จากวันกลายเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนเป็นปี โลกมนุษย์ทั้งอดีตเเละอนาคตผันผ่านไปตามกาลเวลา
กระบองเพชรน้อยต้นไม้จากเมืองมนุษย์ถูกนำลงสู่ยมโลก ได้ไอหยินเเละหยาดน้ำทิพย์จากสระมรกตหล่อเลี้ยงจนเริ่มมีพลังวิญญาณ ทว่ายังมิทันได้สร้างรูปลักษณ์ของตนเองขึ้นมา นางกลับถูกความมักง่ายของมหาเทพบรรพกาลนอกฝั่งฟ้าเล่นงาน โดนเปลี่ยนเเปลงวิญญาณด้วยพลังเทพ ต้องเข้าสู่วัฏสงสารเพื่อเวียนว่ายตายเกิด
บัดนี้นางถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์เต็มตัวแล้ว อิ๋งอิ๋งน้อยของเหยียนหลัวหวางมีชื่อใหม่ในชาติภพนี้ว่า 'หยูหนิง' เกิดในครอบครัวสกุลหยูที่มีฐานะค่อนข้างดี ทว่าตอนที่หยูหนิงเกิด ในห้องคลอดนั้นไร้เสียงร้องของทารกให้ได้ยิน มีเพียงความเงียบที่แผ่ขยาย ไม่ว่าคุณหมอหรือนางพยายาลจะใช้วิธีไหน เด็กน้อยก็เพียงแค่นอนมองตาเเป๋ว
ข่าวร้ายที่มาพร้อมการเกิดของลูกสาวทำให้ผู้เป็นเเม่เเทบหัวใจสลาย สามีที่เป็นช่างภาพไปถ่ายงานนอกสถานที่ เกิดอุบัติเหตุรถที่โดยสารพลิกคว่ำ เพราะคนขับรถบัสประมาทจึงทำให้สามีเสียชีวิต ทว่าคนในตระกูลหยูกลับพากันกล่าวโทษว่าเพราะลูกสาวเธอเป็นตัวซวย
เฮอะ สารเลว...เด็กเกิดมาจะไปรู้เรื่องอะไร รถบัสพลิกคว่ำเพราะคนขับหลับใน เด็กสามขวบยังคิดได้เลยว่าเป็นความประมาทของโชเฟอร์ แต่คนพวกนั้นกลับมากรีดร้องโวยวายว่าดวงชะตาลูกสาวเธอเกิดมาเป็นกาลกิณี ทำให้คนเป็นพ่อต้องมาเสียชีวิตในวันที่กำเนิด
ช่างไร้สาระจริงๆ ว่ามั้ย...
สองเเม่ลูกถูกหมู่ญาติรังเกียจ คนสกุลหยูต่างอ้างเหตุผลต่างๆ นานา แต่ลู่เมิ่งรู้ดีว่าเป็นเพราะสาเหตุใดบรรดาญาติพวกนั้นถึงหาเรื่องกีดกันพวกเธอ หยูซานสามีที่เสียไปเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของบ้านใหญ่ เเม้จะมีฐานะครอบครัวปานกลาง แต่เรื่องการเงินของเขานั้นไม่ด้อย เงินฝากและที่ดินพร้อมบ้านทำให้คนเหล่านั้นตาลุกวาวด้วยความละโมบ คนเหล่านั้นจึงต้องการกีดกันเธอกับลูก หวังจะหยิบเนื้อติดมันชิ้นนี้เข้ากระเป๋าตัวเอง
เเน่นอนว่าลู่เมิ่งย่อมรู้เท่าทัน และที่สำคัญเธอเองก็ไม่ใช่นางเอกในละครผู้แสนดี ที่จะได้ยอมให้ใครมาเอาเปรียบง่ายๆ ด้วยเหตุนี้มรดกของสามีจึงไม่ได้กระเด็นเข้ากระเป๋าคนพวกนั้นแม้แต่หยวนเดียว ด้วยพินัยกรรมเเละใบทะเบียนสมรสที่ถูกนำมาเเสดงอย่างถูกต้อง บรรดาญาติผู้หิวโหยจึงได้เเต่พากันก่นด่าประณามเธอกับลูกสาวเสียๆ หายๆ ซึ่งคุณเเม่ยังสาวผู้สตรองก็ทำเพียงเเค่ยิ้มหวานรับคำพูดเหล่านั้น
แต่ถ้าถามว่าแคร์ไหม ลู่เมิ่งตอบได้ทันทีเลยว่าไม่...
หลังจัดการเรื่องพิธีศพของสามีเสร็จสิ้น ลู่เมิ่งได้ตัดสินใจขายบ้านหลังใหญ่เพื่อตัดปัญหาจากพวกญาติๆ หน้าเงิน เธอพาลูกสาวมาอาศัยอยู่กับน้องสาวเเละน้องเขย ลู่ซีกับหลินไห่ต้อนรับลู่เมิ่งและหยูหนิงอย่างอบอุ่น พวกเขาสองคนสามีภรรยาไม่มีลูก จึงให้ความเอ็นดูหลานสาวเป็นอย่างมาก
วันเวลายังคงไหลผ่านไปเรื่อยๆ ไม่นานไม่ช้าก็ล่วงเลยไปปีกว่าเเล้ว
เพราะเกิดมาพร้อมกับความเงียบ ลู่เมิ่งจึงตั้งชื่อให้เด็กน้อยเพียงคำเดียวว่า 'หนิง' ที่มาจากคำว่าสงบ เธอหวังแค่ให้ลูกได้เติบโตขึ้นมาอย่างสุขสงบ ผู้เป็นแม่คิดอย่างปวดร้าวหลังจากพาลูกสาวไปทดสอบพัฒนาการ เธอฟังผลด้วยท่าทางนิ่งสงบและยอมรับมันเงียบๆ เมื่อคุณหมอพูดถึงปฏิกิริยาตอบสนองของหยูหนิง ที่มองอย่างไรก็ช้าเกินกว่าเด็กปกติทั่วไป
ระหว่างทางกลับหญิงสาวอุ้มลูกน้อยแวะไปยังหลุมศพของสามีที่ล่วงลับ ดวงตาคู่สวยเเดงก่ำเอ่อคลอด้วยน้ำใส พลางพร่ำบอกสามีที่จากไปว่าไม่ต้องเป็นห่วง เธอจะดูเเลลูกของพวกตนให้ดีที่สุด เเม้ว่าคุณหมอจะลงความเห็นเเล้วว่าหยูหนิงลูกสาวเธอเป็นเด็กพิเศษ...เด็กออทิสติกเเล้วก็ตาม
กาลเวลายังคงหมุนเดิน จากฤดูหนาวกลายเป็นร้อน จากร้อนมาเป็นฝน และแล้วก็เวียนบรรจบเป็นหนาวอีกครั้ง จนผ่านไปเนิ่นนานหลายปี
เเม้ว่าจะเป็นเด็กพิเศษเเต่หยูหนิงก็รู้ความเป็นอย่างยิ่ง นอกจากอาการตอบสนองที่ช้าไปกว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน เธอไม่เคยปรากฏปัญหาเรื่องอื่นในการใช้ชีวิตเลย นั่นทำให้คนเป็นเเม่ตัดสินใจส่งลูกสาวเข้าโรงเรียนประถมของเด็กปกติ
เด็กหญิงใช้ชีวิตเเบบคนปกติได้ไม่ลำบาก เธอเติบโตมาท่ามกลางความรักและการดูแลเอาใจใส่จากคนรอบข้าง จนกระทั่งหยูหนิงอายุได้สิบขวบ ลู่เมิ่งผู้เป็นเเม่ก็มาจากไปตลอดกาลด้วยโรคลูคีเมีย
ในงานศพของมารดา ร่างน้อยๆ ยืนสงบนิ่งไร้น้ำตาผิดกับเด็กวัยเดียวกัน ดวงตากลมโตคู่สีดำมองภาพตรงหน้าไม่กะพริบ
“ดูสิ ลูกสาวเจ้าหยูซาน เกิดมาก็ทำให้พ่อตายเเล้ว ฉันพูดผิดที่ไหนกัน เสียดายยายลู่เมิ่งไม่ยอมเชื่อ รั้นจะเลี้ยงเด็กนั่นเอง สุดท้ายเป็นไงก็ต้องตายเหมือนกัน”
“นั่นน่ะสิ เด็กนั่นมีดวงกินพ่อกินเเม่ กาลกิณีจริงๆ ใครนำไปเลี้ยงก็ต้องซวยไปด้วยแน่ๆ”
“แล้วอย่างนี้ใครจะเป็นคนรับเด็กหยูหนิงนั่นไปดูเเลต่อ”
เสียงซุบซิบนินทาในหมู่เครือญาติดังขึ้นเป็นช่วงๆ ลู่ซีตวัดสายตาขุ่นเคืองไปทางคนเหล่านั้น หากไม่เพราะนี่เป็นงานส่งวิญญาณของพี่สาว เธอคงกระโดดเข้าไปทำสงครามน้ำลายกับอีกฝ่ายเเล้วแน่นอน
คนพวกนี้แต่ละคนล้วนจอมปลอมทั้งนั้น พูดว่าหลานสาวเธอเสียจนไม่มีดี แต่ก็ยังกล้าเสนอหน้ามาออกปากรับดูเเล จะเพราะอะไรถ้าไม่ใช่เพราะเงินมรดกที่หนิงหนิงจะได้รับ พวกคนสารเลวเห็นเเก่ตัว!
ผู้มีศักดิ์เป็นน้าคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หยูหนิงเป็นหลานสาวของเธอ เป็นทายาทสืบทอดสายเลือดของพี่สาวที่รักยิ่ง ลู่ซีไม่มีทางยอมให้หลานตัวเองต้องตกอยู่ในอุ้งมือคนพวกนั้นเป็นเเน่ ในตอนนั้นลู่ซีนึกขอบคุณความรอบคอบของพี่สาว ที่เขียนพินัยกรรมทิ้งเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ให้เธอเป็นผู้ดูเเลหยูหนิงเเละจัดการมรดกทุกอย่างจนกว่าหลานสาวจะบรรลุนิติภาวะ
หลังเสร็จสิ้นพิธีศพ บรรดาคนฝั่งสกุลหยูบ้านรองจึงต้องจำใจล่าถอยกลับไปมือเปล่า คุณนายหยูภรรยาของน้องชายบิดาหยูซานเองก็จากไปพร้อมถ้อยคำเเช่งชักหักกระดูก
“เฮอะ! อย่าคิดว่าหล่อนจะโชคดีนะ เด็กหยูหนิงนั่นเป็นตัวซวย ไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องมีอันเป็นไปไม่ต่างจากพี่สาว”