LOGINเช้าวันนี้ก็เหมือนดังเช่นทุกวัน กิจวัตรประจำวันของลลัลนา คือการเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย เธอมีเรียน 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้เธอจัดตารางเวลาของตัวเองได้ง่าย เพราะตัวเธออาศัยอยู่ที่คอนโดเป็นหลักในช่วงวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี และกลับบ้านในทุกเย็นวันศุกร์ มีบ้างบางสัปดาห์ที่เธอไม่ได้กลับ แต่เธอก็ไม่เคยขาดการติดต่อหรือห่างจากครอบครัวของเธอนาน
‘รอหน้าลิฟต์’ เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น ระหว่างที่ลลัลนาเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัย เธอหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ไม่ต้องเดาเลยว่าใคร เอาเบอร์มาจากไหนอีกเนี่ย” เธอบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆพร้อมกับเอื้อมมือหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นบ่า สำรวจความเรียบร้อยว่าไม่ได้เปิดอะไรทิ้งเอาไว้ก็เดินออกจากห้องเพื่อจะไปที่ลิฟต์ตามที่ใครบางคนส่งข้อความมาบอก แต่เมื่อออกจากห้องมาก็เห็นว่าเขามายืนรออยู่แล้ว
ลลัลนาก้าวเข้าไปในลิฟต์ก่อนตามความเคยชิน จนกระทั่งลงมาถึงที่รถ หญิงสาวรอให้เขาปลดล็อกก็ก้าวเข้าไปนั่งในรถโดยไม่รอให้เขาออกคำสั่ง
“วันนี้ฉันเข้าบริษัท เธอมีเรียนถึงกี่โมง”
“มีแค่วิชาเดียวค่ะ แต่เดี๋ยวไปซื้อของขวัญกับยัยข้าวค่ะ”
“อืม” ชายหนุ่มส่งเสียงรับรู้ในลำคอ แล้วขับรถมาส่งหญิงสาวที่หน้าคณะ ก่อนจะขับรถออกไป ท่ามกลางสายตาของนักศึกษาหลายคนที่มองว่าทำไมหญิงสาวถึงมากับนัทธี ร่างบางรีบไปที่โต๊ะประจำที่มีฟางข้าวนั่งรออยู่และพากันขึ้นคลาสไป
หลังเลิกเรียน ทั้งสองสาวพากันไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใกล้กับมหาวิทยาลัย เพื่อซื้อของขวัญให้มารดาของฟางข้าว หลังจากซื้อของเสร็จสองสาวก็พากันมานั่งทานข้าว
“ขอโทษนะครับ นั่งด้วยได้มั้ยครับ”
“อ้าว ดล มาคนเดียวเหรอ มานั่งเลย” ลลัลนากับฟางข้าวเงยหน้าหลังจากมีเสียงทักขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นณดล เพื่อนร่วมคณะที่เป็นเดือนมหาวิทยาลัยก็เอ่ยชวนให้นั่งด้วยกัน
“เราแซวเล่น แต่ไหนๆก็ชวน งั้นนั่งด้วยนะ” ณดลพูดพร้อมกับขยับเก้าอี้หย่อนตัวนั่งลงข้างๆลลัลนา
“ดาวกับเดือนมหาลัย ในที่สุดก็ได้มาเจอกันอีก หลังจากแทบไม่ได้เจอกันเลยในเวลาเรียน” ฟางข้าวแซวณดลกับลลัลนาพร้อมกับยิ้มกว้าง
“แล้วใครล่ะ ที่ไม่มาวันประกวดน่ะ ฉันถึงต้องขึ้นประกวดแทน” ลลัลนามองฟางข้าวค้อนๆ
สามคนนั่งทานข้าวไปพร้อมกับคุยกันไปเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นว่าเย็นมากแล้ว จึงเตรียมแยกย้ายกันกลับบ้าน ในขณะที่กำลังจะลุกออกจากโต๊ะ ได้มีใครบางคนมายืนขวางลลัลนาไว้
“พี่นัท” ลลัลนาที่หันมามองคนที่ยืนขวางเธอไว้ ก็ต้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“กลับบ้าน ฟางข้าว เธอขับรถของลัลกลับไปทีนะ วันจันทร์ค่อยขับมา” นัทธีมีสีหน้าไม่พอใจหันไปบอกเพื่อนสนิทของลลัลนา พร้อมกับดึงกระเป๋าของลลัลนาไปเปิด หยิบกุญแจรถส่งให้ฟางข้าว ข้อมือเล็กของลลัลนาถูกจับพร้อมกับออกแรงดึงเธอให้เดินตามเขาไป
“นั่นอาจารย์ไม่ใช่หรอข้าว” ณดลหันมาถามฟางข้าว หลังจากที่ลลัลนาหายลับตาไปแล้ว
“อือ อาจารย์นั่นแหละ” ฟางข้าวตอบ พร้อมกับแอบมองณดลที่มองตามลลัลนาไปจนลับสายตา
“งั้นเรากลับแล้วนะ ดลกลับเลยไหม” ฟางข้าวถามณดลระหว่างที่กำลังเดินออกจากร้านอาหาร
“อือ เดี๋ยวเรากลับเลย ข้าวไปส่งเราหน่อยได้ไหม เราไม่ได้เอารถมา วันนี้ออกมากับเพื่อน”
“โอเคจ้ะ” ฟางข้าวตอบรับพร้อมกับแอบยิ้มดีใจ
“พี่นัท ลัลเจ็บ” ลลัลนาบอกเขาเบาๆ
ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยข้อมือของเธอแม้จะเดินมาถึงรถแล้วก็ตาม แถมยังบีบข้อมือหญิงสาวแน่นขึ้น นัทธีก้มลงมองไปที่ข้อมือเล็กที่เขาจับอยู่ มีรอยแดงเพราะฝีมือเขา เขาจึงยอมปล่อยมือ ก่อนจะขับรถออกไป
ลลัลนานั่งตัวเกร็งมาตลอดทาง เมื่อมาถึงที่คอนโดหญิงสาวรีบลงจากรถแต่ก็ช้ากว่านัทธี ชายหนุ่มรีบลงจากรถแล้วคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ ก่อนจะดึงเธอขึ้นลิฟต์ไปด้วยกัน
ทันทีที่ลิฟต์เปิด นัทธีดึงข้อมือลลัลนาไปที่ห้องของเขา หลังจากที่กดรหัสเข้าห้องก็ก้าวยาวๆไปยังโซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง มือใหญ่ออกแรงดึงข้อมือหญิงสาวให้นั่งลงบนตักเขา และกอดเอวเธอเอาไว้
“พี่นัทคะ…”
“อยู่เงียบๆ” ชายหนุ่มพูดขัดขึ้น เพราะเขารู้ดีว่าลลัลนาจะพูดอะไร แต่เขาจำเป็นต้องสงบสติอารมณ์ของตัวเขาเอง
ลลัลนาเห็นอาการเขาก็ถอนหายใจแล้วนั่งเงียบปล่อยให้เขากอดเธอ มือเล็กเอื้อมไปลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ
“เป็นอะไรคะ โมโหอะไร” ลลัลนาถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“เปล่า” นัทธีปฏิเสธหญิงสาวในอ้อมกอดแต่กลับโอบรัดเอวคอดเล็กแน่นขึ้น
“พี่นัทไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ปากแข็ง อารมณ์ร้อน” เธอพูดพลางลูบหลังปลอบเขา
“จำได้ด้วยเหรอ” เจ้าของตักแกร่งเอ่ยออกมาด้วยความแปลกใจ
“ก็นิดหน่อยค่ะ นานแล้วนี่คะ เป็น 10 ปีแล้วนะคะ”
“อืม นานพอสมควร” เขาตอบพลางคลายมือออกและจับให้หญิงสาวเบี่ยงกายหันหน้ามามองเขา
“อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ” หญิงสาวไม่ได้ว่าอะไรแต่กลับถามเขาออกไปน้ำเสียงอบอุ่น
“อืม…..กลับห้องเถอะ ไม่งั้นไม่รับประกันว่าจะรอครบเดือนไหว” เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ลลัลนารีบกระเด้งตัวลุกออกจากตักกว้าง แล้วเดินเร็วๆออกจากห้องเขาไปทันที
ทางด้านฟางข้าวกับณดลที่เดินมาที่รถของลลัลนา หญิงสาวเปิดรถและวางกระเป๋าของเธอไว้ที่เบาะหลังรถ
“เราขับให้มั้ย” ณดลเอ่ยถามฟางข้าว
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราขับเองดีกว่า ขี้เกียจเปลี่ยนที่นั่งด้วย ตอนส่งดลเสร็จน่ะ”
“โอเค” ณดลพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูขึ้นไปนั่งเบาะหน้าคู่กับฟางข้าว ก่อนที่ฟางข้าวจะขับออกไป
“ลืมถามเลย ให้เราไปส่งที่ไหน” ฟางข้าวที่ขับรถมาสักพักเพิ่งนึกขึ้นได้ เอ่ยถามณดลขึ้น
“ที่คอนโดเลย วันนี้เราไม่ไปเฝ้าผับ วันนี้ขี้เกียจ” ณดลบอกหญิงสาวขำๆ
ฟางข้าวส่งเสียงในลำคอเป็นการตอบรับ ก่อนจะเหยียบคันเร่งไปยังสถานที่ปลายทาง
“ข้าวขึ้นไปหาขนมทานก่อนมั้ย” ณดลเอ่ยปากชวนฟางข้าวที่มาส่งเขาที่หน้าคอนโด
“ไม่เป็นไร วันนี้วันเกิดคุณแม่ เราจะเอาของขวัญไปให้คุณแม่น่ะ”
“อ้าว แล้วไม่บอกเราแต่แรก ไม่งั้นเราจะได้ซื้อของขวัญให้คุณแม่ของข้าวด้วย”
“ไม่เป็นไร งั้นเราไปนะ เดี๋ยวคุณแม่รอ”
“โอเค ไว้เจอกันที่มหาลัยนะ”
“จ้า”
หลังจากลงจากรถเรียบร้อยณดลมองหญิงสาวที่ขับออกไปจนลับสายตาก็หมุนตัวเดินกลับเข้าคอนโดไป
ฟางข้าวที่ขับรถออกมาได้สักพักแอบอมยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะตั้งสมาธิกับการขับรถ เพราะเธอออกมาในช่วงเวลาการจราจรแสนจะหนาแน่นพอดี
“คุยอะไรกันอยู่ สาวๆ” นัทธีกับณดลเดินเข้ามาในห้องทานอาหาร หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จ พอดีกับที่ลลัลนากับฟางข้าวเงียบเสียงลงพอดี“คุยกันตามประสาสาวๆ ค่ะ” ลลัลนายิ้มบางๆตอบนัทธีณดลเดินมานั่งลงข้างฟางข้าว จับมือเธอบีบเบาๆ“มีอะไรเหรอ” ฟางข้าวถามสามีงงๆ“เปล่า ไม่มีอะไร”“ไปดูเด็กๆกันเถอะ ป่านนี้น่าจะเลอะเทอะหมดแล้วล่ะ” ลลัลนาเอ่ยปากชวนทุกคน ก่อนจะพากันลุกเดินออกไปยังสวนหน้าบ้าน“คุณแม่” กันชนกเห็นมารดาเดินมา ก็ชูกระถางต้นไม้ใบเล็กในมือให้ดูสีหน้าภูมิใจฟ้าครามเองก็เช่นกัน แต่เด็กน้อยทำเพียงหันไปพยักหน้าให้มารดา ก่อนจะส่งสายตาไปที่กระถางต้นไม้ที่เขาปลูก ฟางข้าวแทบจะกุมศีรษะกับความพูดน้อย เงียบขรึมของบุตรชายลลัลนาหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของฟางข้าว ก็ฟ้าครามถอดบุคลิกของเธอมาเกือบหมด ในขณะที่กันชนก ร่าเริงสดใสเหมือนฟางข้าวไม่มีผิด“เอาล่ะๆ เล่นเสร็จอย่าลืมล้างมือกันด้วยนะเด็กๆ” นัทธีบอก สายตากวาดมองทุกคน ก่อนจะโอบเอวลลัลนาเดินตรงไปยังศาลาริมสระ ณดลจูงมือฟางข้าวเดินตามไป“ฉันว่านะ ฟ้าเหมือนแกเป๊ะเลยนะลัล” ฟางข้าวพูด เธอคงต้องทำใจกับนิสัยและบุคลิกของบุตรชายให้ได้สินะ“เอาน่า เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงร่
“อ้าว มากันแล้วเหรอ” ร่างบางย่อตัวรับกอดที่คนตัวเล็กวิ่งตรงเข้ามากอดเธอ ก่อนจะหอมแก้มยุ้ยๆ ทั้งสองข้าง แล้วปล่อยร่างเล็กให้วิ่งกลับไปหามารดาฟางข้าวกับณดลเดินตามบุตรชายเข้ามาในบ้านของลลัลนา หลังจากที่ฟ้าครามลงจากรถ ก็วิ่งตรงเข้ามาในบ้าน ตรงเข้าไปกอดลลัลนา“พี่นัทกับน้องกันล่ะ” ฟางข้าวถามเพื่อนรัก เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เจอสามีกับบุตรชายของเพื่อนรัก“ขึ้นไปอาบน้ำน่ะ เมื่อกี๊เพิ่งปลูกต้นไม้กัน”“ฟ้าอยากปลูกต้นไม้ครับ” ฟ้าคราม บุตรชายของฟางข้าว ที่เกิดก่อนกันชนกไม่กี่เดือน เอ่ยบอกมารดา เมื่อได้ฟังการสนทนาเมื่อสักครู่“เดี๋ยวรอลุงนัทกับน้องกันลงมาก่อนนะครับ” ลลัลนาบอกฟ้าครามน้ำเสียงใจดี“ได้ครับ” เด็กน้อยรับคำก่อนจะเดินไปนั่งรอบนโซฟาเงียบๆ“สงสัยฟ้ากับกันน่าจะโดนสลับตัวกันนะ ฟ้านิสัยเหมือนแกเลย นิสัยนิ่งๆ ส่วนกันจะออกสดใสร่าเริงเหมือนฉัน” ฟางข้าวพูดสีหน้าครุ่นคิด ก้าวเท้ายาวๆตามบุตรชายเข้าไปในห้องนั่นเล่นลลัลนาหัวเราะชอบใจ พยักหน้าทักทายณดล ก่อนจะเดินตามฟางข้าวไปหลังจากเข้าไปในห้องนั่นเล่นกันไม่กี่นาที นัทธีก็อุ้มกันชนกตามเข้ามาในห้องนั่งเล่น วางร่างเล็กของกันชนกลง เดินไปหย่อนตัวนั่งลงเคีย
ร่างบางถูกวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ ลัลหมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีนัทธีก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางสวรรค์ ล้วงเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างใน ไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะ” มือหนาปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้น พิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ลลัลนาหวีดเสียงดัง แขนคล้องคอหนาพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจูบเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆลลัลนาหวีดครางในลำคอ ท่านี้แก่นกายของเขาเข้าไปลึก มันทั้งเสียวทั้งจุกในเวลาเดียวกันปากหยักถอนริมฝีปากออก ไล่ลงมาตามลำคอขาว ดูดผิวเนื้
“ลัลยังไม่อิ่มเลยค่ะ”นัทธีนั่งลงเหยียดขาออกอย่างรวดเร็ว ร่างบางขยับคร่อมท่อนกายลำใหญ่ที่กำลังตั้งโด่ กดสะโพกลงทีเดียวจนมิดโคน มือบางบดคลึงติ่งเกสรตัวเองเบาๆ เรียกเสียงคำรามจากคนใต้ร่างรุนแรง เมื่อเห็นภาพตรงหน้า“ซี้ดดดด มีเมียร่านแบบนี้ชอบไหมคะ” ปากบางร้องซี้ดซ้าด ถามยั่วสามี“โอ้ววว ยิ่งกว่าชอบอีกครับคุณเมีย กระแทกลงมาเลยจ้ะ จัดการเลย” คนใต้ร่างเธอกระซิบเสียงสั่นสะโพกกลมสวยขยับบดติ่งเกสรกับลำโคนเนื้อของคนใต้ร่าง เรียกเสียงครางในลำคอราวสัตว์ป่าคำรามกระหึ่มลั่นห้อง ก่อนจะยกสะโพกลอยขึ้น แล้วทิ้งตัวกระแทกลงไปสุดแรง“โอ้วว แน่นสุดๆเลยจ้ะเมียจ๋า”ยิ่งกระแทกกระทั้นแรงเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจุก แต่ความเสียวซ่านมันเพิ่มอีกเป็นทวีคูณ ชายหนุ่มครางเสียงดัง เอ่ยคำหยาบคายเพิ่มอารมณ์กระสันกับบทรักบนเตียงหญิงสาวหวีดครางไม่หยุด ยกสะโพกกระแทกกระทั้นร่องสาวคับแน่นที่กำลังกลืนกินท่อนเนื้อลำใหญ่อยู่ข้างใน เอวบางร่อนควงให้ติ่งเกสรบดคลึงกับลำโคนท่อนเนื้อ ความเสียวซ่านส่งผลให้ภายในร่องรักคับแน่น ตอดรัดเป็นจังหวะ“อ๊ายยยย…” ร่างบางแทบสิ้นสติเมื่อสะโพกหนาเด้งเอวกระแทกสวนขึ้นยามที่เธอกระแทกกายลงชายหนุ่มอดทนต่อค
“น้องกันล่ะคะ” ลลัลนาเอ่ยถามขึ้น หลังจากออกจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วจ้ะ” นัทธีบอกภรรยาสาวคนสวย ก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอด กันชนก ได้ไม่นาน รูปร่างของลลัลนาก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ลัล น้องกัน 3 ขวบแล้วนะ” นัทธีหมุนเอวบางให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้น้องกันได้แล้วมั้งครับ น้องกันจะได้มีเพื่อน”“แต่น้องกันยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้น้องกัน ลัลก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ลัลกลัวน้องกันจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าลัลคิดมากไปนะ”“แต่…”“ไม่แต่แล้วครับ”นัทธีย่อตัว ช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้น เดินตรงไปที่เตียง วางเธอลงเบาๆก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่นัท” ลลัลนาเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“หืม” นัทธีซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย ที่เขาทำการแหวกกลีบดอกไม้ออกด้วย
“ตายแล้ว ป่านนี้แล้วเหรอ งั้นฉันกลับก่อนนะ อย่าลืมเตรียมตัวด้วยล่ะ” หลังจากนั่งคุยกันมาสักพักใหญ่ ฟางข้าวก็เหลือบเห็นนาฬิกาที่ริมผนังห้อง เธอร้องอุทานออกมา เธอคุยจนลืมเวลาว่าเธอต้องทำธุระที่อื่นต่อ“รู้แล้วน่า เจอกันวันงาน”“เค เจอกันจ้ะ” ฟางข้าวกับณดลกลับบ้าน โดยมีลลัลนากับนัทธีเดินตามมาส่งที่หน้าบ้านหลังส่งฟางข้าวกับณดลกลับ นัทธีโอบเอวลลัลนามาที่ห้องนั่งเล่น“ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าข้าวกับดลจะลงเอยกันได้”“แต่พี่ว่าไม่แปลกนะ ณดลรักฟางข้าวมานาน สัญชาตญาณผู้ชาย ไม่ยอมเสียคนที่ตัวเองรักให้ใครอยู่ละ แล้วยิ่งถ้ามีใครที่ทำท่าว่าจะมาสนใจคนที่ตัวเองรัก ยิ่งไม่มีทางปล่อยเลย”“ก็คงงั้นค่ะ เซอร์ไพรซ์ตรงที่ข้าวท้องก่อนลัลนี่แหละค่ะ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะซบไปที่บ่าแกร่งของสามี“แล้วพี่นัทล่ะคะ เราไม่ได้แต่งงานกัน แล้วมีคนเข้ามาจีบลัล พี่นัทจะทำยังไงคะ”“พี่ก็จะทำแบบณดลนั่นแหละ จับปล้ำทำเมียเลย ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้” นัทธีตอบภรรยาสาวสายตากรุ้มกริ่ม“แหม ผู้ชายนี่เป็นเหมือนกันหมดเลยนะคะ”“ไม่หรอก พี่ว่านะ ถ้าผู้หญิงไม่มีใจ ยังไงมันก็ยากนะที่จะลงเอยกันได้ สมัยนี้ไม่มีใครถือกันละ ว่าต้องเป็นคนแรกน่ะ







