LOGINตอนที่ 5 อดีตฝังใจ
ปริชญ์หลีกเดินออกมาทางห้องครัวเพื่อบอกลาแม่นมก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านหิรัญกุล แต่ในระหว่างที่เดินออกมานั้นกลับต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจออีกครั้ง ที่กำลังยืนกอดอกพิงเสาอยู่ริมทางเดินด้านนอกตัวบ้านที่เชื่อมกับห้องครัว
“ฟิน รฐาขอคุยด้วยหน่อย”
“มีอะไรก็พูดมา”
“รฐาอยากขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น คืนนั้นรฐาเมามาก รฐาไม่ได้มีเจตนาจะนอกใจฟินเลยนะ”
“สุดท้ายก็นอกใจอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”
“ก็ฟินไม่มีเวลาให้รฐาเลย วันๆทำแต่งาน ฟินรู้ไหมว่ารฐาต้องการความรักจากฟินมากแค่ไหน”
“ผมรักคุณมาตลอด ไม่เคยนอกใจคุณเลยซักครั้งแล้วคุณล่ะต้องการรักแบบไหน หรือมากขนาดไหนถึงจะพอใจ ห๊ะ! รฐา ต้องมากแค่ไหนคุณถึงจะไม่หักหลังผม ไปแอบได้กับไอ้ทัชเพื่อนสนิทผม”
“ขอโทษ…แต่วันนั้นทัชเป็นฝ่ายเข้าหา รฐาก่อน”
“พอ! เพราะสุดท้ายคุณก็นอกใจผมอยู่ดี แต่ช่างเถอะเรื่องมันจบไปนานแล้วอย่ารื้อฟื้นขึ้นมาเลยและอีกอย่างผมลืมไปหมดแล้ว”
“ฟินลืมความรักของเราจริงๆหรอ”
“อืม”
“ไม่จริง ฟินรักรฐาจะตาย”
“มันคืออดีต ต่อให้รักมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครเขาทนเจ็บได้หรอกนะรฐา”
“ไม่รฐาไม่มีทางยอมเด็ดขาด อะไรที่รฐาอยากได้ รฐาจะไม่มีวันปล่อยไปง่ายๆเด็ดขาด ฟินเองก็เช่นกัน”
ปริชญ์ก้าวเดินออกมาโดยไม่สนใจไยดี ตัดทุกอย่างให้มันเป็นเรื่องของอดีตที่แสนเจ็บปวดแต่ครั้งนี้กลับไม่เจ็บปวดมากเหมือนกับทุกๆครั้ง เพราะอยู่ดีๆภาพผู้หญิงอวดดีในวันนั้นก็แว๊บขึ้นมาในสมองของเขาแม้จะสลัดภาพเธอทิ้งเท่าไรก็เหมือนยิ่งฝั่งลงในสมองให้จำแต่ใบหน้าเธอ จนอยากจะเจอเธออีกครั้ง…
“จะกลับแล้วหรอคะคุณหนู”
“ครับ นมลาออกไปอยู่บ้านหิรัญกุลกับผมไหมครับ ทุกคนยินดีต้อนรับนมเสมอนะ”
“นมห่วงคุณท่านค่ะกลัวจะไม่มีคนดูแล แม่เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียเสียเปล่าเอาแต่เที่ยว ช็อปปิ้งไปวันๆ ส่วนลูกสาวเธอก็กลับบ้านดึกดื่นบางวันก็กลับเช้ากลิ่นตัวเหม็นกลิ่นเหล้าหึ่ง”
“ปล่อยเขาไปเถอะครับ ป๊าเขาเลือกแบบนี้เอง”
“ค่ะ คุณหนู”
“งั้นผมฝากนมดูแลป๊าด้วยนะ มีอะไรก็ติดต่อผมได้ตลอดเวลานะครับ”
“ค่ะ เดินทางกลับดีๆนะคะคุณหนู”
รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูคันหรูแล่นฉิวออกจากรั้วบ้านธนพัฒน์ธาดาด้วยความเร็ว แล้วมุ่งหน้าไปยังถนนเมืองหลวงท่ามกลางจราจรที่ติดขัดจนกระทั่งถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่เนืองแน่นไปด้วยลูกค้า
“สวัสดีค่ะเฮียฟิน”
“สวัสดีครับพี่อารี ที่ร้านเป็นยังไงบ้าง” ปริชญ์เอ่ยถามผู้จัดการวัยกลางคนที่ทำงานมาตั้งแต่ผู้เป็นแม่เริ่มเปิดร้านใหม่ๆ แม้จะเกือบเจ้งไปหลายรอบ แต่เธอก็ยังอยู่ด้วยกันไม่ไปไหน
“ลูกค้าเริ่มเยอะขึ้นทุกวันค่ะ ตั้งแต่ที่คุณฟินรีโนเวดร้านใหม่ ทั้งปรับสูตรอาหารพร้อมกับจัดโปรโมชั่น ลูกค้าก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ”
“ครับ ถือว่าผลตอบรับดี ถ้าสาขาสองที่เคยปิดตัวไปรีโนเวดเรียบร้อย ผมฝากพี่อารีเข้าไปจัดการให้ผมด้วยนะครับ”
“ได้เลยค่ะ ไม่มีปัญหาพี่อารีคนนี้พร้อมเสมอ”
“ขอบคุณครับ แล้วมีพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการมาสมัครบ้างไหมครับ”
“ยังเลยค่ะ เดี๋ยวพี่จะช่วยหาอีกแรงนะ”
“ขอบคุณมากครับ ผมขอตัวไปดูบัญชีร้านก่อน”
“ค่ะ แล้วทานอะไรมาหรือยังคะ ถ้ายังพี่จะให้พนักงานยกเบนโตะขึ้นไปให้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมทานมาเรียบร้อยแล้ว”
ปริชญ์เดินเข้าไปตรงทางขึ้นชั้นสองของร้าน แต่สายตาคมดุที่ถูกบดบังด้วยกรอบเลนส์แว่นกลับชะงักงัน เมื่อเห็นร่างบางที่ติดอยู่ในความทรงจำ กำลังนั่งทานอาหารอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งด้วยความสนิทสนม คีบอาหารป้อนให้กันราวกับคู่รัก
“มีแฟนแล้วหรอวะ”
ในเวลาเดียวกันเสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินตรงไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่มืออีกข้างพิมพ์ข้อความตอบเพื่อนสนิท จนกระทั่งเดินถึงที่หมาย
“จันทร์เจ้า ทางนี้” ฟาริญเอ่ยเรียกรั้งเพื่อนสนิทไว้ เมื่อเห็นเพื่อนกำลังจะเดินออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเดินแยกออกไปอีกทาง
“อ้าวข้าวฟ่างมาได้ไง ไหนบอกไปช่วยแซนดี้ขนของ เรียบร้อยแล้วหรอ”
“ขนของอะไร พอไปถึงเขาง้อนิดง้อหน่อยใจเหลว คืนดีกันไปแล้วค่ะ นี่เคี้ยวอาหารเม็ดจนขนเริ่มสวยแล้วเนี่ย”
“งั้นตอนนี้ขนเราสองคนก็คงสวยไม่ต่างกัน”
“เออ จริง แล้วนี่จะไปไหนต่อ”
“กลับคอนโด”
“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยดิ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย”
“ได้ดิ”
“ดีมากค่ะเพื่อนรัก”
“เอาร้านไหน”
“เข้าร้านบ้านตัวเองนี่แหละจ้า เงินจะได้ไม่รั่วไหลไปร้านอื่น”
“ขี้งกว่ะ”
ฟาริญหัวเราะออกมาอย่างน่ารักไปกับเสียงพูดของเพื่อนก่อนจะเดินควงแขนอีกฝ่ายเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น “กินอะไรไหวอีกป่ะ”
“ขอเป็นของหวานดีกว่า”
“โอเค กินเสร็จแล้วเดี๋ยวไปส่งคอนโด”
“ขอบพระคุณงามๆประหยัดค่าแท็กซี่ได้หลายบาทเลย” จิณห์วราเอ่ยตอบเสียงทะเล้นก่อนจะจัดการของหวานตรงหน้า
“คืนนี้ไปเที่ยวคลับที่แกทำงานกันไหม”
“ไปจริงดิ” ฉันถามด้วยความหวาดระแวง เพราะคราวก่อนแม่คุณเล่นไปมีเรื่องกับผู้หญิงคนหนึ่งจนคลับแทบพังเขาไม่คิดค่าเสียหายก็บุญหัวเท่าไรแล้ว
“ฉันไม่ชอบขี้หน้าอินั่นเฉยๆ”
“เขาไม่เอาเรื่องแกก็ดีเท่าไรแล้ว”
“มันไม่กล้าหรอก”
“ทำไม”
“ลูกติดเมียใหม่พ่อน่ะ”
“อ๋อ แล้วไม่กลัวนางเอาไปฟ้องเหรอ”
“กล้าก็ลองดิ และอีกอย่างฉันเส้นใหญ่กว่าด้วย” ฟาริญยืดอกขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับไหวไหล่ไม่สะทกสะท้านกับเรื่องราวที่พึ่งก่อมาหมาดๆ
“แล้วชวนแซนดี้ยัง อ๊ะ! ลืมไปนางคืนดีกับผัวแล้วฉันว่าเราคงได้ไปกันสองคนแน่ๆ”
“ผิดคาดจ้า นางตอบตกลงเรียบร้อย”
“เรื่องนี้นางไม่เคยพลาดจริงๆ ไปก็ไป”
“อ้อ ลืมถามเลยจันทร์เจ้าแกมีรับงานเอ็นทานข้าวที่ไหนอีกป่ะเนี่ย” ฟาริญเอ่ยถามเพื่อนสนิท
“ไม่มีแล้ว” จิณห์วราส่ายหน้าไปมาก่อนจะวางช้อนลงแล้วเท้าแขนกับโต๊ะ
“ข้าวฟ่าง”
“หืม”
“แกไม่รังเกียจฉันเหรอที่ทำอาชีพนี้” ฉันเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่อ่ะ แกทำอาชีพสุจริตทำไมฉันต้องรังเกียจแก แล้วแกก็อย่าคิดมากเรื่องนั้นด้วย ฉันไม่ได้เกลียดผู้หญิงคนนั้นกับลูกของนางเพราะเขาเคยทำอาชีพนี้หรอกนะ แต่ที่เกลียดเพราะผู้หญิงคนนั้นทำให้ครอบครัวที่เคยอบอุ่นของฉันพังทลายต่างหาก แล้วคนที่ต้องรับความเจ็บปวดกับการกระทำของคนไม่รู้จักพออย่างพ่อฉัน ก็คือแม่ ฉันและพี่ชายฉัน”
“ข้าวฟ่างฉันขอโทษนะที่ถาม”
“เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ความเสียใจมันก็ค่อยๆจางหายไปจนเริ่มชินชาแล้วล่ะ”
“มาๆกินข้าวดีกว่า หิวไม่ใช่หรือไง” จิณห์วราพูดเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องจมอยู่กับความเศร้าหมองนานๆแต่ทว่า
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขัดจังหวะทำให้ฟาริญรีบวางตะเกียบลงแล้วเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมารับสาย
“ว่าไงคะเฮีย”
“อยู่ที่ไหน”
“ร้านอาหารญี่ปุ่นค่ะ”
“เดี๋ยวเฮียลงไปหา”
“ทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ”
“อือ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฟ่างอยู่กับเพื่อน ส่วนนัดของเราวันนี้ฟ่างขอแคนเซิลก่อนนะคะ”
“ได้ งั้นไว้เจอกันที่คอนโดนะ”
เมื่อเห็นเพื่อสนิทวางสาย จิณห์วรายกยิ้มล้อเลียนแล้วพูดแซวเสียงทะเล้น
“มีแฟนเหรอเรา”
“แฟนอะไร พี่ชายค่ะสาว” ฟาริญส่ายหน้าตอบ
“คิดว่าเป็นลูกคนเดียวมาตลอดนะเนี่ย”
“ฉันมีพี่ชาย ห่างกันเจ็ดปี และที่สำคัญหล่อมาก ถ้าสนใจแนะนำให้เอาไหม”
“ไม่อ่ะ ไม่พร้อมมีใครและที่สำคัญไม่ชอบคนอายุมากกว่ากลัวถูกหลอก”
“สกิลระดับเทพแบบแก ยังกลัวถูกหลอกอีกหรอ”
“ก็ต้องกลัวเผื่อๆไว้บ้าง ความรักมันไม่เข้าใครออกใคร ไม่อยากพลาดไปรักคนที่เขามองเราเป็นแค่คนคุย หรือหวังเรื่องอย่างว่าหรอกนะ”
“ความรักนี่เข้าใจยากเนาะ”
“อือ” จิณห์วราถอนหายใจยาวเหยียดพร้อมกับใช้ช้อนตักไอศกรีมชาเขียวใส่ปากแล้วพยักพเยิดให้อีกฝ่ายกินอาหารตรงหน้าต่อ
“รีบกินจะได้ไปหาพี่ชาย”
“เออ คืนนี้เจอกันที่โซนผับนะ เลิกงานแล้วแกค่อยตามไป เดี๋ยวฉันกับแซนดี้ไปวอร์มคอรอ”
“โอเคๆ”
ตอนที่ 5 อดีตฝังใจ ปริชญ์หลีกเดินออกมาทางห้องครัวเพื่อบอกลาแม่นมก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านหิรัญกุล แต่ในระหว่างที่เดินออกมานั้นกลับต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจออีกครั้ง ที่กำลังยืนกอดอกพิงเสาอยู่ริมทางเดินด้านนอกตัวบ้านที่เชื่อมกับห้องครัว “ฟิน รฐาขอคุยด้วยหน่อย” “มีอะไรก็พูดมา” “รฐาอยากขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น คืนนั้นรฐาเมามาก รฐาไม่ได้มีเจตนาจะนอกใจฟินเลยนะ” “สุดท้ายก็นอกใจอยู่ดีไม่ใช่เหรอ” “ก็ฟินไม่มีเวลาให้รฐาเลย วันๆทำแต่งาน ฟินรู้ไหมว่ารฐาต้องการความรักจากฟินมากแค่ไหน” “ผมรักคุณมาตลอด ไม่เคยนอกใจคุณเลยซักครั้งแล้วคุณล่ะต้องการรักแบบไหน หรือมากขนาดไหนถึงจะพอใจ ห๊ะ! รฐา ต้องมากแค่ไหนคุณถึงจะไม่หักหลังผม ไปแอบได้กับไอ้ทัชเพื่อนสนิทผม” “ขอโทษ…แต่วันนั้นทัชเป็นฝ่ายเข้าหา รฐาก่อน” “พอ! เพราะสุดท้ายคุณก็นอกใจผมอยู่ดี แต่ช่างเถอะเรื่องมันจบไปนานแล้วอย่ารื้อฟื้นขึ้นมาเลยและอีกอย่างผมลืมไปหมดแล้ว” “ฟินลืมความรักของเราจริงๆหรอ” “อืม” “ไม่จริง ฟินรักรฐ
ตอนที่ 4 แฟนเก่า@บ้านธนพัฒน์ธาดาบ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านกลางพื้นที่หลายสิบไร่กลางเมืองหลวง โดยพื้นที่รอบๆถูกจัดแต่งสวนสไตล์อังกฤษเข้ากับตัวบ้านสีขาว แสงตะวันในช่วงเช้าสาดส่องยิ่งทำให้บรรยากาศรอบๆตัวบ้านร่มรื่นร่างสูงก้าวเดินเข้ามาในตัวบ้านที่ดูผิดไปจากเดิมจากบ้านที่เคยดูอบอุ่นมีพ่อแม่และลูกๆ ใช้เวลาร่วมกันในตอนนั้นมันเต็มไปด้วยความสุข แต่ตอนนี้กลับแทนที่ด้วยความเศร้าหมองไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็มีแต่ความว่างเปล่า “คุณหนูของนม” ลาวัลย์หัวหน้าแม่บ้านในวัยเลขหกปลายๆ พาร่างท้วมสวมกอดคุณหนูที่เธอเคยช่วยคุณผู้หญิงของบ้านเลี้ยงดูตั้งแต่ทารกน้อยจนเติบโตเป็นหนุ่มหล่อ“อย่าวิ่งครับนม จะลื่น หกล้มเอานะครับ”“นมคิดถึงคุณหนูมากเลยค่ะ แล้วคุณผู้หญิงกับคุณหนูข้าวฟ่างมาด้วยไหมคะ”“ไม่มาครับ”“ทุกคนสบายดีไหมคะ”“ทุกคนสบายดีครับ ข้าวฟ่างฝากของบำรุงมาให้เยอะแยะเลยครับ”“ขอบคุณนะคะ น่าจะพาคุณหนูข้าวฟ่างมาหานมบ้าง ป่านนี้คงโตเป็นสาวสวยแล้วแน่ๆเลย”“รายนั้นไม่ยอมมาง่ายๆหรอกครับ”“เฮ้อ” ลาวัลย์ถอนหายใจทิ้งนึกถึงอดีตที่แสนเจ็บปวดจากครอบครัวที่อบอุ่นต้องมาพังทลายเพราะคนไม่รู้จักพอและผู้หญิงหน้าไม่อ
ตอนที่ 3 เจอหน้าครืด ครืด ครืดแรงสั่นในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพอเห็นชื่อปลายสายที่กระหน่ำโทรเข้ามา แม้จะปล่อยผ่านมาหลายครั้งก็ตามแต่ก็ต้องตัดสินใจยอมรับสาย“ครับป๊า”“แกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ฉันโทรหาแกตั้งหลายสายทำไมไม่รับ” น้ำเสียงโมโหตะคอกดังแผดลั่นทันทีที่รับสาย“ไม่ว่างครับ”“พรุ่งนี้แกมาหาฉันที่บ้านด้วย”“ผมก็บอกว่าผมไม่ว่าง”“แกอย่ามาขัดคำสั่งฉัน”“…”“ฟิน แกยังฟังฉันอยู่ไหม”“อือ ฟังอยู่”“อย่าจองหองให้มาก ฉันให้แกทำอะไรแกก็ต้องทำหรืออยากให้แม่แกกับน้องแกลำบาก ฉันจะไม่ส่งเสียเงินเลี้ยงดูพวกแกก็ได้นะ”“แล้วสิ่งที่ป๊าทำทุกวันนี้ทุกคนยังทุกข์ใจไม่พอหรอ แล้วอีกอย่างพวกผมไม่ต้องการเงินจากป๊าหรอก และเงินที่ป๊าโอนให้มาแต่ละเดือนยังอยู่ครบ เราไม่เคยใช้เงินที่ป๊าให้มาสักบาท จะให้ผมโอนคืนก็ได้นะ”“ไอ้ฟิน!”“แค่นี้นะ พรุ่งนี้จะเข้าไป”ผมตัดสายทิ้งทันทีแล้วยัดโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิมแต่พอจะก้าวเดินไปยังรถที่จอดอยู่ ก็เจอกับใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และผมมั่นใจว่าเธอคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว“ฉันไม่ได้ยินอะไรเลยนะคะ”“ผมยังไม่ได้ถามเลย”“ก็สายตา
ตอนที่ 2 โชคชะตาเล่นตลก ‘ใครจะไปทำ เหอะ ก็ฉันเนี่ยไงที่ทำ’ 2 ปีต่อมา ปัจจุบัน TRADA CLUB คลับหรูใจกลางเมืองย่านดังที่ใครๆต่างรู้จักเป็นอย่างดีถูกยกให้เป็นคลับอันดับหนึ่งที่เนืองแน่นไปด้วยนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมีตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงานจนถึงวัยกลางคน ที่มีอายุใกล้เลขห้าแต่ทุกคนที่เข้ามาได้จะต้องเป็นสมาชิกระดับวีไอพีขึ้นไปเท่านั้น ส่วนค่าสมัครสมาชิกก็แสนโหดแต่คนเหล่านี้ก็พร้อมจ่ายเพราะมันคุ้มค่าและดีที่สุดสำหรับผู้มาใช้บริการ ภายในคลับถูกจัดแบ่งโซนไว้เป็นสัดส่วนให้เลือกใช้บริการทั้งโซนหน้าเวทีใหญ่ ห้องคาราโอเกะขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่และเลาจ์สุดหรูไว้รองรับนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ “จันทร์เจ้า ทำไมวันนี้มาสายจังล่ะ” จิณห์วราในชุดนักศึกษาวิ่งหน้าตั้งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องแต่งตัว จากเด็กน้อยกระโปโลในวันนั้นเติบโตเป็นสาวสวยวัยสะพรั่ง เครื่องหน้าสวยครบสมบูรณ์แบบ เพราะถูกเนตรทรายหรือที่ใครๆในคลับเรียกเจ๊มะนาวเทรนงานให้จนกลายเป็นดาวเด่นของคลับ ที่ลูกค้าต่างหมายปองแต่กลับไม่เคยมีใครได้เ
ตอนที่ 1 บังเอิญเสียงกระทะกระทบกันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณริมฟุตบาทใกล้สถานบันเทิงชื่อดัง ก่อนที่เสียงเจ๊เจ้าของร้านตะโกนดังโวกเวก“จันทร์เจ้า เสิร์ฟข้าวโต๊ะแปดหน่อย”ใช่จ้า จันทร์เจ้าคือชื่อฉันเอง ผู้หญิงสู้ชีวิตคนหนึ่ง พ่อแม่ของเธอจากโลกนี้ไปเหลือเธอไว้บนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ตามลำพัง ปากกัด ตีนถีบพาชีวิตแสนลำเค็ญ กระเสือกกะสนเอาชีวิตให้รอดในแต่ละวัน ทุกอย่างปลูกฝั่งให้เธอเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ทันโลก และสู้คน“จ้า เจ๊”ร่างบางเพรียวระหง ผมสั้นปะบ่าสีน้ำตาลในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์พอดีตัว เอ่ยรับก่อนจะวิ่งไปหยิบจานข้าวกระเพราหมูสับ ไข่ดาวฟองใหญ่ใส่ถาดแล้วเดินเสิร์ฟตามโต๊ะวนลูปไปมาตั้งเฉกเช่นทุกวัน กว่าลูกค้าคืนนี้จะบางตาเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่เช้าวันใหม่“เห้อ วันนี้ลูกค้าเยอะจัง”“วันศุกร์ก็แบบนี้แหละ คนมาเที่ยวกัน เที่ยวเสร็จต่อด้วยข้าวเป็นธรรมดา” ดาด้าเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้มบีบนวดต้นขาตัวเอง “ดูสิเนี่ยจันทร์เจ้า ทำไมแกต้องมาทนเหนื่อยแบบนี้ด้วย พี่บอกให้แกลองไปแคสติ้งหรือไปทำงานบนห้างก็ไม่ไปเผลอๆ ได้เงินเยอะกว่าด้วยนะ”“โอ๊ยพี่ด้า ฉันก็หน้าตาธรรมดาบ้านๆ ใครเขาจะมามอง”“เจ๊เห็นด้วยกับดาด้ามัน







