้าหลี่ เซี่ยหลูโม่จะสอบปากคำนางด้วยตนเอง และเส้าชิง(เส้าชิงเป็นตำแหน่งงานรองจากต้าหลี่ซื่อชิง)เฉินยีรับผิดชอบสอบปากคำฝู้หม่ากู้ ส่วนพวกผู้ดูแลจวน ทาส หมอประจำจวนและคนใช้ต่างๆ ก็มอบให้เป็นหน้าที่ของต้าหลี่เฉิงสวีผิงอันและต้าหลี่เจิ้ง(ตำแหน่งต้าหลี่เจิ้งรองจากต้าหลี่เฉิง)หลูเจิ้งยี่มาสอบปากคำเซี่ยหลูโม่ไม่รีบร้อนที่จะสอบปากคำองค์หญิงใหญ่ แต่กลับให้คนขนส่งอาวุธทั้งหมดจากจวนองค์หญิงไปยังหอต้าหลี่เพื่อเป็นหลักฐานทางกายภาพคนอื่นๆ ก็เริ่มสอบปากคำแล้วหลังจากยุ่งจนฟ้ามืด แค่สอบปากคำไปไม่กี่คนเท่านั้น เซี่ยหลูโม่สั่งให้มีการสอบสวนเป็นกะ ก็คือไม่หยุด ดังนั้นเฉินยีจึงรวบรวมข้อมูลที่ได้สอบสวนมาและรายงานให้เซี

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status