Share

บทที่ 11

Penulis: เอเวอร์กรีน ฉิน
ขณะที่แกสตันเริ่มจำชายชราที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขาได้ การแสดงออกทางสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

ชายชราเป็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ และเป็นอัลฟ่าแห่งโลกใต้ดิน ท่านเล็กซ์—เล็กซ์ กันเธอร์!

เขาไม่กล้าที่จะต่อล้อต่อเถียงกับท่านเล็กซ์ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเขาเอง

แกสตันยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่เขากำลังรวบรวมสติ เขายิ้มและกล่าวคำขอโทษทันที “ท่านเล็กซ์ ผมเสียใจจริง ๆ ผมต้องขออภัยด้วย ไม่รู้ว่าเป็นท่าน! ได้โปรดยกโทษให้ผมสำหรับสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไป ผมรู้ว่าท่านเป็นคนใจกว้าง โอ้ ผมชื่อแกสตัน ที่ท่านส่งคนมาเรียกผมมาที่นี่ จุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้เพื่อมอบหมายงานเพิ่มเติมให้ผมหรือบางทีเพื่อเลื่อนตำแหน่งให้ผมเป็นผู้จัดการหรือเปล่าครับ? ผมสัญญาว่าผมจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเลยครับ"

ใบหน้าของท่านเล็กซ์ย่นลงเล็กน้อย ดวงตาของเขาเคร่งขรึมและเย็นชา

เขาพูดด้วยเสียงโมโนโทนว่า "เราไปคุยกันที่ห้องประชุมเถอะ"

เมื่อแกสตันเห็นว่าท่านเล็กซ์ไม่ได้ลงโทษหรือโมโหอะไรเขาเลย เขาก็รู้สึกปีติยินดีอย่างยิ่ง แม้ว่าท่านเล็กซ์นั้นจะไม่สามารถซ่อนความโกรธของเขาไว้ได้ เขาดูหงุดหงิดและทุกคนสามารถสังเกตเห็นมันบนใบหน้าของเขาได้ แกสตันคาดเดาว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับอเล็กซ์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ของท่านเล็กซ์

แกสตันคิดในใจว่า 'คงจบแล้วสำหรับคนโง่คนนี้!'

ท่านเล็กซ์พูดกับการ์ดรักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่หน้าประตู “โปรดพาเขาไปที่ห้องประชุมด้วย”

ชายคนนั้นตกใจ แต่ก็ยังพยักหน้าตอบรับด้วยอย่างเคารพ

สายตาของท่านเล็กซ์ค่อย ๆ หันไปทางอเล็กซ์ และเขาก้ร้องเรียกออกมาว่า “นายท่าน!”

เขาร้องเรียกด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังมาก แต่ว่าการ์ดรักษาความปลอดภัยที่ประตูที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีในด้านศิลปะการต่อสู้ เขามีการได้ยินและการมองเห็นที่ดีเลิศ เมื่อเขาได้ยินว่าท่านเล็กซ์เพิ่งพูดกับอเล็กซ์ ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อค้างอยู่ชั่วขณะ

การ์ดรักษาความปลอดภัยที่ประตูคิดในใจ “นายท่านอย่างนั้นหรือ? ท่านเล็กซ์ผู้ยิ่งใหญ่มีเจ้านายตั้งแต่เมื่อไหร่? ผู้ที่สามารถสั่งการและได้รับความเคารพจากท่านเล็กซ์จะต้องเป็นคนที่พิเศษมากแน่ ๆ ”

เมื่อเขาจำได้ว่าเขาได้สั่งให้ชายหนุ่มคนนี้คุกเข่าขอโทษ เขาก็รู้สึกกลัวอย่างสุดขีด ชีวิตของเขาอาจจะจบลงวันนี้ และที่มากไปกว่านั้นคือวันที่ของวันนี้มันจะถูกจารึกเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของเขา เช่นเดียวกับแกสตันที่เดินอยู่ข้าง ๆ เขา เรื่องน่าตลกก็คือ แกสตันไม่ได้รู้เลยว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นและยังคงถามเขาอย่างมีความสุขว่า “นี่ ๆ คุณชื่ออะไร? ฉันชื่อแกสตัน เกตส์ เจ้าของเรนโบว์ ซิตี้ เป็นลุงของฉันเอง ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท่านเล็กซ์จะเรียกหาฉันในวันนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะสามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้ ฉันคิดว่าฉันอาจจะได้มาที่นี่บ่อย ๆ ในอนาคต”

การ์ดรักษาความปลอดภัยคิดกับตัวเองว่า 'อาจจะได้มาที่นี่บ่อย ๆ อย่างนั้นหรือ? เปลี่ยนความสงสัยนี้เป็นคุณจะออกจากสถานที่แห่งนี้โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร จะดีกว่า!'

แกสตันกล่าวต่ออีกว่า “คุณรู้ไหม ว่าคนโง่คนนั้นที่ยืนอยู่ที่ประตูนั้น? เขาเป็นลูกชายของวิลเลียม ร็อกกี้เฟลเลอร์ อดีตประธานของ ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป ในอดีตเขานั้นรุ่งโรจน์มาก แต่ในปัจจุบันเขาเป็นเพียงคนขี้ขลาดที่ต้องพึ่งพาผู้หญิง เขาแต่งงานมาหนึ่งปีแล้ว แต่ภรรยาของเขายังบริสุทธิ์อยู่ อันที่จริงเธอกำลังจะถูกพรากไปจากเขาด้วยซ้ำ นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเหรอ?”

การ์ดรักษาความปลอดภัยยังคงนิ่งเงียบ แกสตันฮัมเพลงเบา ๆ และไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีก เขาสบถในใจว่า 'ไอ้คนบ้านั่น ผู้ชายคนนี้มันก็แค่คนโง่เง่าคนหนึ่ง ด้วยการสนับสนุนของลุงของฉัน ในไม่ช้าฉันจะต้องได้ขึ้นเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ และเมื่อถึงเวลานั้น เพียงแค่การจ้องมองจากฉันมันคนนั้นก็จะถูกบดขยี้ในทันที!

ใช้เวลาไม่นาน พวกเขาก็มาถึงห้องประชุม มีคนคุกเข่าอยู่ที่นั่นขณะที่พวกเขาเดินเข้ามา แกสตันพูดเชิงหัวเราะว่า “ผู้ชายคนนี้เป็นใคร ที่คุกเข่าอยู่ที่นี่? ท่านเล็กซ์เรียกให้ผมมาจัดการเขาหรือเปล่า...” แกสตันไม่สามารถจบประโยคของเขาได้ ขณะที่คนที่กำลังคุกเข่าลงบนพื้นหันกลับมา "คุณลุง! เป็นคุณนั่นเอง? คุณคุกเข่าทำไม?”

คนที่คุกเข่าคือจอห์น เกตส์ เจ้าของเรนโบว์ ซิตี้ เขาเป็นคนที่ลงนามในข้อตกลงกับโดโรธีซึ่งเป็นตัวแทนของแอสเส็กซ์ก่อสร้าง

“ไอ้หลานสารเลว!” จอห์น เกตส์ ตะคอกพร้อมกับลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเดินตรงไปตบแกสตันอย่างแรงจนจมูกของแกสตันเริ่มมีเลือดออก เขาโกรธมากที่ได้เห็นแกสตัน

เมื่อเห็นแกสตัน จอห์น เกตส์ ก็โมโหมาก ๆ เขาตบหน้าหลานของเขาอย่างแรง

แกสตันตกใจมาก และพูดว่า "คุณลุง คุณมาตบผมทำไม?"

“ฉันจะฆ่าแก!” จอห์นคำรามขณะที่เขาวิ่งไปข้างหน้าพร้อมทั้งต่อยและเตะหลานของตัวเอง

ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์และท่านเล็กซ์ก้เดินเข้ามาในห้องประชุมพร้อม ๆ กัน

"คุกเข่าลงซะ!" จอห์นกล่าว “คุกเข่าลงต่อหน้านายน้อยเดี๋ยวนี้ หมอบและกล่าวขออภัยท่าน! ตบตัวเองไปด้วยในขณะที่ทำมัน!”

จอห์น เกตส์ เตะแกสตันอย่างรุนแรงจนเขาเกือบที่จะขาดออกเป็นสองท่อน

แกสตันมองดูใบหน้าไร้อารมณ์ของอเล็กซ์ เขาสับสนเป็นอย่างมาก เขาชี้ไปที่อเล็กซ์แล้วตะโกนว่า "คุณลุง คุณบ้าไปแล้วเหรอ? ผมสามารถมองข้ามความจริงที่ว่าคุณตบตีผมโดยที่ไม่มีเหตุผลได้ แต่ทำไมคุณลุงถึงต้องการให้ผมขอโทษไอ้ลูกหมาตัวนี้? รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร เขาเป็นแค่คนบ้าน ๆ ไร้ค่า เขาไม่สมควรที่ผมจะคุกเข่าให้!”

การแสดงออกทางสีหน้าของอเล็กซ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง เขาเคยชินกับการดูถูกจากคุณนายแคลร์แล้วในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา

เขาเคยได้ยินคำพวกนี้จากปากของคุณนายแคลร์มาบ่อยครั้งแล้วในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา และเขาก็คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี

ท่านเล็กซ์แสดงเจตนาฆ่าของเขาและพูดอย่างเยือกเย็นว่า "จอห์น เกตส์ คุณควรจะช่วยหลานชายสุดวิเศษวิโสของคุณนะ!"

ขณะที่ท่านเล็กซ์พูด อากาศโดยรอบก็หยุดนิ่ง จอห์นปวดใจมากและเขาต้องตัดสินใจในทันที “ท่านเล็กซ์” จอห์นกล่าว “เป็นความผิดของผมที่ไม่ได้สั่งสอนเขาให้ดี ผมจะจัดการกับเจ้าสัตว์ตัวนี้ด้วยตัวของผมเอง”

"อะไรกัน?" แกสตันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลุงของเขาจะโยนความผิดมาให้เขา “ลุงจอห์น! อย่าไปบ้าตามมัน! ผมเป็นหลานชายคนเดียวของคุณนะ!” แกสตันตะโกนออกมาเสียงดัง

จอห์นถอนหายใจออกมา เขาตบตีแกสตันเพื่อปกป้องเขาจริง ๆ เขาต้องการให้หลานของเขาแสดงความสำนึกผิดเพื่อที่ท่านเล็กซ์จะได้ไว้ชีวิตของเขา แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ผลตามแผนของเขา—หลานชายที่ดื้อรั้นของเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ และจอห์นทำได้เพียงแค่ช่วยชีวิตของตัวเองให้รอดในวันนี้

“ไอ้เจ้าสัตว์โสโครก!” จอห์นตะโกน “แกไม่ควรสร้างศัตรูกับนายน้อยอเล็กซ์และโลภมากอยากได้ภรรยาของเขา! วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของแก!”

"อะไรนะ?" แกสตันตอบด้วยความตกใจ “มันไม่ใช่นายน้อยวิเศษวิโสอะไรหรอก มันเป็นแค่เศษขยะ!”

ท่านเล็กซ์เยาะเย้ย “เขาเป็นลูกชายของเพื่อนเก่าเพื่อนรักของฉัน แกควรจะปฏิบัติต่อเขาเหมือนที่ปฏิบัติต่อฉัน แล้วแกคิดว่าฉันเป็นขยะชิ้นหนึ่งด้วยเหมือนกันไหม?”

ดวงตาของแกสตันเบิกกว้างและปากของเขาอ้ากว้างราวกับปลาทองที่ตายแล้ว ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ถึงความผิดพลาดของเขาเอง

เขาจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตจริง ๆ เพื่อความโง่เขลาของเขา!

แกสตันคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ผมต้องขออภัยจริง ๆ ครับ นายท่านอเล็กซ์! ผมแค่ทำเพื่อเงิน นายน้อยอเล็กซ์ ผมไม่ได้ต้องการให้ภรรยาของคุณมานอนกับผมด้วยจริง ๆ ”

อเล็กซ์ตกตะลึงครู่หนึ่ง และภาพของสปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ ก็แวบขึ้นในหัวของเขา

“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ว่าใครอยู่เบื้องหลังการกระทำทั้งหมดนี้?” อเล็กซ์ถามในขณะที่จ้องมองแกสตันด้วยสายตาที่ราวกับว่ามันสามารถยิงทะลุผ่านเขาไปได้

แกสตันรู้ดีถึงปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่และไม่กล้าปิดบังอะไรจากอเล็กซ์ เขากล่าวว่า "มันคือสปาร์ค ไอ้สารเลวนั่นบอกว่าตราบเท่าที่ผมสามารถทำเพื่อเขาได้ เขาจะให้เงินผมเป็นค่าตอบแทน 10 ล้านดอลลาร์กับสามสาวงาม! ผมตาบอดเพราะความโลภของผมเอง ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว นายท่านอเล็กซ์ ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วยนะครับ! ผมสาบาน ต่อจากนี้ไป ผมจะยอมเป็นหมารับใช้ให้คุณ ถ้าผมโกหกคุณ ขอให้โดนฟ้าผ่า”

อเล็กซ์เต็มไปด้วยเจตนาที่ต้องการฆ่า มันเป็นเพราะไอ้สารเลวสปาร์คที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้จริง ๆ ด้วย
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status