เสียงฝักบัวดังสม่ำเสมอในห้องน้ำเล็ก ๆไอน้ำลอยฟุ้งเกาะกระจกนิรินยืนก้มหน้ารับสายน้ำบนศีรษะโดยไม่ขยับไปไหนคืนนี้...เธออาบน้ำนานกว่าทุกครั้งฟองสบู่ค่อย ๆ ล้างสิ่งที่เธอไม่อยากจำ
ริมฝีปากยังคงได้กลิ่นน้ำหอมจากร่างผู้ชายคนอื่น แต่หัวใจกลับเต็มไปด้วยแค่ สัมผัสจากจมูกของพี่บอย...ที่กดลงหน้าผากเธอเบา ๆ เธอหลับตาปล่อยให้น้ำไหลผ่านตัวเหมือนจะล้างอะไรออกไปจากข้างใน ภาพเตียงในโรงแรมเสียงหัวเราะฝืด ๆ จากแขกสายตาของผู้ชายที่มองเธอเป็นแค่สินค้า... ทุกอย่างยังอยู่ในหัวแต่เหมือนมันเริ่มหลุดออกทีละนิด...เพราะจูบเดียวจากเขา ข้างนอกพี่บอยนั่งพิงผนังข้างเตียง มือถือเงียบเขาไม่ได้เลื่อนจอ ไม่เช็กแอป ไม่โทรหาใคร แค่นั่งอยู่ตรงนั้น...แบบที่พร้อมจะอยู่เสมอ ถ้าเธอเปิดประตูออกมาเมื่อเสียงฝักบัวหยุดลง เขาไม่ได้ลุกไปดูแต่เงยหน้าขึ้นนิดหน่อยสบตากับประตูห้องน้ำอย่างแนบแน่น...เหมือนจะบอกเธอว่า “ไม่ต้องล้างให้หมดก็ได้ พี่รับได้ แม้จะยังเหลือที่ว่างในใจ” นิรินอยู่ในเสื้อตัวโคร่งของเขา ตัวเดิมที่เขาแขวนไว้เงียบ ๆ ในตะกร้า เธอมองเขานิ่ง ๆผมยังเปียกตาแดงนิดหน่อยแต่ริมฝีปากเริ่มมีรอยยิ้มจาง ๆ “อาบน้ำนานเลยนะ” เขาพูดเบา ๆ เป็นครั้งแรก “ก็...อยากล้างทุกอย่างให้มันเบาขึ้นหน่อยค่ะ” “ล้างหมดไหม?” เธอส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหาแล้วนั่งลงบนพื้นข้างเขา ตัวเปียกยังพอซับได้ แต่ใจเปียกนี่...ต้องใช้เขาเช็ดเท่านั้น “ยังล้างไม่หมดหรอกพี่” “แต่หนูไม่เหนื่อยแล้วนะ ถ้ายังมีพี่อยู่ตรงนี้” เขาไม่พูดอะไรต่อ แค่เอื้อมมือไปเช็ดปลายผมเธอเบา ๆ ฝ่ามืออุ่น ๆ ของเขา...อาจไม่ใช่ผ้าเช็ดตัวแต่มันทำให้หัวใจเธอแห้งเร็วกว่าน้ำในผมเสียอีก ตัวเธอยังหอมกลิ่นสบู่แต่หัวใจ...กลับอุ่นขึ้นกว่าเดิมมาก นิรินนั่งอยู่ข้างเขา ใส่เสื้อยืดตัวโคร่งของเขา ไม่ได้ใส่อะไรข้างในเลย พี่บอยยังเงียบเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้...เขาขยับก่อน เขาโน้มหน้าเข้ามาริมฝีปากกดจูบลงบนหน้าผากเธออีกครั้ง แต่คราวนี้…จูบนั้นไม่หยุดแค่นั้นริมฝีปากเลื่อนไล้ลงมาที่ปลายจมูกแล้วเคลื่อนช้า ๆ สัมผัสริมฝีปากของเธออย่างนุ่มลึกลมหายใจผสมกันในจังหวะเดียว นิรินไม่ได้ถอยหนีเธอหลับตา...แล้วจูบเขาตอบกลับมือหนาของเขาวางลงบนต้นขาเธอเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ กดร่างเธอลงนอนกับฟูกนุ่มเสียงผ้าห่มยับเบา ๆ ตามแรงกดแต่ไม่มีความรุนแรง ไม่มีความเร่งเร้า มีแค่ความอ่อนโยน...ที่แน่นเสียยิ่งกว่าคำพูดใด ๆ นิรินมองหน้าเขานิ่ง ๆ ขณะพี่บอยค่อย ๆ ถอดเสื้อตัวโคร่งออกจากร่างเธอ แสงไฟหัวเตียงสลัวจนผิวเธอดูอ่อนและน่าทะนุถนอม เขาก้มลงใช้ปลายลิ้น จูก ลากผ่านเนินอก วนช้า ๆ จนเธอเผลอครางในลำคอเบา ๆ มืออีกข้างของเขาสอดเข้าใต้สะโพก ยกลำตัวเธอขึ้นนิด ก่อนจะก้มลง เลียร่อง อย่างเบามือที่สุด เธอสั่นนิด ๆแต่ไม่ใช่เพราะกลัวเธอกำลังรู้ว่า...แม้ ของเขาจะใหญ่ โตและแน่นหนา แต่เขากลับใช้มันกับเธออย่างเบามือที่สุดในชีวิตเธอ “พี่จะเบา...” เขากระซิบเบา ๆ ขณะจับขาเธอแยกออกอย่างใจเย็น แล้วค่อย ๆดันแท่งเนื้อใหญ่เข้าไปช้า ๆ ลึกๆทีละนิ้ว เธอขยุ้มผ้าปูเตียงแน่นหายใจติดขัดเล็กน้อย “ช้าอีกนิดนะคะ...มันใหญ่มาก” เขาจูบขมับเธอ แล้วพึมพำ “รู้...แต่จะไม่ให้เจ็บ” แท่งเนื้อทั้งลำแน่นเต็มร่องกลีบของเธออยางช้า ๆจนกระทั่งแนบสนิททั้งลำ เธอสั่นทั้งตัวแต่กลับรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาดเขาขยับช้าไม่เร่งไม่กระแทก มีแต่เสียงหายใจหนัก กับมือที่ลูบผมเธอตลอดทุกการกระแทกเบา ๆ ของเขา คือการกอดเธอจากข้างในทุกครั้งที่เขากดลึก...เธอรู้สึกเหมือนเขากำลังปิดรอยร้าวในใจให้เธอทีละชั้น เธอครางชื่อเขาเบา ๆ “พี่บอย…” เขาโน้มตัวลงจูบริมฝีปากเธออีกครั้ง ก่อนจะกระซิบกลับด้วยเสียงที่เบากว่าลมหายใจ “คืนนี้หนูไม่ต้องทำอะไรเลย...แค่มีพี่อยู่...พอก็พอแล้ว” และเขาก็ใช้แท่งเนื้อทั้งลำของเขา...กล่อมให้เธอหลับ ในจังหวะที่อบอุ่น อ่อนโยน และแน่นหนา…เหมือนเธอไม่เคยถูกใครทำร้ายมาก่อนเลย แสงแดดอ่อน ๆ ส่องลอดม่านเข้ามาแตะปลายเท้านิรินรู้สึกถึงอ้อมแขนอุ่น ๆ ที่กอดเธอแน่นจากด้านหลัง กลิ่นสบู่ของพี่บอยยังอยู่ชัดเจนไหล่ของเขายังเป็นที่พักศีรษะที่แน่นหนาเธอขยับตัวเบา ๆ แต่แขนของเขากลับรัดแน่นขึ้น…เหมือนจะบอกว่า “ยังไม่ให้ลุกไปไหน” เมื่อคืนเขาไม่พูดมาก แค่ใช้ทั้งร่างกายสื่อสารทุกอย่างกับเธอ และปล่อยให้ ของเขา…เป็นคำตอบสุดท้ายนิรินหันหน้ากลับไปมองเขา พี่บอยยังหลับตาอยู่ ใบหน้าขรึมแนบนิ่งกับหมอนมือของเขายังกุมมือเธอแน่น ใต้ผ้าห่มผืนบางที่ห่มร่วมกัน เธอกระซิบเบา ๆ “พี่บอย…” เขาลืมตาช้า ๆ มองเธอโดยไม่พูดแต่เธอกลับเป็นฝ่ายพูดก่อนครั้งแรก “คืนนี้...ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายใช่มั้ยคะ?” เขาไม่ตอบทันทีแต่ยื่นมือมาลูบผมเธอแผ่ว ๆแล้วกดจูบลงที่หน้าผากอีกครั้ง เหมือนคืนก่อนหน้า “แล้วแต่หนู…” “แต่พี่...ยังอยู่ตรงนี้” เธอยิ้มบาง ๆ แล้วซุกเข้าอกเขาหัวใจเธอเต้นแรงแต่ไม่ใช่เพราะเขาเร้าใจ เพราะเขา…ไม่เคยปล่อยเธอให้เหงาเลย แม้สักวินาทีเมื่อเธอลุกไปอาบน้ำเขาก็จัดเตียงอย่างเงียบ ๆ ล้างแก้วน้ำพับเสื้อผ้าที่เธอถอดเมื่อคืนวางไว้อย่างเรียบร้อยไม่มีเสียงใดในห้อง แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขา…เริ่มดังขึ้นในใจทีละน้อย และตอนที่เธอออกมาจากห้องน้ำเขาก็ยังอยู่ตรงนั้น ใส่เสื้อวินเดิม พร้อมพาเธอไปเรียนอีกวันเหมือนเดิม แต่ใจเธอ...ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกสบายใจหรือปลอดภัย แต่มันเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านั้น เป็นความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ และมั่นคงในทุกช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้กันคืนนั้นนิรินกลับห้องดึกกว่าปกติเสื้อผ้าเปียกเหงื่อ ผ้ากันเปื้อนเปื้อนซอสมือแดงแห้งจากน้ำยาล้างจานแต่ยังยิ้มให้พี่บอยเหมือนเดิม…แม้จะเหนื่อยจนพูดแทบไม่ออก“วันนี้คนแน่นจังค่ะ...”“...แต่ได้เงินทิปตั้ง 200 แน่ะ”เธอยื่นเหรียญกับแบงก์ยับ ๆ ให้เขาดูเหมือนเด็กโชว์ของขวัญหลังสอบเสร็จพี่บอยรับมา…แล้วยิ้มนิดเดียวไม่ใช่เพราะดีใจที่เธอได้เงินแต่เพราะเจ็บที่รู้ว่าเธอดีใจแค่ “200 บาท”คืนนั้นเธออาบน้ำนานเขาเลยเก็บกระเป๋าเธอให้มือถือของเธอวางคว่ำอยู่บนหมอนแต่เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นติดกัน 2-3 ครั้งหน้าจอสว่างขึ้น…แล้วดับและขึ้นอีกครั้ง…เขาไม่ได้ตั้งใจจะดูแต่ชื่อที่เด้งขึ้นมาทำให้เขาสะดุดสายตา“น้องกันต์" (นิวัฒน์)ไม่รู้ว่าเธอลืมล็อกไว้ หรือฟ้าอยากให้เขารู้มือเขาสั่นน้อย ๆ ขณะกดเข้าแชทข้อความล่าสุดจากน้องชายวัย 14 ปีที่ส่งมาตอนเธอเลิกงานประมาณห้าทุ่ม“พี่ หนูเห็นพวกญาติมาอีกแล้ว บอกจะเอาโฉนดคืน”“แม่ยังไอไม่หยุดเลย ไม่ยอมกินข้าวด้วย”“หนูบอกแม่ว่า พี่ไปทำงานรับจ๊อบใกล้มหาลัยร้านกาแฟ…”“พี่…พอได้มั้ย หนูรู้หมดแล้วว่าเพี่ไปที่ไหนทำอะไร”“แต่หนูไม่พูด เพราะหนูรู้…ว่าพี่ทำเพื่อต่อชีวิตแม่ กับหนี้บ้
หลังจากกินข้าวเช้าร่วมกันเงียบ ๆพี่บอยก็ขี่วินไปส่งนิรินที่หน้าคณะเหมือนทุกวัน นิรินลงจากรถ แล้วยิ้มให้เขาเบา ๆ “เย็นนี้...หนูจะรออยู่ที่นี่เลยนะคะ อย่าลืมมารับนะ” เขาพยักหน้า ไม่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ทั้งวันนั้น นิรินเรียนตามปกติ แต่ไม่มีการแต่งหน้าเตรียมตัว ไม่มีชุดพับไว้ในกระเป๋าผ้า ไม่มีแชทคุยกับแขก มือถือของเธอขึ้นแจ้งเตือนหลายครั้ง “คืนนี้ว่างมั้ยครับ?” “เงียบไปเลยนะน้อง” “ต้องให้โอนเพิ่มมั้ย?” แต่เธอแค่กดลบโดยไม่ตอบกลับ เพื่อนยังคุยกันเรื่องติวสอบ เรื่องผู้ชาย เรื่องการฝึกงานส่วนเธอ...นั่งเงียบ แต่น้ำหนักบนอกกลับเบากว่าทุกวัน พอเรียนเลิกเธอยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ข้างลานหน้าอาคารพี่บอยขี่รถมาจอดตรงหน้า วันนี้เขามาถึงเร็วกว่าทุกวัน เหมือนใจเขาเอง...ก็รีบกลับมาเธอสวมหมวกกันน็อก แต่แทนที่จะซ้อนขึ้นไปเหมือนเคย เธอแตะบ่าเขาเบา ๆ แล้วพูด “วันนี้...หนูไม่ไปที่เดิมนะคะ” พี่บอยชะงักเล็กน้อยเขาหันมามองเธอแววตาไม่ได้ตกใจ...แต่มันมีบางอย่างที่ “อ่อนลง” ชัดเจน “แล้ว...จะไปไหน” “อยากเดินเล่นค่ะ ไปตลาดนัดข้างมหาลัยกันไหม?” เธอยิ้ม ยิ้มแบบที่เขาไม่ค่อยเห็นเขาพยักหน้า แล้วออกรถช้า
เสียงฝักบัวดังสม่ำเสมอในห้องน้ำเล็ก ๆไอน้ำลอยฟุ้งเกาะกระจกนิรินยืนก้มหน้ารับสายน้ำบนศีรษะโดยไม่ขยับไปไหนคืนนี้...เธออาบน้ำนานกว่าทุกครั้งฟองสบู่ค่อย ๆ ล้างสิ่งที่เธอไม่อยากจำริมฝีปากยังคงได้กลิ่นน้ำหอมจากร่างผู้ชายคนอื่นแต่หัวใจกลับเต็มไปด้วยแค่ สัมผัสจากจมูกของพี่บอย...ที่กดลงหน้าผากเธอเบา ๆเธอหลับตาปล่อยให้น้ำไหลผ่านตัวเหมือนจะล้างอะไรออกไปจากข้างในภาพเตียงในโรงแรมเสียงหัวเราะฝืด ๆ จากแขกสายตาของผู้ชายที่มองเธอเป็นแค่สินค้า...ทุกอย่างยังอยู่ในหัวแต่เหมือนมันเริ่มหลุดออกทีละนิด...เพราะจูบเดียวจากเขาข้างนอกพี่บอยนั่งพิงผนังข้างเตียง มือถือเงียบเขาไม่ได้เลื่อนจอ ไม่เช็กแอป ไม่โทรหาใครแค่นั่งอยู่ตรงนั้น...แบบที่พร้อมจะอยู่เสมอ ถ้าเธอเปิดประตูออกมาเมื่อเสียงฝักบัวหยุดลงเขาไม่ได้ลุกไปดูแต่เงยหน้าขึ้นนิดหน่อยสบตากับประตูห้องน้ำอย่างแนบแน่น...เหมือนจะบอกเธอว่า“ไม่ต้องล้างให้หมดก็ได้ พี่รับได้ แม้จะยังเหลือที่ว่างในใจ”นิรินอยู่ในเสื้อตัวโคร่งของเขา ตัวเดิมที่เขาแขวนไว้เงียบ ๆ ในตะกร้าเธอมองเขานิ่ง ๆผมยังเปียกตาแดงนิดหน่อยแต่ริมฝีปากเริ่มมีรอยยิ้มจาง ๆ“อาบน้ำนานเลยนะ”เขาพูดเบา ๆ
ท้องฟ้ายามเย็นค่อย ๆ กลืนแสงแดดจนกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มเสียงวินมอเตอร์ไซค์ดังสลับกับเสียงรถยนต์บนถนนที่เริ่มแน่นขึ้นในเวลาเลิกงานนิรินยืนอยู่หน้าหอในมือถือกระเป๋าผ้าใบเล็ก เสื้อผ้าและของใช้ที่เธอเตรียมไว้สำหรับ “นัด” คืนนี้วันนี้เธอมีแขกอีกคนเวลาทุ่มตรงสถานที่...โรงแรมเดิมพี่บอยขี่วินมาจอดตรงหน้าโดยไม่ถาม ไม่ทักเขาแค่ยื่นหมวกกันน็อกให้เธอเหมือนทุกครั้ง“ไปเลยไหม”น้ำเสียงเขาราบเรียบเหมือนเคยแต่แววตา...กลับดูอ่อนกว่าเมื่อคืนบนรถ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีบทสนทนามีแค่ลมหายใจของทั้งสองคนที่พัดผ่านกลางอากาศเย็น ๆเธอกอดเอวเขาแน่นกว่าทุกครั้งแต่เขาไม่พูดสักคำเมื่อถึงหน้าโรงแรมพี่บอยจอดรถตรงจุดเดิม เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมานิรินลงจากรถช้า ๆ แล้วคืนหมวกกันน็อกให้เขา“ขอบคุณนะคะ...”เธอพูดเบา ๆ เหมือนกลัวเขาจะได้ยินแต่พี่บอยแค่พยักหน้า ไม่ยิ้ม ไม่ถามไม่มีคำว่า “ใคร”ไม่มีคำว่า “กี่โมงจะกลับ”เขาแค่มองเธอแล้วพูดเพียงคำเดียว...“ฝนจะตก...อย่าลืมพกร่ม”นิรินยืนมองรถวินของเขาขี่ห่างออกไปจากลานหน้าโรงแรมใจเธอกลับหนักกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะงานคืนนี้แต่เพราะผู้ชายคนนั้นไม่พูดอะไรเลยทั้งที่เธอรู้ว่าเขารู้เข
เสียงเครื่องวินจอดลงหน้าหอพักท้ายซอยพี่บอยดับเครื่อง แล้วมองตึกแถวสามชั้นที่อยู่ไม่ไกลจากปากทางนิรินพักอยู่ที่นี่ ชั้นสอง ห้อง 2Bเขาเคยขี่ผ่านนับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีเหตุให้ขึ้นมาเองคืนนี้…เขาไม่ได้แค่ขึ้นมาแต่กลับ “เลือกจะอยู่” ต่อด้วยใจตัวเองเขาพาเธอขึ้นบันไดทีละขั้น ช้าและมั่นคงในตอนที่เปิดประตูห้องเข้ามากลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ผสมกลิ่นแชมพูในห้องของผู้หญิงคนหนึ่งตีขึ้นมาทันทีไม่มีรูปผู้ชายไม่มีของตกแต่งมากนักมีแค่เตียงเดี่ยวสีขาวโต๊ะเครื่องแป้งกับกระดาษโน้ตเล็ก ๆ ที่เขียนว่า “วันนี้แขก 2 ทุ่ม”เขาหยิบโน้ตใบนั้นขึ้นมา มองเงียบ ๆก่อนจะฉีกมันทิ้งแล้วโยนลงถังขยะนิรินนอนบนเตียง กึ่งหลับกึ่งตื่นพี่บอยถอดเสื้อวินพาดเก้าอี้ แล้วขึ้นมานอนข้างเธอกอดจากด้านหลังอย่างแนบแน่นไม่ได้ขอสิทธิ์แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธคืนนี้เขาไม่ได้กลับห้องแต่กลับ มีกุญแจหัวใจของใครบางคน ติดตัวไปด้วยแทนเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือดังแผ่วในห้องเช่าชั้นสองนิรินงัวเงียเอื้อมมือไปกดมันโดยไม่ลืมตาเธอกำลังจะพลิกตัวไปอีกข้าง...แต่แล้วฝ่ามืออุ่น ๆ ที่วางอยู่บนเอวก็ทำให้เธอชะงักพี่บอย...ยังอยู่ตรงนี้เขายังนอน
แสงจากหลอดไฟหัวเตียงสลัว ๆ ฉายเงาร่างเปลือยเปล่าของคนทั้งสองไว้ในความเงียบพี่บอยนอนเอนพิงพนัก หอบหายใจช้าแต่แรง มือข้างหนึ่งยังลูบผมนิรินราวกับกลัวเธอจะละลายหายไปนิรินซบอกเขาอยู่ครึ่งตัว แต่อีกครึ่งกลับคุกเข่าลงต่ำกว่าดวงตาเธอหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าแท่งเนื้อที่แข็งขึงของเขา ที่ชูตระหง่านแน่นหนายาว หนัก และน่าเกรงขามกว่าที่เธอเคยเห็นมันน่ากลัว...แต่น่าดึงดูดยิ่งกว่าไม่ใช่เพราะหน้าที่ ไม่ใช่เพื่อเงินแต่เพราะนี่คือของคนที่เฝ้ามองและโอบอุ้มเธออย่างเงียบงันมาตลอดนิรินเลียริมฝีปากช้า ๆ ก่อนโน้มหน้าปลายลิ้นแตะเบา ๆ ที่โคนลำแท่งแล้วลากไล้ขึ้นตามแนวยาวทีละน้อยเสียงหายใจพี่บอยสะดุดต่ำ ๆ“นิริน…” เขาเรียกชื่อเสียงแหบพร่าแต่เธอไม่หยุดริมฝีปากอุ่นค่อย ๆ ครอบหัวหยักชื้น ๆ ไว้ทั้งดวงแล้วกลืนแท่งเอ็นลงไปทีละคืบ จนแทบสุดลำ ก่อนจะถอนออกพร้อมเสียงดูดดังเบา ๆพี่บอยกำผ้าปูแน่น สะโพกกระตุกเล็กน้อย แต่ยังไม่กล้าแตะต้องเธอปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายเลือกทุกจังหวะปากเล็กทั้งดูด ทั้งดุน ทั้งเลีย ปลายลิ้นตวัดวนไม่หยุดมือหนึ่งประคองฐานแน่น อีกมือไล้ตามท่อนข้างลำทุกการขยับทำให้เขาสั่นสะท้านจนหายใจติดขัด“พอ