LOGINเจียงลี่มี่ทะลุมิติมาเป็นตัวประกอบที่รอดตายในนิยายที่เธอรู้เรื่องทุกอย่าง ผ่านไปครึ่งเรื่องเหตุการณ์ในนิยายเริ่มไม่ตรงปก ฉันเป็นแค่ดารานะ ไม่ได้แมรี่ซูเหมือนในซีรีส์ แล้วแบบนี้ฉันจะไปต่อยังไงละเนี่ย
View More"นี่เจ้าไม่รู้หรอกหรือว่าตนเองโง่เขลาเพียงใด" เสียงใสเอื้อนเอ่ยเยาะหยันคนตรงหน้า
"เหตุใดจึงทำร้ายข้าได้ถึงเพียงนี้ ข้าคือพี่สาวของเจ้านะ" เสียงหวานตอบโต้ น้ำตาไหลรินด้วยความเสียใจ ผิดหวัง เมื่อถูกคนที่เป็นน้องสาวหักหลัง
"ข้าไม่เคยมีพี่สาวเช่นเจ้า ตั้งแต่เกิดมา ข้าก็ไม่เคยมองเจ้าเป็นพี่สาวสักครั้ง ในใจข้ามีเพียงคิดกำจัดเจ้าเท่านั้น"
"ไม่จริง เจ้าโกหก หากเจ้าคิดเช่นนั้น เหตุใดที่ผ่านมาจึงดีกับข้า" เด็กสาวอีกคนพูดเสียงสั่น ขยับตัวไปจับมือเด็กสาวตรงหน้า ดวงตาบวมช้ำจากการร่ำไห้อย่างหนัก
"เจ้าคิดว่าที่ข้าทำดีกับเจ้า เพราะข้ารักและเห็นเจ้าเป็นพี่สาวเช่นนั้น? เจ้าช่างโง่เขลาเสียจริงๆ ที่ข้าทำไปทั้งหมดก็เพื่อหลอกให้เจ้าตายใจอย่างไรเล่า และเจ้าก็หลงกลข้า เจ้ามันสมควรตาย" คนเป็นน้องสะบัดมือออกและผลักพี่สาวจนล้มลง
"ข้าทำผิดอะไร เหตุใดเจ้าจึงทำกับข้าเช่นนี้" น้ำตานางไหลริน จ้องมองน้องสาวที่รักตรงหน้าด้วยสายตาเจ็บปวดเจียนตาย
"ผิดที่เจ้าเกิดมาแย่งทุกอย่างไปจากข้า"
"คัต!”
เสียงผู้กำกับสั่งคัต ก่อนที่ช่างแต่งหน้าจะรีบไปซับหน้าให้นักแสดง
"ผู้กำกับตาถึงจริง ๆ ที่เลือกเจียงลี่มี่ ฝีมือการแสดงเธอยอดเยี่ยมจริงๆ" ผู้ช่วยผู้กำกับเอ่ยชม
"กว่าฉันจะติดต่อเธอได้ ก็ใช้เวลานานมาก แถมเธอยังรับละครปีละไม่กี่เรื่องด้วย" ผู้กำกับยืนยิ้มกอดอกมองหน้าจอด้วยความภาคภูมิใจที่ผลงานออกมาดี
"แต่สุดยอดจริง ๆ เทคเดียวผ่านตลอด แถมยังเป็นนางเอกที่สวยมาก ขึ้นกล้องสุด ๆ กลบนักแสดงคนอื่นจนมิด เธอสวยเหมือนนางฟ้าเลย จบเรื่องนี้ ผมอยากให้พี่กล่อมเธอให้มาร่วมงานกับพวกเราอีก" ผู้ช่วยผู้กำกับบอกก่อนจะยิ้มจนตาหยี จ้องมองเจียงลี่มี่ในจอด้วยนัยน์ตาเคลิ้มฝัน
"ฉันก็อยากทำแบบนั้น แต่เธอเป็นนางเอกอันดับต้น ๆ ฉันจะสู้คนอื่นยังไงไหว และจบเรื่องนี้ เธอก็ไม่รับละครปีนี้แล้ว เธอจะรับอีกก็ปีหน้า ถึงตอนนั้น คนอื่นก็แย่งตัวเธอไปแล้ว" ผู้กำกับตอบปฏิเสธพร้อมกับส่ายหน้า สายตาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่กำลังถูกพูดถึง
เจียงลี่มี่มีใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตากลมโต จมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่ม ผมดำยาวสลวย รูปร่างสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียด พูดแค่นี้ก็เหมือนผู้หญิงสวยทั่วไป แต่ใครก็ตามที่ได้เห็นเธอ กลับรู้สึกได้ว่าเจียงลี่มี่สวยกว่าดาราหญิงคนอื่นมาก คล้ายว่าเธอมีลักษณะเฉพาะตัวบางอย่างที่ทำให้เธอสวยกว่าดาราหญิงทุกคน
"เธอสวยมากจริงๆ ตอนนั้นผมมีโอกาสได้สัมผัสแขนเธอ ผิวเธอนุ่มมาก"
ผู้ช่วยผู้กำกับสายตาเหม่อลอย มองตรงไปข้างหน้า ยิ้มจนตาหยีอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่บังเอิญได้สัมผัสถูกตัวนางฟ้าในฝัน
"ฉันยังจำได้ ตอนนั้นที่เธอเพิ่งเข้าวงการ แค่เห็นหน้าเธอครั้งแรก ฉันยังคุยกับผู้กำกับคนอื่นเลยว่าเธอต้องดังแน่ๆ และก็เป็นอย่างที่ฉันพูด แค่ไม่กี่ปี เธอก็โด่งดังกลายเป็นดาราระดับเอลิสต์ของวงการ ค่าตัวแพงลิบลิ่ว ฝีมือการแสดงก็ดีเลิศ แถมใคร ๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หนังหรือละครเรื่องไหนได้เธอไปแสดง เรื่องนั้นดังแน่นอน โกยกำไรเละเทะ"
ผู้กำกับต้องกำมือแน่น สายตาคาดหวัง ละครเรื่องนี้ที่เขากำกับจะต้องโด่งดัง ผู้คนมากมายต่างคลั่งไคล้เจียงลี่มี่อย่างมาก เมื่อละครออกฉาย ตอนนั้นชื่อเสียงของเขาจะกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้กำกับมือทอง ละครที่เขากำกับจะต้องกวาดรางวัลมากมาย เขาจะกลายเป็นผู้กำกับผู้ทรงอิทธิพลที่นักแสดงทุกคนอยากร่วมงานด้วย
"เธอเก่งมากจริง ๆ ฉากไหนต้องร้องไห้ เธอก็ร้องไห้ได้เหมือนเป็นตัวละครนั้นจริง ๆ ทำเอาผมอินไปด้วย ตั้งแต่ผมช่วยพี่กำกับมาหลายเรื่อง มีเธอคนเดียวที่ทำให้ผมประทับใจขนาดนี้ เธอเข้าถึงบทบาทจริงๆ" ผู้ช่วยผู้กำกับกล่าวออกมาอย่างประทับใจ
"เมื่อก่อนฉันคิดว่าเธอคงต้องหยิ่งมากแน่ ๆ ที่ไหนได้ พอร่วมงานกัน เธอแตกต่างจากที่คิดไปเลย"
ผู้ช่วยผู้กำกับพยักหน้าเห็นด้วย ผู้หญิงอะไรเป็นทั้งนางฟ้าในจอและนอกจอ สงสัยว่าถ้ามองเธอนาน ๆ เขาคงหยุดหายใจ
"นั่นสิครับ สวย เก่ง นิสัยดี ไม่แปลกที่จะมีแต่คนชอบ ฐานแฟนคลับหนาแน่นสุด ๆ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ในยุคนี้ไม่มีใคร ไม่รู้จัก ‘เจียงลี่มี่’ นางฟ้าของวงการบันเทิงแล้ว"
เจียงลี่มี่ร้องไห้แทบขาดใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ สุดท้ายเธอก็ล้มเลิกความฝัน และเดินหน้าต่อด้วยการเป็นดารา แม้อาอี้จะคอยบอกให้เธอเปิดร้าน แต่สุดท้ายเธอก็ถูกแม่บงการชีวิตอยู่ดีทั้งชีวิตเธอทำเพื่อคนอื่นมาตลอด แต่สิ่งที่เธอได้รับคือความเจ็บปวด แม้แต่ตอนที่ใกล้จะตาย คนที่ทำร้ายเธอก็คือคนที่เธอรัก ภาพทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเธอ เป็นความทรงจำที่เธอไม่เคยลืม“อาหลงรักเจเจ้ที่สุดเลย” เสียงเด็กชายตัวน้อยเอ่ยด้วยความดีใจ มองของเล่นในมือตาเป็นประกาย“เจเจ้ก็รักอาหลงที่สุดเหมือนกัน” เธอกอดน้องชายด้วยความรักและเอ็นดู เธอตั้งใจเก็บเงินเพื่อซื้อของเล่นที่น้องชายอยากได้ มอบให้เป็นของขวัญวันเกิด“อาหลงรักเจเจ้ที่สุด โตขึ้นอาหลงจะดูแลเจเจ้เอง จะหาเงินซื้อของเล่นให้เจเจ้บ้าง” เด็กสาวยิ้มกว้าง หอมแก้มน้องชายซ้ายขวา“ไม่เป็นไร เจเจ้ไม่อยากได้ แค่อาหลงมีความสุข เจเจ้ก็มีความสุขมากแล้ว” เด็กชายตัวน้อยพยักหน้า“อาหลงจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อกับเจเจ้ จะไม่ทำให้เจเจ้เสียใจ”เจียงลี่มี่น้ำตาคลอเมื่อนึกถึงเรื่องในตอนนั้น ความทรงจำที่มีความสุข เพราะหลังจากนั้นไม่กี่ปี อาหลงก็ไม่สนใจเธออีกเลย มองเธอด้วยสายตาเ
“เหตุใดพี่ลี่มี่จึงคิดว่าเป็นข้า ข้าเป็นน้องสาวท่าน ไม่เคยคิดทำร้ายท่าน” เจียงลี่มี่กุมท้องด้วยความเจ็บปวด เธอรู้สึกราวกับถูกเข็มนับพันหมื่นเล่มทิ่มแทงภายในร่าง“เลิกแสดงละครได้แล้ว ! หากไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร ทันทีที่ข้าดื่มชาที่เจ้ามอบให้ ข้าก็เป็นเช่นนี้” เธอตวาดเสียงกร้าวก่อนจะพ่นโลหิตออกมา ยิ่งเธอโมโห พิษยิ่งทำร้ายเธอมากกว่าเดิมเหมยฮวามองภาพตรงหน้า ก่อนจะหัวเราะออกมาในที่สุด“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่คิดว่าพี่ลี่มี่จะรู้ตัวเร็วเช่นนี้ ใช่ ข้าเอง”เหมยฮวาเชยคางเธอขึ้นมา สบตาอย่างท้าทาย เจียงลี่มี่สะบัดหน้าหนีจากมือนั้น“ข้าดีกับเจ้า ไม่เคยทำร้ายเจ้า เพราะเหตุใด”เหมยฮวาลูบผมของเจียงลี่มี่ มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยโลหิตของเจียงลี่มี่อย่างมีความสุข“เจ้าดีกับข้า แล้วข้าต้องดีกับเจ้า? โง่เง่า ! ชีวิตนี้ข้าไม่มีทางดีกับเจ้า ข้าเป็นบุตรที่เกิดจากอนุ จะไปเทียบชั้นเจ้าได้อย่างไร ทุกสิ่งล้วนถูกเจ้าแย่งชิง แม้แต่บุรุษที่ข้าชมชอบก็ถูกเจ้าแย่งไป หากข้าไม่กำจัดเจ้า ข้าไม่มีวันมีความสุข”ใบหน้าสวยประดับด้วยรอยยิ้มเยียบเย็น เจียงลี่มี่มองอย่างชิงชัง เธอแค้นใจยิ่งนักเมื่อเห็นรอยยิ้มของเหมยฮวา สตรีที่เธอคิดว่
"คุณหนูใหญ่...นี่ข้าเอง เสี่ยวจูไงเจ้าคะ ท่านเป็นอะไรไป หรือ...หรือข้าทำให้ท่านเจ็บตรงไหน ให้ข้าช่วย...หะ..ให้ข้าไปตามคนมาช่วยนะเจ้าคะ"เสี่ยวจูมีท่าทางหวาดกลัว นางกำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยู่ ๆ คุณหนูใหญ่ก็บ่นว่ารู้สึกอ่อนล้า หายใจไม่ออก จากนั้นก็ล้มตัวลงนอน แล้วไม่ฟื้นอีกเลย ไม่ว่านางจะพยายามปลุกอย่างไร จึงตัดสินใจจะไปตามคนมาช่วย แต่คุณหนูใหญ่ก็ขยับตัวเสียก่อน"เธอเป็นใคร แล้วทำไมฉันมาอยู่ที่นี่"เจียงลี่มี่ถามด้วยความสงสัย รอบตัวของเธอตอนนี้มีแต่สิ่งที่เธอไม่คุ้นเคย"ที่นี่คือจวนเสนาบดีฝ่ายซ้ายเจ้าค่ะ ข้าคือเสี่ยวจู ข้าเป็นสาวใช้ของคุณหนูอย่างไรเจ้าคะ...”เจียงลี่มี่ตกตะลึง อะไรคือจวนเสนาบดีฝ่ายซ้าย เสี่ยวจูตรงหน้านี่คือใคร“...หรืออาการของคุณหนูกำเริบ จึงสูญเสียความทรงจำ ข้า...ข้า..ข้าจะไปตามนายท่านกับฮูหยินเอกมา..คะ..คุณ..คุณหนูรอข้าก่อนนะเจ้าคะ"เด็กน้อยเสี่ยวจูกำลังจะวิ่งออกไป แต่เธอมือไวคว้าไว้ได้เสียก่อน แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเธอสวมใส่เสื้อผ้าแบบโบราณ"อย่า..อย่าเพิ่งไป เอากระจกให้ฉัน" เจียงลี่มี่กระสับกระส่าย หวาดกลัว เสี่ยวจูยื่นกระจกให้ เธอรีบคว้ามา แล้วส่องดูหน้
“ไม่ใช่…แต่จะตัดทั้งพวงให้ขาด แล้วเอาไปทำกับข้าวให้นังเมียน้อยกิน อยากได้นักก็จะยกให้เลย ยิ่งรักกันปานจะกลืนกินยิ่งดี จะได้สมปรารถนาทั้งกิน ทั้งกลืน ฮ่าฮ่าฮ่า”เจียงลี่มี่อึ้ง ไม่คิดว่าคนใจเย็นอย่างอาอี้จะพูดแบบนี้ น่ากลัวกว่าที่คิด“อาอี้ทำฉันอึ้งนะเนี่ย แอบร้ายด้วย อีกอย่างนะเรื่องนี้มีบางอย่างพิเศษสำหรับฉันด้วย”“อะไร?” อาอี้สงสัย“พี่สาวของนางเอกเรื่องนี้นะสิ ชื่อเดียวกับฉันเลย เจียงลี่มี่ ชีวิตเธอก็อาภัพไม่ต่างกับฉันเลย”“โห..บังเอิญจริง ๆ แล้วเจียงลี่มี่ในเรื่องเด่นมากไหม เป็นถึงพี่สาวนางเอก บทต้องไม่น้อยแน่ ๆ”“เยอะมาก เด่นมากเลยล่ะ” เจียงลี่มี่พูดไปขำไปกับน้ำเสียงของอาอี้ที่เหมือนจะตื่นเต้นราวกับเป็นชื่อของตัวเอง“มีกี่บทที่พูดถึง หรือมีบทตลอดทั้งเรื่อง”“มีตั้งสามบรรทัด เยอะมากเลยใช่มั้ยล่ะ” เจียงลี่มี่อยากรู้ว่าอาอี้จะพูดอะไร เพราะที่เธออ่านนั้น บทเจียงลี่มี่ในนิยายมีแค่สามบรรทัด เรียกว่าเปิดตัวมาก็ตายเลย“หาาาาา! สามบรรทัด จะบ้าเรอะ นี่มันน้อยยิ่งกว่าบทนำเสียอีก คงไม่ใช่ว่าเปิดตัวมาปุ๊บก็ตายปั๊บอะไรแบบนี้นะ”อาอี้ค่อนขอด คนเขียนใจร้ายจริง ๆ เขียนมาได้ไงยะ สามบรรทัด น้อยเกิน





