Home / โรแมนติก / สัญญาในอ้อมกอด / ตอนที่ 7 เย็นนี้ไม่มีแขก...มีแค่เขาคนเดียว

Share

ตอนที่ 7 เย็นนี้ไม่มีแขก...มีแค่เขาคนเดียว

last update Last Updated: 2025-09-10 19:43:58

หลังจากกินข้าวเช้าร่วมกันเงียบ ๆพี่บอยก็ขี่วินไปส่งนิรินที่หน้าคณะเหมือนทุกวัน

นิรินลงจากรถ แล้วยิ้มให้เขาเบา ๆ

“เย็นนี้...หนูจะรออยู่ที่นี่เลยนะคะ อย่าลืมมารับนะ”

เขาพยักหน้า ไม่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

ทั้งวันนั้น

นิรินเรียนตามปกติ แต่ไม่มีการแต่งหน้าเตรียมตัว ไม่มีชุดพับไว้ในกระเป๋าผ้า ไม่มีแชทคุยกับแขก

มือถือของเธอขึ้นแจ้งเตือนหลายครั้ง

“คืนนี้ว่างมั้ยครับ?”

“เงียบไปเลยนะน้อง”

“ต้องให้โอนเพิ่มมั้ย?”

แต่เธอแค่กดลบโดยไม่ตอบกลับ

เพื่อนยังคุยกันเรื่องติวสอบ เรื่องผู้ชาย เรื่องการฝึกงานส่วนเธอ...นั่งเงียบ แต่น้ำหนักบนอกกลับเบากว่าทุกวัน

พอเรียนเลิกเธอยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ข้างลานหน้าอาคารพี่บอยขี่รถมาจอดตรงหน้า วันนี้เขามาถึงเร็วกว่าทุกวัน

เหมือนใจเขาเอง...ก็รีบกลับมาเธอสวมหมวกกันน็อก

แต่แทนที่จะซ้อนขึ้นไปเหมือนเคย เธอแตะบ่าเขาเบา ๆ แล้วพูด

“วันนี้...หนูไม่ไปที่เดิมนะคะ”

พี่บอยชะงักเล็กน้อยเขาหันมามองเธอแววตาไม่ได้ตกใจ...แต่มันมีบางอย่างที่ “อ่อนลง” ชัดเจน

“แล้ว...จะไปไหน”

“อยากเดินเล่นค่ะ ไปตลาดนัดข้างมหาลัยกันไหม?”

เธอยิ้ม ยิ้มแบบที่เขาไม่ค่อยเห็นเขาพยักหน้า แล้วออกรถช้า ๆมือของเธอกอดเอวเขาแน่นเหมือนเดิม

แต่ใจของเขาเริ่มไม่เหมือนเดิมเธอไม่แต่งหน้าไม่มีน้ำหอมกลิ่นเดิมไม่มีโน้ตติดกระจกหน้าห้อง

ไม่มีการเตรียมตัวเป็น "ใครก็ได้"วันนี้...เธอเป็นแค่นิรินที่อยากเดินเล่นกับเขา

ตลาดนัดช่วงเย็นคึกคักเสียงเพลงจากลำโพงร้านน้ำปั่นดังกลบเสียงเครื่องปั่นไฟ

เธอซื้อไก่ปิ้งสองไม้กับนมเย็นหนึ่งแก้วแล้วยื่นให้อีกแก้วกับพี่บอยแบบไม่พูด

เขารับไว้เงียบ ๆไม่กล้าถามอะไรแต่ใจเขา...เต็มไปด้วยคำถาม

“ไม่ไปรับแขกเหรอ?”

“เหนื่อยหรือเปล่า?”

“หนู...เปลี่ยนไป หรือพี่แค่คิดไปเอง?”

แต่สุดท้าย เขาก็ไม่พูด

เพราะกลัวว่า ถ้าเอ่ยคำถามออกไป เธออาจไม่ชวนเขามาเดินเล่นอีก

เขาเลยแค่เดินข้าง ๆเงียบ ๆและบอกตัวเองว่า...

ต่อให้เธอยังไม่หยุดทำงานนั้น…แค่วันนี้เธอเลือกพี่ มันก็พอแล้ว

หลังจากเดินตลาดนัด

พี่บอยก็พาเธอกลับหอเหมือนเคย

นิรินเงียบลงเล็กน้อยหลังมื้อเย็น เธอดูเหนื่อยง่ายกว่าทุกวัน

เดินช้าลงเล็กน้อยและมีท่าทางระแวงเหมือนกำลังพยายามปกปิดอะไรบางอย่าง

เมื่อเข้าห้อง เธอรีบเข้าห้องน้ำทันทีเสียงเปิดซองผ้าอนามัยดังเบา ๆ ในห้องน้ำ…พอให้คนที่นั่งอยู่ด้านนอกได้ยินถ้าเงียบพอและพี่บอย…ก็เงียบพอจะได้ยิน

เขาไม่ถาม

ไม่แม้แต่จะเอียงหูฟัง

แต่เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ ให้ตัวเอง เหมือนเข้าใจทุกอย่างแล้วนิรินออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อยืดตัวเดิมของเขา

เธอเดินช้าลง แววตาเจือความกังวล

“วันนี้...หนูคงไม่ได้ทำอะไรนะคะ”

“ขอโทษนะ ถ้าพี่อยาก…”

“ไม่อยาก”

เขาตอบทันที ขัดเธอกลางประโยคสายตาพี่บอยนิ่งแต่ในแววตานั้นมีอะไรบางอย่างที่เหมือนจะพูดว่า

“ไม่ต้องขอโทษเลย เพราะหนูไม่ใช่ของพี่แบบนั้น”

เขาขยับตัวบนฟูก

แล้วเปิดผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นอย่างเงียบ ๆ

“มานี่”

เสียงสั้น ๆ แต่หนักแน่น

นิรินชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เดินไปนั่งข้างเขา

และเอนตัวลงในอ้อมแขนของเขาอย่างวางใจ

เขากอดเธอไว้แน่นจากด้านหลังมือหนึ่งกุมมือเธอ อีกมือลูบผมเบา ๆ

หัวใจของเธอเต้นแรงแต่สงบ เหมือนถูกกล่อมด้วยอ้อมแขนแทนเสียงดนตรี

คืนนั้น ไม่มีเสียงเตียง

ไม่มี sex

มีแต่ผ้าห่มผืนใหญ่ กับอ้อมกอดจากชายคนหนึ่งที่ไม่ต้องการอะไรจากเธอเลย

แค่ได้อยู่ข้างกัน…ก็เพียงพอแล้ว

ก่อนเธอจะหลับเขากดจมูกลงบนหน้าผากเธอเบา ๆ อีกครั้ง

แล้วพูดเสียงแผ่วที่สุดในรอบหลายวัน

“ไม่ต้องเป็นของใครทั้งนั้นคืนนี้...เป็นของพี่พอแล้ว”

เวลาผ่านไปหลายวันไม่มีโน้ตหน้าห้องไม่มีน้ำหอมกลิ่นเดิมไม่มีสายจากแขกยามค่ำ

มีแค่...กลิ่นเสื้อยืดเก่า ๆ จากร้านอาหารเสียงล้างจานในหลังร้าน

และปลายนิ้วแดง ๆ จากการถือแก้วน้ำแข็งทั้งคืนพี่บอยยังคงไปรับไปส่งนิรินเหมือนเดิม

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ ปลายทาง

เขาไม่ได้ไปส่งเธอที่โรงแรมอีกแต่ไปส่งที่ร้านอาหารตามสั่งแถวแยก

หรือบางคืน...ก็ร้านเหล้าหัวมุมที่เด็กมหาลัยนั่งกันโหวกเหวกเขาขี่วินมาจอดตรงเวลา

มองเธอเดินลงจากร้านด้วยเสื้อพนักงานสีหม่นมีผ้ากันเปื้อนพาดไหล่ผมเธอมัดลวก ๆ

หน้าไม่ได้แต่งแต่มือเปื้อนน้ำมันล้างจานเขาไม่ได้พูดอะไร

ไม่ได้ชมว่าเธอดีขึ้นไม่ได้ถามว่าเหนื่อยไหมแค่ยื่นผ้าเย็นให้แล้วพูดสั้น ๆ

“ขึ้นรถ”

บางคืนเธอชงเหล้าในร้านเล็ก ๆไม่ได้ขายตัวแค่ยืนยิ้ม ฝืน ๆถือแก้วเหล้าไปวางตามโต๊ะ

พูดคุยเบา ๆ กับลูกค้าแบบที่ไม่ต้องแตะตัวเขานั่งรออยู่นอกร้านเสมอไม่ได้เข้าไป

แต่เธอรู้ว่าเขารออยู่ตรงนั้น…ทุกคืนบางวันเธอเหนื่อยจนหลับบนรถหัวพิงหลังเขา

ลมหายใจอ่อน ๆ กระทบต้นคอเขาตลอดทางกลับหอ

เขาไม่เคยพูดแต่เธอรู้ว่าเขา “เห็น”และเพราะเขาไม่พูดนี่แหละ

เธอเลยอยากพยายามมากขึ้น แม้แค่ทีละก้าว

คืนหนึ่งขณะกำลังขี่รถพาเธอกลับเธอพิงแผ่นหลังเขาแน่นขึ้น แล้วกระซิบเบา ๆ

“พี่บอย...พี่เคยผิดหวังในหนูมั้ยคะ?”

เขาไม่ตอบทันทีขี่รถช้า ๆ ผ่านไฟแดง แล้วจอดตรงหน้าหอก่อนจะเอี้ยวตัวกลับมา

สบตาเธอด้วยสายตานิ่ง ๆ

“ไม่เคยเลย”

“หนูพยายามอยู่ พี่รู้”

แล้วเขาก็ยื่นมือมาแตะหัวเธอเบา ๆ

ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วแทบละลายทั้งหัวใจ

“เหนื่อยก็พัก…ไม่ต้องฝืนเป็นคนดีทันทีหรอก”

“แค่ไม่กลับไปเจ็บ...พี่ก็พอแล้ว”

นิรินก้มหน้า

น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ

เพราะเธอไม่เคยรู้มาก่อนว่า...การมีคนที่ “ไม่หวังอะไร” จากเรา มันอบอุ่นขนาดนี้

ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาข้างเขา ทุกคืนที่ได้ซบลงบนแผ่นหลังของเขา นิรินรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังได้รับการเยียวยาอย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอ

เธอรู้ว่าหนทางข้างหน้าอาจยังอีกยาวไกล และบาดแผลในใจของเธออาจต้องใช้เวลาในการรักษา แต่การมีพี่บอยอยู่ข้างๆ ผู้ชายที่เข้าใจเธอโดยไม่ต้องพูดอะไร ทำให้เธอรู้สึกถึงความหวังและแรงผลักดันที่จะก้าวต่อไป

เธอไม่จำเป็นต้องเป็น "คนดี" ในพริบตา ไม่ต้องฝืนทำอะไรที่เกินตัว แค่เพียงพยายามและไม่กลับไปทำร้ายตัวเองอีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ และนั่นก็เพียงพอสำหรับเธอแล้ว

ในทุกๆ วันที่ผ่านไป ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น ความเงียบของเขากลายเป็นภาษาที่เข้าใจกันดีที่สุด และในอ้อมกอดของเขา นิรินก็พบกับความสงบที่แท้จริง ซึ่งไม่เคยมีใครมอบให้เธอได้มากเท่านี้มาก่อน

เธอจะยังคงก้าวเดินต่อไป ทีละก้าว ช้าๆ แต่มั่นคง พร้อมกับความอบอุ่นจากใจที่ "ไม่หวังอะไร" ของพี่บอย ที่คอยโอบกอดเธอไว้เสมอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนพิเศษ อ้อมกอดยามค่ำคืน

    ค่ำคืนบ้านสวนที่สงบเงียบ แสงไฟสลัวในห้องนอนอาบไล้ผ้าม่านสีขาวให้ดูนุ่มนวล หนูนิดหลับสนิทอยู่ในเปลเล็กที่วางมุมห้อง เหลือเพียงพี่บอยกับนิรินที่ได้นอนเคียงกันในเตียงใหญ่นิรินหันมามองสามี ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ยังมีแววอบอุ่นที่คงเส้นคงวา เธอเอื้อมมือเล็กไปคว้ามือเขามากุม ก่อนค่อย ๆ ดันลงต่ำช้า ๆ“หนูคิดถึงพี่…” เสียงกระซิบแผ่วพร่าแฝงแรงปรารถนาพี่บอยเลิกคิ้วเล็กน้อย แววตาคมเข้มวูบไหว ก่อนที่ริมฝีปากจะโค้งขึ้น นิรินก้มหน้าลงช้า ๆ ใช้ความอ่อนโยนของเธอปลุกเร้าความเป็นชายของเขา ริมฝีปากอุ่นครอบลงแก่นกายที่แข็งร้อนขึ้นทุกทีเสียงลมหายใจของพี่บอยดังพร้อมกับจังหวะการดูดกลืนที่เร่งเร้า นิรินละเลียดไปตามความยาว ลิ้นนุ่มปาดชื้นจนแท่งอุ่นร้อนสั่นสะท้าน เขาเอื้อมมือหนาวางบนเรือนผมเธอ กดเบา ๆ คล้ายทั้งปลอบ ทั้งปรนเปรอ“หนู…” เสียงทุ้มกระซิบเบาๆ “รู้ตัวไหมว่าพี่แทบขาดใจ”นิรินเงยหน้าขึ้น ดวงตาเปล่งประกายพราวระยิบ แววหวานผสานแรงรัก ก่อนจะกลับลงไปลิ้มรสอีกครั้ง จังหวะรุกเร้าทำให้พี่บอยสูดหายใจลึก ร่างกายเกร็งแน่น ความเสียวแล่นพล่านขึ้นจนถึงสันหลังเสียงลมหายใจของพี่บอยขาดห้วงขึ้นทุกท

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนพิเศษ 5

    หลังจากหนูนิดลืมตาดูโลก ครอบครัวใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯ อยู่พักใหญ่ จนวันที่พี่บอยตัดสินใจพากลับบ้านสวน ให้ลูกเติบโตท่ามกลางอากาศดีและความรักของทุกคนส่วนบ้านกับตึกที่กรุงเทพฯ เขาเลือกเก็บไว้ ฝากให้น้องกันต์ดูแลยามไปเรียนหรือมีงานในเมือง พี่บอยพูดเพียงสั้น ๆ แต่ชัดเจน “ถือว่าพี่ฝากด้วยนะ”มันไม่ใช่แค่การมอบความรับผิดชอบ แต่คือการส่งต่อความไว้ใจและการซัพพอร์ทอย่างเต็มที่คาเฟ่รั้วเอียงในสวนมะม่วงยังคงคึกคักทุกวัน กลิ่นกาแฟหอมผสมกลิ่นใบไม้ เสียงหัวเราะใส ๆ ของหนูนิดที่หัดเดินเกาะรั้วไม้เอียง ทำให้ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวากันต์เพิ่งกลับจากกรุงเทพฯ เข้ามาเห็นภาพตรงหน้าแล้วเผลอยิ้มออกมา ความเหนื่อยล้าจากการเรียนและงานที่แบกไว้เหมือนเบาลงทันที เขาก้มลงอุ้มหลานขึ้นมา หนูนิดหัวเราะคิกแล้วเอื้อมมือไปแตะจมูกน้าชาย ทุกคนในร้านหัวเราะตามเสียงเด็กไปพร้อมกันแม่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ ยกมือปาดหางตาเล็กน้อยก่อนยิ้มกว้าง “แม่ไม่ห่วงอะไรอีกแล้ว…ขอแค่เห็นทุกคนอยู่พร้อมหน้าแบบนี้ แม่ก็สุขใจที่สุด”นิรินหันไปสบตาพี่บอย รอยยิ้มเธอสั่นไหวเล็กน้อยเพราะซึ้งจนพูดไม่ออก เขาเพียงยกแก้วกาแฟวางลงบนเคาน์เตอ

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนพิเศษ 4

    หลังจากที่หนูนิดลืมตาดูโลก บ้านที่กรุงเทพฯ ของพี่บอยกับนิรินก็ไม่เคยเงียบเหงาอีกเลย ตลอดหนึ่งถึงสองปีนั้น คนเช่าตึกที่คุ้นเคยกันต่างแวะเวียนมาหาไม่ขาด ทั้งช่วยซื้อของเข้าบ้าน เอาของเล่นเด็กมาให้ หรือแค่แวะมานั่งคุยเป็นเพื่อนทั้งกลางวันหรือยามค่ำคืนหนูนิดค่อย ๆ โตขึ้น จากเด็กน้อยในผ้าอ้อม กลายเป็นเจ้าตัวเล็กที่เริ่มหัดเกาะคลานไปทั่วบ้าน เสียงหัวเราะใส ๆ ของเธอทำให้ทุกคนในบ้านมีพลังใจอย่างบอกไม่ถูกน้องกันต์ ตอนนั้นเพิ่งอายุยี่สิบเต็ม กำลังอยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ทั้งต้องเรียน ทั้งต้องรับงานช่วยครอบครัว แต่ก็ไม่เคยหายหน้าจากบ้าน เขามักกลับมาหาหนูนิดเสมอ คอยอุ้ม คอยเล่น พอเห็นหลานหัวเราะก็ลืมความเหนื่อยไปชั่วคราวหลายครั้งที่พี่บอยมองเห็นแววความกดดันในแววตาเด็กหนุ่ม เขาไม่ได้พูดพร่ำยืดยาว แค่ตบไหล่เบา ๆ หรือยกแก้วน้ำวางให้ตรงหน้าแล้วพูดสั้น ๆ“เหนื่อยก็พักบ้างนะกันต์…พี่อยู่ตรงนี้ ไม่ต้องห่วง”คำน้อย ๆ แต่กลับเป็นแรงซับพอร์ทที่มั่นคงที่สุดสำหรับกันต์ เสมือนบอกเขาว่าต่อให้เส้นทางชีวิตหนักหนาแค่ไหน ก็ยังมีบ้านหลังนี้ที่พร้อมโอบรับอยู่เสมอในค่ำคืนเงียบสงบ พี่บอยมักนั่งอุ้มหนูนิดอยู่ตรงระ

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนพิเศษ 3

    ลมเย็นปลายฝนพัดผ่านสวนมะม่วงในยามเช้า พี่บอยยืนเก็บของลงท้ายรถยนต์อย่างเงียบ ๆ แม่เดินออกมาจากครัว มือหิ้วถุงผ้าผักสวนครัวติดมาด้วยนิรินยืนลูบท้องโตที่เริ่มทำให้เดินเหินไม่ค่อยถนัดนัก สายตาเธอมองไปรอบ ๆ บ้านสวนเงียบ ๆ อย่างผูกพัน “แม่… หนูคิดถึงบ้านหลังนี้จัง”แม่ยกมือแตะไหล่ลูกสาว ยิ้มอ่อน “ไม่ต้องห่วงหรอกลูก เดี๋ยวคลอดเสร็จ กลับมาด้วยกันอีก บ้านสวนก็ยังรอเราอยู่เสมอ”เต้าหู้เห่าเหง่ง ๆ วิ่งวนรอบขาเหมือนรู้ว่ากำลังจะออกเดินทาง พี่บอยก้มลงลูบหัวมันเบา ๆ “ไปด้วยกันนะไอ้เต้าหู้” หมาจอมซนส่ายหางแรง ๆ ตอบรับทันทีเมื่อทุกอย่างพร้อม ทั้งครอบครัวจึงขึ้นรถออกจากสวนที่อยู่มานานหลายปี เสียงประตูรั้วไม้เอียงปิดเบา ๆ ทิ้งไว้เพียงความทรงจำนิรินนั่งเอนพิงเบาะ มือกุมท้องแน่นทุกครั้งที่ลูกดิ้น พี่บอยเหลือบตามองเป็นระยะ มืออีกข้างวางบนหน้าขาเธออย่างอบอุ่นมือถือดังขึ้น น้องกันต์ส่งไลน์มา “พี่ ถึงไหนแล้ว ผมกับหมาจรที่เก็บมาเลี้ยงรออยู่ เต้าหู้จะได้มีเพื่อนแล้วนะ”นิรินยิ้มบาง ๆ “กันต์ตื่นเต้นใหญ่เลย”พี่บอยพยักหน้า “มันไม่เหงาหรอก มีทั้งหมา มีทั้งครอบครัวอยู่ด้วย”รถค่อย ๆ เลี้ยวเข้าประตูบ้านสองชั้น

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนพิเศษ 2

    แดดยามบ่ายอ่อนส่องลอดรั้วไม้เอียงเข้ามาในคาเฟ่ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นผสมกับกลิ่นขนมอบลอยอวลในบ้านที่เป็นทั้งร้านและที่พักอาศัยในเวลาเดียวกันนิรินกำลังจัดแจกันดอกไม้เล็ก ๆ บนโต๊ะหินข้างหน้าต่าง เต้าหู้นอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นไม้เหมือนเคย เธอไม่ได้เอะใจเลยว่าบรรยากาศวันนี้จะมีอะไรพิเศษกว่าทุกวันเสียงเครื่องยนต์รถดังมาจากหน้ารั้ว พี่บอยเดินเข้ามาพร้อมถุงกระดาษสีเรียบในมือ เขาไม่ได้พูดอะไร แค่เดินตรงมาวางไว้บนโต๊ะไม้กลางห้องครัว“พี่ซื้ออะไรมาเหรอคะ” นิรินถามอย่างสงสัยเขาเปิดถุงออก เผยให้เห็นกล่องเค้กจากร้านชื่อดังในตัวเมือง ริมฝีปากหยักยกยิ้มบาง ๆ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความหมายลึกซึ้ง“วันนี้… ครบรอบวันที่พี่กับหนูเจอกันครั้งแรก”นิรินชะงักไปทันที ดวงตากลมเบิกกว้าง น้ำตารื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “พี่…ยังจำได้เหรอคะ”พี่บอยพยักหน้าเบา ๆ “จำได้หมด…ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้”เธอหัวเราะทั้งน้ำตา ก้าวเข้าไปกอดเอวเขาแน่น “หนูไม่คิดเลยว่าพี่จะเป็นคนเซอร์ไพรส์แบบนี้”“พี่ไม่ได้เก่งเรื่องพวกนี้หรอก” เขาลูบผมเธอเบา ๆ “แต่พี่อยากให้หนูรู้…ว่าทุกวัน พี่ยังจำได้เสมอว่าหนูเข้ามาในชีวิตพี่ได้ยังไง”ทั้งคู่

  • สัญญาในอ้อมกอด   ตอนพิเศษ 1

    ค่ำคืนอากาศเย็นหลังฝน บ้านสวนเงียบสงบนิรินนั่งกอดหมอนอยู่บนโซฟา สีหน้าหงุดหงิดเพราะอาการคนท้อง พี่บอยเงียบ ๆ แต่ยกขันน้ำอุ่นมาให้จิบบรรเทา พอเห็นเธอทำหน้ายู่ ก็ไม่พูดอะไร แค่ขยับลงนั่งกับพื้นตรงหน้าแล้วค่อย ๆ นวดฝ่าเท้าให้“พี่…ไม่ต้องก็ได้ หนูไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั้นหรอก” เธอพึมพำเบา ๆ แต่ปลายนิ้วยังเกาะแขนเขาไว้ไม่ปล่อยพี่บอยแค่ส่ายหน้าเบา ๆ “ถ้าไม่สบายตัว…ก็ให้พี่ช่วย” เสียงทุ้มต่ำเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความมั่นคงนิรินเผลอหลับตา สูดหายใจลึกเมื่อความปวดเมื่อยค่อย ๆ คลายลง เธอซบหน้าลงกับอกเขาในที่สุด น้ำตาซึมเล็กน้อย “ถ้าไม่มีพี่…หนูคงแย่ไปแล้วจริง ๆ”พี่บอยก้มลงจูบหน้าผากเบา ๆ “ก็เพราะพี่อยากให้หนูไม่ต้องเหนื่อยคนเดียวอีกต่อไปแล้วไง”นิรินยกมือเล็กดึงชายเสื้อเขาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าเขาจะถอยหนี ใบหน้าที่เคยทำหน้างออยู่เมื่อครู่กลับแดงจัด ดวงตาสั่นระริกด้วยทั้งความหงุดหงิดและความปรารถนา“พี่… หนูหิวพี่จริง ๆ นะ” น้ำเสียงเธอสั่นแต่เด็ดขาดพี่บอยนิ่งไปนานพอสมควร แววตาคมเข้มกวาดมองเรือนกายที่เริ่มเปลี่ยนเพราะการตั้งครรภ์ เขาสูดหายใจลึก เหมือนจะกักเก็บสติที่เหลือ แต่ในที่สุดก็ยื่นมือมากอบก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status