/ มาเฟีย / สยบแค้นมาเฟียร้าย / ตอนที่ 4 ร่างกายที่ต้องยอมจำนน (์NC)

공유

ตอนที่ 4 ร่างกายที่ต้องยอมจำนน (์NC)

last update 최신 업데이트: 2025-07-11 22:34:49

แสงจันทร์สีเงินนวลทอดผ่านผ้าม่านโปร่งเข้ามาในห้องนอนกว้างขวางของเพนท์เฮาส์ยามวิกาล บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจของ ซูหลิง ที่ยังคงสะท้อนก้องอยู่ในความว่างเปล่า เธอพลิกตัวไปมาบนเตียงขนาดคิงไซส์ พยายามข่มตาหลับแต่ก็ไร้ผล ภาพใบหน้าของ หลงเฟย วนเวียนอยู่ในหัว ดวงตาคมกริบที่เต็มไปด้วยอำนาจและรอยยิ้มเย้ยหยันยังคงตามหลอกหลอน

กว่าสองวันแล้วที่เธอถูกกักขังอยู่ในกรงทองแห่งนี้ ทุกนาทีคือความทรมานทางจิตใจ เธอรู้สึกเหมือนถูกจับจ้องตลอดเวลา แม้จะไม่มีใครอยู่ในห้อง แต่ความรู้สึกไร้อิสรภาพนั้นหนักอึ้งจนแทบหายใจไม่ออก อาหารที่จัดเตรียมอย่างดีถูกแตะต้องเพียงเล็กน้อย เธอนอนไม่หลับอย่างรุนแรง ดวงตาคล้ำลง และผิวพรรณที่เคยสดใสก็ดูซีดเซียวลงไปบ้าง แต่กระนั้นความสวยก็ยังไม่จืดจาง ความมุ่งมั่นในการแก้แค้นยังคงอยู่ แต่ร่างกายของเธอกำลังส่งสัญญาณประท้วงถึงความอ่อนล้า

เสียงคลิกเบาๆ ที่ประตูห้องนอนทำให้ซูหลิงสะดุ้งสุดตัว เธอหันขวับไปมอง ประตูไม้เนื้อดีเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นเงาร่างสูงใหญ่ของหลงเฟยในกรอบประตู แสงไฟจากโถงทางเดินสาดเข้ามาจากด้านหลัง ทำให้ใบหน้าของเขาดูมืดมิดและน่าเกรงขามยิ่งขึ้นไปอีก เขาก้าวเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ ประตูถูกปิดลงโดยไม่มีเสียงใดๆ ราวกับเขามีอำนาจเหนือทุกสรรพสิ่งในอาณาเขตแห่งนี้

หลงเฟย ยืนตระหง่านอยู่กลางห้อง เขาสูงใหญ่กำยำราวกับเทพบุตรกรีก เส้นผมสีดำสนิทถูกเสยขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เผยให้เห็นใบหน้าคมคายที่หล่อเหลาราวเทพสลัก จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักลึกที่มักจะแย้มรอยยิ้มเย้ยหยัน ดวงตาของเขาเป็นสีรัตติกาลที่ลึกไร้ก้นบึ้ง มันทั้งคมกริบและเย็นชา แต่ยามจ้องมองกลับแฝงไว้ด้วยประกายความปรารถนาที่ยากจะอ่านออกได้ เขาสวมเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีดำที่เปิดกระดุมสองสามเม็ดด้านบน เผยให้เห็นแผงอกกว้างและมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผิวของเขาเป็นสีแทน บ่งบอกถึงการใช้ชีวิตกลางแจ้งหรือกิจกรรมที่ท้าทาย

ซูหลิงรู้สึกว่าเลือดในกายเย็นเยียบลงทันที หัวใจเต้นระรัวระส่ำจนเจ็บซี่โครง สัญชาตญาณบอกให้เธอหนี แต่ร่างกายของเธอกลับแข็งทื่อราวกับถูกสาป เธอพยายามรวบรวมสติและปั้นสีหน้าให้ดูแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทว่าริมฝีปากของเธอกลับสั่นระริกเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ได้ เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขา กลิ่นบุหรี่ซิการ์ชั้นดีที่ผสมผสานกับน้ำหอมผู้ชายราคาแพง กลิ่นที่บ่งบอกถึงอำนาจและความอันตราย

หลงเฟยไม่พูดอะไร เขาเดินตรงมาที่เตียงนอนที่ซูหลิงนั่งอยู่บนขอบเตียง เขาไม่ได้เข้ามาใกล้ในทันที แต่หยุดยืนอยู่ปลายเตียง จ้องมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา เป็นสายตาที่ซูหลิงไม่เคยเห็นมาก่อน มันไม่ใช่สายตาที่เย้ยหยัน ไม่ใช่สายตาที่ดูถูก แต่เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความใคร่... และบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้น มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกเปลื้องผ้าอีกครั้ง

"ไม่คิดว่าจะเจอเธอนั่งรอฉันอยู่ตรงนี้" เสียงทุ้มต่ำของหลงเฟยแหบพร่าเล็กน้อย มันไม่ใช่เสียงที่ดุดันอย่างที่เธอเคยได้ยิน แต่กลับนุ่มลึกอย่างประหลาด มันทำให้ซูหลิงรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่างอย่างห้ามไม่ได้

"ฉันไม่ได้รอคุณ" ซูหลิงตอบเสียงห้าว พยายามใส่ความกล้าหาญเข้าไปในน้ำเสียงของตัวเอง "ฉันแค่นอนไม่หลับ"

หลงเฟยยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มของเขาดูน่าอันตรายแต่ก็แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ร้ายกาจ "โกหกไม่เนียนเลยนะ ซูหลิง" เขาค่อยๆ ก้าวเข้ามาใกล้เตียงทีละก้าว แต่ละย่างก้าวของเขาราวกับเสียงกลองที่กำลังบีบคั้นหัวใจของซูหลิงจนแทบหยุดเต้น "ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่... และฉันก็รู้ว่าเธอต้องการอะไร"

"ฉันไม่ต้องการอะไรจากคุณทั้งนั้น" ซูหลิงพูดเสียงแข็ง แต่เสียงกระซิบของหลงเฟยที่บอกว่า 'ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้ว' ยังคงก้องอยู่ในโสตประสาท มันคือคำประกาศสิทธิ์ที่เธอไม่มีทางปฏิเสธได้

หลงเฟยหยุดยืนอยู่ข้างเตียง มือหนาของเขาเอื้อมมาแตะที่ปลายคางของซูหลิงอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาทำให้ซูหลิงสะดุ้ง แต่เธอก็ไม่กล้าปัดป้อง เขายกปลายคางของเธอขึ้นช้าๆ ให้ดวงตาของเธอสบกับดวงตาคมกริบของเขาโดยตรง

"คืนนี้... เธอจะเข้าใจว่าการเป็น 'ของฉัน' นั้นหมายถึงอะไร" เสียงของเขาเป็นคำประกาศิตที่ซูหลิงไม่อาจโต้แย้งได้เลย ราวกับเขาเป็นผู้กุมชะตาชีวิตของเธอไว้ทั้งมวล

ก่อนที่ซูหลิงจะได้ทันตั้งตัว หลงเฟยก็โน้มตัวลงมา ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาบดเบียดเข้ากับริมฝีปากอิ่มของเธออย่างรวดเร็วและเร่าร้อน ซูหลิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอดิ้นรนขัดขืน มือเรียวยกขึ้นพยายามจะผลักแผงอกแข็งแกร่งของเขาออกไป แต่กลับถูกโอบรัดไว้แน่นกว่าเดิม

จูบของเขาไม่ได้อ่อนโยน แต่เต็มไปด้วยความดุดัน ความต้องการครอบครอง และแรงปรารถนาที่รุ่มร้อนอย่างที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน เขาบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนของเขารุกล้ำเข้ามาในโพรงปาก กวาดต้อนสำรวจทุกซอกทุกมุมอย่างเร่าร้อน สัญชาตญาณภายในของซูหลิงกรีดร้องให้ต่อต้าน แต่ร่างกายของเธอกลับสวนทาง ความร้อนจากกายของเขาแผ่ซ่านเข้ามาในกายของเธอ ปลุกเร้าความรู้สึกที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกไฟเผาผลาญ ความหวานล้ำจากจูบของเขาคือยาพิษที่กำลังแพร่ซ่านเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้สติของเธอเลือนราง

มือหนาของหลงเฟยเลื่อนลงมาโอบรัดเอวคอดกิ่วของเธอ ดึงรั้งร่างบอบบางให้แนบชิดกับกายของเขามากขึ้น ซูหลิงสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของมัดกล้ามเนื้อใต้เสื้อเชิ้ตที่เขาเพิ่งสวมมา เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านมาจากร่างกายของเขา มันร้อนแรงจนเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะหลอมละลาย เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าร่างกายของเธอกำลังตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างไม่เต็มใจนัก ลมหายใจของเธอเริ่มหอบถี่ขึ้น

เมื่อเขาผละจูบออก ใบหน้าของซูหลิงแดงก่ำ ดวงตาพร่าเลือนด้วยความสับสนและอารมณ์ที่ปั่นป่วน เธอหอบหายใจอย่างแรง หลงเฟยมองรอยจูบช้ำๆ บนริมฝีปากของเธอด้วยแววตาพึงพอใจ ก่อนจะเลื่อนปลายนิ้วหยาบกร้านไปลูบไล้เบาๆ ที่พวงแก้มเนียนใส

"ร่างกายของเธอนี่ตอบสนองฉันหมดเลยนะ" เขาเอ่ยเสียงพร่า ดวงตาคมกริบไล่มองสำรวจไปทั่วใบหน้าสวยหวานที่กำลังแดงก่ำของเธอ ก่อนจะเลื่อนลงไปหยุดอยู่ที่ลำคอระหง และเนินอกอิ่มที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง

มือของเขาเลื่อนลงมาปลดกระดุมชุดนอนผ้าซาตินของเธอออกอย่างช้าๆ ทีละเม็ด ซูหลิงพยายามปัดป้อง แต่มือของเขากลับรวดเร็วกว่า ผ้าซาตินเนื้อนุ่มค่อยๆ เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียดภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามา หลงเฟยจ้องมองร่างของเธอด้วยสายตาหิวโหยราวกับนักล่าที่เจอเหยื่ออันโอชะ และในที่สุด ชุดนอนก็ร่วงหล่นลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้าของเธอ เผยให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าที่งดงามภายใต้แสงจันทร์สลัวๆ ของห้องนอน

ซูหลิงรู้สึกเหมือนถูกกระชากลมหายใจ เธอพยายามยกมือขึ้นปิดบังเรือนร่าง แต่หลงเฟยกลับคว้าข้อมือของเธอไว้แล้วจับมันตรึงไว้เหนือศีรษะ ร่างของเขาโน้มลงมา ใบหน้าคมคายอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอเพียงคืบ ดวงตาคมกริบของเขาทอประกายร้อนแรง

"ไม่ต้องอาย... ตอนนี้ทุกส่วนในร่างกายของเธอเป็นของฉันแล้ว" เสียงกระซิบของเขาแผ่วเบา แต่กลับก้องกังวานในโสตประสาทของซูหลิง ราวกับคำสาปที่ไม่มีวันคลาย

ก่อนที่ซูหลิงจะได้ทันได้พูดอะไร หลงเฟยก็ก้มลงมา จุมพิตไปทั่วลำคอระหงอย่างดูดดื่ม ไล่ลงมาตามซอกคอและไหปลาร้า ปากของเขาดูดเม้มสร้างรอยแดงช้ำไปทั่วอย่างจงใจ มือหนาของเขาบีบเคล้นสะโพกงอนงาม ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปอีก สัมผัสที่เร่าร้อนของเขาทำให้ซูหลิงรู้สึกราวกับถูกกระแสไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่าง จนเธอเผลอร้องครางออกมา "อื้อ.." เธอรู้สึกอับอาย เจ็บปวด แต่ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของเธอกลับร้อนรุ่มไปหมด เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ ใบหน้าของเธอเห่อร้อนผ่าว น้ำตาเม็ดเล็กๆ คลอรื้นอยู่ในดวงตาคมคู่สวย เธอพยายามกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อกลั้นเสียงครางที่กำลังจะหลุดออกมา 

"อ้า..." เสียงครางต่ำๆ หลุดออกจากลำคอของซูหลิงอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อริมฝีปากของหลงเฟยไล้ลงมาถึงเนินอกอิ่ม เขาดูดดึงเม้มยอดอกสีระเรื่ออย่างหิวกระหาย สัมผัสของเขาทำให้ซูหลิงบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน ทุกสัมผัสของเขาคือมีดที่กรีดแทงหัวใจเธอซ้ำๆ ยิ่งร่างกายตอบสนองมากเท่าไหร่ ความเกลียดชังในตัวเองก็ยิ่งเพิ่มพูน... เธอเกลียดที่ร่างกายของเธอทรยศต่อจิตใจที่มุ่งมั่นจะแก้แค้น เธอไม่อาจต้านทานแรงปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในร่างกายได้อีกต่อไป แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าต้องต่อต้าน ต้องเกลียดชังเขา แต่ร่างกายของเธอกลับทรยศ มันตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างตรงไปตรงมา

หลงเฟยคลอเคลียอยู่บนร่างของเธอ ปลุกเร้าอารมณ์ให้ซูหลิงรู้สึกร้อนรุ่มจนแทบจะทนไม่ไหว ความเร้าใจที่เขาปลุกปั่นขึ้นมาทำให้เธอรู้สึกทั้งร้อนรุ่มและหิวกระหายอย่างประหลาด ราวกับร่างของเธอต้องการการปลดปล่อยอย่างรุนแรง เขายกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อได้ยินเสียงครางของเธอ ก่อนจะก้มลงจูบซับที่หน้าผาก ขมับ ปลายจมูก และริมฝีปากที่บวมเจ่อของเธออีกครั้ง อย่างดูดดื่มและเนิบนาบกว่าเดิม

“ยอมจำนนซะ...ซูหลิง” เสียงเขาต่ำพร่า แหบสั่นด้วยแรงอารมณ์ที่พยายามกักเก็บ

“แล้วเธอจะได้รู้...ว่าความเร้าใจที่แท้จริงมันเป็นยังไง”

ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ผ่านผิวเธอช้า ๆ ร้อนวูบตามรอยสัมผัสนั้น

“นี่แหละ...สิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อเธอเป็นของฉัน...ทั้งตัว ทั้งหัวใจ...”

ริมฝีปากหยักยกยิ้มร้าย ก่อนกระซิบใกล้จนลมหายใจร้อนเป่ารดใบหู

“เธอจะไม่มีทางหนี...ฉันจะหลอมเธอเข้ามาในตัวฉัน จนเธอไม่มีวันลืม...”

นิ้วของเขากดแนบกับริมฝีปากเธอแผ่วเบา ดวงตาดุดันจ้องลึก

“นี่คือบทลงโทษของเธอ...ที่ทำให้ฉันต้องการเธอจนแทบบ้า”

เขาก้มต่ำลงกว่าเดิม ริมฝีปากเฉียดผิวจนเธอสะท้าน

“ร้องออกมา...ร้องให้ฉันได้ยิน...เพราะเสียงครางของเธอ...คือดนตรีที่ฉันไม่อยากหยุดฟังเลย...ซูหลิง”

ในคืนนั้น... ภายใต้แสงจันทร์สีเงินยวงที่สาดส่องผ่านหน้าต่างและแสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียง บรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมด้วยความเร่าร้อนที่ไม่อาจยับยั้ง เสียงหอบหายใจของทั้งสองดังระรัวประสานไปกับเสียงเสียดสีของผ้าปูที่นอนเนื้อดีที่ยับยู่ยี่ หลงเฟยคุกเข่าอยู่ระหว่างเรียวขาของซูหลิง จ้องมองดวงตาที่พร่าพรายไปด้วยหยาดน้ำตาและแรงปรารถนาของเธอ ร่างกายของเขาเป็นเสมือนเทพเจ้าที่ทรงอำนาจ ซูหลิงได้แต่นอนราบอยู่บนเตียง ยอมจำนนต่อแรงปรารถนาที่เขาเป็นผู้จุดไฟขึ้นมา มันคือความรู้สึกแปลกใหม่ที่เธอยอมรับว่าไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป

เมื่อหลงเฟยเริ่มขยับกายเข้าหา ความเจ็บปวดแรกที่แล่นปราดไปทั่วร่างของซูหลิงไม่ได้ทำให้เธอกรีดร้อง แต่กลับเป็นเสียงสะอื้นแผ่วเบาที่พยายามกลั้นไว้ หลงเฟยยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อแท่งเนื้อใหญ่ได้สัมผัสถึงร่องรอยแห่งพรมจรรย์ที่เขาเป็นผู้ช่วงชิง มันคือชัยชนะอันหอมหวานที่ทำให้เขาพอใจอย่างที่สุด ซูหลิงขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อระบายความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา ทั้งความเจ็บปวด ความสับสน และความเร้าใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ

เมื่อหลงเฟยพาน้องชายดันไปจนสุด จนซูหลิงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด "อย่า....อ๊าาาาา....."

"ทนหน่อยนะซูหลิง เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้ว" หลงเฟยเอ่ยและเริ่มขยับตัวอย่างเชื่องช้า เพื่อให้ซูหลิงได้ปรับตัวเข้ากับความรู้สึกใหม่ที่เกินกว่าจะบรรยาย แม้จิตใจจะสั่งให้เกลียดชัง แต่ร่างกายกลับถูกควบคุมโดยเขาอย่างสมบูรณ์ ความรู้สึกนั้นเหมือนเธอกำลังจมดิ่งสู่ห้วงมหาสมุทรที่มืดมิด ไร้หนทางกลับขึ้นสู่ผิวน้ำ มันทั้งน่ากลัวและน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน

หลงเฟยมองดูอาการตอบสนองของเธออย่างเพลิดเพลิน ใบหน้าของซูหลิงเหยเกด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเประหว่างความเจ็บปวดและความสุขสมที่เกินจะทานทน เขายิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและลึกขึ้นเพื่อปลุกเร้าความรู้สึกที่ซ่อนเร้นของเธอให้ปะทุขึ้นมาอย่างเต็มที่ ซูหลิงร้องครางออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป "อ๊ะ...อ๊าาาาา"

"ร้องออกมาซูหลิง" หลงเฟยกระซิบชิดริมฝีปากของเธอด้วยเสียงแหบพร่า "ร้องดังๆ"

ในที่สุด...ร่างกายของซูหลิงก็กระตุกเกร็งอย่างแรง เธอร้องออกมาสุดเสียงก่อนที่ร่างจะอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว ร่างกายของเธอถึงขีดสุดของความสุขสมอย่างที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน

หลงเฟยยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อได้เห็นการตอบสนองที่เกินความคาดหมายของซูหลิง เขากระแทกกายสวนขึ้นไปอีก 2-3 ครั้ง ก่อนที่ร่างกายของเขาจะแข็งเกร็ง และพ่นพิษรักเข้าไปในตัวเธอจนหมดสิ้น "อ๊าาาา" เสียงของหลงเฟยดังไม่แพ้กัน เขาค่อยๆโน้มตัวลงกอดร่างของซูหลิงไว้แนบอก พรึงพรมจูบไปที่เส้นผมของเธอ

ดวงตาของเธอฉ่ำไปด้วยน้ำตาแห่งความสุขสมที่มาพร้อมกับความเจ็บปวด เสียงของเธอนั้นคือบทเพลงที่เขาหลงใหลที่สุด มันคือเสียงแห่งการยอมจำนนที่เขาเฝ้ารอคอยมาตลอด

นี่ไม่ใช่จุดจบ... แต่มันคือจุดเริ่มต้นของพันธนาการที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และซูหลิงไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอจะถูกหลงเฟยบงการไปในทิศทางใดต่อไป เธอรู้เพียงว่าร่างกายของเธอได้ตกเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สยบแค้นมาเฟียร้าย   ตอนที่ 33 การจากลาและการเริ่มต้นใหม่

    หนึ่งเดือนหลังจากการหมั้นหมาย บรรยากาศในบ้านริมทะเลสาบเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเมื่อก่อน ที่นี่เป็นป้อมปราการของราชายอดมาเฟีย วันนี้กลับกลายเป็นบ้านอบอุ่นของครอบครัวเล็กๆ ที่กำลังเตรียมตัวเริ่มต้นใหม่หลงเฟยเดินขากะเผลกออกจากห้องทำงาน ขาซ้ายยังไม่หายสนิท แต่ดีขึ้นมากแล้ว เขาเดินไปหาซูหลิงที่กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องนั่งเล่น"คือว่าค่ะคุณหลิว ซิงซิง เราต้องการดอกไม้สีขาวล้วนอย่างเดียวค่ะ ไม่ต้องมีสีอื่นปนเลยนะคะ" ซูหลิงพูดกับเจ้าของร้านดอกไม้ "งั้นพอดีเลยค่ะ เจอกันวันพรุ่งนี้นะคะ"หลงเฟยนั่งลงข้างๆ เธอ "คุยเรื่องดอกไม้งานแต่งหรือครับ?""ใช่ค่ะ" เธอยิ้มหวาน "คุณไป๋หู่โทรมาแล้วหรือยังคะ?"หลงเฟยส่ายหน้า "ยังครับ แต่เขาน่าจะโทรมาในไม่ช้า"ไม่ทันขาดคำ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หลงเฟยรับสาย"หัวหน้าครับ" เสียงไป๋หู่ดังมาจากลำโพง "ผมจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ""ยังไงบ้าง?""ตามที่คุณสั่ง ผมโอนธุรกิจสะอาดทั้งหมดให้บริษัทใหม่แล้ว ส่วนธุรกิจอื่นๆ ก็ปิดหรือขายหมดแล้วครับ"หลงเฟยพยักหน้า "แล้วเงินล่ะ?""โอนไปบัญชีธนาคารที่สวิสแล้วครับ หนึ่งร้อยล้านยูโร พอใช้ชีวิตสบายๆ ไปตลอดชีวิตแล้วครับ""ขอบ

  • สยบแค้นมาเฟียร้าย   ตอนที่ 32 หลังพายุผ่านพ้น (NC)

    สามวันหลังจากเหตุการณ์นองเลือดในคืนนั้น บ้านหรูริมทะเลสาบกลับมาสงบเงียบอีกครั้ง ช่างซ่อมได้เปลี่ยนกระจกหน้าต่างใหม่ หินอ่อนที่แตกร้าวถูกซ่อมแซมจนเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แต่ร่องรอยของความรุนแรงนั้นยังคงอยู่ในดวงใจของทุกคนหลงเฟยนั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว ขาซ้ายที่ถูกกระสุนปืนถูกพันผ้าพันแผลอย่างดี แต่เขายังเดินไม่ได้ปกติ หมอส่วนตัวแนะนำให้เขาพักผ่อนอย่างน้อยสองสัปดาห์ แต่ใจของเขากลับไม่สามารถหยุดนิ่งได้เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น"เข้ามาได้ครับ" เขาพูดโดยไม่หันไปมองซูหลิงเดินเข้ามาพร้อมกับชาร้อนและขนมเค้กที่เธอทำเอง เธอวางถาดลงบนโต๊ะอย่างเงียบๆ แล้วนั่งลงในเก้าอี้ตรงข้ามเขา"คุณไม่กินข้าวมาสองมื้อแล้วค่ะ" เธอพูดด้วยเสียงกังวล"ไม่หิวครับ" หลงเฟยตอบสั้นๆ ดวงตาของเขายังคงจ้องออกไปนอกหน้าต่างซูหลิงสังเกตเห็นว่าท่าทางของเขาเปลี่ยนไปหลังจากคืนนั้น เขาไม่ค่อยพูดคุย มักจะนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียว และที่สำคัญคือ เขาเลิกสัมผัสเธออย่างที่เคยทำ"คุณหลง..." เธอเรียกชื่อเขาเบาๆ"ผมไม่เป็นไรครับ" เขาขัดจังหวะอย่างเร็ว "แค่เหนื่อยนิดหน่อย"ซูหลิงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปยืนข้างๆ เขา เธอเอามือเบาๆ ว

  • สยบแค้นมาเฟียร้าย   ตอนที่ 31 เกมแห่งความแค้น

    เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณทะเลสาบที่เคยเงียบสงบ หลงเฟยหลบซ่อนอยู่หลังเสาหินอ่อนของระเบียงบ้าน ขณะที่กระสุนปืนวิ่งทะลุผ่านผนังไม้หรูราคาแพง เขาได้ยินเสียงก้องของเฉินซานเกอจากด้านนอก"หลงเฟย! คิดว่าการซ่อนตัวจะช่วยแกได้เหรอ? กูรอวันนี้มาสิบปีแล้ว!"ด้วยความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาหลายทศวรรษ หลงเฟยประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของคนของเฉินซานเกอกำลังแยกตัวล้อมบ้านจากหลายทิศทาง จากเสียงที่ได้ยิน เขาประเมินได้ว่ามีคนอย่างน้อยแปดคน ทั้งหมดติดอาวุธครบ"ไป๋หู่!" หลงเฟยตะโกนใส่อินเตอร์คอม "สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?""บอส! พวกเราถูกโจมตีจากทุกทิศทาง คนของผมสองคนบาดเจ็บแล้ว แต่เรายังควบคุมสถานการณ์ได้"หลงเฟยรู้ว่าเขาต้องรักษาความปลอดภัยของซูหลิงและหลงเฉินกวงเป็นอันดับแรก เขาค่อยๆ เคลื่อนตัวไปยังห้องครัวที่เธอซ่อนอยู่"ที่รัก เป็นอย่างไรบ้าง?" เขาถามด้วยเสียงเบา"เราสองคนไม่เป็นไรค่ะ แต่เฉินกวงกลัวมาก"ซูหลิงกอดลูกชายไว้แนบอก ดวงตาของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว"ฟังผมนะ" หลงเฟยพูดด้วยเสียงที่เด็ดเดี่ยว "มีทางลับในห้องนี้ หลังตู้เย็น มีบันไดลงไปยังอุโมงค์ใต้ดินที่จะพาคุณไปยังเ

  • สยบแค้นมาเฟียร้าย   ตอนที่ 30 เงาในบ้านใหม่

    รุ่งอรุณเช้าวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ แทงผ่านม่านหนาของบ้านหรูริมทะเลสาบ สไตล์เรียบหรู หลงเฟยนั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว เขาหมุนแก้วบรั่นดีราคาแพงในมือขณะจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาสีเข้มของเขาแฝงไปด้วยการคิดคำนวณ"อดีตไม่เคยปล่อยใครไปง่ายๆ" เขาพึมพำกับตัวเองก่อนดื่มบรั่นดีในแก้วหมดซูหลิงตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยผ้าไหมและหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี เธอสังเกตเห็นว่าหลงเฟยได้ออกจากเตียงไปแล้ว เธอใส่เสื้อคลุมไหมและเดินลงไปหาเขาที่ห้องครัวสุดหรู"คุณตื่นเช้ามากเลยค่ะ" ซูหลิงพูดขณะเทกาแฟราคาแพงลงแก้ว"ธุรกิจน่ะ" หลงเฟยตอบสั้นๆ ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่หน้าต่าง "แม้จะเกษียณแล้ว แต่ศัตรูเก่าก็ยังจำเราได้"สถานการณ์เปลี่ยนไปมากหลังจากการล่มสลายของเครือข่ายเจิ้งหยาง หลงเฟยใช้อำนาจและความสัมพันธ์ที่เขาสร้างมานานหลายทศวรรษในการปิดปากทุกคน เจิ้งหยางไม่ได้แค่ถูกจับ แต่เขาถูกกำจัดอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะได้เปิดปากพูดอะไรบ่ายวันนั้น ขณะที่หลงเฉินกวงกำลังนอนหลับอยู่ในอยู่ในห้อง ซูหลิงเดินออกไปเช็คจดหมายที่ตู้ไปรษณีย์หน้าบ้านเธอหยุดตัวแข็งเมื่อเห็นกุหลาบสีดำดอกหนึ่งวางอยู่บนฝาตู้จดหมาย มีบัตรเล็กๆ ผูก

  • สยบแค้นมาเฟียร้าย   ตอนที่ 29 เงาใต้แสงยามเช้า (NC)

    เสียงฝนโปรยบางๆ เคาะขอบหน้าต่างห้องพิเศษชั้นสิบสอง เหมือนทำนองกล่อมเด็กทารกให้หลับสบาย ซูหลิงเอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้ให้นม ดวงตาเธอยิ้มละมุนขณะมองหลงเฉินกวงที่ซุกอยู่ในอ้อมแขน—แก้มใสอุ่นจัด หายใจถี่เบาเป็นจังหวะ หัวใจของแม่เต้นช้าลงโดยไม่รู้ตัวประตูเลื่อนเปิด สูดเอากลิ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเข้ามา หลงเฟยในชุดคนไข้สีเทาอ่อนนั่งรถเข็นที่ไป๋หู่เข็นเข้ามาชิดเตียง แผลเขายังตึง เสียงหายใจยังหอบเหนื่อย แต่แววตาคมนั้น…ชัดเจนกว่าทุกครั้งที่ซูหลิงจำได้“เช้านี้อากาศดีจัง” เสียงทุ้มของเขาแผ่วต่ำ แต่มั่นคง“เหมาะกับการมอง ‘แสงยามเช้า’ ของเรา”ซูหลิงหัวเราะในลำคอ “คุณพ่อคนนี้โรแมนติกขึ้นทุกวันนะคะ”เธอยื่นตัวส่งเจ้าตัวเล็กให้ชิดอกของเขาอย่างระมัดระวัง ลมหายใจอุ่นของลูกแตะคางหลงเฟย เขาหลับตาวินาทีหนึ่งราวกับจดจำสัมผัสนี้ลงลึกถึงกระดูกสันหลังไป๋หู่ไหวตัวถอย “ผมยืนเวรหน้าห้องครับพี่เฟย เรียกเมื่อไหร่ได้เสมอ” เขาวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ ปลายนิ้วแตะโค้ดล็อกสองครั้ง—นิสัยของคนเคยอยู่แนวหน้า—ก่อนปิดประตูอย่างเงียบกริบเหลือเพียงสามคนในโลกเล็กๆ นี้ หลงเฟยเอียงใบหน้าแตะหน้าผากลูกชายเบาๆ “เฉินกวง…” เขากระซิบ “พ่อจะ

  • สยบแค้นมาเฟียร้าย   ตอนที่ 28 ฟื้นคืนแสง

    สองสัปดาห์ผ่านไป ห้องพยาบาลหมายเลข 1212 กลายเป็นบ้านหลังที่สองของ ซูหลิง เธอแทบไม่ออกจากข้างเตียงของ หลงเฟย เลย นอกจากเวลาที่แพทย์มาตรวจร่างกาย หรือพยาบาลมาเช็ดตัว เปลี่ยนยาใหม่"คุณซู คุณควรกลับไปพักผ่อนบ้างนะคะ"พยาบาลหัวหน้าเวรกลางคืนพูดด้วยความเป็นห่วง"ท้องคุณใหญ่ขึ้นมากแล้ว ลูกต้องการแม่ที่แข็งแรงนะคะ"ซูหลิงลูบท้องเบาๆ แล้วมองไปที่หลงเฟยที่ยังนอนหลับใหล"ไม่เป็นไรค่ะ... ฉันอยากอยู่ตรงนี้"ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลแล้ว เธอก็หันกลับไปจับมือของเขาอีกครั้ง มือที่เคยแข็งแกร่งและอบอุ่นนั้น บัดนี้เย็นเยียบและซีดขาว"เฟย... วันนี้หมอบอกว่าอาการดีขึ้นมากแล้วนะ" เธอพูดเบาๆ ราวกับกลัวจะปลุกเขา"และลูกของเราก็เติบโตดีมาก วันนี้ฉันไปตรวจแล้ว หมอบอกว่าเป็นลูกชาย... นายอยากตั้งชื่อลูกว่าอะไร?"เสียงเครื่องช่วยหายใจยังคงดังเป็นจังหวะ เสียงเดียวที่ตอบเธอในความเงียบทันใดนั้น ประตูห้องก็เปิดออก หลี่เจียงเมิ่ง เดินเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้ใหม่"คุณซู... ผมเอาดอกไม้มาให้ใหม่" เขาพูดด้วยเสียงเบา "ดอกไม้เก่าเริ่มเหี่ยวแล้ว"ซูหลิงยิ้มอ่อนๆ "ขอบคุณนะคะ เจียงเมิ่ง... นายไม่ต้องมาดูแลพวกเราขนาดนี้หรอก""ไม่เป็นไร.

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status