LOGINตอนที่ 4 แฟนเก่า
@บ้านธนพัฒน์ธาดา
บ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านกลางพื้นที่หลายสิบไร่กลางเมืองหลวง โดยพื้นที่รอบๆถูกจัดแต่งสวนสไตล์อังกฤษเข้ากับตัวบ้านสีขาว แสงตะวันในช่วงเช้าสาดส่องยิ่งทำให้บรรยากาศรอบๆตัวบ้านร่มรื่น
ร่างสูงก้าวเดินเข้ามาในตัวบ้านที่ดูผิดไปจากเดิมจากบ้านที่เคยดูอบอุ่นมีพ่อแม่และลูกๆ ใช้เวลาร่วมกันในตอนนั้นมันเต็มไปด้วยความสุข แต่ตอนนี้กลับแทนที่ด้วยความเศร้าหมองไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็มีแต่ความว่างเปล่า
“คุณหนูของนม” ลาวัลย์หัวหน้าแม่บ้านในวัยเลขหกปลายๆ พาร่างท้วมสวมกอดคุณหนูที่เธอเคยช่วยคุณผู้หญิงของบ้านเลี้ยงดูตั้งแต่ทารกน้อยจนเติบโตเป็นหนุ่มหล่อ
“อย่าวิ่งครับนม จะลื่น หกล้มเอานะครับ”
“นมคิดถึงคุณหนูมากเลยค่ะ แล้วคุณผู้หญิงกับคุณหนูข้าวฟ่างมาด้วยไหมคะ”
“ไม่มาครับ”
“ทุกคนสบายดีไหมคะ”
“ทุกคนสบายดีครับ ข้าวฟ่างฝากของบำรุงมาให้เยอะแยะเลยครับ”
“ขอบคุณนะคะ น่าจะพาคุณหนูข้าวฟ่างมาหานมบ้าง ป่านนี้คงโตเป็นสาวสวยแล้วแน่ๆเลย”
“รายนั้นไม่ยอมมาง่ายๆหรอกครับ”
“เฮ้อ” ลาวัลย์ถอนหายใจทิ้งนึกถึงอดีตที่แสนเจ็บปวดจากครอบครัวที่อบอุ่นต้องมาพังทลายเพราะคนไม่รู้จักพอและผู้หญิงหน้าไม่อาย
“เรื่องมันผ่านมาแล้ว ตอนนี้คุณแม่ก็ทำใจได้แล้ว สีหน้าก็ไม่อมทุกข์เหมือนแต่ก่อนด้วย แล้วป๊าล่ะครับ”
“น่าจะอยู่ที่ห้องทำงานค่ะ คุณหนูนั่งรอในห้องนั่งเล่นก่อนนะคะ นมจะไปเรียนคุณท่านให้”
“ขอบคุณครับนม”
ระหว่างที่นั่งรอ สายตาคมไล่มองภาพถ่ายขนาดใหญ่ที่แขวนตรงมุมทางขึ้นบันไดเมื่อก่อนที่ตรงนั้นเคยเป็นภาพครอบครัวแต่ตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยภาพคู่รักต่างวัย
“อ้าวฟิน”
เสียงหวานอ้อแอ้ดังขึ้นพร้อมกับแขนเรียวสวมกอดที่เอวหนาไว้แน่นโดยไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะถูกร่างสูงแกะมือออกทันที
“อย่าทำตัวสนิทสนม เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ใครมาเห็นเขาจะเข้าใจผิด”
“ห่างเหินจัง รฐาก็ยังเป็นคนเดิมของฟินนะ” รฐาในชุดเกาะอกสีแดงกลิ่นเหล้าหึ่งขยับเข้าไปใกล้ร่างสูงมากขึ้น
“มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมหรอก” ปริชญ์ขยับตัวถอยห่างอย่างไร้เยื่อใยจนอีกคนหน้าม้าน
“รฐารักฟินนะ ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน”
“คนที่รักกัน เขาไม่แอบนอกใจกันหรอก” เสียงทุ้มพูดเสียงแข็งกร้าวมองหญิงสาวตรงหน้าที่เคยรักมากด้วยแววตาว่างเปล่า
“อ้าวหนูรฐากลับมาแล้วหรอ”
“กลับมาแล้วค่ะคุณลุง” รฐาเอ่ยตอบสามีใหม่ของผู้เป็นแม่ พร้อมกับขยับถอยจากร่างสูงของปริชญ์ทันที ก่อนจะมองไปรอบๆบ้านเมื่อไร้เงาของผู้เป็นแม่เหมือนทุกครั้งที่จะคอยตามติดประมุขของบ้านไม่ห่างสายตา ไม่ใช่แอบไปบ่อนเหมือนทุกครั้งนะ
“แม่ไปไหนหรอคะ”
“คงออกไปช็อปปิ้งกับเพื่อนๆ ของเขานั่นแหละ”
“อ๋อค่ะ” รฐาพยักหน้าเข้าใจ “ช่วงนี้คุณแม่ติดเพื่อน คุณลุงอย่าบ่นแม่รฐาเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกลุงเข้าใจ เขาก็ต้องมีสังคมของเขา ส่วนหนูรฐาก็ขึ้นไปพักผ่อนข้างบนก่อนเถอะ ลุงมีเรื่องต้องคุยกับลูกชาย” ภุชงค์เน้นคำสุดท้ายแล้วมองหน้าลูกชายสลับลูกติดภรรยาใหม่ เมื่อเห็นแววตาเปรี่ยมไปด้วยรักจากดวงตาคู่สวยของรฐาที่หันกลับมามองลูกชายเขาอย่างไม่ปิดบัง
“เรียกมามีอะไรป๊า” ปริชญ์เข้าเรื่องทันทีเมื่ออยู่กันสองคน
“แกลาออกจากตำแหน่งวิศวกรบริษัททำไม”
“พอดีจะดูแลร้านอาหารญี่ปุ่นของแม่ต่อ”
“ฮ่าๆ” ภุชงค์หัวเราะลั่น “ร้านอาหารที่กำลังจะเจ้งน่ะหรอ แล้วแบบนี้แกจะเลี้ยงดูแม่กับน้องแกได้ยังไง”
“ผมทำได้และมันต้องดีขึ้น ร้านนั้นแม่รักมาก”
“มากแล้วไงถ้าไปต่อไม่ได้รักมากแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องปล่อย”
“ผมสามารถปรับปรุงแล้วแก้ไขมันได้ ไม่ใช่เห็นว่าไปต่อไม่ได้แล้วสลัดทิ้ง แม้สิ่งๆนั้นมันจะยากก็ตาม”
“ไอ้ฟิน แต่ด่าฉันเหรอ ห๊ะ!”
“ผมพูดถึงร้านเฉยๆ” ปริชญ์พูดตอบเสียงราบเรียบ
“โอเคๆ” ภุชบค์สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับความโกรธแล้วพูดต่อ “เอางี้แล้วกัน ฉันจะยกคลับ TRADA ให้ถือว่าเป็นคำขอโทษที่ฉันทำไม่ดีกับแม่แกเอาไว้”
“มันทดแทนความเสียใจของแม่ไม่ได้เลยสักนิด”
“หึ แกคิดว่าร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้เจ้งของแม่แกมันจะเลี้ยงดูพวกแกได้หรอ หรือจริงๆแล้วแกมันกระจอกทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ถ้าแกหวังว่าจะเกาะยายแกกินไปจนตายก็แล้วแต่ บ้านผู้ดีเศรษฐีเก่ารวยที่ดิน และทรัพย์สินอยู่แล้วนี่” แต่ไม่เคยเห็นหัวลูกเขยแบบเขาเลย ขอที่ดินสร้างโรงงานอุตสาหกรรมก็ไม่เคยสนับสนุน
“ป๊า อย่าพูดถึงคุณยายด้วยน้ำเสียงแบบนี้นะ” ปริชญ์พูดเสียงแข็ง เพราะรู้ดีว่าผู้เป็นพ่อกับยายไม่ลงรอยกัน มีเรื่องบาดหมางกันก็หลายครั้ง
“อย่ามาสอนคนอย่างฉัน ฉันเป็นพ่อแก รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร”
“เข้าเรื่องต่อเถอะ มีอะไรก็พูดมาผมมีธุระต่อ”
“ฉันเองก็แก่ลงทุกวัน ฉันจะยกคลับ TRADA ให้แกบริหาร”
“ถ้าผมไม่เอาล่ะ”
“ฉันก็จะยกให้”
“ก็ได้ ถ้าอยากยกให้ผมก็จะรับไว้ แต่อย่ามาเรียกร้องคืนทีหลังแล้วกัน” ปริชญ์รับปากเพราะถ้าผมไม่รับไว้คนตรงหน้าก็คงคะยั้นคะยอไม่จบไม่สิ้น
“ฉันพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว แต่มีข้อแม้”
“มีข้อแม้อะไรก็พูดมา”
“คลับของฉันสร้างรายได้อย่างมหาศาลแต่หลังจากนี้จะเจ้งหรือจะรุ่งมันก็ขึ้นอยู่ที่แก ส่วนบริษัทแกกับน้องสาวแก ห้ามมายุ่งเกี่ยวอีกฉันจะให้ฤดีเข้าไปเรียนรู้งาน เพราะอนาคตฉันจะให้เธอขึ้นเป็นประธานบริษัทแทนฉัน ฉันเองก็อายุมากขึ้นทุกวันอย่างน้อยๆจะได้มีคนรับช่วงต่อ”
“ได้ ผมจะไม่มายุ่งหรือรบกวนป๊าอีก ให้ทนายร่างสัญญาเรื่องคลับขึ้นมาด้วย และหลังจากนี้ผม น้องและแม่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับคนในตระกูลธนพัฒน์ธาดาอีก”
“จองหอง ถ้าแน่จริงแกกับน้องแกก็เปลี่ยนไปใช้นามสกุลเก่าแม่แกด้วยเลยสิ”
“ได้” ปริชญ์รับคำเสียงเรียบ
“อวดดี”
“ป๊าบีบบังคับให้ผมเดินทางนี้เอง แล้วผมขอเตือนป๊าด้วยความหวังดี อย่าไว้ใจใครมากกว่าตัวเอง เพราะวันหนึ่งป๊าอาจจะไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่ครอบครัวเพราะวันนี้ป๊าได้ปล่อยมือจากพวกเราไปแล้ว”
“อย่ามาสั่งสอนคนแบบฉัน”
“ผมเตือนด้วยความหวังดี อีกอย่างป๊ายังรู้จักกับคุณฤดีไม่ถึงสองปีด้วยซ้ำ ยังไม่รู้จักตัวตนจริงๆเลย ป๊าเอาอะไรมาเชื่อใจมากกว่าแม่ที่อยู่ด้วยกันมากว่าครึ่งชีวิต”
“หึๆอย่าทำเป็นพูดดีไปหน่อยเลย หรือความจริงแกมีปัญหากับหนูรฐาเลยพาลมาลงที่แม่ของเขาที่เป็นเมียใหม่ฉัน”
“ผมไม่เคยคิด แค่อยากจะเตือนสติป๊า แล้วอีกอย่างรฐาก็แค่แฟนเก่า”
“แกไม่ต้องมาเตือนสติฉันหรอกฉันรู้ว่าฉันทำอะไรอยู่ แต่ถ้าแกอยากคืนดีกับหนูรฐา ฉันก็พร้อมจะช่วยแก” ภุชงค์เอ่ยขึ้นยิ้มๆ เมื่อเห็นแววตาอาลัยอาวรณ์ของลูกชายแม้จะเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น บางทีทั้งสองอาจจะยังรักกันอยู่ก็ได้
“มันจบไปนานแล้ว เลิกคือเลิก” ปริชญ์ตอบเสียงแข็งแม้ในใจจะเจ็บปวดคล้ายใครสะกิดแผลที่ยังไม่หายดีก็ตาม แล้วหันหลังเดินกลับทันทีก่อนจะชะงักเท้าหันกลับมามองผู้เป็นพ่ออีกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ “ป๊าอย่าหลงมัวเมากับคำหวานเมียใหม่มากเกินไปนะ ใครต่อใครเขาพูดอะไรก็ฟังบ้าง เพราะบางทีคนนอกเขาดูออก”
“ฉันรู้จักเมียฉันดี แล้วฉันก็อาบน้ำร้อนมาก่อนแก รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แกไม่ต้องมาสั่งสอนฉัน”
“โอเค ผมแค่เตือนด้วยความหวังดี” ผมเพียงรับคำของผู้เป็นพ่อเท่านั้น พูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นนอกจากจะทะเลาะกันเปล่าๆ จึงเดินเลี่ยงออกมา
ตอนที่ 5 อดีตฝังใจ ปริชญ์หลีกเดินออกมาทางห้องครัวเพื่อบอกลาแม่นมก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านหิรัญกุล แต่ในระหว่างที่เดินออกมานั้นกลับต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจออีกครั้ง ที่กำลังยืนกอดอกพิงเสาอยู่ริมทางเดินด้านนอกตัวบ้านที่เชื่อมกับห้องครัว “ฟิน รฐาขอคุยด้วยหน่อย” “มีอะไรก็พูดมา” “รฐาอยากขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น คืนนั้นรฐาเมามาก รฐาไม่ได้มีเจตนาจะนอกใจฟินเลยนะ” “สุดท้ายก็นอกใจอยู่ดีไม่ใช่เหรอ” “ก็ฟินไม่มีเวลาให้รฐาเลย วันๆทำแต่งาน ฟินรู้ไหมว่ารฐาต้องการความรักจากฟินมากแค่ไหน” “ผมรักคุณมาตลอด ไม่เคยนอกใจคุณเลยซักครั้งแล้วคุณล่ะต้องการรักแบบไหน หรือมากขนาดไหนถึงจะพอใจ ห๊ะ! รฐา ต้องมากแค่ไหนคุณถึงจะไม่หักหลังผม ไปแอบได้กับไอ้ทัชเพื่อนสนิทผม” “ขอโทษ…แต่วันนั้นทัชเป็นฝ่ายเข้าหา รฐาก่อน” “พอ! เพราะสุดท้ายคุณก็นอกใจผมอยู่ดี แต่ช่างเถอะเรื่องมันจบไปนานแล้วอย่ารื้อฟื้นขึ้นมาเลยและอีกอย่างผมลืมไปหมดแล้ว” “ฟินลืมความรักของเราจริงๆหรอ” “อืม” “ไม่จริง ฟินรักรฐ
ตอนที่ 4 แฟนเก่า@บ้านธนพัฒน์ธาดาบ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านกลางพื้นที่หลายสิบไร่กลางเมืองหลวง โดยพื้นที่รอบๆถูกจัดแต่งสวนสไตล์อังกฤษเข้ากับตัวบ้านสีขาว แสงตะวันในช่วงเช้าสาดส่องยิ่งทำให้บรรยากาศรอบๆตัวบ้านร่มรื่นร่างสูงก้าวเดินเข้ามาในตัวบ้านที่ดูผิดไปจากเดิมจากบ้านที่เคยดูอบอุ่นมีพ่อแม่และลูกๆ ใช้เวลาร่วมกันในตอนนั้นมันเต็มไปด้วยความสุข แต่ตอนนี้กลับแทนที่ด้วยความเศร้าหมองไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็มีแต่ความว่างเปล่า “คุณหนูของนม” ลาวัลย์หัวหน้าแม่บ้านในวัยเลขหกปลายๆ พาร่างท้วมสวมกอดคุณหนูที่เธอเคยช่วยคุณผู้หญิงของบ้านเลี้ยงดูตั้งแต่ทารกน้อยจนเติบโตเป็นหนุ่มหล่อ“อย่าวิ่งครับนม จะลื่น หกล้มเอานะครับ”“นมคิดถึงคุณหนูมากเลยค่ะ แล้วคุณผู้หญิงกับคุณหนูข้าวฟ่างมาด้วยไหมคะ”“ไม่มาครับ”“ทุกคนสบายดีไหมคะ”“ทุกคนสบายดีครับ ข้าวฟ่างฝากของบำรุงมาให้เยอะแยะเลยครับ”“ขอบคุณนะคะ น่าจะพาคุณหนูข้าวฟ่างมาหานมบ้าง ป่านนี้คงโตเป็นสาวสวยแล้วแน่ๆเลย”“รายนั้นไม่ยอมมาง่ายๆหรอกครับ”“เฮ้อ” ลาวัลย์ถอนหายใจทิ้งนึกถึงอดีตที่แสนเจ็บปวดจากครอบครัวที่อบอุ่นต้องมาพังทลายเพราะคนไม่รู้จักพอและผู้หญิงหน้าไม่อ
ตอนที่ 3 เจอหน้าครืด ครืด ครืดแรงสั่นในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพอเห็นชื่อปลายสายที่กระหน่ำโทรเข้ามา แม้จะปล่อยผ่านมาหลายครั้งก็ตามแต่ก็ต้องตัดสินใจยอมรับสาย“ครับป๊า”“แกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ฉันโทรหาแกตั้งหลายสายทำไมไม่รับ” น้ำเสียงโมโหตะคอกดังแผดลั่นทันทีที่รับสาย“ไม่ว่างครับ”“พรุ่งนี้แกมาหาฉันที่บ้านด้วย”“ผมก็บอกว่าผมไม่ว่าง”“แกอย่ามาขัดคำสั่งฉัน”“…”“ฟิน แกยังฟังฉันอยู่ไหม”“อือ ฟังอยู่”“อย่าจองหองให้มาก ฉันให้แกทำอะไรแกก็ต้องทำหรืออยากให้แม่แกกับน้องแกลำบาก ฉันจะไม่ส่งเสียเงินเลี้ยงดูพวกแกก็ได้นะ”“แล้วสิ่งที่ป๊าทำทุกวันนี้ทุกคนยังทุกข์ใจไม่พอหรอ แล้วอีกอย่างพวกผมไม่ต้องการเงินจากป๊าหรอก และเงินที่ป๊าโอนให้มาแต่ละเดือนยังอยู่ครบ เราไม่เคยใช้เงินที่ป๊าให้มาสักบาท จะให้ผมโอนคืนก็ได้นะ”“ไอ้ฟิน!”“แค่นี้นะ พรุ่งนี้จะเข้าไป”ผมตัดสายทิ้งทันทีแล้วยัดโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิมแต่พอจะก้าวเดินไปยังรถที่จอดอยู่ ก็เจอกับใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และผมมั่นใจว่าเธอคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว“ฉันไม่ได้ยินอะไรเลยนะคะ”“ผมยังไม่ได้ถามเลย”“ก็สายตา
ตอนที่ 2 โชคชะตาเล่นตลก ‘ใครจะไปทำ เหอะ ก็ฉันเนี่ยไงที่ทำ’ 2 ปีต่อมา ปัจจุบัน TRADA CLUB คลับหรูใจกลางเมืองย่านดังที่ใครๆต่างรู้จักเป็นอย่างดีถูกยกให้เป็นคลับอันดับหนึ่งที่เนืองแน่นไปด้วยนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมีตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงานจนถึงวัยกลางคน ที่มีอายุใกล้เลขห้าแต่ทุกคนที่เข้ามาได้จะต้องเป็นสมาชิกระดับวีไอพีขึ้นไปเท่านั้น ส่วนค่าสมัครสมาชิกก็แสนโหดแต่คนเหล่านี้ก็พร้อมจ่ายเพราะมันคุ้มค่าและดีที่สุดสำหรับผู้มาใช้บริการ ภายในคลับถูกจัดแบ่งโซนไว้เป็นสัดส่วนให้เลือกใช้บริการทั้งโซนหน้าเวทีใหญ่ ห้องคาราโอเกะขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่และเลาจ์สุดหรูไว้รองรับนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ “จันทร์เจ้า ทำไมวันนี้มาสายจังล่ะ” จิณห์วราในชุดนักศึกษาวิ่งหน้าตั้งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องแต่งตัว จากเด็กน้อยกระโปโลในวันนั้นเติบโตเป็นสาวสวยวัยสะพรั่ง เครื่องหน้าสวยครบสมบูรณ์แบบ เพราะถูกเนตรทรายหรือที่ใครๆในคลับเรียกเจ๊มะนาวเทรนงานให้จนกลายเป็นดาวเด่นของคลับ ที่ลูกค้าต่างหมายปองแต่กลับไม่เคยมีใครได้เ
ตอนที่ 1 บังเอิญเสียงกระทะกระทบกันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณริมฟุตบาทใกล้สถานบันเทิงชื่อดัง ก่อนที่เสียงเจ๊เจ้าของร้านตะโกนดังโวกเวก“จันทร์เจ้า เสิร์ฟข้าวโต๊ะแปดหน่อย”ใช่จ้า จันทร์เจ้าคือชื่อฉันเอง ผู้หญิงสู้ชีวิตคนหนึ่ง พ่อแม่ของเธอจากโลกนี้ไปเหลือเธอไว้บนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ตามลำพัง ปากกัด ตีนถีบพาชีวิตแสนลำเค็ญ กระเสือกกะสนเอาชีวิตให้รอดในแต่ละวัน ทุกอย่างปลูกฝั่งให้เธอเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ทันโลก และสู้คน“จ้า เจ๊”ร่างบางเพรียวระหง ผมสั้นปะบ่าสีน้ำตาลในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์พอดีตัว เอ่ยรับก่อนจะวิ่งไปหยิบจานข้าวกระเพราหมูสับ ไข่ดาวฟองใหญ่ใส่ถาดแล้วเดินเสิร์ฟตามโต๊ะวนลูปไปมาตั้งเฉกเช่นทุกวัน กว่าลูกค้าคืนนี้จะบางตาเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่เช้าวันใหม่“เห้อ วันนี้ลูกค้าเยอะจัง”“วันศุกร์ก็แบบนี้แหละ คนมาเที่ยวกัน เที่ยวเสร็จต่อด้วยข้าวเป็นธรรมดา” ดาด้าเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้มบีบนวดต้นขาตัวเอง “ดูสิเนี่ยจันทร์เจ้า ทำไมแกต้องมาทนเหนื่อยแบบนี้ด้วย พี่บอกให้แกลองไปแคสติ้งหรือไปทำงานบนห้างก็ไม่ไปเผลอๆ ได้เงินเยอะกว่าด้วยนะ”“โอ๊ยพี่ด้า ฉันก็หน้าตาธรรมดาบ้านๆ ใครเขาจะมามอง”“เจ๊เห็นด้วยกับดาด้ามัน







