Share

บทที่ 3 เจ้าสาวจิ้งจอก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-03 09:46:53

บทที่ 3

เจ้าสาวจิ้งจอก

ร่างกายของนางถูกพันธนาการอย่างร้ายกาจ แม้ท่าทีจะนุ่มนวลหากแต่เมื่อนางขยับ กลับมิอาจขยับร่างกายได้ตามใจ ร่างกายของบุรุษไม่ต่างจากหินผา ราวกับนางติดอยู่ในซอกหินไร้หนทางออก

“ฮ้า!!” จวบจนเกือบหมดลมหายใจ จิ้งจอกตัวร้ายจึงถอนริมฝีปากออกเพื่อเปิดโอกาสให้นางสูดลมหายใจ

เสียงหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์ระคนเอ็นดูดังขึ้นอย่างพึงพอใจ ก่อนที่อาภรณ์จะถูกปลดออกเผยเรือนร่างขาวผ่องใต้แสงจันทร์เต็มดวง ทว่า… ผิวขาวๆ ราวกับหยกมันแพะกลับแต่งแต้มไปด้วยรอยแผลจากการถูกทุบตี

ดวงตาเรียวคมจ้องมองมันอย่างโหดเหี้ยม เผลอออกแรงที่ข้อมือเล็กจนสตรีตัวน้อยสะดุ้งกับความเจ็บปวดนั่น

“อ๊ะ!”

และนั่นก็เรียกสติของจินหมิงเยว่กลับมา… คลายแรงที่มือออก เผยให้เห็นข้อมือเล็กๆ แดงก่ำจากการถูกบีบเมื่อครู่

…เจ้าก็ตัวเล็กถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงถูกทำร้ายไปทั้งตัว?...

“ข้าบอกท่านแล้ว ว่าร่างกายของข้ามิได้งดงาม” เสียงหวานเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย

ร่างกายของสตรีนั้นล้ำค่าไม่ต่างจากพรหมจรรย์ของพวกนาง หากแม้ร่างกายมีบาดแผลเพียงเล็กน้อยจนเกิดเป็นแผลเป็น เป็นข้ออ้างของการหย่าร้างได้ ในสตรีพรหมจรรย์ก็ทำให้พวกนางมิได้ออกเรือนกับบุรุษสูงศักดิ์ หรืออาจจะออกเรือนมิได้เลย

ฟางเหนียงดึงแขนกลับมาแล้วใช้มือเล็กๆ ที่สั่นด้วยความหวาดกลัวและความอับอาย จัดอาภรณ์เข้าที่เดิมแล้วดันแผงอกกว้างนั่นให้ถอยห่าง

หมับ!

ทว่าฝ่ามือเรียวกลับคว้าข้อมือเล็กเอาไว้ แล้วจ้องมองเข้าไปในดวงตาของนาง

“ข้ามิได้รังเกียจเจ้า”

จินหมิงเยว่นิ่งงันไปไม่ใช่ว่ารังเกียจนาง แต่เวทนาในชะตาชีวิตของนาง ด่านเคราะห์ที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่จบสิ้นชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย หากบุรุษไม่ออกอุบายนำนางมาเป็นภรรยา ฟางเหนียงก็คงพบกับชะตากรรมเฉกเช่นที่ผ่านมา

“แต่ข้า… มีตำหนิ อื้อ!!”

จิ้งจอกเจ้าเล่ห์บดกลีบปากอวบอิ่มอย่างเจนจัด สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปรุกรานภายใน ดูดลิ้นเล็กๆ เข้าไปในปากของตนเอง ในขณะที่ฝ่ามือหยาบลูบเรียวขานวลเนียนของนาง ปลดเปลื้องอาภรณ์จนเหลือแต่เอี๊ยมตัวใน ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายที่ปกปิดเรือนร่าง

เมื่อบุรุษถอนริมฝีปากออก ฟางเหนียงก็หอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ไม่นานริมฝีปากของนางก็ถูกครอบครองอีกครั้ง ราวกับเมื่อครู่เพียงให้อิสระนางเพื่อสูดอากาศหายใจ

“อื้อ!”

ฟางเหนียงไม่ทันจะสูดอากาศได้เต็มปอดเลย นางรู้สึกทรมาน อีกทั้งยังความรู้สึกวาบหวามอันไร้ที่มาที่ไป ความรู้สึกประหลาดเหล่านี้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย สตรีตัวน้อยไม่รู้ว่าควรกระทำเช่นไร จึงได้แต่พยายามต่อต้านด้วยเรี่ยวแรงเล็กๆ แม้จะรู้ว่าไม่มีทางรอดพ้นไปได้ก็ตาม

“เฮือก! แค่ก แค่ก!”

เป็นอีกครั้งที่ฟางเหนียงได้รับอิสระ นางรีบสูดหายใจเข้าปอดจนสำลักอากาศ ใบหน้าคมคายยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มพึงพอใจกับท่าทางไร้เดียงสาของนาง ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงไป กดปลายจมูกลงบนลำคอระหง จนแทบจะฝังจมูกคมเข้าไปอยู่แล้ว

สูดกลิ่นหอมรัญจวนจนแทบคลั่ง จิ้งจอกนั้นมีจมูกที่ดีกว่ามนุษย์ โดยเฉพาะกับจิ้งจอกเก้าหางเฉกเช่นจินหมิงเยว่ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของนางไม่ต่างจากกำยานปลุกกำหนัดเลยสักนิด

กัด!

“อ๊ะ!?”

ฟันคมกัดลงบนผิวกายของนางจนเลือดซึมออกมา จินหมิงเยว่อ้าปากดูดมันอย่างรุนแรง จนสตรีตัวน้อยสั่นสะท้านกับความรู้สึกแปลกใหม่

จะว่าเจ็บนางก็เจ็บ แต่มีความรู้สึกบางอย่างปะปนเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นความรู้สึกที่นางไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่กลับรับรู้ได้ถึงอันตรายบางอย่าง หากเผลอไผลแม้เพียงเล็กน้อยก็คงไม่รอดเป็นแน่!

เรียวลิ้นสากลากเลียมาจนถึงใบหู ก่อนจะไล้เลียเข้าไปด้านใน ขบเม้มติ่งหูเล็กๆ จนร่างบางอ่อนระทวย มือหนาเริ่มจัดการปลดเอี๊ยมส่วนสุดท้ายออกเผยทรวงอกอวบอิ่มกระเพื่อมตามแรงหายใจ

หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเมื่อร่างกายสัมผัสสายลมอ่อนๆ และ… ฝ่ามืออุ่นกอบกุมความอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ ปลายนิ้วหัวแม่มือและนิ้วโป้งบดขยี้ยอดอกสีสวย จนมันชูชันและแข็งราวกับเม็ดบัวในฝัก

จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ถอนใบหน้าออกจากลำคอระหง ก่อนจะจ้องมองทรวงอกอวบอิ่มคู่งามด้วยสายตาหื่นกระหายอย่างไม่คิดปิดบังแม้แต่น้อย แม้ว่าจะมีรอยช้ำสีม่วง และรอยแผลจากการถูกเฆี่ยนเล็กน้อยก็ตาม หากแต่เนื้อแท้ของนางงดงามจึงไม่ใช่ปัญหาเลย

“ทะ ท่านไม่รังเกียจข้าหรือเจ้าคะ”

“ข้าจะรังเกียจเจ้าสาวของข้าได้อย่างไร”

งับ!

“อื้อ!”

พลันยอดอกก็ถูกอุ้งปากอุ่นครอบครองอย่างนุ่มนวล ฟางเหนียงเผลอกลั้นหายใจด้วยความวาบหวาม ความรู้สึกบางอย่างที่นางไม่คุ้นชินก่อตัวขึ้นภายในร่างกาย หน้าท้องแบนราบหดเกร็งกับความวาบหวามยากเกินต้านทานนั้น

ดวงหน้าได้รูปงามบูดเบี้ยวเล็กน้อย เนื่องจากนางนิ่วหน้าคิ้วขมวดกับสัมผัสแสนรัณจวนใจ พยายามถดถอยร่างกายเพื่อหลีกหนีสัมผัสจากลิ้นสาก แต่ร่างของนางก็ถูกบุรุษกดจนแทบจะจมเข้าไปในเตียงอยู่แล้ว

แขนแกร่งสอดเข้าไปใต้แผ่นหลังเล็ก เพื่อบังคับให้ร่างบอบบางแอ่นอกรับริมฝีปาก บุรุษออกแรงดูดดึงอย่างอ่อนโยนแต่กลับหนักหน่วง คล้ายกับจะดูดกลืนยอดอกเข้าปากแล้วกลืนลงคอไป

สองมือเล็กจิกอาภรณ์บนบ่าหนาแนบแน่นเพื่อระบายความวาบหวามที่ไม่คุ้นชิน

…ความรู้สึกนี้คืออะไร?...

เกิดคำถามแสนไร้เดียงสาขึ้นมาภายในหัวของฟางเหนียง นางเม้มริมฝีปากแน่นด้วยกลัวว่าจะเผลอร้องเสียงใดน่าอับอายออกมา

ในขณะที่ปากร้ายดูดดื่มยอดอกทั้งสองข้างสลับกันไปมาราวกับเป็นเจ้าของเจ้าของ มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ก็มิได้อยู่เฉย ลูบไล้ต้นขานวลเนียนแล้วบีบเคล้นจนขึ้นสีแดงระเรื่อ

ลูบไล้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงความโหนกนูนที่ใจกลางลำตัว ฟางเหนียงรู้สึกเขินอายเหลือเกิน นางหนีบขาเข้าหากันและดันบ่าหนาให้ออกห่างจากตัว

“อ๊ะ ตะ ตรงนั้น…” ดวงตาคงเบิกกว้างพร้อมกับเสียงที่ขาดหายไป

จิ้งจอกเก้าหางถอยออกไปเล็กน้อย ก่อนจะจับเรียวขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน แล้วครอบครองพื้นที่ว่างระหว่างนั้น โน้มตัวลงไปดูดดื่มกับทรวงอกคู่งามอีกครั้ง สองมือบีบเค้นความนุ่มหยุ่นอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วใช้ริมฝีปากดูดดื่มอย่างจาบจ้วง แทบจะละทิ้งความอ่อนโยนที่กระทำมาทั้งหมด

ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะผงะออกจากเต้าอวบอิ่มแล้วเลื่อนลงไปที่ใจกลางลำตัว แค่สัมผัสภายนอกไม่เพียงพอสำหรับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวนี้ นิ้วแกร่งแหวกกลีบกายสตรีเผยความอมชมพูที่ด้านใน

“ว้าย! ทะ ท่าน ท่านจิ้งจอก!”

“ท่านพี่หรือท่านสามี ข้าอนุญาตให้เจ้าเลือกได้แค่เพียงเท่านี้” จินหมิงเยว่ช้อนดวงตาขึ้นมองสตรีตัวน้อยอย่างดุดัน โดยที่ตนเองไม่ยอมถอยออกจากทรวงอกคู่งาม

“ทะ ท่านพี่” จะให้ฟางเหนียงเรียกบุรุษว่าสามี แม้ว่าพวกเขาจะกำลังดำเนินตามลำดับขั้นตอนการเป็นสามีภรรยา แต่มันก็ถือว่าเร็วไปสำหรับนางเหลือเกิน “อ๊ะ! มะ ไม่ เหนียงเอ๋อร์ยังไม่พร้อม”

นิ้วกลางสอดเข้าไปข้างในพร้อมกับเสียงครางอย่างรัญจวนใจของจินหมิงเยว่ ฟางเหนียงใช้กำลังทั้งหมดที่มีเพื่อต่อต้าน แต่ไม่คิดทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ ด้วยกลัวว่าจะถูกจิ้งจอกตัวร้ายจับกินเข้าจริงๆ

สิ่งที่นางทำได้มีเพียงพยายามดันร่างกำยำซึ่งแข็งแกร่งไม่ต่างจากหินผาออกจากตัวเองเท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะใช้พละกำลังทั้งหมดที่นางมีเท่าใด ก็มิอาจทำให้บุรุษขยับเขยื้อนได้เลย

“ข้าจะทำให้เจ้าพร้อมเอง”

นิ้วร้ายสอดเข้าและออกอย่างเชื่องช้า ความคับแน่นภายในกายของนาง อีกทั้งยังความอุ่นร้อนทำให้บุรุษขบกรามแน่น จิ้งจอกผู้บำเพ็ญเพียรมาหลายพันปีแทบคลั่ง แค่เพียงได้ครอบครองสาวงามที่ตนหมายปอง

หากนางมาเพื่อโค่นล้มดินแดนจิ้งจอก ก็ถือว่านางทำสำเร็จแล้ว

“อ๊ะ! ท่านพี่…!” ฟางเหนียงร้องเสียงกระเส่า พลางกลั้นหายใจกับความรู้วาบหวามซึ่งก่อตัวขึ้น

เมื่อนิ้วร้ายสอดเข้าลึกจนสุดนิ้ว สร้างความเจ็บปวดให้กับนางเหลือเกิน แต่ก็วาบหวามรัญจวนใจเช่นกัน ซึ่งนางไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคือสิ่งใด ทำได้เพียงปฏิเสธด้วยความไม่คุ้นชิน

“ทะ ท่านพี่ อึก! ได้โปรด เมตตา…อื้อ!”

เสียงหวานถูกดูดกลืนโดยฉับพลัน ทัดทานไม่ให้นางส่งเสียงห้ามเขา ตัวของนางช่างเล็กเมื่อเทียบกับเขา ภายในช่องรักนุ่มนิ่มนี้แม้แต่นิ้วก็ยังเข้าไปได้ยาก ความอุ่นร้อนโอบรอบนิ้วแกร่งสร้างความกำหนัดให้กับบุรุษจนแทบคลั่ง

จูบหวานๆ ต่างจากการกระทำของบุรุษเหลือเกิน จุมพิตหวานฉ่ำราวกับกำลังหว่านล้อมให้นางผ่อนคลายร่างกาย นิ้วแกร่งแช่อยู่ด้านในเพื่อรอให้นางปรับตัวชินกับนิ้ว มันตอดหนึบเสียจนจินหมิงเยว่แทบทัดทานไม่ไหว

ฟางเหนียงหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย ขึ้นเขาเพื่อหาเก็บสมุนไพรในป่ายังไม่เหนื่อยเพียงนี้เลย ยามนี้คล้ายกับร่างกายของนางอ่อนล้าไปหมด ได้แต่พยายามร้องขอความเมตตาจากบุรุษแสนเจ้าเล่ห์

จินหมิงเยว่ดึงนิ้วที่ฉ่ำไปด้วยน้ำจากกลางลำตัวของอิสตรีขึ้นมาแล้วอ้าปากดูดเลียอย่างจงใจ ทั้งรสชาติและกลิ่นของฟาเหนียงนั้นเป็นเอกลักษณ์เหลือเกิน ทำเอาบุรุษใจสั่นไหวยากเกินควบคุม การกระทำนั้นสร้างความอับอายให้กับสตรีตัวน้อยเหลือเกิน

คราวนี้บุรุษขยับกายถอยห่างจากนาง หากแต่สายตาไม่ละไปจากเรือนร่างอรชรนี้เลย มือหนาจับเรียวขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน เผยกลีบกายน่าลุ่มหลงที่เขาได้สัมผัสไปเมื่อครู่ ฟางเหนียงสะดุ้งเฮือก รีบใช้มือเล็กๆ ปิดมันด้วยความอับอาย

“ทะ ท่าน...!”

“จิ๊!” บุรุษส่งเสียงด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะดึงมือของนางออก ใช้อิทธิฤทธิ์ของจิ้งจอก เกิดเป็นเชือกลำแสงสีขาวสว่างมัดข้อมือเล็กๆ เอาไว้โดยไม่ให้นางได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะถูกกดด้วยลงเหนือหัวราวกับถูกจับวาง

บุรุษไม่คิดที่จะบังคับนางเลย แต่ถ้านางยังคงขัดขืน เขาเองก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ไหนๆ ก็เป็นจิ้งจอกเก้าหางแสนเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว ก็ขอใช้ความเจ้าเล่ห์เหลือร้ายของตนเองให้สมชาติเกิดเสียหน่อย จากนั้นจินหมิงเยว่ก็หันกลับมาให้ความสนใจกับความอวบอิ่มตรงหน้า

...มันช่าง... น่ากินเหลือเกิน...

สตรีตัวน้อยหวาดหวั่นยิ่งนัก สายตาของบุรุษที่จ้องมองนางราวกับจะกลืนกินไปทั้งตัว ยิ่งสายตาของบุรุษในยามนี้ราวกับนางเข้าใกล้ความตายมากขึ้นทุกที

เหตุใดจึงต้องจับขาของนางอ้าเช่นนี้ ท่วงท่าไร้ยางอายทำเอาสตรีตัวน้อยอยากจะกัดลิ้นตนเองให้ตายเสีย อีกทั้งยังโดนจดจ้องมองเนิ่นนานถึงเพียงนี้!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 36 รักผู้ใดมากกว่า

    บทที่ 36รักผู้ใดมากกว่า“ข้าขอแนะนำตัวอีกครั้ง ข้ามีนามว่าจินหมิงอัน เป็นบุตรชายของพวกท่านในชาติภพหนึ่ง”แม้จะเป็นเรื่องที่รู้อยู่ก่อนแล้ว จากในห้วงแห่งความฝัน หากทว่าก็อดที่จะตกใจมิได้ที่อยู่ดีๆ ก็มีบุตรชายเติบโตอย่างงดงามเช่นนี้แล้ว“ท่านพ่ออาจจะจำข้ามิได้ ทว่าท่านแม่...” ดวงตาของจินหมิงอันนั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง “ท่านจำข้าได้หรือไม่?”“ขออภัย ข้า...”“อ่า เป็นเช่นนั้น...” บุรุษหยักหน้าอย่างเชื่องช้า รู้ดีที่สุดว่านางคงไม่มีทางจำได้ หากแต่ยังคงคาดหวังจินหมิงอันเมื่อครั้นสูญเสียมารดานั้น ก็เป็นเพียงเด็กน้อยเท่านั้น เขายังสูงแค่เพียงอกของมารดาแต่กลับต้องขึ้นเป็นผู้นำดินแดน แบกรับความกดดัน แบกรับความเศร้าเสียใจจากการสูญเสียมารดาอย่างไม่มีวันหวนกลับมา เขาก็แค่...เด็กน้อยผู้หนึ่งที่คิดถึงไออุ่นของมารดาเท่านั้นเองช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาแม้มิได้อยู่ผู้เดียว มีท่านลุงซึ่งเป็นเทพอยู่บ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 35 ฝันเสมือนจริง

    บทที่ 35ฝันเสมือนจริงฟางเหนียงรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่อยู่ภายในกายของนาง ความแข็งแกร่งของบุรุษเพศที่แทบจะทะลุทะลวงช่วงท้องของนาง ความเจ็บปวดที่ถูกทำลายเยื่อพรหมจรรย์เมื่อครู่ แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านในฉับพลัน นางเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรง กลัวว่าจะเอื้อนเสียงอันน่าอายออกมาทว่ายิ่งบุรุษเร่งกระหน่ำเอวระรัว ราวกับมิอาจต้านทานมันได้จึงเผลอร้องครางเสียงหวาน นางยกมือขึ้นปิดปากด้วยความอับอาย แต่ก็ถูกจินหมิงเยว่คว้าข้อมือเล็กทั้งสองข้าขึ้นตรึงเหนือหัว พร้อมทั้งถาโถมสะโพกใส่นางไม่ยั้ง ราวกับเรียกร้องให้นางร้องครางออกมาดังๆ“อ๊ะ อ๊ะ ท่านพี่ อึก”“ข้าชอบเสียงของเจ้า ร้องสิ ร้องออกมาดังๆ”“อื้อ อ๊า นะ เหนียงเอ๋อร์ อาย อึก อายเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นข้าจะช่วยมิให้เจ้าร้องออกมาชั่วคราว” เอ่ยจบก็ประกบริมฝีปากดูดกลืนเสียงหวานลงคอไป เพื่อช่วยมิให้นางครวญคราง แม้ว่าบุรุษจะชอบเสียงหวานครางกระเส่าก็ตามเร

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 34 คืนวสันต์

    บทที่ 34คืนวสันต์หลังจากปรับความเข้าใจกันได้แล้ว จินหมิงเยว่ก็เทียวมาเที่ยวเล่นที่จวนสกุลฟางทุกครั้งที่มีเวลา กระทั่งถึงคราวผลัดเปลี่ยนอำนาจ ไท่จื่อได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ งานของจินหมิงเยว่ก็หนักขึ้นกว่าเก่าแต่ก็เป็นเกียรติกับวศ์ตระกูลวันหนึ่งจินหมิงเยว่มาหาฟางเหนียงเฉกเช่นที่ผ่านมา พูดคุยและดื่มน้ำชากับนางไม่ต่างไปจากวันอื่น ทว่าข่าวดีก็คือทั้งสองสกุลตกลงวันแต่งงานของพวกเขาได้แล้วงานแต่งงานของทั้งสองนั้นจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ผู้คนต่างเข้ามาร่วมยินดี เพราะคนทั้งคู่ต่างเป็นที่รักของคนในเมืองยามนั้นเองบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามาภายในงานเลี้ยงมงคล บุรุษรูปงามจนน่าตกละลึง งดงามเสียจนราวกับไม่มีอยู่ในโลกใบนี้ ฟางเหนียงเผลอจ้องมองอย่างเสียมารยาท เมื่อเกิดความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ก่อนจะสะบัดความคิดนั้นทิ้งไป หากเป็นคนที่นางเคยเจอไม่มีทางที่จะจำมิได้เป็นแน่ ก็รูปร่างหน้าตาโดดเด่นถึงเพียงนี้“อะแฮ่ม!” จินหมิงเยว่กระแอ่มไอ เมื่อเห็นฟางเหนียงจ้องมองบุรุษรู

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 33 ให้โอกาสข้าได้หรือไม่

    บทที่ 33ให้โอกาสข้าได้หรือไม่จวนสกุลจินนี่เป็นครั้งแรกที่จินหมิงเยว่พิถีพิถันในการเลือกชุดที่จะสวมใส่ในวันนี้ กว่าจะออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบก็ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจินหมิงเยว่ก็เตรียมตัวที่จะออกจากจวน หากแต่ทหารในสังกัดของไท่จื่อก็ได้มารายงานบางอย่างให้กับบุรุษ จินหมิงเยว่ขมวดคิ้ว ใบหน้าเคร่งเครียด...เหตุใดต้องเป็นตอนนี้ด้วย!...ท้ายที่สุดบุรุษก็รีบเดินทางไปยังพระราชวัง!ไท่จื่อเรียกจินหมิงเยว่มาอย่างกะทันหัน เนื่องจากได้รับข่าวจากทหารเฝ้ายามว่าพบเจอกับโจรป่าดักซุ่มจากการสอดแนมพบว่าพวกมันเตรียมที่จะบุกเข้าไปในเมืองหลวง ปั่นป่วนงานเทศกาลหยวนซีที่กำลังครึกครื้นไปด้วยอิสตรี อีกทั้งยังวางแผนที่จะลักพาตัวพวกนางได้ ได้ยินเช่นนั้นจินหมิงเยว่ก็มิอาจนิ่งเฉยได้ เพราะผู้ที่อาจจะถูกลักพาตัวอาจจะมีฟางเหนียงรวมอยู่ด้วย ได้แต่หวังว่านางจะไม่รอเขาและไปเที่ยวงานเทศกาลอย่างสนุกสนานจินหมิ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 32 เฝ้ารอ

    บทที่ 32เฝ้ารอวันต่อมา ณ จวนสกุลฟางงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของฟางเหนียงถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ทว่าฟางเหนียงเป็นสตรีน่าเอ็นดู และมีจิตใจดีและอ่อนโยนกับคนรอบข้างเสมอผู้คนต่างมาร่วมงานเลี้ยงนี้พร้อมกับของขวัญมากมาย นางได้รับความรักมากมายเหลือเกิน กระทั่งจินหมิงเยว่เดินเข้ามาในงานซึ่งส่วนใหญ่มีแต่สหายของฟางเหนียง“เหนียงเหนียง นั่นคือใครน่ะ?”“เขาช่างรูปงามเหลือเกิน”“นั่นมันบุตรชายสกุลจินมิใช่หรือ?”ฟางเหนียงหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนจะละจากทุกคนแล้วเดินไปต้อนรับจินหมิงเยว่ โดยมีสาวใช้ประคองเนื่องจากข้อเท้าของนางยังไม่หายดีสตรีตัวน้อยเตรียมที่จะคำนับบุรุษหากแต่จินหมิงเยว่กลับดึงเก้าอี้มาไว้ที่ด้านหลังของนางแล้วประคองให้นั่งลง พลางเอ่ยเสียงเบาอย่างเอาใจใส่“นั่งเถิด เจ้าบาดเจ็บอยู่ พิธีรีตองอะไรข้าไม่ถือสาหรอก อย่างไรก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว” บุรุ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 31 แรกพบสบตา

    บทที่ 31แรกพบสบตาหลังจากนั้นไห่ไท่หยางก็พานางไปยังพระราชวัง ก่อนที่บุรุษจะเดินหนีหายไป…ระหว่างที่ดำเนินการสำเร็จโทษนางนั้น ฟางเหนียงก็ได้ร่ายอาคมเพียงผู้เดียวเงียบๆ ยามนั้นท้องฟ้าแปรเปลึคล้ายกับจะเกิดพายุลูกใหญ่ ผู้คนต่างคิดว่ามันคือลางร้ายในที่สุดฟางเหนียงก็ร่ายอาคมสำเร็จ ลูกแก้วจิ้งจอกกำลังสูญสลายไปจากกายของนาง ความเจ็บปวดจากพิษงูที่แล่นพล่านอยู่ในร่างกายของนางชัดเจนขึ้นเรื่อย งูยักษ์ที่รู้สึกได้จึงเปิดเผยตัวตนกระโจนเข้าไปหมายจะแย่งลูกแก้วจิ้งจอก แต่ก็ถูกไห่ไท่หยางใช้ธนูอาบยาพิษพิเศษ เพื่อกำจัดปีศาจงูโดยเฉพาะยิ่งเข้าที่กลางหัวงูยักษ์ในร่างมนุษย์กลับคืนร่างเดิมสร้างความตกตะลึงให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ไห่ไท่หยางไม่รอช้ารีบเข้าทูลต่อฝ่าบาทและไท่จื่อเกี่ยวกับเรื่องราวในครั้งนี้ที่เขาทำไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นละครตบตา!!คืนก่อนมีบุคคลปริศนาบุกเข้ามาที่ห้องของไห่ไท่หยาง บุรุษเสียท่าให้มันจนโดนจับตัว ในตอนที่คิดว่าคงหมดหนทางแล้วกลับเจอกับบุ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status