LOGINตอนที่ 5 อดีตฝังใจ
ปริชญ์หลีกเดินออกมาทางห้องครัวเพื่อบอกลาแม่นมก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านหิรัญกุล แต่ในระหว่างที่เดินออกมานั้นกลับต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจออีกครั้ง ที่กำลังยืนกอดอกพิงเสาอยู่ริมทางเดินด้านนอกตัวบ้านที่เชื่อมกับห้องครัว
“ฟิน รฐาขอคุยด้วยหน่อย”
“มีอะไรก็พูดมา”
“รฐาอยากขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น คืนนั้นรฐาเมามาก รฐาไม่ได้มีเจตนาจะนอกใจฟินเลยนะ”
“สุดท้ายก็นอกใจอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”
“ก็ฟินไม่มีเวลาให้รฐาเลย วันๆทำแต่งาน ฟินรู้ไหมว่ารฐาต้องการความรักจากฟินมากแค่ไหน”
“ผมรักคุณมาตลอด ไม่เคยนอกใจคุณเลยซักครั้งแล้วคุณล่ะต้องการรักแบบไหน หรือมากขนาดไหนถึงจะพอใจ ห๊ะ! รฐา ต้องมากแค่ไหนคุณถึงจะไม่หักหลังผม ไปแอบได้กับไอ้ทัชเพื่อนสนิทผม”
“ขอโทษ…แต่วันนั้นทัชเป็นฝ่ายเข้าหา รฐาก่อน”
“พอ! เพราะสุดท้ายคุณก็นอกใจผมอยู่ดี แต่ช่างเถอะเรื่องมันจบไปนานแล้วอย่ารื้อฟื้นขึ้นมาเลยและอีกอย่างผมลืมไปหมดแล้ว”
“ฟินลืมความรักของเราจริงๆหรอ”
“อืม”
“ไม่จริง ฟินรักรฐาจะตาย”
“มันคืออดีต ต่อให้รักมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครเขาทนเจ็บได้หรอกนะรฐา”
“ไม่รฐาไม่มีทางยอมเด็ดขาด อะไรที่รฐาอยากได้ รฐาจะไม่มีวันปล่อยไปง่ายๆเด็ดขาด ฟินเองก็เช่นกัน”
ปริชญ์ก้าวเดินออกมาโดยไม่สนใจไยดี ตัดทุกอย่างให้มันเป็นเรื่องของอดีตที่แสนเจ็บปวดแต่ครั้งนี้กลับไม่เจ็บปวดมากเหมือนกับทุกๆครั้ง เพราะอยู่ดีๆภาพผู้หญิงอวดดีในวันนั้นก็แว๊บขึ้นมาในสมองของเขาแม้จะสลัดภาพเธอทิ้งเท่าไรก็เหมือนยิ่งฝั่งลงในสมองให้จำแต่ใบหน้าเธอ จนอยากจะเจอเธออีกครั้ง…
“จะกลับแล้วหรอคะคุณหนู”
“ครับ นมลาออกไปอยู่บ้านหิรัญกุลกับผมไหมครับ ทุกคนยินดีต้อนรับนมเสมอนะ”
“นมห่วงคุณท่านค่ะกลัวจะไม่มีคนดูแล แม่เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียเสียเปล่าเอาแต่เที่ยว ช็อปปิ้งไปวันๆ ส่วนลูกสาวเธอก็กลับบ้านดึกดื่นบางวันก็กลับเช้ากลิ่นตัวเหม็นกลิ่นเหล้าหึ่ง”
“ปล่อยเขาไปเถอะครับ ป๊าเขาเลือกแบบนี้เอง”
“ค่ะ คุณหนู”
“งั้นผมฝากนมดูแลป๊าด้วยนะ มีอะไรก็ติดต่อผมได้ตลอดเวลานะครับ”
“ค่ะ เดินทางกลับดีๆนะคะคุณหนู”
รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูคันหรูแล่นฉิวออกจากรั้วบ้านธนพัฒน์ธาดาด้วยความเร็ว แล้วมุ่งหน้าไปยังถนนเมืองหลวงท่ามกลางจราจรที่ติดขัดจนกระทั่งถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่เนืองแน่นไปด้วยลูกค้า
“สวัสดีค่ะเฮียฟิน”
“สวัสดีครับพี่อารี ที่ร้านเป็นยังไงบ้าง” ปริชญ์เอ่ยถามผู้จัดการวัยกลางคนที่ทำงานมาตั้งแต่ผู้เป็นแม่เริ่มเปิดร้านใหม่ๆ แม้จะเกือบเจ้งไปหลายรอบ แต่เธอก็ยังอยู่ด้วยกันไม่ไปไหน
“ลูกค้าเริ่มเยอะขึ้นทุกวันค่ะ ตั้งแต่ที่คุณฟินรีโนเวดร้านใหม่ ทั้งปรับสูตรอาหารพร้อมกับจัดโปรโมชั่น ลูกค้าก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ”
“ครับ ถือว่าผลตอบรับดี ถ้าสาขาสองที่เคยปิดตัวไปรีโนเวดเรียบร้อย ผมฝากพี่อารีเข้าไปจัดการให้ผมด้วยนะครับ”
“ได้เลยค่ะ ไม่มีปัญหาพี่อารีคนนี้พร้อมเสมอ”
“ขอบคุณครับ แล้วมีพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการมาสมัครบ้างไหมครับ”
“ยังเลยค่ะ เดี๋ยวพี่จะช่วยหาอีกแรงนะ”
“ขอบคุณมากครับ ผมขอตัวไปดูบัญชีร้านก่อน”
“ค่ะ แล้วทานอะไรมาหรือยังคะ ถ้ายังพี่จะให้พนักงานยกเบนโตะขึ้นไปให้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมทานมาเรียบร้อยแล้ว”
ปริชญ์เดินเข้าไปตรงทางขึ้นชั้นสองของร้าน แต่สายตาคมดุที่ถูกบดบังด้วยกรอบเลนส์แว่นกลับชะงักงัน เมื่อเห็นร่างบางที่ติดอยู่ในความทรงจำ กำลังนั่งทานอาหารอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งด้วยความสนิทสนม คีบอาหารป้อนให้กันราวกับคู่รัก
“มีแฟนแล้วหรอวะ”
ในเวลาเดียวกันเสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินตรงไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่มืออีกข้างพิมพ์ข้อความตอบเพื่อนสนิท จนกระทั่งเดินถึงที่หมาย
“จันทร์เจ้า ทางนี้” ฟาริญเอ่ยเรียกรั้งเพื่อนสนิทไว้ เมื่อเห็นเพื่อนกำลังจะเดินออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเดินแยกออกไปอีกทาง
“อ้าวข้าวฟ่างมาได้ไง ไหนบอกไปช่วยแซนดี้ขนของ เรียบร้อยแล้วหรอ”
“ขนของอะไร พอไปถึงเขาง้อนิดง้อหน่อยใจเหลว คืนดีกันไปแล้วค่ะ นี่เคี้ยวอาหารเม็ดจนขนเริ่มสวยแล้วเนี่ย”
“งั้นตอนนี้ขนเราสองคนก็คงสวยไม่ต่างกัน”
“เออ จริง แล้วนี่จะไปไหนต่อ”
“กลับคอนโด”
“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยดิ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย”
“ได้ดิ”
“ดีมากค่ะเพื่อนรัก”
“เอาร้านไหน”
“เข้าร้านบ้านตัวเองนี่แหละจ้า เงินจะได้ไม่รั่วไหลไปร้านอื่น”
“ขี้งกว่ะ”
ฟาริญหัวเราะออกมาอย่างน่ารักไปกับเสียงพูดของเพื่อนก่อนจะเดินควงแขนอีกฝ่ายเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น “กินอะไรไหวอีกป่ะ”
“ขอเป็นของหวานดีกว่า”
“โอเค กินเสร็จแล้วเดี๋ยวไปส่งคอนโด”
“ขอบพระคุณงามๆประหยัดค่าแท็กซี่ได้หลายบาทเลย” จิณห์วราเอ่ยตอบเสียงทะเล้นก่อนจะจัดการของหวานตรงหน้า
“คืนนี้ไปเที่ยวคลับที่แกทำงานกันไหม”
“ไปจริงดิ” ฉันถามด้วยความหวาดระแวง เพราะคราวก่อนแม่คุณเล่นไปมีเรื่องกับผู้หญิงคนหนึ่งจนคลับแทบพังเขาไม่คิดค่าเสียหายก็บุญหัวเท่าไรแล้ว
“ฉันไม่ชอบขี้หน้าอินั่นเฉยๆ”
“เขาไม่เอาเรื่องแกก็ดีเท่าไรแล้ว”
“มันไม่กล้าหรอก”
“ทำไม”
“ลูกติดเมียใหม่พ่อน่ะ”
“อ๋อ แล้วไม่กลัวนางเอาไปฟ้องเหรอ”
“กล้าก็ลองดิ และอีกอย่างฉันเส้นใหญ่กว่าด้วย” ฟาริญยืดอกขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับไหวไหล่ไม่สะทกสะท้านกับเรื่องราวที่พึ่งก่อมาหมาดๆ
“แล้วชวนแซนดี้ยัง อ๊ะ! ลืมไปนางคืนดีกับผัวแล้วฉันว่าเราคงได้ไปกันสองคนแน่ๆ”
“ผิดคาดจ้า นางตอบตกลงเรียบร้อย”
“เรื่องนี้นางไม่เคยพลาดจริงๆ ไปก็ไป”
“อ้อ ลืมถามเลยจันทร์เจ้าแกมีรับงานเอ็นทานข้าวที่ไหนอีกป่ะเนี่ย” ฟาริญเอ่ยถามเพื่อนสนิท
“ไม่มีแล้ว” จิณห์วราส่ายหน้าไปมาก่อนจะวางช้อนลงแล้วเท้าแขนกับโต๊ะ
“ข้าวฟ่าง”
“หืม”
“แกไม่รังเกียจฉันเหรอที่ทำอาชีพนี้” ฉันเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่อ่ะ แกทำอาชีพสุจริตทำไมฉันต้องรังเกียจแก แล้วแกก็อย่าคิดมากเรื่องนั้นด้วย ฉันไม่ได้เกลียดผู้หญิงคนนั้นกับลูกของนางเพราะเขาเคยทำอาชีพนี้หรอกนะ แต่ที่เกลียดเพราะผู้หญิงคนนั้นทำให้ครอบครัวที่เคยอบอุ่นของฉันพังทลายต่างหาก แล้วคนที่ต้องรับความเจ็บปวดกับการกระทำของคนไม่รู้จักพออย่างพ่อฉัน ก็คือแม่ ฉันและพี่ชายฉัน”
“ข้าวฟ่างฉันขอโทษนะที่ถาม”
“เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ความเสียใจมันก็ค่อยๆจางหายไปจนเริ่มชินชาแล้วล่ะ”
“มาๆกินข้าวดีกว่า หิวไม่ใช่หรือไง” จิณห์วราพูดเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องจมอยู่กับความเศร้าหมองนานๆแต่ทว่า
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขัดจังหวะทำให้ฟาริญรีบวางตะเกียบลงแล้วเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมารับสาย
“ว่าไงคะเฮีย”
“อยู่ที่ไหน”
“ร้านอาหารญี่ปุ่นค่ะ”
“เดี๋ยวเฮียลงไปหา”
“ทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ”
“อือ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฟ่างอยู่กับเพื่อน ส่วนนัดของเราวันนี้ฟ่างขอแคนเซิลก่อนนะคะ”
“ได้ งั้นไว้เจอกันที่คอนโดนะ”
เมื่อเห็นเพื่อสนิทวางสาย จิณห์วรายกยิ้มล้อเลียนแล้วพูดแซวเสียงทะเล้น
“มีแฟนเหรอเรา”
“แฟนอะไร พี่ชายค่ะสาว” ฟาริญส่ายหน้าตอบ
“คิดว่าเป็นลูกคนเดียวมาตลอดนะเนี่ย”
“ฉันมีพี่ชาย ห่างกันเจ็ดปี และที่สำคัญหล่อมาก ถ้าสนใจแนะนำให้เอาไหม”
“ไม่อ่ะ ไม่พร้อมมีใครและที่สำคัญไม่ชอบคนอายุมากกว่ากลัวถูกหลอก”
“สกิลระดับเทพแบบแก ยังกลัวถูกหลอกอีกหรอ”
“ก็ต้องกลัวเผื่อๆไว้บ้าง ความรักมันไม่เข้าใครออกใคร ไม่อยากพลาดไปรักคนที่เขามองเราเป็นแค่คนคุย หรือหวังเรื่องอย่างว่าหรอกนะ”
“ความรักนี่เข้าใจยากเนาะ”
“อือ” จิณห์วราถอนหายใจยาวเหยียดพร้อมกับใช้ช้อนตักไอศกรีมชาเขียวใส่ปากแล้วพยักพเยิดให้อีกฝ่ายกินอาหารตรงหน้าต่อ
“รีบกินจะได้ไปหาพี่ชาย”
“เออ คืนนี้เจอกันที่โซนผับนะ เลิกงานแล้วแกค่อยตามไป เดี๋ยวฉันกับแซนดี้ไปวอร์มคอรอ”
“โอเคๆ”
ตอนที่ 14 ไถ่โทษในเวลาต่อมารถคันหรูจอดสนิทในลานจอดรถชั้นใต้ดินคลับ TRADA เธอก็รีบเปิดประตูลงทันที“จันทร์เจ้า”“แยกกันตรงนี้นะคะ จันทร์เจ้าไม่อยากเป็นขี้ปากคนอื่น”“ยังไม่หายโกรธอีกหรือไง”“ค่ะ” เธอตอบเสียงสะบัดก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องแต่งตัวแต่ยังไม่ทันก้าวพ้นประตู เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เธอต้องหันกลับไปมอง “คุณจันทร์เจ้าครับ” “มีอะไรหรือเปล่าคะ” บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ทางเข้าสำหรับพนักงานเรียก เธอจึงหันไปมองด้วยความแปลกใจแล้วเลิกคิ้วขึ้นถาม “เฮียฟินแจ้งไว้ว่าก่อนเข้างานให้ขึ้นไปพบที่ห้องทำงานชั้นบนด่วนครับ” “ขอบคุณนะคะ” ฉันก้มหัวขอบคุณเล็กน้อยแล้วเดินเข้าห้องแต่งตัวทันที ไม่สนใจคำสั่งคนเบื้องบนเพราะยังโมโหที่อีกฝ่ายเป็นเหตุทำให้โทรศัพท์เธอพังไม่หาย “เป็นอะไรจันทร์เจ้า หน้ามุ่ยมาเชียว” “หงุดหงิดคนค่ะพี่ส้มใส” “เอ๊ะ เป็นหนุ่มคนไหนหนอ” ส้มใสยิ้มแซว “ไม่ต้องแซวเลย ไปแต่งตัวดีกว่า” คล้อยหลังเธอไม่นานเฟิร์นเลขาผู้จัดการของเนตรทรายวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาภ
ตอนที่ 13 ความลับ (แตก)@มหาวิทยาลัย“จันทร์เจ้า”“อุ๊ย พฤกษ์ตกใจหมดเลย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ร่างบางชะงักหันไปมองคนเรียก“มีอะไร”“คิดถึง”“ไม่ต้องมาอ่อยเหยื่อ เพราะไม่ติดกับแน่นอนจ้า”“ใจแข็งวะ” พฤกษ์โอดครวญแต่ใบหน้ากลับยิ้มกว้างแววตาแพรวพราวตามประสาผู้ชายเจ้าชู้“เดี๋ยวเดินไปส่งคณะ”“ไม่ต้องก็ได้ ไม่เดินหลงหรอก”“เมื่อกี้ใครมาส่ง”“อะไรใครมาส่ง ไม่มี๊” ฉันมองหน้าเขาด้วยความตกใจก่อนจะโบกมือ ส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน“โกหก”“วินมั้ง”“วินขับรถหรูเนาะ”“แก๊ปมาส่ง”“ไม่เนียน”“ไม่มีอะไร”“ลูกค้ามาส่งหรอ”“ก็รู้ว่าไม่รับงานบนเตียง”“ไม่ใช่ ก็คิดว่าลูกค้าที่รับงานกินข้าวด้วยไง”“เออ ใช่ๆ แต่อันนี้ไม่ใช่กินข้าว แต่แค่ให้นั่งมามหาลัยพร้อมกัน วิธีบอกเลิกสาวแต่สาวไม่ยอมเลิก ตอแยไม่หยุดเลยใช้วิธีนี้” อยากกราบสมองที่ผุดไอเดีย คำพูดแก้ตัวได้สดๆร้อนๆ“เชื่อยาก”“เอ้า ไม่เชื่อจะให้อธิบายทำไมไม่รู้”“พยายามจะเชื่อแล้วกัน แล้ววันนี้เลิกเรียนกี่โมง”“วันนี้มีเรียนเต็มวัน 17.00 นู่นแหละบางทีอาจารย์ก็อาจปล่อยเลท”“เย็นนี้ไปกินข้าวกับป่ะ”“ไม่ว่าง ต้องรีบกลับไปทำงาน เดี๋ยวโดนเจ๊นาวกินหั
ตอนที่ 12 ติดใจเหยื่อ “ไอ้ฟินๆ”“มีอะไร”“น้องคนเมื่อกี้ใครวะเห็นเดินออกไปพร้อมเจ๊มะนาว โคตรน่ารักเลย” นาวินทร์ที่เปิดประตูเข้ามารีบเปิดปากถามเพื่อสนิททันทีด้วยความตื่นเต้น “กูว่าน้องเขาหน้าตาคุ้นๆ” เด่นภูมิพูดขึ้นเพราะเขาเองก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอที่ไหนสักที่ แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก“ดาวคลับ TRADA ไง จำไม่ได้เหรอ”“มึงอย่ามาอำไอ้ฟิน”“จริงครับคุณภูมิ คุณวินทร์ ผมคอนเฟิร์มได้ว่านั่นน่ะน้องจันทร์เจ้าตอนไม่แต่งหน้า ดูน่ารักมากๆเลยใช่ไหมล่ะครับ” ตฤณที่พูดยิ้มๆ ถึงกับชะงักกึกเมื่อเห็นสีหน้าผู้บริหารคนใหม่ตวัดตาดุมองจนเสียวสันหลังวาบ “ผมก็ชมน้องเขาปกติครับคุณฟิน ไม่มีอะไรเลยครับ”“มึงดูหวงๆนะไอ้ฟิน ความสัมพันธ์พัฒนาก้าวกระโดดหรอ”“เปล่า”“มีพิรุธฉิบหาย”“ดูเชิงเขา โดยการปลอมเป็นเหยื่อ สุดท้ายทำได้ไม่นานเจอความน่ารักของเสือสาวเข้าไปใจเหลวอ่ะดิมึง” นาวินทร์พูดเย้าเพื่อนสนิทที่นานๆทีจะเห็นมันถูกใจใครสักคนจนตาเป็นประกายวาววับ“พูดมากนะพวกมึง แล้วมาทำไม”“มาเที่ยวดิ ถามแปลกๆ มาคลับมึงจะให้กูมารอใส่บาตรตอนเช้ามั้ง”“กวนตีนจังนะไอ้วินทร์” ปริชญ์บ่นเพื่อนพร้อม
ตอนที่ 11 เจ้านายคนใหม่หลายวันต่อมา @TRADA คลับ ในห้องแต่งตัวเหล่าสาวๆวุ่นวายอีกครั้งเมื่อข่าวใหม่ที่ได้รับมาสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับพวกเธอ ว่าเจ้าของคลับคนใหม่จะเป็นใคร จนอยากจะเลิกงานไวๆจะได้ยลโฉมหน้าสักที “เจ๊นาว ผู้บริหารคนใหม่คือใครเหรอคะ” “ลูกชายเสี่ยภุชงค์” “จะใจดีแบบเสี่ยไหมหนอ” “รอดูเอาเอง แต่บอกได้คำเดียวว่าหล่อลากไส้ เห็นครั้งแรกรับรองตะลึงจนตาค้างแน่นอน”“อ๊ายยย อยากเห็นๆ เขาเคยมาที่คลับเราไหมเจ๊หรือเขาไปเที่ยวโซนผับที่เปิดใหม่มากกว่า” ส้มใสเอ่ยถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น“มาแต่โซนคลับ แล้วบอกได้คำเดียวว่ามาบ่อยมาก ทุกอาทิตย์ พวกแกต้องเคยเห็นบ้างแหละ และเขาก็เข้ามาบริหารงานได้หนึ่งอาทิตย์แล้วด้วย”“จริงเหรอเจ๊”“ใช่ บางทีพวกแกอาจจะเจอแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาคือใครก็ได้”“หู้ว อยากเจอไวๆอ่า”“อ๋อ อีกเรื่องขอย้ำกับทุกคนอีกครั้งนะ เรื่องอายุของจันทร์เจ้า อย่ามีใครเผลอพูดออกไปเด็ดขาด” “มีอะไรหรือเปล่าเจ๊ ตำรวจจะลงหรอ หนูอายุยี่สิบแล้วไม่มีปัญหาแน่นอน” จิณห์วราที่เปิดประตูเข้ามาได้ยินทันพอดี จึงรีบ
ตอนที่ 10 ช่วยหน่อยนะ“เฮียฟิน มันร้อน จันทร์เจ้าอยากอาบน้ำ”“ใจเย็นๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ” แม้ปากจะเอ่ยบอกคนข้างๆ แต่ก็เหมือนบอกตัวเองไปกลายๆ เมื่อฝ่ามือนุ่มเริ่มไม่อยู่สุข ลูบไล้ไปตามอกกำยำและเลื่อนต่ำจนเกือบถึงความเป็นชาย“อือ”“นั่งดีๆก่อน”“มันร้อน ร้อนจนจันทร์เจ้าจะบ้าตายอยู่แล้ว”“มองหน้าเฮีย”ระหว่างที่จอดติดไฟแดง ปริชญ์รวบมือบางที่ขยุ้มเสื้อผ้าจนหลุดลุ่ยแล้วเพิ่มอุณหภูมิแอร์ให้เย็นขึ้น“เฮียฟิน”“จันทร์เจ้ากำลังถูกยาปลุกเซ็กส์เล่นงาน หนูกำลังไม่มีสติ ฉะนั้นต้องตั้งสติไว้ แล้วเฮียจะพาหนูกับห้องนะเด็กดี”“แต่จันทร์เจ้าทรมาน”“เฮียรู้ว่าจันทร์เจ้าทรมาน แต่หนูต้องอดทนนะ”“อือ” จิณห์วราพยักหน้ารับ สองมือผสานบีบจนแน่นเพื่อพยายามฝืนทนกับฤทธิ์ยาที่ปลุกความปรารถนาในกายจนร้อนฉ่าไปทั้งตัวราวกับถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อต“หนูไม่ไหวแล้ว”“อุ๊บ!”กลิ่นน้ำหอมผู้ชายผสมไปกับกลิ่นกายแสนหอมราวกับเป็นตัวกระตุ้นต่อยานรกให้ออกฤทธิ์รุนแรงขึ้น จนเธอคว้าลำคอหนาลงมาจูบด้วยความเงอะงะ“อื้อ”ลิ้นเล็กๆที่พยายามปัดป่ายไปมาราวกับเด็กน้อยพึ่งหัดจูบทำให้ความอดทนของเขาขาดสะบัน เผลอจูบตอบพลางสอดลิ้นพัวพันไปกับลิ้นเล็ก ฝ
ตอนที่ 8 เด็กเอ็นหนึ่งอาทิตย์ต่อมา“ใกล้ขึ้นเวทีแล้วมีใครเห็นจันทร์เจ้าไหม จันทร์เจ้าไปไหน” เนตรทรายวิ่งกระหืดกระหอบเมื่อใกล้เวลาแล้ว แต่ดาวเด่นของคลับยังไม่เห็นหัว “น้องบอกวันศุกร์ติดสอบ น่าจะกำลังมานะเจ๊ นั่นไงมานู่นแล้ว” เชอรี่พูดขึ้นพร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปทางคนมาใหม่ “ขอโทษนะเจ๊หนูรีบสุดๆแล้ว” “ทำไมมาช้า”“ติดสอบ แล้วอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกคุยอีก แถมเป็นวันศุกร์รถก็ยิ่งติดยาว เลยต้องนั่งวินมาให้พี่เขาเร่งสุดๆแล้วเนี่ย”“เออๆ ไปแต่งตัวไป ส่วนคนอื่นเตรียมตัวขึ้นเวทีได้แล้วจ้าสาวๆ”“ค่ะเจ๊” “สวัสดีครับทุกคน...” เสียงดีเจประจำคลับพูดสลับกับเสียงเพลงบีทหนักๆ พร้อมแสงสีสาดส่องไปทั่วบริเวณอย่างอลังการสมกับค่าบัตรสมาชิก “ยินดีต้องรับทุกท่านสู่ TRADA CLUB ครับผม ไป ไป ไปๆ” หลังจบคำพูดทักทายของดีเจเหล่าโคโยตี้สาวสวยต่างขึ้นมา กลางเวทีใหญ่ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ นักธุรกิจ ดาราไฮโซ ต่างยืนล้อมหน้าเวทีรูปตัวทีจนหนาแน่น สาวๆบนเวทีต่างวาดลวดลายในท่วงท่าเซ็กซี่ให้บรรดานักล่าข้างล่างเวทีเชยชม เรือนร่างแสนสวยก







