Share

บทที่ 5

last update Huling Na-update: 2025-03-21 23:08:14

กลิ่นบุหรี่จางๆ ลอยคละคลุ้งอยู่ในห้องทำงานของนาวิน บรรยากาศในห้องนี้หนักอึ้งและมืดมิดราวกับซ่อนความลับที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง โต๊ะทำงานไม้โอ๊กสีเข้มตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ล้อมรอบด้วยตู้หนังสือสูงจรดเพดานที่เต็มไปด้วยหนังสือปกแข็งเก่าๆ ซึ่งบางเล่มดูเหมือนไม่เคยถูกเปิดมาก่อน

แสงจากโคมไฟตั้งโต๊ะสีทองแดงส่องลงมาบนใบหน้าของนาวิน ทำให้รอยแผลเป็นที่มุมคิ้วซ้ายของเขาดูเด่นชัดยิ่งขึ้น เขานั่งอยู่หลังโต๊ะ บุหรี่มวนหนึ่งคีบอยู่ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง ควันสีขาวลอยวนขึ้นไปในอากาศก่อนจะจางหายไปในความมืดของห้อง

ธนิดายืนอยู่หน้าตู้หนังสือฝั่งตรงข้าม เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเก่าที่มณีเคยนำมาให้ และกางเกงยีนส์ที่ดูโทรมเล็กน้อยจากเหตุการณ์เมื่อสองคืนก่อน ดวงตาคู่คมของเธอมองไปที่นาวินด้วยความรู้สึกที่ปะปนกัน มันเต็มไปด้วยความระแวง ความโกรธ และความอยากรู้

เธอถูกเรียกตัวมาที่นี่หลังจากที่เธอตกลงจะช่วยเขาสอดแนมคนในคฤหาสน์เมื่อคืนนี้ และตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่บนเส้นบางๆ ระหว่างการเป็นพันธมิตรหรือเหยื่อของเขา

“เธอเจออะไรมาบ้าง” นาวินถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เขาเป่าควันบุหรี่ออกจากปากก่อนจะวางมันลงบนที่เขี่ยบุหรี่สีเงินที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ

ธนิดาหายใจเข้าลึกๆ เพื่อรวบรวมสติ เธอรู้ว่านี่คือโอกาสที่เธอจะต้องพูดความจริงบางส่วน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ยังไม่แน่ใจว่าเธอควรเปิดเผยทุกอย่างที่ภูมิพูดกับเธอหรือไม่ เธอตัดสินใจเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง

“ฉันรู้สึกเหมือนกันว่าป้ามณีมีท่าทีแปลกๆ” เธอเริ่มพูด “เมื่อวานตอนที่เธอเอาอาหารมาให้ ฉันเห็นเธอหลบตา และมือของเธอสั่นเล็กน้อยเหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง พอเธอหันหลัง ฉันได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังจากกระเป๋าเสื้อของเธอ เธอรีบปิดมันทันทีเหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอกำลังติดต่อกับใคร”

นาวินนั่งนิ่ง สายตาของเขาจ้องมาที่เธออย่างพิจารณา เขาดูเหมือนกำลังชั่งน้ำหนักคำพูดของเธออยู่ว่าจะเชื่อหรือไม่ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้าเบาๆ

“ฉันสงสัยมณีมานานแล้ว” เขาพูด “เธอทำงานที่นี่มากว่าสิบปี ฉันเคยไว้ใจเธอ แต่ตั้งแต่สองสามเดือนก่อน เธอเริ่มมีท่าทีแปลกๆ”

“แปลกยังไงคะ” ธนิดาถามต่อ เธอขยับตัวเข้าใกล้โต๊ะเล็กน้อยเพื่อฟังคำตอบของเขาให้ชัดขึ้น

“เธอหายตัวไปจากคฤหาสน์บ่อยครั้ง โดยเฉพาะตอนกลางคืน” นาวินตอบ “ฉันเคยส่งคนตามเธอ แต่เธอฉลาดเกินกว่าจะทิ้งหลักฐานไว้ และเมื่อวานตอนที่เสือดาวบุกมา เธออยู่ใกล้โถงทางเข้า แต่กลับไม่มีรอยขีดข่วนสักนิด”

ธนิดารู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ไหลผ่านร่างของเธอ คำพูดของนาวินสอดคล้องกับสิ่งที่ภูมิเตือนเธอในสวนเมื่อวานนี้ เธอเริ่มแน่ใจแล้วว่ามณีต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ แต่คำถามที่ยังค้างอยู่ในใจของเธอคือ ถ้ามณีเป็นสายลับของเสือดาวจริง ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่นานขนาดนี้โดยไม่มีใครจับได้

“คุณมีหลักฐานอะไรบ้าง” เธอถาม “ถ้าคุณสงสัยเธอมานาน ทำไมไม่จัดการเธอไปเลยล่ะ”

นาวินยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม “เพราะฉันต้องการจับตัวการที่แท้จริง ไม่ใช่แค่หมากตัวเล็กๆ อย่างมณี ถ้าเธอเป็นสายลับจริง คนที่สั่งเธอต้องเป็นคนใหญ่กว่านี้ และฉันจะไม่ลงมือจนกว่าฉันจะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง”

ธนิดาพยักหน้ารับ เธอเข้าใจตรรกะของเขา แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกถึงความอันตรายที่เพิ่มขึ้น ถ้ามณีเป็นสายลับจริง และถ้าเธอถูกจับได้ว่ากำลังสอดแนม เธออาจตกอยู่ในอันตรายมากกว่าที่เธอคิด

นาวินลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปที่ตู้เล็กๆ ข้างตู้หนังสือ เขาเปิดลิ้นชักและหยิบปืนพกสีดำขนาดกะทัดรัดออกมา ก่อนจะเดินกลับมาที่เธอและยื่นมันให้เธอ

“อะไร ให้ฉันทำไม” ธนิดาถามด้วยความสงสัย เธอมองปืนในมือของเขาด้วยสายตาที่ระแวง

“เก็บไว้ป้องกันตัว” เขาตอบสั้นๆ “ถ้าเธอจะช่วยฉันสอดแนม เธอต้องมีอะไรติดตัวไว้บ้าง”

ธนิดาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้ว่าการรับปืนจากเขาคือการยอมรับบทบาทที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในโลกนี้ โลกที่เธอไม่เคยอยากเข้ามา แต่เมื่อเธอนึกถึงร่างของลุงสมชายที่นอนจมกองเลือด และการต่อสู้เมื่อคืนที่เธอเกือบตาย เธอก็รู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น เธอยื่นมือออกไปรับปืนนั้นและจับมันแน่น มันเย็นและหนักในมือของเธอ แต่ก็ให้ความรู้สึกปลอดภัยในแบบที่แปลกประหลาด

“ในโลกนี้ไม่มีใครไว้ใจได้” นาวินพูดต่อ น้ำเสียงของเขาต่ำลงจนแทบเป็นกระซิบ “แม้แต่ฉัน...”

คำพูดของเขาทำให้ธนิดาชะงัก เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขาและพยายามหาความหมายที่ซ่อนอยู่ แต่สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงความมืดมิดที่ลึกเกินหยั่งถึง เธอพยักหน้าเบาๆ และเก็บปืนไว้ที่เอวของเธอ โดยซ่อนมันไว้ใต้เสื้อเชิ้ตนั้น

“ฉันจะจำไว้” เธอตอบ “แต่ถ้าฉันช่วยคุณ คุณต้องสัญญาว่าจะลดหนี้ของพ่อฉันจริงๆ”

นาวินยิ้มเล็กน้อย “ถ้าเธอทำได้ดี ฉันจะพิจารณา”

เขาหันหลังและเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ โดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ธนิดารู้ว่านี่คือสัญญาณให้เธอออกไป เธอเดินออกจากห้องทำงานด้วยหัวใจที่เต้นแรง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งก้าวเข้าไปในเกมที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม เกมแห่งความไว้ใจที่ไม่มีใครรู้ว่าใครคือมิตรหรือศัตรู

คืนนั้น ธนิดานอนไม่หลับ เธอนั่งอยู่บนเตียงในห้องพักของเธอ มือของเธอจับปืนที่ซ่อนอยู่ใต้หมอนแน่น ความเงียบในคฤหาสน์ทำให้เธอรู้สึกกดดันผิดปกติ เธอพยายามทบทวนทุกอย่างที่เกิดขึ้น คำพูดของภูมิเกี่ยวกับมณี คำเตือนของนาวิน และท่าทีแปลกๆ ของมณีที่เธอเห็นเมื่อวาน เธอตัดสินใจว่าเธอจะต้องหาทางเข้าใกล้มณีให้มากขึ้นเพื่อหาความจริง

ปัง!

ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสียงปืนดังขึ้นจากชั้นล่างของคฤหาสน์ ทำให้เธอสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงฝีเท้าที่วิ่งกันวุ่นวาย เธอรีบคว้าปืนจากใต้หมอนและลุกขึ้นยืนทันที หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับจะหลุดออกจากอก

“เกิดอะไรขึ้น?!” เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะวิ่งไปที่ประตู เธอพยายามบิดลูกบิด แต่ประตูถูกล็อกจากด้านนอกเหมือนทุกคืน เธอทุบประตูสองสามครั้งและตะโกนออกไป “มีใครอยู่ข้างนอกไหม!! ปลดล็อกเดี๋ยวนี้!”

แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเฉพาะเสียงปืนที่ดังขึ้นอีกสองนัด...

ปัง! ปัง!

เสียงร้องโอดครวญที่ดังแว่วมาจากโถงชั้นล่าง เธอรู้สึกถึงความกลัวที่พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันผสมกับความโกรธ เธอไม่ยอมถูกขังไว้ที่นี่โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ธนิดามองไปรอบๆ ห้องและเห็นเก้าอี้ไม้ตัวเล็กที่วางอยู่ใกล้โต๊ะ เธอหยิบมันขึ้นมาและทุบไปที่ลูกบิดประตูด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมี

ปัง! ปัง! ปัง!

หลังจากทุบไปสามครั้ง ลูกบิดก็หลุดออก และประตูเปิดแง้มออกเล็กน้อย เธอผลักมันออกและวิ่งออกไปจากห้องทันที

เมื่อเธอมาถึงโถงชั้นล่าง สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอหยุดชะงัก ร่างของลูกน้องนาวินสองคนนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นหินอ่อน หนึ่งในนั้นมีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอก อีกคนถูกยิงที่ศีรษะ เลือดไหลนองออกมาจนพื้นเปื้อนเป็นสีแดงเข้ม กลิ่นคาวเลือดผสมกับกลิ่นควันปืนลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เธอรู้สึกคลื่นไส้พุ่งขึ้นมา แต่เธอกัดฟันแน่นเพื่อกลั้นมันไว้

“นาวิน!” เธอตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ เธอเดินไปที่โถงทางเข้าหลัก ซึ่งยังคงมีร่องรอยความเสียหายจากการบุกเมื่อสองคืนก่อน ประตูหน้าถูกเปิดทิ้งไว้ และลมเย็นจากด้านนอกพัดเข้ามาพร้อมกับละอองฝนบางๆ

ขณะที่เธอกำลังสำรวจอยู่นั้น เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เธอหันกลับไปและเห็นนาวินเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาถือปืนพกในมือ และเลือดเปื้อนอยู่ที่แขนเสื้อของเขา แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เลือดของเขาเอง

“เกิดอะไรขึ้น” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

“มีคนบุกเข้ามา” เขาตอบสั้นๆ “ฆ่าลูกน้องฉันสองคนแล้วหนีไป”

“ใคร...” เธอถามต่อ

นาวินมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา “ฉันยังไม่รู้ แต่มีคนที่ฉันสงสัย...” เขาหยุดพูดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “...มณีหายตัวไป”

ธนิดารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้น คำพูดของภูมิและคำเตือนของนาวินเกี่ยวกับมณีผุดขึ้นมาในหัวของเธอทันที

“คุณคิดว่าเธอเป็นคนทำเหรอ” เธอถาม

“อาจจะ” นาวินตอบ “หรือเธออาจเป็นคนเปิดทางให้ศัตรูเข้ามา ไม่ว่าจะยังไง เธอก็หายตัวไปแล้ว และฉันจะตามหาเธอให้เจอ”

เขาหันไปสั่งลูกน้องที่เริ่มวิ่งเข้ามาในโถง “ตามหามณีเดี๋ยวนี้! ถ้าเจอ อย่าปล่อยให้รอด!” จากนั้นเขาหันกลับมามองธนิดา “ส่วนเธอ กลับไปที่ห้อง และระวังตัวให้ดี”

ธนิดาพยักหน้ารับ แต่ในใจของเธอเต็มไปด้วยคำถาม มณีหายไปจริงหรือ หรือเธอถูกฆ่าตายและซ่อนร่างไว้ที่ไหนสักแห่งกันแน่ แล้วถ้ามณีเป็นสายลับของเสือดาวจริง ทำไมเธอถึงเลือกหนีไปตอนนี้ ทำไมไม่รอจังหวะที่ดีกว่านี้อีกสักหน่อย

เมื่อเธอกลับมาที่ห้องพักของตัวเองในคืนนั้น เธอนั่งลงบนเตียงและจับปืนที่เขาให้มาแน่น เธอรู้สึกถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในทุกอณูของร่างกาย และคำพูดของนาวินที่ว่า ‘ในโลกนี้ไม่มีใครไว้ใจได้ แม้แต่ฉัน’ ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเธอ เธอเริ่มรู้สึกว่าเกมแห่งความไว้ใจนี้กำลังจะกลายเป็นฝันร้ายที่ไม่มีวันจบ และเธออาจต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้ายยิ่งกว่านี้ในไม่ช้า

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 6 คืนฝนหลั่ง (NC)

    ฟ้าร้องกึกก้องจนผนังสั่นสะเทือน เม็ดฝนกระหน่ำราวกับพายุร้ายกำลังโหมกระหน่ำใส่โลกใบนี้ไม่หยุดในห้องใต้ดินขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่หลังคฤหาสน์ ธนิดากับนาวินนั่งอยู่ด้วยกันบนฟูกผืนเก่า มีเพียงแสงเทียนริบหรี่เป็นเพื่อน ความเงียบชวนอึดอัดกำลังคืบคลานขึ้นระหว่างทั้งสองคน“ข้างบนระเบิดเสียหายหนัก” นาวินพูดเรียบ ๆธนิดาพยักหน้า ดวงตาไม่กล้าสบกับเขา “เราจะติดอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?”“จนกว่าคนของฉันจะกวาดล้างพวกมันหมด... หรืออาจจะต้องรอจนกว่าฝนจะหยุด”เธอกอดเข่าตัวเองแน่น ลมหายใจเบาเหมือนกลัวว่าเสียงจะไปกระทบใจใครผ่านไปเกือบสิบนาที นาวินจึงลุกไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ที่วางอยู่มุมห้อง และโยนมันคลุมตัวเธอ“เข้ามานี่” เขาเอ่ยนิ่ง ๆ พลางตบฟูกข้างตัวเธอลังเล “ฉัน... ไม่หนาว”“อย่าดื้อ”เมื่อเธอขยับตัวเข้าไปใกล้ ใต้ผ้าห่มเดียวกัน ความอบอุ่นของร่างกายเริ่มแผ่ซ่านออกมา แต่มันไม่ใช่แค่เพียงไออุ่นจากผิวหนัง หากแต่เป็นความร้อนที่ซ่อนอยู่ในใจทั้งคู่ฝนยังคงตกแต่เสียงฝนเริ่มจางลงในใจของทั้งสอง เมื่อดวงตาคู่นั้นเริ่มสบกันโดยไม่มีคำพูดใด ๆ“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงพาเธอมาที่นี่?” เขาถามเบา ๆ“เพราะฉันเสี่ยงตายเพื่อคุณงั้

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 5 บทลงโทษของหัวใจ

    เสียงปิดประตูดังปัง พร้อมแรงดึงที่กระชากไหล่เล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้าร่างสูงที่เต็มไปด้วยความคุกรุ่น“คิดจะหนีฉันเหรอ!” น้ำเสียงของนาวินต่ำลึกและเต็มไปด้วยแรงกดดัน เขาแทบไม่ต้องข่มอารมณ์ให้มากกว่านี้ เพราะตอนนี้ทุกหยดเลือดในกายกำลังเดือดพล่านธนิดาถอยกรูดหลังชิดผนัง ใบหน้าซีดเผือดทั้งที่ดวงตายังเปล่งแสงกร้าว “ฉันไม่ได้หนี ฉันแค่... เลือกจะไม่อยู่ในที่ที่อันตรายอีกต่อไป!”“อันตรายเหรอ?” เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกหนึ่งก้าว ดวงตาคู่คมไล่มองเรือนร่างเธออย่างไม่ปิดบังเจตนา “หรือว่าเธอกลัวหัวใจตัวเอง?”“อย่ามาเล่นคำกับฉันนะ...”นาวินไม่ให้เธอพูดจบ มือหนาตรึงข้อมือเล็กทั้งสองไว้เหนือศีรษะ เขากระแทกเธอกับผนังอย่างไม่อ่อนโยน แล้วกระซิบชิดใบหู“ถ้ากล้าจะ ‘ไป’ โดยไม่บอก ฉันก็จะ ‘ลงโทษ’ เธอให้หลาบจำไปจนถึงเช้า”เขาไม่ปล่อยเวลาให้เธอตั้งตัว ริมฝีปากหยาบกร้านกดลงบนลำคอขาวเนียน ก่อนจะลากต่ำลงเรื่อย ๆ ผ่านกระดูกไหปลาร้า ราวกับกำลังลงอาคมแห่งความเป็นเจ้าของธนิดาเผลอครางเสียงสั่นเมื่อริมฝีปากของเขาแตะจุดไวสัมผัสตรงเหนือเนินอก นิ้วมือของเขาคลายกระดุมเสื้อเธอทีละเม็ดช้า ๆ ทว่าร้อนแรง“นาวิน...หยุด...” เธอคราง

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 4 คืนแรกครั้งนั้น ยังจำได้ดี (NC)

    เสียงฝนที่เคยตกหนักทั้งคืนเริ่มซาลง เหลือเพียงละอองฝนบางเบาที่เกาะอยู่บนใบไม้และกลิ่นดินเปียกที่ยังลอยวนอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศธนิดานั่งนิ่งอยู่ข้างหน้าต่าง ห้องพักของเธอเงียบสนิทจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง เธอเพิ่งกลับจากการสอบปากคำของนาวินที่ห้องทำงานของเขา ชายหน้านิ่งเย็นชาที่ตอนนี้เริ่มเผยความรู้สึกซ่อนเร้นบางอย่างออกมาทีละน้อยก๊อก ๆ ๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่มันจะเปิดออกอย่างช้า ๆ โดยไม่มีใครพูดอะไร“คุณยังไม่นอนอีกเหรอ” เสียงทุ้มต่ำของนาวินดังขึ้นธนิดาหันกลับไปมอง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบาง ปลดกระดุมบนออกสองเม็ด ผมเปียกชื้นเล็กน้อยจากการเดินฝ่าฝนมาจากห้องด้านหลังคฤหาสน์เธอไม่ตอบ… แต่ก็ไม่ปฏิเสธการมาของเขาเช่นกันเขาเดินเข้ามาใกล้ จนกลิ่นโคโลญจ์อ่อน ๆ กับกลิ่นฝนผสมกันลอยคลุ้งในอากาศระหว่างคนทั้งสอง“คุณมาทำไม” เธอถามเสียงแผ่ว“เพราะคืนนี้ฉันไม่อยากนอนคนเดียว” เขาตอบด้วยสายตาจริงจังอย่างน่าประหลาด “และฉันก็แน่ใจว่าเธอก็ไม่อยาก…”เธอหันหน้าหนี แต่หัวใจกลับเต้นแรงไม่หยุด“อย่ามาทำเหมือนรู้จักฉันดี”“แต่ฉันอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้…”ไม่ทันให้เธอได้ตั้งคำถาม ร่างสูงของน

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 3 รุ่งอรุณหัวใจ (NC)

    แสงอาทิตย์ยามเช้าตรู่ส่องลอดผ้าม่านบาง ๆ เข้ามาในห้องนอน กลิ่นไอฝนจากค่ำคืนยังคงหลงเหลือในอากาศ แสงแดดอ่อน ๆ ทำให้ทุกอย่างดูนุ่มนวลและอบอุ่น ร่างสูงของนาวินขยับตัวเบา ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆเขาหันไปมองคนข้างกายที่ยังคงหลับตาพริ้ม ใบหน้าของธนิดาดูสงบอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ผมยาวสยายอยู่บนหมอน ผิวขาวเนียนชวนสัมผัส และริมฝีปากบางที่ขยับเพียงเล็กน้อยราวกับกำลังฝันดีนาวินยกมือขึ้นแตะแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วไล้ผ่านโครงหน้าละมุนละไมของเธอด้วยความทะนุถนอม“สวยเหลือเกิน...” เขาพึมพำเบา ๆ ราวกับกลัวว่าจะปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจธนิดาขยับเล็กน้อย เปลือกตาค่อย ๆ เปิดขึ้นช้า ๆ ก่อนที่สายตาของเธอจะสบกับเขา รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปากทันทีที่เห็นเขาอยู่ข้างกาย“ตื่นนานแล้วเหรอคะ”“พึ่งตื่น... แต่ฉันรู้สึกเหมือนได้มองเธอมาตลอดทั้งคืนเลย”เธอหลับตาอย่างเขินอาย ก่อนจะยิ้มหวานให้เขา นาวินขยับเข้าไปใกล้ โอบร่างบางของเธอไว้ในอ้อมกอด ลมหายใจอันอบอุ่นของเขาลูบไล้ผ่านลำคอเธอ“เมื่อคืนฝันดีไหมครับ”“ค่ะ ฉันฝันว่าเราอยู่ด้วยกันตลอดไป...”เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา“แล้วถ้า

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 2 ค่ำคืนฝนแห่งรัก (NC)

    เสียงฝนกระหน่ำลงมาไม่หยุดตั้งแต่หัวค่ำ ฟ้าร้องครืน ๆ ดังลั่นท้องฟ้า บรรยากาศรอบบ้านพักของธนิดาที่นาวินกลับมาซ่อมแซมให้จนสามารถกลับมาอยู่อาศัยได้อีกครั้งท่ามกลางป่าเขาเต็มไปด้วยไอหมอกเย็นจัด ไฟดับทั่วบริเวณ มีเพียงแสงจากเทียนไขเล่มเล็กที่นาวินจุดไว้กลางโต๊ะไม้หน้าระเบียงบ้าน สะท้อนเงาไหวระริกบนผนังไม้เก่า ๆธนิดานั่งกอดเข่ามองฝนอย่างเงียบ ๆ ผมยาวสยายเล็กน้อยจากแรงลมที่พัดผ่าน ระเบียงไม้เก่าเปียกชื้นเล็กน้อยจากละอองฝนที่สาดเข้ามา เธอห่มผ้าคลุมไหล่ไว้แน่น ขณะที่สายตาก็ยังจับจ้องไปยังม่านฝนผ่านบานหน้าต่างตรงหน้านาวินเดินออกมาพร้อมผ้าห่มผืนใหญ่ในมือ ก่อนจะค่อย ๆ คลี่มันคลุมตัวเธอเพิ่มอีกชั้น มือหนาสัมผัสไหล่เธอเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงข้างกัน“กลัวฟ้าร้องเหรอ” เขาถามเสียงเบาเธอส่ายหน้าเบา ๆ“เปล่าค่ะ... แค่รู้สึกเหงานิดหน่อย” ธนิดาตอบตามตรง เพราะฝนที่กำลังตกมันทำให้เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆเสียงฝนยังคงตกหนัก เสียงฟ้าร้องสลับมาเป็นระยะ บรรยากาศรอบตัวเหมือนถูกโอบล้อมด้วยความเงียบงันและความเปียกชื้น แต่ภายในบ้านกลับอบอุ่นอย่างประหลาด ถึงแม้ว่าจะมีเพียงพวกเขาอยู่ด้วยกันแค่สองคนก็ตาม“ตอนเด็ก ๆ เวลาฝนต

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 1 แสงจันทร์แห่งคำสัญญา (NC)

    สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านอย่างอ่อนโยน แสงจันทร์สีเงินทอดตัวลงมาบนผิวทะเลที่ระยิบระยับเป็นประกาย เงาของสองร่างสะท้อนอยู่บนผืนทรายขาวสะอาด ท่ามกลางเสียงคลื่นซัดฝั่ง ธนิดายืนมองทะเลด้วยแววตาที่สงบ ในอ้อมแขนของชายผู้เป็นทั้งรักและความเจ็บปวดของเธอนาวินโอบเธอไว้จากด้านหลัง มือหนากระชับรอบเอวบางแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปอีก“เธอรู้ไหม... ฉันกลัวที่สุด ว่าจะไม่มีโอกาสได้บอกรักเธออีก” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู น้ำเสียงนั้นมีทั้งความโหยหาและอ่อนแอปนกันอยู่ธนิดาหันมา เงยหน้ามองเขาในระยะใกล้ ใกล้เสียจนเธอมองเห็นความสั่นไหวในดวงตาคมเข้มคู่นั้นเธอเอื้อมมือขึ้น ลูบแก้มเขาเบา ๆ“ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว และจะไม่ไปไหนอีก... ไม่ว่าชีวิตคุณจะเต็มไปด้วยความอันตรายแค่ไหน ฉันก็จะอยู่ข้างคุณเสมอ คุณนาวิน”คำพูดนั้นราวกับปลดล็อกบางอย่างในหัวใจของเขา ชายหนุ่มโน้มลงจูบเธออย่างแผ่วเบาในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นาน จูบนั้นก็เริ่มลึกซึ้งขึ้น มันเต็มไปด้วยความเร่าร้อน เย้ายวน และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เก็บกดมานาน มันเป็นความโหยหาที่เขาตามหามาโดยตลอดมือหนาของเขาเลื่อนจากเอวบางลงมายังก้นเนียนนุ่มของอีกฝ่าย ก่อนที่จะออกแรงบ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status