“ไม่ได้นะคะ วันนี้ยังไม่ได้ถ่ายเลย น้องธีร์จะกลับไม่ได้ กว่าจะได้คิวนางเอกวันนี้ยากมาก”
ผู้จัดละครรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยทันทีที่มีลูกน้องไปตาม ว่าพระเอกลูกเทวดาอาละวาดอีกแล้ว
“ทำไมจะไม่ได้ ผมไม่ถ่ายแล้ว ดูทีมงานพี่เอาอะไรมาให้ผมใส่ นี่ชุดอะไร”
“มันก็ชุดตามคาแรคเตอร์ตัวละครนะคะ ฉากอื่นๆ ที่ถ่ายไปแล้วครึ่งเรื่องก่อนหน้านี้น้องธีร์ก็ใส่สไตล์นี้ ไม่เห็นมีปัญหาเลย”
“แต่ตอนนี้ผมไม่อยากใส่ หาสไตล์อื่นที่มันดีกว่านี้มา”
ดาราหนุ่มปาชุดที่เขาต้องใส่เข้าฉากลงพื้นทันที จนทีมงานต้องรีบไล่ตะครุบเก็บเสื้อผ้าเหล่านั้นมาปัดเศษฝุ่นออกและแขวนเอาไว้ที่ราวอีกครั้งป้องกันมันยับ
“ตอนนี้เราไม่มีค่ะ ชุดเราเตรียมกันไว้หมดแล้ว คิวหน้าพี่จะหามาเพิ่มให้ แต่วันนี้ต้องใส่ก่อนจริงๆค่ะ คิวนางเอกเราได้แค่นี้ค่ะ”
“ก็ถ่ายแค่นางเอกไปก่อนสิ”
เขาเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดีเพราะรู้ว่าทีมงานทำแบบนั้นไม่ได้แน่ คนหล่อน่าถีบงอแงขั้นสุด ยังไงวันนี้เขาก็จะไม่ยอมถ่ายแน่ จะมีเรื่องให้มันกองแตกไปเลย
“ไม่ได้อีกค่ะน้องธีร์ วันนี้มีฉากเลิฟซีนของพระเอกกับนางเอก สถานที่ก็ต้องที่นี่ เราเอาฉากอื่นเข้ามาไม่ได้จริงๆ เห็นใจพี่หน่อยนะคะ”
ผู้จัดละครพยายามใช้ไม้อ่อนกับเขา เพราะหากพูดจาอะไรรุนแรงไป มีหวังอีกเป็นอาทิตย์พ่อก็ไม่ยอมมากองอีกแน่
“แล้วมีใครเห็นใจผมบ้าง”
“พี่จุ๊บแจงคะ เดี๋ยวลินจัดการเองค่ะ ไหนชุดของพระเอกคะ”
จุ๊บแจง ผู้จัดละครสาวประเภทสอง รู้สึกเหมือนต้นไม้ที่ใกล้แห้งตายแล้วได้น้ำฝนแรกของฤดู ผู้จัดการดาราสาวสวยมาแล้ว มาเป็นระฆังพักยกของเธอกับพระเอกหนุ่มที่ยังไงวันนี้ก็ไม่มีวี่แววหาทางจบได้ เลยรีบสั่งทีมเสื้อผ้าให้เอาชุดมาให้พระเอกไบโพลาร์ทันที
“เดี๋ยวทุกคนออกไปก่อนนะคะ ไปเตรียมงานกันต่อได้เลยค่ะ ลินขอเวลาไม่เกินยี่สิบนาที เดี๋ยวลินพาพระเอกออกไปค่ะ”
“ได้ค่ะน้องลิน พี่ฝากด้วยนะคะ”
หญิงสาวยิ้มอ่อนๆ ให้ผู้จัดละครสาวสองที่บัดนี้หน้าตาเริ่มมีสีเลือดขึ้นมาบ้างแล้ว
“แต่งตัวสิคะคุณธีร์”
เธอยื่นชุดเจ้าปัญหาที่เขาต้องใส่เข้าฉากเลิฟซีนเร่าร้อนในวันนี้ ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกพิสดารไปจากเดิม เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวเนี่ยนะ ที่พ่อพระเอกลูกเทวดาของเธอทำให้เป็นเรื่องใหญ่
“ผมไม่ใส่ คุณถามผมสักคำหรือยังว่าผมอยากใส่ไหม”
เขาปัดมือเธอที่ยื่นชุดมาให้เขาทิ้ง จนเสื้อผ้าเหล่านั้นแทบหลุดจากมือเธอ
“ไม่จำเป็นต้องถามค่ะ ชุดที่ทางทีมงานจัดมาแปลว่ามันเป็นสิ่งที่เขาคิดเอาไว้แล้วว่ามันเหมาะสมกับคาแรคเตอร์ตัวละครกับบทในเรื่องตอนนั้น”
“ที่คุณไม่ได้ถาม เพราะคุณไม่อยู่ถามต่างหาก”
ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองเธอเขม็ง ใบหน้าหล่อเหลาเครียดขึ้งเหมือนไปโกรธใครมาไม่มีผิด
“ห๊ะ อะไรนะคะ”
“เพราะคุณทิ้งหน้าที่ดูแลผม ไปคุยโทรศัพท์อี๋อ๋อกับผู้ชาย คราวนี้ใครล่ะ พี่ชินหรือเสี่ยคนอื่น”
“ไม่ใช่ทั้งสองค่ะ”
“หึ มีหลายคนขนาดนั้นเชียวหรือ ขาดแคลนเงินหรือขาดเรื่องอย่างว่าไม่ได้”
หนุ่มหล่อแค่นเสียงเย้ยหยันเธอ ในขณะที่ใจแกร่งกลับรู้สึกเจ็บแปลบอย่างหาสาเหตุไม่ได้
หญิงสาวกำมือแน่น กัดฟันข่มอารมณ์ เขาเป็นบ้าอะไรไปอีกถึงมาหาเรื่องเธอแบบนี้ เธอจะคุยกับใครก็สิทธิ์ของเธอหรือเปล่า เสร็จแล้วเธอก็รีบมาทำหน้าที่แล้วไง ถึงแม้จะช้าไปนิดจนพ่อโวยวายเล่นเอากองป่วนขนาดนี้ก็เถอะ
“ค่ะ ทั้งสองอย่างค่ะ พอใจในคำตอบไหมคะ ถ้าพอใจแล้วก็ช่วยใส่ชุดไปเข้าฉากด้วยค่ะ”
“ได้ อยากให้ใส่นัก ก็ใส่ให้เองแล้วกัน”
พูดจบก็ถอดเสื้อยืดตัวแพงของตนออก แล้วตามด้วยกางเกงขายาววางกองลงที่พื้น จนตอนนี้ร่างสูงเหลือเพียงกางเกงบ็อกเซอร์แบรนด์หรูติดกายแค่ตัวเดียว ยืนอวดลอนกล้ามเนื้อชัดแจ๋วทุกลูกให้เธอดู
“ได้ค่ะ ถ้ามันจะทำให้คุณมีความสุขในการทำงานขึ้น และไม่ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนไปมากกว่านี้ ฉันจะใส่ให้คุณ”
มิลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหยิบเอากางเกงขายาวตัวสวยที่เขาต้องใส่เข้าฉากมาอ้าออกกว้างอยู่แทบเท้าเขาให้เขาสอดใส่ลำขาแกร่งของเขาเข้ามา ดาราหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนยอมใส่กางเกงที่เธอกางให้แต่โดยดี
เขายืนนิ่งราวหุ่นโชว์เสื้อผ้า หน้าที่รูดซิปและติดกระดุมกางเกงก็คงต้องเป็นของเธอจริงๆสินะ หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกก่อนยื่นมือที่สั่นน้อยๆข้างหนึ่งเข้าไปจับเนื้อผ้าตรงตะเข็บซิปเอาไว้ แล้วยื่นอีกมือหนึ่งที่สั่นไม่แพ้กันไปรูดซิปขึ้นจนสุดราง ก่อนติดกระดุมกางเกงให้เขาจนเรียบร้อย
เท่านั้นไม่พอ เธอยังต้องใส่เข็มขัดให้เขาอีก โดยที่ตัวเธอยืนอยู่ข้างหน้าสอดสายเข็มขัดจากหูกางเกงด้านหนึ่ง ค่อยๆไล่สายไปแล้วเอื้อมมืออีกข้างอ้อมไปดึงปลายเข็มขัดของเขาเพื่อจะเอามาบรรจบกันที่ด้านหน้า จึงกลายเป็นว่า ร่างบางต้องยืนแนบชิดโอบกอดเขาไปโดยปริยาย
ชายหนุ่มหล่อดวงตาแพรวพราว อมยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ จมูกโด่งจัดสูดกลิ่นกายและน้ำหอมอ่อนๆจากหญิงสาวเข้าจนเต็มปอด
ร่างบางตรงหน้าเขาที่กำลังสาละวนกับการหาปลายเข็มขัดเพราะมืออันสั่นเทาทำให้สอดผิดสอดถูกจนต้องสอดใหม่หลายครั้ง ในขณะนั้นเองเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่รินรดตรงซอกคอเธอหลายครั้ง จึงเงยหน้าขึ้นมอง
ทันทีที่ใบหน้างามเงยขึ้นมา ก็สบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ฉายประกายหวานฉ่ำ หญิงสาวสบตาเขานิ่งงันเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆโน้มลงมาประกบปากหยักได้รูปเข้ากับปากกระจับอวบอิ่มสีสวยของเธอด้วยสัมผัสอันอ่อนโยนเนิบนาบเชิญชวนให้สาวงามตรงหน้าคล้อยตาม
มิลินผู้ต้องมนต์สะกดหลับตาพริ้มรับสัมผัสอันอ่อนโยนแต่ร้อนแรงของเขา ก่อนขยับปากจูบเขาตอบกลับไปอย่างสติล่องลอย จูบที่แผ่วเบาเนิบนาบค่อยๆทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นร้อนของเขาสอดแทรกเข้าหยอกเย้าดูดดึงปลายลิ้นน้อยของเธอ ซึ่งเธอก็ยินยอมให้เขากระทำได้ตามใจ
คนเอาแต่ใจตักตวงความหอมหวานจากปากสาวจนเป็นที่พอใจแล้วจึงถอนริมฝีปากออกมาเพียงครู่ เขามองดวงตาหวานที่บัดนี้ค่อยๆลืมขึ้นมาจนสามารถสบกับสายตาร้อนแรงของเขา หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ เรียกสติตนเองที่ก่อนนี้กระเจิดกระเจิงไปไกล
“คุณ ทำไมทำแบบนี้”
เสียงหวานแหบพร่าราวกระซิบเอ่ยถามออกไป ซึ่งกว่าเธอจะหาเสียงตัวเองเจอก็ใช้เวลาอยู่นาน แถมพอเปล่งออกไปก็แหบพร่าเสียจนน่าสงสารในสายตาเขา
“คุณทำให้ผมอารมณ์เสีย จนไม่มีอารมณ์ซ้อมบท ก่อนนี้ยังไม่ได้ซ้อมเลย เลยต้องมาซ้อมกับคุณนี่ไงมิลิน คุณต้องรับผิดชอบความผิดทั้งหมดของคุณ”
“แต่ฉันยัง...”
ไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยประท้วงขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง ดาราหนุ่มก็โน้มหน้าลงประกบปากอุ่นบดจูบเธออีกครั้ง ครานี้เขามอบสัมผัสเรียกร้องเร่าร้อนและรุนแรงให้กับเธอตั้งแต่เริ่ม จนเธอหัวหมุนเคว้ง หลับตาพริ้ม ยืนอ่อนระทวยให้เขาตักตวงความหวานในปากเธอจนกว่าเขาจะพอใจอีกครั้ง
จูบที่แสนรัญจวนทำเอาเธอเปล่งเสียงครางหวานออกมาในลำคอเพื่อระบายความเสียวซ่าน ลมหายใจของทั้งคู่หอบกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงปรารถนา จนชายหนุ่มต้องเปล่งเสียงครางต่ำในลำคอเพื่อปลดปล่อยอารมณ์และเรียกสติตนเองไม่ให้ทำอะไรคนปากหวานมากไปกว่านี้
ดาราหนุ่มถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาคมดุที่บัดนี้หวานเยิ้มจ้องมองประสานสายตากับเธอนิ่งนาน แล้วไล่สายตามองลงไปยังปากกระจับที่บวมเจ่อน้อยๆของเธออย่างโหยหา เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับแก้มนวลเบาๆ ก่อนนิ้วหัวแม่มือแกร่งจะลูบไล้วนเวียนอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มแสนหวานที่เขาหลงใหล
“ขอบคุณสำหรับการซ้อมบทที่แสนหวานนะครับ มิลิน”
มิลิน กะพริบตาถี่ๆเรียกสติอีกครั้ง ก่อนขยับร่างถอยหลังหนีจากการรุกรานแสนหวานของเขา เธอกระแอมสองสามครั้งเรียกเสียงให้กลับมาเป็นปกติ ก่อนหันไปสั่งชายหนุ่มด้วยมาดเข้มเหมือนเดิม
“แต่งตัวให้เรียบร้อยนะคะคุณธีร์ ฉันจะออกไปรอข้างนอก”
พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้องแต่งตัวสุดสยิวนี่ทันที
ดาราหนุ่มมองตามร่างบางที่ประหม่าอายอย่างน่ารักแล้วเดินหนีเขาออกไปด้วยแววตาหวานล้ำ เขารู้สึกอิ่มเอมในหัวใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เธอ จนต้องหาเรื่องแอบเอาเปรียบเธอนิดๆหน่อยๆอย่างห้ามใจไม่อยู่ ร่างบางหวานหอมนุ่มนวลอมเปรี้ยวแบบนี้นี่เอง ชินดนัยถึงได้ติดใจและหวงแหนนัก
เมื่อนึกถึงว่าเธอเป็นของคนอื่น ใจแกร่งก็รู้สึกวูบโหวงแกว่งไกวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้สึกหวงแหนผู้จัดการส่วนตัวสาวเนื้อหวานคนนี้มาก ไม่อยากให้เธอไปทำแบบนี้กับใครอีกนอกจากเขา แต่จะให้ทำอย่างไร ในเมื่อเธอไม่ได้เป็นของเขา เธอเป็นของคนอื่น
สองสาวที่รู้สึกว่าคืนนี้จะคอแห้งผิดปกติ จนต้องดื่มเอาดื่มเอา มาบัดนี้ คอพับคออ่อนซบโซฟาไปแล้ว “อ้าว เมาพับไปแล้วทั้งคู่ เดี๋ยวฉันพาสองสาวไปส่งบ้านเอง” ชินดนัยลุกขึ้นเตรียมเดินไปประคองสองสาวพร้อมกัน “พี่ชินพาเตยหอมไปส่งเถอะครับ ส่วนมิลินเดี๋ยวผมพากลับเอง วันนี้เธอขนข้าวขนของมานอนเฝ้าผมถึงที่คอนโดแล้ว” “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขนาดนั้นเลยหรอวะ มิลินนี่เอาจริงนะเนี่ย ก็นายอยากเหลวไหลขนาดนั้นทำไม ฉันเตือนนายแล้วว่าถ้านายไม่ทำตัวให้ดีขึ้น อิสระของนายจะหายไป เป็นไง ทีนี้จะหนีเที่ยว จะเอาสาวกลับมาฟันยังไง” “โห พี่ครับ ผมเครียดอยู่นะ ขอเปลี่ยนผู้จัดการได้ไหม นี่ถ้าเธอถือกระบองนะ ผู้คุมนักโทษชัดๆ” คนหล่อทำเป็นร้องโอดครวญ ทั้งที่ใจจริงดีใจจนเนื้อเต้นที่แผนการล่อแม่สาวสวยคุ้นหน้านี่มาอยู่ใกล้ชิดกับเขาสำเร็จจนได้ “แต่ฉันเตือนนายไว้ก่อน ห้ามทำอะไรเธอเด็ดขาด มิลินไม่ใช่ผู้หญิงที่ใครจะเอาสนุกๆ หรือฟันเล่นๆได้ เข้าใจใช่ไหม”
“มิลิน ทางนี้” ตติยา หรือ เตยหอม นางเอกแถวหน้าโบกไม้โบกมือเรียกเพื่อนสาวคนสนิททันทีที่เห็นเธอเดินเข้ามาในคลับประจำของทั้งคู่ “เตยหอมคิดถึงแกจัง” “อืม ฉันก็คิดถึงแก” สองสาวโผเข้าก่อนกันเเน่นเพราะไม่ได้เจอกันนาน เนื่องจากงานที่รัดตัวของดาราสาวที่กำลังขายดีสุดๆในขณะนี้ “ฉันสั่งเครื่องดื่มไว้รอแกแล้ว เหมือนเดิมนะ” “รู้ใจที่สุด” “ลิน แกเป็นไงบ้างช่วงนี้ ทำงานกับผู้ชายที่หล่อราวเทวดาปั้น แต่ขาดวินัยขั้นสุด ปวดหัวไหม” “ที่สุด แต่ฉันก็ไม่ยอมเขาหรอก พยายามบังคับเขาให้อยู่ในร่องในรอย ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ แต่ขนาดดีขึ้นแล้วนะแก ฉันยังเพลียจิต” หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่หนึ่งครั้ง แสดงถึงความเหนื่อยหน่ายใจไม่น้อยที่มีต่อพระเอกรูปงาม “ก็ว่าอยู่ วงในเขาเม้ากันว่าผู้จัดการคนใหม่ของพี่ธีร์นี่สุดเจ๋ง ทำงานมาแค่เดือนเดียวนี่เขาเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะ”
“คุณธีร์ นั่นคุณจะไปไหน” หญิงสาวตะโกนถามเสียงดังลั่นจนคนที่ทำท่าทางลุกลี้ลุกลนพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าแบบล้อลากใบโตที่หน้าประตูสะดุ้งสุดตัว วันนี้มีงานเช้าเหมือนเดิม และเธอโทรหาเขาเป็นสิบสายก็ไม่รับเหมือนเดิม แต่เมื่อเธอกำลังจะขึ้นมาตามเขา ก็เห็นเขาออกจากประตูห้องมาด้วยท่าทางแปลกๆ ข้างกายมีกระเป๋าล้อลากใบใหญ่ มองซ้ายมองขวาพร้อมปิดล็อกประตูห้องด้วยมืออันสั่นเทา ทำตัวเหมือนหนุ่มน้อยจะหนีแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ไม่ปาน ทั้งๆที่วันนี้ มีถ่ายทำละครในกรุงเทพ แต่เขาเอากระเป๋าเสื้อผ้าใบโตไปด้วยทำไม ทำเหมือนต้องไปค้างอ้างแรมที่ต่างจังหวัดยังไงยังงั้น ผู้จัดการดาราสาวสวยเดินเข้าประชิดตัวดาราหนุ่มพร้อมคว้ากระเป๋าใบนั้นมาถือเองทันที เธอส่งสายตาคาดคั้นไปที่เขาเพราะเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลแปลกๆ “ตกลงคุณจะไปไหน” “เอากระเป๋าผมมาน่า แล้วก็กลับห้องไปซะ ผมอนุญาตให้คุณลาหยุดได้สามวัน” “จะลาหยุดได้ไง สามวันนี้คุณมีถ่ายละครแ
“ไม่ได้นะคะ วันนี้ยังไม่ได้ถ่ายเลย น้องธีร์จะกลับไม่ได้ กว่าจะได้คิวนางเอกวันนี้ยากมาก” ผู้จัดละครรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยทันทีที่มีลูกน้องไปตาม ว่าพระเอกลูกเทวดาอาละวาดอีกแล้ว “ทำไมจะไม่ได้ ผมไม่ถ่ายแล้ว ดูทีมงานพี่เอาอะไรมาให้ผมใส่ นี่ชุดอะไร” “มันก็ชุดตามคาแรคเตอร์ตัวละครนะคะ ฉากอื่นๆ ที่ถ่ายไปแล้วครึ่งเรื่องก่อนหน้านี้น้องธีร์ก็ใส่สไตล์นี้ ไม่เห็นมีปัญหาเลย” “แต่ตอนนี้ผมไม่อยากใส่ หาสไตล์อื่นที่มันดีกว่านี้มา” ดาราหนุ่มปาชุดที่เขาต้องใส่เข้าฉากลงพื้นทันที จนทีมงานต้องรีบไล่ตะครุบเก็บเสื้อผ้าเหล่านั้นมาปัดเศษฝุ่นออกและแขวนเอาไว้ที่ราวอีกครั้งป้องกันมันยับ “ตอนนี้เราไม่มีค่ะ ชุดเราเตรียมกันไว้หมดแล้ว คิวหน้าพี่จะหามาเพิ่มให้ แต่วันนี้ต้องใส่ก่อนจริงๆค่ะ คิวนางเอกเราได้แค่นี้ค่ะ” “ก็ถ่ายแค่นางเอกไปก่อนสิ” เขาเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดีเพราะรู้ว่าทีมงานทำแบบนั้นไม่ได้แน่ คนหล่อน่าถีบงอแงขั้นสุด ยังไงวันนี้เข
ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์มือถือที่ปิดระบบสั่นเอาไว้ของเธอแจ้งเตือนการมีสายเข้า มิลินเลี่ยงออกมาจากจุดที่ดาราหนุ่มนั่งท่องบททันทีเพื่อไม่ให้การสนทนาของเธอไปรบกวนสมาธิของเขา แต่ไม่ทันแล้ว ทันทีที่เขาเห็นเธอยกหน้าจอขึ้นมาดูชื่อคนโทรเข้ามา อาการยิ้มแย้มดีใจจนออกนอกหน้าของเธอทำเอาสมาธิเขาเป๋ไปหมด ดาราหนุ่มโยนบทละครปึกใหญ่ลงบนโต๊ะข้างตัวเขาทันทีอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วหันมองตามร่างบางที่เดินเลี่ยงออกไปยืนคุยโทรศัพท์ซะไกลโพ้นจนเขาไม่ได้ยินว่าเธอคุยอะไรกับใคร เสียดาย ที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าจอเธอ ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา จะใช่พี่ชิน เสี่ยเลี้ยงของเธอหรือเปล่า หึ ห่างกันหน่อยไม่ได้เลยนะ คงโทรมาออดอ้อนกันจี๋จ๋า หรือจะโทรมาเช็คว่าเขาฟันแม่สุดรักสุดหวงของท่านรองคนหล่อไปหรือยัง คนหล่อคิ้วเข้มขมวดกันเป็นปม ขว้างแก้วน้ำลงที่พื้นหญ้าอย่างไม่สบอารมณ์ ตาขวางใส่คนอื่นไปทั่วจนทุกคนในกองเริ่มเข้าหน้าพระเอกไบโพลาร์ไม่ติดอีกหน อะไรวะ ผีเข้า ผีออก “ว่
ชายหนุ่มไม่รู้หรอก ว่าเพื่อนชายคนที่คิดโปรเจคนี้ขึ้นมา ไปดีลกับแม่สาวแว่นนั่นยังไง ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา หญิงสาวแว่นที่ค่อนข้างจะเมา ก็เดินโซเซเข้าไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียงกว้างในห้องที่เขาเปิดเอาไว้ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเขาอยู่ด้วยอีกคนในห้องนั้น คนหล่อไม่รอช้า ถอดเสื้อเชิ้ตตัวสวยของตัวเองออกแล้วขึ้นไปนอนทาบทับบนกายบางทันที ก็คงจะตกลงกันลงตัวแล้วล่ะนะ เธอถึงยอมมานอนรอเขาถึงในห้อง “อื้มม” คนตัวบางใต้ร่างเขาครางระงมในลำคอ เมื่อถูกเขารุกรานร่างกายในส่วนต่างๆ ปากอุ่นของเขาเข้าครอบครองดูดกลืนตวัดลิ้นร้อนที่ปลายยอดอกอวบของเธอ อืม สุดยอด หอมหวาน นมโคตรใหญ่ เด๋งดึ๋งดีจริงๆ นี่คือสิ่งที่เขาคิดในใจตอนที่ได้สัมผัสซุกไซ้กายสาวเฉิ่มคนนี้เป็นครั้งแรก ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ดวงตาหวานเปิดปรือ เธอมองดูเขาที่กำลังเคล้นคลึงดูดกลืนยอดอกเธออยู่อย่างหิวกระหาย ก่อนเสียงหวานของแม่สาวใต้ร่างจะเปล่งออกมาแผ่วเบาในลำคอ “อ๊ะ พี่ธีร์” “อืมม