LOGINตอนที่ 3 เจอหน้า
ครืด ครืด ครืด
แรงสั่นในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพอเห็นชื่อปลายสายที่กระหน่ำโทรเข้ามา แม้จะปล่อยผ่านมาหลายครั้งก็ตามแต่ก็ต้องตัดสินใจยอมรับสาย
“ครับป๊า”
“แกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ฉันโทรหาแกตั้งหลายสายทำไมไม่รับ” น้ำเสียงโมโหตะคอกดังแผดลั่นทันทีที่รับสาย
“ไม่ว่างครับ”
“พรุ่งนี้แกมาหาฉันที่บ้านด้วย”
“ผมก็บอกว่าผมไม่ว่าง”
“แกอย่ามาขัดคำสั่งฉัน”
“…”
“ฟิน แกยังฟังฉันอยู่ไหม”
“อือ ฟังอยู่”
“อย่าจองหองให้มาก ฉันให้แกทำอะไรแกก็ต้องทำหรืออยากให้แม่แกกับน้องแกลำบาก ฉันจะไม่ส่งเสียเงินเลี้ยงดูพวกแกก็ได้นะ”
“แล้วสิ่งที่ป๊าทำทุกวันนี้ทุกคนยังทุกข์ใจไม่พอหรอ แล้วอีกอย่างพวกผมไม่ต้องการเงินจากป๊าหรอก และเงินที่ป๊าโอนให้มาแต่ละเดือนยังอยู่ครบ เราไม่เคยใช้เงินที่ป๊าให้มาสักบาท จะให้ผมโอนคืนก็ได้นะ”
“ไอ้ฟิน!”
“แค่นี้นะ พรุ่งนี้จะเข้าไป”
ผมตัดสายทิ้งทันทีแล้วยัดโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิมแต่พอจะก้าวเดินไปยังรถที่จอดอยู่ ก็เจอกับใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และผมมั่นใจว่าเธอคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
“ฉันไม่ได้ยินอะไรเลยนะคะ”
“ผมยังไม่ได้ถามเลย”
“ก็สายตาคุณตำหนิฉันเสียขนาดนั้น”
สายตาคมไล่มองดาวเด่นของคลับอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ผิดหูผิดตาจากผู้หญิงเซ็กซี่ ร้อนแรงในชุดคอร์สเพลย์แมวก่อนหน้า ใบหน้าสวยไร้เครื่องสำอางดูเกลี้ยงเกลา อ่อนเยาว์เหมือนเด็กมัธยมปลายจนแทบจำไม่ได้
“อายุถึงยี่สิบหรือยังมาทำในคลับแบบนี้”
“ถึงค่ะ แค่หน้าเด็กเฉยๆ”
“หลงตัวเอง”
“เปล่าสักหน่อย ใครๆ ก็พูดแบบนี้” ร่างบางไหวไหล่เอ่ยตอบไม่ยี่หระ ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบแล้วเดินไปทางหน้าคลับเพื่อเรียกรถแท็กซี่
“หึๆ”
“ขอตัวนะคะ แล้วเมื่อกี้แค่ผ่านมา ไม่ได้ยินในเรื่องที่คุณพูดกับปลายสายหรอก”
“เดี๋ยว”
“อะไรคะ”
“เราเคยเจอกันมาก่อนไหม”
“มุกจีบหรอ? คิดมาใหม่นะคะมันไม่เวิร์ค”
“จะให้ถามว่าเท่าไร...แบบนี้หรอ”
เท้าเรียวชะงักกึกหันมองคนพูด ท่าทางก็ดูเรียบร้อย สุภาพ ใส่แว่นดูเนิร์ดๆ แต่คำพูดคำจากลับเจ้าเล่ห์ และกวนประสาทน่าตบสักทีสองที เสียแรงที่ก่อนหน้าชมว่าหล่อ ขอเอาคำพูดคืน ตอนนี้จะทันไหม
“หมายความว่าไง”
“ตามที่พูด”
“อย่ากวน...”
“ไม่ได้กวน จริงจัง”
“เอาจริงๆนะ เราเป็นพวกเดียวกัน ไม่น่าจะเหมาะหรอกมั้ง ถ้าได้กันเอง” ร่างบางเอ่ยปฎิเสธน้ำเสียงยียวนก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น “คุณว่าจริงไหม”
“ยังไม่ได้ลองเลย”
“ไม่เคยได้ยินหรอเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้”
“งั้นเสือกับเสือลองมาเจอกันหน่อยไหม จะได้รู้ไงว่าคำพูดติดปากพวกนี้จะเป็นจริงได้หรือไม่ได้”
“ถ้าเจอผู้ชายแบบคุณ ขอไม่ลองดีกว่า มีแต่เสียกับเสีย”
“หึๆ ไม่กล้าหรอ”
“ไม่อยากยุ่งมากกว่า ขอตัวนะคะ”
ผมหัวเราะในลำคอเสียงเบา พร้อมกับยกมือขึ้นลูบปลายคางอย่างใช้ความคิดจ้องมองตามแผ่นหลังบางจนสุดสายตา
“เจอของถูกใจเข้าแล้วสิไอ้ฟิน”
@มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง
“เป็นอะไรวะจันทร์เจ้า” ฟาริญหรือข้าวฟ่างเพื่อนสนิทที่เจอกันตั้งแต่วันแรกในวันปฐมนิเทศและโชคดีที่เรียนคณะบริหารเหมือนกันและสาขาเดียวกัน ฉันจึงคบเป็นเพื่อนตั้งแต่นั้นมา แม้อีกคนจะรวยล้นฟ้า แต่กลับไม่ถือตัวยอมคบกับเธอที่เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆเป็นเพื่อน
“เซ็ง”
“เรื่อง?”
“เรื่องเดิมแหละ”
“เจอแขกชวนรับงานบนเตียงหรอ” ฟาริญเอ่ยถามพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมหยิบขนมเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ
“อือ หล่อนะดูเนิร์ดๆ แต่พออ้าปากพูดเท่านั้นแหละแบดบอย คาสโนว่าตัวพ่อเลยล่ะ”
“เจอทุกวัน ไม่ชินหรือไง”
“ใครชินก็บ้าแล้วข้าวฟ่าง”
“เอาจริงก็อยากออกไปทำแบบแกบ้างนะ ดูน่าสนุกดีเป็นประสบการณ์ชีวิต”
“โอ้ หยุดความคิดแกเลยเพื่อน เป็นคุณหนูข้าวฟ่างแบบนี้แหละดีแล้ว มีแต่พวกเสือ พวกสิงห์ แบบแกไม่เหมาะหรอก”
“เสือ สิงห์ ผู้ชายเจ้าชู้ถึงไม่เข้าผับก็เจอป่ะจันทร์เจ้า”
“ก็จริงของแก”
“แหม่ๆ จันทร์เจ้า เธอพูดเหมือนไม่รู้จักตัวตนของคุณหนูข้าวฟ่างเลยนะ” แซนดี้หรือชรันณ์เพื่อนสนิทชายใจหญิง ลูกคนเดียวของเจ๊กุ้งเจ้าของแผงลอตเตอรี่รายใหญ่ที่รู้จักกับเธอตั้งแต่มัธยมต้นเดินนวยนาดเข้ามาทันได้ยินพอดิบพอดี จึงจีบปากจีบคอพูดขึ้น
“พวกแกมองฉันในแง่ร้ายเกินไปแล้ว” ฟาริญโอดครวญเสียงแผ้ว ใบหน้าสวยมุ่ยลงเล็กน้อย
“มองถึงตัวตนลึกๆของหล่อนต่างหากย่ะข้าวฟ่าง”
“เฮ้อ อยู่บ้านก็ถูกคุณยายสอนกรองมาลัย ร้อยดอกไม้ ทำอาหารคาวหวานแบบฉบับชาววัง ออกมาข้างนอกก็ให้เป็นตัวเองหน่อยเหอะ”
“อยากจะโทรฟ้องยายหล่อนจังเลย ว่าหลานสาวผู้เรียบร้อยดั่งผ้าที่พับไว้ได้แปลงร่างเป็นสาวน้อยผู้แสนซนไปเสียแล้ว”
“ถ้าโทรนี่คือใจร้ายมากนะแซนดี้”
“ล้อเล่นย่ะ ใครจะกล้ารังแกเพื่อน” ชรันณ์หัวเราะออกมาเสียงเบาเมื่อแกล้งยียวนอีกฝ่ายได้ ก่อนจะหันมาถามเพื่อนสนิท ที่ตั้งแต่มัธยมต้นเกาะกันแน่นหนึบกันมาจนขึ้นมหาวิทยาลัย “อ่ะแล้วนี่เป็นอะไร นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเลย”
“เซ็ง”
“แกก็ทำใจให้ชินได้แล้วจันทร์เจ้า วันๆแกต้องเจอคนหลายรูปแบบอย่าเอามาใส่ใจเลย บางคนเป็นคนแต่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องก็มีถมเถไป บางคนมันก็เลวเกินที่จะแยกแยะอะไรได้ เลยมีพวกที่มาราวีแกแบบนี้เนี่ยแหละ”
แปะ แปะ แปะ
“ขอยกย่อง วันนี้พูดดี” ฟาริญพูดเย้าเสียงขำ
“แน่นอน สวยขนาดนี้ มงต้องลงแล้วป่ะ” ชรันณ์ลอยหน้าลอยตาตอบพร้อมกับยกมือขึ้นรับมงกุฎประกอบท่าทาง
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊งๆๆๆ
“โอ้ว แม่เจ้าใครรัวแชทมาขนาดนั้นจันทร์เจ้า”
“เห้อ” จิณห์วราถอนหายใจยาวเหยียดพร้อมก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองที่กำลังสั่นสะท้าน “พฤกษ์แม่งก็แชทมาทุกวี่ทุกวัน”
ฉันวางโทรศัพท์เครื่องหรูที่กัดฟันซื้อมือสองมาในราคาหลายหมื่นกระแทกวางบนกองหนังสือด้วยความหงุดหงิด
“ขอดูหน่อยนะ” ชรันทร์หยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาดู ส่วนฟาริญก็รีบชะโงกหน้าไล่สายตาอ่านข้อความนับสิบๆข้อความ
‘อยากเลิกเป็นคนเหงา เปลี่ยนมาเป็นของเราได้นะ’
‘เบอร์ได้แล้ว ไลน์ได้แล้ว เมื่อไรจะได้เธอมาเป็นแฟนหนอ’
“มันไปหามุกจีบมาจากไหนเยอะแยะวะ” ชรันทร์เปรยขึ้นเสียงเบา
“นั่นดิ เลี่ยนมาก” ฟาริญเอ่ยตอบก่อนจะเลื่อนดูข้อความอื่นๆต่อ
‘ช่วงนี้ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยอ่ะ สงสัยไปอยู่กับเธอหมดแล้ว’
“โอ้เธอ หวานเจี๊ยบ” ฟาริญเอ่ยขึ้นเสียงเบาก่อนจะช้อนตาขึ้นมองหน้าเจ้าของโทรศัพท์ “ไม่คิดจะใจอ่อนให้มันบ้างเหรอจันทร์เจ้า พฤกษ์มันก็หล่อนะ คารมก็ดี”
“จริงคารมดี รูปก็หล่อ ฮอตก็ฮอต ใครบ้างจะไม่รู้จัก พฤกษ์
วิศวะโยธา หนุ่มหล่อ ขี้เล่น ทะเล้น น่ารัก มีแต่คนอยากได้ไปเป็นแฟน เดินควงแขนสักวันคงมีความสุขดี อ๊าย! พูดแล้วคิดถึงหน้าหล่อๆเลยว่ะ อยากได้ๆ” ชรันณ์เอ่ยขึ้นยิ้มๆแววตาเหม่อลอยเป็นประกายระยิบระยับ“ลืมอีกข้อรึเปล่าแซนดี้”
“อะไร?”
“เจ้าชู้ตัวพ่อ”
“จะไปยากอะไร ถ้ามันจะนอกใจ ชิงทิ้งมันก่อนเหมือนทุกทีที่แกทำสิจันทร์เจ้า”
“ไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบรุ่นเดียวกันด้วย”
“ทำไม?”
“รู้ทันกันทุกเรื่อง”
“งั้นไปชอบเด็กไปอย่างน้องดิน หรือไม่ก็น้องแทนเดือนบริหารปีหนึ่ง”
“ไม่เอา เด็กกว่างอแงเก่ง ขี้เกียจโอ๋”
“งั้นไปคบคนอายุมากกว่า”
“ไม่เอา ตามไม่ค่อยทัน พวกนี้ประสบการณ์ชีวิตเยอะ เดี๋ยวโดนหลอกได้ง่ายๆ” จิณห์วราเอ่ยตอบพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“คบคนอายุมากกว่ากลัวเขาทิ้งแล้วจะเสียชื่อเสือสาวจอมหยิ่งยโส ก็บอกมาเถอะ แกคบใครไม่เกินสี่วันแม่งบอกเลิกหมด”
“ก็ดูแต่ละคนที่เข้ามาสิข้าวฟ่าง หวังแต่อะไรไม่รู้”
“งั้นเชิญแกอยู่แบบโสดๆสวยๆไปค่ะสาว” ชรันณ์เอ่ยขึ้นก่อนจะยกมือไล่ประกอบท่าทาง
“ก็ยังไม่เจอคนถูกใจสักทีไงแซนดี้”
“คงไม่มีหรอก เพราะฉันเห็นแกคบคนนั้นบอกเลิกคนนี้ ไม่เกินสามวันไปคบกับอีกคนหนึ่ง แบบนี้แล้วเมื่อไรจะเจอ”
“เอ้า ไม่ใช่ก็ต้องรีบตัดคู่แข่งดิ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จะมัวเสียเวลาทำไม แล้วแกดูแต่ละคนที่เข้ามา คุยไม่ถึงวันจะพาขึ้นแต่คอนโด จะลากขึ้นเตียงให้ได้ พวกนั้นคิดว่าฉันเป็นโคโยตี้ เป็นเด็กนั่งดริ๊งก์อยู่ในคลับแล้วคิดว่าจะง่ายไง มันก็หวังเคลมฉันกันทั้งนั้นแหละ”
“แค่นี้เขาก็ขนานนามว่าแกเป็นคาสโนวีตัวแม่ แม่เสือสาวที่ชอบหักอกผู้ชายเล่นเป็นชีวิตจิตใจแล้วนะ”
“โนสนโนแคร์ค่ะสาว ไม่ดีก็แค่ทิ้งป่ะ คนอื่นจะพูดไงก็แล้วแต่ดิ”
“เห้อ ฉันล่ะกลัวเหลือเกินพวกโค้ชเก่งๆ เจอของจริงตกม้าตายทีหลังกันทุกราย”
“ไม่มีวันนั้นหรอข้าวฟ่าง ฉันมีภูมิต้านทานด้านนี้ดีและชีวิตนี้ ฉันไม่เคยคิดรักใครด้วย”
“จ้า ตอนนี้ก็พูดได้เพราะยังไม่เจอความรักจริงๆมากกว่า” ฟาริญพยักหน้ารับเพราะจิณห์วราทำงานในสถานบันเทิงเจอผู้คนมากมายหลายแบบทำให้ไม่กล้าที่จะรักใคร แต่ก็เก่งที่เอาตัวรอดออกจากดงเสือมาได้ทุกครั้ง
“ก็คงงั้นมั้ง” จิณห์วราเอ่ยรับอย่างไม่ใส่ใจเพราะไม่คิดที่จะรักใครอยู่แล้ว ยิ่งเธอทำอาชีพนี้ใครจะมารักจริง…ชาตินี้คงไม่มี
“เออ ฉันเห็นด้วยกับที่ข้าวฟ่างมันพูดนะ เจอของจริงระวังน้ำตาจะเช็ดหัวเข่าล่ะ” ชรันณ์พูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย
“คงยาก”
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ขึ้นเรียนเหอะ เดี๋ยวสาย” ชรันณ์ก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วรีบลนลานเก็บของเพราะอีกไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว
“อือๆ”
ตอนที่ 14 ไถ่โทษในเวลาต่อมารถคันหรูจอดสนิทในลานจอดรถชั้นใต้ดินคลับ TRADA เธอก็รีบเปิดประตูลงทันที“จันทร์เจ้า”“แยกกันตรงนี้นะคะ จันทร์เจ้าไม่อยากเป็นขี้ปากคนอื่น”“ยังไม่หายโกรธอีกหรือไง”“ค่ะ” เธอตอบเสียงสะบัดก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องแต่งตัวแต่ยังไม่ทันก้าวพ้นประตู เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เธอต้องหันกลับไปมอง “คุณจันทร์เจ้าครับ” “มีอะไรหรือเปล่าคะ” บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ทางเข้าสำหรับพนักงานเรียก เธอจึงหันไปมองด้วยความแปลกใจแล้วเลิกคิ้วขึ้นถาม “เฮียฟินแจ้งไว้ว่าก่อนเข้างานให้ขึ้นไปพบที่ห้องทำงานชั้นบนด่วนครับ” “ขอบคุณนะคะ” ฉันก้มหัวขอบคุณเล็กน้อยแล้วเดินเข้าห้องแต่งตัวทันที ไม่สนใจคำสั่งคนเบื้องบนเพราะยังโมโหที่อีกฝ่ายเป็นเหตุทำให้โทรศัพท์เธอพังไม่หาย “เป็นอะไรจันทร์เจ้า หน้ามุ่ยมาเชียว” “หงุดหงิดคนค่ะพี่ส้มใส” “เอ๊ะ เป็นหนุ่มคนไหนหนอ” ส้มใสยิ้มแซว “ไม่ต้องแซวเลย ไปแต่งตัวดีกว่า” คล้อยหลังเธอไม่นานเฟิร์นเลขาผู้จัดการของเนตรทรายวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาภ
ตอนที่ 13 ความลับ (แตก)@มหาวิทยาลัย“จันทร์เจ้า”“อุ๊ย พฤกษ์ตกใจหมดเลย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ร่างบางชะงักหันไปมองคนเรียก“มีอะไร”“คิดถึง”“ไม่ต้องมาอ่อยเหยื่อ เพราะไม่ติดกับแน่นอนจ้า”“ใจแข็งวะ” พฤกษ์โอดครวญแต่ใบหน้ากลับยิ้มกว้างแววตาแพรวพราวตามประสาผู้ชายเจ้าชู้“เดี๋ยวเดินไปส่งคณะ”“ไม่ต้องก็ได้ ไม่เดินหลงหรอก”“เมื่อกี้ใครมาส่ง”“อะไรใครมาส่ง ไม่มี๊” ฉันมองหน้าเขาด้วยความตกใจก่อนจะโบกมือ ส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน“โกหก”“วินมั้ง”“วินขับรถหรูเนาะ”“แก๊ปมาส่ง”“ไม่เนียน”“ไม่มีอะไร”“ลูกค้ามาส่งหรอ”“ก็รู้ว่าไม่รับงานบนเตียง”“ไม่ใช่ ก็คิดว่าลูกค้าที่รับงานกินข้าวด้วยไง”“เออ ใช่ๆ แต่อันนี้ไม่ใช่กินข้าว แต่แค่ให้นั่งมามหาลัยพร้อมกัน วิธีบอกเลิกสาวแต่สาวไม่ยอมเลิก ตอแยไม่หยุดเลยใช้วิธีนี้” อยากกราบสมองที่ผุดไอเดีย คำพูดแก้ตัวได้สดๆร้อนๆ“เชื่อยาก”“เอ้า ไม่เชื่อจะให้อธิบายทำไมไม่รู้”“พยายามจะเชื่อแล้วกัน แล้ววันนี้เลิกเรียนกี่โมง”“วันนี้มีเรียนเต็มวัน 17.00 นู่นแหละบางทีอาจารย์ก็อาจปล่อยเลท”“เย็นนี้ไปกินข้าวกับป่ะ”“ไม่ว่าง ต้องรีบกลับไปทำงาน เดี๋ยวโดนเจ๊นาวกินหั
ตอนที่ 12 ติดใจเหยื่อ “ไอ้ฟินๆ”“มีอะไร”“น้องคนเมื่อกี้ใครวะเห็นเดินออกไปพร้อมเจ๊มะนาว โคตรน่ารักเลย” นาวินทร์ที่เปิดประตูเข้ามารีบเปิดปากถามเพื่อสนิททันทีด้วยความตื่นเต้น “กูว่าน้องเขาหน้าตาคุ้นๆ” เด่นภูมิพูดขึ้นเพราะเขาเองก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอที่ไหนสักที่ แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก“ดาวคลับ TRADA ไง จำไม่ได้เหรอ”“มึงอย่ามาอำไอ้ฟิน”“จริงครับคุณภูมิ คุณวินทร์ ผมคอนเฟิร์มได้ว่านั่นน่ะน้องจันทร์เจ้าตอนไม่แต่งหน้า ดูน่ารักมากๆเลยใช่ไหมล่ะครับ” ตฤณที่พูดยิ้มๆ ถึงกับชะงักกึกเมื่อเห็นสีหน้าผู้บริหารคนใหม่ตวัดตาดุมองจนเสียวสันหลังวาบ “ผมก็ชมน้องเขาปกติครับคุณฟิน ไม่มีอะไรเลยครับ”“มึงดูหวงๆนะไอ้ฟิน ความสัมพันธ์พัฒนาก้าวกระโดดหรอ”“เปล่า”“มีพิรุธฉิบหาย”“ดูเชิงเขา โดยการปลอมเป็นเหยื่อ สุดท้ายทำได้ไม่นานเจอความน่ารักของเสือสาวเข้าไปใจเหลวอ่ะดิมึง” นาวินทร์พูดเย้าเพื่อนสนิทที่นานๆทีจะเห็นมันถูกใจใครสักคนจนตาเป็นประกายวาววับ“พูดมากนะพวกมึง แล้วมาทำไม”“มาเที่ยวดิ ถามแปลกๆ มาคลับมึงจะให้กูมารอใส่บาตรตอนเช้ามั้ง”“กวนตีนจังนะไอ้วินทร์” ปริชญ์บ่นเพื่อนพร้อม
ตอนที่ 11 เจ้านายคนใหม่หลายวันต่อมา @TRADA คลับ ในห้องแต่งตัวเหล่าสาวๆวุ่นวายอีกครั้งเมื่อข่าวใหม่ที่ได้รับมาสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับพวกเธอ ว่าเจ้าของคลับคนใหม่จะเป็นใคร จนอยากจะเลิกงานไวๆจะได้ยลโฉมหน้าสักที “เจ๊นาว ผู้บริหารคนใหม่คือใครเหรอคะ” “ลูกชายเสี่ยภุชงค์” “จะใจดีแบบเสี่ยไหมหนอ” “รอดูเอาเอง แต่บอกได้คำเดียวว่าหล่อลากไส้ เห็นครั้งแรกรับรองตะลึงจนตาค้างแน่นอน”“อ๊ายยย อยากเห็นๆ เขาเคยมาที่คลับเราไหมเจ๊หรือเขาไปเที่ยวโซนผับที่เปิดใหม่มากกว่า” ส้มใสเอ่ยถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น“มาแต่โซนคลับ แล้วบอกได้คำเดียวว่ามาบ่อยมาก ทุกอาทิตย์ พวกแกต้องเคยเห็นบ้างแหละ และเขาก็เข้ามาบริหารงานได้หนึ่งอาทิตย์แล้วด้วย”“จริงเหรอเจ๊”“ใช่ บางทีพวกแกอาจจะเจอแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาคือใครก็ได้”“หู้ว อยากเจอไวๆอ่า”“อ๋อ อีกเรื่องขอย้ำกับทุกคนอีกครั้งนะ เรื่องอายุของจันทร์เจ้า อย่ามีใครเผลอพูดออกไปเด็ดขาด” “มีอะไรหรือเปล่าเจ๊ ตำรวจจะลงหรอ หนูอายุยี่สิบแล้วไม่มีปัญหาแน่นอน” จิณห์วราที่เปิดประตูเข้ามาได้ยินทันพอดี จึงรีบ
ตอนที่ 10 ช่วยหน่อยนะ“เฮียฟิน มันร้อน จันทร์เจ้าอยากอาบน้ำ”“ใจเย็นๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ” แม้ปากจะเอ่ยบอกคนข้างๆ แต่ก็เหมือนบอกตัวเองไปกลายๆ เมื่อฝ่ามือนุ่มเริ่มไม่อยู่สุข ลูบไล้ไปตามอกกำยำและเลื่อนต่ำจนเกือบถึงความเป็นชาย“อือ”“นั่งดีๆก่อน”“มันร้อน ร้อนจนจันทร์เจ้าจะบ้าตายอยู่แล้ว”“มองหน้าเฮีย”ระหว่างที่จอดติดไฟแดง ปริชญ์รวบมือบางที่ขยุ้มเสื้อผ้าจนหลุดลุ่ยแล้วเพิ่มอุณหภูมิแอร์ให้เย็นขึ้น“เฮียฟิน”“จันทร์เจ้ากำลังถูกยาปลุกเซ็กส์เล่นงาน หนูกำลังไม่มีสติ ฉะนั้นต้องตั้งสติไว้ แล้วเฮียจะพาหนูกับห้องนะเด็กดี”“แต่จันทร์เจ้าทรมาน”“เฮียรู้ว่าจันทร์เจ้าทรมาน แต่หนูต้องอดทนนะ”“อือ” จิณห์วราพยักหน้ารับ สองมือผสานบีบจนแน่นเพื่อพยายามฝืนทนกับฤทธิ์ยาที่ปลุกความปรารถนาในกายจนร้อนฉ่าไปทั้งตัวราวกับถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อต“หนูไม่ไหวแล้ว”“อุ๊บ!”กลิ่นน้ำหอมผู้ชายผสมไปกับกลิ่นกายแสนหอมราวกับเป็นตัวกระตุ้นต่อยานรกให้ออกฤทธิ์รุนแรงขึ้น จนเธอคว้าลำคอหนาลงมาจูบด้วยความเงอะงะ“อื้อ”ลิ้นเล็กๆที่พยายามปัดป่ายไปมาราวกับเด็กน้อยพึ่งหัดจูบทำให้ความอดทนของเขาขาดสะบัน เผลอจูบตอบพลางสอดลิ้นพัวพันไปกับลิ้นเล็ก ฝ
ตอนที่ 8 เด็กเอ็นหนึ่งอาทิตย์ต่อมา“ใกล้ขึ้นเวทีแล้วมีใครเห็นจันทร์เจ้าไหม จันทร์เจ้าไปไหน” เนตรทรายวิ่งกระหืดกระหอบเมื่อใกล้เวลาแล้ว แต่ดาวเด่นของคลับยังไม่เห็นหัว “น้องบอกวันศุกร์ติดสอบ น่าจะกำลังมานะเจ๊ นั่นไงมานู่นแล้ว” เชอรี่พูดขึ้นพร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปทางคนมาใหม่ “ขอโทษนะเจ๊หนูรีบสุดๆแล้ว” “ทำไมมาช้า”“ติดสอบ แล้วอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกคุยอีก แถมเป็นวันศุกร์รถก็ยิ่งติดยาว เลยต้องนั่งวินมาให้พี่เขาเร่งสุดๆแล้วเนี่ย”“เออๆ ไปแต่งตัวไป ส่วนคนอื่นเตรียมตัวขึ้นเวทีได้แล้วจ้าสาวๆ”“ค่ะเจ๊” “สวัสดีครับทุกคน...” เสียงดีเจประจำคลับพูดสลับกับเสียงเพลงบีทหนักๆ พร้อมแสงสีสาดส่องไปทั่วบริเวณอย่างอลังการสมกับค่าบัตรสมาชิก “ยินดีต้องรับทุกท่านสู่ TRADA CLUB ครับผม ไป ไป ไปๆ” หลังจบคำพูดทักทายของดีเจเหล่าโคโยตี้สาวสวยต่างขึ้นมา กลางเวทีใหญ่ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ นักธุรกิจ ดาราไฮโซ ต่างยืนล้อมหน้าเวทีรูปตัวทีจนหนาแน่น สาวๆบนเวทีต่างวาดลวดลายในท่วงท่าเซ็กซี่ให้บรรดานักล่าข้างล่างเวทีเชยชม เรือนร่างแสนสวยก







![ความลับประธานหม้าย [20+ Soft BDSM]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)