Share

บทที่ 12 ชำระหนี้แค้น

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-08 20:22:00

บทที่ 12

ชำระหนี้แค้น

จวนตระกูลเถา

หลังจากลงจากรถม้า เถาซูเม่ยรีบตรงกลับไปที่เรือนนอนของนางทันที ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด สั่งให้สาวใช้ข้างกายออกไปเฝ้าหน้าห้อง ห้ามผู้ใดเข้ามารบกวนโดยเด็ดขาด เมื่อในห้องปลอดคนแล้วเถาซูเม่ยจึงบรรจงหยิบกล่องไม้ออกมาค่อยๆ เปิดออกดู ภายในกล่องไม้บรรจุกำไลหยกสีเขียวกระจ่างใส 1 วง เมื่อลองเพ่งพิศจะเห็นว่าด้านในของกำไลหยกมีอักษรแกะสลักไว้อ่านว่า ‘เฟยเทียน’ นอกจากจะมีกำไลหยกยังมีกระดาษแนบมาด้วยหนึ่งแผ่น เถาซูเม่ยคลี่กระดาษเปิดอ่านดู

"เพียงแรกพบสบตา ใจของข้าก็สั่นไหว

เสียงสกุณณาในพงไพร ไม่อาจเทียบเสียงหัวเราะของเจ้าเลย

กำไลหยกวงนี้คือตัวแทนแห่งข้า"

หยางเฟยเทียน

เมื่ออ่านจบในใจของเถาซูเม่ยให้รู้สึกอุ่นวาบในอก ใจของนางก็เฝ้าเพ้อฝันถึงบุรุษผู้นี้มานานแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งบุรุษที่นางหลงรักจะใจตรงกับนางเช่นกัน

เถาซูเม่ยนั้นได้เพียงแค่แอบมองคุณชายหยางเฟยเทียนเพียงไกลๆ ไม่เคยอาจหาญไปบอกความในใจให้เขารู้ มีเพียงเมื่อหนึ่งปีก่อนที่นางได้พบกับเขาที่เหลาอาหาร ระหว่างกำลังร่วมทานอาหารและสนทนากันอยู่อย่างสนุกสนานกับสหาย

หยางเฟยเทียนกับสหายของเขาอีกหนึ่งคนได้ขอมาร่วมโต๊ะด้วย เนื่องจากภายในเหลาอาหารโต๊ะเต็มหมดแล้ว หยางซูมี่และทุกคนก็ไม่ขัดข้อง เชิญให้ทั้งสองร่วมทานอาหารด้วยกัน

หลังจากวันนั้นนางก็พบเขาบ่อยครั้ง อยากจะคิดเข้าข้างตนเองว่าเขาก็คงมีใจให้นางบ้าง แต่พึ่งมาแน่ใจก็วันนี้เอง ใบหน้างามของเถาซูเม่ยแดงซ่านดั่งผลผิงกั่ว หัวใจพลันสั่นไหวรุนแรงด้วยความยินดีปนเขินอาย

เถาซูเม่ยให้สาวใช้นำถุงเงินที่นางปักโดยใช้ผ้าสีม่วงเข้ม ปักลายต้นไผ่ลู่ลมเดินดิ้นสีเขียวอ่อน ด้านในถุงยังปักคำว่า ‘ซูเม่ย’ ไว้อีกด้วย นางสั่งสาวใช้ให้แอบไปมอบให้หยางซูมี่ที่จวนชินอ๋อง

เมื่อหยางซูมี่ได้รับถุงเงินมาจากสาวใช้ของเถาซูเม่ยถึงกับยิ้มด้วยความขบขัน พี่ชายใหญ่ของนางก็ไม่กล้าเกี้ยวสาวโดยตรงต้องส่งผ่านของขวัญมาทางนาง สหายของนางเองก็เขินอายเกินกว่าจะกล้ามอบถุงเงินด้วยตนเองยังต้องลอบฝากกับนางมาแทน ดูเหมือนตอนนี้นางจะได้กลายไปเป็นแม่สื่อเสียแล้ว

หยางซูมี่ปวดหัวกับการเกี้ยวสาวของพี่ชายใหญ่ยิ่งนัก เหตุใดไม่เดินหน้าเข้าทางประตูจวนตระกูลเถาไปเลย หากชักช้าคงได้มีบุรุษมาตัดหน้าไปก่อน

นางก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะพี่ชายใหญ่ของนางนั้นเป็นบุรุษหยาบกระด้าง อยู่กับพวกทหาร ไม่เคยเกี้ยวสตรีใดมาก่อน ที่ต้องตาต้องใจสหายของนางก็คงเพราะความสดใสร่าเริง ช่างคุยของเถาซูเม่ย

หยางซูมี่ให้คนส่งของที่เถาซูเม่ยฝากมาไปให้พี่ชายใหญ่ของนางที่จวนตระกูลหยาง ทั้งยังกำชับกับซินซินให้แจ้งแก่พี่ชายใหญ่นางว่า

“บุปผางามมีภมรมาแวะเวียนไม่เคยขาด หากอยากได้บุปผามาครอบครอง จงรีบแสดงตนเป็นเจ้าของเสีย” คำพูดประโยคเดียวของหยางซูมี่ทำให้หลังจากนั้นอีก 1 เดือน จวนตระกูลหยางกับจวนตระกูลเถาก็ได้เกี่ยวดองกัน

ชายแดนเหนือ เมืองเว่ย

เซี่ยเหวินหรงให้คนไปตามรองแม่ทัพลู่เหอกัง เจ้าเมืองอู่ เจ้าเมืองเว่ย และสี่พี่น้องสกุลถังให้มาร่วมกันประชุมวางแผนการศึกที่จะรบในวันพรุ่งนี้ยามโฉ่ว ซึ่งเป็นเวลาที่ทหารของเผ่าหูเจี๋ยน่า น่าจะนอนหลับพักผ่อนจึงทำให้ไม่ทันได้ระวังตัว

เขาจะใช้หน่วยจิ้งจอก 500 นายลอบเข้าไปที่เมืองอู่ อาศัยในยามกลางคืน ใช้ความมืดอำพรางตัวตน ลอบไปเผาเสบียงของเผ่าหูเจี๋ยน่า แล้วให้มาเปิดประตูเมืองเพื่อให้หน่วยหมีขาว 20,000 นายบุกเข้าไปตีเมืองอู่กลับคืนมา โดยไม่ให้พวกมันรู้ตัว เป็นกลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล คือการบุกโจมตีศัตรูโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว ทุกคนเมื่อทราบแผนการจึงลุกขึ้นออกไปเตรียมตัวให้พร้อม คืนพรุ่งนี้แคว้นเซี่ยจะตีเมืองอู่กลับคืนมาให้จงได้

ท้องฟ้าเหนือเมืองอู่คล้ายจะสว่างไสวประดุจยามกลางวัน เหตุเพราะกองทัพพยัคฆ์ทมิฬสามารถตีเมืองอู่กลับคืนมาได้ เปลวเพลิงที่โหมกระพือกำลังเผาทำลายเสบียงของเผ่าหูเจี๋ยน่า และยังมีทหารอีกหลายพันนายถูกไฟคลอกตายด้วย

ทหารของเผ่าหูเจี๋ยน่าที่หนีจากไฟคลอกมาได้ กลับต้องมาสังเวยดาบให้กับทหารของหน่วยหมีขาวกับหน่วยจิ้งจอกที่บุกตีเมืองอู่ แผนการของท่านอ๋องทมิฬทำให้สามารถตีเมืองอู่กลับคืนมาได้อย่างสำเร็จ

หนึ่งเดือนผ่านไป หลังจากเซี่ยเหวินหรงตีเมืองอู่กลับคืนมาได้ เขาได้ส่งทหารในหน่วยจิ้งจอกออกไปลาดตระเวนรอบๆ ชายแดนที่ติดกับเผ่าหูเจี๋ยน่า และส่งคนออกไปสอดแนมในเผ่าหูเจี๋ยน่าเรื่องของธิดาเทพ ได้ความว่าธิดาเทพอาศัยอยู่ภายในวิหาร มีทหารของเผ่าหูเจี๋ยน่าคอยอารักขา 100 นาย

ตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬกับทหารของเผ่าหูเจี๋ยน่าผลัดกันรบแพ้ รบชนะ ยังไม่มีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำ เสบียงในกองทัพเริ่มร่อยหรอ เสบียงที่เมืองหลวงส่งมาก็ถูกดักปล้น ทำให้ในค่ายทหารเริ่มระส่ำระสาย

ในขณะที่เซี่ยเหวินหรงกำลังจะให้ทหารออกไปหาเสบียงเพิ่ม ขบวนพ่อค้าจากเมืองหลวงก็เดินทางมาถึงพร้อมเสบียงอาหารจากจวนชินอ๋อง ด้วยเพราะหยางซูมี่กังวลเรื่องเสบียงจะถูกดักปล้นจึงได้ให้ทหารจากจวนชินอ๋องปลอมเป็นพ่อค้า แล้วแยกขบวนออกเป็น 6 สายเพื่อตบตาศัตรู นับว่าความคิดนี้ของหยางซูมี่รอบคอบมาก เพราะเหตุนี้ทำให้มีเสบียงมาต่อชีวิตของทหารทั้งกองทัพ

เผ่าหูเจี๋ยน่า

หัวหน้าเผ่าหูเจี่ยลี่เริ่มนั่งไม่ติด การรบกับชินอ๋องทำให้เขาเสียกำลังคนไปมาก เสบียงที่ปล้นมาได้ก็หวังจะให้ทหารของชินอ๋องอดตาย แต่กลับได้ข่าวว่ามีเสบียงผุดขึ้นมา ช่างน่าเจ็บใจนัก ไม่รู้ว่าชินอ๋องไปได้เสบียงเพิ่มมาจากที่ใด

หากยังรบยืดเยื้อกันไปทั้งแบบนี้ ความพ่ายแพ้คงได้มาเยือนเผ่าหูเจี๋ยน่าแน่ ธิดาเทพก็ดูจะเมินเฉย ไม่ได้ให้คำชี้แนะแก่เขาเช่นเดิม แผนการที่วางเอาไว้ล้วนถูกคนของชินอ๋องเล่นงานกลับมาหมด ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด หูเจี๋ยลี่ร้อนรนจนทนไม่ไหวจนต้องเดินทางมาขอพบธิดาเทพ เพื่อมาขอคำชี้แนะจากท่านเทพ

"ท่านเทพหมาป่าได้บอกอะไรธิดาเทพหรือไม่" หูเจี๋ยลี่เอ่ยถามทันที

"ท่านเทพบอกเพียงว่า 'ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว' ตายซะเถอะเจ้าเดนนรก"

ลี่จิ่นสาดผงสลายกำลังใส่หน้าหูเจี่ยลี่ เพราะเขาไม่ทันระวังตัวจึงทำให้โดนผงสลายกำลังสาดใส่หน้าเต็มๆ จะร้องตะโกนให้คนช่วยก็เปล่าประโยชน์ ที่วิหารเทพขึ้นชื่อเรื่องความสงบ แม้จะมีทหารคอยอารักขาธิดาเทพ แต่ก็อยู่เพียงรอบนอกเท่านั้น

หูเจี่ยลี่มึนงงสับสนไปหมด เหตุใดธิดาเทพถึงทำเช่นนี้ เมื่อลี่จิ่นสาดผงสลายกำลังใส่แล้ว นางก็เอามีดสั้นที่ซ่อนไว้ข้างหลังรูปปั้นธิดาเทพออกมา ลี่จิ่นเดินเข้าไปหาหูเจี่ยลี่ช้าๆ นางยกยิ้มอย่างพอใจที่หูเจี่ยลี่ไม่สามารถขยับหนีนางไปไหนได้อีก นางรอวันนี้มานานแสนนานแล้ว

"จะ...เจ้า เจ้าจะทำอะไร ข้าเป็นถึงหัวหน้าเผ่า แล้วยังเป็นพี่ชายของเจ้าด้วย"

หูเจี่ยลี่พยายามขยับตัวหนี แต่เขาไม่มีแรงจะขยับไปไหนได้ เพียงนอนรอความตายที่ลี่จิ่นจะเป็นผู้มอบให้

"เจ้าไม่คู่ควรเป็นหัวหน้าเผ่า ไม่คู่ควรเป็นพี่ชายข้า 10 ปี 10 ปีที่ข้ารอวันแก้แค้นเจ้า มารดาของเจ้า และท่านพ่อผู้ซึ่งเห็นแก่ตัว เขาไม่เคยสนใจเลยว่าข้าจะต้องทุกข์ ทรมานมากแค่ไหน และเจ้าปากเอ่ยว่าเป็นพี่ชาย แต่เจ้ากลับกล้าให้คนมาข่มเหงข้า ข้าซึ่งอายุเพียงแค่ 5 หนาว" เสียงหวานสั่นระริกด้วยความโกรธแค้น นัยน์ตาแดงก่ำคล้ายสัตว์ร้าย

"ไม่ใช่ ข้าไม่เคยทำเช่นนั้น เจ้าเข้าใจผิดแล้ว"

"ไม่ใช่เจ้า แล้วมันจะเป็นผู้ใดไปได้อีก คืนนั้นข้านอนอยู่ในห้องกับแม่นม เจ้าลอบเข้ามากับสหาย แล้วสังหารแม่นมของข้า สหายของเจ้าพยายามข่มเหงข้า ข้าอ้อนวอนพวกเจ้า กราบแทบเท้าพวกเจ้า แต่ไม่มีใครเห็นใจข้าเลย เจ้าเพียงมองดูแล้วหัวเราะออกมา ส่วนข้าแทบขาดใจตาย"

ลี่จิ่นเอ่ยไปพร้อมทั้งน้ำตา ตลอดสิบปีที่ผ่านมานางไม่เคยข่มตาหลับได้อย่างสนิทเลย ฝันร้ายในครั้งนั้นตามมาหลอกหลอนนางทุกค่ำคืน มีเพียงการสังเวยด้วยชีวิตเท่านั้น ใจนางถึงจะสงบลงได้

ธิดาเทพอย่างนั้นหรือ นั่นก็แค่ตำแหน่งที่คนในเผ่าอุปโลกน์กันขึ้นมา การทำนายก็มาจากการที่นางศึกษาหาความรู้ แล้ววิเคราะห์เหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และมีขอทานเป็นสายให้ ทำให้นางรู้ข่าวเร็วกว่าผู้อื่น นางจึงทำนายได้ราวกับล่วงรู้อนาคต กว่านางจะขึ้นมาถึงจุดนี้ นางต้องพยายามมากแค่ไหน ใครจะรู้ได้เท่าตัวนางเอง

นางแค้นทุกคนที่ทำให้ชีวิตของนางเป็นเช่นนี้ ทุกคนจะต้องชดใช้!!

"ท่านพี่อยากรู้ไหมว่าท่านพ่อตายด้วยเหตุใด"

ลี่จิ่นยิ้มหวานส่งไปให้หูเจี๋ยลี่

"จะ...เจ้าฆ่าท่านพ่อหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ท่านพ่อป่วยตายต่างหากเล่า"

หูเจี๋ยลี่เอ่ยอย่างหวาดระแวง เขาเริ่มคิดว่าลี่จิ่นตอนนี้นางหาใช่ธิดาเทพไม่ แต่คือนางมารร้ายที่จะมาพรากชีวิตของเขาไป

"ท่านพ่อป่วยตาย เพียงแค่ข้าเร่งการตายของท่านพ่อเท่านั้นเอง สมุนไพรที่ท่านพ่อกินทุกวันก็คือยาพิษที่คอยกัดกินร่างกายของท่านพ่อ ส่วนสหายของเจ้าที่ข่มเหงข้า ข้าก็ส่งมันไปเยือนนรกแล้ว ก่อนตายข้ายังให้มันได้ลิ้มรสการโดนข่มเหงจากบุรุษอีกด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า สะใจข้ายิ่งนัก"

หูเจี๋ยลี่ถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งกาย รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดเลยว่าสหายที่หายตัวไปของเขาจะโดนลี่จิ่นฆ่าตายไปแล้ว

"เจ้ามันช่างอำมหิตนัก ฆ่าได้แม้กระทั่งบิดาผู้ให้กำเนิดเจ้า"

"บุรุษชั่วช้าที่หลอกมารดาของข้าน่ะหรือ ข้าไม่นับว่ามันเป็นบิดาหรอก เจ้าไม่ต้องเสียใจไป ข้ากำลังจะส่งเจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อแล้ว"

ลี่จิ่นเดินมาคุกเข่าตรงหน้าหูเจี๋ยลี่ นางยกมีดสั้นขึ้นมาค่อยๆ บรรจงตัดเส้นเอ็นที่หัวเข่าของหูเจี่ยลี่ทั้งสองข้าง

“อ้ากกกกกกกกก” เขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

"ข้าจะให้เจ้าไปสบายๆ แต่เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงท่านแม่ของเจ้าหรอกนะ ตอนนี้นางกำลังเสวยสุขอยู่กับชู้รักของนางอยู่ ลูกบุญธรรมที่นางรับมาเลี้ยงก็เป็นลูกของนางกับชายชู้ ข้าสัญญาว่าจะทำให้เขาขึ้นมาเป็นหัวหน้าเผ่าแทนเจ้าเอง" ลี่จิ่นหัวเราะอย่างสาแก่ใจ

จากนั้นนางเอามีดสั้นปาดคอหูเจี๋ยลี่ทันที ร่างของเขากระตุกเพียงสามครั้งแล้วก็สงบลง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความเคียดแค้น หยดเลือดจากคอกระเซ็นมาอาบย่อมอาภรณ์สีขาวพิสุทธิ์ของลี่จิ่นจนเปลี่ยนเป็นสีแดง นางยกยิ้มหวานออกมาด้วยความสุข จากนั้นจึงได้หันหลังเดินจากไปแล้วกรีดร้องออกมาให้คนช่วย

“กรี๊ดดดดด!!”

ข่าวการลอบสังหารของหูเจี๋ยลี่รู้ไปถึงหูเซี่ยเหวินหรง หลังจากนั้น 3 วัน เขาได้ยกกำลังพลหนึ่งแสนนายเข้าตีเผ่าหูเจี๋ยน่าทันที ใช้เวลากว่า 2 ชั่วยาม กองทัพพยัคฆ์ทมิฬก็สามารถเอาชนะได้ การรบกับเผ่าหูเจี๋ยน่าในครั้งนี้ใช้เวลาไป 2 เดือนครึ่งถึงกำชัยชนะมาได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย) “คุณหนูกู่เกรงใจเกินไปแล้ว ในฐานะตัวแทนของฝ่าบาทพวกข้าต้องมาร่วมยินดีอยู่แล้ว”หยางซูมี่เดินเข้างานไปเลย ไม่ได้สนใจสตรีนางนี้มากนัก ทำเพียงเหมือนกับว่านางไม่คู่ควรที่จะให้พระชายาเช่นนางต้องมาเสวนาด้วย กู่เจียอีได้แต่ลอบกำมือแน่น คอยดูเถอะวันนี้ข้าจะเหยียบหน้าจมให้จมดิน และจะกลายมาเป็นพระชายาของชินอ๋องให้จงได้“เจ้าอยากเล่นกับนางหรือไม่” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามภรรยาคนงาม“ให้บทเรียนกับนางเบาๆ ก็พอเจ้าค่ะ” หยางซูมี่หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พระสวามีงานเลี้ยงในจวนเจ้าเมืองวันนี้ กลับพบว่าขณะที่ทั้งหมดกำลังสนุกสนานกันภายในงานเลี้ยงนั้น กลับพบว่าคุณหนูกู่เจียอีผลัดตกลงไปในสระน้ำ แต่โชคดีที่มีคุณชายท่านหนึ่งช่วยเอาไว้ได้ แต่เพราะตอนเปียกน้ำทำให้ทั้งสองได้แนบชิดกัน และด้วยอาภรณ์ของกู่เจียอีนั้นที่เป็นสีขาว ทำให้มองเห็นเรือนร่างของนาง จนมองเห็นไปถึงเอี๊ยมตัวใน และคุณชายผู้นี้ก็ได้แตะต้องนางไปแล้วแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ด้วยเหตุนี้ในหนึ่งเดือนต่อมาจึงได้เกิดงานมงคลขึ้นกู่เจียอีได้แต่งเข้าไปเป็นฮูหยินรอง เน

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น) หลังจากงานแต่งผ่านไปได้หนึ่งเดือน คนในตระกูลหยางนำโดยท่านเสนาบดีหยางหมิงได้เดินทางกลับเมืองหลวง พวกเขานั้นได้จากเมืองหลวงมานานมากแล้ว สมควรต้องไปจัดการงานที่ค้างคาเอาไว้ แม้จะเสียดายที่หยางซูมี่กับเซี่ยเหวินหรงไม่ได้กลับไปด้วยก็ตาม“ท่านพ่อเดินทางกลับดีๆ นะเจ้าคะ อีก 3 เดือนลูกจะกลับเมืองหลวงพร้อมท่านอ๋องเจ้าค่ะ”“ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยมี่เอ๋อร์ ข้าน้อยขอฝากบุตรสาวด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ประโยคท้ายหยางหมิงหันไปเอ่ยกับเซี่ยเหวินหรง“ท่านพ่อตาอย่าได้เป็นห่วง มี่เอ๋อร์อยู่กับข้าย่อมต้องปลอดภัย”เซี่ยเหวินหรงให้คำมั่น ทั้งสองยืนส่งจนขบวนรถม้าเคลื่อนตัวห่างไปเรื่อยๆ“พี่ต้องกลับไปยังจวนเจ้าเมืองเพื่อพบหน้ากับเจ้าเมืองคนใหม่ เจ้าอยู่ที่นี่ดีๆ แล้วพี่จะรีบกลับมา” เซี่ยเหวินหรงลูบหัวหยางซูมี่ด้วยความเอ็นดู“เจ้าค่ะท่านพี่”หยางซูมี่พยักหน้ารับ แล้วเขย่งปลายเท้ายื่นหน้าไปจูบแก้มสาก จนใบหูของเขาขึ้นสีแดงก่ำ“รีบกลับมานะเจ้าคะ ข้าจะรออาบน้ำพร้อมกับท่านพี่”หยางซูมี่ขยิบตาใส่เซี่ยเหวินหรง

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย) เซี่ยเหวินหรงเองก็รีบปลดอาภรณ์ของเขาออกเช่นกัน ร่างกายสูงใหญ่ไร้อาภรณ์ปกปิดกาย มองเห็นกล้ามหน้าท้องหนั่นแน่นที่เป็นลอนสวยอย่างคนที่ออกกำลังกาย ตรงกึ่งกลางเห็นแท่งหยกที่เริ่มจะขยายตัวอวดความศักดิ์ดาของตน หยางซูมี่ลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นแท่งหยกของเขาหยางซูมี่เนื้อตัวแดงก่ำด้วยความเขินอาย แม้จะเคยร่วมรักกับเขามาหลายครั้ง แต่นางกับเขาก็ห่างหายกันไป 2 ปีกว่า นางจึงรู้สึกประหม่ามากนัก แต่เพราะไม่อยากจะให้เขารู้ว่านางนั้นเขินอายมากเพียงใด จึงทำใจกล้าเงยหน้ามองร่างสูง ยกยิ้มอ่อนหวานแล้วเอื้อมมือไปปลดสายผูกเอี๊ยมออก ทำให้ปราการชิ้นสุดท้ายหลุดร่วงลงมา มองเห็นก้อนเต้าหู้อวบอิ่มสองก้อนและเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อเซี่ยเหวินหรงไม่อาจจะอดใจได้อีกต่อไป เขาช้อนร่างบางของหยางซูมี่อุ้มลงไปในถังอาบน้ำด้วยกัน เขานั่งพิงขอบอ่างให้หยางซูมี่นั่งบนตักแกร่ง มือข้างหนึ่งบีบสะโพกกลมกลึง อีกข้างก็ยื่นไปข้างหน้ากอบกุมก้อนเต้าหู้บีบคลึงอย่างอ่อนโยน นิ้วชี้เขี่ยเม็ดทับทิมสีชมพูจนตั้งช่อชูชันขึ้นมา“อ๊าาาา ท่านพี่”เซี่ยเหวินหรงจับร่างบางหั

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น) ขบวนเจ้าบ่าวนำโดยชินอ๋องเซี่ยเหวินหรง พระองค์ขี่อาชาโลหิตสีขาวนำขบวนสินสอดมากกว่า 100 หีบ โดยมีทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬคอยดูแล แม้ว่าหยางซูมี่จะเอ่ยว่าต้องการจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่ายแต่เมื่อฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงทรงทราบก็รีบส่งม้าเร็วนำราชโองการสมรสพระราชทานมามอบให้ ทั้งยังระบุว่าชินอ๋องจะมีหยางซูมี่เป็นพระชายาแต่เพียงผู้เดียวจวบจนทั้งคู่สิ้นอายุขัยข่าวการแต่งงานครั้งที่สองของทั้งคู่แพร่สะพัดไปทั่วแคว้นเซี่ย บางคนต่างก็ยินดีที่ทั้งสองกลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน แต่บางคนก็ค่อนขอดที่ทั้งสองเลิกรากันไปแล้วแต่ยังกลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง ไม่ว่าผู้คนจะพูดกันอย่างไร แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็หาได้สนใจไม่ เพราะทั้งคู่ได้ตกลงใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง คำพูดของผู้อื่นหาได้สลักสำคัญกับพวกเขาทั้งสองคนไม่เซี่ยเหวินหรงขี่ม้ามาหยุดที่หน้าประตูบ้านพักของหยางซูมี่ เมื่อเขาเดินเข้าไปยังห้องโถงหลักก็พบว่าหยางซูมี่นั้นยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้นางสวมชุดสีแดงมงคลปักลายหงส์สยายปีก และมีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสวมทับเอาไว้ที่ศีรษะ ทำให้เขาไม่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2 ริมชายหาดแห่งหมู่บ้านผิงอัน มีสตรีร่างบอบบาง กับบุรุษร่างสูงใหญ่นั่งอิงแอบกันอยู่ใต้ต้นมะพร้าว สายตาทั้งคู่ทอดมองออกไปยังน้ำทะเลใสสีเขียวมรกต หาดทรายสีขาวละเอียด ลมทะเลพัดมาเป็นระยะๆ คล้ายกับกำลังปลอบประโลมคนทั้งคู่ ทั้งสองปล่อยให้จิตใจได้ซึมซับกับธรรมชาติที่สวยงามนี้“เจ้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามในสิ่งที่เขาสงสัย“ข้ามาถึงเมื่อสามวันก่อนเจ้าค่ะ ข้าตั้งใจมาทำให้ท่านแปลกใจเล่น” หยางซูมี่เอ่ยพลางหัวเราะ นัยน์ตาพราวระยับดั่งดวงดารา“รู้หรือไม่ว่าทำข้าเป็นห่วง ตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าหายตัวไป”เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปบีบจมูกโด่งรั้นอย่างมันเขี้ยว“ข้าเจ็บนะเหวินหรง”หยางซูมี่หันมาดุเขาอย่างไม่จริงจังนัก เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปกอบกุมที่มือขาวบางอย่างทะนุถนอม“ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าเร็วถึงเพียงนี้ ที่นี่มีเรื่องให้ข้าจัดการมากมายนัก ข้ายังคิดว่าอย่างเร็วก็คงอีกสักปีสองปีถึงจะกลับไปหาเจ้าที่เมืองหลวงได้”“ข้ารู้ว่าท่านทำงานหนักมากเพียงได ดูสิชินอ๋องผู้สง่างามกลายร่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1 2 ปีต่อมาชายแดนใต้ของแคว้นเซี่ยที่ติดกับทะเล เมื่อ 2 ปีก่อนมีการค้าเกลือเถื่อนเกิดขึ้น เซี่ยเหวินหลินที่ได้ออกมาจัดการนั้น กลับจัดการแบบปล่อยผ่าน อนึ่งเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกับพ่อค้าที่ค้าเกลือเถื่อนแต่หลังจากที่ชินอ๋องเซี่ยเหวินหรงจัดการปราบปรามกบฏได้หมดสิ้น จึงได้ทูลขอฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงมาปราบปรามการค้าเกลือเถื่อน และมาจัดระบบการปกครองใหม่ของชายแดนใต้ ซึ่งฮ่องเต้ก็ได้ออกพระราชโองการมอบอำนาจทุกอย่างให้ชินอ๋องเป็นผู้จัดการทั้งหมดตลอดเวลากว่าสองปีที่ผ่านมานี้เซี่ยเหวินหรงออกรบไปปราบปรามโจรสลัดทั้งในน่านน้ำ และบนเรือ โจรสลัดนั้นชอบขึ้นมาดักปล้นฆ่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง แต่หลังจากที่ชินอ๋องมาโจรสลัดก็หนีหายไปหมดด้วยหวาดเกรงชินอ๋องนอกจากจะปราบโจรสลัดแล้ว เซี่ยเหวินหรงยังต้องเข้ามาปราบปรามพ่อค้าเกลือเถื่อน และยังต้องมาจัดระเบียบเมืองหนานผิงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าเมืองหนานผิงปกครองเมืองชายแดนใต้อย่างไร้ความยุติธรรม กดขี่ข่มเหงชาวเมืองหนานผิง ทหารประจำเมืองก็ชอบรีดไถจากชาวบ้าน เรียกร้องค่าคุ้มครอง หากครอบค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status