ลมหายใจสม่ำเสมอที่รินรดอกแกร่งของเขาทำให้รู้ว่าหญิงสาวในอ้อมกอดได้หลับสนิทไปแล้ว เขาพยายามทบทวนความทรงจำว่าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน เพราะสาวน้อยในอ้อมกอดนี้แสนจะคุ้นตา แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังนึกไม่ออก
ความจริงวันนี้เขาไม่ได้เมาอะไรเลย ก่อนจะกลับยังจะมีสาวสุดเซ็กซี่ขอตามเขากลับมาด้วย แต่ใจเขากลับกระหวัดคิดถึงร่างบางหน้าหวานแต่แอบเปรี้ยวที่คอยตามดูแลเขาทั้งวันอย่างเหน็ดเหนื่อย เธอเป็นผู้หญิงที่ทั้งเก่ง มั่นใจ คล่องแคล่วและหัวไว เพียงแค่ไม่ถึงสัปดาห์ ก็เข้าได้กับทุกคนในกองถ่ายจนถึงขั้นเรียกได้ว่าสนิทสนม ตั้งแต่แม่บ้านยันผู้จัด ต่างรักและเอ็นดูเธอหมด ส่งอานิสงส์มาถึงเขาด้วยที่เริ่มมีคนชื่นชมเขานอกเหนือจากความหล่อ
เพราะทุกวันนี้ ภายใต้การบีบบังคับที่สุดแสนจะเข้มงวดของเธอ เขาพูดได้เต็มปากเลยว่า เวลาทำงานเขาเป็นดาราที่มีวินัยสูงมาก ไปกองไม่เคยสาย ท่องบทเป๊ะก่อนเข้าฉาก ความเรื่องมากลดน้อยลง ใช้ของที่เป็นของส่วนรวมร่วมกับคนอื่นได้บ้างแล้ว เพราะเธอไม่เคยตามใจหรือยอมให้เขาเรียกร้องมีอภิสิทธิ์เหนือดาราคนอื่นอีกเลย
อันที่จริงเขาก็ไม่ได้เรื่องมากเป็นคุณชายอะไรขนาดนั้น แต่เขาชอบความสะดวกสบายและไม่ชอบรอ จึงเรียกร้องบางอย่างเป็นของตนเองเช่น ห้องแต่งหน้าแต่งตัว ห้องน้ำ ห้องพักผ่อน ซึ่งผู้จัดการคนเก่าๆก็จัดการให้ได้ทั้งสิ้น แถมเพิ่มเติมบางอย่างที่เขาไม่ได้ร้องขออีกด้วย จึงดูเหมือนเขาเป็นคนเรื่องมากเข้าไม่ถึง
แต่กับเธอคนนี้ เธอสั่งยกเลิกหมด เขาต้องทำตัวเสมอเหมือนทุกคน ยังดีที่ไม่บังคับขายรถบ้านของเขาทิ้ง เวลาร้อนจัดๆ ยังได้พอมีที่หลบแดดเป็นแอร์เย็นๆ หรือช่วงว่างจริงๆ ยังมาพอหลบงีบได้บ้าง
เขาคิดถึงแต่ใบหน้าเธอตลอดเวลา จนไม่มีอารมณ์กับแม่สาวเซ็กซี่คนที่เสนอตัวมานอนกับเขาเลย เป็นครั้งแรกที่เขาปฏิเสธผู้หญิงในเรื่องอย่างว่า ออกอุบายคิดแผนการให้ได้เจอเธอและอาจจะฟลุ๊คได้นอนกอดเธอในคืนนี้ จึงทำทีเป็นเมามายกลับคอนโดไม่ไหว ผู้จัดการส่วนตัวต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของเขาอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงรีบมาพาเขากลับคอนโด และก็เป็นอย่างที่เห็น เธอตกหลุมพรางที่เขาขุดไว้ทุกอย่าง
ก็ไม่รู้เขาเป็นอะไรทำไมถึงรู้สึกอยากอยู่ใกล้ อยากทำอะไรๆเธอนัก ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธออาจเป็นเด็กของพี่ชิน และพี่ชินก็ดูหวงแหนเธอออกปานนั้น แต่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมถึงหักห้ามใจไม่ให้อยากเอาเธอมานอนกอดแนบชิดอยู่ข้างกายแล้วทำอะไรต่อมิอะไรกับเธอไม่ได้
เอาวะ ตอนนี้ก็ปล่อยไหลไปก่อน เขาหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้ และก็ห้ามตัวเองไม่ได้เช่นกัน หวังว่าถ้าวันหนึ่ง เกิดเขาได้ฟันแม่ผู้จัดการสาวคนนี้แล้ว พี่ชินจะไม่โกรธเขา หรือภาวนาให้เธอคนนี้ไม่ใช่เด็กของพี่ชิน จะได้ไม่มีปัญหามองหน้ากันไม่ติดในอนาคต หากเขาทำอะไรเอาแต่ใจโดยไม่ผ่านสมองลงไป
แต่เอาจริงๆ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เขาปฏิเสธสาวที่ยินยอมมีความสัมพันธ์กับเขา เพราะนานมาแล้ว เมื่อตอนที่เขาเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ที่งานเลี้ยงบายเนียร์ เขาได้ปฏิเสธผู้หญิงคนหนึ่งไป และเธอยังตราตรึงอยู่ในหัวใจ แม้จะจดจำใบหน้าเธอได้เลือนรางและไม่รู้จักชื่อเธอด้วยซ้ำ
“พวกมึง คืนนี้รุ่นน้องสวยๆ เพียบ มาพนันกัน ถ้าใครได้ฟันสาวซิง เอาไปสองแสน ใครเล่นบ้าง”
ธัญญ์ หนุ่มตี๋หน้าหล่อคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ ที่กำลังจะจบการศึกษา หันมาถามเพื่อนหนุ่มร่วมโต๊ะในงานเลี้ยงบายเนียร์ที่รุ่นน้องทั้งสามชั้นปีร่วมกันจัดงานให้ พวกเขาชอบเล่นท้าพนันกันในเรื่องไร้สาระเป็นประจำ ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีหนึ่งยันปัจจุบันจบการศึกษาระดับปริญญาตรีกันแล้ว
“เอา กูเอาด้วย กูเล็งน้องปีสองเอาไว้”
ออกัส หนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกัน ผู้หล่อเหลาจนสาวๆมารุมกรี๊ด ตกลงร่วมเล่นเกมนี้อย่างตื่นเต้น
“เออ กูก็เอากูเล็งน้องปีหนึ่งไว้ ที่ยืนเต้นอยู่นั่นไง ชุดแดง สวยไหมวะ”
กรณ์ หนุ่มตี๋อินเตอร์ ที่เจ้าชู้ไก่แจ้ที่สุดในกลุ่ม ร่วมเล่นด้วยเพราะไม่เคยพลาดอยู่แล้วเรื่องฟันสาว
“เออ สวยเปรี้ยว แต่จะซิงหรอวะ เสียสองแสนนะมึง”
ธัญญ์เอ่ยถามด้วยความสงสัย
แม้ไม่มีใครไปพิสูจน์ความจริงในห้องเชือด ว่าสาวที่หนุ่มๆเลือกไปมีความสัมพันธ์ด้วยนั้นจะยังซิงจริงๆหรือเปล่า แต่พวกเขาทั้งกลุ่มเป็นเพื่อนกันมานาน ทุกครั้งที่พนันขันต่อจะซื่อตรงต่อกันเสมอ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะทุกหนุ่มนั้นรูปหล่อพ่อรวยกันทั้งนั้น
“ไม่สนใจเรื่องเงินโว้ย ขอฟันน้องเขาก็พอ ท่าทางร้อนแรงน่าดู”
“ไอ้ธีร์ มึงเอาป่าววะ ชีวิตนี้เคยฟันสาวซิงไหม”
คนคิดโปรเจคหันมาเอ่ยถามเขา หนุ่มหล่อ มาดนิ่ง ที่ฟันสาวไม่ยั้งเหมือนกัน
“เออ กูไม่นิยมคนไม่มีประสบการณ์โว้ย แต่วันนี้กูจะชนะพนันพวกมึงให้ดู”
“ถ้ามึงจะเอาสาวซิงให้ชนะพวกูจริงๆ กูแนะนำ น้องแว่น เด็กปีสาม ที่ยืนหน้าจืดๆอยู่กับแก๊งยัยซินดี้นู่น น้องรหัสสุดที่รักของยัยนั่น เฉิ่มๆแบบนั้น ไม่มีแฟนมาก่อนแน่นอน ซิงชัวร์ป๊าบ พรุ่งนี้มาเอาเงินรางวัลได้เลย ถือเป็นค่าปลอบใจที่ต้องทนเอากับสาวจืดชืด”
ธีร์จุฑา หันมองตามที่เพื่อนบอก ก็พบกับสาวรูปร่างบอบบางในชุดเดรสสีชมพูหวาน เจ้าหล่อนไว้ผมทรงสั้นประบ่าสีดำขลับและมีผมหน้าม้าบดบังดวงหน้าเล็กไปเสียครึ่งหน้า ทั้งยังใส่แว่นตาทรงเชยกรอบหนา ดัดฟัน หน้าตาไม่แต่ง มีเพียงลิปสติกสีหวานเท่านั้นที่แต่งแต้มอยู่บนใบหน้านวล ที่จริงหน้าตาเธอก็ไม่ได้แย่ ผิวพรรณก็ขาวนวลราวน้ำนม แต่ติดอยู่ที่ออกจะเชยเฉิ่มจืดชืดเท่านั้น
“อืม กูเอาคนนั้นแหละ จัดมาให้กูที จะรออยู่ที่เดิม”
เขาหันไปบอกเพื่อนชายคนต้นคิด ให้พาสาวของเขาไปเสิร์ฟให้ถึงที่ในห้องเดิม เพราะพวกเขาเปิดห้องพักในโรงแรมแห่งนี้ไว้คนละห้องเป็นรายเดือน เอาไว้พาสาวๆมาเล่นจ้ำจี้อยู่แล้ว
“อะไรวะ ให้กูดีลให้ตลอด แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กูด้วยนะมึง”
“เออ อีกสักชั่วโมง ให้ไปรอกูที่ห้องเดิมละกัน เดี๋ยวกูตามไป”
พูดจบก็ส่งคีย์การ์ดสำรองให้เพื่อน ที่ไปทำหน้าที่ดีลสาวแว่นมาให้เขาทันที
“เออ เดี๋ยวกูไปดีลให้ เสร็จแล้วจะไปดีลของตัวเองบ้าง”
สองสาวที่รู้สึกว่าคืนนี้จะคอแห้งผิดปกติ จนต้องดื่มเอาดื่มเอา มาบัดนี้ คอพับคออ่อนซบโซฟาไปแล้ว “อ้าว เมาพับไปแล้วทั้งคู่ เดี๋ยวฉันพาสองสาวไปส่งบ้านเอง” ชินดนัยลุกขึ้นเตรียมเดินไปประคองสองสาวพร้อมกัน “พี่ชินพาเตยหอมไปส่งเถอะครับ ส่วนมิลินเดี๋ยวผมพากลับเอง วันนี้เธอขนข้าวขนของมานอนเฝ้าผมถึงที่คอนโดแล้ว” “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขนาดนั้นเลยหรอวะ มิลินนี่เอาจริงนะเนี่ย ก็นายอยากเหลวไหลขนาดนั้นทำไม ฉันเตือนนายแล้วว่าถ้านายไม่ทำตัวให้ดีขึ้น อิสระของนายจะหายไป เป็นไง ทีนี้จะหนีเที่ยว จะเอาสาวกลับมาฟันยังไง” “โห พี่ครับ ผมเครียดอยู่นะ ขอเปลี่ยนผู้จัดการได้ไหม นี่ถ้าเธอถือกระบองนะ ผู้คุมนักโทษชัดๆ” คนหล่อทำเป็นร้องโอดครวญ ทั้งที่ใจจริงดีใจจนเนื้อเต้นที่แผนการล่อแม่สาวสวยคุ้นหน้านี่มาอยู่ใกล้ชิดกับเขาสำเร็จจนได้ “แต่ฉันเตือนนายไว้ก่อน ห้ามทำอะไรเธอเด็ดขาด มิลินไม่ใช่ผู้หญิงที่ใครจะเอาสนุกๆ หรือฟันเล่นๆได้ เข้าใจใช่ไหม”
“มิลิน ทางนี้” ตติยา หรือ เตยหอม นางเอกแถวหน้าโบกไม้โบกมือเรียกเพื่อนสาวคนสนิททันทีที่เห็นเธอเดินเข้ามาในคลับประจำของทั้งคู่ “เตยหอมคิดถึงแกจัง” “อืม ฉันก็คิดถึงแก” สองสาวโผเข้าก่อนกันเเน่นเพราะไม่ได้เจอกันนาน เนื่องจากงานที่รัดตัวของดาราสาวที่กำลังขายดีสุดๆในขณะนี้ “ฉันสั่งเครื่องดื่มไว้รอแกแล้ว เหมือนเดิมนะ” “รู้ใจที่สุด” “ลิน แกเป็นไงบ้างช่วงนี้ ทำงานกับผู้ชายที่หล่อราวเทวดาปั้น แต่ขาดวินัยขั้นสุด ปวดหัวไหม” “ที่สุด แต่ฉันก็ไม่ยอมเขาหรอก พยายามบังคับเขาให้อยู่ในร่องในรอย ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ แต่ขนาดดีขึ้นแล้วนะแก ฉันยังเพลียจิต” หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่หนึ่งครั้ง แสดงถึงความเหนื่อยหน่ายใจไม่น้อยที่มีต่อพระเอกรูปงาม “ก็ว่าอยู่ วงในเขาเม้ากันว่าผู้จัดการคนใหม่ของพี่ธีร์นี่สุดเจ๋ง ทำงานมาแค่เดือนเดียวนี่เขาเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะ”
“คุณธีร์ นั่นคุณจะไปไหน” หญิงสาวตะโกนถามเสียงดังลั่นจนคนที่ทำท่าทางลุกลี้ลุกลนพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าแบบล้อลากใบโตที่หน้าประตูสะดุ้งสุดตัว วันนี้มีงานเช้าเหมือนเดิม และเธอโทรหาเขาเป็นสิบสายก็ไม่รับเหมือนเดิม แต่เมื่อเธอกำลังจะขึ้นมาตามเขา ก็เห็นเขาออกจากประตูห้องมาด้วยท่าทางแปลกๆ ข้างกายมีกระเป๋าล้อลากใบใหญ่ มองซ้ายมองขวาพร้อมปิดล็อกประตูห้องด้วยมืออันสั่นเทา ทำตัวเหมือนหนุ่มน้อยจะหนีแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ไม่ปาน ทั้งๆที่วันนี้ มีถ่ายทำละครในกรุงเทพ แต่เขาเอากระเป๋าเสื้อผ้าใบโตไปด้วยทำไม ทำเหมือนต้องไปค้างอ้างแรมที่ต่างจังหวัดยังไงยังงั้น ผู้จัดการดาราสาวสวยเดินเข้าประชิดตัวดาราหนุ่มพร้อมคว้ากระเป๋าใบนั้นมาถือเองทันที เธอส่งสายตาคาดคั้นไปที่เขาเพราะเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลแปลกๆ “ตกลงคุณจะไปไหน” “เอากระเป๋าผมมาน่า แล้วก็กลับห้องไปซะ ผมอนุญาตให้คุณลาหยุดได้สามวัน” “จะลาหยุดได้ไง สามวันนี้คุณมีถ่ายละครแ
“ไม่ได้นะคะ วันนี้ยังไม่ได้ถ่ายเลย น้องธีร์จะกลับไม่ได้ กว่าจะได้คิวนางเอกวันนี้ยากมาก” ผู้จัดละครรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยทันทีที่มีลูกน้องไปตาม ว่าพระเอกลูกเทวดาอาละวาดอีกแล้ว “ทำไมจะไม่ได้ ผมไม่ถ่ายแล้ว ดูทีมงานพี่เอาอะไรมาให้ผมใส่ นี่ชุดอะไร” “มันก็ชุดตามคาแรคเตอร์ตัวละครนะคะ ฉากอื่นๆ ที่ถ่ายไปแล้วครึ่งเรื่องก่อนหน้านี้น้องธีร์ก็ใส่สไตล์นี้ ไม่เห็นมีปัญหาเลย” “แต่ตอนนี้ผมไม่อยากใส่ หาสไตล์อื่นที่มันดีกว่านี้มา” ดาราหนุ่มปาชุดที่เขาต้องใส่เข้าฉากลงพื้นทันที จนทีมงานต้องรีบไล่ตะครุบเก็บเสื้อผ้าเหล่านั้นมาปัดเศษฝุ่นออกและแขวนเอาไว้ที่ราวอีกครั้งป้องกันมันยับ “ตอนนี้เราไม่มีค่ะ ชุดเราเตรียมกันไว้หมดแล้ว คิวหน้าพี่จะหามาเพิ่มให้ แต่วันนี้ต้องใส่ก่อนจริงๆค่ะ คิวนางเอกเราได้แค่นี้ค่ะ” “ก็ถ่ายแค่นางเอกไปก่อนสิ” เขาเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดีเพราะรู้ว่าทีมงานทำแบบนั้นไม่ได้แน่ คนหล่อน่าถีบงอแงขั้นสุด ยังไงวันนี้เข
ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์มือถือที่ปิดระบบสั่นเอาไว้ของเธอแจ้งเตือนการมีสายเข้า มิลินเลี่ยงออกมาจากจุดที่ดาราหนุ่มนั่งท่องบททันทีเพื่อไม่ให้การสนทนาของเธอไปรบกวนสมาธิของเขา แต่ไม่ทันแล้ว ทันทีที่เขาเห็นเธอยกหน้าจอขึ้นมาดูชื่อคนโทรเข้ามา อาการยิ้มแย้มดีใจจนออกนอกหน้าของเธอทำเอาสมาธิเขาเป๋ไปหมด ดาราหนุ่มโยนบทละครปึกใหญ่ลงบนโต๊ะข้างตัวเขาทันทีอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วหันมองตามร่างบางที่เดินเลี่ยงออกไปยืนคุยโทรศัพท์ซะไกลโพ้นจนเขาไม่ได้ยินว่าเธอคุยอะไรกับใคร เสียดาย ที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าจอเธอ ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา จะใช่พี่ชิน เสี่ยเลี้ยงของเธอหรือเปล่า หึ ห่างกันหน่อยไม่ได้เลยนะ คงโทรมาออดอ้อนกันจี๋จ๋า หรือจะโทรมาเช็คว่าเขาฟันแม่สุดรักสุดหวงของท่านรองคนหล่อไปหรือยัง คนหล่อคิ้วเข้มขมวดกันเป็นปม ขว้างแก้วน้ำลงที่พื้นหญ้าอย่างไม่สบอารมณ์ ตาขวางใส่คนอื่นไปทั่วจนทุกคนในกองเริ่มเข้าหน้าพระเอกไบโพลาร์ไม่ติดอีกหน อะไรวะ ผีเข้า ผีออก “ว่
ชายหนุ่มไม่รู้หรอก ว่าเพื่อนชายคนที่คิดโปรเจคนี้ขึ้นมา ไปดีลกับแม่สาวแว่นนั่นยังไง ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา หญิงสาวแว่นที่ค่อนข้างจะเมา ก็เดินโซเซเข้าไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียงกว้างในห้องที่เขาเปิดเอาไว้ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเขาอยู่ด้วยอีกคนในห้องนั้น คนหล่อไม่รอช้า ถอดเสื้อเชิ้ตตัวสวยของตัวเองออกแล้วขึ้นไปนอนทาบทับบนกายบางทันที ก็คงจะตกลงกันลงตัวแล้วล่ะนะ เธอถึงยอมมานอนรอเขาถึงในห้อง “อื้มม” คนตัวบางใต้ร่างเขาครางระงมในลำคอ เมื่อถูกเขารุกรานร่างกายในส่วนต่างๆ ปากอุ่นของเขาเข้าครอบครองดูดกลืนตวัดลิ้นร้อนที่ปลายยอดอกอวบของเธอ อืม สุดยอด หอมหวาน นมโคตรใหญ่ เด๋งดึ๋งดีจริงๆ นี่คือสิ่งที่เขาคิดในใจตอนที่ได้สัมผัสซุกไซ้กายสาวเฉิ่มคนนี้เป็นครั้งแรก ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ดวงตาหวานเปิดปรือ เธอมองดูเขาที่กำลังเคล้นคลึงดูดกลืนยอดอกเธออยู่อย่างหิวกระหาย ก่อนเสียงหวานของแม่สาวใต้ร่างจะเปล่งออกมาแผ่วเบาในลำคอ “อ๊ะ พี่ธีร์” “อืมม