Share

บทที่ 2 จิ้งจอกเก้าหาง

last update Huling Na-update: 2025-04-03 09:46:09

บทที่ 2

จิ้งจอกเก้าหาง

ฟางเหนียงรู้ว่าหากไม่รับถ้วยเหล้านี้ ก็คงถูกป้อนทางปากเหมือนเมื่อครู่อีกเป็นแน่ จึงยื่นมือเล็กๆ สองมือออกไปรับมันมาอย่างไม่เต็มใจ

“ข้าคิดว่า... ท่านเป็นคนช่วยเจ้าค่ะ”

“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่”

“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”

“ข้าส่งคนไปจับเจ้า และคนที่ช่วยเจ้าก็คือคนของข้า เช่นนั้นแล้วก็ไม่ต่างจากข้าช่วยเจ้า เพียงแต่ข้ามิได้ไปช่วยด้วยตนเอง”

“อ่า... อย่างไรก็ต้องขอบคุณนะเจ้าคะ” สตรีตัวน้อยกระโดดลงจากเตียง จากนั้นก็ประสานมือแล้วยอบกายคำนับ เท่านั้นยังไม่พอ นางยังก้มหัวลงจรดพื้นด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอีกด้วย “เหนียงเอ๋อร์เป็นหนี้บุญคุณชีวิตท่านเสียแล้ว หากมีสิ่งใดที่เหนียงเอ๋อร์ตอบแทนท่านได้ โปรดบอกมาเถิดเจ้าค่ะ”

“ลุกขึ้น”

ฟางเหนียงทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะจ้องมองบุรุษตาปริบๆ ในขณะเดียวกันจินหมิงเยว่หย่อนกายนั่งลงบนเตียงท่าทีสบายๆ

“ข้าช่วยเจ้า เพราะเจ้าเป็นคนในปกครองของข้า คนที่ข้าส่งไปรับเจ้าย่อมรู้ดีว่าหากผู้ใดคิดแตะต้องเจ้า โทษคือตายสถานเดียว”

“เจ้าคะ? คะ คนของท่าน?”

“ใช่... ชุดนี่” กวาดสายตามองสตรีตัวน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า อาภรณ์พวกนี้มีกลิ่นเครื่องหอม ซึ่งต่างจากกลิ่นกายของฟางเหนียงที่บุรุษได้ดอมดมเมื่อครู่ “พวกมนุษย์ก็แต่งเจ้ามาเพื่อให้ข้ามิใช่หรือ?”

ดวงตาคู่งามเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน! คำแทนว่า ‘มนุษย์’ ราวกับคนพูดไม่ใช่มนุษย์

พลันภาพจำในหัวปลิวว่อนราวกับแผ่นกระดาษโดนสายลมโหมกระหน่ำ ทว่ามันกลับทำให้นางปะติดปะต่อเรื่องราว และรับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างเข้า!

...ยะ อย่าบอกนะว่า ผู้ที่อยู่ตรงหน้าของข้า...

“ทะ ท่านคือ...”

“มนุษย์เช่นเจ้าเรียกข้าว่า... จิ้งจอกเก้าหาง” จบถ้อยคำนั้นบางอย่างก็ปรากฎแก่สายตาของนาง

หางยาวๆ ปกคลุมไปด้วยขนสีเงินดูนุ่มนิ่ม ทว่าเป็นประกายราวกับอัญมณีล้ำค่าจากต่างแดน มันขยับขึ้นลงราวกับต้องการให้นางเห็นว่าพวกมันหาใช่ภาพลวงตา แต่มันคือส่วนหนึ่งในร่างกายของจินหมิงเยว่ ภาพตรงหน้าช่างงดงามแต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์อันแสนอันตรายเหลือเกิน

หมับ!

“ว้าย!”

ร่างบอบบางถูกกดลงบนเตียง พละกำลังมากมายจนนางแทบจะจมลงไป หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก ดวงตาคู่งามจ้องมองเจ้าของดวงตาสีหมึกสลับกับหางสีเงินไม่วางตา

...กะ เก้าหาง จิ้งจอก... จิ้งจอกเก้าหางจริงๆ น่ะหรือ?...

เมื่อได้ค้นพบความจริงอันน่าตกใจนี้ ฟางเหนียงก็มีอาการตื่นกลัวจนหายใจไม่ออก สัตว์ในตำนานเล่าขานอันโด่งดัง ที่แม้แต่นางซึ่งไม่สนใจเรื่องภายนอกนักยังรู้จัก เสน่ห์อันน่าหลงใหลและการแปลงกายของพวกเขาเป็นที่เลื่องลือ ทว่ามันคือตำนานเมื่อหลายร้อยปีก่อน จนผู้คนคิดว่าเป็นเพียงตำนานเล่าขานหรือนิทานหลอกเด็ก

ฟางเหนียงเพิ่งค้นพบความจริงก็วันนี้ว่ามันไม่ใช่เลย พวกเขาไม่ใช่ตำนาน ไม่สิ พวกเขาเป็นตำนานแต่เป็นตำนานที่มีชีวิต!!

ปลายนิ้วเรียวของบุรุษลูบไล้กรอบหน้าของสตรีตัวน้อย เพื่อเรียกร้องความสนใจจากนาง

“ข้าคิดว่า… ใบหน้าของข้าน่ามองยิ่งกว่าหางของข้า” ไม่เอ่ยเปล่า ยังยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ อย่างจงใจกลั่นแกล้งนางอีกด้วย ลมหายใจแผ่วเบา และกลิ่นหอมสะอาดจากกายบุรุษพาให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว “เจ้าไม่คิดงั้นหรือ?”

“ขะ ข้า… อ๊ะ!?” ริมฝีปากอวบอิ่มเอื้อนร้องเสียงหวาน เมื่อนางหันหน้าหนีหลบเลี่ยงสายตาอันร้อนแรงของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ลำคอของนางก็ถูกริมฝีปากและจมูกคมซุก ราวกับจะฝังจมูกคมลงบนลำคอของนาง “ทะ ท่าน…!”

…อ่า กลิ่นของเจ้าช่าง…รัญจวนใจข้าเสียจริง…

มือเล็กๆ ทั้งยังเรี่ยวแรงน้อยนิด พยายามต่อต้านโดยการดันแผงอกกว้างออกห่างจากตัว แต่หากบุรุษไม่ยินยอมมีหรือที่นางจะดันเขาออกได้

“ดะ ได้โปรด เมตตาข้าด้วยเจ้าค่ะ” ด้วยความหวาดหวั่นของสตรีน้อยวัยแรกแย้ม การรุกรานของจินหมิงเยว่สร้างความหวาดหวั่นไม่น้อยให้กับนาง ท่วงท่าที่ดุดันคล้ายกับจะเคี่ยวกรำนางจนแหลกเหลว

“เมตตาเจ้าหรือ หึ เด็กน้อย เจ้ามาที่นี่เพื่อสิ่งใด หืม?” คราวนี้จินหมิงเยว่ยอมผละออกแล้วจ้องมองดวงหน้าหวาน เนื่องจากบุรุษไม่คิดจะขืนใจ

ที่ผ่านมาสตรีที่ถูกส่งตัวมาเขาก็ไม่เคยขืนใจพวกนาง หากแต่พวกนางยินยอมเอง เป็นธรรมชาติของจิ้งจอกเก้าหางอย่างเขาที่จะมากกำหนัด แต่ไม่เคยเก็บสตรีใดไว้ข้างกาย หลังเสร็จกิจก็จะส่งพวกนางกลับออกไปใช้ชีวิตที่ด้านนอก เพราะสถานที่แห่งนี้คือดินแดนจิ้งจอก ไม่อนุญาตให้มนุษย์อาศัยอยู่ถาวร!

ทว่า… กำลังจะมีสตรีชาวมนุษย์นางหนึ่งได้รับการยกเว้นนั้น

“ขะ ข้า…”

“เจ้ามาที่นี่เพื่อเป็นภรรยาของข้า และนี่คือขั้นตอนในการทำให้เจ้าเป็นของข้า” ปลายนิ้วแกร่งไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงเนินอกซึ่งโผล่พ้นอาภรณ์สีแดงสดออกมา มันกระเพื่อมตามแรงหายใจของอิสตรี ช่าง… น่าดึงดูดเหลือเกิน

ดวงตาเรียวคมจ้องมองมันด้วยแววตาหื่นกระหาย ก่อนจะดึงสายตากลับไปจ้องมองดวงหน้าหวาน สบสายตากับดวงตากลมอีกหน

“ยินยอมแต่โดยดี แล้วข้าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จงหมิงเยว่ไม่มีทางเลือกให้นางเฉกเช่นสตรีนางอื่น

เพราะนางคือสตรีที่เขาปรารถนาอย่างแรงกล้า!

เป็นจินหมิงเยว่ที่แปลงกายไปเป็นผู้เฒ่าอาวุโส เอ่ยอ้างถึงฟางเหนียงเพื่อให้พวกมนุษย์แสนโลภมาก ส่งนางมาเป็นเจ้าสาวให้กับเขา

เช่นนั้นแล้วบุรุษจะให้ทางเลือกอื่นแก่นางไปเพื่ออะไร? แค่ยอมใจเย็นค่อยเป็นค่อยไป ไม่รวบหัวรวบหางตามอารมณ์ปรารถนาก็ดีเท่าใดแล้ว

“ท่าน... ท่านพี่ ปล่อยข้าเถิดนะ ข้านั้นแสนต่ำต้อย ร่างกายของข้ามิได้งดงามหรอกนะเจ้าคะ” ร่างกายของสตรีตัวน้อยเต็มไปด้วยบาดแผลจากการทุบตี แม้แต่ตัวนางเองบางครั้งยังรู้สึกรังเกียจเลยด้วยซ้ำ

“อย่ากังวล ข้าปรารถนาเพียงเจ้า”

แล้วเสียงของนางก็ไม่สามารถถูกเอื้อนเอ่ยออกมาได้อีกต่อไป ราวกับตัดความรำคาญที่นางเอาแต่ด้วยค่าตนเอง และยื้อเวลาค่ำคืนนี้ไม่ให้บุนุษได้เชยชิมนางเสียที เมื่อถูกริมฝีปากของบุรุษผู้เป็นดั่งจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดูดกลืนเสียงของนางลงคอไปอย่างง่ายดาย

สองมือผลักแผงอกกว้างออกแล้วพยายามส่งเสียงร้องประท้วง ทว่านั่นเป็นการเปิดปากให้บุรุษได้ใช้โอกาสสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปด้านในอย่างจาบจ้วง สตรีตัวน้อยสะดุ้งเฮือก พยายามออกแรงดันอกแกร่งสุดกำลัง แต่ยิ่งนางต่อต้านก็คล้ายกับว่าถูกรุกรานหนักขึ้นกว่าเดิม

“อื้อ!” ลมหายใจของนางเริ่มขาดห้วงแล้ว คล้ายกับถูกดูดพลังชีวิตออกไป เรียวลิ้นสากสำรวจไปทั่วโพรงปากของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูดดื่มความหอมหวานราวกับมธุรสหวานล้ำ

เมื่อไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน นางจึงทำได้เพียงจิกอกเสื้อของบุรุษแนบแน่น ทว่าฝ่ามือน้อยๆ ก็ค่อยๆ คลายออก ท้ายที่สุดจินหมิงเยว่ก็ปล่อยให้นางเป็นอิสระ

“เฮือก แค่ก แค่ก” นางสูดหายใจเข้าลึกจนสำลักอากาศ จินหมิงเยว่หัวเราะน้อยๆ อย่างเอ็นดูกัยความไร้เดียงสาของนาง

ใบหน้าคมคายเตรียมที่จะโน้มหน้าลงมาอีกหน แต่นางก็ใช้แรงดันเอาไว้สุดแรง ดวงตาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความหวาดหวั่น กลัวว่าอีกฝ่ายจะจู่โจตะโบมจูบนางอีก นางยังสูดหายใจได้ไม่เต็มปอดเลย!!

“ชู่ว! ไม่ต้องกลัว ข้าบอกแล้วไงว่าหากเจ้ายินยอม ข้าจะอ่อนโยนกับเจ้า” เอ่ยจบก็โน้มใบหน้าลงไปจนจมูกสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา จดจ้องมองดวงตาคู่งามอยู่ครู่หนึ่งคล้ายกับรอให้นางยินยอมพร้อมใจ “หากเจ้ากลัว ก็หลับตาเสีย”

ฟางเหนียงลังเลเล็กน้อย หากแต่สมองน้อยๆ ของนางก็ครุ่นคิดถึงเหตุและผล ถูกส่งตัวมาเป็นภรรยาของเขาก็ต้องใช้ค่ำคืนร่วมกับเขาถูกต้องแล้ว อีกทั้งยังเป็นจินหมิงเยว่ที่ช่วยนางจากชายฉกรรจ์ ที่สำคัญ… บุรุษผู้นี้มิได้มีใจคิดข่มเหงนาง ไม่อย่างนั้นก็คงทำไปแล้ว ไม่รอให้นางยินยอมเช่นนี้หรอก

อิสตรีคิดเช่นนั้น หารู้ไม่ว่ามันก็แค่ตอนนี้ ตอนที่จินหมิงเยว่พยายามหว่านล้อมนางให้ยินยอม แต่หากว่านางไม่ยินยอม มีหรือที่จะไม่บังคับให้นางร่วมค่ำคืนนี้กับเขา

จินหมิงเยว่เป็นจิ้งจอก อีกทั้งยังมีเก้าหาง เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว เจ้าเล่ห์เพทุบาย มิอาจทิ้งสันดานเดิมได้จริงๆ

อีกอย่าง… เขาไม่สามารถปล่อยให้นางผ่านด่านเคราะห์เช่นเดิมได้อีก…

ดวงตากลมค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงอย่างเชื่องช้า ร่างกายแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ด้วยความประหม่า จินหมิงเยว่ยกยิ้มมุมปากอย่างเหลือร้าย ก่อนจะกดริมฝีปากแนบชิดกับกลีบปากอวบอิ่มนั่น

บดเคล้าคลึงอย่างใจเย็น ข่มตัณหาราคะมากล้น เพื่อหว่านล้อมให้ฟางเหนียงโอนอ่อนไปกับสัมผัสของตนเอง หากเผยความดุดันในครั้งแรกเกรงว่าฟางเหนียงจะหวาดกลัวจนเป็นลมไปเสียก่อน หากเป็นเช่นนั้นค่ำคืนนี้คงเสียเปล่า

ทว่าสิ่งที่ถูกกดอยู่ภายใน ยิ่งถูกกด ยิ่งพลุกพล่าน สัมผัสแค่เพียงภายนอกไม่เพียงพออีกต่อไป จิ้งจอกตัวร้ายถอดริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้า แล้วเอ่ยกระซิบเสียงแผ่วเบา

“อ้าปากสิ”

ฟางเหนียงนั้นแสนไร้เดียงสา กระทำตามอย่างว่าง่าย อายุของนางเพิ่งจะสิบหกหนาวในวันนี้ ก็ถูกส่งตัวมาเป็นเจ้าสาวของจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์เสียแล้ว นางยังอ่อนต่อโลกนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจิ้งจอกเก้าหาง ไม่มีทางที่นางจะทันเล่ห์เหลี่ยมของเขาเป็นแน่

ทันทีที่ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอออกเพียงเล็กน้อย ลิ้นร้ายดั่งงูพิษก็สอดเข้าไปด้านในฉกชิงความหอมหวานจากโพงปากอุ่นๆ นั่น แล้วอ้าปากครอบครองกลีบปากอวบอิ่มอย่างย่ามใจ

“อื้อ!!”

จับข้อมือเล็กทั้งสองข้างตรึงขึ้นเหนือหัว มืออีกข้างที่ว่างลูบที่ต้นขาผ่านอาภรณ์บางๆ จับยกเรียวขาสวยขึ้นจนอาภรณ์ทิ้งตัวลงเผยผิวขาวๆ ผ่านการขัดเนื้อขัดตัวมาเป็นอย่างดี ก่อนจะใช้มือเรียวสวยลูบผิวของนางอย่างเชื่องช้า

ในขณะเดียวกันนั้นริมฝีปากไม่ผละออกแม้แต่นิดเดียว คล้ายกับหากถอนริมฝีปากออกแล้วจะขาดใจตายอย่างไรอย่างนั้น เรียวลิ้นร้ายเกี่ยวกระหวัดรัดรึงลิ้นเล็กๆ บดเคล้าอย่างหนักหน่วง ไม่ปล่อยโอกาสให้นางได้สูดลมหายใจบ้างเลย

นางขอถอนคำพูดเรื่องที่คิดว่าจินหมิงเยว่จะไม่ข่มเหงนางได้หรือไม่!?

ร่างกายของนางถูกพันธนาการอย่างร้ายกาจ แม้ท่าทีจะนุ่มนวลหากแต่เมื่อนางขยับ กลับมิอาจขยับร่างกายได้ตามใจ ร่างกายของบุรุษไม่ต่างจากหินผา ราวกับนางติดอยู่ในซอกหินไร้หนทางออก

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 36 รักผู้ใดมากกว่า

    บทที่ 36รักผู้ใดมากกว่า“ข้าขอแนะนำตัวอีกครั้ง ข้ามีนามว่าจินหมิงอัน เป็นบุตรชายของพวกท่านในชาติภพหนึ่ง”แม้จะเป็นเรื่องที่รู้อยู่ก่อนแล้ว จากในห้วงแห่งความฝัน หากทว่าก็อดที่จะตกใจมิได้ที่อยู่ดีๆ ก็มีบุตรชายเติบโตอย่างงดงามเช่นนี้แล้ว“ท่านพ่ออาจจะจำข้ามิได้ ทว่าท่านแม่...” ดวงตาของจินหมิงอันนั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง “ท่านจำข้าได้หรือไม่?”“ขออภัย ข้า...”“อ่า เป็นเช่นนั้น...” บุรุษหยักหน้าอย่างเชื่องช้า รู้ดีที่สุดว่านางคงไม่มีทางจำได้ หากแต่ยังคงคาดหวังจินหมิงอันเมื่อครั้นสูญเสียมารดานั้น ก็เป็นเพียงเด็กน้อยเท่านั้น เขายังสูงแค่เพียงอกของมารดาแต่กลับต้องขึ้นเป็นผู้นำดินแดน แบกรับความกดดัน แบกรับความเศร้าเสียใจจากการสูญเสียมารดาอย่างไม่มีวันหวนกลับมา เขาก็แค่...เด็กน้อยผู้หนึ่งที่คิดถึงไออุ่นของมารดาเท่านั้นเองช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาแม้มิได้อยู่ผู้เดียว มีท่านลุงซึ่งเป็นเทพอยู่บ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 35 ฝันเสมือนจริง

    บทที่ 35ฝันเสมือนจริงฟางเหนียงรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่อยู่ภายในกายของนาง ความแข็งแกร่งของบุรุษเพศที่แทบจะทะลุทะลวงช่วงท้องของนาง ความเจ็บปวดที่ถูกทำลายเยื่อพรหมจรรย์เมื่อครู่ แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านในฉับพลัน นางเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรง กลัวว่าจะเอื้อนเสียงอันน่าอายออกมาทว่ายิ่งบุรุษเร่งกระหน่ำเอวระรัว ราวกับมิอาจต้านทานมันได้จึงเผลอร้องครางเสียงหวาน นางยกมือขึ้นปิดปากด้วยความอับอาย แต่ก็ถูกจินหมิงเยว่คว้าข้อมือเล็กทั้งสองข้าขึ้นตรึงเหนือหัว พร้อมทั้งถาโถมสะโพกใส่นางไม่ยั้ง ราวกับเรียกร้องให้นางร้องครางออกมาดังๆ“อ๊ะ อ๊ะ ท่านพี่ อึก”“ข้าชอบเสียงของเจ้า ร้องสิ ร้องออกมาดังๆ”“อื้อ อ๊า นะ เหนียงเอ๋อร์ อาย อึก อายเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นข้าจะช่วยมิให้เจ้าร้องออกมาชั่วคราว” เอ่ยจบก็ประกบริมฝีปากดูดกลืนเสียงหวานลงคอไป เพื่อช่วยมิให้นางครวญคราง แม้ว่าบุรุษจะชอบเสียงหวานครางกระเส่าก็ตามเร

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 34 คืนวสันต์

    บทที่ 34คืนวสันต์หลังจากปรับความเข้าใจกันได้แล้ว จินหมิงเยว่ก็เทียวมาเที่ยวเล่นที่จวนสกุลฟางทุกครั้งที่มีเวลา กระทั่งถึงคราวผลัดเปลี่ยนอำนาจ ไท่จื่อได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ งานของจินหมิงเยว่ก็หนักขึ้นกว่าเก่าแต่ก็เป็นเกียรติกับวศ์ตระกูลวันหนึ่งจินหมิงเยว่มาหาฟางเหนียงเฉกเช่นที่ผ่านมา พูดคุยและดื่มน้ำชากับนางไม่ต่างไปจากวันอื่น ทว่าข่าวดีก็คือทั้งสองสกุลตกลงวันแต่งงานของพวกเขาได้แล้วงานแต่งงานของทั้งสองนั้นจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ผู้คนต่างเข้ามาร่วมยินดี เพราะคนทั้งคู่ต่างเป็นที่รักของคนในเมืองยามนั้นเองบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามาภายในงานเลี้ยงมงคล บุรุษรูปงามจนน่าตกละลึง งดงามเสียจนราวกับไม่มีอยู่ในโลกใบนี้ ฟางเหนียงเผลอจ้องมองอย่างเสียมารยาท เมื่อเกิดความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ก่อนจะสะบัดความคิดนั้นทิ้งไป หากเป็นคนที่นางเคยเจอไม่มีทางที่จะจำมิได้เป็นแน่ ก็รูปร่างหน้าตาโดดเด่นถึงเพียงนี้“อะแฮ่ม!” จินหมิงเยว่กระแอ่มไอ เมื่อเห็นฟางเหนียงจ้องมองบุรุษรู

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 33 ให้โอกาสข้าได้หรือไม่

    บทที่ 33ให้โอกาสข้าได้หรือไม่จวนสกุลจินนี่เป็นครั้งแรกที่จินหมิงเยว่พิถีพิถันในการเลือกชุดที่จะสวมใส่ในวันนี้ กว่าจะออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบก็ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจินหมิงเยว่ก็เตรียมตัวที่จะออกจากจวน หากแต่ทหารในสังกัดของไท่จื่อก็ได้มารายงานบางอย่างให้กับบุรุษ จินหมิงเยว่ขมวดคิ้ว ใบหน้าเคร่งเครียด...เหตุใดต้องเป็นตอนนี้ด้วย!...ท้ายที่สุดบุรุษก็รีบเดินทางไปยังพระราชวัง!ไท่จื่อเรียกจินหมิงเยว่มาอย่างกะทันหัน เนื่องจากได้รับข่าวจากทหารเฝ้ายามว่าพบเจอกับโจรป่าดักซุ่มจากการสอดแนมพบว่าพวกมันเตรียมที่จะบุกเข้าไปในเมืองหลวง ปั่นป่วนงานเทศกาลหยวนซีที่กำลังครึกครื้นไปด้วยอิสตรี อีกทั้งยังวางแผนที่จะลักพาตัวพวกนางได้ ได้ยินเช่นนั้นจินหมิงเยว่ก็มิอาจนิ่งเฉยได้ เพราะผู้ที่อาจจะถูกลักพาตัวอาจจะมีฟางเหนียงรวมอยู่ด้วย ได้แต่หวังว่านางจะไม่รอเขาและไปเที่ยวงานเทศกาลอย่างสนุกสนานจินหมิ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 32 เฝ้ารอ

    บทที่ 32เฝ้ารอวันต่อมา ณ จวนสกุลฟางงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของฟางเหนียงถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ทว่าฟางเหนียงเป็นสตรีน่าเอ็นดู และมีจิตใจดีและอ่อนโยนกับคนรอบข้างเสมอผู้คนต่างมาร่วมงานเลี้ยงนี้พร้อมกับของขวัญมากมาย นางได้รับความรักมากมายเหลือเกิน กระทั่งจินหมิงเยว่เดินเข้ามาในงานซึ่งส่วนใหญ่มีแต่สหายของฟางเหนียง“เหนียงเหนียง นั่นคือใครน่ะ?”“เขาช่างรูปงามเหลือเกิน”“นั่นมันบุตรชายสกุลจินมิใช่หรือ?”ฟางเหนียงหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนจะละจากทุกคนแล้วเดินไปต้อนรับจินหมิงเยว่ โดยมีสาวใช้ประคองเนื่องจากข้อเท้าของนางยังไม่หายดีสตรีตัวน้อยเตรียมที่จะคำนับบุรุษหากแต่จินหมิงเยว่กลับดึงเก้าอี้มาไว้ที่ด้านหลังของนางแล้วประคองให้นั่งลง พลางเอ่ยเสียงเบาอย่างเอาใจใส่“นั่งเถิด เจ้าบาดเจ็บอยู่ พิธีรีตองอะไรข้าไม่ถือสาหรอก อย่างไรก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว” บุรุ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 31 แรกพบสบตา

    บทที่ 31แรกพบสบตาหลังจากนั้นไห่ไท่หยางก็พานางไปยังพระราชวัง ก่อนที่บุรุษจะเดินหนีหายไป…ระหว่างที่ดำเนินการสำเร็จโทษนางนั้น ฟางเหนียงก็ได้ร่ายอาคมเพียงผู้เดียวเงียบๆ ยามนั้นท้องฟ้าแปรเปลึคล้ายกับจะเกิดพายุลูกใหญ่ ผู้คนต่างคิดว่ามันคือลางร้ายในที่สุดฟางเหนียงก็ร่ายอาคมสำเร็จ ลูกแก้วจิ้งจอกกำลังสูญสลายไปจากกายของนาง ความเจ็บปวดจากพิษงูที่แล่นพล่านอยู่ในร่างกายของนางชัดเจนขึ้นเรื่อย งูยักษ์ที่รู้สึกได้จึงเปิดเผยตัวตนกระโจนเข้าไปหมายจะแย่งลูกแก้วจิ้งจอก แต่ก็ถูกไห่ไท่หยางใช้ธนูอาบยาพิษพิเศษ เพื่อกำจัดปีศาจงูโดยเฉพาะยิ่งเข้าที่กลางหัวงูยักษ์ในร่างมนุษย์กลับคืนร่างเดิมสร้างความตกตะลึงให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ไห่ไท่หยางไม่รอช้ารีบเข้าทูลต่อฝ่าบาทและไท่จื่อเกี่ยวกับเรื่องราวในครั้งนี้ที่เขาทำไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นละครตบตา!!คืนก่อนมีบุคคลปริศนาบุกเข้ามาที่ห้องของไห่ไท่หยาง บุรุษเสียท่าให้มันจนโดนจับตัว ในตอนที่คิดว่าคงหมดหนทางแล้วกลับเจอกับบุ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status