Share

2.หวนคืน (1)

last update Huling Na-update: 2025-09-28 14:28:17

ความเย็นที่ปะทะตรงแก้มเนียน ทำให้เจ้าของร่างสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา พลันเห็นสาวใช้คนสนิทกำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้ตนอย่างทะนุถนอม

“อ๊ะ คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”

“เหตุใดเรียกข้าเช่นนั้น” น้ำเสียงอ่อนแรงเอื้อนเอ่ยด้วยความสงสัย ตั้งแต่ที่นางออกเรือนไป มี่มี่ก็เรียกขานนางว่าฮูหยินมาโดยตลอด

“ค่อยๆ เจ้าค่ะ บ่าวช่วยพยุงนั่งนะเจ้าคะ”

“ว่าอย่างไร เหตุใดเรียกข้าว่าคุณหนู แล้วนี่ผู้ใดพาข้ากลับเรือนหรือ” ตากลมที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เหลือบมองไปทั่วห้อง ก็พบว่าตนเองอยู่ที่เรือนสกุลสวี

“เอ่อ คุณหนูมิได้ไปที่ใดนะเจ้าคะ หลัง- หลังจากที่ท่านชายมาขอถอนหมั้น คุณหนูก็เอาแต่ร้องไห้ เก็บตัวอยู่ในห้องเช่นนี้มาหลายวัน จนไข้ขึ้นเจ้าค่ะ” มี่มี่ว่าเสียงอ่อย ในใจไม่อยากจะซ้ำเติมนาย แต่ในเมื่อถูกถามก็ต้องตอบไปตามตรง

“ข้างงไปหมดแล้วมี่มี่ ข้ามิได้แท้งบุตร แล้วถูกพามาส่งที่เรือนสกุลสวีหรือ”

“คุณหนู! แท้งบุตรอันใดกันเจ้าคะ คุณหนูยังมิได้ออกเรือน จะตั้งครรภ์ได้อย่างไร อย่าพูดเรื่องนี้ให้ผู้อื่นได้ยินนะเจ้าคะ” มิเช่นนั้นผู้คนคงเอาไปเล่าลือ จนเสื่อมเสียมาถึงคุณหนูของนาง

“…” มือเล็กยกขึ้นกุมขมับ นี่นางกำลังอยู่ในฝัน หรืออย่างไรกัน

“หากคุณหนูปวดหัวก็พักก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ ตอนนี้ยังยามโฉ่ว (01:00 - 02:59 น.)”

“อืม เจ้าเองก็นอนพักบ้างเถิด” ลี่อิ่งส่งยิ้มเศร้าไปให้สาวใช้ ก่อนล้มตัวนอนด้วยความเหนื่อยล้า คิดว่าวันพรุ่งนางคงตื่นจากความฝันนี้กระมัง

แต่ในเช้าวันรุ่งขึ้น สวีลี่อิ่งก็ยังตื่นมาในเรือนสกุลสวี บ่าวทุกคนในเรือนก็เรียกขานนางว่าคุณหนู จนเจ้าตัวสับสนมึนงงกับเรื่องราวที่เป็นอยู่

กระทั่งได้พูดคุยกับบิดามารดา ถึงได้รู้ว่าสวรรค์เมตตาให้นางย้อนกลับมาในตอนที่เจี้ยนอี้โจว มาขอถอนหมั้นเพื่อแต่งสวีเสี่ยวปิงแทน

“ลูกพ่ออย่าได้เศร้าไปเลย เจ้าอยากได้สิ่งใดพ่อจะหามาให้ ขอเพียงอย่าได้กักขังตนเองอยู่ในห้องเช่นนี้”

“ดูที ซูบผอมไปมากนัก วันนี้แม่ทำของที่เจ้าชอบให้ดีหรือไม่” ราชครูสวีและฮูหยินเอกผลัดกันพูดปลอบบุตรสาว

“นั่นสินะ พี่ใหญ่ของเจ้าก็กลับมาจากต่างเมืองวันนี้ เราฉลองกันเสียหน่อยดีหรือไม่ หรือเราจะออกไปทานข้าวด้านนอกกันสี่คน”

“ข้ายังไม่อยากออกไปที่ใดเจ้าค่ะท่านพ่อ” ได้ยินบุตรสาวว่า สองสามีภรรยาก็หันมองหน้ากันอย่างจนใจ

“…”

“เราเลี้ยงฉลองให้พี่ใหญ่ที่เรือนเถิด อีกอย่างฝีมือทำอาหารของท่านแม่ดีกว่าเหลาอาหารชื่อดังพวกนั้นเสียอีก”

“ใช่ๆ อิ่งเอ๋อร์ของพ่อพูดไม่ผิดเลยสักนิด ฮูหยินทำกับแกล้มให้ข้าสักสองสามอย่างเถิด ข้าจะร่ำสุรากับอาหัวเสียหน่อย”

“จิ๊ ท่านราชครู หมอสั่งไม่ให้ดื่มมากมิใช่หรือ” ฟ่านหลันแกล้งดึงเคราสามีเบาๆ

“เจ้าก็อย่าได้บอกเรื่องนี้กับท่านหมอ แค่จอกเดียว ข้าขอแค่จอกเดียว” เหตุการณ์ออดอ้อนกันของพ่อแม่ ทำให้ลี่อิ่งคลี่ยิ้มออกมาได้

นางเองก็คาดหวังให้มีคู่ชีวิตเช่นนี้ เพราะแม้ท่านพ่อจะมีอนุถึงสองคน แต่ก็ไม่เคยยกพวกนางขึ้นมาเทียบท่านแม่ ทั้งยังใส่ใจความรู้สึกของท่านแม่ที่สุด

ครอบครัวสกุลสวีไม่ถือเป็นครอบครัวใหญ่ ท่านราชครูมีภรรยาสามคน ฮูหยินเอกฟ่านหลัน อนุเหลียงอี้ถง และอนุจูเหม่ยหลิงที่พึ่งแต่งเข้ามา

ส่วนบุตรก็มีเพียงสี่คนเท่านั้น คุณชายใหญ่สวีต้าหัว คุณหนูน้อยสวีลี่อิ่ง เกิดจากฮูหยินเอกของเรือน คุณหนูใหญ่สวีเสี่ยวปิงเกิดจากอนุเหลียง และอนุจูก็พึ่งคลอดคุณชายน้อยสวีต้าลู่ ได้เพียงสี่เดือนเท่านั้น

“อิ่งเอ๋อร์ดูบิดาเจ้าเถิด ไม่ดูสังขารตนเองเสียเลย”

“สุรา หากดื่มน้อยก็เป็นยานะเจ้าคะท่านแม่” ลี่อิ่งอมยิ้ม พลางพูดเข้าข้างบิดา

“ฮ่าๆ จริงอย่างที่อิ่งเอ๋อร์ว่า” ทั้งที่ท่านราชครูและฮูหยินตั้งใจพูดเล่นกันสนุกสนาน แต่กลับสังเกตเห็นว่าลูกสาวมิได้ยิ้มสดใสเหมือนเมื่อก่อน แววตาของนางยังดูหม่นจนมองออก

ท่านชายคงมีน้ำหนักในใจอิ่งเอ๋อร์มากทีเดียว

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   55. ตอนพิเศษ ไม่อยากให้อดีตซ้ำรอย (3)

    เสียงซ้อมดาบดังมาจากหลังเรือนอย่างชัดเจน ทำเอาลี่อิ่งที่พึ่งทำมื้อค่ำให้บุตรสาวคนเล็กเสร็จ ถึงกับต้องเดินไปดู จึงพบว่าเป็นบุตรชายคนโตกับสามีที่ต่อสู้กัน รอบสนามก็มีทหารสองสามคนที่บาดเจ็บอยู่“อันใดกัน แค่ฝึกซ้อมมิใช่หรือ เหตุใดรุนแรงถึงขั้นบาดเลือดตกยางออก”“อิ่งเอ๋อร์” / “ท่านแม่”“พวกเจ้าไปทำแผลก่อนเถิด ส่วนสองพ่อลูก ตามมาทางนี้”ศาลากลางเรือนถูกใช้เป็นสถานที่พูดคุยกันของสามพ่อแม่ลูก ชายทั้งสองนั่งคุกเข่ายกแขน ทำโทษตนเองไปตามระเบียบ เพราะสิ่งที่ลี่อิ่งสั่งห้ามโดยเด็ดขาดคือการโมโห แล้วไปลงกับการซ้อมต่อสู้ จนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บไปด้วย“ท่านชาย ท่านเป็นพ่อ เหตุใดไม่ห้ามลูก”“ท่านแม่อย่าโกรธท่านพ่อเลยขอรับ เรื่องนี้เป็นความผิดของข้าเอง ข้าอารมณ์ไม่ค่อยดีขอรับ” เจี้ยนตงหยางไม่อยากให้บิดามารดาผิดใจกัน จึงรีบยอมรับ“แม่เคยสั่งห้ามไปแล้ว”“ขออภัยขอรับ”“ลูกควรไปขอโทษทหารที่เจ้าฝึกด้วยเมื่อครู่ พวกเขาบาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออก” ลี่อิ่งยังคงใช้เสียงแข็ง“ขอรับ ลูกจะไปขอโทษพวกเขา”“อืม ลุกขึ้นมานั่งดีๆ ส่วนอาตงไปขอโทษทหารทั้งสามนายเสียก่อน แล้วค่อยกลับมาพูดคุยกัน”“ขอรับ”เมื่อบุตรชายเดินลงไปจ

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   54. ตอนพิเศษ ไม่อยากให้อดีตซ้ำรอย (2)

    สองสตรีเดินชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ พูดคุยเรื่องความงามบ้าง เรื่องการบ้านการเรือนบ้างตามประสา“ท่านอาหญิงเองก็เลี้ยงปลามิใช่หรือเจ้าคะ เห็นว่ามีถึงยี่สิบตัว”“ใช่เพคะ หม่อมฉันเลี้ยงพวกมันมาตั้งแต่อาตงเกิดแล้ว มันจึงออกลูกออกหลานเสียเต็มสระ”“เพราะแบบนั้นถึงอยากสร้างสระเพิ่มสินะเจ้าคะ”“…”“แล้วท่านอาหญิงจำชื่อพวกมันได้อย่างไรเจ้าคะ ตงหยางเอ่ยว่าท่านเรียกชื่อถูกตลอด”ลี่อิ่งขมวดคิ้วกับคำพูดขององค์หญิง ปกติแล้วตงหยางมิใช่คนที่จะพูดคุยเรื่องในเรือนให้ใครฟัง เพราะติดนิสัยจากบิดาพฤติกรรมเช่นนี้น่าแปลกนัก…“อาตงเล่าให้องค์หญิงฟังหรือเพคะ” องค์หญิงผู้นี้เกิดจากชายาขององค์ชายใหญ่เจี้ยนซ่งอวิ๋น ที่พึ่งรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์หลังจากที่สามีก่อกบฏลี่อิ่งก็เคยได้ยินมาบ้าง ว่าการอยู่ในวังหลังไม่ได้เป็นเรื่องง่ายสำหรับเจียงหนี่ว์เลยสักนิด หญิงสาวเติบโตมา ด้วยแววตาที่สดใสได้ถึงเพียงนี้ถือว่าเก่งมากแล้ว“เจ้าค่ะ ตงหยางเล่าให้ฟัง มีหลายเรื่องเลยนะเจ้าคะ แต่…ต่อจากนี้คงไม่ได้ฟังแล้ว ดูเหมือนเขาจะโกรธข้ามาก”“องค์หญิงมีใจให้อาตงหรือเพคะ” ลี่อิ่งถามกับหญิงสาวตามตรง และก็ได้รับการตอบกลับเป็นใบหน้าที่แดงก่ำ“…”“

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   53. ตอนพิเศษ ไม่อยากให้อดีตซ้ำรอย (1)

    “ขอฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยใหม่เถิดพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพใหญ่เจี้ยนอี้โจวกล่าวขอร้องต่อองค์ฮ่องเต้เจี้ยนหลิวเหว่ย“ตั้งแต่เล็กจนโต องค์หญิงเจียงหนี่ว์ นางประพฤติดีมาโดยตลอด ทั้งยังไม่เคยขอสิ่งใดจากข้า แต่ครั้งนี้นางเอ่ยขอร้องข้าด้วยตัวเอง เจ้าจะให้ข้าปฏิเสธนางลงได้อย่างไร”“แต่ฝ่าบาท บุตรชายกระหม่อมยืนยันว่าคิดกับองค์หญิงเพียงพี่น้องเท่านั้น ขอฝ่าบาทพิจารณาอีกครั้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ก็รู้ว่าความรักมิอาจบังคับกันได้”“เอาเถิด ข้าจะลองคิดดู แต่ตอนนี้ข้ากับเจ้าต้องออกไปร่วมพิธีเปิดเทศกาลล่าปาก่อน”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” เจี้ยนอี้โจวคำนับลูกพี่ลูกน้องที่บัดนี้ดำรงตำแหน่งฮ่องเต้ของแคว้น ก่อนจะออกจากกระโจม เพื่อมานั่งกับฮูหยินและบรรดาบุตร“ท่านพ่อ ว่าอย่างไรขอรับ ฝ่าบาททรงยกเลิกงานแต่งของข้ากับองค์หญิงใหญ่หรือไม่” เจี้ยนตงหยาง หนุ่มวัยสิบแปดหนาว เอ่ยถามบิดาด้วยความร้อนใจแม้ผู้คนนอกแคว้นจะคิดว่า เจี้ยนตงหยางเป็นเชื้อพระวงศ์ปลายแถว ทว่าคนในแคว้นกลับรู้ดีว่าเขาเป็นถึงหลานรักของฝ่าบาท เก่งกาจทั้งบู๊และบุ๋น จึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนกับเหล่าองค์หญิงองค์ชายในวังด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้จักกับองค

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   52. ข่าวดี (จบบริบูรณ์) (2)

    ท้องใหญ่โตใกล้คลอดมิใช่เรื่องง่ายสำหรับลี่อิ่งเลยสักนิด อาการปวดหลัง ปวดเท้า มีมากขึ้นทุกวัน จะเดินเหินไปที่ใดก็ต้องมีคนคอยประคองอยู่ไม่ห่าง“เป็นอย่างไร สวนที่พี่สร้างให้เจ้ากับลูก ชอบหรือไม่” อี้โจวพยุงภรรยาไปเดินเล่นในสวน พลางพยุงร่างอวบให้นั่งลงบนตั่งใต้ร่มไม้“งดงามมากเจ้าค่ะ เหลือแค่ปลาที่ข้ายังไม่ได้ออกไปซื้อเสียที” อันที่จริงสวนนี้ควรจะสร้างเสร็จตั้งนานแล้ว แต่ช่วงก่อนจวนอ๋องติดปัญหามากมาย ทั้งยังเกิดเรื่องกบฏ ขึ้นอีก ทุกอย่างจึงล่าช้า แต่ก็ยังดีที่เสร็จก่อนที่ลี่อิ่งจะคลอดบุตร“มิต้องกังวลไป พอเจ้าคลอด พักฟื้นให้หายดีแล้ว พี่ย่อมพาเจ้าไปซื้อ”“เจ้าค่ะ” ลี่อิ่งหันมองตามสามี มาถึงตอนนี้นางก็รู้ว่าตนเองตัดสินใจไม่ผิด ที่ให้โอกาสอีกฝ่าย อย่างน้อยเขาก็ก้มลงนวดเท้าให้นางโดยไม่สนใจสายตาผู้ใด ไม่สนใจว่าใครจะมองว่าเสียเกียรติ“เดินจากตรงนั้นมา เจ้าปวดเท้าหรือไม่”“ปวดเพียงเล็กน้อยเจ้าค่ะ พอท่านพี่นวดให้ก็ดีขึ้นมาเลย”“หึ ปากหวานนัก”“ท่านก็เคยชิมแล้วมิใช่หรือ อ๊ะ โอ๊ย!” ทั้งที่กำลังเอ่ยเย้าสามี แต่บุตรในครรภ์ดันไม่เป็นใจเสียอย่างนั้น“อิ่งเอ๋อร์ เป็นอันใด น้ำ มีน้ำออกมา”“อึก!”“มี่มี

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   51. ข่าวดี (จบบริบูรณ์) (1)

    ความหวาดกลัวกัดกินหัวใจแกร่งจนเจ็บปวด แทบเอ่ยออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แม่ทัพหนุ่มไม่เคยคิดเลยว่าระยะทางจากค่ายทหารกับจวนอ๋องจะห่างไกลถึงเพียงนี้ทันทีที่มาถึงหน้าประตูจวน ร่างกำยำก็กระโดดลงจากหลังม้า วิ่งตรงไปที่เรือนของตน โดยมีรองแม่ทัพสวีตามมาติดๆ“อิ่งเอ๋อร์! อิ่งเอ๋อร์!”“อาโจว ใจเย็นก่อน รอให้ท่านหมอตรวจอาการก่อนเถิด” ชินอ๋องรีบรั้งบุตรชายเอาไว้ไม่ให้ไปขัดขวางท่านหมอ“ท่านชายอย่าได้กังวลอิ่งเอ๋อร์ของข้าแข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก ย่อมไม่เป็นอะไรร้ายแรง”“จริงอย่างท่านพ่อว่าขอรับท่านแม่ทัพ” สวีต้าหัวรีบยืนยันคำพูดของบิดา เพราะไม่อยากให้น้องเขยกังวลเกินเหตุ“ท่านพ่อตาก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ” อี้โจวก้มคำนับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อตาและอาจารย์ของบิดา เมื่อครู่เขาคิดถึงแต่ฮูหยินรัก จึงไม่ทันเห็นว่าท่านพ่อตาก็อยู่ด้วยแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อี้โจววางใจ แม้จะได้รับคำปลอบใจจากทุกคน ชายหนุ่มกลับย้อนนึกถึงความสูญเสียในชาติก่อน ตอนนั้นเขาเองก็ทำได้เพียงจ้องมองนางตายตกไปต่อหน้า โดยไม่ได้ทำสิ่งใด“ท่านหมอว่าอย่างไร เหตุใดยังไม่รู้อีก!”“ท่านชายโปรดระงับอารมณ์ ข้าต้องตรวจให้ละเอียดว่าเป็นชีพจรมงคลหรือไม่” ท่านหม

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   51. ความจริง (3)

    ในขณะที่เอกบุรุษกำลังคิดหาวิธีอยู่นั้น พลันได้ยินเสียงตะโกนกู่ร้องและเสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากวิ่งตรงมาทางนี้และก็เป็นรองแม่ทัพสวีที่ควบม้า ชูตราทัพนำหน้าขบวนทหารมา“หึ สมกับเป็นฮูหยินของข้า ย๊า!”เมื่อกำลังพร้อม จิตใจพร้อม ก็ไม่มีทางที่เจี้ยนอี้โจวจะแพ้กว่าการต่อสู้จะสิ้นสุดลง กว่าเหล่าศัตรูจะตายตกไป ก็กินเวลาไปนานและสูญเสียเลือดเนื้อไปมากองค์ฮ่องเต้จึงได้ประกาศเยียวยาให้กับครอบครัวทหารที่ล้มตาย และประชาชนที่เดือดร้อนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้“ฝ่าบาททรงหายจากอาการประชวรแล้วหรือเจ้าคะ” ลี่อิ่งนอนซบอกเปลือย พลางเอ่ยถามผู้เป็นสามี“อืม พอได้รับยาถอนพิษจากองค์ชายใหญ่ พระอาการก็ดีขึ้น”“องค์ชายใหญ่น่าสงสารเสียจริง”“พี่ก็คิดเช่นนั้น”“เฮ้อ” ลี่อิ่งถอนหายใจ เมื่อนึกถึงสิ่งที่องค์ชายใหญ่ต้องพบเจอ ทั้งอาการป่วยนานนับสิบกว่าปี ทั้งต้องมารู้ว่าบิดาวางยาตน ไหนจะเรื่องที่ไม่ใช่สายเลือดของฮ่องเต้อีก“แต่ตอนนี้คงไม่มีผู้ใดน่าสงสารไปกว่าพี่ ขนาดนอนกอดกัน ภรรยายังนึกถึงชายอื่น”“อันใดกันเจ้าคะ ท่านพี่ก็รังแกข้าทั้งคืนแล้วมิใช่หรือ” ลี่อิ่งหันหลังหมายจะลงจากเตียง แต่กลับถูกฉุดดึงให้ไปอยู่ในอ้อมกอดเหมื

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status