Home / โรแมนติก / สนมใบ้ไร้ศักด์ / หากไม่กล้าข้าจัดการนางเอง

Share

หากไม่กล้าข้าจัดการนางเอง

last update Last Updated: 2024-11-23 07:23:43

"ฝ่าบาท… คงไม่มีโอกาสแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

"หมายถึงเรื่องที่ท่านอามีใจให้หญิงใบ้คนนั้นนะหรือ"

"ข้าน้อยเห็นว่า เป็นธรรมดาที่ท่านอ๋องจะจิตใจไหวเอนเพราะ เพราะนางงดงามที่สุด (กลืนน้ำลายลงคอยากเย็น) งดงามเกินกว่าจะคาดถึง"

"หญิงทั่วไปเช่นนางใบ้ ไม่ได้มีฐานะสูงส่งจะงดงามได้แค่ไหนกัน"

"ฝ่าบาท ป้อคุนพบหน้าเจิ้งเหม่ยอิงแล้วพูดได้เพียงว่าในตอนนี้นางคือหญิงงามอันดับหนึ่งในใต้หล้าแห่งนี้"

"ไม่ใช่สำหรับข้า นางก็เพียงหญิงงามที่ตั้งใจมาล่อลวงท่านอาให้ไขว่เขว้ก็เท่านั้น ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้จริงอย่างที่เจ้าว่า แต่หาใช่เพราะความงามของนางหากแต่ท่านอาในตอนนี้หลงใหลนางเกินกว่าที่ข้าจะกล้าขัดใจ เรายังต้องอาศัยท่านอาในหลายเรื่อง รอให้เหล่าขุนนางวางใจในตัวข้าเสียก่อนที่ผ่านมาทุกอย่างต้องผ่านชิงกวานอ๋องเพียงผู้เดียว เพราะเสด็จพ่อทรงฝากฝังข้ากับแคว้นเหว่ยไว้กับท่านอา”

“ฝ่าบาทคงต้องพูดเรื่องนี้กับท่านอ๋อง”

“ท่านอายินดีสละทุกอย่างขอเพียงมีนางข้างกาย ข้ากลัวว่าข้าพูดเจาะจงท่านอายิ่งจะขุ่นเคือง”

“แล้วฝ่าบาทจะทำเช่นไรต่อจากนี้”

“ทำให้นางมัวหมองจนท่านอา ..ไม่อาจจะยกย่องนางได้”

ป้อคุนหน้าถอดสี หญิงใบ้อ่อนต่อโลกเพียงคนเดียวอู่อินเฉิงตั้งใจทำลายนาง เพื่อดึงชิงกวานอ๋องที่กำลังจะทิ้งทุกอย่างให้กลับมาเพื่อประโยชน์ของแคว้นเหว่ย

“ส่งคน ย่ำยีนางเสีย”

“ตะตะแต่ฝ่าบาทนางแค่เพียงหญิงใบ้อ่อนต่อโลก”

รอยยิ้มหยันบนใบหน้าของอู่อินเฉิง

“หากเจ้ายอมใจอ่อน ข้าจะลงมือเอง แค่เพียงหญิงอ่อนต่อโลกคนหนึ่ง”

ป้อคุนก้มหน้าบังเกิดความสงสารเสี่ยวเจิ้งจับใจนางทำกรรมอะไรไว้ต้องถูกอู่อินเฉิงจงเกลียดจงชังเพียงนี้

“ป้อคุนจะลงมือเอง”

เพียงแค่นี้ก็พอจะช่วยนางได้บ้างแม้ว่าจะกลัวว่าอู่อินเฉิงจะลงทัณฑ์แต่คนอย่างป้อคุน มีจิตใจคุณธรรมแม้จะไม่เปิดเผยทว่าในใจรู้ดี

“ข้าเปลี่ยนใจแล้วจับตัวนางหรือล่อลวงนางไปที่ตำหนักฤดูหนาว ก่อนที่ท่านอาจะยกย่อง หรือก่อนวันที่ท่านอาจะเลี้ยงต้อนรับนาง เพื่อป่าวประกาศให้เหล่าขุนนางรู้ว่านางสำคัญเพียงใดงานเลี้ยงต้อนรับนางจะต้องไม่เกิดขึ้น”

ป้อคุนก้มหน้าประสานมือ ในหัวตอนนี้คิดวกวนหาทางที่จะช่วยเสี่ยวเจิ้งให้ได้

วังหลวง

“หมิงเยว่ ฤดูหนาวเริ่มแล้วข้าตั้งใจออกเที่ยวป่าล่าสัตว์ในวันพรุ่งนี้”

หมิงเยว่ฮองเฮาเงยหน้าขึ้น

“โอ้ฝ่าบาท เช่นนั้นหมิงเยว่จะเตรียมเครื่องกันหนาวและเสบียงไว้ ขบวนเสด็จประพาสป่าปีนี้คงต้องรื่นเริงเป็นแน่ หมิงเยว่เสียดายยิ่งนักไม่อาจร่วมส่งเสด็จประพาสในครั้งนี้”

“ร่างกายเจ้าอ่อนแอ อีกอย่างปีนี้ท่านอาบาดเจ็บจนไม่อาจร่วมประพาสข้าจึงตั้งใจ ออกไปพร้อมกับป้อคุนและองครักษ์อีกจำนวนหนึ่งเท่านั้นส่วนชินอ๋องให้อยู่ดูแลตัดสินใจเรื่องต่างๆแทนข้ายามที่ข้าไม่อยู่ เจ้าเองก็มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ หากไม่แน่ใจก็ปรึกษาท่านอา ส่วนชินอ๋องข้าจะให้เขาส่งเรื่องต่างๆ ในราชสำนักให้เจ้าช่วยดู”

หมิงเยว่ยิ้มอ่อนหวาน

ตงฟางหัวองครักษ์คนสนิทของหมิงเยว่ประสานมือตรงหน้า หมิงเยว่ฮองเฮาพร้อมรับบัญชา เล็บยาวที่เคลือบสีแดงไว้บรรจงหยิบถุงทองในมืยื่นให้ตงฟางหัว

“ ทุกๆ ปีล้วนมีคนติดตามมากมายฤดูหนาวปีนี้ฝ่าบาทเสด็จกับองครักษ์เพียงไม่กี่คน แม้จะอ้างว่าชิงกวานอ๋องได้รับบาดเจ็บอ้างว่าชินอ๋องคอยดูแลวังหลวง ปกติต้องคะยั้นคะยอให้ข้าไปด้วย แต่ปีนี้กลับไม่ชวนข้าแม้แต่คำเดียวที่มาบอกกล่าวเหมือนจะขอ ความจริงถึงข้าไม่ให้ไปก็ไม่อาจรั้งไว้เช่นกัน”

แววตาเยือกเย็นทว่าภายในร้อนรุ่ม

“ข้าน้อยส่งคนแทรกซึม ไปกับขบวนประภาสของฝ่าบาทให้เอง”

หมิงเยว่ยิ้ม บางๆ ให้กับตงฟางหัว

“เจ้ารู้ใจข้ายิ่ง”

“ตงฟางหัว ภักดีไม่เปลี่ยน สิ่งใดที่ทำให้ฮองเฮาทรงไม่สบายพระทัยสิ่งนั้นก็จะต้องเป็น ตงฟางหัวที่สะสางแทน” 

ประสานมือก้าวขาจากไป

จวนอ๋อง

“พี่สาวชือหรูชวนเจ้าไปเลือกผ้าที่ร้านของนางในตลาด”

เสี่ยวเจิ้งส่ายหน้าไปมาส่งภาษามือบอกว่าที่เลือกไว้ก็มากมายแล้ว แต่จงหลินกลับ ถอนหายใจ

“นางไปขอกับท่านอ๋องอ้างว่าอยากให้ช่วยโฆษณาร้านให้นาง และอีกอย่างนางบอกว่าอยากให้เจ้าเปิดหูเปิดตาเสียบ้าง หลายวันมานี้อยู่แต่ในจวนอ๋อง และที่สำคัญท่านอ๋องเห็นด้วยกับนางให้ข้ามาบอกให้เจ้าเตรียมตัวเกี้ยวรออยู่”

 เสี่ยวเจิ้งส่งภาษามือบอกว่าเกรงใจท่านอ๋อง เดี๋ยวเสี่ยวเจิ้งจะไปอธิบายกับท่านอ๋องด้วยตัวเอง ชือหรูก้าวเข้ามาในห้อง

“คุณหนูเจ้าขา ชือหรูมาถึงนี่อยากจะอวดผ้าสวยๆ ที่เพิ่งนำมากลับพ่อค้าจากต่างแคว้น ท่านอ๋องเมตตาให้คุณหนูออกไปกับชือหรูเตรียมเกี้ยวไว้แล้ว คุณหนูไม่ถนอมน้ำใจท่านอ๋องหน่อยหรือไร”

เสี่ยวเจิ้งยิ้มบางๆ สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนปล่อยให้ชือหรูดึงมือออกจากจวนไปที่เกี้ยวที่รออยู่ง่ายดาย

อู๋อินเฉิงบนหลังม้าที่มีทั้งกระบี่และคันธนูไม่ได้นั่งเกี้ยวในขบวนเสด็จเหมือนเช่นปีที่ผ่านๆ มา ชินอ๋องรูปร่างสูงใหญ่เกินอายุยืนส่งอยู่ไม่ไกลนัก พร้อมกับหมิงเยว่และขันทีนางกำนัล

“เจ้าต้องดูแลตัวเองระหว่างที่ข้าไม่อยู่”หมิงเยว่ยิ้มอ่อนหวาน

“ชินอ๋อง อินฉางส่วนเจ้ามีเรื่องหนักหนา ก็ให้บอกกล่าวกับฮองเฮาแทนข้า”

อินฉางประสานมือก้มหน้าซ่อนยิ้ม

“เคลื่อนขบวน” 

เสียงขานดังๆของป้อคุนทั้งๆ ที่มีกันเพียงไม่กี่คน

ม้าเยาะย่างออกจากหน้าประตูวัง

เกือบสิบลี้จากประตูวัง

“ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม”ป้อคุน ก้มหน้า

“พ่ะย่ะค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยทางนั้นให้ ชือหรูจัดการเรียบร้อยแล้ว”

“ดีมาก ป้อคุนเจ้าไม่เคยทำให้ข้าผิดหวัง องครักษ์ที่ตามมานี่ส่งไปประจำการที่ด่านกวงเหมินอ้างว่าข้าต้องการออกป่าเพียงลำพัง แล้วอย่าลืมข้ารอที่ตำหนักฤดูหนาว นำนางใบ้ไปพบข้าที่นั่น”

ป้อคุนประสานมือก่อนจะกระตุกบังเหียนม้าให้ หยุด ส่งสียงดังๆ

“พวกเจ้าทั้งหมดตามข้ามา”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ตอนพิเศษ

    "แต่ฝ่าบาทหมดหนทางแล้วท่านอ๋องจะต้องไม่เป็นอะไรหยวนกังก็จะพาท่านอ่องหนีออกมาเช่นกันตามที่ตกลงกันไว้ตอนนี้แค่เพียงช่วยให้ฝ่าบาทหนีออกมาก่อน ท่านอ๋องขวางพวกมันไว้เพื่อให้ฝ่าบาทหนีอกมาฝ่าบาทอย่าทำให้ความตั้งใจของท่านอ๋องเสียเปล่า""แต่ท่านอาบาดเจ็บไม่น้อยข้าจะไปช่วยท่านอา เจ้าขลาดเขลาเพียงนั้นเชียวหรือป้อคุน"ป้อคุนทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้น"ฝ่าบาท หนีก่อนก่อนเถอะขอรับ ความปลอดภัยของฝ่าบาทสำคัญที่สุดท่านอ๋องทรงเข้าใจข้อนี้ดีจึงพยายามที่จะกันทหารพวกนั้นเพื่อให้ฝ่าบาทหนีไปหากว่าฝ่าบาทยังเป็นว่าสิ่งที่ป้อคุนหยวนกังและท่านอ๋องทำไปทั้งหมดนั้นขลาดเขลาป้อคุนจะขอให้ฝ่าบาททรงสังหารป้อคุนเสียไม่เช่นนั้นป้อคุนก็ไม่อาจปล่อยให้ฝ่าบาท กลับไปที่ด่านปงเปียง"อู่อินเฉิงทรุดกายลงปล่อยกระบี่ลงข้างกาย"ข้าไม่อาจปล่อยท่านอาไว้ที่นั่นป้อคุนเข้าใจไหมท่านอาเป้นเหมือนบิดาเป็นเป็นพี่น้องและเป็นเหมือนคนที่หวังดีกับข้าเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้""ฝ่าบาท ท่านอ๋องจะดีใจหากทว่าฝ่าบาทปลอดภัยและด้วยความภักดีของหยวนกังจะไม่มีทางให้ท่านอ๋องต้องตาย"อู่อินเฉิงพยักหน้า"กันเถอะไปรอที่ด่านชายแดนแคว้นใต้"สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ตอนพิเศษ

    “ท่านอาเราทั้งหมดลงเรือลำเดียวกันแล้วข้าไม่อาจดูดายปล่อยให้ท่านอาและพวกเขาต้องเผชิญศึกเพียงลำพัง เช่นนั้นจึงขอยืนยันคำเดิมว่าจะอยู่ที่นี่แต่สัญญาว่าหากเราทั้งหมดไม่อาจต้านทัพของอิงฉางได้ข้าจะเร้นกายไปยังที่ปลอดภัยพร้อมกันนั้นท่านอาเองก็สำคัญไม่น้อยการกอบกู้บัลลังก์ของเฉิงอู่ต้องกาศัยท่านอา เช่นนั้นหากเราทั้งหมดไม่อาจต่อกรก็ควรจะหนีไปเสียแต่ในตอนนี้ก็ต้องลองยืนหยัดให้ถึงที่สุดก่อน”ชิงกวานอ๋องถอนหายใจปฏิเสธไม่ได้ว่าที่อินเฉิงพูดมาทุกอย่างล้วนสำคัญเขาเองจากประสบการณ์ที่ผ่านมารู้ดีว่าด่านปงเปียงมีกำลังเพียงหยิบมือไม่อาจต่อกรกับทหารของอินฉางฮ่องเต้ได้แม้จะมีฝีมือดีแค่ไหนก้ไม่อาจต่อกรกับทหารจำนวนมากราวกับมดปลวกได้“ฝ่าบาทอย่าลืมคำมั่นนี้หากว่าไม่อาจต่อกรฝ่าบาทจะต้องหนีไปเสียอย่าได้ห่วงใครไม่ว่าจะใครหรือแม้กระทั่งชิงกวานอ๋อง”อู่อิงเฉิงยิ้มน้อยๆ“อิงเฉิงสัญญาจะไม่ทำให้ท่านอาจต้องเป้นกังวล“ดี เช่นนั้นร่วมรบเคียงข้างสร้างขวัญกำลังใจ ป้อคุนหยวนกังอารักขาฝ่าบาทจนถึงที่สุดหากไม่ไหวสิ่งเดียวที่ต้องทำแบบไม่ต้องคิดคือพาฝ่าบาทเร้นกายไปเสียแล้วพบกันที่จุดนัดพบข้ามผ่านด่านชายแดนแคว้นใต้”สี่แรงร่วมใจฟ

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ตอนพิเศษ

    “เช่นนั้นหยงเจิ้งกลับไปที่นั่น เสด็จพ่อกับฮองเฮาตั้งใจออกผนวช จึงขาดคนคอยดูแล”“จะดีไหมหากให้ป้อคุนไปคอยดูที่นั่น พร้อมกับหยวนกัง”“ข้าตั้งใจประทานงานแต่งงานให้กับป้อคุนและซือหรูเสียเพราะสองคนรอเวลานี้มานาน”หยงเจิ้งพูดยิ้มๆ“ดีเลย เช่นนั้นส่งข่าวให้เจียเกอช่วยดูแลพวกเขา ระหว่างนี้คนทั้งหมดภักดียิ่งนักไม่มีสิ่งใดให้หนักใจ ฝ่าบาทหยงเจิ้งจึงจะออกผนวชได้อย่างหมดห่วงเสียที”“ที่นี่คงเงียบเหงาหากไม่มีป้อคุนหยวนกังและซือหรู”“ชิงกวานน้อย ขอตามไปที่วังหลวงแคว้นใต้กับท่านอาทั้งสอง ข้าเองก็ไม่อาจขัดเพราะหยวนกังกับป้อคุนดูแลชิงกวานน้อยอีกทั้งยังฝึกปรือวรยุทธ์ให้จนเชี่ยวชาญ”“คงจะต้องคิดถึงทุกคน”อินเฉิงกอดรวบร่างอุ้ยอ้ายไว้ในอ้อมแขน“มีข้าอยู่เจ้าจะไม่ต้องเหงา”“ฝ่าบาทเอาแต่ใจใครกันจะลืมได้ เมื่อคราวอยู่ที่ตำหนักฤดูหนาวก็เอาแต่ใจไม่เปลี่ยน”“เช่นนั้นอย่างไรเล่าเจ้าจึงตั้งครรภ์ข้าจึงไม่ต้องรอนาน หากไม่ไปที่ตำหนักฤดูหนาวรำลึกความหลังกันเจ้าจะตั้งครรภ์หรือไร ข้าเองตามใจชิงกวานน้อยที่อยากจะมีน้อง”หยงเจิ้งยิ้มเขินอาย ใบหน้าแดงระเรื่อ อู่อินเฉิงกอดไว้แน่น“ข้ารักเจ้ามีเจ้าคนเดียวตลอดไปข้าสัญญาและจะไม

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   จบ

    อินเฉิงลุกขึ้นพิงแท่นบรรทมเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่างมองเห็นชัดเจนแจ่มใส ทั้งสองตารอยยิ้มเป็นสุข ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของหยงเจิ้งที่หลับใหลไปกับอ้อมกอดของเขา ความสุขที่มาถึงยามที่ผ่านความทุกข์ระทม จึงนับว่าเป็นความสุขที่แท้จริงสายลมพัดผ่าน ชิงกวานอ๋องวิ่งหลบซุกตัวยังโขดหิน หยวนกังเกาหัวแกรกๆ ป้อคุนวิ่งตาม หันหน้าหันหลังไม่พบ อ๋องน้อยว่าแอบหลบอยู่ตรงไหนหยวนกังส่ายหน้าไปมา ลูบเคราวยาว“เราสองคนคงจะแก่ไปแล้วจึงไม่อาจหาท่านอ๋องน้อยพบ”“เชิญท่านเพียงลำพังเลยหยวนกัง ข้ายังไม่อยากจะแก่ท่านอ๋องน้อยวิ่งหลบรวดเร็วเหมือนชิงกวานอ๋องที่พลิกพลิ้วยิ่งกว่าใคร อีกหน่อยหากฝึกปรือวิชากระบี่คงหาตัวจับยาก”หยวนกังอมยิ้ม“ข้า ได้ยินว่าท่านอ๋องน้อยทรงขออนุญาตฝ่าบาทฝึกวิชากระบี่ เราสองคนคงต้องลับคมกันหน่อยเพื่อรอวันถวายการฝึกสอน”“ฮ่าาา เหมือนจริงๆ ช่างเหมือนท่านอ๋องชิงกวานเสียจริง มุ่งมั่นยิ่งนัก เราสองคนคงต้อง ทุ่มเทฝึกสอนกันให้มากหน่อย”ป้อคุนเอ่ยขึ้นดังๆ“หยวนกัง…ป้อคุน…..”ชิงกวานน้อยวิ่งออกจากที่ซ่อน กระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของหยวนกัง“ฮ่าาาาท่านอ๋องในที่สุดก็ยอมออกมา”ป้อคุนอมยิ้ม“ก็ข้าได้ยินว่า ท่านอาทั้ง

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   จบบริบูรณ์

    ดวงตาพร่ามัวกลอกกลิ้งไปมาทั้งซ้ายและขวา เสียงอ้อแอ้ขององค์ชายน้อยดังแว่วมา แต่ไกล“ชิงกวานน้อยของแม่ เจ้าจะรีบตื่นแต่เช้าทำไมกันเสด็จพ่อยังคงหลับใหล”เสียงหวานของหยงเจิ้งทำเอาอินเฉิงยิ้มกว้างยกมือขึ้นคลำที่ดวงตาทั้งสองข้างสูดลมหายใจลึกๆ“เสี่ยวเจิ้ง”หยงเจิ้งขยับกายหันมา มองร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาลืมตาอยู่บนแท่นบรรทม รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นที่ใบหน้างาม“ฝ่าบาท ท่านฟื้นแล้ว”ดวงตาซ้ายขวากลอกกลิ้งไปมา มองเห็นใบหน้างามเด่นชัด“ข้านอนไปนานแค่ไหน เสี่ยวเจิ้งกับองค์ชายน้อยถึงได้มาอยู่ข้างกายข้าได้”“องค์ชายน้อยชิงกวาน”อุ้มร่างเล็กที่ส่งเสียงอ้อแอ้ปลุกยามเช้ามาใกล้ๆ อินเฉิงรับเอาร่างเล็กจิ๋วไว้ในอ้อมแขน“ชิงกวาน ชื่อนี้เหมาะกับเจ้าเสียจริง เจ้า เป็นคนที่ทำให้ พ่อกับแม่ได้มีวันนี้วันที่เราพร้อมหน้า”หยงเจิ้งปาดน้ำตาที่เอ่อล้นขอบตา อินเฉิงดึงมือหยงเจิ้งให้นั่งลงข้างๆ เขาจูบซับน้ำตาให้เบาๆ“ท่านอาไม่อยากเห็นน้ำตาเจ้าหยงเจิ้งของข้า ดวงตานี้ของท่านอาอยากเห็นรอยยิ้มของเจ้า มิใช่หยาดน้ำตา”หยงเจิ้งยิ้มทั้งน้ำตา“มีวันนี้ได้เพราะท่านอ๋อง ข้าหยงเจิ้งเช่นไรจะกล้าขัดคำสั่ง”ยิ้มกว้างสดใส อินเฉิงกอดรวบร่าง

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   เพื่อเจ้า

    “ข้า อัปลักษณ์เพียงนี้ เป็นท่านอาที่จะต้องดูแลหยงเจิ้งต่อไป เป็นท่านอาอินเฉิงจึงวางใจ”หมอหลวงวิ่งถือหลวมยาเข้ามา อินเฉิง ขยับกายให้หมอหลวงตรวจดูอาการของ ชิงกวานอ๋อง“ฝ่าบาท ชิงกวานอ๋องไร้ความสามารถไม่อาจดูแลนาง ฝ่าบาทจึงคู่ควรที่สุด”หมอหลวงลุกขึ้นยืนประสานมือตรงหน้าอินเฉิงพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอินเฉิงหลับตาไล่หยาดน้ำตา หยวนกังเบือนหน้าหนีปาดน้ำตาที่ไหลริน“ท่านอา เราไปพักที่ตำหนักให้ท่านหมอ จัดเทียบยาดีไหม”น้ำเสียงอ่อนโยน“หยวนกังตามอาจารย์ให้ข้าทีข้าอยากจะพักเสียหน่อย ฝ่าบาทพยุงชิงกวานไปเถิด ให้หยวนกังตามอาจารย์”หยวนกังยิ้มกว้าง เหมือนจะเริ่มมีความหวังว่าอาจารย์กับวิชาแพทย์เถื่อนจะสามารถช่วยชีวิตท่านอ๋องได้“หยวนกังรีบไปแล้วท่านอ๋องอดทนหน่อย”วิ่งออกจากท้องพระโรงกระโดดขึ้นหลังม้าควบออกไปราวกับลูกดอกพุ่งเข้าสู่เป้าอินเฉิงพยุงชิงกวานอ๋องหมอหลวงตรวจดูอาการของป้อคุนอย่างเร่งรีบบนแท่นบรรทม ร่างสูงองอาจนอนเหยียดยาวใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้กลับซีดขาว แต่แววตายังอ่อนโยนเหมือนเช่นทุกครั้งที่อินเฉิงเคยเห็น เลือดสดๆ ยังไหลซึมออกจากบาดแผล“ท่านอาอดทนหน่อย อาจารย์ปู่กำลังมา”“เพื่อฝ่าบาทต่างหาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status