author-banner
เกวรินทร์ เทพวงค์
Author

Novels by เกวรินทร์ เทพวงค์

แม่หมอแห่งซูโจว

แม่หมอแห่งซูโจว

“ไม่ว่าหญิงหรือชาย หากมีวาสนาต่อกัน ข้าย่อมเห็นชะตาของเจ้า” “แล้วเจ้าเห็นสิ่งใดเล่า” อ่า~ จะตอบอย่างไรดีล่ะ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเสียได้ ฮื่อ! ............................................................................................... หลังจากบิดาตายจาก สองพี่น้องก็ใช้ชีวิตในสกุลชุนอย่างยากลำบาก แต่ทั้งสองก็ยังอดทนเรื่อยมา ทว่าเรื่องครานี้มันหนักหนาเกินทน ชุนลี่มี่ "ข้าขอตัดขาดกับพวกท่าน ต่อจากนี้พวกท่านมิต้องเลี้ยงดูข้า ข้ามิต้องแทนคุณท่าน อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกันอีก" . . "ท่านยาย ในนิมิตหลานเห็นเขากำลังควบขี่..." "ขี่ม้าหรือ" "มิใช่เจ้าค่ะ" "แล้วขี่สิ่งใดเล่า หรือจะเป็นกระบือ วัว ลา- " "เป็นข้าเจ้าค่ะ"
Read
Chapter: 12. ต้องทำอย่างไร
“ข้าต้องขอบใจเจ้ามากนะลี่มี่ หากมิได้เจ้าเอ่ยเตือนในวันนั้น ข้าคงต้องตายเป็นผีเฝ้าป่าไปเสียแล้ว” กวนอู๋ท่งเอ่ยขอบใจลี่มี่ยาวเหยียด ด้วยเพราะเมื่อวานที่อู๋ท่งขึ้นเขาไปเก็บเผือกมัน มีงูพิษตัวใหญ่เท่าแขน พุ่งเข้ามากัดน่องของเขา ดีที่เขาพันผ้าไว้ที่น่องตามที่ลี่มี่บอก จึงช่วยให้รอดพ้นมาได้“ขอบใจเจ้ามาก นี่เป็นของฝากจากครอบครัวข้า เจ้ารับไว้เถิด” ท่านลุงกวนผู้ใหญ่บ้าน ยกตะกร้าที่เต็มไปด้วยเนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้ง และปลามาวางตรงหน้าสามยายหลาน“หากข้าช่วยได้ ข้าก็ยินดี แต่ข้ามิรับของหรอกเจ้าค่ะ”“รับไว้เถิดมี่เอ๋อร์ พวกข้าเต็มใจยิ่งนัก หากเจ้ามิรับไว้ข้าคงรู้สึกติดค้างในใจไปชั่วชีวิต” ท่านป้ากวนเอ่ยเสริมพลางหยิบขนมที่นางทำเองมายื่นให้ลี่หมิง เด็กชายเหลือบมองไปทางท่านยายและพี่สาวราวกับต้องการขออนุญาต เมื่อเห็นว่าทั้งสองมิได้เอ่ยห้าม จึงส่งมือเล็กๆ ไปถือขนมไว้“ขอบพระคุณขอยับ”“เช่นนั้น ข้าก็ขอรับไว้ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ” อยู่พูดคุยกันได้ไม่นาน ครอบครัวผู้ใหญ่บ้านก็ขอตัวกลับเรือนไป จึงเหลือเพียงสามคนยายหลานที่นั่งอยู่ที่เดิม“ยสดียิ่ง อื้มมม” ลี่หมิงนำขนมเข้าปากคำแล้วคำเล่า ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่เรือ
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 11. นิมิต (2)
“ให้ยายดูสิ” เหมาไป่จ้องมองไปที่นัยน์ตาของหลายสาวก็พบว่าเป็นดั่งที่หลานชายตัวน้อยเอ่ย มิเพียงเท่านั้นหน้าผากมนของหลานสาวยังมีรอยคล้ายปานรูปดอกบัวติดอยู่ปาน…ปานสีเงินอย่างนั้นหรือ!!?“…” ลี่มี่ที่ยังวิตกกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงมิได้สบตาผู้ใด ปล่อยให้เหมาไป่และลี่หมิงมองสำรวจจนทั่ว“เกิดสิ่งใดขึ้น เจ้าเล่าให้ยายกับน้องฟังเถิด” เรื่องราวที่ได้ฟังจากปากหลานสาวทำให้เหมาไป่แทบมิอยากเชื่อว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง“ท่านยาย…” สายตาที่ล่องลอยของลี่มี่ทำให้เหมาไป่ต้องรีบเข้าไปกอดปลอบหลานนอกไส้“ดีเหลือเกินที่เจ้ามิบาดเจ็บที่ใด คราวหลังอย่าได้เข้าไปในป่าลึกเช่นนั้นอีกเล่า เข้าใจหรือไม่”“เจ้าค่ะ”“โอ๋ๆ นะขอยับ” มือเล็กป้อมยกขึ้นลูบใบหน้าพี่สาวเบาๆ ลี่มี่อดเอ็นดูกับท่าทีของน้องชายมิได้ จึงกอบกุมเอามือเล็กมาจุมพิต พร้อมกับสบสายตาเข้ากับดวงตาน้อยๆ ทั้งสองที่จดจ้องมาที่นัยน์ตาของนางด้วยแววตาที่หลงใหลและทันใดนั้น…“วันนี้เจ้ากินกุ้งแม่น้ำย่างอย่างนั้นหรือ”“เอ๋? มิได้กินขอยับ น้องกินผัดผัก”“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ายายย่างกุ้งให้พวกเจ้ากินในมื้อเย็น หรือว่ากลิ่นมันติดกายยายมาอย่างนั้นหรือ ฮ่าๆ”“มิ
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 10. นิมิต (1)
ดอกบัวสีขาวเพียงดอกเดียวเบ่งบานกลางสระน้ำ ทั้งที่บริเวณโดยรอบมิได้มีสิ่งใดอยู่เลย สองขาเรียวก้าวเข้าไปยืนที่ขอบสระ ยื่นคอดูภายในสระจนทั่ว เพื่อสำรวจหาปลาหากว่าได้ปลากลับไปให้ท่านยายและอาหมิงคงจะดีไม่น้อยเพียงแค่คิดเช่นนั้น ก็มีฝูงปลาหลายสิบตัวแหวกว่ายในสระสีมรกต! ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลี่มี่มองไม่เห็นปลาแม้แต่ตัวเดียว ฝูงปลามากมายปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เด็กสาวตกใจจนพลาดพลั้งเหยียบไปบนโขดหิน ที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ“ว๊าย!” ร่างบางซวนเซ ร่วงลงในสระน้ำจนเปียกปอนไปหมดทั้งตัวตุ้ม!!!“ฮื่อ ลี่มี่นะลี่มี่ มิระวังเอาเสียเลย” ปากเล็กบ่นให้กับความมิระมัดระวังของตนเอง ยังดีที่ของในตะกร้าสานนั้นเปียกน้ำได้ มิเสียหาย มิเช่นนั้นนางคงต้องทุบศีรษะตนเองสักทีสองทีลี่มี่นำตะกร้าออกจากหลังและยกไปไว้ริมสระน้ำ แต่ยังไม่ทันที่นางจะขึ้นจากสระ ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าอย่างไรนางก็เปียกไปทั้งตัวแล้ว ขอไปดูดอกบัวกลางสระให้หายแคลงใจเสียหน่อย ด้วยสงสัยว่าเหตุใดจึงมีดอกบัวเพียงดอกเดียวที่ขึ้นกลางน้ำ ทั้งยังมิเห็นกอบัวเลยสักกอเดียวร่างระหงที่แต่งกายและรวบผมราวกับชายหนุ่ม กำลังแหวกว่ายไปบริเวณกลางสระ ชะโงกหน้าเข้าไป
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 9. เด็กอกตัญญู (3)
“แล้วข้าต้องแสดงออกเช่นนางหรือเจ้าคะ”“มิต้องทำเช่นนั้น เพียงแต่ยายอยากให้เจ้ารู้ว่าเวลาใดควรอ่อน เวลาใดควรแข็ง เวลาใดควรแสร้ง เวลาใดควรซื่อตรง หากเจอผู้ที่จริงใจ เราย่อมต้องจริงใจต่อเขา แต่หากว่าเขาไม่ เราก็ไม่ เท่านั้นเอง” เหมาไป่พบเจอผู้คนมาหลายรูปแบบ วิธีรับมือคือตัวเราเองต้องปรับตัวให้ทัน อย่างเจียวมี่มารดาของลี่มี่ นางเป็นคนแข็ง พูดตรง ผู้คนจึงมักมองว่านางปากร้าย มิน่าคบ ต่างกับชุนเจียงที่ทั้งพูดจาไพเราะ อ่อนโยน“ข้าจะพยายามเจ้าค่ะท่านยาย”“หลานยายต้องทำได้แน่ สำคัญอย่าได้ละเลยตัวตนของตนเองเล่า อีกอย่าง ยายรู้ว่าการสูญเสียนั้นเจ็บปวดเพียงใด ยามนี้เจ้าคงอยากเข้มแข็งเป็นที่พึ่งของยายและน้อง แต่ยายยังอยากเห็นมี่เอ๋อร์ที่สดใส ช่างพูดช่างถาม อย่าได้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินไปเลย ผ่อนคลายเสียบ้าง”“เอ่อ…ท่านยายมิได้ว่าข้าพูดมากใช่หรือไม่เจ้าคะ” ปากเล็กเบะยื่นออกมาอย่างน่าเอ็นดู“ฮ่าๆ มิได้ว่า” ท่าทีเช่นนี้แหละที่เหมาไป่อยากเห็นเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ ข่าวลือของลี่มี่ก็เบาบางลง ยังมีบางคนที่มองมาทางนางด้วยสายตาไม่ชอบใจ แต่ก็มีหลายคนที่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือน
Last Updated: 2025-06-23
Chapter: 8. เด็กอกตัญญู (2)
“ขออภัยเจ้าค่ะ ที่ท่านเอ่ยมานั้น หมายถึงข้าใช่หรือไม่” ลี่มี่หน้าตึง เดินตรงไปหากลุ่มคนที่นินทานางอยู่ ลี่มี่ตั้งใจจะไปเอ่ยเล่าความจริงที่เกิดขึ้นให้สตรีเหล่านั้นได้ฟัง แล้วให้พวกนางพิจารณากันเอง แต่หญิงเหล่านั้นกลับเอ่ยวาจาก่อกวน“ข้าได้เอ่ยนามเจ้าหรือ” สีหน้ายียวนจากคนเหล่านั้น ทำให้ลี่มี่อดไม่ได้ที่จะตอบกลับไป นางมิได้ขอข้าวผู้ใดกินอีกต่อไปแล้ว จากนี้นางมิจำเป็นต้องยอมอ่อนให้ผู้ใด ดีมาย่อมดีตอบ แต่หากว่ามาร้ายก็เตรียมใจเอาไว้ได้เลย ว่าลี่มี่ผู้นี้จะมิอยู่เฉย“หึ! กล้านินทาผู้อื่น แต่มิกล้ารับผิด ทำตนเช่นคนขลาดเขลา หวาดกลัวกระทั่งเด็ก น่าสมเพชเสียจริง”“นี่เจ้ากล้าเอ่ยว่าผู้ใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร!” กลุ่มสตรีที่ยืนพูดคุยกันอยู่ถึงกลับตกใจที่ตนเองถูกเด็กสาวว่ากล่าวต่อหน้าต่อตา“ข้าได้เอ่ยนามพวกท่านหรือ…เช่นนั้นจะร้อนรนไปไย” ลี่มี่เอ่ยถามตาใส เมื่อเห็นว่าสตรีเหล่านั้นตกใจ หน้าเสียจนหลงลืมแม้กระทั่งวิธีพูด ร่างบางจึงมิใส่ใจ เดินตรงไปที่เรือนผู้ใหญ่บ้านทันที โดยที่มิรู้เลยว่าการกระทำของตนนั้น ยิ่งทำให้ข่าวลือความอกตัญญูของลี่มี่ถูกเล่าลือยิ่งขึ้นไปอีก ว่านอกจากจะอกตัญญูทำร้ายคนในครอบครัวแ
Last Updated: 2025-06-23
Chapter: 7. เด็กอกตัญญู (1)
“เป็นอย่างไร รสดีหรือไม่” เหมาไป่เอ่ยถามหลานสาวและหลายชาย หลังจากตักอาหารให้ทั้งสองได้ลองทาน เช้าวันนี้เหมาไป่เข้าครัวทำอาหารให้หลานๆ ใบหน้าเหี่ยวย่นมองไปที่หลานทั้งสองด้วยสายตาที่คาดหวัง“ดีขอยับ ดีที่สุด”“รสดีมากเจ้าค่ะท่านยาย” ลี่มี่ยกยิ้มขึ้นมาเต็มใบหน้า ไม่ต่างจากลี่หมิงที่บัดนี้ตักข้าวเข้าปากอย่างสุขใจ อาหารที่ท่านยายทำมิได้เลิศรสราวกับนั่งกินในเหลาอาหาร แต่ทว่ากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความใส่ใจและรักใคร่“เช่นนั้นก็กินให้มาก ประเดี๋ยวยายจะออกไปหาของป่าบนเขา วันนี้พวกเจ้าทั้งสองก็พักอยู่ที่เรือนเถิด” แม้เหมาไป่จะมีอายุมากแล้ว แต่นางมิมีบุตรคอยเลี้ยงดู ทั้งร่างกายยังแข็งแรงพอจะขึ้นเขาได้ นางจึงอาศัยการเก็บของป่ามาเลี้ยงปากท้อง“ท่านยายมิต้องเข้าป่าแล้วเจ้าค่ะ ท่านอายุมากแล้ว ข้ากลัวว่าท่านจะเป็นลมล้มพับไป”“ยายพอมีกำลัง เจ้าอย่าได้เป็นห่วงเลย”“มิห่วงมิได้เจ้าค่ะ พวกเรามีท่านยายเพียงคนเดียวนะเจ้าคะ ต่อจากนี้มี่เอ๋อร์ผู้นี้จะเป็นคนหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวเองเจ้าค่ะ ท่านยายอย่าได้กังวลไป”“แต่-” เหมาไป่เข้าใจความห่วงใยของหลานสาว แต่จะให้นางปล่อยหลานสาวหาเงินทอง เพื่อเลี้ยงปากท้องของคน
Last Updated: 2025-06-23
พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ

พอกันทีกับบทนางเอกแสนอาภัพ

ทำไมลูกสาวเจ้าพ่อคาสิโนอย่างฉันต้องมาเกิดใหม่เป็นนางเอกนิยายแสนอาภัพด้วย พ่อตาย พี่พิการ แถมตัวเองและแม่ยังถูกส่งไปเป็นอนุอีก…เหอะ! คิดว่าฉันจะยอมให้ใครมากำหนดชีวิตฉันงั้นหรอ ฝันไปเถอะ! เรื่องย่อ เมื่อลูกสาวเจ้าพ่อดันมาเกิดใหม่เป็นนางเอกในนิยายที่เคยอ่าน แม้เรื่องราวในนิยายจะจบอย่างมีความสุข แต่กว่าจะถึงตอนนั้นต้องสูญเสียคนที่รักไปมากมาย แล้วเธอต้องทนอย่างนั้นหรือ ชีวิตของคนผู้หนึ่งต้องถูกโชคชะตากำหนดอย่างนั้นหรือ ลู่เยว่ชิง "ตัวข้า ข้าคิด ข้าทำ แล้วผู้ใดมันจะกล้ามากำหนด" "โชคชะตางั้นหรือ ไร้สาระสิ้นดี"
Read
Chapter: 9. นักเลงหัวไม้กับเฒ่าหัวงู
“ตรงนี้เป็นที่ของข้า! พวกเจ้าถือสิทธิ์อันใดมาตั้งร้านตรงนี้” ชายตัวสูงใหญ่สามคนปรี่เข้ามายืนประจันหน้ากับเหล่าพี่น้องสกุลลู่ ชายหนุ่มทั้งสามแต่งตัวมอมแมม ทั้งยังมีท่าทางหาเรื่องเช่นนี้ มิน่าวางใจแม้แต่น้อย“เอ่อ พี่ชายคงจะเข้าใจผิดแล้ว พวกเรามาตั้งร้านที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว อีกทั้งเราก็มาจับจองที่ตั้งร้านนี้ก่อนผู้ใด” เฉินกงรีบเดินออกมาพูดคุยกับชายหนุ่มทั้งสามคน“แล้วอย่างไร ข้าจะตั้งร้านของข้าที่นี่ เจ้าย้ายของของเจ้าออกไปให้หมด มิเช่นนั้นก็จ่ายค่าเช่าที่มา” หนึ่งในชายหนุ่มแบมือไปตรงหน้าเฉินกง“เอ่อ พวกเรายังมิมีลูกค้าสักคนเดียว จะเอาเงินที่ใดมาให้ท่านเล่า” บ่าวชายสกุลลู่สองคนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามากันคุณชายใหญ่จากพวกนักเลงเอาไว้“หากไม่มีก็…ย้ายออกไป พวกเรา! ทำลายให้หมด” ชายพวกนั้นขว้างปาก้อนหินขนาดเท่ากำมือเข้าไปในร้านจนข้าวของบางส่วนเสียหาย บ่าวชายพยายามเข้าไปห้ามปรามก็โดนทำร้ายกลับมา“เฮ้ย! หยุดนะ ข้าวของของข้าเสียหายหมดแล้ว เจ้าพวกบ้า!” หมิงยู่โมโหจนเลือดขึ้นหน้า คิดปรีเข้าไปหยุดนักเลงพวกนั้นแต่เด็กชายกลับต้องชะงัก“หยุด! พอแย้ว เอาเงินนี่ไป” เยว่ชิงโยนถุงเงินจำนวนหนึ่งลงบนพ
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 8. เทศกาลลีชุน
“โอ้โห ผู้คนมากมายถึงเพียงนี้เลยหรือ” ลี่อินตื่นตาตื่นใจกับงานเทศกาลลีชุน(เทศกาลตรุษจีน)ที่ถูกจัดขึ้นในครานี้ ท้องถนนเต็มไปด้วยห้างร้านที่ประดับประดาตกแต่งอย่างสวยงาม ผู้คนต่างออกจากเรือนมาเลือกซื้อสิ่งของจำเป็น สกุลลู่เองก็เช่นกัน ลู่หวังเหล่ยพาฮูหยินของตนและบ่าวรับใช้ออกมาเลือกซื้อของใช้จำเป็นที่จะใช้เฉลิมฉลองเทศกาลลีชุน รวมถึงพาบุตรทั้งสี่มาเปิดร้านการละเล่นโยนห่วง“หึๆ มาทางนี้เถิด พ่อให้คนของเรามาจับจองที่ตั้งร้านให้พวกเจ้าแล้ว ตำแหน่งที่ตั้งดีทีเดียว ผู้คนที่เดินเข้ามาซื้อของในตลาดย่อมต้องผ่านร้านการละเล่นของพวกเจ้า” ลู่หวังเหล่ยอุ้มเยว่ชิงเดินนำภรรยาและบุตรไปบริเวณที่ว่าทันที เมื่อมาถึงก็พบว่าบ่าวในเรือนได้ตั้งร้านให้เรียบร้อยแล้ว เยว่ชิงมองดูร้านของตนเองแล้วพอใจไม่น้อย ร้านที่ว่าดูเหมือนจะเป็นแผงขายเล็กๆ ตัวร้านเป็นทรงสี่เหลี่ยม ใช้แผ่นไม้กั้นรอบทั้งสี่ด้าน แต่แผ่นไม้กั้นสูงเพียงสี่ฉื่อ (ประมาณ 1 เมตร) ทั้งยังมีทางออกอยู่ด้านหลัง ส่วนพื้นที่ตรงกลางถูกเว้นว่างไว้สำหรับตั้งหุ่นไม้ที่พี่น้องสกุลลู่เตรียมมา“ดียิ่งขอรับท่านพ่อ มีไม้กั้นเช่นนี้ผู้คนจะได้ไม่เข้าใกล้เกินตำแหน่งที่เรา
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 7. วางแผนตั้งร้าน
เช้าวันนี้เยว่ชิงตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ โดยมีแม่นมลี่จัดการเช็ดหน้าเช็ดตาและแต่งกายให้ เด็กน้อยนั่งอยู่หน้ากระจกแกว่งขาไปมาให้แม่นมลี่สางผมอย่างอารมณ์ดี ปากเล็กๆ ยกยิ้มไม่หุบ มืออ้วนป้อมก็ลูบหัวเจ้าเสือตัวน้อยไปพลาง“อื่อ อือ อื้อ ล้า ลา~”“อารมณ์ดีอันใดเจ้าคะคุณหนู บ่าวเห็นคุณหนูยิ้มไม่หุบตั้งแต่ตื่นนอน”“วันนี้พี่ๆ จะมาเย่นด้วย”“หึๆ ทุกวันก็เล่นด้วยกันมิใช่หรือเจ้าคะ”“ไม่เหมือน วันนี้มีความยับ ยังบอกไม่ได้” แม่นมลี่ถึงกับหัวเราะร่ากับคำพูดของเด็กน้อย คุณหนูของนางถึงกับรู้จักเก็บความลับช่างรู้ความเกินไปแล้ว“เจ้าค่ะๆ เช่นนั้นเรารีบไปที่ห้องโถงดีหรือไม่เจ้าคะ ทุกคนคงรอทานมื้อเช้าอยู่แล้ว” แม่นมลี่จูงมือเด็กน้อยไปที่ห้องโถงเพื่อทานมื้อเช้า มือเล็กก็จับจูงสายคล้องคอมูมู่ให้เดินตามมาด้วย เดิมทีเยว่ชิงจะไม่ใส่สายคล้องคอให้กับมูมู่ แต่ท่านพ่อกลัวว่ามูมู่จะไม่คุ้นเคยกับสถานที่แล้วหนีไป จึงต้องคล้องสายให้มูมู่ก่อนสักระยะ“เป็นอย่างไรบ้างพี่ใหญ่” หมิงยู่เอ่ยถามพี่ชายที่กำลังเหลาไม้ให้มีปลายแหลมเพื่อใช้เป็นลูกดอก หลังจากที่พวกเขารอส่งท่านพ่อไปทำงานเรียบร้อยแล้ว สี่พี่น้องสกุลลู่ก็รีบมารวมตัวก
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 6. ลู่ทางหาเงิน (2)
“พี่ชายทั้งสาม เยว่ชิงมีเยื่องจะพูดด้วย หาว~” เช้าวันนี้เยว่ชิงตื่นขึ้นมาแต่เช้า แม้ว่าเมื่อคืนนางแทบจะมิได้นอน แต่อย่างไรก็ต้องรีบนำสิ่งที่นางคิดมาปรึกษาพี่ชายทั้งสาม เพราะแผนการที่นางวางไว้ใหญ่โตเกินกว่าที่เด็กวัยสามหนาวจะทำสำเร็จด้วยตนเองได้ นางจึงมาขอความช่วยเหลือจากพี่ชายทั้งสาม เดิมทีเยว่ชิงมิมีความมั่นใจสักนิดว่าพี่ชายทั้งสามของนางจะรับฟังความคิดของเด็กวัยสามหนาวอย่างนาง แต่อย่างไรก็ต้องลองเสี่ยงดูสักครา“หึๆ ให้พี่กล่อมนอนก่อนดีหรือไม่ หืม! เจ้าดูจะง่วงเต็มที” เฉินกงยกมือลูบศีรษะเล็กของน้องสาวเบาๆ ด้วยว่าวันนี้เขาไม่ต้องคัดตำรา หลังจากที่ส่งท่านพ่อไปทำงานแล้ว เขาจึงอาสาดูแลน้องๆ แทนท่านแม่ เพื่อให้ท่านแม่ได้พักผ่อนอย่างสงบเสียบ้าง“ไม่เจ้าค่ะ ทุกคนฟังเยว่ชิงนะ…เยว่ชิงอยากหาเงิน”“ฮ่าๆ เจ้าเด็กน้อยคนนี้ เพ้อเจ้ออันใดของเจ้า” หมิงยู่หัวเราะจนปวดท้องไปหมด ต่างจากเฉินกงที่เริ่มขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันน้องสาวเขานี่อย่างไร เหตุใดจึงมีความคิดความอ่านไม่เหมือนกับเด็กวัยสามหนาวแม้แต่น้อย“เหตุใดต้องหาเงินด้วยเล่า เยว่ชิง”“ก็…ก็มูมู่ของน้องกินเยอะ สิ้นเปลืองเงินทอง” เยว่ชิงมิอาจบอกออกไปไ
Last Updated: 2025-06-23
Chapter: 5. ลู่ทางหาเงิน (1)
“ท่านพี่ได้มูมู่มาได้อย่างไรหรือเจ้าคะ ทั้งยังไม่เสียเงินสักตำลึงเดียว” ซูเมิ่งเอ่ยถามสามีพลางวางชาและขนมเชาปิ้งที่แม่นมลี่ทำให้บุตรและสามี“พี่ก็ทูลขอต่อฝ่าบาทมาอย่างไรเล่า กว่าจะได้เจ้ามูมู่มา พ่อเกือบหัวขาดเสียแล้ว” ลู่หวังเหล่ยเองยังตกใจกับความใจกล้าของตนที่กล้าทูลขอต่อฮ่องเต้เฉิงเจี้ยนกั๋ว ด้วยความที่บุตรสาวของเขาถามถึงลูกเสืออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พอเห็นว่ามีลูกเสืออยู่ตรงหน้าจึงได้พลั้งปากออกไป“ห๊า!!! หัวขาดเยยหยือ…เยว่ชิง โอ๋ๆ ท่านพ่อนะเจ้าคะ” เยว่ชิงที่รับรู้ถึงความยากลำบากของบิดาจึงรีบเข้าไปกอดออดอ้อนให้บิดาชื่นใจ“เจ้าคงต้องโอ๋ๆ พ่อให้มากเสียแล้ว” ผู้เป็นบิดาโอบกอดบุตรสาวเข้าแนบอกอย่างสุขใจ“เรื่องราวเป็นอย่างไรเจ้าคะ เหตุใดถึงขั้นต้องทูลขอต่อฝ่าบาท”“ในวันล่าสัตว์ องค์ชายรองเฉิงเจียงหยวนล่าเสือขาวตัวเมียมาได้ แต่เมื่อนำเสือตัวนั้นกลับมาที่ลานพิธีกลับพบว่ามีลูกเสือตัวน้อยถึงสองตัวที่เดินตามมา ฝ่าบาททรงคาดเดาว่าอาจจะเป็นลูกของเสือขาวที่ถูกล่า คราแรกฝ่าบาทจะสังหารเพื่อเซ่นไหว้เทพเจ้า แต่เป็นองค์ชายใหญ่เฉิงหลิวหยางที่ทูลขอเอาไว้ พระองค์จะนำไปเลี้ยง พ่อได้ยินเช่นนั้นจึงพลั้งปากท
Last Updated: 2025-06-23
Chapter: 4. มู่มู่น้อย
และแล้วคำภาวนาของเยว่ชิงก็เป็นผล บัดนี้นางอายุได้สามหนาวแล้ว เด็กน้อยตัวกลมสมส่วน ผิวขาวราวหิมะ พวงแก้มสีแดงระเรื่อป่องออกมาจนบิดามารดาและพี่ชายที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องแวะหอมแก้มกลมให้ชื่นใจ จะมีก็เพียงหมิงยู่เท่านั้นที่มักจะชอบบีบแก้มเยว่ชิงเล่นอยู่เสมอ อย่างเช่นตอนนี้…“โอ๊ยยย พี่ยอง!” ใบหน้าน่ารักชักสีหน้าใส่พี่ชายของนางอย่างเอือมระอา วันๆ มิคิดจะทำสิ่งใด เดินผ่านไปก็บีบ เดินผ่านมาก็บีบ!“คุณชายรอง อย่าได้กลั่นแกล้งคุณหนูนักเลยเจ้าค่ะ” แม่นมลี่ที่นั่งเล่นเป็นเพื่อนคุณหนูของนางอดเอ่ยห้ามปรามออกมาไม่ได้“โถ่ ก็แก้มน้องข้าน่าบีบถึงเพียงนี้ จะให้ข้าอดใจไหวได้อย่างไร ข้าไปหล่ะ ขอไปคัดอักษรก่อนหากวันนี้ไม่แล้วเสร็จ ท่านพ่อจะโมโหจนหน้าดำหน้าแดงอีก ฮ่าๆ” ว่าแล้วหมิงยู่ก็หยิบโฉยเอาขนมของเยว่ชิงเข้าปากแล้วเดินเข้าห้องของตนเองไปเยว่ชิงได้แต่ส่ายหัวให้กับท่าทีของพี่ชาย บัดนี้พี่ใหญ่อายุได้สิบหนาว พี่รองอายุแปดหนาว พี่สามอายุหกหนาว และนางอายุได้สามหนาว ซึ่งเป็นวัยเดียวกับที่นางรบเร้าขอเลี้ยงกระต่าย ดังนั้นแล้ววันนี้นางคงจะต้องขอให้ท่านพ่อหาสัตว์เลี้ยงให้นางสักตัวเสียแล้ว ตอนแรกนางนั่งคิดนอนคิดอ
Last Updated: 2025-06-22
เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว

เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว

ยังไงคะ!!! ย้อนมาเกิดใหม่ในยุคจีนโบราณแต่ไม่ใช่นักฆ่า ไม่ใช่เชฟ ไม่ใช่ดีไซน์เนอร์ แถมไม่ใช่แม่ศรีเรื่อนด้วยจ๊ะ แต่ฉันเป็นครูคณิตวันๆท่องสูตรคูณ แถมสามีก็ยังจะมาหย่าขาดอีก ไม่รอด! ตายกับตายเท่านั้น!!! เฉินเฟยเทียน x จางเจียวซิน “อย่าได้กล่าวอันใดให้มากความ ข้ายืนยันจะยื่นฏีกาขอหย่าขาดกับเจ้า” “ไม่หย่า ยังไงก็ไม่หย่า!” เหอะ! ขืนหย่าออกไปทั้งที่ทำอะไรไม่เป็นเช่นนี้มีหวังนางและหนิงเออร์ได้อดตายเป็นแน่ “น่ารำคาญเสียจริง” “ไม่หย่าได้ไหม..นะเพคะ..ขอเพียงสองหนาว ข้าจะหย่าให้ท่าน ระหว่างนี้ข้าจะมิทำให้ท่านต้องเคืองใจแม้แต่น้อย” เมื่อดื้อดึงไม่ได้ผลจึงหันมาขอร้องด้วยท่าทีน่าสงสาร “หึ เพียงเท่านั้นจะพอได้อย่างไร ข้าต้องการมากกว่านั้น” “แล้ว…ท่านต้องการสิ่งใด”
Read
Chapter: 14. เจียวซินกับวิธีสร้างชื่อเสียง (3)
“เรียกข้างั้นหรือ…”“จะ..เจ้าค่ะ ช่วยข้าเลือกกลิ่นเครื่องหอมได้หรือไม่เจ้าคะ” เฟยเทียนเดินเข้าใกล้เจียวซิน แล้วฉวยเอาข้อมือของเจียวซินขึ้นมา“ตรงนี้ใช่หรือไม่”“เจ้าค่ะ” สิ้นเสียงของเจียวซิน เฟยเทียนก้มหน้าลงจนปลายจมูกโด่งแตะลงบนข้อมือของเจียวซิน“อ๊ะ…” เหตุใด!! เหตุใดท่านอ๋องต้องเองจมูกแตะลงไปเช่นนั้นด้วยเล่า เจียวซินใจเต้นกับการกระทำนี้ไม่น้อย ตั้งแต่ที่นางมาอยู่โลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านอ๋องแสดงท่าทีใกล้ชิดกับนางเฉกเช่นสามีภรรยาคู่อื่น เมื่อนึกถึงจุดนี้ก็ทำเอาเจียวซินหน้าขึ้นสีระเรื่อ“อีกกลิ่นเล่า อยู่ตรงที่ใด” เฟยเทียนเอ่ยถาม มิใช่ว่าเขาไม่เห็นท่าทีขัดเขิน แต่เลือกที่จะปล่อยผ่าน มิอยากทำให้นางต้องอึดอัด เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาแตะเนื้อต้องตัวนางตั้งแต่ที่นางแต่งเข้ามา แต่ครั้งนี้…เขาแค่อยากรู้ อยากรู้ว่ากลิ่นเหล่านั้นจะหอมเพียงใด เมื่ออยู่บนตัวนาง“อยู่หลังมือ ข้างนี้เจ้าค่ะ” เจียวซินยื่นมืออีกข้างให้ท่านอ๋องลองดมกลิ่น เฟยเทียนแตะจมูกลงไปบนหลังมือเจียวซินอีกครั้งหอม หอมมากทั้งสองกลิ่น ไม่ว่ากลิ่นใดก็หอม“เอากลิ่นใดดีเจ้าคะ” เจียวซินเอ่ยถามออกไป แม้จะขัดเขินต่อการกระทำที่ไม่
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 13. เจียวซินกับวิธีสร้างชื่อเสียง (2)
..“ท่านอ๋องและพระชายาจะออกไปนอกจวน เจ้ารีบนำความไปบอกท่านพ่อเสีย อย่าให้ถูกจับได้” หญิงสาวรับคำสั่งจากผู้เป็นนายแล้วจึงเร่งรีบออกไปส่งข่าว..ด้านเฟยเทียนและเจียวซินที่กำลังนั่งรถม้าไปยังตลาดเทียบท่า ระยะทางค่อนข้างไกลต้องใช้เวลาเดินทางเกือบครึ่งชั่วยาม เจียวซินที่ได้ออกนอกจวนครั้งแรกถึงกับยิ้มไม่หุบ เปิดม่านดูบรรยากาศรายทาง ปากก็เอ่ยถามสิ่งที่แปลกตากับท่านอ๋อง จนลืมไปเสียสนิทว่าตนเองต้องอย่าล้ำเส้นท่านอ๋อง ส่วนเฟยเทียนก็ทำหน้าที่ตอบคำถามของชายาตน ภายในหัวก็คุ้นคิดว่าเจียวซินนั้นจะแกล้งเป็น จำมิได้หรือไม่ แต่คำตอบที่เขาได้คือ ดูอย่างไรนางก็ไม่มีท่าทีแกล้งหรือหลอกลวงใดๆ เขาเชื่อไปแปดในสิบส่วนแล้วว่านางจำสิ่งใดมิได้เลย“ท่านอ๋องคิดว่าหม่อมฉันจะเปิดสำนักศึกษาสำหรับชาวบ้านดีหรือไม่” เจียวซินเอ่ยถามขณะมองชาวบ้านตามท้องถนน“หากจะทำต้องมีเงินทองมากพอ เพราะชาวบ้านคงมิมีเงินทองสำหรับมา ใช้จ่ายค่าเล่าเรียน”“จริงของท่าน เช่นนั้นหม่อมฉันจะสอนลูกขุนนางและเชื้อพระวงศ์ไปด้วย สอนชาวบ้านไปด้วยดีหรือไม่เพคะ”“เหตุใดต้องไปสอนลูกขุนนางด้วยเล่า” เฟยเทียนเอ่ยถามเสียงนุ่ม เมื่อไหร่มิรู้ที่เขาหลงไหลไปกับ
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 12. เจียวซินกับวิธีสร้างชื่อเสียง (1)
เจียวซินที่กำลังจดจ่ออยู่กับการเลือกตำรา ก็เดินไปเรื่อยๆ อย่างแรก นางต้องรู้ก่อนว่าโลกที่นางอยู่ตอนนี้เป็นอย่างไร ต้องหาหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือสังคม“กฎหมาย การรบ จารีต … แล้วประวัติศาสตร์อยู่ไหนกันล่ะ” เจียวซินเดินหาเท่าไหร่ก็มิเจอ หรือนางควรไปถามท่านอ๋องดี แต่ก็กลัวโดนท่านอ๋องตำหนิ อีกอย่างนางรู้สึกหมั่นไส้ เบื่อหน่าย รำคาญท่านอ๋องอย่างไรก็ไม่รู้เอ่อ ยอมรับก็ได้ว่างอน จริงๆ ก็ไม่ถึงกับงอนแต่แค่รู้สึกผิดหวัง รู้สึกเสียใจนิดๆ โมโหหน่อยๆ ก็เท่านั้น“ชิ หาเองดีกว่า ไม่ง้อหรอก”“เจ้าหาตำราใดอยู่งั้นหรือ” เฟยเทียนที่เข้ามาเงียบๆ เอ่ยถามขึ้น“เห้ย!! ท่านทำข้าตกใจ” เจียวซินยกมือขึ้นลูบหน้าอกตนเองเบา“ตกใจอันใดของเจ้า แล้วเจ้าหาตำราอันใดอยู่…ข้าจะช่วยหา” ประโยคสุดท้ายเฟยเทียนพูดเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน อีกทั้งยังแสดงอาการเก้งๆ กังๆ เหมือนมิค่อยแน่ใจในสิ่งที่ทำอยู่ด้านเจียวซินที่อยูใกล้ได้เห็นท่าทีและได้ยินทุกคำพูดของท่านอ๋อง จึงแอบลอบยิ้มทันทีหึ มาง้อข้าสินะ จะยอมพูดด้วยสักหน่อยก็ได้“จะช่วยหม่อมฉันหาหรือเพคะ”“หืม…ใช่ บอกมาว่าอยากได้ตำราอันใด” เฟยเทียนที่เริ่มขัดเขินกับการกระทำของตน
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 11. เจียวซินกับมิมีผู้ใดดีต่อกัน (3)
“ท่านเป็นเด็กหรือไร ถึงได้เขี่ยผักทิ้งเช่นนั้น” เจียวซินเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตเห็นเฟยเทียนเขี่ยผักที่ติดอาหารออก ทั้งยังคีบเมนูผักให้เฟยเทียนอีกด้วย“นี่เจ้ากล้า-” เฟยเทียนกัดฟันกรอด กล้าดีอย่างไรมาว่าให้เขาเป็นเด็ก แม้แต่องค์ฮ่องเต้ยังเอ่ยชมเขาอยู่หลายหนว่ามีความคิดเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เขาอายุเพียงสิบห้าหนาว แต่นี่เขาอายุได้ยี่สิบห้าหนาวแล้ว นางยังกล้ากล่าวว่าเขาเป็นเด็ก ช่างกล้า ช่างกล้านัก!“ทานเสีย ผักมีประโยชน์ท่านมิรู้หรือ ถึงไม่ชอบก็ต้องทานนะเพคะ” เจียวซินวางผักที่คีบลงบนข้าวของท่านอ๋องด้วยความหวังดี“เจ้ามิต้องมาสอดเรื่องของข้า ทานของเจ้าไป!!” ด้วยกลัวจะเสียหน้าต่อหน้าขันทีและนางกำนัลที่เฝ้าอยู่ในห้อง เฟยเทียนจึงเขี่ยอาหารที่เจียวซินคีบให้ทิ้งและกล่าวตำหนิเจียวซินด้วยเสียงดุจนเจียวซินชะงักนางเพียงหวังดีเหตุใดจึงว่ากล่าวกันด้วยถ้อยคำเช่นนี้ หากไม่กินก็เพียงแค่บอกกล่าวกันเท่านั้น มันยากนักหรือ“เพคะ! หม่อมฉันจะมิสอดเรื่องของท่านอีก” เจียวซินไม่เข้าใจท่านอ๋อง แม้แต่น้อย แต่ก็ทำสิ่งใดไม่ได้ ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนนางอยู่ในห้องประชุมของโรงเรียนในโลกเก่า ไม่พอใจ ไม่เข้าใจ แต่ก็ทำอันใดไม
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 10. เจียวซินกับมิมีผู้ใดดีต่อกัน (2)
“งั้นเราไปเตรียมเครื่องเสวยเถิด วันนี้ข้าจะไปรับสำรับเช้ากับท่านอ๋อง” ว่าแล้วเจียวซินก็เดินตรงไปที่โรงครัวทันทีด้านเฟยเทียนกำลังนั่งฟังรายงานขององค์รักษ์เงาที่ส่งไปติดตาม เจียวซิน“พระชายามิได้ออกไปที่ใด ไม่ได้พบเจอผู้ใดเลยพ่ะย่ะค่ะ ส่วนมากจะนั่งเล่นที่ศาลาริมสระหรือไม่ก็ศาลาในสวนพ่ะย่ะค่ะ”“แล้วท่าทีของนางเป็นอย่างไร”“พระชายาดูเหมือนมิรู้สิ่งใดจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ พระชายามักสอบถามเรื่องต่างๆ จากหนิงเออร์ แม้แต่เรื่องการปฏิบัติตนยังถูกหนิงเออร์กล่าวเตือนอยู่หลายครั้ง พ่ะย่ะค่ะ”“อืม ติดตามดูต่อไป หากมีอันใดเร่งด่วนมาแจ้งข้าได้ทันที แล้วตอนนี้ใครดูแลนางอยู่”“เป็นหงฮวาและไป่ฮวาพ่ะย่ะค่ะ” องค์รักษ์เงากล่าวชื่อลับของเพื่อนทั้งสองด้วยความขัดเขิน“อ่าาา งั้นเจ้าคงเป็นหวงฮวาสินะ ฮึๆ” เฟยเทียนนึกไปถึงยามที่เขานำองค์รักษ์เงาทั้งสามคนไปพบเจียวซิน“พวกท่านมีชื่อหรือไม่”“พวกกระหม่อมถูกเรียกขานว่า อี เอ้อ และซาน พ่ะย่ะค่ะ”“อีกแล้วหรือ องค์รักษ์เงาของคนอื่นๆ ก็ถูกเรียกว่า อี เอ้อ ซาน มันซ้ำกับผู้อื่น หม่อมฉันขอเปลี่ยนชื่อพวกเขาใหม่ได้หรือไม่เพคะท่านอ๋อง” เจียวซินอยากเปลี่ยนชื่อองค์รักษ์เงาของ (สวาม
Last Updated: 2025-06-24
Chapter: 9. เจียวซินกับมิมีผู้ใดดีต่อกัน (1)
“หนิงเออร์ เหตุใดพวกนางต้องมาคารวะข้าแต่เช้าเช่นนี้ด้วย” เช้าวันนี้ เจียวซินถูกปลุกขึ้นมาแต่งกาย ผัดหน้าแต่เช้า เพื่อมานั่งรอบรรดาเมียๆ ของสวามี ตั้งแต่นางเข้ามาอยู่ในโลกนี้เกือบสิบวัน วันนี้เป็นวันที่เขาหงุดหงิดเป็นที่สุด สิบวันที่ผ่านมานางไม่ได้ทำอะไรเลย จะหยิบจับอันใดก็มีคนทำให้ทุกอย่างจน น่าเบื่อหน่าย ท่านอ๋องที่เคยบอกว่าจะพาไปค่ายทหารก็ผัดผ่อนมาเรื่อยๆ มีเพียงนำองค์รักษ์เงาสามคนที่จะให้ติดตามนางมาแนะนำให้รู้จักเท่านั้น นอกนั้นก็แทบจะมิได้เจอหน้ากัน แล้ววันนี้ยังจะต้องตื่นเช้ามารอรับการคำนับจากชายารองและอนุของสวามีอีก น่าเบื่อหน่ายเกินไปแล้ว คิดถึงเด็กนักเรียนของนางเสียจริง ตอนทำงานเป็นครู มิมีวันใดเลยที่ไม่ตื่นเต้นเพราะในแต่ละวันก็จะเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันแตกต่างกันไป“เป็นเวลานี้ปกติอยู่แล้วเพคะ ก่อนหน้านี้พระชายาประชวรจึงละเว้นการคำนับไปในช่วงนั้นเพคะ”“เอาเถิดๆ แล้วเมื่อไหร่พวกนางจะมา” พูดได้ไม่ทันขาดคำ เสียงของนางกำนัลหน้าห้องก็ดังขึ้น“ทูลพระชายา พระชายารองและอนุทั้งสามขอเข้าเฝ้าเพคะ”“ให้พวกนางเข้ามา”“คำนับพระชายาเอกเพคะ” ทั้งสี่คนกล่าวพร้อมกัน“อย่าได้มากพิธี พวกเจ้านั่ง
Last Updated: 2025-06-24
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status