“งานง่าย ๆ แค่นี้ก็ทำพลาด!” เจ้านายของเอกโวยวายอย่างเสียอารมณ์ เขาหงุดหงิดจนทำลายข้าวของที่อยู่ใกล้มือ
“ขอโทษครับนาย!” เอกพูดเสียงสั่นเครือ มือของเขาเต็มไปด้วยเลือด
“ปกติมึงไม่เคยทำงานพลาด!”
“มีคนลอบยิง” เอกพูดพร้อมใช้มือล้วงกระเป๋าเสื้อสูท จึงพบกับอะไรบางอย่าง ทำให้เจ้านายของเขาที่โมโหและหงุดหงิดอยู่แล้วยิ่งเดือดดาลขึ้นไปอีก
“โธ่เอ๊ย!” มาเฟียหนุ่มตะโกนด้วยน้ำเสียงโมโห ก่อนจะหยิบอุปกรณ์จีพีเอสในมือของเอกโยนทิ้งลงทะเล หลังมือหนาออกแรงตบหน้าลูกน้องอย่างไม่ยั้งมือ
เพี๊ยะ!
คาริสามองกลับไปยังบริเวณเทีบยท่าซึ่งไกลจากเธอออกไปเรื่อย ๆ ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล มันเหนือความคาดหมายของเธอ ไม่คิดว่าจะติดมากับเรือด้วย
ทว่าอยู่ ๆ ก็มีมือหนาของใครบางคนปิดปากเธอเอาไว้แน่น หญิงสาวออกแรงดิ้นพล่าน ส่งผลให้ปืนที่ถือไว้อย่างไม่มั่นคงนักกระเด็นหลุดจากมือของเธอ ก่อนจะถูกอีกฝ่ายชกท้องแล้วลากตัวเข้าไปภายในเรือ
“นายครับ! มีคนบุกรุก” ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนพร้อมลากตัวเธอเข้ามา
ด้วยอารมณ์ที่ยังเดือดดาลไม่หายทำให้มาเฟียหนุ่มคว้าปืนจากลูกน้อง หวังจะยิงปลิดชีพคาริสาเพื่อระบายความโกรธ
ทว่าทันทีที่ได้เจอเธอ เขากลับต้องหยุดการกระทำทั้งหมด
“เคส!” เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ อีกทั้งน้ำเสียงที่ใช้นั้นราวกับรู้จักกันเป็นอย่างดี
คาริสาหวาดกลัวจนต้องกลั้นหายใจไปชั่วขณะ เธอมองคนตรงหน้าที่เกือบจะฆ่าเธอด้วยความรู้สึกมากมายภายในใจ
“แดน” ชื่อของเขาถูกเรียกด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเช่นกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า
‘แดเนียล’ ขว้างปืนในมือทิ้งก่อนจะเดินตรงไปกระชากแขนของคาริสาอย่างแรง เขาลากเธอเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว ลูกน้องภายในเรือต่างมองหน้ากันอย่างงุนงง
พรึ่บ!
“เธอขึ้นมาบนเรือนี้ได้ไง” แดเนียลโยนร่างคาริสาลงบนเตียงอย่างแรง น้ำเสียงเกรี้ยวกราดเค้นถามขึ้นด้วยความสงสัย
“คือ... ฉันหนีเจ้าหนี้ก็เลยวิ่งมาหลบในเรือ ไม่คิดว่าเป็นเรือของ...” คนหน้าคะมำแนบกับฟูกลุกขึ้นตอบคำถามขาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“งั้นเหรอ?เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธออย่างงั้นเหรอ” ดวงตาคมปลาบมองสำรวจเธอตั้งแต่ศีรษะจรดลายเท้า ใครจะไปเชื่อยัยตัวร้ายจอมเจ้าเล่ห์อย่างเธอ เขารู้จักนิสัยคาริสาดีกว่าใคร ๆ “เธอเป็นตำรวจ”
“ใช่...ฉันเป็นตำรวจ” อยู่ ๆ เธอก็ยอมรับสารภาพออกมาเสียดื้อ ๆ คาริสาจับไหล่กว้างของแดเนียลดันเข้ากับกำแพงพร้อมชูนิ้วชี้และนิ้วกลางทำเป็นกระบอกปืนจี้ไปที่หลังของชายหนุ่ม “นายโดนจับแล้วแดน”
“เธอจะมาจับฉันข้อหาอะไร”
“ก็ข้อหาที่นายขโมยหัวใจฉันไปตั้งห้าปี” คาริสาเขย่งเท้าขึ้นไปกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู ทำเอามาเฟียหนุ่มต้องหันมามองเธอตาเขม็ง
“หลอกฉันเหรอ!”
“อะไรกันแดน” คาริสาหัวเราะอย่างชอบใจ เธอยกนิ้วชี้กับนิ้วกลางชูขึ้น “แค่นิ้วนายก็กลัวเหรอ”
“อย่าเล่นแบบนี้อีกนะเคส ใจหายหมด” เขารวบตัวเธอเข้ามากอดด้วยความคิดถึง แต่ทว่าคนที่หัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนหน้านี้กลับแปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งอึ้ง
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แดเนียลเป็นคนบงการอย่างนั้นเหรอ?
อยู่ ๆ มาเฟียหนุ่มก็จัดการถอดเสื้อแจ็กเกตของคาริสาออก เขาทำแบบนั้นทำไม
“แดน! นะ...นายจะทำอะไร” คาริสาร้องตะโกนพร้อมบ่ายเบี่ยงการกระทำของเขาสุดฤทธิ์
“อยู่นิ่ง ๆ อย่าขัดขืน!” เพียงไม่กี่วินาทีแดเนียลก็สามารถถอดเสื้อแจ็กเกตออกจากร่างของคาริสาได้สำเร็จ เขาดันหญิงสาวให้นอนลงบนเตียงแล้วตามขึ้นไปคร่อมบนตัวเธอ
“นะ...นายจะทำอะไรน่ะแดน!” เขาไม่เอ่ยอะไรนอกจากโน้มตัวเข้าหาคาริสาโดยใช้แขนทั้งสองข้างกักขังเธอไว้ไม่ให้หนี
“นิดเดียว ไม่เจ็บหรอก” มือหนาค่อย ๆ ไล้สัมผัสเรือนร่าง ตั้งแต่ทรวงอกมาจนถึงสะโพก ขณะที่สองมือน้อยทำได้แค่ดันแผงอกแกร่งเอาไว้
“แดน! นี่นายจะ...” แม้คาริสาจะแสดงอาการตกใจกลัว ก็ไม่ทำให้แดเนียลหยุดการกระทำ
“แค่สำรวจร่างกาย เธอจะกลัวอะไร” ว่าแล้วเขาก็หยิบแจ็กเกตขึ้นมาสำรวจดูทุกซอกทุกมุม
“นายไม่ไว้ใจฉันเหรอ”
“ฉันไม่ไว้ใจใครหน้าไหนทั้งนั้น” คำพูดของเขาทำเอาคาริสาใจหาย คนรักที่เธอรอคอยมานานกว่าห้าปีเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เซียวเหรอ
แม้แต่เธอ เขาก็ไม่ไว้ใจหรือ?
“แล้วเธอเป็นหรือเปล่า” แดเนียลเอ่ยถามอีกครั้ง ทำเอาคนที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยต้องหลุดออกจากภวังค์
“ปะ...เป็นอะไร”
“ตำรวจ!”
“นายทำกับฉันถึงขนาดนี้ยังจะกล้าถามอีกเหรอ อย่างฉันเนี่ยนะเป็นตำรวจ หางานทำยังจะไม่มีเลย” คาริสาพูดพร้อมหย่อนตัวลงนั่งบนเตียง
“โกหก! เชื่อไม่ได้ตั้งแต่ที่บอกว่าหนีเจ้าหนี้แล้ว คนอย่างเธอเหรอเคสจะติดหนี้”
“ฉันพูดความจริงนะ ก็ฉันตกงานหางานทำไม่ได้ ฉันไม่อยากรบกวนคุณย่าของนาย ไม่อยากทำให้ท่านต้องเป็นห่วง ก็เลยไปกู้หนี้นอกระบบมาใช้ก่อน ฉันชะล่าใจเองหาเงินจ่ายหนี้ไม่ทันกำหนด ฉันถึงได้โดนตามไล่ล่าแบบนี้ไง”
คาริสาแต่งเรื่องโกหกร่ายยาวเต็มหน้ากระดาษเอสี่ภายในไม่ถึงนาที นอกจากจะอำพรางตัวตนด้วยหน้ากากแล้ว การเอาตัวรอดด้วยวาจาถือว่าเป็นงานถนัดของเธอ
“ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดก็ดี เพราะถ้าเธอเป็นตำรวจเราได้เป็นศัตรูกันแน่” คาริสาพูดอะไรไม่ออก เธอจะบอกกับแดเนียลได้อย่างไรว่าเธอเป็นคนขององค์กรที่ทำงานกับตำรวจอีกที “จะว่าไป เจอเธอก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้มีเพื่อน”
คาริสาได้แต่ยิ้มเจือน เธอพยายามแสดงสีหน้าและท่าทางให้ปกติที่สุด อีกทั้งยังต้องข่มความรู้สึกไม่ให้เอาเรื่องงานมาปะปนกับเรื่องส่วนตัว
หนึ่งปีต่อมา...“อะ อั๊วะ อ้วก!”“พี่โอเคขึ้นไหม” คาริสาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับลูบหลังคนเป็นสามีเบา ๆ เนื่องจากเขาคลื่นไส้อาเจียนแบบนี้มาตลอดทั้งวัน “ไปหาหมอดีกว่านะ”“ไม่ไปนะเคส พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” แดเนียลทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง ก่อนจะดึงคาริสาให้นั่งบนตักของเขา“ไม่เป็นอะไรที่ไหนกัน อ้วกซะหมดไส้หมดพุงขนาดนี้”“พี่ไม่เป็นอะไรจริง ๆ” เขาโอบกอดเธอแล้วดึงมือเรียวมาสัมผัสเข้าที่หน้าผาก “แค่ปวดหัวนิดหน่อย”คาริสาอมยิ้มละไมเมื่อถูกสามีออดอ้อน เธอพรมจูบไปทั่วหน้าผากของเขาให้คลายอาการปวด“หนูมีอะไรจะให้พี่ดูด้วยนะ” มือเรียวเอื้อมไปหยิบเอกสารฝากครรภ์ก่อนจะยื่นมันให้กับเขา“มะ...หมายความความว่าไง หนูท้องเหรอ?”คาริสาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานนี้เอง ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันตอนที่รู้ว่ากำลังจะเป็นแม่คน“สองเดือนแล้วค่ะ”“คนดี พี่รักหนูที่สุดเลย” แดเนียลตะโกนพูดด้วยความดีใจ ก่อนจะหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาของเมียรักไปหลายฟอดเป็นการขอบคุณ มือหนาลูบที่ท้องน้อยเบา ๆ “พี่จะมีลูกแล้ว พ
วันต่อมา…(ความลับของคาริสา คือยัยขี้แยที่ชอบน้อยใจผัว) คำพูดไม่น่าฟังกรอกเข้ามาในสายทันทีที่คาริสากดรับ“พูดอะไรของแก!”(ก็พูดเรื่องจริงไง ฉันรู้นะ ว่าทำไมแกถึงไม่ยอมมีลูกให้แดเนียลสักที)“แล้ว...”(เคส แกแต่งงานกับแดเนียลมาครึ่งปีแล้วนะ ไม่คิดมีตัวเล็กให้แดเนียลหน่อยเหรอ)“ฉันยังไม่พร้อมจะแบ่งความรักให้ใคร”(แม้แต่ลูกของแกเองนะเหรอ)“เฮ้อ! ฉันมันเห็นแก่ตัวใช่ไหมเรย์”(เชื่อฉันเถอะ! แดเนียลรักแกจะตาย เขาไม่มีวันรักแกน้อยลงหรอก มีแต่จะคลั่งรักแกมากกว่าเดิม ถ้าแกยอมมอบของขวัญที่ล่ำค่าที่สุดให้กับเขา)“ของขวัญที่ล่ำค่าเหรอ?”(ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี แกต้องสัมผัสมันด้วยตัวเองเคส แล้วแกจะรู้ว่าการที่มีลูกนั่นแหละ คือความรักและความสุขที่แท้จริง)หลังจากที่พูดคุยกับเพื่อนรักนานนับชั่วโมง คาริสาก็กดวางสาย ก่อนจะเห็นแดเนียลเดินผ่านหน้าของเธอไปนั่งบนโซฟาคาริสาวางถ้วยชาที่ถือติดมือมาด้วยลงบนโต๊ะกระจก แล้วหย่อนสะโพกนั่งลงบนตักของแดเนียล สองแขนเรียวโอบรัดลำคอหนาพลางซบใบหน้าลงบนบ่าแกร่ง“ยังโกรธหนูอย
“แต่งตัวสวยเชียว” แดเนียลเอ่ยชมพร้อมไล้สายตามองเรือนร่างขาวผ่อง เดรสสายเดี่ยวสีดำที่เธอสวมสะกดสายตาคนมอง“ทำไมถึงรู้ว่าเป็นหนู” คาริสาเอ่ยถามอย่างข้องใจ เพราะไม่ว่าเธอจะอยู่ภายใต้หน้ากากของใคร สามีที่รักก็จับได้เสมอ“เมียคนเดียวทำไมจะจำไม่ได้ พี่จำหนูได้ทุกตารางนิ้วของร่างกายเลยนะ เริ่มจากตรงไหนก่อนดี” คาริสาขมวดคิ้วสงสัย เธอแหงนหน้ามองเขา ก่อนจะถูกจูบหน้าผากกลับมา “กลิ่นตัวกลิ่นหัวพี่ก็จำได้ แค่กอดก็จำได้แล้ว”แดเนียลหอมแก้มเมียรักอย่างเอาใจ ทำเอาแก้มนวลที่เคยขาวผ่องแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยอาการเขินอาย“ไม่เชื่อหรอก พี่ขี้โม้”เมื่อถูกสปอยมากเกินไป คาริสาจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งแดเนียลก็ไม่ขัดพร้อมเอาอกเอาใจเมียรักเสมอ“หนูมีใฝ่เม็ดเล็กตรงหัวแม่มือข้างขวาด้วยนะ รู้หรือเปล่า”ไม่เพียงแค่พูดแต่มือหนายังจับพลิกมือเรียวมาชี้จุดให้เธอดู ก่อนจะยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นจูบคาริสาทำหน้าประหลาดใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองยังไม่เคยสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามร่างกายขนาดนี้เลย“หนูอยากรู้ตรงไหนอีก” มือหนาปัดผมที่ยาวสลวยออก
ณ ห้องทำงานส่วนตัวของประธานบริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุป‘แดเนียล’ ผันตัวจากมาเฟียฮ่องกงมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มพันล้าน โปรเจกต์ใหญ่ที่ทุ้มทุนสร้างด้วยเม็ดเงินมหาศาล กำลังเป็นที่จับตามองของนักธุรกิจคู่แข่งหลายรายทว่าเรื่องนั้นกลับไม่ได้ทำให้ประธานหนุ่มเป็นกังวลแต่อย่างใด เรื่องเดียวที่ทำให้เขาเป็นทุกข์ในตอนนี้ คือ...“เมื่อไหร่เคสจะท้องสักทีวะ”เกือบครึ่งปีแล้วที่แดเนียลแต่งงานอยู่กินกับคาริสาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทำไมเมียสุดที่รักถึงไม่มีวี่แววจะมีเบบี้ตัวน้อยให้เขาสักทีไม่ใช่ว่าเขาไม่ขยันทำการบ้านสักหน่อย ทำก็ออกจะบ่อย ทำทุกวันเลยก็ว่าได้คาริสาแทบจะต้องคลานลงจากเตียงไปทำงานทุกเช้า บางทีต้องลางานเป็นอาทิตย์ เพราะลุกออกจากเตียงไม่ไหวก็หลายครั้งหลังจากที่นั่งครุ่นคิดอยู่นานสองนาน แดเนียลก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตัวเขาไม่มีน้ำยาหรือเปล่า เมียรักถึงไม่ท้องสักที นึกแล้วก็ขำ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เขาจะทำยังไงดีชีวิตหลังแต่งงาน บ่อยครั้งที่เขาและเธอต้องทะเลาะกันเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แดเนียลพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้คาริสาลาออกจากงานขององค์กรที่
หลังจากกลับมาจากบ้านพักตากอากาศได้สองสัปดาห์ งานแต่งของเขาและเธอถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต งานแต่งงานของหลานชายสุดที่รักเพียงคนเดียวมีหรือที่คุณย่าจะจัดให้น้อยหน้าต้นตระกูลของคุณย่าท่านเรียกได้ว่ามีคนนับหน้าถือตา และเป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมไฮโซ แขกเหรื่อมากมายต่างมาร่วมเป็นสักขีพยานรัก คนในองค์กรลับก็มาร่วมแสดงความยินดีในรูปแบบที่แต่งต่างกันออกไปภาคิน วิวัฒน์ และเคคิว มาเป็นแขกผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าสาว เตชินและเรติกามาในฐานะเพื่อนรักของเธอ เซน ซาน และนาวิน แฝงตัวมาในชุดเด็กเสิร์ฟ แม้แต่หัวหน้าศูนย์ศูนย์หนึ่งก็แฝงตัวเป็นใครสักคนในงานดอกไม้ช่อเล็กถูกถืออยู่ในมือของคนที่สวยที่สุดในงาน เธอสวมชุดเดรสไหล่ปาดแขนยาวลายลูกไม้ สีขาวนวลแบบออฟไวท์ กระโปรงผ้าซาตินแบบตาข่ายยาวซ้อนกันเจ็ดชั้น มีเชือกร้อยด้านหลังที่ปรับให้กระชับหุ่นเพรียวระหง สายตาทุกคู่ภายในงานต่างก็จับจ้องไปที่เธอเคคิวเดินควงแขนน้องสาวมาหาแดเนียลที่สวมชุดสูทสีเดียวกันกับเธอ เขายินดีที่จะยกน้องสาวที่เขารักสุดดวงใจให้กับผู้ชายคนนี้ แม้หลายครั้งที่เคยเห็นแดเนียลทำให้คาริสาน้องรักของตนต้องเจ็บช้ำน้ำใจ แต่ก็คือคนเ
“เมื่อคืนหลับสบายไหม?” แดเนียลพูดในขณะที่มือหนาค่อย ๆ นวดศีรษะให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ“คะ?” เธออุทานอย่างสงสัย ตื่นขึ้นมาเขาก็อุ้มเธอให้มาอาบน้ำด้วยกัน แถมยังเป็นคนสระผมให้เธอด้วยตัวเอง“นอนบนอกอุ่น ๆ ของพี่ หลับสบายไหมครับ” คาริสาพยักหน้าเป็นคำตอบพร้อมเอี้ยวหน้าไปคลี่ยิ้มหวานให้คนข้างหลังก่อนหันกลับไปอยู่ท่าเดิม“ทำไมวันนี้ดูแลเอาใจใส่หนูเป็นพิเศษ”“พี่อยากดูแลหนูแบบนี้ทุกวัน ขอโทษที่เอาแต่ทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาให้หนูนะ” ผ่านมาเกือบเดือนหลังจากที่คาริสาตกลงจะแต่งงานด้วย แดเนียลก็เอาสนใจงานของบริษัทที่เขาเพิ่งได้รับตำแหน่งประธาน แทบไม่ได้แบ่งเวลามาดูแลเรื่องงานแต่งปล่อยให้คุณย่ากับคาริสาจัดการทุกอย่างกันเอง “หนูเหนื่อยไหมที่ต้องวุ่นวายเรื่องงานแต่งคนเดียว”เธอส่ายหัวไปมาเบาพร้อมโกยฟองน้ำในอ่างมาเป่าเล่นอย่างนึกสนุก“คุณย่าจัดการให้ทุกอย่าง หนูแค่ทำตามที่คุณย่าบอก” คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้ เขาอมยิ้มให้กับคำตอบของเธอ ในขณะที่มือลูบไล้ปลายผมที่ยาวสลวย“หนูอยากไปเที่ยวไหม”“เที่ยวเหรอ?” น้ำเสียงตื่นเต้นดังออกมาจากปากของคนที่ก