แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: เอเวอร์กรีน ฉิน
อเล็กซ์ส่ายหัวและเยาะเย้ย "โคลอี้ เธอไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเลียเท้าของฉันหรอก โน่นเธอควรกลับบ้านไปเลียนิ้วเท้าของเจ้าอ้วนนี่ ไปซะ ถ้าเธอทำให้เขามีความสุขได้ เขาอาจจะซื้อขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อยมูลค่าสองพันดอลลาร์มาให้เธอก็ได้นะ"

"แก..."

ความโกรธของโคลอี้รุนแรงมาก เธอเหมือนระเบิดเวลาที่กำลังจะระเบิดออกมา

ในที่สุดคนอ้วนก็กล่าวเสริมโคลอี้ เพราะเขากำลังหว่านล้อมเธอให้ไปนอนกับเขา และอเล็กซ์ก็ทำให้เขารู้สึกอับอาย ชายอ้วนพูดขึ้นว่า "ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ช่วยดูสารรูปของตัวเองหน่อย แกคิดว่าแกจะมีปัญญาซื้อสร้อยคอที่ป้ายราคาสามสิบล้านเหรียญนี้ได้จริง ๆ เหรอ? อะไรนะ?! แกคิดว่าราคาแค่สามพันดอลลาร์เหรอ?"

“แล้วถ้าผมมีเงินพอที่จะซื้อได้ล่ะ? คุณจะซื้อมันได้ไหม? คุณจะซื้อมันสักอันด้วยไหมล่ะ?” อเล็กซ์เอ่ยถาม

อเล็กซ์ตัดสินใจซื้อเครื่องประดับเส้นนั้น

เขาเป็นหนี้คุณหนูโดโรธี แอสเส็กซ์ มามากมายในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมานี้

การซื้อสร้อยคอมูลค่าสามสิบล้านดอลลาร์นี้มันอาจจะทำให้เธอมีความสุข และมันคงจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับเธอสำหรับความสามารถในการปกป้องเธอของเขา

ชายอ้วนพูดอย่างโกรธเคือง “ไอ้งี่เง่าคนนี้มาจากไหน ไร้สาระมาก โคลอี้ คุณรู้จักคนแบบนี้ได้ยังไง? มันลดระดับฉันทุกครั้งที่คุยกับมัน”

อเล็กซ์เยาะเย้ย “บอกผมตรง ๆ ก็ได้ถ้าคุณไม่มีเงิน ไม่จำเป็นต้องแก้ตัว ผมจะไม่ทำให้เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว 'รักแห่งเมืองปฏิหาริย์' มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คู่ควร นั่นก็คือภรรยาของผม แฟนของคุณไม่คู่ควรกับสร้อยคอเส้นนี้หรอก จะดีกว่าไหมถ้าคุณซื้ออันข้าง ๆ อันละ 3 ล้านดอลลาร์นั่น หรือว่าอยากจะเดิมพัน?"

“โอ้โห แกคิดว่าแกเป็นใครมาขู่ฉันน่ะฮะ?! เอาเลย! แต่ถ้าแกไม่มีเงินจ่ายล่ะ?” ชายอ้วนตะโกนออกมา

อเล็กซ์ยังไม่ทันได้มีโอกาสโต้ตอบ

โคลอี้ก็พูดสวนขึ้นมาว่า “แต่ถ้านายไม่มีปัญญาจ่าย ก็คุกเข่าแล้วเรียกฉันว่าแม่สามครั้งด้วยนะ!”

อเล็กซ์จ้องมองไปที่เธออย่างเย็นชา “เข้าใจแล้ว!”

พวกเขาสุ่มถามพนักงานในร้านค้าที่อยู่ใกล้กับพวกเขามากที่สุด

และพวกเขาก็ค้นพบว่าพวกเขาจะต้องไปที่ชั้นสามหากต้องการที่จะซื้อสร้อยคอ 'รักแห่งเมืองปฏิหาริย์'

ทั้งสามคนขึ้นมาถึงชั้นสามในชั่วพริบตา พวกเขาก็พบเข้ากับเคาน์เตอร์ และผู้ดูแลสร้อยคอนี้เป็นคนรู้จักของพวกเขาเอง

เธอเป็นเพื่อนสนิทของโดโรธี ชื่อว่าแคสแซนดรา

“อะไรนะ คุณต้องการที่จะซื้อสร้อยคอ 'รักแห่งเมืองปฏิหาริย์' เหรอ คุณจะบ้าไปแล้วหรือไง?”

หลังจากที่แคสแซนดราได้ยินเรื่องนี้ เธอมองไปที่อเล็กซ์และรู้สึกโกรธมาก “อเล็กซ์ ฉันไม่เข้าใจ คุณมีสิทธิ์อะไรมารั้งโดโรธีไว้ แมน ๆ หน่อย หย่ากับคุณหนูโดโรธีซะเถอะ อย่าอยู่เป็นภาระของเธออีกเลย รู้ไหมโดโรธีมาหาฉันเมื่อไม่นานมานี้และขายแหวนแต่งงานของเธอในราคาครึ่งล้านเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลของแม่คุณ ตอนนี้คุณกำลังจะบอกฉันว่าคุณต้องการซื้อสร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์' มูลค่าสามสิบล้านเหรียญ คุณว่าฉันเป็นคนซื่อไหมที่จะเชื่อคุณ?"

อเล็กซ์รู้ได้เลยว่าสิ่งแย่ ๆ จะเกิดขึ้นกับเขาเมื่อเขาพบเธอ เนื่องจากเธอมักจะเย้ยหยันเขาอยู่ตลอดเวลา

โคลอี้กับชายอ้วนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะคิกคัก

โคลอี้พูดขึ้นว่า “อเล็กซ์ ได้ยินไหมว่าภรรยาของนายขายแหวนแต่งงานไปแล้ว และนายยังจะอยู่ที่นี่ แสร้งทำเป็นว่ารวย เพียงแค่ยอมรับว่านายไม่สามารถจ่ายได้ คุกเข่าและเลียฝ่าเท้าของฉัน พร้อมกับเรียกฉันว่าแม่สามครั้งสิ!"

ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็ถอดรองเท้าและเหยียดเท้าออกมาทางอเล็กซ์

อเล็กซ์ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองเธอ และพูดกับแคสแซนดราว่า "ถ้าฉันสามารถซื้อได้ล่ะ?"

แคสแซนดราตอบอย่างโกรธจัดว่า “ถ้านายสามารถซื้อมันได้ ฉันจะยอมคุกเข่าต่อหน้านายและเรียกนายว่าแด๊ดดี้เลย!”

ฟรึบ!

อเล็กซ์หยิบบัตรเครดิตของเขาออกมา

“รูดบัตรนี้!”

แคสแซนดราคว้าบัตรธนาคารนั้น และโยนกลับไปที่อเล็กซ์ แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะ พอสักทีได้ไหม? หยุดรบกวนการทำงานของฉันเสียที อเล็กซ์ ฉันรู้จักคุณดีพอ! อย่าได้ไปพูดถึงเสร้อยคอราคาสามสิบล้านดอลลาร์นั่นเลย คุณเองยังไม่สามารถที่จะซื้อสร้อยคอสามพันดอลลาร์ได้เลย!”

“ถ้าคุณไม่รีบออกไปตอนนี้ ฉันจะขอให้รปภ.ไล่คุณออกไปจากที่นี่”

อเล็กซ์ขมวดคิ้ว “ผมมาที่นี่เพื่อซื้อของ คุณจะไล่ฉันออกไปทำไม? แคสแซนดรา คุณกำลังพยายามที่จะไล่ตัวเองออกจากงานเหรอ?”

แคสแซนดราโบกมือ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองที่สังเกตเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็รีบวิ่งเข้ามาทันที

รปภ.เอ่ยถาม "คุณแคสแซนดร้า เกิดอะไรขึ้น?"

แคสแซนดรากล่าวว่า "ชายคนนี้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา ช่วยไล่เขาออกไปที"

อเล็กซ์พูดอย่างเย็นชาว่า "แคสแซนดรา อย่าทำตัวน่าอับอายเช่นนี้ ผมมาที่นี่เพื่อซื้อของ ไม่ได้มาสร้างปัญหาอะไร ถ้าเจ้านายของคุณรู้ทัศนคติในการบริการของคุณ คุณคิดว่าคุณยังจะสามารถทำงานที่นี่ต่อไปได้หรือไม่? ไม่กลัวฉันฟ้องเจ้านายของคุณหรอ?”

แคสแซนดราจ้องไปที่เขา “ถ้านายต้องการซื้อสร้อยคอ 'รักแห่งเมืองปฏิหาริย์' นายจะต้องมีบัตรสมาชิก VIP ของแอลจี บัลโฟร์ หรือบัตรสมาชิกของกลุ่มบริษัทในเครือเธาเซินไมล์ถ้านายมีหนึ่งในนั้น ฉันถึงจะขายให้นายได้"

“กลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ เหรอ?”

อเล็กซ์นิ่งไปชั่วขณะ

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งพูดว่า "ใช่ แอลจี บัลโฟร์ เป็น บริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ ลองคิดถึงผลที่จะตามมาสิ ถ้าคุณพยายามที่จะสร้างปัญหาที่นี่"

อเล็กซ์ขมวดคิ้ว เขาไม่มีบัตรสมาชิกอะไรนั่นเลย

โคลอี้แซว "นายตกใจหรอ? ยอมรับความพ่ายแพ้ของนายซะ แล้วนายก็มาคุกเข่าและเลียฝ่าเท้าของฉัน สถานที่นี้เป็นของ กลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ หากนายกำลังพยายามที่จะโกงการเดิมพันนี้ ก็แปลว่านายกำลังพยายามที่จะรุกรานนายท่านเล็กซ์อยู่ เอาเลยสิ เอาเลย”

อเล็กซ์กล่าวขึ้นว่า "ขอเวลาสักครู่"

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดหมายเลขของลอร์ดเลคและพูดว่า "ผมอยู่ที่แอลจี บัลโฟร์ และผมต้องการซื้อสร้อยคอ 'รักแห่งเมืองปฏิหาริย์' แตผมไม่มีบัตรสมาชิก ผมก็เลยไม่สามารถที่จะซื้อมันได้"

ท่านเล็กซ์ตอบกลับทันที “นายท่าน ขอเวลาสักสองนาที ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้”

อเล็กซ์วางสายแล้วมองทุกคน "ขอเวลาสองนาที"

แคสแซนดราเยาะเย้ย “ตกลง ฉันจะให้เวลาคุณสองนาทีเพื่อดูว่านายกำลังพยายามที่จะเล่นกลอะไรอยู่ แต่ถ้าหากนายตั้งใจหรือพยายามที่จะสร้างปัญหาที่นี่ ฉันจะลงโทษคุณแน่!”

ในที่สุด ในเวลาไม่ถึงสองนาทีเสียด้วยซ้ำ

ชายวัยกลางคนเข้ามาด้วยความรีบเร่ง

แคสซานดราและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองเมือเห็นบุคคลนั้น พวกเขาก็รีบทักทายทันทีด้วยความเคารพ

พวกเขาพูดขึ้นพร้อม ๆ กันว่า "สวัสดี คุณเจฟเฟอร์สัน!"

เขาคือผู้จัดการทั่วไปของแอลจี บัลโฟร์ ชื่อว่าเจฟเฟอร์สัน

แคสแซนดราคิดว่าเจฟเฟอร์สันมาเพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวาย เธอรีบชี้ไปที่อเล็กซ์และพูดว่า "คุณเจฟเฟอร์สัน ผู้ชายคนนี้มาที่นี่เพื่อก่อความยุ่งยากมากมาย เขาไม่มีบัตรสมาชิกแต่ยังบอกอยู่เสมอว่าเขาต้องการซื้อของล้ำค่าของทางร้านเรา เขาต้องการซื้อสร้อยคอ 'รักแห่งเมืองปฏิหาริย์' เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไล่เขาออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ค่ะ”

เจฟเฟอร์สันไม่ได้พูดอะไร แต่เขากลับตบหน้าของเธอ

“คุณนี่มันช่างน่าขำ!”

"เขาเป็น VIP สูงสุดของแอลจี บัลโฟร์!"

"อะไรนะ?"

ทุกคนถึงกับอึ้งและพูดอะไรไม่ออก

ในขณะเดียวกัน แคสแซนดราที่จับหน้าของตัวเองอยู่ก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน

เจฟเฟอร์สันเดินไปหาอเล็กซ์และกล่าวด้วยความเคารพว่า "นายท่านอเล็กซ์ ผมต้องขออภัยที่มาช้าครับ"

อเล็กซ์มองไปที่เขา “ตอนนี้ฉันสามารถซื้อสร้อยคอ 'รักแห่งเมืองปฏิหาริย์' ได้หรือยัง?”

เจฟเฟอร์สันโค้งคำนับและพูดว่า “ครับ แน่นอนคุณทำได้ โอ้ เดี๋ยวก่อนคุณสามารถเอาไปได้เลย ถ้าคุณชอบคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายอะไรเลยครับ”

"อะไรกันเนี่ย?" โคลอี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

เมื่อมองกลับไปกลับมาที่อเล็กซ์และสร้อยคอ ดวงตาของเธอก็มีแต่ความอิจฉาริษยา

สร้อยคอราคาสามสิบล้านเหรียญถูกมอบให้เขาฟรี ๆ

ทำไม?

อเล็กซ์ไม่ใช่เศษขยะหรอกหรอ? เขามีคุณสมบัติอะไรสำหรับแอลจี บัลโฟร์ ทำไมที่นี่ถึงมอบของขวัญราคาแพงมหาศาลแก่เขาอย่างนั้นหรอ?

“ไม่ ผมจะซื้อเอง!”

อเล็กซ์หยิบบัตรเครดิตสีดำของเขาออกมาแล้วโยนใส่คาสซานดรา

“รูดบัตรนี้ครับ!”

“จำสิ่งที่คุณพูดเมื่อครู่นี้ได้หรือเปล่า ผมจะเป็นแด๊ดดี้ของคุณหลังจากที่ผมซื้อสร้อยคอเส้นนี้มาแล้ว!”

แคสแซนดราหยิบบัตรเครดิตและใบหน้าของเธอก็ซีดเซียว

อเล็กซ์ชี้ไปที่โคลอี้กับชายอ้วนและพูดกับเจฟเฟอร์สันว่า “สองคนนี้ด้วย พวกเขาวางเดิมพันกับผมเมื่อกี้ว่าถ้าผมซื้อสร้อยคอ 'รักแห่งเมืองปฏิหาริย์' พวกเขาจะซื้อสร้อยคอมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์ ที่โชว์ไว้บนป้ายโฆษณา คุณเดิมพันไว้ คุณจะจ่ายมัน หรือจะไม่แสดงความเคารพต่อนายท่านเล็กซ์"

รปภ.ล็อกตัวคนทั้งสองทันที ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ

หนึ่งนาทีต่อมา

บี๊บ…

ชำระเงินสำเร็จ

เมื่อแคสแซนดราส่งบัตรเครดิตคืนให้อเล็กซ์ มือของเธอก็สั่นเล็กน้อย

สามสิบล้านดอลลาร์ถูกชำระเรียบร้อยแล้ว

บัตรนี้มีเครดิตเท่าไหร่กันนะ?
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status