Home / รักโบราณ / หงส์เหนือพันธการ / บทที่ ๑/๑ ยินยอม ไม่ยินดี

Share

หงส์เหนือพันธการ
หงส์เหนือพันธการ
Author: KUNNUK

บทที่ ๑/๑ ยินยอม ไม่ยินดี

Author: KUNNUK
last update Last Updated: 2025-05-10 08:12:46

แคว้นต้าเฉวียน

รัชศกฮุ่ยอัน,โม่เหยียนไซ่ฮ่องเต้

วังหลวง

 .

     ช่วงท้ายปลายฤดูฝน พายุโหมกระหน่ำแทบทุกวันไม่เว้นว่าง ยามนี้เป็นเวลากลางวัน ทว่าท้องฟ้ากลับกลายเป็นสีดำมืดมิด เสียงลมพัดหวีดหวิวสอดประสานกับเสียงฟ้าร้องคำราม เมฆฝนกลุ่มใหญ่เคลื่อนคล้อยใกล้เข้ามาหา บ่งบอกว่าช่วงเวลาของพายุยังอีกยาวนาน

     หากบอกว่าสวรรค์พิโรธโกรธเคืองคงเชื่อได้โดยไร้ข้อสงสัย วันนี้ที่เฝ้ารอ วันที่ควรจะเป็นมงคลยิ่ง กลับถูกธรรมชาติทำให้หวั่นใจไปเสียแล้ว

     เทพธิดากำลังเดินเยื้องย่างท่ามกลางพายุฝน หากมีใครสักคนมาเห็นย่อมมีเสียงชื่นชมเช่นนี้ เพียงแต่ว่าฝนห่าใหญ่ทำให้มนุษย์หลีกเร้นหลบซ่อนหนี คนงามซึ่งหวังจะจำแลงกายเป็นเทพธิดาท่ามกลางสายตาผู้คนมากมายจึงต้องผิดหวัง หนทางเดินเข้าสู่วังหลวง ไร้ผู้คนสวนทาง

     อัสนีบาตกระทบเข้านัยน์ตา โสตประสาทตื่นตัวยิ่งกว่าเคย ท่าทางภายนอกคนงามดูสงบนิ่ง ทว่าในใจหาได้เป็นเช่นนั้น ร้อนรนยิ่งกว่าสิ่งใด ไม่ต้องให้ใครมาบอก ก็รู้ได้ทันที ‘วันนี้ฤกษ์ไม่ดีเสียแล้ว

     คนงามถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เวทนาในชะตาของตน อากาศเย็นจนหนาวสั่น ละอองฝนสัมผัสถูกตัวไม่น้อย

     แต่กลับดับความร้อนภายในใจไม่ได้แม้แต่เสี้ยวเดียว!

     ลมหายใจเข้าออกล้วนถูกควบคุม ท่วงท่าการเดินเยื้องย่าง หันหน้าไม่ว่าด้านซ้ายหรือด้านขวา สายตาจะมองผู้ใด คำนับผู้น้อยหรือผู้ใหญ่ ล้วนต้องงดงามในทุกอิริยาบท

     ลำคอเรียวระหงจึงต้องตั้งตรงเสมอ ไหล่เล็กบอบบางสองข้างไม่ต่างกัน ต้องตั้งมั่นห้ามงองุ้ม ปลายคางถูกสั่งให้เชิดขึ้นไว้เล็กน้อย ท่าทางโดยรวมดูหยิ่งทะนงถือตัว

     โฉมงามอันดับหนึ่งของต้าเฉวียน อวี่เทียนเหมย บุตรีคนรองของราชครูอวี่ บุตรสาวผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในทุกด้าน ต้นแบบและศัตรูของสตรีมากมาย คำชื่นชมมาพร้อมการจับจ้องเพื่อหาข้อติติง บ้างก็ชื่นชอบ บ้างก็เกลียดชัง ทั้งหมดนี้คนงามแซ่อวี่หาได้เก็บมาไว้ใส่ใจ ด้วยว่าหากกระทำสิ่งใดลงไปแล้วงดงาม หมื่นคำนินทาหาสู้ได้

    เครื่องหน้าของนางทุกส่วนล้วนส่งเสริมกัน ดวงตาหงส์คู่งามนั้นโดดเด่นกว่าใคร ประกอบเข้ากับรูปร่างอรชรมีส่วนโค้งเว้า ผิวขาวเนียนละเอียดกลืนไปกับอาภรณ์สีขาวซึ่งสวมใส่ ทำให้เจ้าตัวดูงดงามอย่างเทพธิดาตามความตั้งใจ

     ทว่าเพราะฟ้าฝน นอกจากทหารเฝ้ายามแล้ว ไม่มีใครสักคนในเส้นทางเดิน พวกเขาไม่ต่างจากรูปปั้น ต่อให้นางเดินตัวเปลือยเปล่า หรือสวมใส่ชุดล้ำค่าในรูปแบบใดก็ตาม ไหนเลยจะได้รับความสนใจ ตรงกันข้ามหากคนงามมีอาวุธติดตัวมา หรือมีทีท่าน่าสงสัย ไม่พ้นคงถูกส่งเข้าคุกหลวงตั้งแต่หน้าประตูวัง

     การเฉยชาไม่สนใจในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตนเอง ดูจะเป็นข้อเสีย แต่ความจริงแท้ เป็นข้อดีอันหาได้ยากยิ่งในวังหลวง สนใจเพียงหน้าที่ของตนเอง เช่นนี้ดียิ่ง!

     อวี่เทียนเหมยแม้มีเพียงสาวใช้คนสนิทซึ่งติดตามมาสองคนอยู่ด้านหลัง นางก็ยังคงต้องปฏิบัติตัวเช่นเดิม เป็นนิสัยอันแก้ไม่หายไปเสียแล้ว ไม่เห็นแม้แต่เงาก็ใช่ว่าจะไม่มีคนจับจ้อง

    รู้อยู่แก่ใจ…

    วังหลวง มีหรือจะร้างไร้สายตาสอดส่อง!

    อวี่เทียนเหมยนึกสงสัย สิ่งใดดึงดูดใจให้คนทุกผู้ปรารถนาเข้ามาสัมผัส วังหลวงแคว้นต้าเฉวียน เป็นดั่งบึงมังกร ถ้ำพยัคฆ์[1]

     อำนาจ ชื่อเสียง เงินทอง ฐานันดร ตำแหน่ง

     ณ ที่แห่งนี้ ไม่เคยมีสิ่งใดได้มาโดยง่าย แต่ยามสูญเสียกลับสลายหายไปราวไม่เคยมีอยู่

     อันตรายในทุกลมหายใจ ประหนึ่งชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย การกระทำใดก็ตาม ผิดพลาดแม้เพียงนิด ยิ่งใหญ่มากกว่าหนึ่งชีวิตจะชดใช้

     สงสัยในเรื่องของผู้อื่น จนหลงลืมตนเอง อวี่เทียนเหมยเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่านางไม่แตกต่างจากคนเหล่านั้น จะสงสัยไปเพื่อสิ่งใดกันเล่า…เพราะกระทั่งตัวนางเองยังหาคำตอบไม่ได้ ใบหน้างามจึงปรากฏยิ้มเหยียดหยันตนเองเสียหนึ่งครา

    ‘ตนเองยังตอบไม่ได้ จะให้ผู้ใดตอบ!’

     ชวนให้ขบขันไม่น้อย เพราะไร้ซึ่งคำตอบ จึงต้องอยู่ ณ ตรงนี้ในตอนนี้หวนนึกไปถึงคำกล่าวหนึ่งซึ่งกล่าวถึงตัวของนางเอาไว้ ว่ากันว่านอกเหนือจากความงามแล้ว สิ่งหนึ่งที่อวี่เทียนเหมยผู้นี้มีเหนือกว่าใคร คือ วาสนา

     อวี่เทียนเหมยมีวาสนาดอกท้อ[2] เป็นดอกท้อทองคำเสียด้วย ดูท่าชาติที่แล้วนางคงทำบุญโปรดสัตว์มามาก ผลบุญจึงส่งผลถึงชาตินี้!

     สุดจะคิดใคร่ครวญไตร่ตรอง ด้วยว่าดอกท้อที่มีในมือ ได้มาโดยบัญชาสวรรค์ โชคชะตากำหนด หาใช่ความต้องการของนาง สูงค่าเกินกว่าจะคิดว่าเป็นเพียงวาสนา

     ผู้ใดกล่าว ผู้ใดเล่าลือ ผู้ใดจะรู้เท่านาง เดินมาไกลจนถึงวันนี้ได้จนกล้าเผยอหน้ารับกับทุกวาจา สิ่งใดก็หาได้มีความสำคัญ เทียบเท่าบุรุษผู้เดียว

บุรุษผู้ซึ่งหนึ่งชีวิตของนางนี้ มอบแก่เขานับแต่ลมหายใจแรก!

     งดงามเท่าใดก็ตามเถิด ต่อให้นางมีข้อดีมากมายนับหมื่นข้อ หากเขาผู้นั้นไม่เล็งเห็น เท่ากับสูญค่า

     ยามเท้าก้าวเข้าผ่านธรณีประตูด่านสุดท้าย ใจเต้นรัวเร็วเหมือนจะทะลุออกจากอกมาให้ขายหน้า ความรู้สึกไม่มั่นใจในตนเองวนเวียนอยู่ในหัว ความกลัวเริ่มปรากฎ โชคดีที่สายฝนจากบนฟากฟ้าซึ่งตกกระทบหลังคา ช่วยกลบเสียงหัวใจไม่ให้ใครรู้ว่านางมีความประหม่า

     วังหลวง...อวี่เทียนเหมยคุ้นเคยเสียจนไม่ต้องมีคนเดินนำทางอย่างใคร เขตพระราชฐานชั้นใน น้อยคนจะได้รับอนุญาตให้เข้ามา นางเป็นหนึ่งในข้อยกเว้น

     หากประสบความสำเร็จดังมุ่งหวัง วังหลวงเป็นสถานที่ต้องคำสาป เมื่อเข้ามาแล้ว อวี่เทียนเหมยรู้ดี...ชั่วชีวิตนี้ นางจะไม่มีวันได้ออกไป แม้เพียงหนึ่งก้าวก็ไม่สามารถ

[1] สถานที่อันตราย ต้องระวังตัวเอาไว้ตลอดเวลา

[2] มีโชคเรื่องคู่ครอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๕ ว่าอย่างไรเล่า

    เสียงถวายพระพรแก่ไท่จื่อเป็นภาพน่าดู ศีรษะที่ก้มลงเพราะถูกบังคับ ไหนเลยจะเทียบเท่ากับศีรษะที่ก้มลงด้วยความเต็มใจ ฮ่องเต้สองแคว้นใหญ่ทั้งหยางและปิง มองพระพักตร์กันในทันใด คนที่ในภายภาคหน้าจะได้ครองบัลลังก์มังกรแห่งต้าเฉวียน แม้ชื่อเสียงคือพญามัจจุราช แต่กลับมองขาดเรื่องการซื้อใจคน น่านับถือ! รอจนเหตุการณ์ทุกอย่างปกติ ประชาชนทุกคนลุกขึ้น จับจ้องยืนมองอย่างเต็มที่ ตั้งแถวเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องให้ใครสั่ง เฉินอวี้รีบวิ่งมาหาสหาย ยังไม่ทันพูดก็ได้รับคำถามก่อน “เมื่อครู่นางมองดูข้าหรือไม่” เฉินอวี้กระพริบตามองคนสับปลับตรงหน้า ที่ชอบกล่าววาจาค่อนแคะว่าเขาเสแสร้ง พูดเอาดีเข้าตัวว่าตนไม่ชอบแสดงละคร ดูเอาเถิด…หวังจะได้ทั้งใจประชาชนและหญิงคนรักในคราวเดียว โลภมากไปหน่อย แต่ก็ทำได้ดีจริง ๆ “ไม่มีที่ติ” ตอบไม่ตรงคำถาม แต่เหมือนจะตอบได้ตรงใจ โม่เทียนอวี่ยักไหล่ มองไปหาสหายอีกคน สือหม่าซีซวนกำลังจ้องเขาอยู่เช่นกัน สายตาของโม่เทียนอวี่สั่งให้สื่อหม่าซีซวนพาหยางลู่อิงฮวาไปให้ไกล ๆ สหายทำตามคำสั่งทันที ส่วนอีกฝั่งทางก็สะดวก เพราะเฉินอวี้รู้ทันว่าเข

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๔ ว่าอย่างไรเล่า

    ให้เขาคาดเดาความชั่วของฝั่งตรงข้ามผิดบ้างได้หรือไม่ ไร้ข้อสงสัยต้องเป็นมู่ฮองเฮาหรือผู้เฒ่ามากเล่ห์แซ่มู่ที่ส่งมา ครั้งนี้คงหมดสิ้นคำกล่าวอ้าง จะส่งคนแอบติดตามมาก็ไม่ได้ เขาไม่เคยให้ใครติดตามนอกจากเจี้ยนฉางและถางจี้ เสด็จปู่เล็ก หยางลู่ซูจิ้งฮ่องเต้ ก็มีองครักษ์อยู่มากมาย พวกนั้นจึงส่งคนมาซึ่งหน้า คงจะอ้างว่าคุ้มกัน ทหารมาใหม่ดันฝูงชนที่มุงดูผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย ดันออกไปให้ห่างไกลไม่ไว้หน้า เด็กน้อยหรือคนแก่ชรา แม่ค้าพ่อค้าประชาชน ถูกกีดกันเหมือนไม่ใช่คน สมควรแล้วหรือ… ท้ายที่สุดแล้วสมควรหรือไม่สมควร คนทั้งหมดทั้งมวล ล้วนมองเขาไม่ดี คุ้มครองโม่เทียนอวี่ไท่จื่อ ภายในอย่างไรไม่รู้ ภายนอกทหารคุ้มกันพวกนี้คือคนของโม่เทียนอวี่ไท่จื่อ คนตระกูลมู่ปราดเปรื่อง หนึ่งส่งคนมาตามติดได้ สองทำลายชื่อเสียง พญามัจจุราชไม่ใช่ความหมายที่ดีนัก ลงมือหนึ่งครั้งคับคั่งผลลัพธ์ ยิ่งทหารคุ้มกันโหดร้าย โม่เทียนอวี่ไท่จื่อก็ยิ่งโหดร้าย เสียงก่นด่าดุดันขู่เข็ญตะคอกบอกว่าจะควักลูกตา ประทุษร้ายร่างกาย ขี่ม้ามาเร็วไวไม่ทันให้ตั้งตัว แขกต่างแคว้นต่างแดนล้วนแต่เป็นฮ่องเต้ ทำเช่น

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๓ ว่าอย่างไรเล่า

    “เขา...” อวี่เทียนเหมยทวนคำ เขาที่ตรัสนี้คือใครชวนให้สงสัย ใครจะพาอันฉินไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทถึงห้องบรรทมได้ มีไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาต “ก็ว่าที่สามีเจ้านั่นไง” ข้อสงสัยยังไม่กระจ่างแจ้ง หน้าต่างฝั่งทางนางก็ถูกเคาะเป็นจังหวะ อวี่เทียนเหมยไม่ได้เปิดม่าน รู้ว่าคนที่เคาะคืออวี่หลางซาน นางเอียงศีรษะตั้งท่ารอฟัง เสียงจากน้องชายดังเข้าหูบอกกล่าว “ไท่จื่อเสด็จมา พี่รองจะลงจากราชรถหรือไม่” ไท่จื่อ อีกแล้วหรือ.... องค์หญิงหยางลู่อิงฮวาครั้งนี้ก่อนกลับแคว้นหยาง ฮ่องเต้แคว้นหยางพระบิดาของนางเสด็จมารับกลับถึงที่ ต้าเฉวียนกับแคว้นหยางอย่าเอ่ยอ้างความสัมพันธ์ แนบแฟ้นแม่นมั่น เป็นที่รู้กันว่าองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของแคว้น เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง หยางลู่อิงฮวาคิดอย่างไรไม่รู้ บังคับขู่เข็ญเอาพระบิดามาอ้าง หาเรื่องเที่ยวชมเมือง มีแขกก็ต้องมีเจ้าบ้าน จะมีใครเหมาะสมมากกว่าโม่เทียนอวี่ ผ้าพันแผลยังไม่ถูกแกะ แต่องค์รัชทายาทเดินเหินไปทั่ว แน่นอนว่าถ้าโม่เทียนอวี่มา เฉินอวี้ขอลาไม่ได้ ต้องถูกบังคับมากกว่าใครคือสือหม่าซีซวน องค์หญิงแคว้นหยางเดินไม่ห่างแม่ทัพน้อยตระ

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๒ ว่าอย่างไรเล่า

    สาวน้อยน่ารักส่งยิ้มให้จนตาหยี อันฉินฮ่องเต้แย้มพระโอษฐ์ตามในทันใด สาวน้อยตอบว่า“อวี่ไฉฟงเพคะ” “มีพันธะใดหรือไม่” ตรัสถามพี่สาวของสาวน้อยก่อนจะทำสิ่งใดต่อไป ทอดพระเนตรเห็นอวี่เทียนเหมยส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม อันฉินฮ่องเต้ลิงโลดในพระทัยเหลือประมาณ อวี่เทียนเหมยเคยชินแล้วกับการเกี้ยวพาไม่เลือกหน้าของฝ่าบาทแคว้นปิง นางไม่ทัดทาน หาใช่เพราะไม่คัดค้าน ปล่อยให้อันฉินฮ่องเต้รู้ฤทธิ์ของน้องสาวนางเองดีกว่า ได้ยินอวี่ไฉฟงตอบคำถามของอันฉินฮ่องเต้แล้ว อวี่เทียนเหมยก็กลั้นยิ้ม “ไม่มีเพคะ” สาวน้อยเสียงใส พระทัยของฮ่องเต้แคว้นปิงสั่นไหว ตรัสถามด้วยความรีบร้อน “สนใจไปเที่ยวแคว้นปิงหรือไม่” “ฝ่าบาท...สามวันก่อนเกี้ยวพี่สาวหม่อมฉัน วันนี้มาเกี้ยวหม่อมฉัน ความจริงก็ค่อนข้าง...” อวี่ไฉฟงรอยยิ้มไม่คลายไปจากใบหน้า นางพูดต่อไปว่า “กล้าหาญจนน่าทึ่ง” ‘ว่าแล้วอย่างไรเล่า!’ คำชื่นชมที่แฝงเจตนาด่าทอว่าหน้าไม่อายนี้แยบยลแบบให้รู้ว่าด่า แต่เอาผิดไม่ได้ พี่สาวน้องสาวไม่ต่างกันจริง ๆ อันฉินฮ่องเต้สรวลดังลั่น ไม่ได้นึกโกรธเคืองแต่อย่างไร จริงใจต่อกันไว้จึงจะดี “ขึ้นมาเถิด” ภา

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๑ ว่าอย่างไรเล่า

    วันนี้หนาวมากกว่าทุกวัน หนาวจนต้องสวมเสื้อคลุมทับสองชั้น หิมะที่คาดการณ์ว่าจะตกเริ่มปรากฏเค้าลาง บริเวณโดยรอบมีบรรยากาศมืดมน เหลียวมองไปทางใดล้วนแต่น่าหดหู่ อย่างไรก็ตาม…นัดเอาไว้แล้ว ก็ต้องไป ผิวหนังช่วงอากาศเย็นไม่ว่าใครก็เป็น ค่อนข้างแห้งไร้ความชุ่มชื้น บำรุงดีเพียงใด ก็ยังทำให้หงุดหงิดใจยามจ้องมอง อวี่เทียนเหมยชโลมผิวด้วยน้ำมันจากดอกไม้ จนกลิ่นหอมลอยออกมานอกเสื้อคลุม มือทั้งสองข้างปลายนิ้วเย็นเฉียบ เย็นทั้งมือและเท้า เจียถิงยื่นมือมาจับคลำสำรวจอยู่ชั่วครู่ ก่อนสาวใช้จะรีบไปเอาถุงมือกับถุงเท้ามาใส่ให้ อวี่เทียนเหมยจึงค่อยรู้สึกอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย มีเพียงเจียถิงและซูผิงรู้เรื่องราวทั้งหมด ว่าอวี่เทียนเหมยไปทำอะไรมา สาวใช้ทั้งสองน้ำตาเอ่อคลอ ในวันที่นางเดินออกจากตำหนักบูรพาพร้อมด้วยเลือดเต็มหน้า อวี่เทียนเหมยสั่งกำชับเข้ม ห้ามแพร่งพรายให้ใครรู้ ก้าวเท้าเข้าตำหนักบูรพา ปากกล่าววาจาล่วงเกินเจ้าของตำหนัก ไม่แตกต่างจากการรนหาที่ตาย เป็นเรื่องใหญ่ซึ่งรู้ถึงหูผู้ใด ต้องถูกตำหนิอย่างไม่มีข้อยกเว้น ทำลงไปแล้วมาคิดทบทวนย้อนหลัง อวี่เทียนเหมยพบว่าเรื่องราวทั้งหลายไม

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๔/๔ สมดังใจ

    เรียบร้อยเสร็จสิ้น ม้วนกระดาษไม่รอให้หมึกแห้งถูกส่งคืน ราวกับว่าคนเขียนไม่อยากให้อยู่ในสายตา เฉินอวี้รับม้วนกระดาษมามองสำรวจรอบแรก หน้าที่ต่อไปเป็นของตนเอง คนแซ่เฉินยิ้มอย่างน่าชัง เมื่อเห็นว่าตำแหน่งฮองเฮายังไม่เปลี่ยนแปลง ว่าจะไม่พูดแล้วแต่อดไม่ได้ เยาะเย้ยถากถางเล็กน้อยเพื่อความสะใจส่วนตัว “ถามนางแล้วหรือไม่ เหมือนจะได้ยินมาว่ายินยอมแต่ไม่ยินดี” โม่เทียนอวี่ใบหน้าเรียบตึง ได้ยินแล้วถามไปเพื่ออะไร หากไม่ใช่เพราะหมายว่าจะกวนโทสะ ‘ช่างหัวเฉินอวี้เถิด’ สนใจเพียงแค่สิ่งที่ควรจะสนใจก็พอ สาบานว่าต่อให้เหมยเอ๋อร์จะปฏิเสธเขาอีกกี่พันครั้ง เขาก็ไม่พร้อมรับฟัง! “นั่งฟังมาตั้งนาน ขอถามได้หรือไม่” ทุกคนในห้องต่างพากันหันไปมองสือหม่าซีซวนที่ยกมือขึ้นมาตั้งท่าถาม “นางที่ว่านี้คือใคร” เหมือนจะรู้เรื่องแต่แท้จริงแล้วไม่รู้เรื่อง เฉินอวี้ธุระตนเสร็จเรียบร้อย เขาปัดเสื้อผ้าหันหน้าออกทางประตู ไม่มีคำพูดใด เดินผ่านสือหม่าซีซวนไปโดยไม่หันมองเสียเลยด้วยซ้ำ พูดคุยมาตั้งนาน นั่งฟังไม่ส่งเสียง สวรรค์โหดร้าย ให้ความสามารถแก่สหายของเขามามากมาย แต่กลับลืมให้สมอง…สือหม่าซีซวนไม่เข้าใจตั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status