สัญญาใจใต้รัตติกาล

สัญญาใจใต้รัตติกาล

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-07
โดย:  หลูซื่อเต๋อยังไม่จบ
ภาษา: Thai
goodnovel16goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
22บท
630views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

ธนิดาถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อนไว้ ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทนำ (รีไรท์)

เสียงฟ้าคำรามกึกก้องราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังเกรี้ยวกราดอยู่เหนือผืนนภา สายฝนเม็ดหนากระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนทั่วทั้งบริเวณขาวโพลนไปด้วยม่านน้ำ ไอเย็นยะเยือกแทรกซึมผ่านรอยแตกของผนังไม้สักเก่าคร่ำคร่า กัดกินผิวเนื้อของหญิงสาวร่างบางที่กำลังสั่นเทาอยู่มุมห้อง

“กูถามว่า... พ่อของมึงซ่อนมันไว้ที่ไหน!!”

เสียงตะคอกนั้นหยาบกระด้างและเสียดแทงยิ่งกว่าเสียงฟ้าผ่า ธนิดา ยกมือขึ้นกุมแก้มข้างซ้ายที่เริ่มบวมช้ำ รสคาวเลือดจางๆ คละคลุ้งอยู่ในปาก ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วใบหน้า แต่สิ่งที่กัดกินหัวใจของเธอมากกว่าคือความหวาดกลัวที่เกาะกุมจนขั้วหัวใจหนาวเหน็บ

“ฮึก... ฉันไม่รู้... ฉันไม่รู้จริงๆ” น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ แววตาคู่สวยที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาจ้องมองกลุ่มชายฉกรรจ์ตรงหน้าด้วยความสิ้นหวัง

บ้านไม้ที่เคยเป็นวิมานอันอบอุ่นของเธอกับพ่อ บัดนี้แปรสภาพเป็นนรกบนดิน ข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย แจกันดอกไม้ที่เธอเพิ่งจัดเมื่อเช้าแตกละเอียดอยู่แทบเท้า เศษกระเบื้องคมกริบสะท้อนแสงไฟวูบวาบราวกับกำลังรอคอยที่จะดื่มเลือด

“ปากแข็งนักนะแม่ตัวดี...” ไอ้โชติ ชายร่างยักษ์ผู้มีแววตาดุร้ายเยี่ยงโจร แสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม มันสาวเท้าเข้ามาใกล้ เงาทะมึนของมันทาบทับร่างเล็กที่จนตรอก “ถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้ ก็คายความลับออกมา หรือจะให้กูรื้อค้นตัวมึงแทนบ้านหลังนี้ดีล่ะ! หื้ม?”

มือหยาบกร้านเอื้อมมาหมายจะกระชากคอเสื้อ ธนิดากรีดร้องสุดเสียง ความกลัวแปรเปลี่ยนเป็นสัญชาตญาณเอาตัวรอด เธอคว้าแจกันใบเล็กที่ใกล้มือที่สุดฟาดสวนออกไป

เพล้ง!

“โอ๊ย! นังแพศยา!” เลือดสีแดงสดไหลอาบหน้าผากของมัน ไอ้โชติคำรามลั่นด้วยความบ้าคลั่ง มันง้างมือขึ้นเตรียมจะมอบจุดจบให้แก่เธอ

วินาทีนั้น ธนิดาหลับตาแน่น หัวใจเต้นระรัวจนแทบจะทะลุอก รอรับชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกหนี

ปัง!

เสียงกัมปนาทดังสนั่นเพียงนัดเดียว ตัดผ่านเสียงสายฝนและเสียงลมหายใจของทุกคนในห้อง

ร่างของไอ้โชติกระตุกเกร็ง ดวงตาเบิกโพลองด้วยความตกตะลึง ก่อนที่ร่างใหญ่โตนั้นจะค่อยๆ ทรุดฮวบลงกับพื้นไม้กระดาน เลือดสีเข้มไหลนองแผ่ขยายวงกว้าง ตัดกับแสงไฟสลัวอย่างน่าสยดสยอง

ความเงียบเข้าครอบงำฉับพลัน... เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นโครมคราม

ท่ามกลางม่านฝนที่โปรยปรายอยู่เบื้องหลังประตูบานใหญ่ ร่างสูงสง่าของใครบางคนปรากฏตัวขึ้น เขายืนนิ่งสงบราวกับรูปปั้นเทพบุตรที่ถูกแกะสลักอย่างประณีต แต่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายอันตรายที่ชวนให้หายใจไม่ทั่วท้อง

ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำสนิทที่ขับเน้นรูปร่างกำยำสมส่วน ใบหน้าคมคายหล่อเหลาราวกับไม่มีอยู่จริง ดวงตาคู่คมกริบภายใต้คิ้วเข้มจ้องมองเข้ามาในห้อง แววตานั้นว่างเปล่า เย็นชา แต่กลับทรงอำนาจจนทำให้ลูกน้องที่เหลืออีกสองคนมือไม้สั่น ขาแข็งก้าวไม่ออก

เขาไม่ได้ดูรีบร้อน ไม่ได้ดูโกรธเกรี้ยว เขาก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาอย่างแผ่วเบา รองเท้าหนังราคาแพงกระทบพื้นไม้เกิดเสียงดังกึกก้องเป็นจังหวะที่มั่นคง ราวกับพญามัจจุราชที่กำลังเดินเล่นในสวนหลังบ้าน

“ใครอนุญาตให้พวกมึง... แตะต้องของของกู”

น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ นุ่มนวลชวนฟังแต่กลับแฝงด้วยความกดดันมหาศาลที่ทำให้อากาศในห้องหนักอึ้ง

“มึง... มึงเป็นใครวะ!” หนึ่งในลูกน้องตะโกนถามเสียงหลง พยายามยกปืนขึ้นเล็ง

ชายหนุ่มเพียงแค่ปรายตามอง ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มมุมปาก มันเป็นรอยยิ้มที่งดงามแต่เคลือบแฝงไปด้วยยาพิษ

ปัง! ปัง!

รวดเร็ว แม่นยำ และไร้ความปรานี

กระสุนสองนัดเจาะเข้าจุดตายอย่างเงียบเชียบ ร่างไร้วิญญาณอีกสองร่างร่วงหล่นลงสู่พื้นราวกับใบไม้ร่วง กลิ่นดินประสิวผสมปนเปกับกลิ่นคาวเลือดที่เริ่มคละคลุ้งรุนแรงขึ้น แต่มันกลับไม่สามารถกลบกลิ่นกายหอมอ่อนๆ แบบผู้ดีที่แผ่ออกมาจากตัวชายหนุ่มได้เลย

นาวินลดปืนในมือลง เขาข้ามกองเลือดเหล่านั้นมาหยุดยืนตรงหน้าธนิดา หญิงสาวนั่งตัวสั่นงันงก สายตาจับจ้องไปที่เขาด้วยความหวาดหวั่นปนหลงใหลอย่างประหลาด

เขาค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งชันเข่าตรงหน้าเธอ นิ้วมือเรียวยาวที่เย็นเฉียบเอื้อมมาเชยคางมนของเธอขึ้นเบาๆ บังคับให้สบตา การสัมผัสของเขานุ่มนวลราวกับกลัวว่าเธอจะแตกสลาย แต่แววตานั้นกลับจ้องลึกเข้าไปถึงวิญญาณ

“เจ็บมากไหม...” เขาเอ่ยถามแผ่วเบา ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยไล้น้ำตาที่หางตาของเธออย่างอ่อนโยน

ธนิดาพูดไม่ออก ลำคอแห้งผาก เธอสัมผัสได้ถึงความอันตรายที่แผ่ออกมาจากผู้ชายคนนี้ แต่น่าแปลกที่ในความอันตรายนั้น เธอกลับรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก

“คุณ... คุณฆ่าพวกเขา” เสียงหวานสั่นเครือ

“คนพวกนี้ทำเธอเจ็บ” นาวินตอบเรียบๆ ราวกับเป็นเรื่องธรรมชาติ “และใครที่ทำให้ของสำคัญของฉันมีรอยขีดข่วน... มันต้องชดใช้”

“ของสำคัญ?” เธอทวนคำงุนงง

นาวินขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งคมสันแทบชนแก้มเนียนของเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดผิวหน้า ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวผิดจังหวะ

“พ่อของเธอติดหนี้ฉัน... ไม่ใช่แค่เงินตรา แต่เป็นบางสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมฝีปาก “ในเมื่อเขาไม่อยู่ชดใช้ เธอก็ต้องเป็นหลักประกันให้ฉันแทน”

“แต่ฉัน... ฉันไม่มีเงิน...”

“ฉันไม่ได้ต้องการเงินตอนนี้” เขายิ้มร้าย ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ “ฉันต้องการรหัสผ่านที่พ่อเธอขโมยไป และจนกว่าฉันจะได้มันคืน ร่างกายนี้ ลมหายใจนี้ จะต้องเป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว”

เขาถอดเสื้อสูทตัวนอกออกคลุมไหล่ที่สั่นเทาของเธอ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงโอบล้อมกายเธอไว้ราวกับกรงขังที่มองไม่เห็น ก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย

“ไปกันเถอะ... สัญญาใจของเรา เริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ วินาทีนี้”

ธนิดาซบหน้าลงกับอกกว้างที่แข็งแกร่ง ปล่อยให้เขาพาเธอเดินฝ่าสายฝนและศพคนตายออกไปสู่โลกใบใหม่ โลกที่มืดมิด อันตราย แต่น่าหลงใหลที่มีผู้ชายชื่อนาวินเป็นผู้ปกครอง

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ
ไม่มีความคิดเห็น
22
บทนำ (รีไรท์)
เสียงฟ้าคำรามกึกก้องราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังเกรี้ยวกราดอยู่เหนือผืนนภา สายฝนเม็ดหนากระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนทั่วทั้งบริเวณขาวโพลนไปด้วยม่านน้ำ ไอเย็นยะเยือกแทรกซึมผ่านรอยแตกของผนังไม้สักเก่าคร่ำคร่า กัดกินผิวเนื้อของหญิงสาวร่างบางที่กำลังสั่นเทาอยู่มุมห้อง“กูถามว่า... พ่อของมึงซ่อนมันไว้ที่ไหน!!”เสียงตะคอกนั้นหยาบกระด้างและเสียดแทงยิ่งกว่าเสียงฟ้าผ่า ธนิดา ยกมือขึ้นกุมแก้มข้างซ้ายที่เริ่มบวมช้ำ รสคาวเลือดจางๆ คละคลุ้งอยู่ในปาก ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วใบหน้า แต่สิ่งที่กัดกินหัวใจของเธอมากกว่าคือความหวาดกลัวที่เกาะกุมจนขั้วหัวใจหนาวเหน็บ“ฮึก... ฉันไม่รู้... ฉันไม่รู้จริงๆ” น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ แววตาคู่สวยที่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาจ้องมองกลุ่มชายฉกรรจ์ตรงหน้าด้วยความสิ้นหวังบ้านไม้ที่เคยเป็นวิมานอันอบอุ่นของเธอกับพ่อ บัดนี้แปรสภาพเป็นนรกบนดิน ข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย แจกันดอกไม้ที่เธอเพิ่งจัดเมื่อเช้าแตกละเอียดอยู่แทบเท้า เศษกระเบื้องคมกริบสะท้อนแสงไฟวูบวาบราวกับกำลังรอคอยที่จะดื่มเลือด“ปากแข็งนักนะแม่ตัวดี...” ไอ้โชติ ชายร่างยักษ์ผู้มีแววตาดุร้ายเยี่ยงโจร แสยะยิ้มเหี้ยม
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 1 (รีไรท์)
สายฝนที่ยังคงโหมกระหน่ำดูเหมือนจะเป็นใจให้กับค่ำคืนแห่งการลักพาตัวครั้งนี้เหลือเกิน เสียงเม็ดฝนกระทบพื้นดินเฉอะแฉะดังกลบทุกสรรพเสียง ทิ้งไว้เพียงเสียงลมหายใจอุ่นร้อนของชายหนุ่มที่โอบอุ้มร่างของเธอไว้อย่างมั่นคงธนิดาซุกใบหน้าลงกับแผงอกกว้างที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตเนื้อดี กลิ่นน้ำหอมเย็นๆ ผสมกลิ่นกายชายชาตรีของเขาทำหน้าที่เหมือนยาสลบอ่อนๆ ที่ทำให้สติของเธอพร่าเลือน เธอรู้ว่าเธอควรจะดีดดิ้น ควรจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือ แต่ภาพโหดร้ายที่เขาเพิ่งมอบความตายให้กับชายฉกรรจ์สามคนในพริบตาเดียวนั้น ยังคงฉายชัดอยู่ในความทรงจำผู้ชายคนนี้คือมัจจุราช และเธอไม่มีความกล้าพอที่จะงัดข้อกับเขานาวินพาเธอเดินฝ่าสายฝนมาหยุดอยู่ที่รถยนต์คันหรูสีดำสนิท มันจอดซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบหลังพุ่มไม้ใหญ่ ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังหมอบรอเจ้านาย รถเบนท์ลีย์ เบนเทก้า (Bentley Bentayga) คันใหญ่ดูขัดแย้งกับสภาพแวดล้อมซอมซ่อของย่านนี้อย่างสิ้นเชิง หยดน้ำฝนเกาะพราวไปทั่วตัวถังรถที่มันวาว สะท้อนแสงฟ้าแลบแปลบปลาบดูน่าเกรงขามลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนเฝ้ารถรีบกางร่มคันใหญ่เข้ามารับ แต่นาวินเพียงแค่ปรายตามองเป็นเชิงสั่งให้เปิดปร
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2 (รีไรท์)
แสงแดดยามสายสาดส่องลอดผ่านผ้าม่านกำมะหยี่สีเทาเข้มเข้ามาตกกระทบเปลือกตา ปลุกให้ธนิดาตื่นจากห้วงนิทราอันหนักอึ้ง เธอขยับตัวเล็กน้อย ความนุ่มนวลของฟูกที่นอนอันหนานุ่มและกลิ่นที่ลอยมาเตะจมูกของเธอนั้นมันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเครื่องนอนราคาแพงทำให้เธอเผลอคิดไปชั่ววูบว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นเพียงฝันร้ายแต่ทันทีที่ลืมตาขึ้น เพดานสูงลิบประดับโคมระย้าคริสตัลระยิบระยับก็กระชากเธอกลับสู่ความเป็นจริงที่นี่ไม่ใช่บ้านไม้เก่าซอมซ่อของเธอ แต่เป็นเสมือนกรงทองของนาวินมากกว่าธนิดาดีดตัวลุกขึ้นนั่งกวาดสายตาไปรอบห้องนอนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นลักชูรีโทนสีขรึม ทุกอย่างดูหรูหราเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการถึง แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือประตูไม้บานใหญ่ที่ปิดสนิท และกล้องวงจรปิดตัวเล็กที่มุมห้องซึ่งกำลังกะพริบไฟสีแดงจางๆ ราวกับดวงตาของปีศาจที่จับจ้องเธออยู่ตลอดเวลา ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น ก่อนที่ประตูจะเปิดออกโดยไม่ต้องรอเสียงอนุญาตหญิงวัยกลางคนในชุดแม่บ้านสีกรมท่าเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่ดูใจดี "ตื่นแล้วเหรอคะคุณผู้หญิง ดิฉันเตรียมเสื้อผ้าและน้ำอุ่นไว้ให้แล้วค่ะ""คุณ... เป็นใครคะ?” ธ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3 (รีไรท์)
หลังจากเสียงเครื่องยนต์ของรถเบนท์ลีย์เงียบหายไปพร้อมกับสายฝนที่เริ่มซาเม็ด ความเงียบงันอันน่าอึดอัดก็เข้ายึดครองคฤหาสน์เงาจันทราในทันทีธนิดายืนเกาะขอบหน้าต่างกระจกบานใหญ่ในห้องนั่งเล่น มองตามท้ายรถที่ลับสายตาไป หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวด้วยความรู้สึกที่ขัดแย้ง เธอควรจะดีใจที่พญามัจจุราชอย่างนาวินไม่อยู่ แต่ทำไมลึกๆ แล้ว เธอกลับรู้สึกหนาวเหน็บและไร้ที่พึ่งพิงยิ่งกว่าเดิม"คุณธนิดารับน้ำชาเพิ่มไหมคะ?"เสียงทักทายที่ดังขึ้นด้านหลังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ธนิดาสะดุ้งสุดตัว เธอหันขวับไปมอง พบป้ามณียืนสงบนิ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว ในมือถือถาดเงินที่มีชุดน้ำชาลายครามส่งกลิ่นหอมกรุ่น“ไม่ค่ะ ขอบคุณ" ธนิดาปฏิเสธเสียงแข็ง พยายามควบคุมสีหน้าไม่ให้ตื่นตระหนก"รับสักหน่อยเถอะค่ะ จะได้ผ่อนคลาย" ป้ามณียังคงคะยั้นคะยอด้วยรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา หล่อนวางถาดลงบนโต๊ะรับแขกแล้วรินน้ำชาสีอำพันใส่ถ้วย "ชาดอกคาโมมายล์อุ่นๆ ช่วยให้หลับสบายนะคะ คุณดูเหนื่อยมาก"ธนิดามองถ้วยชาตรงหน้า สัญชาตญาณบางอย่างร้องเตือนว่าอย่าแตะต้อง เธอไม่ได้หวาดระแวงเกินเหตุ แต่สายตาของหญิงแม่บ้านผู้นี้ดูว่างเปล่าจนน่าขนลุก เหมือนตุ๊กตา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 4 (รีไรท์)
กลิ่นดินประสิวฉุนกึกปะปนกับกลิ่นไหม้ของเนื้อไม้ลอยคละคลุ้งไปทั่วโถงทางเดิน ควันสีเทาหนาทึบลอยอ้อยอิ่งบดบังทัศนวิสัย แสงไฟฉุกเฉินสีแดงหมุนวาบสะท้อนเงาวูบไหวบนผนัง ราวกับเลือดที่กำลังเต้นเร่าธนิดาไอโขลกจนตัวงอ ความแสบจากควันไฟกัดกินลำคอและดวงตาจนน้ำตาไหลพราก แต่ฝ่ามือหนาที่กุมมือเธอไว้นั้นกลับไม่ยอมคลายออกแม้แต่วินาทีเดียว มันบีบแน่น แน่นจนเธอรู้สึกเจ็บ แต่มันคือความเจ็บปวดเดียวที่ยึดเหนี่ยวเธอไว้กับสติสัมปชัญญะ“ก้มต่ำไว้! อย่าเงยหน้าขึ้นมา!”เสียงคำรามของนาวินดังก้องแข่งกับเสียงปืนที่เริ่มระดมยิงเข้ามาจากทิศทางที่กำแพงพังทลาย เขาไม่ได้หันมามองเธอ แต่ใช้แผ่นหลังกว้างของตัวเองเป็นโล่กำบัง ดันร่างเธอให้แนบชิดไปกับผนังหินอ่อนเย็นเฉียบ ปัง! ปัง! ปัง!กระสุนเจาะทะลุแจกันราคาแพงบนแท่นโชว์จนแตกกระจาย เศษกระเบื้องปลิวว่อนเฉียดใบหน้าของธนิดาไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด เธอหวีดร้องด้วยความตกใจ ซุกหน้าลงกับแผ่นหลังของเขาโดยสัญชาตญาณนาวินกัดฟันกรอด นัยน์ตาสีรัตติกาลวาวโรจน์ด้วยความโกรธจัด เขาเอี้ยวตัวออกไปเพียงเสี้ยววินาที ยกปืนพกสีเงินในมือขึ้นเล็งด้วยความชำนาญที่น่าขนลุก ปัง! ปัง!สองนัดแลกกับสองชี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 5 (รีไรท์)
รถสปอร์ตคันหรูแล่นฝ่าพายุฝนที่ยังคงโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง นาวินหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางลัดเลาะตามไหล่เขา ถนนเส้นนี้มืดสนิทไร้แสงไฟ มีเพียงไฟหน้ารถที่สาดส่องตัดผ่านม่านฝนเผยให้เห็นต้นไม้สูงใหญ่สองข้างทางที่โอนเอนตามแรงลมภายในรถเงียบสงัด มีเพียงเสียงหอบหายใจหนักหน่วงของชายหนุ่มที่ดังแข่งกับเสียงที่ปัดน้ำฝนธนิดานั่งตัวเกร็ง สายตาจับจ้องไปที่ไหล่ซ้ายของเขา เลือดสีแดงสดซึมผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวออกมาเป็นวงกว้างและเริ่มหยดลงบนเบาะหนัง ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยดุดันตอนนี้ซีดเผือดจนน่าใจหาย เม็ดเหงื่อผุดพรายเต็มกรอบหน้าแม้ว่าแอร์ในรถจะเย็นเฉียบ"คุณนาวินจอดรถเถอะค่ะ ให้ฉันขับแทนเถอะ" ธนิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "คุณกำลังเสียเลือดมากแล้วนะคะ"“เงียบเถอะน่า!" นาวินกัดฟันตอบ เสียงของเขาแหบพร่ากว่าเดิม "อีกนิดเดียวก็ถึงเซฟเฮาส์แล้ว""แต่คุณจะหมดสติอยู่แล้ว!" เธอเถียงกลับ ความกลัวว่าจะเสียเขาไปทำให้เธอลืมความกลัวที่มีต่อเขาไปจนหมด "ถ้าคุณตาย แล้วฉันจะอยู่กับใคร!"คำพูดนั้นทำให้นาวินชะงักไปชั่วครู่ เขาเหลือบมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย ริมฝีปากซีดเซียวยกยิ้มมุมปากอย่างยากลำบาก"หึ... กลัวไม่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-22
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 6 (รีไรท์)
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าลอดผ่านทิวสนสูงเสียดฟ้า ส่องกระทบหน้าต่างกระจกบานใหญ่ของเซฟเฮาส์จนเกิดเป็นลำแสงสีทองนวลตา เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาพร้อมกับไอหมอกจางๆ ที่ปกคลุมไปทั่วป่าธนิดาขยับตัวตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบล้อมรอบเอวและความหนักอึ้งที่พาดผ่านลำตัว เมื่อลืมตาขึ้นภาพแรกที่ปรากฏแก่สายตาคือแผงอกกว้างเปลือยเปล่าที่มีผ้าพันแผลพันทับช่วงไหล่ซ้ายเอาไว้ ลมหายใจสม่ำเสมอของคนที่นอนอยู่ข้างๆ บ่งบอกว่าเขายังคงหลับสนิทหญิงสาวนอนนิ่ง ไม่กล้าขยับตัวแรงเพราะกลัวจะรบกวนการพักผ่อนของคนเจ็บ เธอลอบมองใบหน้าคมคายของนาวินในยามหลับใหล มันไร้ซึ่งความดุดัน ไร้ซึ่งรังสีอำมหิต เหลือเพียงใบหน้าของชายหนุ่มที่ดูเหนื่อยล้าและต้องการการพักพิงปลายนิ้วเรียวของเธอเผลอเอื้อมไปเกลี่ยไรผมสีดำสนิทที่ตกลงมาปรกหน้าผากเขาอย่างแผ่วเบา ไล้ลงมาตามสันจมูกโด่ง และหยุดลงที่ริมฝีปากหยักได้รูป ริมฝีปากที่เพิ่งมอบจูบแรกให้เธอเมื่อคืน"แอบแต๊ะอั๋งคนเจ็บแต่เช้าเลยนะ..."เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นทำลายความเงียบ ธนิดาสะดุ้งโหยงรีบชักมือกลับ แต่ไม่ทันมือหนาของนาวินที่คว้าข้อมือเธอไว้ได้ทัน ทั้งที่ตายังหลับอยู่น
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-23
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 7 (รีไรท์)
ท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือท่าเรือเก่าฝั่งธนบุรีมืดสนิทไร้แสงดาว มีเพียงแสงไฟสีส้มสลัวจากเสาไฟถนนที่กระพริบติดๆ ดับๆ ส่องกระทบตู้คอนเทนเนอร์สนิมเขรอะที่วางเรียงรายเป็นเขาวงกตรถสปอร์ตคันหรูของนาวินจอดซุ่มอยู่ในเงามืดห่างจากจุดนัดพบออกมาพอสมควร เขาดับเครื่องยนต์และไฟหน้ารถ เหลือเพียงความเงียบสงัดที่ถูกแทรกด้วยเสียงคลื่นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ซัดเข้าฝั่งเป็นระลอก"มั่นใจเหรอคะว่าไพโรจน์จะมาที่นี่" ธนิดาถามเสียงเบา มือเล็กกระชับปืนพกที่นาวินให้ไว้แน่นจนข้อนิ้วซีดขาว"ไพโรจน์ทำงานกับฉันมานาน เขาไม่เคยพลาดนัด" นาวินตอบสายตาจับจ้องไปที่ลานกว้างด้านหน้าโกดังหมายเลข 9 “แต่เพื่อความไม่ประมาท ถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอห้ามห่างจากฉันเด็ดขาดเข้าใจไหม""เข้าใจค่ะ" ธนิดาพยักหน้า แม้ในใจจะเต้นระรัวด้วยความกลัว แต่ความเชื่อใจที่มีต่อผู้ชายข้างกายทำให้เธอพร้อมจะก้าวตามเขาไปในทุกที่นาวินเปิดประตูรถแล้วค่อยๆ ก้าวลงสู่พื้นคอนกรีตที่เปียกชื้น เขาสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำทับเสื้อยืดเพื่อพรางอาวุธและบาดแผลที่ไหล่ซ้าย ธนิดาเดินตามลงมาติดๆ ลมแม่น้ำพัดแรงจนผมยาวสลวยของเธอปลิวไสวทั้งคู่เดินลัดเลาะไปตามแนวตู้คอนเทนเนอร์อย่างเงียบ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-24
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 8 (รีไรท์)
สายลมยามดึกพัดเอากลิ่นอับชื้นของแม่น้ำและกลิ่นขยะจางๆ มาแตะจมูก ซอยแคบๆ ในย่านชุมชนแออัดเก่าแก่ฝั่งธนบุรีเงียบสงัดไร้ผู้คน มีเพียงเสียงสุนัขเห่าหอนแว่วมาเป็นระยะ แสงไฟนีออนสีส้มกะพริบติดๆ ดับๆ ส่องให้เห็นร่างของชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินประคองกันมาอย่างทุลักทุเลสภาพของนาวินดูย่ำแย่จนแทบจำเค้าโครงเจ้าพ่อมาเฟียผู้สง่างามไม่ได้ เสื้อหนังสีดำขาดวิ่น เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำคลำและคราบเลือด ใบหน้าคมซีดเผือด ริมฝีปากแห้งผาก ขาทั้งสองข้างก้าวเดินอย่างเชื่องช้าโดยทิ้งน้ำหนักตัวเกือบทั้งหมดลงบนไหล่เล็กๆ ของหญิงสาวข้างกายธนิดากัดฟันแน่นแบกรับน้ำหนักของชายหนุ่มร่างโตด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แม้ขาของเธอจะสั่นจนแทบก้าวไม่ออก แต่เธอก็ไม่ปริปากบ่นสักคำ"อีกนิดเดียว..." นาวินกระซิบบอกทางเสียงแหบแห้ง ชี้มือสั่นๆ ไปยังตึกแถวเก่าคร่ำคร่าสามชั้นที่ตั้งอยู่สุดซอย "ตึกสีเขียว... นั่นแหละ"ธนิดาพยุงเขาไปหยุดที่หน้าประตูเหล็กยืดขึ้นสนิม นาวินล้วงมือเข้าไปในกระถางต้นไม้แห้งเหี่ยวหน้าบ้าน ควานหากุญแจดอกเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้ดินออกมา เขาไขกุญแจด้วยมือที่สั่นเทา เสียงแม่กุญแจดีดตัวออกดังกริ๊กเบาๆ ก่อนที่เขาจะเลื่อนป
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-25
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 9 (รีไรท์)
เช้าวันใหม่ในย่านชุมชนแออัดเริ่มต้นขึ้นด้วยเสียงจอแจของผู้คน เสียงแม่ค้าตะโกนขายของ และเสียงเครื่องจักรจากโรงงานแถวนั้น นาวินตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดระบมที่ลดน้อยลง แต่สิ่งที่ชัดเจนขึ้นคือความมุ่งมั่นในแววตาเขาไม่ได้นอนซมรอความตาย แต่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นไม้เก่าๆ ตรงหน้าเขามีแผนที่กระดาษที่วาดขึ้นเองอย่างหยาบๆ ด้วยปากกาเคมี และวิทยุสื่อสารเก่าคร่ำคร่าตัวหนึ่งที่เขารื้อออกมาซ่อมจนใช้งานได้ธนิดาเดินลงมาจากชั้นลอยพร้อมชามข้าวต้มร้อนๆ กลิ่นหอมฉุย เธอเห็นเขากำลังหมุนหาคลื่นวิทยุด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“คุณทำอะไรคะ?” เธอถามพร้อมวางชามข้าวต้มลงข้างๆ“ดักฟังวิทยุตำรวจ...” นาวินตอบโดยไม่ละสายตาจากเครื่องมือ “และหาช่องทางติดต่อคนเก่าคนแก่ แถวนี้เคยเป็นถิ่นของอากงฉัน ยังมีสายข่าวที่ไว้ใจได้หลงเหลืออยู่”เขารับชามข้าวต้มไปตักเข้าปาก รสชาติธรรมดาๆ จากฝีมือเธอทำเอาเขารู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด “อร่อย...”“แค่อร่อยก็พอแล้วค่ะ รีบกินจะได้กินยา” ธนิดายิ้มบางๆ ก่อนจะนั่งลงข้างเขา มองดูแผนที่ที่เต็มไปด้วยกากบาทสีแดง “แล้ว... เราจะเอายังไงต่อคะ คุณติดต่อคุณไพโรจน์ได้หรือยัง”สีหน้าของนาวินหม่นลงเล็ก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-26
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status