공유

บทที่ 12

작가: เอเวอร์กรีน ฉิน
ท่านเล็กซ์เตะแกสตันและตะโกนว่า “ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่จะมาร้องขอความเมตตา! ลากมันออกไปแล้วจับมันไปถ่วงน้ำซะ”

การ์ดรักษาความปลอดภัยพุ่งไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ของแกสตันนันมันได้เอ่อล้นออกมา เขาคำนับหมอบลงกับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหน้าผากของเขาแตกและเริ่มมีเลือดไหลนองออกมา แกสตันตะโกนว่า “ท่านเล็กซ์ ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย! ลุงจอห์น ช่วยด้วย! ผมรู้ว่าผมผิดได้ทำผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้ว นายท่านอเล็กซ์ครับ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย!”

การทนดูการกระทำนั้นมันช่างเป็นเรื่องยากมาก ๆ สำหรับจอห์น เกตส์ ที่จะอดทนดูได้ แต่เขาก็ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้เลยสักคำ

อเล็กซ์ชำเลืองมองไปที่แกสตันและพูดว่า “ไว้ชีวิตเขา เขายังอาจจะมีประโยชน์สำหรับเรา”

เมื่อได้ยินคำพูดของอเล็กซ์ ความกตัญญูกตเวทีก็ถูกจารึกไว้ทั่วใบหน้าของจอห์น เขาเตะแกสตันอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ขอบคุณนายท่านอเล็กซ์เดี๋ยวนี้เลย จำเอาไว้ว่านับจากนี้ไปเขาจะเป็นเจ้านายของแก!”

แกสตันลุกลี้ลุกลนหมอบลงกับพื้นพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณครับ! ขอบคุณมาก ๆ นายท่านอเล็กซ์!”

ท่านเล็กซ์ไม่สามารถซ่อนความโกรธเคืองในน้ำเสียงได้และกล่าวว่า "สปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ เขาสมควรตายอย่างทรมารแสนสาหัสจากความโหดร้ายของเขา ฉันจะส่งคนไปพาเขามาที่นี่ เราจะฉีกร่างของเขาออกเป็นชิ้น ๆ !"

ในใจของเขา อเล็กซ์ต้องการที่จะเห็นว่าสปาร์คจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อทุกคนรู้ว่าเขาได้ทำอะไรลงไป และเขายังต้องการเห็นสีหน้าของคุณนายแคลร์เมื่อเธอรู้ว่าเธอถูกหลอกอีกด้วย

เขาโบกมือแล้วพูดว่า “ใจเย็น ๆ ผมจะจัดการกับสปาร์คด้วยตัวของผมเอง เขากำลังพยายามสร้างชื่อเสียงทำตัวเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้ ไม่ใช่เหรอ? ผมจะทำลายชื่อเสียงและชีวิตของเขาเอง”

จากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจังกับแกสตันว่า “จำเอาไว้นะ อย่ากล้าไปบอกใครเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของฉัน ถ้าแม่ยายของฉันรู้เรื่องนี้ นายก็เตรียมตัวไปว่ายน้ำกับฝูงปลาได้เลย”

แกสตันรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว "ได้ครับ ได้ครับ ผมจะรูดซิปปากของผมเอาไว้! นายท่าน คุณเป็นคนฉลาด ช่วยจัดการเสิร์ฟอาหารจานเด็ดเพื่อล้างแค้นกับสปาร์คให้หนัก ๆ เลยนะครับ!"

อเล็กซ์รู้สึกขบขันเมื่อแกสตันกำลังเยินยอเขาในขณะที่เลือดยังคงไหลอาบหน้าผากของเขา

ในความคิดของอเล็กซ์ คนที่เขาต้องการจะรับมือด้วยก่อนคนแรกก็คือคุณนายแคลร์ เขาวางแผนที่จะทำให้เธอรังเกียจ โดยที่แสร้งทำเป็นว่าเขานั้นยากจนและไม่ยินยอมตกลงที่จะหย่า สิ่งนี้แหละที่ควรค่าแก่เธอ!

“เอาล่ะ เราจะติดต่อนายไป เมื่อเราต้องการนาย แต่ว่าในตอนนี้นายกลับไปทำแผลให้ตัวเองก่อนเถอะ” อเล็กซ์กล่าวกับแกสตัน

“ครับ นายท่าน ผมจะร่วมมือกับคุณอย่างแน่นอน และช่วยให้คุณฉีกหน้าสปาร์คจอมปลอมนั่น! ผมไม่เคยชอบขี้หน้าเขาตั้งแต่แรก เขาชอบเล่นบทเป็นฮีโร่ด้วยการเงินที่เขาขโมยมาจากคุณ เขานั้นเทียบกับคุณไม่ได้เลยสักนิดเดียว”

อเล็กซ์กล่าวเสริมว่า “ช่วยออกจดหมายขอโทษภรรยาของฉันจากเรนโบว์ ซิตี้ อย่างเป็นทางการด้วยล่ะ เพื่อที่เธอจะได้รู้สึกสบายใจ รู้ไหมว่าเธอได้รับความทุกข์ทรมานจากการกระทำของนายมากแค่ไหน? ถึงแม้ว่าฉันจะฆ่านายไปมากกว่าสิบครั้ง นายก็ยังไม่สามารถที่จะไถ่บาปของนายได้”

อเล็กซ์ไม่ได้รีบร้อนที่จะกลับบ้าน เขากินเพียงสลัดเท่านั้นก่อนมาที่นี่; เขาจึงยังไม่รู้สึกอิ่ม อเล็กซ์จึงได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายท่านเล็กซ์อย่างอิ่มหนำสำราญ จากนั้นพวกเขาก็ไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า คาริ มอล์ล ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านด้วยรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม ซึ่งพวกเขาต้องจอดรถห่างจากคฤหาสน์ แอสเส็กซ์

เขาเพิ่งกินสลัดไปเพียงแค่ครึ่งชามในตอนบ่ายและท้องของเขาก็ยังไม่อิ่ม

เขาได้รับประทานอาหารกลางวันสุดหรูหรากับนายท่านเล็กซ์จนอิ่ม จากนั้นก็ได้เดินเล่นสำรวจไปทั่ว ๆ เฮล แองเจิล และห้างสรรพสินค้า คาริ มอล์ล

หลังจากนั้น เขาก็ขึ้นรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม และลงจากรถที่ห่างจากวิลล่าแอสเส็กซ์ ไม่กี่ร้อยเมตร แล้วเขาจึงได้เดินช้า ๆ กลับไปที่วิลล่า แอสเส็กซ์

ขณะที่อเล็กซ์เดินไปที่วิลล่า แอสเส็กซ์ เขาเห็นถุงกระจัดกระจายอยู่ทั่วหน้าประตูของวิลล่า เมื่อเขาเข้าไปใกล้ ๆ และตรวจสอบอย่างละเอียด ปรากฏว่าข้าวของทั้งหมดของเขาถูกนำใส่ถุงและโยนทิ้งไว้ที่ประตูจนหมดแล้ว อีกทั้งยังมีกรอบรูปแตกอยู่บนพื้นด้วย เป็นรูปครอบครัวของอเล็กซ์มีตัวเขาและพ่อแม่ของเขา บนรูปนั้นมีรอยเท้าที่ชัดเจนมาก เห็นได้ชัดว่ามีคนเหยียบมันโดยเจตนา

อเล็กซ์โกรธจัดและเขาก็บุกเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับตะโกนว่า “ใครเป็นคนทำ? ใครเหยียบรูปครอบครัวของผม?”

คุณนายแคลร์ คุณหนูเบียทริซ และสปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ พวกเขาอยู่ในห้องนั่งเล่นเมื่ออเล็กซ์บุกเข้ามา

คุณนายแคลร์ตอบด้วยความโกรธว่า “ฉันทำเอง! แล้วถ้าฉันทำล่ะ แล้วจะทำไม? เศษขยะอย่างแกกำลังจะหย่าร้างแล้ว ทำไมยังมีหน้ามาที่บ้านของพวกเราอีกล่ะ?”

ดวงตาของอเล็กซ์เย็นชาและน่ากลัว นี่เป็นครั้งแรกที่คุณนายแคลร์เห็นเขาในลักษณะนี้ มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ เธอถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ว่า “แกจะทำอะไร? บ้าไปแล้วเหรอ? แกจะฆ่าฉันเหรอ?”

คุณหนูเบียทริซคว้าคุณนายแคลร์อย่างรวดเร็วและพูดขึ้นว่า “คุณแม่ของฉันเหยียบมันโดยไม่ได้ตั้งใจ”

อเล็กซ์กระพริบตาและหัวเราะก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณแม่ครับ คุณคือแม่ยายของผม ทำไมผมถึงต้องอยากที่จะฆ่าคุณ? ไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมจะดูแลคุณอย่างดีตลอดชีวิตของผม และรับใช้คุณในขณะที่คุณยังมีชีวิตอยู่ และจะจัดการฝังศพให้คุณหลังจากที่คุณตาย”

เมื่อคุณนายแคลร์ได้ยินเรื่องนี้ เธอโกรธมากที่เขาพูดเรื่องความเป็นความตาย

เธอกรีดร้องว่า "ไอ้เด็กเวร! แกกำลังฝันกลางวันอยู่หรือไง? ใครเป็็นแม่แก? ไปฝังศพให้แม่แกโน่น!"

อเล็กซ์ตอบกลับว่า "ก็คุณไงแม่ของผม!"

“แก... หย่าเดี๋ยวนี้ เบียทริซ โทรหาพี่สาวของแกแล้วบอกให้เธอไปที่สำนักทะเบียนสมรสเดี๋ยวนี้เลย”

อเล็กซ์ส่ายหัวแล้วพูดว่า “คุณแม่ ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ผมกับโดโรธีเราจะไม่หย่ากัน คุณไม่ได้ต้องการที่จะมีอำนาจของตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์หรอกเหรอ? ผมเกรงว่าถ้าเราสองคนหย่ากัน คุณจะไม่ได้อะไรตามที่คุณคาดหวังไว้"

สปาร์คยืนขึ้นและพูดว่า "อเล็กซ์ ฉันไม่นึกเลยว่านายจะทำตัวเหมือนหมาจนตรอกแบบนี้! นายยังต้องการคงความสัมพันธ์ของนายกับคุณหนูโดโรธีต่อไปเพื่อเงินหรือ? มันเป็นแค่การเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์สำหรับการทำให้แม่ของนายมีชีวิตรอดอยู่มาตกลงกัน ถ้านายยอมหย่ากับคุณหนูโดโรธี ฉันจะให้เงินนาย 1 ล้านดอลลาร์ และฉันจะรับนายเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานทำความสะอาดใน ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป เป็นการส่วนตัว ฉันได้ยินมาว่านายเป็นพี่เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมให้กับครอบครัวแอสเส็กซ์ ฉันเดาว่านายคงจะมีพรสวรรค์ในการทำความสะอาดนะ”

ก่อนที่อเล็กซ์จะทันได้ตอบกลับ คุณหนูโดโรธีก็วิ่งเข้ามา เสียงหัวใจของเธอนั้นมันเต้นดังมากและชัดเจน ขณะที่คุณหนูโดโรธีเดินเข้ามา เธอตะโกนอย่างมีความสุขว่า “คุณแม่! มันได้รับการแก้ไขแล้ว!”

คุณนายแคลร์รู้สึกสับสนมึนงงและเอ่ยถามว่า “อะไรที่ได้รับการแก้ไขแล้ว?”

“ปัญหากับกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์” โดโรธีได้ตอบกลับ “คุณจอห์น เกตส์ ผู้รับผิดชอบ เรนโบว์ ซิตี้ ได้โทรหาหนูด้วยตัวของเขาเองและบอกว่าเขาทราบเรื่องการกระทำที่ไม่ดีของแกสตันแล้ว และได้ลงโทษเขาอย่างรุนแรงและเหมาะสมแล้ว เขามั่นใจว่าจะไม่มีใครจากกลุ่มของพวกเขาที่จะล่วงละเมิดเราได้อีก หนูรู้สึกโล่งใจมาก!”

ขณะที่เธอพูดน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาของเธอ พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเธอต้องพบเจอกับอะไรมาบ้างในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้

กลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์อได้กดดันเธอมาก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ มันไม่ใช่สิ่งเดียวที่กดดันเธอ แต่เมื่อครอบครัวของเธอรู้เรื่องนี้ พวกเขากลับไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเธอเลย แต่พวกเขากลับบอกให้เธอยอมนอนกับแกสตันแทนเพื่อเป็นการขอโทษ นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากสปาร์คและความผิดหวังในตัวของอเล็กซ์ด้วย

เธออยู่ในจุดที่ย่ำแย่จนสุดขีด จนเกือบจะแหลกสลายไปอยู่แล้ว

ใจของอเล็กซ์นั้นห่อเหี่ยวมาก ๆ เมื่อเขาเห็นโดโรธีอยู่ในสภาพนี้ เขาเดินไปหาโดโรธีและพูดเสียงดังและจริงจังว่า “ที่รักโดโรธี ตามที่ผมเคยบอกกับคุณ ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย ผมจะปกป้องคุณเอง ใครหน้าไหนที่กล้ามารังแกคุณจะต้องข้ามศพของผมไปก่อน”

ในขณะเดียวกันสปาร์คกำลังจ้องมองด้วยสายตาราวกับคมมีด

โดโรธีมองเขาด้วยน้ำตาเอ่อนองเต็มใบหน้าและพูดว่า "คุณช่วยฉันแก้ปัญหานี้จริง ๆ หรือ? เพื่อนของพ่อคุณยอมยื่นมือเข้ามาช่วยแล้วเหรอ?"

"แน่นอนสิ!" อเล็กซ์ได้ตอบกลับ

“ขอบคุณนะ…” โดโรธีกล่าวด้วยความดีใจที่สถานการณ์ก่อนหน้านี้ได้จบลงในที่สุด

“บื้อจริง ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ผมจะปกป้องคุณไปตลอดชีวิตของผมเลย” อเล็กซ์พูดขณะเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของโดโรธี อยากที่จะเช็ดน้ำตาให้กับเธอ

คุณนายแคลร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จู่ ๆ ก็ผลักอเล็กซ์ออก อเล็กซ์ไม่ทันได้ตั้งตัวและล้มลงไปกองกับพื้น แขนของเขากระแทกเข้ากับขอบและมุมของโต๊ะกาแฟ จนเกิดรอยฟกช้ำและมันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก

“คุณแม่คะ คุณบ้าไปแล้วหรือคะ?” โดโรธีพูดขณะที่รีบเข้าไปช่วยอเล็กซ์อย่างรวดเร็ว "อเล็กซ์ คุณโอเคไหมคะ?"

คุณนายแคลร์รีบวิ่งไปดึงโดโรธีออกแล้วพูดว่า "ใครกันแน่ที่บ้า? แกคิดว่าเขาเป็นคนที่ช่วยแกจริง ๆ เหรอ? เขามีความสามารถอะไรบ้าง? ทั้งหมดนี้ที่แก้ไขได้ก็เป็นเพราะนายน้อยสปาร์ค!"

สปาร์คยังคงสับสนมึนงงจากสิ่งที่เขาเพิ่งได้รับรู้ พรางคิดในใจว่า 'แกสตันกำลังทำบ้าอะไรอยู่? เขาเอาเงินของฉันไปแล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถถอนตัวออกจากข้อตกลงได้ ไม่ใช่เหรอ?’

แต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่คุณนายแคลร์เพิ่งพูด เขาก็หัวเราะทันทีและพูดว่า “ใช่ครับ ผมโทรหาพ่อของผมเพื่อให้เขาไกล่เกลี่ยกับท่านจอห์น เกตส์ เอง อเล็กซ์ นายหยุดแสร้งทำเป็นว่านายมีความสามารถทุกอย่าง ลืมไปหรือเปล่าว่าพ่อของนายได้ถูกตัดสินว่าทุจริต? คนแบบไหนกันที่จะยังคงเป็นเพื่อนกับเขาอยู่? อย่าไปเชื่อเขานะครับ คุณหนูโดโรธี นอกจากนี้เขายังเคยโกหกเรื่องการซื้อเครื่องประดับเพชรมูลค่า 4 ล้านดอลลาร์ แต่กลับกลายเป็นว่ามันทำมาจากแก้ว!”

หัวใจของคุณหนูโดโรธีเต็มไปด้วยความสงสัยเมื่อเธอได้ยินสิ่งที่สปาร์คเพิ่งพูดออกมา
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status