กลับมาที่ปัจจุบัน
หลังจากที่ทั้งสองสาวจัดเก็บทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยตะวันก็ตกดินเป็นที่เรียบร้อย หนูนาที่หิวข้าวอย่างกับจะกินช้างทั้งตัวได้เธอก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหาแก้ว แต่ระหว่างที่เธอจะเดินเข้ามาหาแก้วที่จัดเก็บห้องนอนอยู่นั้น อยู่ๆหนูนาก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรเข้ามากระทบร่างเธอ วูบ……. “ เอะ ทำไมอยู่ๆขนลุกว่ะ “ หนูนาเมื่อมีลมอะไรบางอย่างมาประทะที่ร่างบางของเธอ เธอก็หยุดนิ่งพร้อมกับเอามือลูบที่แขนของตัวเองพร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆขนถึงได้ลุกแบบนี้ “ หนูนาเธอเป็นอะไร รึเปล่า “ แก้วที่เก็บของเสร็จพอดี เธอก็ออกมาแต่ก็ต้องงงเพราะหนูนาที่ยืนเอามือลูบแขนตัวเองอย่างกับว่าเป็นอะไร หนูนาที่ได้ยินเสียงของเพื่อนเรียกด้วยความหิวเธอก็เลยเดินเข้ามาหาเพื่อนทันที “ แก้วเราหิวมากเลยอ๊ะ ฉันมาเราไปหาข้าวแถวๆนี้กินกันเถอะ “ หนูนาเมื่อเห็นเพื่อนออกมาจากห้องพอดี เธอก็เดินเเอามือลูบท้องเข้าหาแก้ว พร้อมกับทำหน้าตาน่ารักบอกกับเพื่อนว่าตัวเองหิว แก้วที่เห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดูเพื่อน จากนั้นทั้งสองก็ออกไปหาอะไรกินกัน เพราะแก้วก็หิวแล้วเหมือนกัน ร้านก๋วยเตี๊ยวข้างทาง “ ป้าจ๊ะเส้นเล็กสองจ๊ะ “ หนูนา เธอเดินเข้ามาสั่งก๋วยเต๊ยวที่ดูเหมือนว่าจะมีแค่ร้านเดียวเท่้านั้นที่อยู่ระแวกนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ทั้งที่บ้านคนก็เยอะแต่กับไม่มีรถผุกผล่าน ส่วนร้านก๋วยเตี๊ยวนี้ก็เป็นหญิงวัยกลางคนกับสามี แก้วเธอนั่งรออยู่ที่โต๊ะเธอก็หันหน้ามองซ้าย มองขวา ไปเรื่อยเปื่อยตามประสาของเธอ “ ได้สิ // หนูสองคนมาจากไหนกันทำไมพี่ไม่เคยเห็นหน้าเลยละจ๊ะ “ เจ๊เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๊ยว เอ้ยถามหนูนาออกมาพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตร จากนั้นเธอก็หยิบเอาเส้นก๋วยเตี๊ยวกับชามมาเพื่อทำก๋วยเต๊ยวให้สองสาว หนูนาเมื่อโดนถามแบบนั้นเธอก็ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวเช่นเดียวกันก่อนจะตอบเธอออกมาว่า “ สวัสดีจ๊ะพี่ หนูกับเพื่อนมาจากอีสานจ๊ะเราสองคนมาเรียนแล้วก็ว่าจะหาทำงานที่นี้จ๊ะ // ฝากเนื้อ ฝากตัวด้วยนะจ๊ะพี่ “ หนูนา เธอตอบเจ๊เจ้าของร้านก๋วยเต๊ยว อย่างเป็นมิตรแล้วก็สดใส เจ๊เจ้าของร้านเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอที่ลวกก๋วยเตี๊ยวอยู่ก็ส่งยิ้มตอบให้เธอตอบ เมื่อหนูนากับเจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวทำความรู้จักกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หนูนาก็มานั่งเพื่อรอก๋วยเตี๊ยว “ แก้วเป็นอะไรไป “ หนูนา ที่เพิ่งย่อนก้นลงเธอก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะแก้วเงียบพร้อมกับสายตาของเธอที่มองตรงไปยังถนน ด้วยสายตาที่ดูหวาดกลัว “ หนูนา หนูนา “ “ ก๋วยเต๊ยวมาแล้วจ๊ะ “ ระหว่างที่แก้วกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมาด้วยสีหน้าตื่นกลัวอยู่นั้น เจ๊เจ้าของวร้านก๋วยเตี๊ยวก็เดินถือชามก๋วยเตี๊ยวเข้ามาเสริฟ นั้นเลยทำให้แก้วกับหนูนาหันมาสนใจสิ่งที่เข้ามาใหม่ “ เอ้อ หนูสองคนชื่อะไรเหรอจ๊ะ แล้วว่าแต่พวกหนูพักอยู่ที่ไหนกัน “ ด้วยความที่ซอยนี้ ไม่ค่อยมีคนมาอยู่ แล้วบ้านแตา่ระหลังก็อยู่ห่างกัน จะมีแค่พวกขี้ยาเท่านั้นที่จะผ่านเส้นทางนี้เพราะมันเปลี่ยว นั้นเลยทำให้เจ๊เจ้าของร้านสงสัยว่าเด็กสาวหน้าตาดีสองคนนี้จะมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เมียพวกขี้ยาเจ๊ก็เลยไม่เชื่อ หนูนา “ หนูชื่อหนูนา ส่วนนี้แก้วคะ เราสองคนเป็นเพื่อนกันแล้วเราสองคนก็พักอยู่ที่บ้านหัวโค้งนู่นอ๊ะคะ “ หนูนา เธอยิ้มหวานพร้อมกับแนะนำตัวเองแล้วก็แนะนำเพื่อน แก้วเธอก็ไหว้หญิงตรงหน้าอย่างมีมารยาท แต่ดูเหมือน ว่าเจ๊เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยว หน้าตาของเธอตอนนี้ดูตื่นตกใจเป็นอย่างมาก แก้วที่เห็นแบบนั้นเธอก็รู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นแค่เธอได้ยินว่าเราสองคนพักที่ ทำไมต้องทำหน้าตาตื่นกลัวแบบนั้น “ เอ้อ เจ๊คะ เจ๊ เจ๊ เจ๊เป็นอะไรไปคะ “ แก้วที่เห็นเจ๊เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวอยู่ๆเธอก็เงียบไป แก้วก็เลยเรียกเจ๊คนนั้นอยู่นาน เจ๊เจ้าของร้านที่โดนเรียกย้ำๆเธอก็ตกใจจนสะดุ้งอย่างได้สติ แล้วก็ทำท่าจะพูดอะไรออกมา “ นี้หนูสองคนไม่รู้เหรอว่า…..” “ ว่าอะไร “ ระหว่างที่เจ๊เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวกำลังจะ พูดกับแก้วแล้วก็หนูนา อยู่ๆเจ๊เจ้าของบ้านเช่าที่แก้วกับหนูนาเช่าอยู่ก็เดินเข้ามา พร้อมกับพูดกับเจ๊ร้านก๋วยเตี๊ยวด้วยน้ำเสียงพร้อมกับสายตาที่ดุดัน เจ๊ร้านก๋วยเตี๊ยวเมื่อเห็นเจ๊เขียวเจ้าของบ้านที่หนูนากับแก้วเช่าอยู่ เธอก็ทำท่าหวาดกลัวแล้วก็พูดโบกไม้ อย่างกับว่าเรื่องที่เธอพูดเมื่อกี่ไม่ได้มีเรื่องอะไร จากนั้นเธอก็รีบหนีหน้าของเจ๊เจ้าของบ้าน แก้วกับหนูนา มองหน้าเจ๊เจ้าของบ้านที่เธอเช่าอยู่ด้วยสายตาแปลกประหลาดใจ เพราะตอนที่เธอเมื่อตอนเช้าป้าเขียวไม่ได้มีท่าทีแบบนี้ นั้นเลยทำให้ทั้งสองคนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เจ๊เขียวเธอมองหน้าหนูนา กับแก้วแป๊บเดียวจากนั้นป้าแกก็เดินหนีออกมาโดยที่ไม่พูดหรือว่ามองเธออีกครั้ง การกระทำของเจ๊เขียวทำเอาหนูนากับแก้วสงสัยเป้นอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้น “ แก้วเธอคิดว่ายังไง “ หนูนา หันมาถามเพื่อนอย่างอยากรู้ว่าแก้วมีความคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น แก้วที่รู้และก็เห็นอยู่แล้วว่ามีเกิดอะไรขึ้น เพราะตั้งแต่ก้าวขามาเยียบซอยนี้ เธอเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่มีชีวิตอยู่ที่นี้เลย แต่เพราะหนูนากับเธอไม่มีเงินเพื่อที่จะไปเช่าบ้านดีๆเธอก็เลยเงียบหน้าจะดีกว่า แล้วอีกอย่างหนูนาเคยบอกกับเธอตั้งแต่ทั้งคู่กลับมาจากความตายว่า ห้ามแก้ว ทัก มหรือว่า พูดกับสิ่งที่มองไม่เห็นเด็ดขาด นั้นเลยทำให้แก้วแกล้งที่จะไม่รู้และก็แกล้งไม่เห็นทำตัวปกติ แต่บางทีเธอก็เผลอตัวไปบ้างด้วยความที่บางวิญญาณสภาพน่าสยดสยองแก้วก็มีบางทีที่เผลอตัว แต่เคราะห์ดีที่มีหนูนาคอยดึงสติเอาไว้ก็เลยไม่คอยเป็นเรื่องเท่าไหร่ “ อย่าถามเลย เธอก็รู้ว่าเรื่องอะไร “ ซูด…… แก้วเมื่อโดนเพื่อนถามแบบนั้นเธอก็แกล้งไม่สนใจพร้อมกับดูดเส้นก๋วยเตี๊ยวเข้าปากไปหนูนาที่ได้ยินแบบนั้น เธอก็มองเพื่อนอย่างรู้กันจากนั้นเธอก็ทำหน้าเหนื่อยหน่าย ก่อนจะดูดเส้นก๋วยเตี๊ยวเข้าปากตามเพื่อนไป ซูด……. “ เอ้อ นั้นสินะไม่หน้าถามเลย “ หนูนา เมื่อได้ยินที่เพื่อนบอกบวกกับท่าทางของเพื่อนที่ไม่ปกติตั้งแต่เข้ามาเยียบที่นี้แล้ว หนูนาก็เลยเข้าใจ จากนั้นทั้งคู่ก็กินก๋วยเตี๊ยวไปอย่างเงียบๆเพราะทั้งคู่หิวมาก โดยที่มีสายตาของเจ๊เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวกับสามีมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัวแทน “ พี่ว่าเด็กสองคนนี้จะอยู่ที่นี้ได้กี่วัน “ เจ๊จิ๊ม เจ้าของร้านก๋วยเตี๊ยวหันมาถามสามีเสียงเบาอย่างอยากรู้ว่า หนูนากับแก้ววจะอยู่ที่บ้านนี้ได้กี่วัน เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าใครที่มาอยู่ที่นี้ ไม่ตาย ก็สติหลุดเป็นบ้าไป “ กูว่าไม่เกิน อาทิตย์เชื่อกูเถอะ” สามีของเจ๊จิ๊ม พูดออกมาเสียงเบาจากนั้นทั้งคู่ก็มองสองเพื่อนรักที่นั่งกินก๋วยเตี๊ยวไปด้วยสายตาที่สงสารแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะเจ๊เขียวไม่ว่าใครต่างก็รู้ว่าแกเล่นของ คนแถวนี้ต่างก็กลัวแกกันทั้งนั้น กลัวว่าแกจะปล่อยของหรือว่าปล่อยผีออกมาหักคอ “ สงสารเนอะพี่ ยังเด็กอยู่เลย “ เจ๊จิ๊ม พูดออกมาด้วยความรู้สึกเวทนาเด็กสาวทั้งสองคนเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะเธอก็ไม่มีที่ไปเหมือนกันแว๊บ…“ คุณตำรวจ….ขา……ช่วยแก้วกับหนูนา……ด้วย ตอนนี้ไอ้พวกเดนนรกมันกำลังจะทำร้าย พวกเธอเหมือนอย่างที่มันทำกับฉันแล้ว…….. “ ผีที่อยู่ใต้ต้นไทรเมื่อร่างของเธอ ถูกหาเจอแล้วนั้นหมายความว่าวิญญาณของเธอก็เป็นอิสระเช่นเดียวกัน และนั้นก็เป็นสิ่งเดียวที่เธอจะตอบแทนสองสาวนั้นได้ เธอก็เลยมาขอความช่วยเหลือจาก ตำรวจทั้งสองคนเพื่อให้ไปช่วยแก้วกับหนูนา แดนที่นอนหลับอย่างสบายอยู่นั้นด้วยสัญชาตญาณของตำรวจที่เขาโดนฝึกมา เมื่อความรู้สึกบอกกับเขาว่ามีใครบางคนอยู่ในห้องกับเขาด้วยนั้นเลยทำให้แดนสะดุ้งดีดตัวขึ้นทันที อย่างกับว่าตัวของเขาติดสปิ้งยิ่งเขาได้ยินว่าสองสาวนั้นจะเป็นอันตราย นั้นยิ่งทำให้เขารีบลุกขึ้นมานั่งทันที “ ผะ ผะ ผี นี้คุณเป็นผี ใช่มั้ย “ สารวัตรแดนที่สะดุ้งตัวอย่างกับติดสปิงค์ เขาลุกขึ้นมานั่งก่อนจะต้องตกใจแทบเป็นบ้าเมื่อสายตาของเขาเจอเข้ากับกับผีสาวที่อยู่ในมุมมืด โดยสภาพของเธอในตอนนี้ดูเลอะไปด้วยโคลนและก็เลือดกลิ่นที่ลอยเข้ามาแตะจมูกของสารวัตรแดนมันชั่งเน่าเหม็นอย่างหน้าสะอิดสะเอียน“ สารวัตร ช่วยเด็กสองคนนั้นด้วยเธอสองคนกำลังอยู่ในอันตราย พวกเดนนรกนั้นกำลังจะทำร้ายพวกเธออย่างที่มันเคยท
“ พวกคุณจะทำยังไงต่อไปละคะที่นี้คุณตำรวจ “ หนูนา ที่นั่งกินก๋วยเตี๊ยวอยู่ข้างทางกับตำรวจหนุ่มทั้งสองคน หลังจากที่เธอกับแก้วพาตำรวจสองคนไปเจอกับเหตุการณ์ช๊อคโลกเมื่อกี่เธอก็ถามสารวัตรที่นั่งกินก๋วยเตี๊ยวข้างทางเป็นครั้งแรกออกมาด้วยความอยากรู้ว่าต่อไปพวกเขาจะเอายังไง แดนกับเอก เมื่อได้ยินแบบนั้น ทั้งคู่ก็ถึงกับชะงัก เพราะเรื่องนี้ถ้าเขาจะจับเขายังไม่รู้เลยว่าจะจับพวกมันข้อหาอะไรก่อน ถ้าค้ายาพวกมันก็ติดไม่นานแล้วอีกอย่างของกลางขนาดตำรวจตามสืบมานานนับปียังไม่สามารถจับพวกมันได้ เพราะมีเรื่องผีกับอาคมอะไรบางอย่างคอยช่วยคนชั่วอย่างพวกมันอยู่ นั้นเลยทำให้ตำรวจจับไม่ได้สักที “ นั้นนะสิเราจะเอายังไงกับพวกมันดี ฉันก็ว่าแล้วว่าทำไมพวกปราบปรามถึงจับพวกมันไม่ได้สักทีแล้วอีกอย่างแม่งก็โคตรอยู่เป็นเลย ทั้งที่เป็นเอเย่นรายใหญ่แท้ๆแต่กับอยู่อย่าง ขี้ยา “ เอก ที่นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี่ เขาก็พูดคำหยาบออกมาทันที ด้วยความโกรธและก็โมโหเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นเพราะมีเรื่องไสยศาสต์มาเกี่ยวข้องด้วย และยิ่งไปกว่านั้นพวกมันเป็นโจรฆ่าข่มขื่นแล้วก็เอาเครื่องในของเหยื่อออกมาขา
กลับมาที่ปัจจุบัน “ หือออออ ไอ้พวกสารเลว ตกลงเจ๊ฉันจะช่วยเจ๊เอง “ หนูนาเมื่อได้รู้เรื่องราวของผีสาวตนนี้ เธอก็ถึงกับโมโหจนแทบบ้า ก่อนจะพูดรับปากกับผีสาวทันทีว่าเธอจะช่วย เมื่อฟังความเลวทรามต่ำช้าที่พวกเดนนรกทำกับผีสาวตนนี้ หนูนาและก็แก้วก็ถึงกับตัวชา หน้าชา ด้วยความโกรธแค้นแทนผีสาว และก็ผีทุกตัวที่พวกมันได้ฆ่าตาย “ อื้ม พวกเราจะช่วยพี่เองจ๊ะ ว่าแต่พี่ชื่ออะไรเหรอคะตอนเราทำบุญให้พี่เราจะได้เรียกพี่ถูกจ๊ะ “ แก้ว พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับเพื่อนที่บอกว่าจะช่วยผีสาว แล้วเธอก็ถามชื่อของผีตรงหน้าเอาไว้เพื่อที่จะได้ไปทำบุญให้เธอ ผีสาวเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็รีบบอกชื่อออกมาทันที เพราะตอนนี้เธอรู้สึกแล้วว่าอีหมอผีมันเรียกเธอให้กลับไปลงหมอตามเดิมแล้ว “ ฉันชื่อกระถินจ๊ะ / ฉะ ฉะ ฉะ ฉัน ฉัน ต้องไปแล้วนะจ๊ะ ช่วยฉันกับเพื่อนๆผีของฉันด้วยนะจ๊ะ “ แว๊บ ระหว่างที่ผีสาวบอกชื่อของเธอให้กับสองสาวได้รู้ ก่อนที่เสียงของเธอจะสั่นเครือด้วยเวทมนต์ที่หมอผีเขียวร่ายเรียกผีสาวให้กลับไปรายงานให้มันรู้ เมื่อผีสาวโดนเรียกแบบนั้นวิญญาณของเธอก็เป็นแสงวูบวาบ เสียงขาดๆหายๆอย่างกับคลื่นโทรศัพท์ ก่อนจะหายตัวไป “ พี่คะ พี่
“ แม่ เป็นยังไงบ้างผีที่แม่ส่งไป มันบอกว่ายังไงบ้าง “ เข้ม ถามคนเป็นแม่ออกมาด้วยความร้อนใจ เพราะตอนนี้เขาอยากเข้าไปจัดการสองสาวที่อยู่ในบ้านมากจนแทบทนไม่ไหวอยู่แล้ว “ นั้นสิป้า ได้เรื่องไหมพวกฉันอยากเข้าไปจัดการแล้วเนี่ย ไหนป้าบอกว่าอยากได้วิญญาณสองสาวนั้นมาเป็นทาสรับใช้ยังไงป้า เร็วเข้าอย่าปล่อยเอาไว้นาน เดี๋ยวพวกเธอจะรู้ตัว แล้วอีกอย่างพวกฉันก็มีงานใหญ่ที่จะต้องทำนะป้า ลูกค้าก็รอยาล๊อตใหญ่อยู่ เราจะช้าไม่ได้แล้วนะป้า “ ไอ้หิน ที่หื่นกามจนแทบทนไม่ไหวมันก็เอาเรื่อง การรับส่งยามาเป็นข้ออ้างเพื่อเร่งให้หมอผีเขียว รีบจัดการอะไรสักอย่างกับสองสาวที่อยู่ในบ้านเช่าของหมอผีเอง “ เอ้อ กูรู้แล้วมึงก็อย่าเพิ่งเร่งสิว่ะ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าตำรวจรู้เรื่องศพอีเด็กนั้นได้ยังไง แถมวิญญาณของมันกูก็ไม่เห็น อีก “ หมอผีเขียวบอกเพื่อนของลูกชายให้ใจเย็นด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งพร้อมกับหันมาหลี่ตามองเปลวเทียนด้วยสายตาที่สงสัยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้มันเป็นฝีมือของใครเมื่อตนเองได้จัดการสะกดวิญญาณ แล้วก็พร่างตาไม่ให้คนเห็นหรือว่ารู้ได้ว่าศพอยู่ที่ไหน แต่พอเรื่องที่ตำรวจมาค้นศพที่อยู่ในพื้นที่ของตนเธอ
“ เห้อ….เกือบไม่ทันแน่ะ // หนูนาเธอเป็นยังไงบ้าลงทะเบียนทันไหม “ แก้วเธอถามเพื่อนออกมาด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่ตำรวจสองคนเข้ามาสอบปากคำเธอกับหนูนาก็ทำให้ทั้งคู่มาลงทะเบียนเรียนวันแรกเกือบไม่ทัน หนูนาที่เดินออกมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายเธอไม่ตอบอะไรนอกจากผยักหน้าเท่านั้น แก้วเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนรักเป็นแบบนั้นเธอก็รีบเข้ามาจับแขนของเพื่อนก่อนจะถามออกมาด้วยความเป็นห่วง “ หนูนาเป็นอะไรรึเปล่าทำไมทำหน้าแบบนั้นละ มีเรื่องอะไรรึเปล่า “ แก้วเดินเข้ามาจับแขนของเพื่อนรักพร้อมกับถามหนูนาออกมาด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง หนูนาที่เพิ่งไปลงทะเบียนเรียนเป็นคนสุดท้ายเธอก็เลยโดนอาจารย์และก็รุ่นพี่ต่อว่ามาเธอก็เลยทำหน้าตาเซ็งและก็สลด แต่พอเห็นหน้าของแก้วดูกังวลแบบนั้นหนูนาก็รีบพูดออกมาทันที เพื่อไม่ให้แก้วเป็นห่วง “ เปล่าหรอกฉันแค่ไปลงทะเบียนเป็นคนสุดท้ายก็เลยโดนอาจารย์บ่นให้นิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเรา okแล้ว ป่ะไปกันเถอะเราหิวแล้ว “ หนูนา บอกกับแก้วว่าไม่ต้องเป็นห่วง ก่อนจะทำท่าเอามือลูบที่ท้องแล้วก็บอกกับแก้วไปว่าเธอหิว แก้วเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนที่ทำอย่างกับเด็กน้อยเธอก็ยิ้มส่ายหน้า ด้วยความเหน
“ สวัสดีคะ หนูชื่อหนูนาส่วนนี้เพื่อนหนูชื่อแก้วคะไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีเรื่องอะไรให้เราช่วยรึเปล่าคะ “ หนูนา เธอเชิญแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งที่ห้องรับแขก พร้อมกับแนะนำตัวกับแขกว่าตนกับเพื่อนชื่ออะไร สารวัตรดินแดนเมื่อได้ยินชื่อของสาวน้อยที่ชื่อแก้วเขาก็รู้สึกว่าเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้สายตาของเขาไม่สามารถละจากเธอได้เลย เมื่อแก้วเห็นสายตาของชายหนุ่มที่เอาแต่มองมาที่เธอสาวน้อยก็รู้สึกเขิลอายอย่างอธิบายไม่ถูกเพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกหัวใจสั่น เธอหัวใจสั่นไม่รู้ว่ากลัวหรือว่าใจสั่นเพราะชายตรงหน้าหล่อก็ไม่รู้ “ เอ้อ…ครับ ครับ สวัสดีครับ “ สารวัตรแดนดินเมื่อสองสาวแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็มารู้สึกตัวเมื่อถูกสายตาของหนูนาที่มองมายังเขาอย่างแปลกใจว่าทำไมเขาเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนของเธอ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกชอบใจ พอหมวดแดนเห็นแบบนั้นเขาก็รีบดึงสติกลับมาทันทีก่อนจะกล่าวสวัสดีตอบกลับด้วยท่าทางเสียอากรและก็พูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เมื่อทั้งหมดแนะนำตัวกันเสร็จตำรวจหล่อก็เริ่มสอบสัมภาษเด็กสาวทั้งสองคนทันที ด้านสารวัตรเอกสิทธิ์ “ นี้มันรอยอะไรว่ะ “ ระหว่างที่สารวัตรเอ