"ผมไม่มีชุดใส่"
"แกคิดว่าพ่อจะไม่เตรียมไว้เหรอ"
"คิดครับพ่อผมเก่งอยู่แล้ว"
"ไม่ต้องมาพูดประชดประชัน ช่างรออยู่ในห้อง รีบแต่งจะได้รีบไปถ่ายรูป"
สิบทิศจำเป็นต้องได้ทำตามคำสั่งของผู้เป็นพ่อ เพราะรู้ดีว่าพ่อเป็นคนที่เอาแต่อารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่
พอเดินขึ้นไปด้านบน ชายหนุ่มสังเกตว่าไม่เห็นแม่อยู่ในงาน เขาก็เลยเข้าไปดูในห้องนอนของท่าน
"แม่ทำไมยังอยู่ในนี้ล่ะครับ"
"สิบทิศ" ที่รักรีบเดินเข้ามาโอบกอดลูกชายไว้ "แม่ขอโทษที่ห้ามพ่อไม่ได้"
"แม่ไม่ต้องคิดมากกับเรื่องของผมหรอกครับ" ชายหนุ่มรู้ดีว่าแม่ ไม่เห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่พ่อทำอยู่แล้ว และเขาก็ไม่อยากให้แม่คิดมากกับเรื่องนี้
"แต่แม่รู้ว่าลูกมีคนรักอยู่แล้ว"
"คนรัก?" สิบทิศมองต่ำลงไปดูผู้เป็นแม่ที่อยู่ในอ้อมกอด "เรื่องของผมผมจัดการเองได้ครับ..แม่แต่งตัวให้สวยแล้วลงไปร่วมงานแต่งลูกชายคนโตของแม่ดีกว่าครับ"
"แม่ดีใจนะที่ลูกไม่คิดมากกับเรื่องนี้"
"ถึงผมคิดมาก..ก็ห้ามพ่อไม่ได้หรอกครับ" ใครจะไม่คิดมากล่ะผู้หญิงคนนั้นเป็นใครยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ
พอชายหนุ่มปลอบใจผู้เป็นแม่เสร็จ เขาก็เข้าไปในห้องของตัวเอง ตอนนี้ช่างเตรียมพร้อมรออยู่แล้ว
สิบทิศใช้เวลาแต่งตัวอยู่เพียงไม่นาน ต้องได้รีบออกมาถ่ายรูป เพราะตอนนี้รูปติดหน้างานคู่บ่าวสาวยังไม่มี
"เชิญทางนี้เลยค่ะคุณสิบทิศ" คนที่มาตามเดินนำหน้าไปในห้องที่จัดเตรียมไว้เพื่อถ่ายรูปคู่โดยเฉพาะ
พอประตูห้องบานนั้นเปิดออกเขาก็เห็น..
"..??.." มุมปากชายหนุ่มยกขึ้นด้วยท่าทางที่เย้ยหยัน เขาจำผู้หญิงคนนี้ได้ดีว่าเธอเป็นใคร ..นี่พ่อกำลังเล่นอะไรอยู่
ไม่ต่างจากฝ่ายหญิง..เธอถึงกับหน้าเปลี่ยนสีเมื่อรู้ว่าเจ้าบ่าวคือผู้ชายที่แอบขโมยจูบแรกของเธอในคืนนั้น "..??!!??.."
ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลา ได้เดินไปนั่งลงที่โซฟาตัวยาว ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่เธอนั่งอยู่ก่อนหน้านั้น ขาของเขาได้ยกขึ้นไขว่ห้างในท่าที่สบาย
แชะ มันเป็นเสียงที่ช่างลองกล้อง เพื่อที่จะปรับกล้องก่อนเอาจริง
"ขยับเข้ามาใกล้กันนิดหนึ่งครับ" ช่างพูดพร้อมกับเช็คเลนส์กล้องไปด้วย

"ดะ.. เดี๋ยวก่อนครับ" ช่างถ่ายภาพเพิ่งจะทดลองกล้องไปภาพเดียว และภาพนั้นก็เป็นภาพที่นั่งห่างกันมาก โดยมีสายตาของผู้หญิงมองดูผู้ชายอยู่ฝ่ายเดียว
"ผมให้คุณได้แค่นี้" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องไป
"อะไรวะ"
หญิงสาวได้แต่นั่งจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์..ซึ่งตอนนี้มีแค่รูปลูกชายที่ปรากฏอยู่ เพราะมันเป็นรูปพักหน้าจอมือเรียวรีบยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากใบหน้า เธอคิดถึงพวกเขาทั้งสองมาก ร้องไห้อยู่แบบนั้นเพียงไม่นานก็หลับไปเพราะฤทธิ์ยาที่ทานหลังอาหารเช้าวันต่อมา.."ยี่สิบกว่าสาย!??" ตื่นมาก็รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู สายจากสามีโทรมายี่สิบกว่าสาย ละอองดาวนึกตำหนิตัวเองที่ไม่ได้เปิดเสียงไว้ ถ้าไม่งั้นคงจะได้คุยกับเขาแล้ว หญิงสาวรีบโทรกลับไป แต่เหมือนปลายสายจะปิดเครื่อง ..เขาโกรธหรือเปล่าที่เราไม่ได้รับโทรศัพท์ ละอองดาวทำอะไรไม่ได้แล้ว เธอก็เลยเดินเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะอาบน้ำก่อนออกไปทำงานคนตัวเล็กยืนอยู่ใต้ฝักบัวนานพอสมควร เพื่อให้มันชำระคราบน้ำตาออก เธอยังนึกเสียดายที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ของสามีแกร็ก~ ประตูห้องน้ำได้ถูกเปิดออกมาจากคนที่อยู่ด้านใน ขาเรียวก้าวเดินออกจากห้องน้ำมา แล้วก็ไปหยุดอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่ของห้องนั้นด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวที่ห่อหุ้มร่างกายอยู่ สายตางามมองกระจกไม่ยอมกระพริบ เพราะคิดว่าตัวเองมองผิด"เราคิดถึงเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ" หญิงสาวคิดว่ามันเป็นภาพลวงตาที่เธอจินตนาการขึ้นมา เพรา
สองปีต่อมา ถึงตอนนี้ทั้งสองก็อายุใกล้จะ 5 ขวบแล้วมีบางทีได้ออกไปนอกบ้านบ้าง เพราะต้องให้รู้สถานที่จริงนอกจากให้ดูในหนังสือและในอินเทอร์เน็ต ส่วนเรื่องเรียน มีครูสอนพิเศษเข้ามาสอนถึงที่บ้านและตอนนี้ทุกคนในบ้านก็ชินแล้ว เพราะรู้ดีว่าความปลอดภัยของเด็กๆ ต้องมาเป็นอันดับแรกในเย็นวันนั้น.. ก่อนวันเกิดของเด็กทั้งสองเพียงแค่ไม่กี่วัน ราชทูตก็เดินทางมาขอเข้าพบเจ้าหญิงด้วยตัวเอง"อะไรนะคะ? แต่ลูกของฉันยังเล็กมาก" เมื่อได้ยินหญิงสาวแทบเข่าทรุด เพราะไม่คิดว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้"ใช่แล้วครับ พระองค์ยังอายุน้อยมาก พวกเราถึงได้เชิญเจ้าหญิงให้กลับไปเพื่อเป็นผู้สำเร็จราชการแทนไปก่อน" ตอนนี้ประชาชนได้ทำสำเร็จแล้ว พวกเขาทวงคืนทุกอย่างกลับมาได้โดยเสียเลือดเสียเนื้อเพียงไม่มาก เพราะคนข้างกายของกบฏผู้นั้นลงมือสังหารเอง"ฉันเหรอคะ" พอรู้ว่าเธอจะต้องได้ไปทำหน้าที่สำเร็จราชการแทนลูกชาย หญิงสาวรีบหันไปมองสามีที่นั่งอยู่ข้างกาย ถึงแม้ว่าจะเป็นการเข้าพบแบบส่วนตัว แต่เข็มทิศไม่ยอมปล่อยให้เธออยู่ในห้องกับพวกเขาเพียงลำพัง"แล้วแต่เจ้าหญิงจะตัดสินใจเลยครับ" มันคือเวลาที่เธอรอคอย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธออยากจะกลั
"อือ" พอความเป็นชายสอดใส่เข้ามาในร่างกาย มือเรียวก็รีบดันหน้าอกสามีไว้ เพราะกลัวว่าเขาจะโน้มตัวลงมาทับเจ้าตัวเล็ก"ผมระวังอยู่" เสียงทุ้มกระซิบออกมาแผ่วเบา พร้อมกับขยับสะโพกเบาๆ "อ้าาา" ยิ่งทำเบาก็ยิ่งมีความเสียว หรืออาจเพราะไม่ได้ปลดปล่อยนานแล้ว"อื้อออ""เจ็บเหรอครับ" เขาไม่รู้ว่าการมีอะไรกับหญิงตั้งครรภ์ต้องทำได้ประมาณไหน ยิ่งกับท่อนเอ็นลำใหญ่ของเขาแล้วกลัวว่ามันจะเข้าลึกเกินไป"เปล่าค่ะแล้วคุณจะหยุดทำไม" ที่จริงเธอก็เสียวไม่แพ้กัน ที่ครางออกมาเพราะเริ่มมีอารมณ์"ผมกลัวคุณเจ็บ" ชายหนุ่มพูดออกไปด้วยรอยยิ้ม และนึกเอ็นดูที่เธอตำหนิว่าจะหยุดทำไม "ซี๊ดดด..ผมต่อเลยนะ" แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาให้เห็นเพราะกลัวว่าเธอจะอาย แล้วท่อนเอ็นอุ่นก็เริ่มขยับเข้าออกโดยเพิ่มความเร็วขึ้นตามลำดับ เพราะไม่อยากจะอดกลั้นนาน"อื้อ อื้อ อื้อ // อ้าาา ปล่อยแล้วนะครับ" ทั้งสองครวญครางออกมาพร้อมกัน เพราะเริ่มทนความเสียดสีไม่ไหว และเพียงไม่นานชายหนุ่มก็รีบชักท่อนเอ็นออกมาเมื่อปล่อยน้ำออกหมดแล้ว เพราะกลัวจะเผลอไปทับเจ้าตัวเล็กเข้า"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวถามเมื่อเขาลุกขึ้นแล้วโอบอุ้มเอาร่างของเธอขึ้นมาด
"คุณหมอรู้จักฉันเหรอคะ?" หญิงสาวนัยน์ตาสวยมองไปที่หมอคนที่เพิ่งจะเอ่ยชื่อเธอออกมา"คุณหมอรู้จักภรรยาผมได้ยังไง.." เข็มทิศก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าหมอคนนี้รู้จักภรรยาของเขาได้ยังไง"หมอเป็นใคร!" สิบทิศรีบเข้ามาขวางหน้าแก้วกานดาไว้ เพราะเขาไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่าหมอคนนี้เพิ่งจะช่วยชีวิตแม่ยายของเขามา"ใจเย็นก่อนสิลูกปล่อยให้คุณหมอได้พูดบ้าง" ที่รักและไทเกอร์รีบเข้ามาห้ามลูกๆ ไว้ก่อน เพราะดูจากท่าทีแล้วหมอคนนี้คงไม่ใช่คนร้าย ถ้าไม่งั้นคงไม่ช่วยแม่ของลูกสะใภ้จนปลอดภัย"ผมคือหมอที่ถูกส่งมาเพื่อดูแลเจ้าหญิงโดยเฉพาะครับ เพราะตอนนี้เจ้าหญิงกำลังทรงพระครรภ์องค์รัชทายาท" ที่จริงหมอคนนี้แค่รอเวลาที่จะเดินทางมา แต่พอเกิดเหตุนี้ขึ้น ก็เลยรีบปรากฏตัวก่อน เพราะไม่อยากจะให้เจ้าหญิงอัญมณี มีความทุกข์ใจเกี่ยวกับญาติของสามี กลัวจะส่งผลถึงองค์รัชทายาทที่อยู่ในครรภ์ของเธอ"ขอบคุณเจ้าหญิงมากนะคะ" ได้ยินแบบนั้นละอองดาวรีบหันมายกมือไหว้ขอบคุณแก้วกานดา"อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ เราเป็นญาติกันไม่ใช่เหรอคะ" แก้วกานดารีบรับไหว้ด้วยการไหว้กลับ แล้วใบหน้างามก็หันไปมอง.. "คุณหมอรู้เรื่องนี้ได้ยังไงคะ" เธอหมายถึ
พอได้ข่าวเรื่องนี้พวกเขาถึงกับไม่ทานข้าวเช้า และก็รีบออกมาโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง"ออกมาพร้อมกันแต่คุณพ่อถึงก่อนซะงั้น" คนที่พูดก็คือแก้วกานดา เพราะเดินทางมารถคนละคัน พอมาถึงก็เห็นรถของพ่อสามีจอดอยู่แต่ไม่มีคน"คุณรู้จักพ่อผมน้อยไป สมัยท่านเป็นหนุ่มๆ ซ่าไม่เบา""ซ่ากว่าลูกอีกเหรอคะ""ผมเทียบท่านไม่ติดหรอก" ทั้งสองคุยในระหว่างที่รีบเดินเข้ามา แต่เข็มทิศก็พยายามประคองภรรยากลัวว่าจะหกล้มเอาในเวลาเดียวกันนั้นหน้าห้องผ่าตัด"แม่เราเป็นอะไร" ไทเกอร์ถามขึ้นทันทีที่เจอลูกชายกับลูกสะใภ้อยู่หน้าห้อง"คุณแม่มีอาการปวดหัวขึ้นมาอีก คุณสิบทิศก็เลยพามาที่โรงพยาบาลค่ะ""ปวดหัว? ตอนนั้นหายแล้วไม่ใช่เหรอ""ใช่ค่ะแต่พอมาเช็คดูใหม่อีกครั้ง เจอเนื้องอกอยู่ในนั้น" น้ำตาของลูกสาวไหลรินในขณะที่พูด จนสามีโอบร่างของเธอเข้ามากอดไว้เพื่อปลอบ"แล้วเข้าห้องผ่าตัดนานหรือยัง""ตอนที่โทรไปหาแม่นั่นแหละครับ" สิบทิศตอบผู้เป็นพ่อบ้างเพราะตอนนี้ภรรยามัวแต่ร้องไห้"หมอสมัยนี้เก่งหนูไม่ต้องคิดมาก ถ้าที่นี่รักษาไม่ได้เราจะไปรักษากันที่ต่างประเทศ""ขอบคุณมากนะคะ" ที่ละอองดาวตกใจมากก็เพราะเธอเสียพ่อไปกะทันหัน กว่าจะเจอโรคร้
"ถ้าอยากออกมาขับรถเล่นทำไมถึงไม่ชวนผม คุณรู้ไหมว่ามันอันตรายมากแค่ไหน" ตอนที่เธอลงมาเขาเผลอหลับไป ..ถ้าไม่ได้ยินเสียงข้อความที่พ่อส่งเข้าเครื่อง คงยังไม่รู้ว่าเมียตัวเองออกจากบ้านมาขับรถรับลมกับแม่"ขอโทษค่ะ ฉันไม่คิดว่าจะออกมาไกลขนาดนี้" ถึงแม้ว่าจะสำนึกผิดแต่ก็ไม่กล้าบอกความจริง เพราะความจริงนั้นมันเกี่ยวกับความรู้สึกของใครอีกคน"ทีหน้าทีหลังจำไว้อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ถ้าอยากออกมาให้บอกผม" ถ้าเธอไม่มาเจอตำรวจแต่ไปเจอผู้ร้ายพวกนั้นจะทำยังไงยิ่งมีแต่ผู้หญิง เขาก็เลยอดที่จะตำหนิไม่ได้ แต่พอเห็นสีหน้าที่สำนึกผิดของภรรยาแล้ว ชายหนุ่มก็เลยหันไปพูดกับตำรวจ "..ผมจะรับตัวภรรยากับแม่กลับบ้านได้หรือยังครับคุณตำรวจ""ได้แล้วครับเชิญเลยครับ""แล้วรถคันนี้ล่ะคะ" หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเขาพาเธอเดินมารถคันที่เขาขับออกมา"เอาไว้นี่แหละ ค่อยให้คนมาเอากลับบ้าน""คุณจะไปไหน..มาขึ้นรถกับผมดีกว่า" ไทเกอร์เดินมาคว้าแขนของภรรยาเพื่อที่จะให้นั่งรถคันเดียวกันกลับ"ไม่ค่ะฉันจะกลับกับลูก" ที่รักจับแขนสามีออกแล้วก็เดินตามลูกชายมาที่รถ"เป็นอะไรของเขา" พอภรรยาไม่กลับด้วยไทเกอร์ก็เลยยังไม่กลับบ้านเพราะงานของเขาย