พอเดินมาถึงที่วางกับดักทั้งสามคนก็แยกกันไปเก็บกับดักของตัวเอง อวี่หลิงมาเจอก็เห็นกับดักของนางติดไก่ป่ามาหกตัว ของอวี่ซิงได้กระต่ายป่ามาสองตัวทั้งสองคนจึงเดินขึ้นไปอีกพอประมาณ
"วางทิ้งเอาไว้อีกสักคืนก็น่าจะดีนะซิงเอ๋อร์ข้าว่าจะได้มาดูพร้อมปลาของพวกเราเช่นไรละดีไหม" สองพี่น้องปรึกษากันก่อนจะแยกกันวางกับดักกันต่อและเดินมารออาของนางตรงทางแยกนั้นเอง อวี่ซิงทั้งตื่นเต้นและดีใจที่นางสามารถจับกระต่ายได้สองตัวยังไม่ตายนางมัดขามันเอาไว้ก่อนอย่างดีกันมันกระโดดหนีน่าเสียดายแย่สิถ้าหนีไปเกิดมาพึ่งจะเป็นครั้งแรกที่นางจับได้ ส่วนอวี่หลิงนางก็มัดขาไก่และทำเหมือนชะรอมเอาไก่ยัดเข้าไปในนั้นเลยกันมันตาย นางตัดเอาเถาวัลย์นั้นมาทำแก้ขัดไปก่อนและยื่นให้อวี่ซิงใส่กระต่ายของนางด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งยังตัดไม้มาทำไม้หาบอีกต่างหากนางเอาถุงหอยกับกุ้งคนละข้างและเอาไก่ใส่ข้างถุงหอยนั้นเอง อวี่ซิงจึงทำตามนางบ้างแต่ได้ยินเสียงท่านอาเรียกเสียก่อน "หลิงเอ๋อร์ซิงเอ๋อรพวกเจ้ามาช่วยข้าลากหมูป่าหน่อยมันตัวใหญ่มาก" ตอนนี้ท่านอาของนางร่างเต็มไปด้วยเหงื่อกว่าจะเอาหมูขึ้นมาจากหลุมได้ มันตกลงไปขาหักเขาจึงฆ่ามันจนตายและจับมัดด้วยเถาวัลย์กว่าจะเอาขึ้นมาจากหลุมได้ ตอนนี้เขาตัดเอาไม้ทำที่ใส่หมูเพื่อที่จะลากลงจากเขานั้นเอง สองสาวจึงรีบวางของและเดินตามท่านอาไปดูหมูที่หลุม ตอนนี้มันนอนที่ไม้เพื่อจะดึงลงขึ้น แล้วสภาพของท่านอาจึงเหมือนกับอาบน้ำเพราะเหงื่อนั้นเอง "ท่านพ่อได้หมูป่าหรือเจ้าคะ" อวี่ซิงถามด้วยความตื่นเต้น "ครอบครัวของเรารอดตายแล้วที่ได้หมูป่าวันนี้ช่างโชคดียิ่งนัก" นางพูดแล้วกระโดดกอดอวี่หลิงจนนางเซแทบจะล้มทับกันเพราะความดีใจของญาติผู้น้องนั้นเอง "ได้กี่ตัวเจ้าคะท่านอา" นางถามกับไปด้วยรอยยิ้มอย่างดีใจในที่สุดทุกคนก็ได้กินเนื้อแล้ว "ข้าบอกแล้วว่ามันต้องได้เชื่อข้าสิ" อวี่หลิงนางพูดด้วยความภาคภูมิใจในผลงานของตัวเองหึๆและทำหน้าว่าข้าเก่งมาก ก่อนจะรีบไปช่วยท่านอาลากหมู พอทั้งสามคนลากหมูลงมาถึงที่วางตระกร้าของป่าเอาไว้ ก็นั่งลงด้วยความเหนื่อยจึงนั่งพักกันก่อน "มันมีตัวเดียว" อาบอกหลานสาว "แต่ก็ดีแล้วละเพราะถ้าหลายตัวพวกเราคงเอาลงไปไม่หมดแน่ๆ พรุ่งนี้ค่อยขึ้นมาดูอีกทีตอนเช้ามืดพร้อมทั้งหลุมปลาและที่ดักปลารวมทั้งไก่ป่าอีกด้วย" อวี่จางเฉิงบอกหลานสาวด้วยความดีใจที่ได้หมูป่าตัวใหญ่เขาจึงรีบมัดและดึงขึ้นจากหลุมคนเดียวด้วยความดีใจจนลืมลูกสาวกับหลานสาวนั้นเอง พอมองดูของป่าที่หามาได้ "วันนี้จะแบกลงเขากันรอบเดียวหมดไหม" เขาหันมาถามหลานสาวกับลูกสาวที่นั่งพักเหนื่อยกันอยู่ ถ้าไม่กลัวว่าความลับจะถูกเปิดเผยนางคงโยนเข้ามิติไปหมดแล้ว หรือจะบอกท่านอากับญาติผู้น้องดีแต่ยังดีกว่าคงจะน่าสงสัยเกินไป นางจึงได้แต่ยิ้มรับเต็มใบหน้าว่า "ไหวเจ้าค่ะข้าจะหาบของเองพวกท่านลากหมูลงเขาช่วยกันดีไหมเจ้าคะ ไปเอาของมาใส่ไม้ข้าได้แล้วซิงเอ๋อร์" นางบอกญาติผู้น้องที่มองหน้านางอย่างสงสัยว่าเจ้าไหวหรือหลิงเอ๋อร์ "ข้าไหวเอามานี้เลยทั้งตระกร้าผักนั้นละข้าจะหาบเองมันหนักมากนะตระกร้าปลานี้อีกละ" อวี่ซิงตอบกลับ "เจ้าไม่ไหวหรอกหลิงเอ๋อร์" "ต้องไหวสิ" "เดี๋ยวปลาข้าสะพายเองเพราะมันหนักมากเจ้าหาบไม่ไหวหรอกหลิงเอ๋อร์" ท่านอาบอกนางก่อนที่เขาจะยกตระกร้าปลาขึ้นสะพายหลังและเอามือดึงเถาวัลย์ลากหมูไปด้วย ขณะที่สองสาวเอาของสะพายขึ้นหลังและหาบเอาส่วนของตัวเอาเดินตามหลังท่านอาที่เดินนำหน้า อวี่ซิงนางวิ่งไปหาบิดาและช่วยลากเถาวัลย์อีกเส้นหนึ่งอีกแรงช่วยบิดา "ท่านอาไหวไหมเจ้าคะข้าจะไปช่วยท่านลากด้วยดีกว่านาง" บอกและจะวิ่งตามท่านอาเพื่อช่วยลากหมูตัวใหญ่เพราะสงสารพ่อลูกที่ลากกันที่ข้างหน้านาง ลงเขามาได้เรื่อยๆตามทางที่นางทำสัญลักษ์เอาไว้จนมาถึงทางจะลงเขาเข้าหมู่บ้านทั้งสามคนก็หยุดพักเหนื่อยก่อนนี้ก็มาได้ครึ่งทางแล้ว ทางฝั่งซ้ายมือมีเสียงคนเดินลงเขาลงมาที่พวกนางนั่งพักกันอยู่ ทั้งสามคนมองหน้ากันคงจะเป็นชาวบ้านขึ้นมาหาล่าสัตว์ละมั้งทั้งสามคนคิดแต่ก็นั่งต่อเพราะเหนื่อยมากใครจะไปจะมาก็ช่างตอนนี้ขอพักก่อนก็แล้วกัน เสียงเดิงลงเขาลงมาจนมาถึงที่พวกนางนั่งพักกันอยู่ทุกคนมองขึ้นไปก็เจอกับนายพรานหนุ่มว่าที่สามีของอวี่หลิงนั้นเอง เขาหยุดชะงักพอเห็นว่ามีคนนั่งขวางทางลงเขาพอดี มองไปเห็นหน้าว่าที่ภรรยาตัวน้อยนั่งเอาใบไม้พัดหน้าของนางเพราะร้อนหลุบตามองทุกคนที่นั่งอยู่จึงรู้ว่าคือครอบครัวของว่าที่ภรรยาของเขานั้นเอง "อ้อท่านอวี่จางเฉิงขึ้นมาหาของป่าหรือขอรับพวกท่านได้หมูป่าตัวใหญ่ด้วย" เขามองด้วยความแปลกใจและดีใจด้วยที่ล่าหมูป่าด้วยเพราะเมื่อเช้าเขาก็ได้ตัวหนึ่งและนำไปขายที่เหลาในเมืองมาแล้วเพื่อเป็นสินสอดของว่าที่ภรรยาที่นั่งมองเขาตาใสในตอนนี้ "อ้อใช่แล้วละนายพรานตงเทียนพวกข้าพากันมาหาของป่า โชคดีได้หมูตัวใหญ่กำลังจะลากลงเขากลับเข้าหมู่บ้านก็เลยนั่งพักเหนื่อยกันก่อน" เขาตอบว่าที่หลานเขยที่ตอนนี้จ้องมองหน้าหลานสาวของเขาจนไม่สนใจมองมาทางสองพ่อลูกเขาเลยเหอะปากถามทางนี้แต่จ้องมองหลานข้าตาไม่หลบเลยนะพ่อหนุ่ม "หลิงเอ๋อร์เหนื่อยไหมให้ข้าช่วยอะไรได้บ้าง" เขาถามว่าที่ภรรยาที่มองเขาอยู่ นางยิ้มจนตาหยี่สรรค์มาโปรดแล้วเจอว่าที่สามีกลางทางตอนนี้ นางอยากบอกว่าช่วยอุ้มข้ากลับบ้านได้ไหมสามีข้าเหนื่อยจะตายแล้วได้แต่คิดในใจ "เอ่อพี่หานตงเทียนช่วยลากหมูลงไปในหมู่บ้านช่วยท่านอาได้ไหมเจ้าคะพวกข้าเหนื่อยมากไม่ไหวแล้ว"นางยิ้มแห้งๆส่งไปและบังทำตาปริบๆอ้อนให้เขาอีก หานตงเทียนแทบสำลักที่ว่าที่ภรรยาทำตาปริบๆอ้อนส่งมาให้เขาได้แต่คันหยุบยิบในหัวใจ ข้าต้องหาตำลึงให้ได้ครบภายในอาทิตย์นี้อย่างแน่นอนเพราะอยากอยู่ใกล้สาวน้อยเต็มที่แล้วสายตาที่นางมองเขาตั้งแต่เมื่อวานไม่เคยมีความรังเกียจที่เขาตาบอดข้างหนึ่งเลย "ได้สิข้าจะช่วยพวกท่านเองมาเถอะขอรับท่านอวี่จางเฉิง" หานตงเทียนตอบและเดินไปดึงเชือกอีกเส้นหนึ่งที่อวี่ซิงทิ้งลงตอนนั่งพัก "ขอบใจเจ้ามากหานตงเทียน" อวี่จางเฉิงตอบก่อนที่สองคนจะลากหมูลงเขาไป เร็วกว่าแรงของอวี่ซิงแน่นอนเพราะเขามีรูปร่างสูงใหญ่ สองสาววิ่งตามหลังด้วยความดีใจที่มีคนช่วยลากหมูในที่สุดก็มาถึงที่บ้านตากับยายในตอนเกือบค่ำยามเซินในที่สุดอวี่หลิงนางก็เจ็บท้องคลอดลูกในตอนกลางคืนที่สามีเตรียมหมอตำแยเอาไว้สามคนเถ้าแก่ร้านทำเครื่องประดับหามาให้สำหรับทำคลอดกับอวี่หลิงโดยเฉพาะ ตอนดึกในห้องนอนในมิติกับสามีนางปวดท้องจนพาสามีออกมาจากในมิติมานอนในห้องที่เตรียมเอาไว้คลอด หานตงเทียนเรียกน้องสาวเสียงดังให้ต้มน้ำช่วยหมอตำแยเสียงดังตื่นเต้นทั้งร้อนรนไปหมดเสียงตีเกราะดังขึ้นคนงานในไร่รีบลุกไปที่บ้านของเจ้านายทันทีที่ตอนนี้นายหญิงคงกำลังเจ็บท้องจะคลอดนายน้อยหรือคุณหนูของไร่แล้ว ทุกคนจึงรีบมาช่วยกันต้มน้ำคอยรับใช้ว่าในห้องทำคลอดของนายหญิงต้องการอะไรบ้างเพราะทุกคนต่างก็รอคอยนายน้อยคุณหนูน้อยกันทุกคนหานตงเทียนเดินวนเวียนที่หน้าประตูห้าทำคลอดจนหานซูอิงตาลายไปหมดรวมทั้งหานตงเหวินด้วยที่ไปส่งข่าวบอกความให้คนที่บ้านของท่านตาอวี่เซี่ยท่านยายกับท่านอาของนางว่าพี่สะใภ้ใหญ่ปวดท้องจะคลอดลูกแล้วครอบครัวอวี่จึงรีบมาที่บ้านของนางกันทุกคนยกเว้นอวี่ซิงที่จะมาในตอนเช้าเพราะท้องของนางก็ใหญ่โตไม่แพ้กันกับอวี่หลิงเสียงกรีดร้องของเมียรักหานตงเทียนใจจะขาดเขาอยากเจ็บแทนนางทุกอย่างถ้าเลือกได้นางบอกว่าคนสมัยนี้คลอดลูกน่ากลัวเพราะไม่มีโรงหมอที่ใหญ่
หลังจากช่วยชาวบ้านและคนในเมืองนี้ก็ผ่านมาได้สองเดือนกว่าๆแล้ว แต่ข่าวการช่วยเหลือจากสองครอบครัวที่นายน้อยหลี่ออกหน้าให้แทน นายอำเภอแจ้งบอกกับชาวบ้านว่าที่ผ่านหน้าหนาวมาได้ในหนึ่งเดือนที่หนักสุดเพราะขาดจากการติดต่อจากเมืองหลวงและไม่มีเสบียงส่งมาได้เพราะพายุหิมะที่ตกหนัก ที่ทุกครอบครัวของชาวบ้านที่ได้ของแจกจ่ายมาจากสามครอบครัวคือเหลาอาหารของนายน้อยหลี่และครอบครัวตระกูลอวี่กับครอบครัวหานแห่งหมู่บ้านให่หนาน ชาวบ้านธรรมดาที่ยึดอาชีพทำสวนผักขายที่นำข้าวปลาอาหารมาแจกจ่ายในตอนที่หิมะตกหนักที่ผ่านมาสร้างชื่อเสียงให้กับสามครอบครัวในอำเภอนี้เป็นอย่างมาก จนนายอำเภอออกมาขอบคุณถึงที่บ้านเชิงเขาของสองครอบครัวตาหลานและได้รางวัลแห่งการทำดีที่นายอำเภอส่งไปที่เมืองหลวงเรื่องการบริจาคช่วยเหลือชาวบ้านตอนที่พายุหิมะถล่ม เป็นหน้าหนาวที่ยาวนานถึงหกเดือนตอนนี้ที่บ้านไร่พลิกหน้าดินและหว่านข้าวในที่ดินที่แบ่งเอาไว้ปลูกข้าวสามร้อยกว่าหมู่ ผักก็ทำการปลูกจนหมดทุกแปลงแล้วที่ผ่านมาทำตำลึงให้กับสองครอบครัวตาหลานมากมาย จนท่านยายร่ำให้ด้วยความดีใจที่ทุกวันนี้ไม่ต้องกลัวจะกับไปลำบากอีกต่อไปเพราะหลานสาวได้ทำอาชีพที่ยั่ง
"ตามที่จริงข้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกเจ้าค่ะท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน ข้ายินดีช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเช่นเดียวกันเอาเป็นว่าข้าจะจัดเตรียมเอาไว้ให้ทุกครอบครัวในหมู่บ้านของพวกเราเลย ท่านลุงก็ไปบอกให้พวกเขามารับที่หน้าบ้านของข้าได้เลยหรือท่านลุงจะรับไปแจกแทนข้าก็ได้เพราะบางครอบครัวพวกเขาต่างรังเกียจครอบครัวของสามีข้าคงไม่กล้ามารับด้วยตัวเองก็ได้" นางบอกให้หัวหน้าหมู่บ้านได้รับรู้"ถ้าพวกมันคิดเช่นนั้นก็พากันอดตายไปเถอะข้าจะไปประกาศให้รับรู้กันทั้งหมู่บ้าน ใครไม่มาก็ไม่ต้องเอาในเมื่อจิตใจแคบแคบต่อพวกเจ้าเองข้าก็คงไปช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้แต่ที่วิ่งมาที่บ้านของข้าก็มีแต่พวกที่เคยรังเกียจหานตงเทียนนะส่วนใหญ่" หัวหน้าหมู่บ้านบอกกับอวี่หลิง"ข้าไม่เป็นอะไรหรอกขอรับท่านลุงข้าจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้แต่อย่าเข้ามาล้ำเส้นข้าก็พอ" หานตงเทียนตอบกลับไป อวี่หลิงจึงถามท่านตาเรื่องนี้ด้วย"จะช่วยเหลือชาวเมืองร่วมกันกับข้าไหมเจ้าคะท่านตาท่านอา ข้าอยากช่วยคนที่ลำบากพวกเขาคงจะมีชีวิตไม่ต่างกับพวกเราเหมือนเมื่อก่อนข้าสงสารเด็กกับคนแก่เจ้าค่ะ ในเขตอำเภอข้าจะให้นายน้อยหลี่ออกหน้าให้เพราะข้าไม่ชอบความวุ่นวาย จะส่งของไปให้ห
หน้าหนาวนี้ยาวนานถึงหกเดือนข้าวของที่ชาวบ้านพากันซื้อมาตุนเอาไว้กำลังขาดแคลนเพราะว่าทุกปีจะหนาวแค่สามถึงสี่เดือน แต่ปีนี้เกิดพายุหิมะถล่มในหลายเมือง ดีที่ก่อนที่พายุจะถล่มหนักนายน้อยหลี่ได้ขนส่งผักผลไม้ส่งไปทุกเมืองเพียงพอต่อการทำอาหารและขายในหนึ่งเดือนตอนนี้จึงหยุดส่งมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วเพราะหิมะตกหนักมาก ทั้งยังมีพายุอีกเขาจึงเอาความปลอดภัยของคนงานและม้าเอาไว้ก่อนเพราะที่ส่งไปก็มากมายพอขายแล้วในตัวเมืองก็วุ่ยวายเพราะพายุหิมะถล่มคนก็ขาดแคลนเสบียงเพราะมันเข้าเดือนที่ห้าแล้วมีเพียงงานของอวี่หลิงกับท่านอาที่ไม่ขาดผักและอาหารต่อให้หนาวทั้งปีอวี่หลิงนางก็ยังอยู่ได้อย่างสบาย ตอนในหมู่บ้านคงกำลังวุ่นวายไหนจะพายุถล่มไหนจะขาดอาหารการกินทั้งกลัวว่าบ้านจะรับน้ำหนักไม่ไหวถล่มลงมาใส่คนในครอบครัวอีก"ท่านพี่หนาวนี้ทำไมยาวนานจังเลยละเจ้าคะ ข้าว่าคนในหมู่บ้านและตัวเมืองคงวุ่นวายน่าดูนี้ก็ห้าเดือนแล้วยังไม่มีวี่แววว่าหิมะจะหยุดตกเลย ข้าว่าอากาศมันแปรปวนยิ่งนักปีนี้ดีนะเจ้าคะที่ไร่ของเราไม่ขาดแคลนอาหารการกินข้าสงสารชาวบ้านที่ไม่มีตำลึงพอที่จะตุนเสบียงได้ยาวนานหลานเดือนทั้งคนไร้บ้านอีกเฮ้อ" นางถออนหา
ในที่สุดการเก็บผลชีกวาก็เสร็จไปเรียบร้อยอวี่หลิงนางจัดงานเลี้ยงให้กับรายได้ที่ขายทั้งผักรอบแรกกับแตงโมนางได้ตำลึงมาหลายแสน นางจึงฉลองให้กับทุกคน จนแทบจะคลานออกจากวงของงานเลี้ยงกันเลยทีเดียวและคนงานนางยังให้พิเศษกับครอบครัวของคนงานของนางครัวละหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ให้เด็กน้อยทั้งสิบคนอีกคนละยี่สิบตำลึงเงินให้ทุกคนมีกำลึงใจทำงานให้นางกันทุกคนส่วนเด็กน้อยที่หัดปักผ้าสามสี่คนลูกของคนงานนางยังให้คนละห้าตำลึงเงินพวกเขาจะได้มีกำลังใจในการทำงานยิ่งๆขึ้นไป อีกทั้งยังทำตำลึงให้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวอีกต่อไปในภายภาคหน้ามีเพียงครอบครัวของท่านตากับท่านอาของนางที่ไม่รับตำลึงจากหลานสาวแต่ให้ทำอาหารที่อร่อยให้กินก็พอแล้ว เพราะท่านอาได้ตำลึงเป็นแสนมาเช่นเดียวกันในตอนนี้ทั้งสองครอบครัวไม่ขาดตำลึงทั้งยังหามาได้ทุกวันจากการส่งปลาทุกวันอีกที่เหลาอาหารทั้งสองสาขาของนายน้อยหลี่เหลียงเฉิน และท่านก็ยังจ่ายค่าเหนื่อยให้กับคนงานทุกคนในไร่เช่นเดียวกันกับหลานสาวด้วยทั้งสองไร่เพราะใช้ระบบเดียวกันทุกอย่างและคนที่ได้กำไรมากสุดคือนายน้อยหลี่นั้นเอง แต่อวี่หลิงนางรับมาสามเด้งเลยทั้งค่าสูตรอาหารทั้งส่วนแบ่งหนึ่งส่วนจ
ในที่สุดผักที่บ้านของท่านอาของนางก็ตัดเสร็จใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เท่ากัน ตอนนี้กำลังไปเก็บชีกวาที่ไร่ของอวี่หลิงเกือบสามสิบหมู่รถม้าวิ่งเข้าออกที่บ้านไร่เชิงเขาทุกวัน ครอบครัวของท่านอาก็มาช่วยนางที่ไร่กันทุกคนเพราะแตงโมที่ไร่ของนางมีแต่ลูกใหญ่ๆเนื้อสีแดงหวานมากจนนายน้อยหลี่ต้องเหมารถม้ามาช่วยอีกจากต่างอำเภอใกล้เคียงที่มีสาขาของเหลาอาหารของเขา โดยผู้ดูแลเหลาหารถม้ามาให้ห้าสิบคันเลยจึงจะพอขนส่งแตงโมและผักส่งไปต่างเมืองแต่ก็แทบจะไม่พอขายสร้างกำไรให้นายน้อยหลี่จนยิ้มแก้มแทบจะแตกหลังจากวันที่เก็บผักวันสุดท้ายท่านอาได้เลี้ยงฉลองให้กับคนงานและคนที่มารับจ้างกันทุกคนรวมทั้งครอบครัวของอวี่หลิงด้วย นายน้อยหลี่ดื่มเหล้าของอวี่หลิงจนเมาได้ที่ก็สารภาพรักอวี่ซิงจนนางอายม้วนหลบหลังอวี่หลิงตลอดเวลา นางบอกกลัวว่าเขาจะรังเกียจที่นางเป็นคนบ้านป่าคงไม่สามารถไปเป็นฮูหยินของเขาได้ที่เมืองหลวงได้และนางจะอยู่ที่บ้านไร่ไม่จากไปไหนจากท่านพ่อท่ายแม่ตากับยายและอวี่หลิงญาติของนางเอง ซึ่งนายน้อยหลี่ก็บอกว่าเขาจะอยู่ที่นี้เพราะบิดายกเหลาอาหารให้สองสาขาที่หุ้นกันกับหลงจู๊ดูแลทั้งสองสาขา และคงต้องอยู่ที่นี้ตลอดไปจะกลับเ