“ก็บอกไปแล้วไงว่าพ่อไม่อยู่บ้าน!” เจียงเหยายิ้มอย่างภาคภูมิใจ “พ่อคงลืมไปแล้วว่าวันนี้ลูกจะกลับบ้าน! แถมเธอแต่งงานกับคนแบบนั้น คิดเหรอว่ากลับมาแล้วพ่อจะอยู่รอต้อนรับเธอ? ฮ่า ๆ ๆ นี่ยังน่าอายไม่พออีกเหรอเนี่ย!”“ฉันไม่ต้องการอะไรแบบนั้นหรอก!”เจียงชั่นเดินและหยุดอยู่ตรงหน้าเจียงเหยา “ฉันแค่ต้องการค่าสินสอด!”“ค่าสินสอด?”เจียงเหยาเลิกคิ้วขึ้นและมองเธอด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย “สินสอดอะไรของเธอ? ฉันไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลยนะ!”เจียงชั่นตกตะลึงมาก หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบหลุดจากร่างขณะนั้นความคับข้องใจ ความโกรธ และความเกลียดชังทั้งหมดถาโถมเข้ามาในหัวใจ เธอรู้ว่าตัวเองมีภูมิหลังต่ำต้อย และถูกตราหน้าว่าเป็นลูกสาวนอกกฎหมายตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดมาในโลกใบนี้ แต่เรื่องของภูมิหลังไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถเลือกเกิดได้ แม้จะอยู่ในความมืดมนมาหลายปี เธอก็ยังพยายามอย่างหนักที่จะก้าวออกจากจุดดำมืดนี้เธอเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงธรรมดาคนไหนที่จะเห็นด้วยกับคำขอไร้สาระแบบนี้เพื่อขอแต่งงานแทน!ทั้งหมดนี้เธอแค่อยากจะช่วยแม่ตัวเองเท่านั้นแล้วทำไมเธอถึงต้องมาสูญเสียความหวังเล็ก ๆ แบบนี้ไปด้วย!เจี
เมื่อกู้หม่างเปิดประตู เขาเห็นเจียงชั่นออกมาจากครัวพร้อมกับอาหารสองจานใบหน้าเล็ก ๆ ที่แต่เดิมเศร้าเล็กน้อยเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มทันทีเมื่อเห็นเขารอยยิ้มเป็นแค่การบังคับฝืนตัวเองเล็กน้อยกู้หม่างล้างมือแล้วนั่งที่โต๊ะ หลังจากฝึกมาทั้งวันก็หิวโซ อาหารตรงหน้านี้ยิ่งดูน่ารับประทานเขาหยิบชามขึ้นมาและเริ่มกิน ขณะที่เจียงชั่นนั่งเงียบโดยไม่ขยับตัวทำอะไร“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอเจียงชั่นชะงักและส่ายหน้า“ถ้าอย่างนั้นรีบกินก่อนเถอะ” กู้หม่างวางชิ้นเนื้อบนชามเธอ “แค่มองก็อิ่มแล้วเหรอ?”เจียงชั่นก้มหน้าลงและเม้มริมฝีปาก ตอนนี้เธอไม่มีความอยากอาหารจริง ๆ เวลานี้โทรศัพท์มีข้อความจากหยิ่นเฉิงน้องชายของเธอ “พี่สาว ค่ารักษาพยาบาลของแม่จะจ่ายเมื่อไรเหรอ? ถ้าไม่รีบจ่ายหมอจะหยุดให้ยา!”ทั้งหัวใจเหมือนถูกบีบรัด เธอมองไปที่ลิ้นชักในตู้โดยไม่รู้ตัวเธอใส่เครื่องประดับทองทั้งหมดที่กู้หม่างมอบให้ครั้งล่าสุดเข้าไป โดยเฉพาะสร้อยข้อมือทองคำและหยก ซึ่งน่าจะคุ้มค่าเงินมากเมื่อเอาไปแลกเปลี่ยน…“ทำไมสีหน้าเป็นงั้นล่ะ?” ทันใดนั้นเสียงทุ้มลึกก็ขัดจังหวะความคิดของเธอเจียงชั่นหันกลับมาได้สติ
กู้หม่างเงียบอยู่ที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์อย่างไรก็ตาม แม้ทางโทรศัพท์ ไป๋จิ่งหยวนก็สามารถเดาได้ว่าเขาต้องมีใบหน้าเหมือนภูเขาน้ำแข็งโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆทักษะที่เด่นชัดที่สุดของเขา คือต่อให้ตายก็ไม่เปิดเผยความรู้สึก“ลูกพี่สาม” ไป๋จิ่งหยวนกระแอมสองครั้ง “คุณไม่มีอะไรจะพูดเหรอ?”“จะให้พูดอะไร?” เสียงของกู้หม่างฟังดูเหมือนกำลังยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้มจริง ๆ “ฉันยกให้เธอไปแล้ว เธอจะเอาไปทำอะไรต่อมันก็เรื่องของเธอ เธอคงมีเหตุผลที่เอามันไปขาย”“แต่นั่นคือ 'ลมทองคำน้ำค้างหยก' ที่คุณยายทวดของคุณสวมมันติดตัวตลอดเชียวนะ!”กู้หม่างไม่ได้พูดอะไร เพิ่มน้ำหนักให้กับดัมเบล เมื่อเขายกมันขึ้นอีกครั้ง กล้ามเนื้อก็ยิ่งกระชับขึ้น ความแข็งแกร่งแทบปะทุเหมือนกับภูเขาไฟระเบิด“เธอขายสร้อยข้อมือได้เงินไปเท่าไร?”“ก็…” ไป๋จิ่งหยวนยิ้ม “เธอไม่ได้ขาย!”กู้หม่างขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเห็นผู้หญิงตัวเล็กคนนี้อยู่ไม่สุขและมองไปที่ลิ้นชักตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนั้นเขาก็พอจะเดาได้แล้วว่าเธออยากเอาเครื่องประดับไปขายถึงอย่างไร เงินค่าสินสอดหนึ่งล้านห้าแสนกว่าบาทก็ถูกเจียงเหยายักยอกไป แต่เธอต้องรีบหาเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล
หลังอาหารเย็น เจียงชั่นหั่นผลไม้แล้วนำมาวาง จากนั้นจึงนั่งลงข้างกู้หม่างชายคนนั้นถือโทรศัพท์แล้วมองอย่างจดจ่อ เจียงชั่นโน้มตัวเข้าไปดูอย่างอยากรู้อยากเห็น คิดว่าเขากำลังเล่นเกม แต่ไม่คาดคิดว่าเขากำลังดูเว็บไซต์ภาษาต่างประเทศ หน้าจอเป็นภาพผู้คนสวมชุดสูทและเนคไท คาดเดาว่าคงเป็นบรรดานักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเจียงชั่นสะดุ้ง จากนั้นกู้หม่างก็หันหน้ามาทันที เจียงชั่นอยู่ใกล้มากจนเธอไม่ทันระวัง จมูกแทบจะแตะปลายจมูกของเขา ทั้งสองมองหน้ากันอย่างว่างเปล่า ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมา แม้กระทั่งหัวใจก็เต้นแรง“มีอะไร?” กู้หม่างกระซิบถาม“ปะ… เปล่าค่ะ” เจียงชั่นนั่งข้างเขาตามเดิมอย่างงุ่มง่าม มือเล็ก ๆ ทั้งสองประสานกันด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะถามด้วยรอยยิ้ม “คุณกำลังดูข่าวอยู่เหรอคะ?”“ใช่ ข่าวการเงิน”“คุณสนใจเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”กู้หม่างหันหน้ากลับมาอีกครั้ง ดวงตาเฉียบคมราวนกอินทรีคู่นั้นดูเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “แล้วคุณคิดว่าคนที่เคยมีประวัติทะเลาะวิวาทจนติดคุกควรสนใจหรือเปล่าล่ะ?”“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซะหน่อย!” ใบหน้าของเจียงชั่นเปลี่ยนเป็นสีแดง “ฉันแค่รู้สึกประหลาดใจ ไม่ค
เจียงชั่นอึ้งอยู่พักหนึ่งหยิ่นเฉิงซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของปลายสายดีใจมาก บอกว่าไม่ใช่แค่มีเงินจ่ายค่ารักษาเท่านั้น แต่ตระกูลเจียงยังจัดการเปลี่ยนวอร์ดให้ด้วย แม่ของเขาถูกย้ายเข้าไปอยู่ในวอร์ด VIP ได้รับการดูแลอย่างสุดกำลัง และรักษาโดยยานำเข้าที่ทันสมัยที่สุด“พี่สาว ไม่น่าเชื่อเลยว่าพ่อของพี่จะยังคิดถึงแม่อยู่” หยิ่นเฉิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ผมไม่คุยกับพี่แล้วนะ ได้เวลาที่ผมต้องไปเรียนคลาสเย็นแล้ว!”“จริงด้วย พี่สาว อย่าลืมค่าหนังสือเรียนของผมล่ะ ผมเป็นคนเดียวในชั้นเรียนที่ยังไม่ได้จ่าย!”“อืม...” เจียงชั่นพึมพำตอบรับ เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเลยจนกระทั่งหยิ่นเฉิงวางสายไปเจียงเหยากลายเป็นคนมีมโนธรรมตั้งแต่เมื่อไร?เจียงหมิงหย่วนคิดถึงแม่ของเธอจริงเหรอ?ความเป็นไปได้เหล่านี้มีน้อยมากเมื่อนึกถึงทัศนคติที่ตระกูลเจียงมีต่อเธอในวันที่เธอกลับบ้าน เธอแทบไม่มีความหวังสำหรับสินสอดหนึ่งล้านห้าแสนกว่าบาทอีกต่อไปไม่นึกเลยว่า...เจียงชั่นรีบซ่อนตัวอยู่ในห้องนอน ใส่สร้อยข้อมือกลับเข้าไปในกล่องอย่างระมัดระวัง แล้วเก็บมันเข้าที่โชคดีที่ตัดสินใจไม่ขาย!เธอหัวเราะ ไล้นิ้วเรียวยาวแตะ
ไป๋จิ่งหยวนตบต้นขาตัวเองฉาดใหญ่ ตระหนักว่าเขาได้ก่อปัญหาใหญ่เข้าแล้ว“ละ… เหล่าเย่ นายต้องช่วยฉันนะ!” ไป๋จิ่งหยวนไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฉันไม่เคยคิดจะแก่งแย่งผู้หญิงกับลูกพี่สามเลยจริง ๆ! อีกอย่าง ผู้หญิงตัวเล็กผอมบางดูอ่อนแออย่างเจียงชั่นไม่ใช่สเปคฉันเลย! ลูกพี่สามต่างหากไปถูกใจอะไรเธอไม่รู้ ... "เย่เชินจิบชาแล้วยิ้มอย่างมีความหมายใช่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าคุณชายคนที่สามของตระกูลฮั่ว ผู้ซึ่งโดดเดี่ยวและไร้ความปรานีมาโดยตลอด นอกจากจะยอมสวมรอยเป็นนักเลงอย่างกู้หม่างเพื่ออยู่ที่นี่แล้ว ยังสนใจเด็กสาวตัวเล็กอย่างเจียงชั่นอีกด้วย“ลูกพี่สามบอกว่าเขาไม่ได้สนใจการแต่งงานครั้งนี้เลย เขาแค่เห็นมันเป็นละครฉากหนึ่งเพื่อปิดบังตัวตน…”“นายเชื่อสิ่งที่เขาพูดไหมล่ะ?” เย่เฉินกลอกตา “เราจะคอยดูก็แล้วกัน ฉันคิดว่าเจียงชั่นคนนี้ไม่ธรรมดา หึ ๆ บางทีถึงตอนนั้นแล้วลูกพี่สามของเราอาจจะไม่อยากกลับหยางเฉิงแล้วก็ได้!”…หลังอาหารกลางวัน กู้หม่างกล่าวกำชับให้เจียงชั่นอยู่บ้าน แล้วออกไปข้างนอกหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ก่อนจะแต่งงานกับเจียงชั่น เขามักจะเดินขึ้นภูเขาไปตามเส้นทางในหม
“สะใภ้ใหม่คนสวย ทำขนมเปี๊ยะน้ำตาลเป็นหรือเปล่าจ๊ะ?”ผู้ชายหลายคนมารวมตัวกันที่หน้าบ้านของกู้หม่าง ส่งยิ้มโลมเลียร้ายกาจไปทางเจียงชั่นที่จริงมีชาวบ้านคนอื่น ๆ เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เพราะพวกอันธพาลกลุ่มนี้มีชื่อเสียงฉาวกระฉ่อน ทำให้ไม่มีใครเต็มใจที่จะเดินลุยลงไปในโคลนตมเพื่อช่วยหญิงสาวพวกเขาได้แต่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ ด้วยสายตาแล้งน้ำใจสิ่งเดียวที่ควรตำหนิ คือเจียงชั่นสวยขนาดนี้ กู้หม่างกลับประมาททิ้งภรรยาสาวสวยไว้ที่บ้านเพียงลำพัง แล้วจะไม่ให้พวกคนเลวฉวยโอกาสได้อย่างไร?หัวใจของเจียงชั่นเต้นแรง ใบหน้าของเธอซีดเซียว แต่ก็ยังคงพยายามสงบสติอารมณ์อย่างเต็มที่“ได้ยินมาว่าเจ้าสาวคนใหม่เป็นคุณหนูจากตระกูลร่ำรวยไม่ใช่เหรอ?”“ไม่น่าแปลกใจเลย ลูกคุณหนูผู้ร่ำรวยไหนเลยจะเคยเข้าครัว เธอจะทำขนมเปี๊ยะน้ำตาลเป็นได้ยังไง?!”“เจ้าสาวคนใหม่ เธอคงไม่เข้าใจธรรมเนียมของหมู่บ้านเราสินะ?”ดวงตาของนักเลงคนหนึ่งจับจ้องไปที่เรือนร่างของเจียงชั่น“ผู้หญิงคนไหนก็ตามที่แต่งงานเข้ามาเป็นสะใภ้ของหมู่บ้านเรา จะต้องเข้าครัวทำขนมเปี๊ยะน้ำตาลด้วยตัวเอง แล้วเอาออกไปแจกจ่ายให้ทุกครัวเรือน! เธอแต่งงานมาห
”ไม่เป็นไร ผมอยู่นี่แล้ว”กู้หม่างขอให้เธอเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตูเจียงชั่นทำตามอย่างเชื่อฟัง แต่กู้หม่างไม่ได้ตามเข้าไปในบ้าน เธอได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมอยู่ข้างนอก ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของผู้ชายที่ส่งเสียงโหยหวนอยู่นานเธอมองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นว่าพวกอันธพาลต่างเดินโซเซ หลังจากถูกกู้หม่างทุบตีสั่งสอน จมูกของพวกเขาฟกช้ำ ใบหน้าบวม บางคนคุกเข่าลงกับพื้นและขอความเมตตาผืนหญ้าในสวนเต็มไปด้วยคราบเลือดดูเหมือนกู้หม่างจะยังไม่พอใจ เขาหยิบไม้หน้าสามที่เธอเพิ่งใช้ฟาดชายคนหนึ่งขึ้นมาฟาดขาอันธพาลตรงหน้า…“ถ้ากล้ามาก่อกวนภรรยาฉันอีก คราวหน้าไม่ใช่แค่ขาแน่ที่หัก!” เสียงของกู้หม่างเย็นชามาก ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความโหดร้ายพวกอันธพาลสองสามคนรีบวิ่งหนีไปพร้อมกับฉี่รดกางเกงเจียงชั่นซ่อนตัวอยู่หลังประตู พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสงบหัวใจที่เต้นรัว แม้แต่การหายใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นไม่ผ่อนลงเลยเวลานี้กู้หม่างเดินกลับเข้ามา เธอเห็นคราบเลือดแห้งบนเสื้อเขา เธอเม้มริมฝีปากโดยไม่พูดอะไรสักคำ“เมื่อกี้ผมทำให้คุณกลัวหรือเปล่า?” กู้หม่างก้าวไปข้างหน้าและลูบไหล่เธอเบา ๆ ด้วยฝ่ามือใหญ่ของตัวเองเจ