Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-03-21 23:07:51

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากการบุกโจมตีของแก๊งเสือดาว ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนเริ่มซาลง เหลือเพียงละอองฝนบางๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ธนิดายืนอยู่ที่หน้าต่างห้องพักของเธอ มองออกไปยังสวนหลังคฤหาสน์ที่ปรากฏให้เห็นผ่านม่านกำมะหยี่สีดำที่เธอแง้มออกเล็กน้อย สวนนั้นกว้างขวางและเงียบสงบ มีน้ำพุหินอ่อนตั้งอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจีที่ใบยังเปียกชื้นจากฝนเมื่อคืน ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้ ทำให้กลิ่นดินเปียกและใบไม้ลอยเข้ามาคลอเคลียที่ปลายจมูกของเธอ

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามให้อากาศเย็นๆ ช่วยขจัดความรู้สึกอึดอัดที่ยังคงกดทับอยู่ในอกตั้งแต่เมื่อคืน ภาพของการต่อสู้ในโถงทางเข้าหลักยังคงติดตาเธออยู่ เสียงปืนที่ดังสนั่น กลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้ง และใบหน้าของนาวินที่เปลี่ยนไปเมื่อเธอยิงช่วยเขา เธอยังจำน้ำเสียงของเขาได้ดีเมื่อเขาพูดว่า น่าสนใจ คำพูดนั้นวนเวียนอยู่ในหัวของเธอราวกับปริศนาที่เธอยังหาคำตอบไม่ได้

ธนิดาตัดสินใจว่าเธอทนอยู่ในห้องที่ถูกล็อกนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอต้องการอากาศบริสุทธิ์ ต้องการหลุดพ้นจากความรู้สึกเหมือนเป็นนักโทษนี้ แม้ว่าจะเป็นแค่ชั่วครู่ก็ตาม เธอเดินไปที่ประตูและเคาะมันเบาๆ ไม่นานนัก เสียงกุญแจดังกริ๊กจากด้านนอก และประตูก็ถูกเปิดออกโดยลูกน้องของนาวินคนหนึ่ง เขามองเธอด้วยสายตาที่ระแวง แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ฉันอยากออกไปเดินเล่นข้างนอกสักหน่อย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “แค่ในสวนหลังบ้าน ไม่หนีไปไหนแน่”

ลูกน้องคนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าและพาเธอเดินลงบันไดไปยังชั้นล่าง เขาเดินตามหลังเธอห่างๆ พร้อมปืนกลสั้นที่แนบชิดกับลำตัว แต่ธนิดาไม่สนใจ เธอแค่ต้องการหายใจให้เต็มปอดสักครั้ง

เมื่อเธอเดินออกมาถึงสวนหลังคฤหาสน์ อากาศเย็นชื้นสัมผัสผิวของเธอทันที เสียงน้ำพุที่ไหลลงสู่แอ่งหินดังเบาๆ ผสมกับเสียงลมที่พัดผ่านใบไม้ ทำให้เธอรู้สึกสงบลงบ้าง เธอเดินไปนั่งที่ม้านั่งหินใกล้น้ำพุ และมองไปยังคฤหาสน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง กำแพงสูงและกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ทุกมุมทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในกรงขนาดยักษ์

ขณะที่เธอกำลังนั่งนิ่งอยู่นั้น เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เธอหันไปมองและเห็นร่างของภูมิชายร่างสูงผอมที่แนะนำตัวว่าเป็นคนสนิทของนาวินเมื่อวานนี้ เขาเดินเข้ามาใกล้ สวมเสื้อสูทสีดำเหมือนเดิม ผมสีน้ำตาลเข้มถูกหวีเรียบไปด้านหลัง และดวงตาคู่เล็กของเขามองมาที่เธอด้วยท่าทีที่เย็นชาแต่แฝงด้วยบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก

“ทำไมคุณออกมาอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

ธนิดามองเขาด้วยความระแวง “ฉันแค่อยากสูดอากาศบ้างก็เท่านั้น” เธอตอบ “ที่นี่มันอึดอัดเกินไปสักหน่อยน่ะค่ะ”

ภูมิพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินมานั่งที่ม้านั่งหินฝั่งตรงข้ามของเธอ เขามองไปรอบๆ ราวกับตรวจสอบว่ามีใครอยู่ใกล้ๆ หรือไม่ ก่อนจะก้มตัวลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาจนแทบเป็นกระซิบ “ฟังผมให้ดีนะครับ มีคนในคฤหาสน์นี้ที่กำลังทรยศนายท่าน”

คำพูดของเขาทำให้ธนิดาชะงัก เธอขมวดคิ้วและมองเขาด้วยความสงสัย “ทรยศเหรอ คุณหมายถึงใคร”

“ผมก็ยังไม่แน่ใจ” ภูมิตอบ “แต่ผมกำลังสงสัยป้ามณี แม่บ้านที่ดูแลคุณ เธอดูแปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อคืน เธออยู่ใกล้โถงทางเข้าตอนที่เสือดาวบุกมา แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด”

ธนิดารู้สึกถึงความหนาวเย็นที่วิ่งผ่านกระดูกสันหลังของเธอ เธอนึกถึงมณี หญิงวัยกลางคนที่มีรอยแผลเป็นที่แขนและท่าทางที่ดูไม่น่าไว้ใจ เธอเคยเห็นมณีแอบกดโทรศัพท์เมื่อวานนี้ และคำพูดของภูมิยิ่งทำให้เธอเริ่มสงสัยในตัวแม่บ้านคนนั้นมากขึ้น

“แล้วทำไมคุณถึงมาบอกฉันล่ะ” เธอถามต่อ “คุณไม่กลัวว่าฉันจะไปบอกนาวินเหรอคะ”

ภูมิยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นดูเหมือนจะซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ “เพราะคุณธนิดาเป็นคนนอก คุณไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเงาจันทรา ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คุณอาจเป็นคนเดียวที่รู้ความจริง”

ธนิดาเงียบไปครู่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าควรเชื่อภูมิหรือไม่ เขาดูเหมือนคนที่ไว้ใจได้ในแวบแรก แต่สายตาของเขาที่จ้องเธอตลอดเวลาทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ เธอพยักหน้าเบาๆ และตัดสินใจเก็บคำพูดของเขาไว้ในใจก่อน

“ฉันจะลองสังเกตดู” เธอพูดสั้นๆ “แต่ถ้าคุณโกหก ฉันจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

ภูมิลุกขึ้นจากม้านั่งและพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินหายไปในเงาของต้นไม้ใหญ่โดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ธนิดามองตามหลังเขาไปด้วยหัวใจที่เต้นแรง เธอเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงเข้าไปในเกมที่ซับซ้อนและอันตรายมากขึ้นทุกขณะ

เมื่อถึงช่วงค่ำของวันนั้น ธนิดานั่งอยู่ในห้องพักของเธอตามลำพัง เธอพยายามทบทวนทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่เธอมาถึงคฤหาสน์แห่งนี้ การบุกของเสือดาว คำพูดของนาวินเกี่ยวกับพ่อของเธอ และคำเตือนของภูมิเกี่ยวกับมณี เธอตัดสินใจว่าถ้าเธอต้องอยู่ที่นี่ เธอจะต้องหาความจริงให้ได้ ไม่ใช่แค่นั่งรอให้คนอื่นตัดสินชะตาของเธอ

ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอก เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นเงาของใครบางคนผ่านช่องใต้ประตู เธอลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตู แต่ก่อนที่เธอจะได้เคาะมัน ประตูถูกปลดล็อกและเปิดออก เผยให้เห็นมณียืนอยู่ตรงนั้น เธอถือถาดอาหารที่มีข้าวต้มร้อนๆ และน้ำเปล่ามาวางให้เหมือนทุกครั้ง

“ทานให้อร่อยนะคะคุณธนิดา” มณีพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่ธนิดาสังเกตเห็นว่าเธอหลบตาเล็กน้อย

“ขอบคุณค่ะ” ธนิดาตอบสั้นๆ เธอจ้องมองมณีอย่างพิจารณา และสังเกตเห็นว่าแม่บ้านคนนี้ดูตื่นตระหนกมากกว่าปกติ มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะวางถาดลง และเมื่อมณีหันหลังเดินออกไป ธนิดาได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเบาๆ จากกระเป๋าเสื้อของเธอ มณีรีบหยิบมันขึ้นมากดปิดอย่างรวดเร็วก่อนจะปิดประตู

“น่าแปลกจริงๆ” ธนิดาพึมพำกับตัวเอง เธอเริ่มแน่ใจแล้วว่ามณีต้องซ่อนอะไรบางอย่างไว้แน่ๆ เธอตัดสินใจว่าเธอจะต้องจับตาดูมณีให้มากขึ้น และอาจต้องหาทางเข้าใกล้เธอเพื่อดูว่าเธอกำลังติดต่อกับใคร

คืนนั้น ขณะที่ธนิดานอนอยู่บนเตียงและพยายามข่มตาให้หลับ เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นก็ดังขึ้นจากโถงทางเดิน เธอลุกขึ้นนั่งทันที และไม่นานนัก ประตูห้องของเธอก็ถูกเปิดออกโดยนาวิน เขายังคงสวมเสื้อโค้ตสีดำเหมือนเดิม แต่คราวนี้ใบหน้าของเขาดูเหนื่อยล้ากว่าที่เธอเคยเห็น ดวงตาคู่คมของเขามองมาที่เธอด้วยท่าทีที่จริงจัง

“ลุกขึ้น” เขาสั่งสั้นๆ “ฉันมีอะไรจะคุยกับเธอ”

ธนิดาขมวดคิ้วแต่ก็ลุกขึ้นตามคำสั่ง เธอเดินตามเขาออกไปจากห้องและลงบันไดไปยังห้องทำงานที่ชั้นล่าง ห้องนั้นมีกลิ่นบุหรี่จางๆ ลอยอยู่ในอากาศ โต๊ะทำงานไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง ล้อมรอบด้วยตู้หนังสือสูงจรดเพดาน และมีเก้าอี้หนังสีน้ำตาลเข้มสองตัววางอยู่หน้าตู้

“นั่งสิ” เขาชี้ไปที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง

ธนิดานั่งลงและมองเขาด้วยความสงสัย “คุณจะให้ฉันทำอะไรอีกล่ะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความระแวง

นาวินเดินไปนั่งที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน เขาจุดบุหรี่มวนหนึ่งและสูบมันช้าๆ ก่อนจะพูดขึ้น “เมื่อคืน เธอพิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ใช่แค่ตัวประกันธรรมดา แต่เธอยิงปืนได้ และเธอไม่กลัวที่จะสู้ ฉันต้องการให้เธอช่วยฉัน”

“ช่วยอะไร?” เธอถามต่อ

“ฉันรู้ว่ามีคนในคฤหาสน์นี้ที่กำลังทรยศฉัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “การบุกของเสือดาวเมื่อคืนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ พวกมันรู้จุดอ่อนของคฤหาสน์นี้ดีเกินไป ฉันต้องการให้เธอสอดแนมคนในบ้านให้ฉัน”

ธนิดาชะงัก เธอนึกถึงคำพูดของภูมิทันที แต่เธอไม่แสดงออกมาให้เขาเห็น “ทำไมต้องเป็นฉัน” เธอถาม “คุณมีลูกน้องตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องให้ฉันทำด้วย”

“เพราะเธอเป็นคนนอก” นาวินตอบแบบเดียวกับที่ภูมิบอกเธอเป๊ะ “เธอไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเงาจันทรา และไม่มีใครในนี้สงสัยว่าเธอจะทำอะไรแบบนี้” เขาหยุดสูบบุหรี่ชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าเธอช่วยฉัน หนี้ของพ่อเธออาจลดลง หรือบางที ฉันอาจจะปล่อยเธอไปเร็วกว่าเดิม”

คำพูดของเขาทำให้ธนิดาคิดหนัก เธอรู้ว่านี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้อิสรภาพคืนมา แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้ว่านี่คือการก้าวเข้าไปในเกมที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขาและพยายามหาความจริงจากมัน แต่สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงความมืดมิดที่ลึกเกินหยั่งถึง

“ฉันจะลองดู” เธอตอบในที่สุด “แต่ถ้าฉันเจออะไร ฉันจะบอกคุณตามที่ฉันเห็น”

นาวินพยักหน้าและเป่าควันบุหรี่ออกจากปาก “ดี” เขาพูดสั้นๆ “คุณเริ่มจากมณีก่อนเลย เธอแปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อวาน”

ธนิดารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้น เธอไม่บอกเขาว่าภูมิเคยเตือนเธอเรื่องนี้มาก่อน เธอตัดสินใจเก็บความลับนี้ไว้กับตัวเองก่อน จนกว่าเธอจะแน่ใจว่าเธอสามารถเชื่อใจใครได้บ้าง

เมื่อเธอกลับมาที่ห้องพักของตัวเองในคืนนั้น เธอนอนลงบนเตียงและมองไปที่เพดานด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วน สายลมแห่งความสงสัยได้พัดเข้ามาในชีวิตของเธอแล้ว และเธอรู้ว่าเธอต้องเผชิญหน้ากับมัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 6 คืนฝนหลั่ง (NC)

    ฟ้าร้องกึกก้องจนผนังสั่นสะเทือน เม็ดฝนกระหน่ำราวกับพายุร้ายกำลังโหมกระหน่ำใส่โลกใบนี้ไม่หยุดในห้องใต้ดินขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่หลังคฤหาสน์ ธนิดากับนาวินนั่งอยู่ด้วยกันบนฟูกผืนเก่า มีเพียงแสงเทียนริบหรี่เป็นเพื่อน ความเงียบชวนอึดอัดกำลังคืบคลานขึ้นระหว่างทั้งสองคน“ข้างบนระเบิดเสียหายหนัก” นาวินพูดเรียบ ๆธนิดาพยักหน้า ดวงตาไม่กล้าสบกับเขา “เราจะติดอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?”“จนกว่าคนของฉันจะกวาดล้างพวกมันหมด... หรืออาจจะต้องรอจนกว่าฝนจะหยุด”เธอกอดเข่าตัวเองแน่น ลมหายใจเบาเหมือนกลัวว่าเสียงจะไปกระทบใจใครผ่านไปเกือบสิบนาที นาวินจึงลุกไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ที่วางอยู่มุมห้อง และโยนมันคลุมตัวเธอ“เข้ามานี่” เขาเอ่ยนิ่ง ๆ พลางตบฟูกข้างตัวเธอลังเล “ฉัน... ไม่หนาว”“อย่าดื้อ”เมื่อเธอขยับตัวเข้าไปใกล้ ใต้ผ้าห่มเดียวกัน ความอบอุ่นของร่างกายเริ่มแผ่ซ่านออกมา แต่มันไม่ใช่แค่เพียงไออุ่นจากผิวหนัง หากแต่เป็นความร้อนที่ซ่อนอยู่ในใจทั้งคู่ฝนยังคงตกแต่เสียงฝนเริ่มจางลงในใจของทั้งสอง เมื่อดวงตาคู่นั้นเริ่มสบกันโดยไม่มีคำพูดใด ๆ“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงพาเธอมาที่นี่?” เขาถามเบา ๆ“เพราะฉันเสี่ยงตายเพื่อคุณงั้

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 5 บทลงโทษของหัวใจ

    เสียงปิดประตูดังปัง พร้อมแรงดึงที่กระชากไหล่เล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้าร่างสูงที่เต็มไปด้วยความคุกรุ่น“คิดจะหนีฉันเหรอ!” น้ำเสียงของนาวินต่ำลึกและเต็มไปด้วยแรงกดดัน เขาแทบไม่ต้องข่มอารมณ์ให้มากกว่านี้ เพราะตอนนี้ทุกหยดเลือดในกายกำลังเดือดพล่านธนิดาถอยกรูดหลังชิดผนัง ใบหน้าซีดเผือดทั้งที่ดวงตายังเปล่งแสงกร้าว “ฉันไม่ได้หนี ฉันแค่... เลือกจะไม่อยู่ในที่ที่อันตรายอีกต่อไป!”“อันตรายเหรอ?” เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกหนึ่งก้าว ดวงตาคู่คมไล่มองเรือนร่างเธออย่างไม่ปิดบังเจตนา “หรือว่าเธอกลัวหัวใจตัวเอง?”“อย่ามาเล่นคำกับฉันนะ...”นาวินไม่ให้เธอพูดจบ มือหนาตรึงข้อมือเล็กทั้งสองไว้เหนือศีรษะ เขากระแทกเธอกับผนังอย่างไม่อ่อนโยน แล้วกระซิบชิดใบหู“ถ้ากล้าจะ ‘ไป’ โดยไม่บอก ฉันก็จะ ‘ลงโทษ’ เธอให้หลาบจำไปจนถึงเช้า”เขาไม่ปล่อยเวลาให้เธอตั้งตัว ริมฝีปากหยาบกร้านกดลงบนลำคอขาวเนียน ก่อนจะลากต่ำลงเรื่อย ๆ ผ่านกระดูกไหปลาร้า ราวกับกำลังลงอาคมแห่งความเป็นเจ้าของธนิดาเผลอครางเสียงสั่นเมื่อริมฝีปากของเขาแตะจุดไวสัมผัสตรงเหนือเนินอก นิ้วมือของเขาคลายกระดุมเสื้อเธอทีละเม็ดช้า ๆ ทว่าร้อนแรง“นาวิน...หยุด...” เธอคราง

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 4 คืนแรกครั้งนั้น ยังจำได้ดี (NC)

    เสียงฝนที่เคยตกหนักทั้งคืนเริ่มซาลง เหลือเพียงละอองฝนบางเบาที่เกาะอยู่บนใบไม้และกลิ่นดินเปียกที่ยังลอยวนอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศธนิดานั่งนิ่งอยู่ข้างหน้าต่าง ห้องพักของเธอเงียบสนิทจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง เธอเพิ่งกลับจากการสอบปากคำของนาวินที่ห้องทำงานของเขา ชายหน้านิ่งเย็นชาที่ตอนนี้เริ่มเผยความรู้สึกซ่อนเร้นบางอย่างออกมาทีละน้อยก๊อก ๆ ๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่มันจะเปิดออกอย่างช้า ๆ โดยไม่มีใครพูดอะไร“คุณยังไม่นอนอีกเหรอ” เสียงทุ้มต่ำของนาวินดังขึ้นธนิดาหันกลับไปมอง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบาง ปลดกระดุมบนออกสองเม็ด ผมเปียกชื้นเล็กน้อยจากการเดินฝ่าฝนมาจากห้องด้านหลังคฤหาสน์เธอไม่ตอบ… แต่ก็ไม่ปฏิเสธการมาของเขาเช่นกันเขาเดินเข้ามาใกล้ จนกลิ่นโคโลญจ์อ่อน ๆ กับกลิ่นฝนผสมกันลอยคลุ้งในอากาศระหว่างคนทั้งสอง“คุณมาทำไม” เธอถามเสียงแผ่ว“เพราะคืนนี้ฉันไม่อยากนอนคนเดียว” เขาตอบด้วยสายตาจริงจังอย่างน่าประหลาด “และฉันก็แน่ใจว่าเธอก็ไม่อยาก…”เธอหันหน้าหนี แต่หัวใจกลับเต้นแรงไม่หยุด“อย่ามาทำเหมือนรู้จักฉันดี”“แต่ฉันอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้…”ไม่ทันให้เธอได้ตั้งคำถาม ร่างสูงของน

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 3 รุ่งอรุณหัวใจ (NC)

    แสงอาทิตย์ยามเช้าตรู่ส่องลอดผ้าม่านบาง ๆ เข้ามาในห้องนอน กลิ่นไอฝนจากค่ำคืนยังคงหลงเหลือในอากาศ แสงแดดอ่อน ๆ ทำให้ทุกอย่างดูนุ่มนวลและอบอุ่น ร่างสูงของนาวินขยับตัวเบา ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆเขาหันไปมองคนข้างกายที่ยังคงหลับตาพริ้ม ใบหน้าของธนิดาดูสงบอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ผมยาวสยายอยู่บนหมอน ผิวขาวเนียนชวนสัมผัส และริมฝีปากบางที่ขยับเพียงเล็กน้อยราวกับกำลังฝันดีนาวินยกมือขึ้นแตะแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วไล้ผ่านโครงหน้าละมุนละไมของเธอด้วยความทะนุถนอม“สวยเหลือเกิน...” เขาพึมพำเบา ๆ ราวกับกลัวว่าจะปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจธนิดาขยับเล็กน้อย เปลือกตาค่อย ๆ เปิดขึ้นช้า ๆ ก่อนที่สายตาของเธอจะสบกับเขา รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปากทันทีที่เห็นเขาอยู่ข้างกาย“ตื่นนานแล้วเหรอคะ”“พึ่งตื่น... แต่ฉันรู้สึกเหมือนได้มองเธอมาตลอดทั้งคืนเลย”เธอหลับตาอย่างเขินอาย ก่อนจะยิ้มหวานให้เขา นาวินขยับเข้าไปใกล้ โอบร่างบางของเธอไว้ในอ้อมกอด ลมหายใจอันอบอุ่นของเขาลูบไล้ผ่านลำคอเธอ“เมื่อคืนฝันดีไหมครับ”“ค่ะ ฉันฝันว่าเราอยู่ด้วยกันตลอดไป...”เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา“แล้วถ้า

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 2 ค่ำคืนฝนแห่งรัก (NC)

    เสียงฝนกระหน่ำลงมาไม่หยุดตั้งแต่หัวค่ำ ฟ้าร้องครืน ๆ ดังลั่นท้องฟ้า บรรยากาศรอบบ้านพักของธนิดาที่นาวินกลับมาซ่อมแซมให้จนสามารถกลับมาอยู่อาศัยได้อีกครั้งท่ามกลางป่าเขาเต็มไปด้วยไอหมอกเย็นจัด ไฟดับทั่วบริเวณ มีเพียงแสงจากเทียนไขเล่มเล็กที่นาวินจุดไว้กลางโต๊ะไม้หน้าระเบียงบ้าน สะท้อนเงาไหวระริกบนผนังไม้เก่า ๆธนิดานั่งกอดเข่ามองฝนอย่างเงียบ ๆ ผมยาวสยายเล็กน้อยจากแรงลมที่พัดผ่าน ระเบียงไม้เก่าเปียกชื้นเล็กน้อยจากละอองฝนที่สาดเข้ามา เธอห่มผ้าคลุมไหล่ไว้แน่น ขณะที่สายตาก็ยังจับจ้องไปยังม่านฝนผ่านบานหน้าต่างตรงหน้านาวินเดินออกมาพร้อมผ้าห่มผืนใหญ่ในมือ ก่อนจะค่อย ๆ คลี่มันคลุมตัวเธอเพิ่มอีกชั้น มือหนาสัมผัสไหล่เธอเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงข้างกัน“กลัวฟ้าร้องเหรอ” เขาถามเสียงเบาเธอส่ายหน้าเบา ๆ“เปล่าค่ะ... แค่รู้สึกเหงานิดหน่อย” ธนิดาตอบตามตรง เพราะฝนที่กำลังตกมันทำให้เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆเสียงฝนยังคงตกหนัก เสียงฟ้าร้องสลับมาเป็นระยะ บรรยากาศรอบตัวเหมือนถูกโอบล้อมด้วยความเงียบงันและความเปียกชื้น แต่ภายในบ้านกลับอบอุ่นอย่างประหลาด ถึงแม้ว่าจะมีเพียงพวกเขาอยู่ด้วยกันแค่สองคนก็ตาม“ตอนเด็ก ๆ เวลาฝนต

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 1 แสงจันทร์แห่งคำสัญญา (NC)

    สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านอย่างอ่อนโยน แสงจันทร์สีเงินทอดตัวลงมาบนผิวทะเลที่ระยิบระยับเป็นประกาย เงาของสองร่างสะท้อนอยู่บนผืนทรายขาวสะอาด ท่ามกลางเสียงคลื่นซัดฝั่ง ธนิดายืนมองทะเลด้วยแววตาที่สงบ ในอ้อมแขนของชายผู้เป็นทั้งรักและความเจ็บปวดของเธอนาวินโอบเธอไว้จากด้านหลัง มือหนากระชับรอบเอวบางแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปอีก“เธอรู้ไหม... ฉันกลัวที่สุด ว่าจะไม่มีโอกาสได้บอกรักเธออีก” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู น้ำเสียงนั้นมีทั้งความโหยหาและอ่อนแอปนกันอยู่ธนิดาหันมา เงยหน้ามองเขาในระยะใกล้ ใกล้เสียจนเธอมองเห็นความสั่นไหวในดวงตาคมเข้มคู่นั้นเธอเอื้อมมือขึ้น ลูบแก้มเขาเบา ๆ“ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว และจะไม่ไปไหนอีก... ไม่ว่าชีวิตคุณจะเต็มไปด้วยความอันตรายแค่ไหน ฉันก็จะอยู่ข้างคุณเสมอ คุณนาวิน”คำพูดนั้นราวกับปลดล็อกบางอย่างในหัวใจของเขา ชายหนุ่มโน้มลงจูบเธออย่างแผ่วเบาในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นาน จูบนั้นก็เริ่มลึกซึ้งขึ้น มันเต็มไปด้วยความเร่าร้อน เย้ายวน และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เก็บกดมานาน มันเป็นความโหยหาที่เขาตามหามาโดยตลอดมือหนาของเขาเลื่อนจากเอวบางลงมายังก้นเนียนนุ่มของอีกฝ่าย ก่อนที่จะออกแรงบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status