LOGIN"เย้!! ขอบคุณครับ" ธันวาร้องออกมาสุดเสียง เพราะความดีใจ จนบุษบาต้องเอามือขึ้นมาปิดหูเอาไว้ ในขณะที่ตุลาแอบยกยิ้มที่มุมปากด้วยความรู้สึกชอบใจ ที่น้องชายตัวแสบของเขาทำให้บุษบารู้สึกหงุดหงิดได้ ดูท่าทางของหล่อนคงอยากจะลงไปจากรถคันนี้เต็มที
"คราวหน้าคราวหลัง ถ้าน้องจะร้องเสียงดังก็บอกพี่ด้วยนะจ๊ะ จะได้เป็นหูไว้ทัน" บุษบาพยายามกัดฟันพูดออกมาเสียงหวานให้ดูน่าฟัง ในขณะที่ภายในใจของเธอนั้น คิดอยากจะหยิกธันวาให้เนื้อเขียวเลยทีเดียว แต่เมื่อหล่อนอยากได้พี่ชายของเขา ก็ควรจะอดทนเอาไว้ เมื่อไหร่ที่ได้เข้ามาเป็นสะใภ้ของบ้าน ค่อยจัดการเด็กอย่างธันวาทีหลังก็ยังไม่สาย นั่นคือความคิดของบุษบาที่เกิดขึ้นในเวลานี้
ภายในบ้านหลังโตอันโอ่อ่า ขณะที่ทุกคนกำลังลงมือรับประทานอาหาร ซันนี่ก็เข้ามาได้จังหวะพอดี ซึ่งดูเหมือนว่าอีธานจะไม่ค่อยพอใจ เมื่อนายชยาคอยใส่ไฟ พูดให้บิดาของตุลาเข้าใจเบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริง เพราะเขามักจะพูดในทำนองที่ว่า คาสโนว่าตัวพ่ออย่างซันนี่ชอบไม้ป่าเดียวกัน ทั้งที่ความเป็นจริงเขาเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ที่สำคัญเขานั้นยังมาดแมน ซุ่มกินเงียบฟาดเรียบไม่รู้ผู้หญิงกี่รายต่อกี่ราย
"ธันวาน่ารักจังเลยนะคะคุณป้า ตอนแรกไปรับน้องที่โรงเรียน บุษคิดว่าเขาเป็นลูกของคุณตุลาเสียอีกตกใจแทบแย่เลยค่ะ" บุษบาจีบปากจีบคำพูดขึ้นมา ในขณะที่กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นกับบิดามารดาของตุลาคม หลังจากที่รับประทานมื้อเย็นเสร็จแล้ว
"ป้าแก่ขนาดนั้นเลยเหรอจ๊ะหนูบุษ ทำไมถึงคิดว่าเป็นลูกของตุลาล่ะ" หญิงวัยกลางคนพูดจายิ้มแย้มออกมาด้วยวาจาที่นุ่มนวล แต่ภายใต้น้ำเสียงเหล่านั้นก็แฝงไปด้วยความประชดประชันเอาไว้เช่นกัน เมื่อฮันน่ารู้สึกไม่ถูกชะตากับว่าที่ลูกสะใภ้ ซึ่งสามีของเธอนั้นได้เป็นคนคัดสรรมา ดูเหมือนจะไม่เข้าตาฮันน่าเลยแม้แต่น้อย
"บุษไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคะคุณป้า คุณป้ายังสาวยังสวย ถ้าไม่บอกบุษก็ไม่เชื่อหรอกค่ะว่าคุณป้าจะมีอายุเลยเลขห้าไปแล้ว"
"หนูบุษก็ชอบพูดเอาใจคนแก่เหมือนกันนะเนี่ย ว่าแต่พ่อของหนูกลับมาจากดูงานที่อังกฤษหรือยัง" อีธานเอ่ยถามหญิงสาวขึ้นมา เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงของภรรยา ซึ่งดูเหมือนว่าฮันน่าพูดกับบุษบา เพียงเพราะว่าเธอทำตามมารยาทเจ้าของบ้านที่ดีเท่านั้นเอง
"อีกสองสามวันก็คงกลับค่ะ ถ้าคุณลุงอยากให้บุษช่วยงานอะไรที่บริษัท ก็เรียกใช้ได้เลยนะคะ บุษยินดีค่ะ" หล่อนพูดออกมาด้วยท่าทางและใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ก็แอบถอนหายใจออกมา เมื่อตุลาเอาแต่สนใจน้องชายของเขา ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังสอนการบ้านธันวา ส่วนซันนี่ก็นั่งไม่ห่าง บางครั้งทั้งคู่ก็แกล้งหยอกเย้ากันไปมา จนทำให้บิดาของตุลาคิดไปถึงคำพูดของนายชยา
"เฮ้ย! ตุลาเอามา"
"ขอดูหน่อยน่า...นะซันนี่"
"บอกว่าไม่ไง ฉันอุตส่าห์แอบถ่าย เดี๋ยวนายค่อยไปดูตัวจริง แล้วเราก็ไปชิมอาหารที่ร้านเธอด้วย" ซันนี่พูดพร้อมกับพยายามดึงมือถือของเขากลับ แต่ทว่าตุลาเองก็ไม่ยอม เพราะเขาอยากเห็นภาพถ่ายของผู้หญิงที่ชื่อองุ่น ชายหนุ่มอยากรู้ว่าหน้าตาของเธอนั้น จะเหมือนกับที่เขานึกเอาไว้ในใจหรือเปล่า
"ไอ้ตุลา เอามา..." ทั้งคู่ยังคงทำเหมือนกับเด็กที่กำลังแย่งของเล่นกันไปมา เมื่อตุลาเองก็ไม่ยอม เวลานี้เขาแทบจะทนไม่ไหว อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้ไวๆ ชายหนุ่มอยากจะขับรถตรงไปที่ร้านอาหารตามสั่งนั่นเต็มที เมื่อเขาอยากเห็นหน้าแม่ค้าที่ชื่อองุ่น จะใช่คนเดียวกันกับที่เขาเคยเขียนเช็คให้หรือเปล่า
"พวกพี่สองคนเล่นอะไรกัน รู้หรือเปล่าว่ามันรบกวนสมาธิธันวา" ธันวาทำหน้ามุ่ย พร้อมกับคำพูดที่ฟังดูเหมือนผู้ใหญ่ จนทำให้พี่ชายอดที่จะ ยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากไม่ได้
"เหลือไม่กี่ข้อเองไม่ใช่เหรอ รีบทำเลยไม่งั้นไม่ได้เล่นเกมนะ" ตุลาพูดออกไปเสียงเข้ม เพื่อข่มขู่น้องชาย ในขณะที่ซันนี่ดึงมือถือกลับไปได้สำเร็จ
"ถ้านายอยากเจอหน้าเธอก็ไปดูเองสิ ฉันบอกแล้วไงองุ่นขายอาหารตามสั่ง อยู่หน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์" ซันนี่กระซิบลงไปที่ข้างใบหูของตุลาการกระทำของเขา ยิ่งทำให้อีธานสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดและสนิทกันจนเกินควร
"ตุลาไม่ต้องบอกการบ้านธันวาแล้วลูก เดี๋ยวพ่อจะเป็นคนสอนน้องเอง ตุลาไปส่งหนูบุษเถอะ" เสียงทุ้มของบิดาดังขึ้น ทำให้ตุลาหันไปตามเสียง ซึ่งเขาไม่ได้รู้จักมักคุ้นหรือสนิทสนมบุษบาเลยแม้แต่น้อย จึงทำให้ชายหนุ่มไม่จำเป็นต้องไปนั่งดูแลเทคแคร์เธอ
"ตอนนี้ซันนี่กำลังจะกลับพอดี คุณบุษบากลับซันนี่ได้ใช่ไหมครับ พอดีว่าผมมีธุระสำคัญจะคุยกับพ่อ" ตุลาพูดออกไปตามความเป็นจริง เมื่อเขาต้องการคุยกับบิดาเรื่องที่นายชยาเสนอโครงการ ให้จัดสร้างคอนโดหน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์
"ก็ดีเหมือนกัน ตุลาจะไม่ได้เทียวไปเทียวมา ยังไงซันนี่ก็จะกลับแล้ว หนูบุษบาก็กลับพร้อมกันเลยสิจ๊ะ" ฮันน่ารีบพูดขึ้นก่อนที่อีธานจะบังคับให้ตุลาไปส่งบุษบาที่บ้าน
"ก็ได้ค่ะคุณป้า ถ้าอย่างนั้นบุษขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า" บุษบายกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความอ่อนน้อม แต่ทว่าฮันน่ากลับสัมผัสได้ในความพยายามฝืนใจ ที่หล่อนกำลังข่มมันเอาไว้ ไม่ให้เผยธาตุแท้ออกมา
"ตุลาไปส่งหนูบุษที่รถสิลูก" ดูเหมือนว่าผู้เป็นบิดา จะไม่ลดละความพยายาม เมื่อเขามีความต้องการ อยากให้ตุลาสานต่อความสัมพันธ์กับบุษบา
"ธันวาพี่กลับแล้วนะจ๊ะ เอาไว้วันหลังจะซื้อขนมมาฝาก" บุษบายังคงจีบปากจีบคอพูดจาออกมา เพื่อให้น้ำเสียงของเธอนั้นนุ่มนวลน่าฟัง โดยเฉพาะเวลาที่พูดกับธันวาดูผิดไปจากตอนเย็นมาก
"ขอบคุณนะครับ แต่ผมไม่ชอบกินขนม ธันวาโตแล้ว ที่สำคัญผมไม่ได้อยากได้อะไรที่เป็นของพี่ด้วย" ธันวาพูดพร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำการบ้านต่อ ไม่ได้สนใจที่จะยกมือขึ้นไหว้บุษบาแม้แต่น้อย
ตุลาจะรู้หรือเปล่าว่าคำพูดของเขา กำลังทำให้ใบหน้าขององุ่นร้อนผ่าว จังหวะการเต้นของหัวใจของเธอนั้นแรงขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น กำลังส่งผลให้หัวใจของเธอละลาย โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย เธอก็พอจะเดาได้ว่าเขาหมายถึงใคร "ฉันไม่สนใจหรอกนะเรื่องสถานะของคุณ คุณจะโสดจะมีเมียมีลูกกี่คนมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย ปล่อยฉันได้แล้วค่ะคุณตุลา" "คุณตกลงเป็นแฟนผมก่อนสิ ไม่อย่างนั้นเราก็ผมจะนอนกอดคุณไว้อย่างนี้ทั้งคืนเลย" "เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้เหรอ นี่มันคือการมัดมือชกชัด ๆ คุณจะใช้วิธีเผด็จการแบบนี้กับฉันไม่ได้หรอกนะ เพราะตรงนี้มันคือหัวใจไม่ใช่ธุรกิจของคุณ" องุ่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยืนกราน พร้อมกับชี้ลงไปที่อกข้างซ้าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม ทันใดนั้นเองเมื่อดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกัน ความนัยที่มีก็ถูกเปิดเผยขึ้นมาทันที ต่างคนต่างก็เฝ้ารอคอยที่จะพบกัน "แค่การตกลงปลงใจเป็นแฟนกับผม ทำให้คุณต้องฝืนใจขนาดนั้นเลยเหร
พอหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ทำให้องุ่นรู้สึกตื่นตาตื่นใจ กับไลฟ์สไตล์การตกแต่งห้องของชายหนุ่มที่ดูวินเทจ แต่ก็ผสมผสานความเป็นสมัยใหม่เข้าไปด้วย ทำให้ดูอบอุ่นผ่อนคลายมีกลิ่นอายของความคลาสสิค จึงทำให้ห้องของเขาน่าอยู่มากขึ้น "มีใครอยู่ไหมคะ ฉันเอาข้าวมาส่งค่ะ วางไว้ตรงนี้นะ ฉันกลับแล้วนะคะ" องุ่นพูดพร้อมกับวางปิ่นโตลงที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบใคร "ไม่อยู่ยังจะนัดให้เอาข้าวมาส่งอีก แกล้งฉันหรือเปล่าเนี่ย" องุ่นพูดพึมพำออกมาพร้อมกับทำหน้างอน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดน้อยใจด้วยซ้ำไป เขาจะอยู่ห้องหรือไม่อยู่มันก็ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย หน้าที่ของเธอคือการมาส่งข้าวให้เขาแล้วก็กลับทำไมต้องคิดหนักอยากเจอเขาด้วย หมับ!! "ว้าย!" องุ่นร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อข้อมือเรียวของเธอถูกชายหนุ่มดึงเข้าหา ในขณะที่ใบหน้าของ
องุ่นอ่านข้อความด้วยหัวใจที่เต้นแรง เมื่อประโยคสุดท้ายที่เขาระบุเอาไว้นั้น กำลังทำให้เธอหน้าแดง หญิงสาวไม่รู้ว่าตุลากำลังล้อเล่นกับความรู้สึกเธออยู่หรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ ข้อความเหล่านั้นกำลังทำให้หัวใจของเธอพองโต แม้จะยังไม่แน่ใจในความหมายของมัน แต่เธอคงไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงกับดอกเบี้ยที่ตุลาควรได้รับ"พี่องุ่น พี่ไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะ ป้าปรางให้มาเรียกมีออเดอร์เพียบเลยจ้ะ" เสียงของผักบุ้งดังขึ้นทำให้องุ่นรีบเก็บธนบัตรและกระดาษโน้ตไว้ในกระเป๋ากางเกงทันที "พี่แค่มาเข้าห้องน้ำเฉย ๆ จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า" วันนี้ทั้งวันจิตใจขององุ่นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางครั้งก็ทำออเดอร์ผิด ลูกค้าสั่งผัดกะเพราแต่ได้ผัดผักแทนก็มี ยิ่งไปกว่านั้นคือลูกค้าสั่งแกงจืดแต่ได้ต้มยำมาแทน "องุ่นตั้งแต่กลับมาจากส่งข้าวที่โรงงาน หนูเป็นอะไรทำไมใจลอยจัง" มารดาเดินเข้ามาหาลูกสาว หลังจากเวลาผ่านไป ซึ่งตอนนี้ร้านปิดร
"ฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นขายของกับคุณหรอกนะ มื้อนี้ถือว่าฉันเลี้ยงคุณก็แล้วกัน" "เดี๋ยว!" เมื่อองุ่นไม่ฟังคำสั่งของตุลา จึงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถบังคับเธอได้ ชายหนุ่มจึงเผลอตะคอกมาเสียงดัง จนทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดประตูก้าวออกไปจากห้อง "อะไรอีก... เวลาของฉันเป็นเงินเป็นทองนะคุณ ไม่อยากได้เงินคืนหรือไง จะรีบไปหาเงินมาใช้หนี้ มีอะไรก็รีบพูดมา" ในที่สุดองุ่นก็ยอมหันกลับมาพูดกับเขา แต่ทว่าความเป็นจริงแล้ว ภายใต้ข้ออ้างที่เธอใช้คำว่าลูกหนี้ เนื่องจากเธออยากออกไปให้พ้นจากห้องนี้ เพราะว่าหญิงสาวยังรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย ไม่รู้ว่าทำไมเวลาอยู่ใกล้เขาแล้วหัวใจของเธอยิ่งเต้นแรง ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต "ก็แล้วทำไม คุณหายใจเข้าหายใจออกต้องมีแต่เงินด้วยล่ะ ผมยังไม่ได้ถามหนี้คุณเลยนะ" "คุณไม่ถามแต่ฉันร้อนตัว ในเมื่อฉันเป็นหนี้คุณจริงๆ มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก๊กไว้นี่ จริงไหม" "แล้วถ้าดอกเบี้ย ผมขอคิดเป็นอย่างอื่นคุณจะว่ายังไง" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับฉาย
ตุลาจอดรถอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงก็ไม่รู้สึกเบื่อ ก่อนจะเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้ใกล้เวลาแปดโมงเช้าแล้ว เขาจึงตัดสินใจขับรถเข้าไปภายในโรงงาน เพื่อเตรียมตัวทำตามแผนที่วางเอาไว้ พอชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขานั่งใช้ความคิดอยู่สักพัก จึงตัดสินใจ ยกโทรศัพท์โทรออกหาเลขาสาวในทันที เพื่อทำตามแผนการที่วางเอาไว้ทั้งคืน "ได้ค่ะคุณตุลา รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวน้ำตาลจะจัดการให้ค่ะ" "อย่าลืมนะครับ คนที่จะมาส่งอาหารต้องเป็นผู้หญิงที่ชื่อองุ่นเท่านั้น" น้ำเสียงเข้มของตุลาทำให้เลขาสาวรู้สึกแปลกใจ ทำไมเขาจะต้องเจาะจงคนมาส่งอาหารด้วย แต่เธอก็ไม่กล้าถามเจ้านายหนุ่มออกไป ชายหนุ่มนั่งไม่ติด เมื่อเขากำลังนึกถึงใบหน้าขององุ่นตลอดเวลา ซึ่งตุลาไม่รู้ว่าเงื่อนไขของเขาจะสามารถทำให้หญิงสาวยอมทำตามได้หรือเปล่า แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะนี่มันคือทางเดียวที่จะทำให้เธอเดินเข้ามาหาเขาได้ โดยที่เธอนั้นไม่สามารถโต้แย้งใด ๆ
"สวัสดีครับแม่ ธันวาขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับร้อน ถ้าพี่ตุลาชอบดื่มน้ำส้มก็ดื่มแก้วนั้นไปด้วยสิ" ธันวาพูดจบก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้มารดากับพี่ชายมองหน้ากันและส่ายศีรษะไปมาให้กับความเอ็นดูเหตุตัวธันวา "พ่อยังไม่กลับเหรอครับแม่" ตุลาพูดพร้อมกับหยิบน้ำส้มอีกแก้วขึ้นมาดื่ม "ยังเลยเห็นบอกว่าจะกลับดึก" ผู้เป็นมารดาพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล เมื่อนึกถึงคำพูดของอีธานที่เขากำลังจะพยายามจับคู่ให้กับลูกชาย "แม่ครับเรื่องโครงการสร้างคอนโดหน้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แม่ช่วยพูดให้พ่อยุติโครงการนี้ได้ไหมครับ" น้ำเสียงของตุลาดูมีความกังวลมาก เมื่อชายหนุ่มนึกถึงผลกระทบของทุกคนในชุมชน โดยเฉพาะองุ่นที่เขาเพิ่งจะเจอเธอ ถ้าหากต้องจากกันอีกครั้ง เขาก็ไม่รู้ว่าอีกนานไหมถึงจะสามารถ ตามหาเธอเจออีกครั้ง "เรื่อง







