Home / รักโบราณ / สวนผักฟ้าประทาน / 13.กวางเหลียวหลัง (3)

Share

13.กวางเหลียวหลัง (3)

last update Last Updated: 2025-04-27 08:29:13

หลังจากอิ่มหนำ ชายหนุ่มพาเตียวหยวนหยวนออกมาด้านนอกกระท่อม ยามนั้น นอกจากม้าตัวโต ยังมีรถม้าอีกคันหนึ่งพร้อมนายทหารยืนรออยู่

“ข้ามีภาระต้องไปจัดการ ข้าจะให้ทหารคุ้มครองและไปส่งหยวนหยวนที่โรงเลี้ยงหมู นั่งรถม้าคงสะดวกกว่าเกวียนลากวัวของเจ้า”

“ขอบคุณอ๋องเจิ้ง”

เตียวหยวนหยวนเอ่ยแล้วจึงคาราวะอีกฝ่าย

“อืม ข้ารู้สึกมีบางอย่างติดค้างในใจ เดี๋ยวคงต้องกลับไปดูสักหน่อย น้ำซุปที่เจ้าปรุงกับน้ำจิ้มงาขาว เหตุใดถึงได้ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น แล้วเนื้อกวางอีกเล่า น่าเสียดาย หากไม่กินตอนที่มันสดๆ อยู่” เอ่ยจบร่างสูงกลับเข้าไปในกระท่อม และไม่ได้หันมามองนางอีก หญิงสาวได้แต่สงสัย ปากเขาบอกว่ามีภารกิจ แล้วเหตุใดยังกลับเอาแต่สนใจเรื่องปากเรื่องท้องของตนเองอยู่เช่นนั้น

“อ๋องเจิ้ง ท่านจะส่งสตรีขึ้นรถม้าสักหน่อยไม่ได้หรือ”

ชายหนุ่มซึ่งกำลังสืบเท้ากลับเข้ากระท่อม เขาทำเพียงแต่โบกมือให้นาง

“นี่ท่านเห็น ของกินสำคัญกว่าสตรีหรอกรึ” นางเอ่ยถาม และนึกฉุนเขา ก่อนก้าวขึ้นรถม้าด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

โรงเลี้ยงหมูของสกุลเตียวใหญ่โตพอสมควร เมื่อไปถึง นางไม่ได
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • สวนผักฟ้าประทาน    13.กวางเหลียวหลัง (3)

    หลังจากอิ่มหนำ ชายหนุ่มพาเตียวหยวนหยวนออกมาด้านนอกกระท่อม ยามนั้น นอกจากม้าตัวโต ยังมีรถม้าอีกคันหนึ่งพร้อมนายทหารยืนรออยู่ “ข้ามีภาระต้องไปจัดการ ข้าจะให้ทหารคุ้มครองและไปส่งหยวนหยวนที่โรงเลี้ยงหมู นั่งรถม้าคงสะดวกกว่าเกวียนลากวัวของเจ้า” “ขอบคุณอ๋องเจิ้ง” เตียวหยวนหยวนเอ่ยแล้วจึงคาราวะอีกฝ่าย “อืม ข้ารู้สึกมีบางอย่างติดค้างในใจ เดี๋ยวคงต้องกลับไปดูสักหน่อย น้ำซุปที่เจ้าปรุงกับน้ำจิ้มงาขาว เหตุใดถึงได้ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น แล้วเนื้อกวางอีกเล่า น่าเสียดาย หากไม่กินตอนที่มันสดๆ อยู่” เอ่ยจบร่างสูงกลับเข้าไปในกระท่อม และไม่ได้หันมามองนางอีก หญิงสาวได้แต่สงสัย ปากเขาบอกว่ามีภารกิจ แล้วเหตุใดยังกลับเอาแต่สนใจเรื่องปากเรื่องท้องของตนเองอยู่เช่นนั้น “อ๋องเจิ้ง ท่านจะส่งสตรีขึ้นรถม้าสักหน่อยไม่ได้หรือ” ชายหนุ่มซึ่งกำลังสืบเท้ากลับเข้ากระท่อม เขาทำเพียงแต่โบกมือให้นาง “นี่ท่านเห็น ของกินสำคัญกว่าสตรีหรอกรึ” นางเอ่ยถาม และนึกฉุนเขา ก่อนก้าวขึ้นรถม้าด้วยอารมณ์ขุ่นมัว โรงเลี้ยงหมูของสกุลเตียวใหญ่โตพอสมควร เมื่อไปถึง นางไม่ได

  • สวนผักฟ้าประทาน    12. กวางเหลียวหลัง (2)

    เตียวหยวนหยวนยื่นหยกเนื้องามสีขาวพิสุทธิ์ ไปเบื้องหน้าชายหนุ่ม จากนั้นริมฝีปากอวบอิ่มของนางก็เอ่ยว่า “ข้าวของพวกนี้ ล้วนเป็นอ๋องเจิ้งให้องค์รักษ์เงาจัดหาไว้ ทุกอย่างล้วนเป็นท่านจัดเตรียม อย่าได้คิดเป็นอื่น!” นางเอ่ยจบก็แกว่งหยกในมือ เริ่มจากช้าๆ พร้อมเอ่ยประโยคเดิมซ้ำไปมาสามสี่ครั้ง จากนั้นจึงดีดนิ้วดังเปาะ พร้อมยิ้มหวานให้กัวเจิ้งอี้ “อ๋องเจิ้ง เป็นผู้เตรียมพร้อมที่ดี” “ใช่...ข้าเตรียมทุกอย่างเอาไว้ และคาดไม่ถึงว่าฝนจะตก ดีที่เราหลบฝนทัน และได้กินของอร่อยๆ จากฝีมือเจ้า” ถึงจะฟังดูแปลกไปบ้าง แต่โลกที่นางอยู่เป็นเพียงนิยาย ผู้คนไม่ใช่คนจริงๆ เช่นนั้นนางจะใส่ใจเพื่อสิ่งใด ขอให้ท้องอิ่ม ได้เล่นตามบทบาทที่นางอยากให้เป็น เพียงเท่านี้ก็มีความสุข “หม้อร้อนนี้ จะแบ่งน้ำเป็นสองแบบ เผ็ดร้อนดุดันกับกลมกล่อมนุ่มนวล” “คล้ายกับชายหญิงเช่นนั้นรึ แข็งแกร่งกับอ่อนหวาน” เขาว่าและมองหม้อไฟร้อนที่ฐานใส่น้ำซุปเป็นรูปหยินหยาง “กล่าวมิผิด หม่อมฉันตั้งใจให้อ๋องเจิ้งได้ลอง และหวังว่าท่านจะพึงใจ” นางเอ่ยจบก็เริ่มใช้งานให้เขาปลอกเปลือกหัวผั

  • สวนผักฟ้าประทาน    11. กวางเหลียวหลัง

    เกิดการค้นหานิยายของนักเขียนท่านนั้นมาอ่าน และเตียวหยวนหยวนคุ้น นางรู้สึกคุ้นมาก จนต้องทึ่งจัด เมื่อพบจุดใต้ตำตอบ นางต้องร้องอ๋อ เพราะมีฉากเกี่ยวกับแม่ผัวและลูกสะใภ้ทะเลาะกันจนบ้านเกือบพัง แต่ละคำพูด การกระทำ ช่างเหมือนที่นางวิวาทะกับเหม่ยหลิน มารดาของแฟนหนุ่มนางในโลกที่จากมา “ถ้าได้สะใภ้ดี ลูกชายฉันคงมีสง่าราศีมากกว่านี้ ผู้หญิงอย่างเธอ เกิดมาเพื่อฉุดให้สามีลงเหว หน้าที่การงานพังหมด ซ้ำร้ายยังปากไม่มีหูรูด ทำเรื่องขายขี้หน้าไม่เว้นวัน คิดหรือว่าเลียมจะทนพฤติกรรมของเธอได้” เหม่ยหลิน หมายถึงลูกชายคนเล็กของตน เลียม หยางตง* คนรักของเตียวหยวนหยวน “คุณแม่...พูดไม่ถูกต้องนะคะ” “ฮึ ใครเป็นแม่เธอ ฉันไม่เคยคิดรับผู้หญิงแบบนี้เข้าตระกูล แม้แต่รับไหว้ฉันยังบอกให้เธอกองไว้ตรงพื้นเลย” เตียวหยวนหยวนนึกถึงคำพูดเจ็บแสบของเหมยหลิน สตรีผู้เป็นว่าที่แม่สามี และนั่นทำให้นางเจ็บช้ำใจ และเริ่มสืบเสาะสิ่งที่จะหาทางแก้เผ็ดอีกฝ่าย กระทั่งพบว่านิยายคาวโลกีย์ที่ดังกระฉ่อน คนเขียนก็คือเหม่ยหลิน สตรีวัยเกือบหกสิบกะรัต ที่ยังคันในร่มผ้า จนต้องหาทางระบายด้วยการเขียนเรื่องอ้าๆ หุบๆ พร้

  • สวนผักฟ้าประทาน    10. หลอกล่อบุรุษด้วยลิ้น

    หลอกล่อบุรุษด้วยลิ้น เตียวหยวนหยวนนิ่งอยู่อย่างนั้นทั้งที่กอดและเกาะแกะกายแกร่งราวกับตกอยู่ในอำนาจแห่งราคะ ริมฝีปากนางเผยออ้า อ้าขึ้นแล้วหุบ ก่อนจะอ้าใหม่อย่างเคลิบเคลิ้มต่อความหล่อเหลาของกัวเจิ้งอี้ อีกฝ่ายคือบุรุษผมยาวผิวขาวจัด หน้าอกแกร่ง และยามนี้เขายังกระดิกแผงหน้าอกด้านซ้ายที ขวาทีจงใจหวานเสน่ห์ ให้นางหลงใหล และยอดหน้าอกสีชมพูเข้มก็ล่อตาล่อใจนาง จนเลือดกำเดาพาลจะไหล! มือใหญ่เชยคางนางขึ้น แล้วเลื่อนริมฝีปากบางสีสดที่สวยของเขาเข้ามาใกล้ ๆ “ชิมได้ไหม ให้ข้าชิมเนื้อกว้างหวานๆ จากปากหยวนหยวนสักคำ” เตียวหยวนหยวนกำลังจะเคลิ้มไหว ทำอย่างไรได้ตัวละครนี้เป็นนางร้าย และแอบได้เสียกับผู้ชาย มันคงเป็นเรื่องที่ว่าที่แม่สามีเขียนเอาไว้ แถมเขียนได้ดี แบบหลายกระบวนท่าอย่างไม่นึกห่วงช่วงล่างของนาง เมื่อครั้งนางได้อ่านยังหัวร้อน หญิงสาวอยากยื่นมือเข้าไปตบสตรีใจร่านในเรื่อง ทว่า...ช้าก่อน หากฝ่ายหญิงให้ท่าคนเดียว เรื่องงามหน้าคงไม่เกิด และนี่ก็ดูเหมือนว่า กัวเจิ้งอี้ ก็พร้อมจะหลอมไฟสิเน่หาเข้ามารวมกับร่างของเตียวหยวนหยวน จะว่าไปก็น่าสงสาร นอกจากความงาม แ

  • สวนผักฟ้าประทาน    9 .ตำราพลิกสวรรค์

    ตำราพลิกสวรรค์ เตียวหยวนหยวน ร้อนวูบวาบในร่มผ้า แทนที่จะเห็นการ์ดตัวละครของกัวเจิ้งอี้ นางกลับเห็นฉากยามที่เขาสับสะโพกไหวกับสตรีนางหนึ่ง และมันประกอบกลอนของว่าที่แม่สามี ซึ่งเขียนได้อย่างสัปดนที่สุด ตั้บๆ อ้าๆ ฉีกแข้ง ฉีกขา เขียนตำราพลิกสวรรค์ สามขา สองเต้าหู้ มังกรหมุดถ้ำ โน้มเนื้อ เลือนลั่น อ๊ะ ฮ้า อี้ๆ ๆ สุขสันต์ฟาดฟันสนั่นปฐพี และยามนี้ขาที่สามของกัวเจิ้งอี้ เหมือนจะพองขยาย และเตรียมจู่โจมนาง มันใหญ่โตนัก ซึ่งดูเหมือนว่านางไม่อาจสลัดภาพดังกล่าวหลุดทิ้งจากหัวได้ง่ายๆ “อย่า อย่าเอามันเข้ามาใกล้หม่อมฉัน” เตียวหยวนหยวนเอ่ย และยกมือขึ้นปัดป้องภาพของแท่งหยกกัวเจิ้งอี้ “เอ เจ้าเป็นไข้หรือไม่ เหตุใดใบหน้าถึงได้แดง และมีอาการประหลาดเช่นนั้น” “ปละ เปล่าเสียหน่อย เป็นเพราะอ๋องเจิ้ง เอาแต่รั้งหม่อมฉันไว้เช่นนี้ ถึงได้กลัวจะไปดูแม่หมูคลอดลูกไม่ทัน” “อืม เช่นนั้น ให้ข้ารีบไปส่งเจ้าดีหรือไม่” เอ่ยจบเขาก็ไม่รอให้นางได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างของนางก็ลอยหวือ และไม่ได้ขึ้นรถม้าอันใด หากถูกจับให้นั่งบนม้าตัวโต โดยมีเ

  • สวนผักฟ้าประทาน    8. โปรดเก็บกระบี่ไว้ในฝัก

    โปรดเก็บกระบี่ไว้ในฝัก กัวเจิ้งอี้สวมเสื้อคลุมของตนให้แม่นางชุดเหลือง และนางไม่ได้แสดงท่าทางอิดออด ยังยิ้มให้เขาด้วย สตรีชุดเหลืองที่อยู่กับเขาในลำธารด้วยกัน นางเป็นหญิงสาวที่เร่าร้อน อีกทั้งทำให้เขาแข็งขัน! เรื่องนี้หากสวรรค์ไม่ลิขิตไว้ นางคงไม่ส่งเสริมให้ความเป็นชายของเขากลบมาคึกคักอีกเป็นแน่แท้ กัวเจิ้งอี้ เครียดมาร่วมสองเดือนเศษ ไม่มีจิตใจอภิรมย์ต่อสิ่งยั่วเย้ารอบกาย แม้แต่ในค่ายทหารจะหานางรำเอวอ่อน มาเต้นยักย้ายส่ายสะโพก แต่กัวเจิ้งอี้ไม่ได้หิ้วหญิงใดเข้ากระโจมของตน เพื่อโจนจ้วงความใหญ่โตเข้าสู่ความหวานล้ำของแม่นางเหล่านั้น สาเหตุเป็นเพราะเขาตกอยู่ในห้วงความคิดที่ผิดต่อตัวเอง และยังทำให้ฮ่องเต้ทรงกริ้ว ส่วนฮองเฮาต้องไปถือศีลบนเขาเป็นเวลาครึ่งปี เพื่อขอให้ฮ่องเต้ยกโทษให้แก่เขา ดังนั้นเวลาที่ผ่านมา เขาได้แต่คิดว่าตนไม่ปกติ ไร้ความรู้สึกกับสตรีเพศ ถึงขั้นตายด้าน จึงทำให้เขาดื่มสุราหนัก บ้าการฝึกวรยุทธ์จนกลายเป็นคนเลือดร้อน มีความฉุนเฉียว ทั้งงุ่นง่าน ทว่าเหตุใดเพื่อได้ยลโฉมงามนางนี้ เขากลับรู้สึกว่าตนกลับคืนสู่ความหนุ่มแน่น เลือดในกายร้อนผ่าวไหลเวียนได

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status