LOGINช่วงเช้าวันหยุดที่แสนสงบเงียบ บนเตียงหลังใหญ่มีร่างบอบบางกำลังนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ เนื่องจากอุณหภูมิของห้องค่อนข้างเย็นจากการเปิดแอร์มาทั้งคืน ร่างบางพลิกตัวเปลี่ยนอิรินาบถการนอนเมื่อรู้สึกว่าตัวเองนอนไม่สบาย
แกร๊ก
เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้นเบาๆ คล้ายกลัวจะรบกวนการพักผ่อนของเจ้าของห้อง
“อืม”
เป็นธรรมชาติของคนอยู่คนเดียวในห้อง พอมีคนอื่นก็จะรู้สึกตัวโดยอัตโนมัติ ลลัลนาลุกขึ้นนั่ง เธอยังคงสะลึมสะลืออยู่
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นทำให้หญิงสาวสะดุ้ง อาการสะลึมสะลือหายแทบจะทันที
“พี่เข้ามาได้ยังไงคะ” เธอตกใจรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงคอ นัทธีมองอาการของหญิงสาว ลลัลนามั่นใจว่าเธอเห็นรอยยิ้มขำจากใบหน้าหล่อเหลาของเขา ถึงแม้จะเพียงไม่กี่วินาทีก็ตาม
“คุณแม่เธอให้รหัสมา” นัทธีปรับอารมณ์ตัวเองตอบหญิงสาวเสียงเรียบพลางนั่งลงตรงขอบเตียง
“ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว วันนี้เราจะไปซื้อของกัน”
“เอ่อ ค่ะ พี่นัทออกไปก่อนได้มั้ยคะ” นัทธีไม่พูดอะไร เขายอมลุกออกจากของเตียงและเดินออกไปจากห้องนอนของหญิงสาวแต่โดยดี ลลัลนาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจก่อนจะเดินกึ่งวิ่งเข้าห้องน้ำไป
“เรามาซื้ออะไรกันคะ”
“ของจำเป็น” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบก่อนจะดึงข้อมือพาเจ้าของร่างบางไปร้านที่เขาได้จัดการนัดไว้เรียบร้อยแล้ว
“พี่นัทคะ…”
ทันทีที่มาถึงหน้าร้านลลัลนาได้ฝืนตัวเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ยอมให้หญิงสาวปฏิเสธ เขาดึงข้อมือเล็กให้เดินตามเข้าไปที่เก้าอี้ที่ทางร้านจัดไว้ต้อนรับลูกค้า หลังจากพนักงานเห็นนัทธีเข้ามาภายในร้าน ก็ได้นำ ‘สิ่งของ’ ที่เขาสั่งจองเอาไว้มาวางให้
“คุณนัทธีสนใจรับแหวนด้วยมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องการแค่ชุดเครื่องเพชรที่เข้ากันกับแหวนวงนี้ครับ”
“งั้นเดี๋ยวดิฉันลองดูเพิ่มเติมให้นะคะ” พนักงานพูดจบก็เดินเข้าไปด้านในเพื่อไปหาชุดเครื่องเพชรมาเพิ่ม เพื่อให้ชายหนุ่มเลือก
“อะไรคะพี่นัท ลัลไม่เข้าใจ”
“แหวน เป็นแหวนที่ตกทอดกันมา เป็นแหวนแต่งงานของคุณปู่กับคุณย่า คุณพ่อกับคุณแม่ ตอนนี้มันตกมาถึงเรา ฉันแค่อยากหาเครื่องเพชรให้มันเข้าชุดกัน จริงๆมันมีชุดของมันอยู่แล้ว แต่ฉันอยากให้มีชุดเล็กไว้สำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน”
นัทธีอธิบายให้หญิงสาวเข้าใจถึงความเป็นมาของแหวนวงที่เขานำมาใช้เป็นแหวนแต่งงาน ลลัลนาทำสีหน้าแปลกใจที่ได้ยินเขาพูดยาวๆเป็นครั้งแรก หลังจากเธอไม่ได้พูดคุยกับเขามาเป็น 10 ปี
“แล้วทำไมไม่บอกลัลก่อนล่ะคะ”
“ถ้าบอก เธอก็ไม่ยอมมา” ลลัลนาชะงักไปที่นัทธีรู้ทันเธอ เพราะถ้าเธอรู้ว่าเขาพามาซื้อเครื่องเพชร เธอก็คงไม่มาอย่างที่เขาว่าจริงๆ
“งั้นพี่นัทเลือกเองนะคะ ลัลขอรออย่างเดียวค่ะ” หลังจากหญิงสาวพูดจบพนักงานก็เดินถือกล่องกำมะหยี่เข้ามาวางตรงหน้า
“ขอลองชุดนี้ครับ”
ฝ่ามือใหญ่แตะปลายนิ้วลงที่กล่องใบหนึ่ง เขาสะดุดตาทันทีที่กวาดสายตามอง สร้อยทองคำขาวที่มีจี้เพชรน้ำงามที่เจียระไนเป็นรูปหัวใจ ล้อมรอบด้วยเพชรสีชมพูรูปหยดน้ำเม็ดเล็กๆเรียงกันกับข้อมือเป็นชุดเดียวกัน ไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เรียบจนเกินไป
“น่ารักจัง” ลลัลนามองตามมือที่เขาเลือก เธอรำพึงออกมาเบาๆ
นัทธีลองสวมชุดเครื่องเพชรให้หญิงสาว เขามองด้วยความพึงพอใจก่อนจะมองเธอ ซึ่งลลัลนาคิดว่าเธอเองก็คงไม่ต้องพูดอะไร เขาน่าจะรู้ใจเธอในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
แล้วก็เป็นไปตามคาด เขาตกลงรับชุดนี้และให้เธอใส่ติดตัวไปเลย ก่อนจะพาเธอไปร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารมื้อเช้าที่นับรวมกับมื้อเที่ยง เพราะกว่าจะออกมากันก็สายเต็มที
“ลัลขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะ” หญิงสาวบอกกับเขาก่อนจะเดินออกไป
คล้อยหลังลลัลนาไปไม่ถึง 5 นาที นัทธีหยิบโทรศัพท์มาโทรสั่งงานเลขาระหว่างรอลลัลนา เพราะเขาไม่ได้เข้าบริษัท
“นัทคะ” เสียงเรียกชายหนุ่มดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงปริศนา จะถือวิสาสะนั่งลงตรงข้ามเขา ซึ่งเป็นที่ที่ลลัลนานั่งก่อนจะลุกออกไป
“ครับ” ชายหนุ่มมองหล่อน ก่อนจะคุยงานต่อโดยไม่ได้สนใจ
“มากับใครคะ แพรไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่ กลับมาจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” หล่อนค่อนข้างไร้มารยาท ทั้งที่เห็นเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ กลับชวนเขาคุยโดยไม่สนใจว่าเขากำลังมีธุระหรือไม่
“มากับภรรยาครับ” นัทธีตอบหล่อนเสียงเรียบอย่างค่อนข้างไว้ตัว เพราะเขาไม่ต้องการให้ลลัลนากลับมาเห็นแล้วเข้าใจเขาผิด
“คะ คุณแต่งงานแล้วเหรอ ทำไมแพรไม่เห็นได้ข่าวเลย” หญิงสาวผู้มาใหม่หน้าเจื่อนไป
“ครับ ผมแต่งงานแล้ว” ชายหนุ่มพูดจบ ลลัลนาก็กลับมาพอดี
“พี่นัทคะ” ลลัลนามาถึงก็เดินมานั่งข้างๆชายหนุ่มก่อนจะเรียกชื่อเขาเสียงหวาน
“แพร ผมขอแนะนำนะ นี่ลัล ภรรยาของผม เธอเป็นคู่หมั้นผมตั้งแต่เด็ก” พูดพลางโอบเอวลลัลนา
“อ๋อ คลุมถุงชนเหรอคะ มิน่าล่ะ ไม่มีข่าวอะไรเลย”
“ไม่ทราบสิคะ แต่ถึงขนาดเอาแหวนเพชรประจำตระกูลมาเป็นแหวนแต่งงาน ก็คงจะต้องเต็มใจในระดับหนึ่งล่ะมั้งคะ ไม่งั้นคงจะใช้แหวนเพชรทั่วไปที่ไม่มีความหมายขนาดนี้” ลลัลนาทนให้แพรวากระแนะกระแหนไม่ไหวเลยตอบโต้กลับไป
“คงจำเป็นต้องเอาออกมาใช้มั้งคะ ไม่งั้นเขาคงไม่ปล่อยให้แต่งเงียบขนาดนี้”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ พอดีจดทะเบียนสมรสด้วย แล้วบังเอิญวันนี้ว่าง พี่นัทเลยพาออกมาซื้อเครื่องเพชรไว้ใส่เล่น สวยไหมคะ” ลลัลนายิ้มหวานยั่วแพรวา ก่อนจะแตะสร้อยที่คอเบาๆให้แพรวาสังเกตุเห็น
“ก็สวยนะคะ แต่เล็กไปหน่อย คงจะไม่สำคัญอะไรถึงได้แค่นี้”
“อ๋อ พอดีไว้ใส่เล่นน่ะค่ะ เซ็ทของมันต้องเก็บไว้ที่บ้านเพราะมันใหญ่จนไม่สามารถนำมาใส่ในชีวิตประจำวันได้เลย อีกอย่างก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินของพี่นัทหรอกค่ะ พอดีว่าที่บ้านก็มีเงินไม่จำเป็นต้องรอเกาะใคร” ลลัลนาตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่แอบแฝงไว้ด้วยการตอบโต้อย่างเจ็บแสบ
ชายหนุ่มที่กำลังเป็นประเด็นถึงกับสำลักอากาศ เขาแกล้งกระแอมไอขึ้นมาเบาๆเพื่อกลบอาการ
“เนี่ยเหรอคะนัท ภรรยาคุณ ยังเด็กอยู่เลยนะคะ ไม่มีมารยาทเลย”
“ฉันจะมีมารยาทเฉพาะกับคนที่มีมารยาทเท่านั้นค่ะ” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้แพรวา
“ลัล พี่ว่าเรากลับกันเลยดีไหม” นัทธีแตะเอวหญิงสาวเบาๆเป็นการส่งสัญญาณ
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ ยินดีที่ได้พบนะคะ”
“ยินดีเช่นกันค่ะ งั้นแพรขอตัวก่อนนะคะนัท ไว้จัดงานฉลองสมรสเมื่อไหร่ อย่าลืมชวนแพรนะคะ หวังว่าจะได้จัดนะคะ” ท้ายประโยคแพรวาหันมาพูดกับลลัลนาด้วยน้ำเสียงจิกกัด
“คงไม่นานนี้หรอกค่ะ เดี๋ยวการ์ดพิมพ์เสร็จพี่นัทคงจะส่งไปให้นั่นแหละค่ะ พอดีไม่สะดวกไปเอง มีแขกสำคัญอีกหลายท่านเลย” ลลัลนาตอบกลับอย่างเจ็บแสบ แพรวาจิกตามองลลัลนาด้วยความเจ็บใจก่อนจะเดินออกไป
“แฟนเก่าเหรอคะ”
“ใช่ เคยคบอยู่พักหนึ่ง” นัทธีตอบลลัลนาอย่างไม่ใส่ใจคนที่ถูกพูดถึงเลยสักนิด
“ค่ะ กลับกันเถอะค่ะ ลัลอิ่มแล้ว อยากกลับบ้าน” ลลัลนาไม่ได้พูดอะไรถึงแพรวาอีก แต่ชวนชายหนุ่มกลับบ้านเลย
“ครับ”
หลังจากชำระเงินเสร็จและออกจากร้านมา บรรยากาศระหว่างนัทธีกับลลัลนาก็แปลกไปจนชายหนุ่มรู้สึกได้
“คุยอะไรกันอยู่ สาวๆ” นัทธีกับณดลเดินเข้ามาในห้องทานอาหาร หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จ พอดีกับที่ลลัลนากับฟางข้าวเงียบเสียงลงพอดี“คุยกันตามประสาสาวๆ ค่ะ” ลลัลนายิ้มบางๆตอบนัทธีณดลเดินมานั่งลงข้างฟางข้าว จับมือเธอบีบเบาๆ“มีอะไรเหรอ” ฟางข้าวถามสามีงงๆ“เปล่า ไม่มีอะไร”“ไปดูเด็กๆกันเถอะ ป่านนี้น่าจะเลอะเทอะหมดแล้วล่ะ” ลลัลนาเอ่ยปากชวนทุกคน ก่อนจะพากันลุกเดินออกไปยังสวนหน้าบ้าน“คุณแม่” กันชนกเห็นมารดาเดินมา ก็ชูกระถางต้นไม้ใบเล็กในมือให้ดูสีหน้าภูมิใจฟ้าครามเองก็เช่นกัน แต่เด็กน้อยทำเพียงหันไปพยักหน้าให้มารดา ก่อนจะส่งสายตาไปที่กระถางต้นไม้ที่เขาปลูก ฟางข้าวแทบจะกุมศีรษะกับความพูดน้อย เงียบขรึมของบุตรชายลลัลนาหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของฟางข้าว ก็ฟ้าครามถอดบุคลิกของเธอมาเกือบหมด ในขณะที่กันชนก ร่าเริงสดใสเหมือนฟางข้าวไม่มีผิด“เอาล่ะๆ เล่นเสร็จอย่าลืมล้างมือกันด้วยนะเด็กๆ” นัทธีบอก สายตากวาดมองทุกคน ก่อนจะโอบเอวลลัลนาเดินตรงไปยังศาลาริมสระ ณดลจูงมือฟางข้าวเดินตามไป“ฉันว่านะ ฟ้าเหมือนแกเป๊ะเลยนะลัล” ฟางข้าวพูด เธอคงต้องทำใจกับนิสัยและบุคลิกของบุตรชายให้ได้สินะ“เอาน่า เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงร่
“อ้าว มากันแล้วเหรอ” ร่างบางย่อตัวรับกอดที่คนตัวเล็กวิ่งตรงเข้ามากอดเธอ ก่อนจะหอมแก้มยุ้ยๆ ทั้งสองข้าง แล้วปล่อยร่างเล็กให้วิ่งกลับไปหามารดาฟางข้าวกับณดลเดินตามบุตรชายเข้ามาในบ้านของลลัลนา หลังจากที่ฟ้าครามลงจากรถ ก็วิ่งตรงเข้ามาในบ้าน ตรงเข้าไปกอดลลัลนา“พี่นัทกับน้องกันล่ะ” ฟางข้าวถามเพื่อนรัก เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เจอสามีกับบุตรชายของเพื่อนรัก“ขึ้นไปอาบน้ำน่ะ เมื่อกี๊เพิ่งปลูกต้นไม้กัน”“ฟ้าอยากปลูกต้นไม้ครับ” ฟ้าคราม บุตรชายของฟางข้าว ที่เกิดก่อนกันชนกไม่กี่เดือน เอ่ยบอกมารดา เมื่อได้ฟังการสนทนาเมื่อสักครู่“เดี๋ยวรอลุงนัทกับน้องกันลงมาก่อนนะครับ” ลลัลนาบอกฟ้าครามน้ำเสียงใจดี“ได้ครับ” เด็กน้อยรับคำก่อนจะเดินไปนั่งรอบนโซฟาเงียบๆ“สงสัยฟ้ากับกันน่าจะโดนสลับตัวกันนะ ฟ้านิสัยเหมือนแกเลย นิสัยนิ่งๆ ส่วนกันจะออกสดใสร่าเริงเหมือนฉัน” ฟางข้าวพูดสีหน้าครุ่นคิด ก้าวเท้ายาวๆตามบุตรชายเข้าไปในห้องนั่นเล่นลลัลนาหัวเราะชอบใจ พยักหน้าทักทายณดล ก่อนจะเดินตามฟางข้าวไปหลังจากเข้าไปในห้องนั่นเล่นกันไม่กี่นาที นัทธีก็อุ้มกันชนกตามเข้ามาในห้องนั่งเล่น วางร่างเล็กของกันชนกลง เดินไปหย่อนตัวนั่งลงเคีย
ร่างบางถูกวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ ลัลหมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีนัทธีก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางสวรรค์ ล้วงเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างใน ไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะ” มือหนาปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้น พิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ลลัลนาหวีดเสียงดัง แขนคล้องคอหนาพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจูบเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆลลัลนาหวีดครางในลำคอ ท่านี้แก่นกายของเขาเข้าไปลึก มันทั้งเสียวทั้งจุกในเวลาเดียวกันปากหยักถอนริมฝีปากออก ไล่ลงมาตามลำคอขาว ดูดผิวเนื้
“ลัลยังไม่อิ่มเลยค่ะ”นัทธีนั่งลงเหยียดขาออกอย่างรวดเร็ว ร่างบางขยับคร่อมท่อนกายลำใหญ่ที่กำลังตั้งโด่ กดสะโพกลงทีเดียวจนมิดโคน มือบางบดคลึงติ่งเกสรตัวเองเบาๆ เรียกเสียงคำรามจากคนใต้ร่างรุนแรง เมื่อเห็นภาพตรงหน้า“ซี้ดดดด มีเมียร่านแบบนี้ชอบไหมคะ” ปากบางร้องซี้ดซ้าด ถามยั่วสามี“โอ้ววว ยิ่งกว่าชอบอีกครับคุณเมีย กระแทกลงมาเลยจ้ะ จัดการเลย” คนใต้ร่างเธอกระซิบเสียงสั่นสะโพกกลมสวยขยับบดติ่งเกสรกับลำโคนเนื้อของคนใต้ร่าง เรียกเสียงครางในลำคอราวสัตว์ป่าคำรามกระหึ่มลั่นห้อง ก่อนจะยกสะโพกลอยขึ้น แล้วทิ้งตัวกระแทกลงไปสุดแรง“โอ้วว แน่นสุดๆเลยจ้ะเมียจ๋า”ยิ่งกระแทกกระทั้นแรงเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจุก แต่ความเสียวซ่านมันเพิ่มอีกเป็นทวีคูณ ชายหนุ่มครางเสียงดัง เอ่ยคำหยาบคายเพิ่มอารมณ์กระสันกับบทรักบนเตียงหญิงสาวหวีดครางไม่หยุด ยกสะโพกกระแทกกระทั้นร่องสาวคับแน่นที่กำลังกลืนกินท่อนเนื้อลำใหญ่อยู่ข้างใน เอวบางร่อนควงให้ติ่งเกสรบดคลึงกับลำโคนท่อนเนื้อ ความเสียวซ่านส่งผลให้ภายในร่องรักคับแน่น ตอดรัดเป็นจังหวะ“อ๊ายยยย…” ร่างบางแทบสิ้นสติเมื่อสะโพกหนาเด้งเอวกระแทกสวนขึ้นยามที่เธอกระแทกกายลงชายหนุ่มอดทนต่อค
“น้องกันล่ะคะ” ลลัลนาเอ่ยถามขึ้น หลังจากออกจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วจ้ะ” นัทธีบอกภรรยาสาวคนสวย ก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอด กันชนก ได้ไม่นาน รูปร่างของลลัลนาก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ลัล น้องกัน 3 ขวบแล้วนะ” นัทธีหมุนเอวบางให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้น้องกันได้แล้วมั้งครับ น้องกันจะได้มีเพื่อน”“แต่น้องกันยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้น้องกัน ลัลก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ลัลกลัวน้องกันจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าลัลคิดมากไปนะ”“แต่…”“ไม่แต่แล้วครับ”นัทธีย่อตัว ช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้น เดินตรงไปที่เตียง วางเธอลงเบาๆก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่นัท” ลลัลนาเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“หืม” นัทธีซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย ที่เขาทำการแหวกกลีบดอกไม้ออกด้วย
“ตายแล้ว ป่านนี้แล้วเหรอ งั้นฉันกลับก่อนนะ อย่าลืมเตรียมตัวด้วยล่ะ” หลังจากนั่งคุยกันมาสักพักใหญ่ ฟางข้าวก็เหลือบเห็นนาฬิกาที่ริมผนังห้อง เธอร้องอุทานออกมา เธอคุยจนลืมเวลาว่าเธอต้องทำธุระที่อื่นต่อ“รู้แล้วน่า เจอกันวันงาน”“เค เจอกันจ้ะ” ฟางข้าวกับณดลกลับบ้าน โดยมีลลัลนากับนัทธีเดินตามมาส่งที่หน้าบ้านหลังส่งฟางข้าวกับณดลกลับ นัทธีโอบเอวลลัลนามาที่ห้องนั่งเล่น“ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าข้าวกับดลจะลงเอยกันได้”“แต่พี่ว่าไม่แปลกนะ ณดลรักฟางข้าวมานาน สัญชาตญาณผู้ชาย ไม่ยอมเสียคนที่ตัวเองรักให้ใครอยู่ละ แล้วยิ่งถ้ามีใครที่ทำท่าว่าจะมาสนใจคนที่ตัวเองรัก ยิ่งไม่มีทางปล่อยเลย”“ก็คงงั้นค่ะ เซอร์ไพรซ์ตรงที่ข้าวท้องก่อนลัลนี่แหละค่ะ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะซบไปที่บ่าแกร่งของสามี“แล้วพี่นัทล่ะคะ เราไม่ได้แต่งงานกัน แล้วมีคนเข้ามาจีบลัล พี่นัทจะทำยังไงคะ”“พี่ก็จะทำแบบณดลนั่นแหละ จับปล้ำทำเมียเลย ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้” นัทธีตอบภรรยาสาวสายตากรุ้มกริ่ม“แหม ผู้ชายนี่เป็นเหมือนกันหมดเลยนะคะ”“ไม่หรอก พี่ว่านะ ถ้าผู้หญิงไม่มีใจ ยังไงมันก็ยากนะที่จะลงเอยกันได้ สมัยนี้ไม่มีใครถือกันละ ว่าต้องเป็นคนแรกน่ะ







