Share

มิน่าเล่า

last update Last Updated: 2024-11-25 08:02:42

อู่อินเฉิงควบม้าด้วยความเร็วมุ่งตรงยังตำหนักฤดูหนาวที่ห่างไกลจากวังหลวงนับ ร้อยลี้

“ชือหรูไปไหน ทำไมไม่มากับเกี้ยว”

จงหลินตั้งข้อสังเกต เสี่ยวเจิ้งเปิดผ้าม่านมองหาชือหรูแต่ก็ไม่เห็น

ส่งภาษามือเหมือนจะบอกว่าชือหรูคงล่วงหน้าไปก่อนแล้ว จงหลินพยักหน้าเข้าใจแต่ก็อดที่จะกังวลไม่ได้ ในเมื่อวันนี้หยวนกังไม่ได้ออกมาด้วย

คนหามเกี้ยว พาเกี้ยวลัดเลาะไปตามชายป่าก่อนจะถึงย่านร้านตลาดบุรุษที่สวมอาภรณ์สีดำมีผ้าปิดบังใบหน้าเข้าล้อมเกี้ยวไว้คนหามเกี้ยวต่างวางเกี้ยวรอดูท่าที

“หยุดเกี้ยว”

คนหามเกี้ยวรู้แล้วว่าคนทั้งหมดไม่ได้มาดีแน่ ชักกระบี่ออกมาป้องกันตัว แต่ทว่าบุรษนับสิบมีหรือจะเกรงกลัว ต่างคนต่างห่ำหั่นฟาดฟัน คนหามเกี้ยวล้วนบาดเจ็บร้องโอดโอยด้วยกำลังคนและฝีมือด้อยกว่า

“ส่งของมีค่ามาให้หมด”จงหลินกำมือเสี่ยวเจิ้งไว้แน่น

“หนี”

เสี่ยวเจิ้งเหลือบตามองช่องหน้าต่างตรงผ้าม่าน รีบพุ่งตัวออกไปจากเกี้ยวแต่ช้าไปเสียแล้ว บุรุษผู้หนึ่งขวางหน้าไว้ กระชากร่างเล็กของจงหลินติดมือไป

“ฮ่าาาา มี สาวงามด้วยข้าขอคนนี้ เฮ้ยข้าเอาอีกคนหนึ่งละกัน”

จงหลิน ก้มลงกัดไปบนท่อนแขนของบุรุษผู้นั้นที่มือไวเท่าความคิดสะบัดมือเข้าใส่ใบหน้าบางของจงหลินจนล้มลงไปกองกับพื้น

“นางตัวดีกล้าทำร้ายข้าหรือมานี่”

ดึงร่างบางของจงหลินออกห่างจากเกี้ยวเข้าไปในป่า เสี่ยงเจิ้งสะบัดมือออกจากการเกาะกุมเตรียมที่จะวิ่งออกจากตรงนั้น แค่เพียงพริบตาบุรุษผู้นั้นก็ใช้ผ้าในมือโปะเข้าที่ปากครึ่งจมูกร่างบางของเสี่ยวเจิ้ง ล้มพับลงอย่างรวดเร็ว

จวนอ๋อง

“ท่านอ๋องเกิดเรื่องใหญ่แล้ว คุณหนูเจิ้งเหม่ยอิงถูกโจรป่าจับตัวไป”

ชิงกวานอ๋องลุกพลวดก่อนจะล้มลงไปบนเก้าอี้ไม้ ใบหน้าเหยเก

“ท่านอ๋องถนอมพระวรกายด้วย”

หยวนกังรีบเข้าไปพยุง

“หยวนกังส่งคนออกตามหาคุณหนูแล้วคาดว่าจะยังไปได้ไกล”

จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งมาส่งจงหลินที่หมดสติที่หน้าจวนอ๋อง ทั้งๆที่คุณหนูเสี่ยวเจิ้งออกไปได้ไม่นานหยวนกังจึงคิดว่าอาจจะตามทันได้ไม่ยากนักหยวนกังหารู้ไม่ว่านั่นคือคนของป้อคุนที่ ให้มาส่งข่าวเพื่อแผนการของอู๋อินเฉิงจะได้ล้มเหลว

บุรุษ ผู้หนึ่งควบม้าพร้อมกับเชือกจูงม้าอีกตัวบนหลังม้าตัวถัดมามีร่างไร้สติของเสี่ยวเจิ้งบนนั้น

ม้าหนุ่มพุ่งทะยาน ไปยังตำหนักฤดูหนาว ราวกับลูกดอกพุ่งเข้าเป้า

ตำหนักฤดูหนาว

“ ด้านล่างนั่นมีบ้านพัก ป้อคุนอารักขาข้าที่นั่นก่อนจะขึ้นมาบนเขา ส่วนบนนี้ข้าจะอยู่ที่นี่สั่งสอนหญิงใบ้ นั่นเพียงลำพัง”

“ฝ่าบาท แต่ที่นี่ยามนี้ลำบากยิ่งนักอีกทั้งยังหนาวเหน็บ ฝ่าบาทจะใช้ชีวิตที่นี่ไร้คนปรนนิบัติได้อย่างไรไหนจะเรื่องเครื่องเสวยและเรื่อง…หลับนอน”

 อู่อินเฉิงยิ้มมุมปาก

“ เนื้อสัตว์แช่แข็งกับเสบียงเมื่อครั้งปีก่อนๆยังมีอีกมาก เจ้าไม่ต้องกังวลเจ้าเองนั่นล่ะควรลงจากเขาไปหาซื้อข้าวของมาตุนไว้ เพราะข้าจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะอยากกลับไปหรือจนกว่าท่านอาจะเลิกตามหาหญิงใบ้นั่นเสีย”

“ฝ่าบาทแล้ว งานในราชสำนักเล่า”

“ไม่มีสิ่งใดน่าห่วง ตอนนี้บ้านเมืองสงบอีกทั้งท่านอาบาดเจ็บจึงต้องรั้งที่วังหลวงอีกนานยังไม่กลับด่านชายแดนเป็นแน่ แค่ได้ยินว่าท่านอาอยู่ที่วังหลวง ก็ไม่มีใครกล้า”

ไม่มี สิ่งใดต้องห่วงจริงดังอู่อินเฉิงว่าไว้ 

หากอู่อินเฉิงไม่ห่วงหมิงเยว่ฮองเฮาอย่างทุกครั้งที่ออกประพาสมักจะใช้เวลาไม่นาน เพราะอากาศหนาวจะทำให้หมิงเยว่ฮองเฮาอาการป่วยกำเริบ แต่ครั้งนี้ไม่ได้พาหมิงเยว่ฮองเฮามาประพาสป่าด้วย การอยู่ที่นี่สักเดือนหนึ่งหรือสองเดือนก็ไม่มีใครสงสัย เพราะการประพาสป่ามักจะใช้เวลาในการเดินทางและประพาสป่าหนึ่งเดือนขึ้นไปอยู่แล้ว ผิดแต่ครั้งนี้ไม่มีคนติดตาม แล้วใครเล่าจะรู้ว่าอู่อินเฉิงมาพำนักที่ตำหนักฤดูหนาวแทนที่จะเดินทางไปยังทางเหนือล่าสัตว์เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

“ไปได้แล้ว แล้วอย่าลืม เก็บกวาดคนที่พานางมาที่นี่ให้กับข้าด้วยจะทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้เขานำเรื่องนี้ไปบอกใคร”

ป้อคุนประสานมือลงเขาไป

 อู่อินเฉิงนั่งลงบนแท่นหินกว้างมองรอบๆ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ในฤดูหนาว ที่งอกงามอยู่บนซอกหิน สีสันแปลกตาตำหนักใหญ่โอบล้อมด้วยหินผาเหมือนตั้งใจซ่อนตำหนักไว้ภายในขุนเขา อู่อินเฉิงชอบที่นี่มากทว่า หมิงเยว่กลับไม่ชอบใจนักเพราะมาทีไร จะต้องใช้ชีวิตต่างจากในวังหลวงไร้คนปรนนิบัติพัดวี แต่เขาก็ไม่อยากให้หญิงใบ้โสมมคนนั้นมาทำให้ที่นี่แปดเปื้อนเช่นกัน ยิ้มหยันแต่เขาก็ไม่ได้ให้นางมาอยู่อย่างสุขสบายเสียหน่อยนางจะต้องรับใช้เขาอยู่อย่างอยู่ไม่สู้ตาย

อู่อินเฉิงเอนกายลงบนแท่นหินเผลอหลับไป สามชั่วยามผ่านไป ดวงตะวันลับเหลี่ยมเขา ป้อคุณจูงม้าที่มีร่างของเสี่ยวเจิ้งพาดอยู่ขึ้นมาบนเขาหน้าตำหนักฤดูหนาว

“ฝ่าบาทเจิ้งอิงเหม่ยมาถึงแล้ว”

“ทิ้งนางไว้เจ้าลงไปเสีย”ป้อคุนหันหน้าหันหลัง

“ฝ่าบาทอากาศเย็นมากนางไม่ได้มีอาภรณ์กันหนาว”

“เจ้าก็ยกของเจ้าให้นางสิ”

ป้อคุนถอดเสื้อคลุมห่มคลุมร่างที่พาดบนหลังม้า สงสารจับใจ

“ลงเขาไปได้แล้ว”

ตวาดลั่นป้อคุนก้มหน้าประสานมือก่อนจะลงจากเขาไป

“นางหญิงใบ้คนนี้นี่ คงมีดวงพิฆาตบุรุษหรือไร ไม่ว่าใครเข้าใกล้นางมักจะอดสงสารนางไม่ได้”

 พลิกร่างบาง ไว้ในอ้อมแขน ตั้งใจปลุกให้ตื่นไม่แม้แต่จะอุ้มเสี่ยวเจิ้งเข้าไปในตำหนัก ใบหน้างามที่เห็นทำเอาอู๋อินเฉิงใจเต้นตึกตัก ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ กับดวงตาที่ปิดสนิทขนตาดำขลับเป็นแพรเรียงเป็นระเบียบ แก้มอิ่มมีเลือดฝาดกับลำคอระหงที่มีปอยผมปกคลุมกับผิวเนียนที่สัมผัสโดนท่อนแขนแข็งแรงของเขา อู่อินเฉิงกับคิดว่านางช่างเป็นหญิงธรรมดาที่มีบางอย่างต่างจากหญิงธรรมดาทั่วไป

“มิน่าเล่าท่านอาชิงกวานจึงหลงใหลนาง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ตอนพิเศษ

    "แต่ฝ่าบาทหมดหนทางแล้วท่านอ๋องจะต้องไม่เป็นอะไรหยวนกังก็จะพาท่านอ่องหนีออกมาเช่นกันตามที่ตกลงกันไว้ตอนนี้แค่เพียงช่วยให้ฝ่าบาทหนีออกมาก่อน ท่านอ๋องขวางพวกมันไว้เพื่อให้ฝ่าบาทหนีอกมาฝ่าบาทอย่าทำให้ความตั้งใจของท่านอ๋องเสียเปล่า""แต่ท่านอาบาดเจ็บไม่น้อยข้าจะไปช่วยท่านอา เจ้าขลาดเขลาเพียงนั้นเชียวหรือป้อคุน"ป้อคุนทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้น"ฝ่าบาท หนีก่อนก่อนเถอะขอรับ ความปลอดภัยของฝ่าบาทสำคัญที่สุดท่านอ๋องทรงเข้าใจข้อนี้ดีจึงพยายามที่จะกันทหารพวกนั้นเพื่อให้ฝ่าบาทหนีไปหากว่าฝ่าบาทยังเป็นว่าสิ่งที่ป้อคุนหยวนกังและท่านอ๋องทำไปทั้งหมดนั้นขลาดเขลาป้อคุนจะขอให้ฝ่าบาททรงสังหารป้อคุนเสียไม่เช่นนั้นป้อคุนก็ไม่อาจปล่อยให้ฝ่าบาท กลับไปที่ด่านปงเปียง"อู่อินเฉิงทรุดกายลงปล่อยกระบี่ลงข้างกาย"ข้าไม่อาจปล่อยท่านอาไว้ที่นั่นป้อคุนเข้าใจไหมท่านอาเป้นเหมือนบิดาเป็นเป็นพี่น้องและเป็นเหมือนคนที่หวังดีกับข้าเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้""ฝ่าบาท ท่านอ๋องจะดีใจหากทว่าฝ่าบาทปลอดภัยและด้วยความภักดีของหยวนกังจะไม่มีทางให้ท่านอ๋องต้องตาย"อู่อินเฉิงพยักหน้า"กันเถอะไปรอที่ด่านชายแดนแคว้นใต้"สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ตอนพิเศษ

    “ท่านอาเราทั้งหมดลงเรือลำเดียวกันแล้วข้าไม่อาจดูดายปล่อยให้ท่านอาและพวกเขาต้องเผชิญศึกเพียงลำพัง เช่นนั้นจึงขอยืนยันคำเดิมว่าจะอยู่ที่นี่แต่สัญญาว่าหากเราทั้งหมดไม่อาจต้านทัพของอิงฉางได้ข้าจะเร้นกายไปยังที่ปลอดภัยพร้อมกันนั้นท่านอาเองก็สำคัญไม่น้อยการกอบกู้บัลลังก์ของเฉิงอู่ต้องกาศัยท่านอา เช่นนั้นหากเราทั้งหมดไม่อาจต่อกรก็ควรจะหนีไปเสียแต่ในตอนนี้ก็ต้องลองยืนหยัดให้ถึงที่สุดก่อน”ชิงกวานอ๋องถอนหายใจปฏิเสธไม่ได้ว่าที่อินเฉิงพูดมาทุกอย่างล้วนสำคัญเขาเองจากประสบการณ์ที่ผ่านมารู้ดีว่าด่านปงเปียงมีกำลังเพียงหยิบมือไม่อาจต่อกรกับทหารของอินฉางฮ่องเต้ได้แม้จะมีฝีมือดีแค่ไหนก้ไม่อาจต่อกรกับทหารจำนวนมากราวกับมดปลวกได้“ฝ่าบาทอย่าลืมคำมั่นนี้หากว่าไม่อาจต่อกรฝ่าบาทจะต้องหนีไปเสียอย่าได้ห่วงใครไม่ว่าจะใครหรือแม้กระทั่งชิงกวานอ๋อง”อู่อิงเฉิงยิ้มน้อยๆ“อิงเฉิงสัญญาจะไม่ทำให้ท่านอาจต้องเป้นกังวล“ดี เช่นนั้นร่วมรบเคียงข้างสร้างขวัญกำลังใจ ป้อคุนหยวนกังอารักขาฝ่าบาทจนถึงที่สุดหากไม่ไหวสิ่งเดียวที่ต้องทำแบบไม่ต้องคิดคือพาฝ่าบาทเร้นกายไปเสียแล้วพบกันที่จุดนัดพบข้ามผ่านด่านชายแดนแคว้นใต้”สี่แรงร่วมใจฟ

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   ตอนพิเศษ

    “เช่นนั้นหยงเจิ้งกลับไปที่นั่น เสด็จพ่อกับฮองเฮาตั้งใจออกผนวช จึงขาดคนคอยดูแล”“จะดีไหมหากให้ป้อคุนไปคอยดูที่นั่น พร้อมกับหยวนกัง”“ข้าตั้งใจประทานงานแต่งงานให้กับป้อคุนและซือหรูเสียเพราะสองคนรอเวลานี้มานาน”หยงเจิ้งพูดยิ้มๆ“ดีเลย เช่นนั้นส่งข่าวให้เจียเกอช่วยดูแลพวกเขา ระหว่างนี้คนทั้งหมดภักดียิ่งนักไม่มีสิ่งใดให้หนักใจ ฝ่าบาทหยงเจิ้งจึงจะออกผนวชได้อย่างหมดห่วงเสียที”“ที่นี่คงเงียบเหงาหากไม่มีป้อคุนหยวนกังและซือหรู”“ชิงกวานน้อย ขอตามไปที่วังหลวงแคว้นใต้กับท่านอาทั้งสอง ข้าเองก็ไม่อาจขัดเพราะหยวนกังกับป้อคุนดูแลชิงกวานน้อยอีกทั้งยังฝึกปรือวรยุทธ์ให้จนเชี่ยวชาญ”“คงจะต้องคิดถึงทุกคน”อินเฉิงกอดรวบร่างอุ้ยอ้ายไว้ในอ้อมแขน“มีข้าอยู่เจ้าจะไม่ต้องเหงา”“ฝ่าบาทเอาแต่ใจใครกันจะลืมได้ เมื่อคราวอยู่ที่ตำหนักฤดูหนาวก็เอาแต่ใจไม่เปลี่ยน”“เช่นนั้นอย่างไรเล่าเจ้าจึงตั้งครรภ์ข้าจึงไม่ต้องรอนาน หากไม่ไปที่ตำหนักฤดูหนาวรำลึกความหลังกันเจ้าจะตั้งครรภ์หรือไร ข้าเองตามใจชิงกวานน้อยที่อยากจะมีน้อง”หยงเจิ้งยิ้มเขินอาย ใบหน้าแดงระเรื่อ อู่อินเฉิงกอดไว้แน่น“ข้ารักเจ้ามีเจ้าคนเดียวตลอดไปข้าสัญญาและจะไม

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   จบ

    อินเฉิงลุกขึ้นพิงแท่นบรรทมเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่างมองเห็นชัดเจนแจ่มใส ทั้งสองตารอยยิ้มเป็นสุข ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของหยงเจิ้งที่หลับใหลไปกับอ้อมกอดของเขา ความสุขที่มาถึงยามที่ผ่านความทุกข์ระทม จึงนับว่าเป็นความสุขที่แท้จริงสายลมพัดผ่าน ชิงกวานอ๋องวิ่งหลบซุกตัวยังโขดหิน หยวนกังเกาหัวแกรกๆ ป้อคุนวิ่งตาม หันหน้าหันหลังไม่พบ อ๋องน้อยว่าแอบหลบอยู่ตรงไหนหยวนกังส่ายหน้าไปมา ลูบเคราวยาว“เราสองคนคงจะแก่ไปแล้วจึงไม่อาจหาท่านอ๋องน้อยพบ”“เชิญท่านเพียงลำพังเลยหยวนกัง ข้ายังไม่อยากจะแก่ท่านอ๋องน้อยวิ่งหลบรวดเร็วเหมือนชิงกวานอ๋องที่พลิกพลิ้วยิ่งกว่าใคร อีกหน่อยหากฝึกปรือวิชากระบี่คงหาตัวจับยาก”หยวนกังอมยิ้ม“ข้า ได้ยินว่าท่านอ๋องน้อยทรงขออนุญาตฝ่าบาทฝึกวิชากระบี่ เราสองคนคงต้องลับคมกันหน่อยเพื่อรอวันถวายการฝึกสอน”“ฮ่าาา เหมือนจริงๆ ช่างเหมือนท่านอ๋องชิงกวานเสียจริง มุ่งมั่นยิ่งนัก เราสองคนคงต้อง ทุ่มเทฝึกสอนกันให้มากหน่อย”ป้อคุนเอ่ยขึ้นดังๆ“หยวนกัง…ป้อคุน…..”ชิงกวานน้อยวิ่งออกจากที่ซ่อน กระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของหยวนกัง“ฮ่าาาาท่านอ๋องในที่สุดก็ยอมออกมา”ป้อคุนอมยิ้ม“ก็ข้าได้ยินว่า ท่านอาทั้ง

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   จบบริบูรณ์

    ดวงตาพร่ามัวกลอกกลิ้งไปมาทั้งซ้ายและขวา เสียงอ้อแอ้ขององค์ชายน้อยดังแว่วมา แต่ไกล“ชิงกวานน้อยของแม่ เจ้าจะรีบตื่นแต่เช้าทำไมกันเสด็จพ่อยังคงหลับใหล”เสียงหวานของหยงเจิ้งทำเอาอินเฉิงยิ้มกว้างยกมือขึ้นคลำที่ดวงตาทั้งสองข้างสูดลมหายใจลึกๆ“เสี่ยวเจิ้ง”หยงเจิ้งขยับกายหันมา มองร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาลืมตาอยู่บนแท่นบรรทม รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นที่ใบหน้างาม“ฝ่าบาท ท่านฟื้นแล้ว”ดวงตาซ้ายขวากลอกกลิ้งไปมา มองเห็นใบหน้างามเด่นชัด“ข้านอนไปนานแค่ไหน เสี่ยวเจิ้งกับองค์ชายน้อยถึงได้มาอยู่ข้างกายข้าได้”“องค์ชายน้อยชิงกวาน”อุ้มร่างเล็กที่ส่งเสียงอ้อแอ้ปลุกยามเช้ามาใกล้ๆ อินเฉิงรับเอาร่างเล็กจิ๋วไว้ในอ้อมแขน“ชิงกวาน ชื่อนี้เหมาะกับเจ้าเสียจริง เจ้า เป็นคนที่ทำให้ พ่อกับแม่ได้มีวันนี้วันที่เราพร้อมหน้า”หยงเจิ้งปาดน้ำตาที่เอ่อล้นขอบตา อินเฉิงดึงมือหยงเจิ้งให้นั่งลงข้างๆ เขาจูบซับน้ำตาให้เบาๆ“ท่านอาไม่อยากเห็นน้ำตาเจ้าหยงเจิ้งของข้า ดวงตานี้ของท่านอาอยากเห็นรอยยิ้มของเจ้า มิใช่หยาดน้ำตา”หยงเจิ้งยิ้มทั้งน้ำตา“มีวันนี้ได้เพราะท่านอ๋อง ข้าหยงเจิ้งเช่นไรจะกล้าขัดคำสั่ง”ยิ้มกว้างสดใส อินเฉิงกอดรวบร่าง

  • สนมใบ้ไร้ศักด์   เพื่อเจ้า

    “ข้า อัปลักษณ์เพียงนี้ เป็นท่านอาที่จะต้องดูแลหยงเจิ้งต่อไป เป็นท่านอาอินเฉิงจึงวางใจ”หมอหลวงวิ่งถือหลวมยาเข้ามา อินเฉิง ขยับกายให้หมอหลวงตรวจดูอาการของ ชิงกวานอ๋อง“ฝ่าบาท ชิงกวานอ๋องไร้ความสามารถไม่อาจดูแลนาง ฝ่าบาทจึงคู่ควรที่สุด”หมอหลวงลุกขึ้นยืนประสานมือตรงหน้าอินเฉิงพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอินเฉิงหลับตาไล่หยาดน้ำตา หยวนกังเบือนหน้าหนีปาดน้ำตาที่ไหลริน“ท่านอา เราไปพักที่ตำหนักให้ท่านหมอ จัดเทียบยาดีไหม”น้ำเสียงอ่อนโยน“หยวนกังตามอาจารย์ให้ข้าทีข้าอยากจะพักเสียหน่อย ฝ่าบาทพยุงชิงกวานไปเถิด ให้หยวนกังตามอาจารย์”หยวนกังยิ้มกว้าง เหมือนจะเริ่มมีความหวังว่าอาจารย์กับวิชาแพทย์เถื่อนจะสามารถช่วยชีวิตท่านอ๋องได้“หยวนกังรีบไปแล้วท่านอ๋องอดทนหน่อย”วิ่งออกจากท้องพระโรงกระโดดขึ้นหลังม้าควบออกไปราวกับลูกดอกพุ่งเข้าสู่เป้าอินเฉิงพยุงชิงกวานอ๋องหมอหลวงตรวจดูอาการของป้อคุนอย่างเร่งรีบบนแท่นบรรทม ร่างสูงองอาจนอนเหยียดยาวใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้กลับซีดขาว แต่แววตายังอ่อนโยนเหมือนเช่นทุกครั้งที่อินเฉิงเคยเห็น เลือดสดๆ ยังไหลซึมออกจากบาดแผล“ท่านอาอดทนหน่อย อาจารย์ปู่กำลังมา”“เพื่อฝ่าบาทต่างหาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status