Share

บทที่ 19

Author: เอเวอร์กรีน ฉิน
ท่านแกสตัน คุกเข่าต่อหน้า คุณหนูโดโรธี ทันที “คุณหนูร็อคกี้เฟลเลอร์ ผมขอโทษ ผมขอให้คุณให้อภัย ผมตาบอดเพราะความโลภของผมและเอาเงินสิบห้าล้านดอลลาร์จาก สปาร์ค ไปทำการประมูลเพื่อจงใจให้เขาแสดงตัวราวกับว่าเขาเป็นฮีโร่ เขาต้องการแย่งคุณไปจากนายน้อยอเล็กซ์ ผมผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ผมด้วย”

ดวงตาของโดโรธีเต็มไปด้วยน้ำตาและเธอไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้

ขวับ!

ท่านจอห์น คว้าสร้อยคอคุณนายแคลร์อย่างแรงแล้วโยนลงพื้นเพื่อทำลายมัน และพูดว่า “นี่เป็นการปลอมแปลงสร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์ ของเรา ไม่เพียงแค่ผิดกฎหมาย แต่ยังเป็นการดูถูกบริษัทของเราอีกด้วย”

ทุกคนตกใจกับการเปิดเผยทุกสิ่งที่ นายน้อยสปาร์ค พูดนั้นเป็นเรื่องโกหก คำกล่าวอ้างที่ไร้สาระทั้งหมดของอเล็กซ์เป็นเรื่องจริง แต่ทุกคนก็ยังสงสัยในตัวเขา

ในขณะนั้นเอง อเล็กซ์รู้สึกท้อแท้ จิตใจของเขาเต็มไปด้วยภาพของโดโรธีพยักหน้ากับคำขอแต่งงานของสปาร์ค เขาปาดน้ำตาก่อนจะออกจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว

โดโรธีทุกข์ใจมากจนหายใจแทบไม่ออก

คำสัญญาก่อนหน้านี้ของอเล็กซ์ดังขึ้นใจใจของเธอ “ผมเป็นหนี้คุณมากเกินไปในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนคุณ คุณจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่นับจากนี้” แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่เชื่อในตัวเขา เธอเลือกที่จะเข้าในสิ่งผิด ๆ

โดโรธีคลานเข่าอยู่บนพื้นเหมือนคนบ้าคลั่งมองหาแหวนแต่งงานที่เธอโยนทิ้งไป เมื่อเธอหาเจอและใส่กลับเข้าไป โดโรธีก็วิ่งออกจากห้องจัดเลี้ยงและตะโกนว่า “สามีที่รักทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉันเอง คุณอยู่ที่ไหน?!”

คุณท่านโจแอนน์เป็นเหมือนวิญญาณที่หายไป “มันจบแล้วสำหรับเรา” เธอคิดว่า เดิมที่มันควรจะเป็นวันที่ดี แต่ทุกอย่างมันกลับหัวกลับหาง ตระกูลแอสเส็กซ์ ไม่เพียงแต่ได้รับความอัปยศอดสูต่อหน้าแขกคำสำคัญมากมาย แต่พวกเขายังสูญเสียสัญญามูลค่าพันล้านดอลลาร์และทำให้กลุ่มบริษัทเธาซันด์ ไมล์ ขุ่นเคือง ความฝันของเธอที่มีต่อตระกูล แอสเส็กซ์ที่จะประสบความสำเร็จได้สิ้นสุดลงก่อนที่มันจะเริ่มต้นด้วยซ้ำ

“ทั้งหมดนี้เกิดจาก ท่านบิล! และสปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์!” คุณท่านโจแอนน์คิด เธอหยิบไม้เท้าขึ้นมาอย่างโกรธแค้นและเริ่มตีท่านบิลพร้อมกับกรีดร้องว่า “ไอ้คนโกหก ฉันจะฆ่าแก!”

หลังจากได้เห็นความวุ่นวายนี้ท่านเล็กซ์ก็ถอนหายใจอย่างไม่แยแสและจากไปพร้อมกับคนทั้งหมดของเขาและของขวัญที่ที่พวกเขานำมา

หลังจากออกจากโรงแรม อเล็กซ์ก็ไปที่โรงพยาบาล มันเป็นสถานที่เดียวที่เขาสามารถหาความสบายใจได้ เขาอยากนวดแขนขาให้แม่ของเขา มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของเขาในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา หากผู้ป่วยโคม่าไม่ได้รับการรักษาแบบที่กล่าวมาทุก ๆ วัน อาจจะมีอาการกล้ามเนื้อลีบและโรคข้อเข่าเสื่อม แม้ว่าในอนาคตผู้ป่วยจะตื่นขึ้นมาพวกเขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่ก็ไม่หักโหมหนักในการทำกายภาพบำบัด

อเล็กซ์รู้เรื่องทั้งหมดนี้มาจากการที่เขาได้อ่านหนังสือบทความและวารสารทางการแพทย์มากมายเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโคม่า บางทีเขาอาจจะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่าพยาบาลส่วนใหญ่ก็ได้

ขณะนี้คุณหมอเชอริลเดินเข้ามาเยี่ยมเธอเป็นประจำก่อนเลิกงาน

อเล็กซ์เห็นว่าเธอใส่สร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์ ที่เขามอบให้เธอ เหมาะกับใบหน้าที่สวยงามของเธอจริง ๆ และการผสมผสานกันนั้นสามารถอธิบายได้ว่าเป็นนางฟ้าเท่านั้น

เมื่อคุณหมอเชอริลเห็นอเล็กซ์เธอยิ้มและพูดว่า “คุณอเล็กซ์เครื่องประดับแก้วที่คุณให้ฉันเป็นของขวัญนั้นสวยงามจริง ๆ หลายคนถามว่าฉันซื้อมาจากที่ไหน

“เอ่อออ” อเล็กซ์ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของคุณหมอเชอริลว่าอย่างไรเขาตกตะลึง

คุณหมอเชอริลไม่ได้ใส่ใจกับการตอบรับของเขา หรือจริงจังกับมันมากนัก และทำการตรวจสุขภาพคุณนายบริตทานีตามปกติ ในขณะที่เธอทำงานเสร็จ คุณหมอเชอริลก็ถามว่า “คืนนี้คุณอเล็กซ์ว่างไหมคะ?”

“ทำไมเหหรอครับ?” อเล็กซ์ตอบ

“ฉันอยากให้คุณไปเป็นแฟนฉัน” คุณหมอเชอริลกล่าว

“ฮะ?” อเล็กซ์ตะลึง
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status