공유

บทที่ 13

작가: เอเวอร์กรีน ฉิน
คุณหนูโดโรธีเชื่อมั่นในตัวอเล็กซ์ แต่สิ่งที่อเล็กซ์พูดนั้นมันก็ยากที่จะเชื่อ ที่สำคัญที่สุด เขาใช้เวลาถึงสิบเดือนที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย และความทรงจำนั้นมันยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธอ

อเล็กซ์จ้องไปที่สปาร์คอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดขึ้นว่า “อีกครั้งแล้วกับการโกหก ฉันต้องการเห็นมันจนกว่าที่นายจะหยุดโกหกเสียที นายคิดว่าคำโกหกของนายนั้นไร้ที่ติหรือเปล่า? นายจะใช้กลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เพื่อบังคับให้ฉันหย่ากับโดโรธีหรือ? ตลกอะไรเบอร์นั้น! จอห์น เกตส์ แห่งกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ ใช่ไหม? เขาพึ่งมาคุกเข่าต่อหน้าของฉัน เพื่อร้องขอความเมตตาเอง”

ทุกคนต่างหัวเราะ แม้แต่โดโรธีก็ยังรู้สึกผิดหวังในตัวของอเล็กซ์ด้วย เธอคิดว่าเขากำลังโกหกอยู่

สปาร์คหัวเราะเสียงดัง “อเล็กซ์ ฉันไม่นึกเลยว่านายจะเห็นภาพลวงตานั่นจริง ๆ และนายอาจจะมีอาการประสาทหลอนด้วย คุณจอห์น เกตส์ จากกกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เนี่ยนะที่เขาจะมาคุกเข่าต่อหน้านาย? ทำไมนายไม่บอกเลยล่ะว่าท่านเล็กซ์ทำงานให้กับนาย?”

อเล็กซ์ยิ้มเยาะ 'ใช่ ท่านเล็กซ์ กันเธอร์ ทำงานให้กับฉัน'

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ถึงเวลาที่จะเฉลยความลับนี้

เขามองไปที่คุณหนูโดโรธีและกล่าวว่า “โดโรธี ทุกอย่างเกิดขึ้นจากเขา เขาเป็นคนที่จ้างแกสตันด้วยเงินสิบล้านดอลลาร์และสัญญากับเขาว่าจะหาสาวงามสามคนมาให้ เขากำลังพยายามสร้างสถานการณ์ที่จะบังคับให้คุณไปเป็นภรรยาของเขาอยู่ ฉันพูดถูกไหม สปาร์ค?”

เมื่อสปาร์คได้ยินเช่นนั้นก็มีความตื่นตระหนกในดวงตาของเขา อเล็กซ์เพิ่งเปิดเผยความจริงต่อหน้าของทุกคน

แต่ทันใดนั้น คุณนายแคลร์ก็คว้าไม้กวาด เธอฟาดมันไปที่หัวของอเล็กซ์แล้วด่าเขาว่า “ไร้สาระสิ้นดี! ทั้งหมดที่แกพูด ไอ้สารเลวที่เอาแต่สร้างเรื่องนิยายน้ำเน่า! หยุดพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นเสียที สิบล้านดอลลาร์กับผู้หญิงสามคนเหรอ? แกจะบ้าหรือเปล่า? ด้วยเงินจำนวนมากขนาดนั้น เขาสามารถหาผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่เขาต้องการ ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นเพียงเพื่อโอกาสที่จะได้อยู่กับโดโรธีลูกสาวของฉัน?”

อเล็กซ์จับไม้กวาดไว้แล้วตอบว่า “เพราะว่าเขาเป็นพวกวิปริตที่อยากจะแต่งงานกับพี่สะใภ้ของตัวเอง”

สปาร์คพูดอย่างโกรธเคือง “นายคงเป็นบ้าไปแล้ว ฉันจะไม่ให้ความบันเทิงกับนายแล้วนะ”

หลังจากนั้น คุณนายแคลร์เริ่มก็เริ่มทุบตีอเล็กซ์อย่างโกรธจัด และไล่เขาออกจากวิลล่า แอสเส็กซ์ โดยตะโกนว่า “ออกไป ออกไป อย่าก้าวเข้ามาในบ้านของพวกเราอีก แม้แต่ก้าวเดียวจากนี้ไป!”

อเล็กซ์พยายามพูดกับโดโรธีที่ยังอยู่ภายในบ้านเขาตะโกนออกมาว่า “โดโรธี ลองคิดดูดี ๆ ผมยอมทนรับการดูถูกเหยียดหยาม ผมสามารถทนกับการถูกคุณแม่ทุบตีและดุด่าได้ และผมก็ไม่เคยโกหกคุณเลย”

ปัง! คุณนายแคลร์ปิดประตูเสียงดัง

อเล็กซ์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามระงับอารมณ์หุนหันพลันแล่นและความโกรธของเขา แล้วหยิบสัมภาระที่ถูกโยนออกไปนอกวิลล่า

สปาร์คยิ้มและมองดูโดโรธีและพูดอย่างไม่อายว่า “โดโรธี ดูสิ พ่อของผมช่วยคุณแก้ปัญหาแล้ว คุณสามารถฟ้องหย่าได้แล้ววันนี้!”

โดโรธีรู้สึกสงสัย “สปาร์ค คุณบอกว่าพ่อของคุณจะไม่เข้ามาช่วยเหลือฉัน ถ้าฉันยังไม่ได้หย่าไม่ใช่เหรอ? ในตอนนี้ ฉันไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี!”

เบียทริซพูดว่า “พี่สาว นี่พี่กำลังถูกผีสิงอยู่หรือเปล่า? พี่จะไปเชื่อคนบ้าและเพ้อเจ้อคนนั้นจริง ๆ หรือ?”

สปาร์คพูดขึ้นว่า “คุณไม่เชื่อผมใช่ไหม? ผมจะไปหาพ่อและให้เขาพิสูจน์ให้คุณได้เห็น”

เขามีท่าทางเร่งรีบหลังจากที่พูดอย่างนั้น

อันที่จริงแล้ว เขาตื่นตระหนกเล็กน้อยและจะรีบไปหาแกสตันเพื่อถามว่าสถานการณ์นั้นเป็นอย่างไร

คุณนายแคลร์กล่าวชื่นชมเขาในทันทีว่า “คุณเป็นลูกเขยที่ดี ฉันเชื่อคุณ ฝากบอกพ่อของคุณด้วยว่าฉันขอบคุณมาก!”

สปาร์คพยักหน้า เปิดประตูแล้วออกไปในที่สุด

อเล็กซ์เห็นสปาร์คเข้าไปในรถแลมโบกินีด้วยการล่ำลาอย่างอบอุ่นจากคุณนายแคลร์และคุณหนูเบียทริซ

“เอ๊ะ แกช่วยขยับให้มันเร็วขึ้นได้ไหม? รีบเก็บข้าวของของแกและออกไปจากที่นี่ได้แล้ว!” คุณนายแคลร์พูดขณะที่เธอถ่มน้ำลายใส่เท้าของอเล็กซ์ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปข้างในวิลล่า

อเล็กซ์เพิ่งเก็บของเสร็จ เขาหยิบแต่ของที่สำคัญและจำเป็นสำหรับเขาเท่านั้น เขาทิ้งข้าวของที่เหลือและวางแผนที่จะซื้อใหม่ทั้งหมด ตอนนี้เขามีเงินจำนวณมากมหาศาลที่สามารถใช้ได้อย่างไม่จำกัด

ขณะที่เขากำลังจะจากไป คุณหนูโดโรธีก็รีบวิ่งเข้ามาหาเขา “อเล็กซ์ ได้โปรดอย่าไปเลย!” โดโรธีกล่าว อเล็กซ์หยุดและหันกลับไปมองที่เธอ เขารู้สึกผิดหวังที่โดโรธียังคงสงสัยในสิ่งที่เขาพูด

อเล็กซ์กล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่นว่า “ข้าวของทั้งหมดของผมถูกโยนทิ้งไปแล้ว ผมควรนอนที่ประตูหรือ ถ้าผมไม่ออกไป?”

โดโรธีตอบว่า “ถ้าสิ่งที่คุณบอกฉันเป็นความจริง คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด ถ้าคุณไม่ผิดแล้วจะไปทำไม? แม่ของฉันตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้สปาร์คเข้ามาเป็นครอบครัวของเรา ถ้าเขาเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ ทำไมคุณไม่อยู่และปกป้องฉันล่ะ? จะเป็นอย่างไรถ้าแม่ของฉันวางยาฉันก่อนที่จะโทรหาสปาร์คให้มาค้างที่นี่?”

ขณะที่อเล็กซ์ครุ่นคิด ยัยแม่มดแก่คนนั้นอาจจะสามารถทำเช่นนั้นได้จริง ๆ เพียงเพื่อความเห็นแก่เงินของเธอ

เมื่อมองไปที่คุณนายแคลร์ที่กำลังจ้องมองเขาอย่างดุร้ายราวกับเสือ เขาพยักหน้าและพูดว่า “คุณพูดถูก ผมไม่ควรไป ผมยังคงเป็นสามีของคุณ และผมจะเป็นสามีของคุณตลอดไป”

คุณนายแคลร์รีบวิ่งออกมาพร้อมกับไม้กวาดในมือด้วยท่าทางที่โกรธจัด

โดโรธียืนบังหน้าของอเล็กซ์และพูดว่า “คุณแม่ ถ้าคุณไล่เขาออกไป หนูจะไปกับเขา บางทีเมื่อลูกของพวกเราโตขึ้น หนูอาจที่จะกลับมาหาคุณบ้าง”

เมื่อคุณหญิงแคลร์ได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงและกลับไปที่ห้องของเธอด้วยความโกรธ

ลึก ๆ แล้ว เธอรู้ดีว่าโดโรธีจะทำมันจริง ๆ เหมือนเมื่อสิบเดือนที่แล้ว เธอแทงตัวเองเข้าที่หน้าอกเพียงเพื่ออเล็กซ์

โดโรธีพูดกับอเล็กซ์อีกครั้ง “พิสูจน์ให้ฉันเห็นสิ”

อเล็กซ์ตอบกลับว่า “คุณต้องการให้ผมพิสูจน์อะไร?”

โดโรธีกล่าวว่า “พิสูจน์ว่าคุณสามารถปกป้องฉันได้ในอนาคต ไม่อย่างนั้นแม่ของฉันก็จะยังคงไล่คุณอยู่อย่างนี้ ส่วนฉันจะยังคง… กลายเป็นผู้หญิงของสปาร์ค”

อเล็กซ์ยิ้มอย่างมั่นใจและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไป ผมจะพิสูจน์ให้คุณได้เห็น ผมจำได้ว่าอีกสองวันนับจากนี้จะเป็นการฉลองวันครบรอบของบริษัท แอสเส็กซ์ ก่อสร้าง หนุ่มสาวในตระกูลแอสเส็กซ์จะแข่งขันผลงานประจำปีของพวกเขา และผมมีของขวัญที่จะมอบให้คุณก่อนวันนั้นจะมาถึงแน่นอน”

“ของขวัญอะไร?” โดโรธีถามด้วยความสงสัย

“ผมไม่อยากที่จะพูด แต่ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นด้วยการกระทำของผมเอง” อเล็กซ์ตอบ

โดโรธีรู้สึกสงสัย แต่ดูเหมือนกับว่าเขานั้นจะไม่ได้โกหก

แล้วเธอก็ถามต่ออีกว่า “แหวนแต่งงานอยู่ที่ไหน? คุณไปซื้อคืนมาแล้วหรือยัง?”

อเล็กซ์รีบหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋าของเขา

“ช่วยฉันใส่หน่อยสิ!” โดโรธีสั่งเขา

อเล็กซ์มีความสุขมากและสั่นไปด้วยความปิติยินดี ในขณะที่เขาจับมือที่อ่อนนุ่มของเธอและสวมแหวนลงบนนิ้วของเธออย่างอ่อนโยน

โดโรธีรู้ว่ามันคือแหวนแต่งงานของเธอจริง ๆ ดวงตาของเธอจึงมีน้ำตาเอ่อล้นขณะที่เธอพูดว่า “อเล็กซ์ ฉันหวังว่าคุณจะไม่โกหกฉัน นี่เป็นครั้งที่สองที่ฉันขอให้คุณสวมแหวนนี้ให้กับฉัน และมันจะเป็นครั้งสุดท้าย หากคุณทำมันหายไปอีกครั้ง มันจะเป็นการสิ้นสุดเรื่องทั้งหมดระหว่างเรา”

คุณนายแคลร์รีบวิ่งเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง “ปล่อยนะ ใครอนุญาตให้แกมาแตะต้องตัวลูกสาวของฉัน? ถ้าแกยังอยากอยู่ในบ้านของฉัน ก็ไปทำอาหาร ถูพื้น และซักเสื้อผ้าทั้งหมด”

ในขณะเดียวกัน สปาร์คก็โทรหาแกสตัน เกตส์ และถามว่า "แกสตัน นายกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมนายถึงไม่ทำตามที่เราคุยกันไว้? นายทำทุกอย่างพังในนาทีสุดท้าย”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status