Home / รักโบราณ / หงส์เหนือพันธการ / บทที่ ๑/๒ ยินยอม ไม่ยินดี

Share

บทที่ ๑/๒ ยินยอม ไม่ยินดี

Author: KUNNUK
last update Last Updated: 2025-05-10 08:13:03

     ดวงตาหงส์คู่งามเริ่มเห็นทหารยามเปลี่ยนไปเป็นราชองครักษ์ บ่งบอกว่าปลายทางของนางอยู่อีกไม่ไกล องครักษ์ทั้งหลายตั้งแถวเรียงรายยืนนิ่งกลางสายฝนราวกับว่าไม่ใช่คนทำตนเป็นรูปปั้น ผู้พิทักษ์ความปลอดภัยไร้ชีวิตชีวา นิ่งเฉยไม่ขยับเขยื้อน หลอกล่อลอบวางกับดักให้วางใจ ที่แท้แล้วเม็ดฝนตกกระทบพื้นยังไม่รวดเร็วเท่าการเคลื่อนไหวของพวกเขายามมีภัยมาเยือนนายเหนือหัว

     อวี่เทียนเหมยอยู่ใต้ชายคา พวกเขาอยู่ใต้แผ่นฟ้า เหมือนกันหนึ่งข้อ ล้วนมีหน้าที่ซึ่งต้องกระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งสิ้น

    จังหวะการเดินของคนงามช้าลงด้วยความตั้งใจ กิริยาอ่อนโยนนุ่มนวลในทันใด เมื่อเห็นใบหน้าเหี่ยวย่นที่คุ้นเคย “เสิ่นกงกง” เอ่ยคำทักทายด้วยเสียงหวานใสพร้อมย่อตัวทำความเคารพ ใบหน้างามแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจ

     ขันทีเฒ่าพยักหน้ารับช้า ๆ สายตาสำรวจกวาดมองคนงามทั่วตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า บังเกิดความปิติชื่นชมเปี่ยมล้นอยู่ในใจของผู้เฒ่า ไร้คำใดอาจหาญเอ่ยถึงความงดงามตรงหน้าให้สมค่า

     สายตาฝ้าฟางเคยเห็นสาวงามมานับหมื่น งามใบหน้าหรืองามที่กิริยา บุตรสาวราชครูผู้นี้ ขันทีเฒ่าที่เฝ้ามองผู้คนมานานนับห้าสิบปี ไม่มีสตรีใดกล้าเป็นหนึ่ง หากอวี่เทียนเหมยบุตรีราชครูอวี่เป็นสอง

    “ฝ่าบาทให้ผู้เฒ่ามาคอยท่าน” ปากกล่าววาจา สายตาสื่อความนัยพินิจพิจารณาหยั่งเชิงท่าที ค้นหาคำตอบว่าคนงามเข้าใจถึงสารที่ต้องการจะสื่อหรือไม่

     อวี่เทียนเหมยสบตากับขันทีเฒ่า เข้าใจแจ่มแจ้งในเจตนาของผู้ส่งสารนางย่อตัวลงอีกครั้ง “ขอบพระทัยฝ่าบาท”

     เสิ่นกงกงได้ฟังคำตอบที่ต้องการ ขันทีเฒ่าพอใจแล้ว ไม่พูดอะไรเพิ่ม สะบัดแส้ขนหางจามรีประจำตัวในมือ ก่อนจะออกเดินนำหน้า

     เสิ่นกงกงเป็นเจ้าสำนักขันที รับใช้ตำหนักเฉียนชิง ฐานะเทียบเท่ากับขุนนางขั้นสี่ ผ้าไหมสีแดงเข้มเนื้อดีปักลวดลายสะบัดไปมาตามจังหวะการก้าวเดิน อัญมณีประดับยอดหมวกบนศีรษะบ่งบอกความสำคัญขันทีเฒ่า เสิ่นกงกงรับใช้ฮ่องเต้มาแล้วสองพระองค์ นายเหนือหัวมีเพียงหนึ่งเดียวคือโอรสสวรรค์ เสิ่นกงกงผ่านการเปลี่ยนรัชสมัยได้โดยปลอดภัย ยิ่งใหญ่ในตำแหน่งเดิมที่สูงขึ้น ได้มาไม่เท่ารักษาโดยแท้

     ขันทีเฒ่าติดตามฮ่องเต้ประหนึ่งเงาไม่เคยห่างหาย โอรสสวรรค์ผู้ครองบัลลังก์มังกรเสด็จไปที่ใดย่อมมีเสิ่นกงกงตามไปรับใช้ถวายงาน ขันทีเฒ่าจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของฝ่าบาท

     การส่งเสิ่นกงกงมารอรับถือเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ อวี่เทียนเหมยรู้ซึ้งถึงพระเมตตาของฝ่าบาท ทรงให้ความสำคัญต่อนางมากถึงเพียงนี้ ให้เกียรติทั้งนางและคนตระกูลอวี่ ใจของอวี่เทียนเหมยหนักอึ้งขึ้นมาอีกหลายส่วน

     มาถึงยามนี้แล้ว สายน้ำต่อให้เชี่ยวกรากมากด้วยอันตรายอย่างไรนางก็ต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้[1] ทุกสิ่งล้วนถูกกำหนดมา ใช่ว่าจะกระทำทุกอย่างได้ดังใจ มีเพียงแค่ต้องทำตนให้สมกับทุกสิ่งที่ได้รับ

     ก็เพียงเท่านั้น

.

     การเดินเท้าเงียบงัน ไม่มีกระทั่งเสียงรองเท้ากระทบพื้น อวี่เทียนเหมยเดินตามเสิ่นกงกงมาเรื่อย ๆ ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมอีกเช่นเดียวกับผู้เฒ่าที่ตั้งหน้าตั้งตานำทาง

     จวบจนเดินเข้ามาในเขตหวงห้าม อวี่เทียนเหมยมองไปรอบ ๆ ทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน ยังเป็นเฉกเช่นครั้งล่าสุดที่ได้มาเยือน

    ห้องทรงพระอักษร พื้นที่ส่วนพระองค์ของโม่เหยียนไซ่ฮ่องเต้ ฝ่าบาททรงแยกไว้เป็นสัดส่วนกับห้องทรงงาน

     อวี่เทียนเหมยหายใจผิดจังหวะเล็กน้อย ยามเฝ้ารอ...เหตุใดจึงนานนัก ยามถึงเวลา...เหลือทางข้างหน้าอีกเพียงแค่หนึ่งก้าว นางกลับเริ่มไม่แน่ใจราวกับว่าที่ผ่านมายังเตรียมตัวได้ไม่ดีพร้อม อยู่ ๆ ใจก็เต้นแรงอีกครั้ง มือสองข้างบีบเข้าหากันแน่น อึดอัดจนหายใจไม่ค่อยสะดวก ทั้ง ๆ ที่ห้องโปร่งโล่งสบายอากาศถ่ายเท หากไม่ใช่ว่ารู้สึกไปเอง เหมือนจะมีเหงื่อออกที่ใบหน้าเล็กน้อย

     เข้าเฝ้าฝ่าบาทร้อยครั้งไร้ความตื่นเต้น อวี่เทียนเหมยไม่เคยเป็นเช่นนี้ โม่เทียนอวี่ไท่จื่อ พญามัจจุราชองค์รัชทายาทแห่งต้าเฉวียน เขาทำให้นางผิดแปลกไปจากเดิม

     เขาจะเป็นอะไรก็เป็นไป อวี่เทียนเหมยหาได้ใส่ใจ หากไม่ใช่เพราะเขาเป็นคู่หมั้นของนาง

     ความประทับใจครั้งแรกพบสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด ผิดพลาดแม้เพียงน้อยนิดก็ไม่ได้!

     เสิ่นกงกงหยุดเดิน หันหลังกลับไปมองคนงามที่เดินตามมา จึงได้เห็นว่าคุณหนูรองตระกูลอวี่ท่าทางสงบนิ่งก็จริง แต่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ขันทีเฒ่ากระซิบถามเสียงเบาว่า “พร้อมแล้วหรือไม่”

     อวี่เทียนเหมยสบตากับเสิ่นกงกง ยิ้มอ่อนให้ขันทีเฒ่า รู้ตัวว่าปกปิดความกังวลได้ไม่มิด เป็นเรื่องควรถูกตำหนิอย่างยิ่ง เฝ้ารอคอยมานานนับสิบกว่าปี อดทนมาเสียก็มาก จะไม่เป็นดังหวังเพียงเพราะนางควบคุมตนเองไม่ได้กระนั้นหรือ...

     เสิ่นกงกงมองแม่นางน้อยคนงามตรงหน้าอย่างชั่งใจ ขันทีเฒ่าคิดไปว่า‘เอาเถิด…ฝ่าบาทประทับอยู่ด้านใน ไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรง’ สตรีที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีเช่นคุณหนูรองตระกูลอวี่ เสิ่นกงกงเชื่อว่าแม้จะแสดงความกังวลให้เห็น แต่ก็จะสามารถรับมือได้กับทุกสถานการณ์แน่นอน

     อย่างไรฮ่องเต้ก็มากล้นด้วยพระเมตตา และที่มีไม่น้อยกว่าคืออำนาจ ฝ่าบาททรงพระปรีชา บิดารู้อารมณ์บุตร ‘ผู้น้อยไม่ควรยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่’

เสิ่นกงกงหาข้อสรุปให้ตนเองได้ก็สะบัดแส้ขนหางจามรีในมืออย่างติดเป็นนิสัยยามกังวลใจของผู้เฒ่า

     ขันทีน้อยเฝ้าหน้าห้องทรงพระอักษรมองเห็นเสิ่นกงกงก็ขยับตัว ตั้งท่า อ้าปากเตรียมจะขานชื่อผู้มาขอเข้าเฝ้า

     ขันทีเฒ่าเสิ่นกงกง รีบยกมือห้าม หน้าที่นี้ผู้เฒ่าเฝ้าฝันมานาน การพบเจอครั้งแรกของสตรีและบุรุษซึ่งในภายภาคหน้าจะเป็นหงส์และมังกรสองมงคลเคียงคู่แห่งบัลลังก์ต้าเฉวียน เสิ่นกงกงปรารถนาจะเป็นคนเปิดฉากนี้ด้วยตนเอง

     ดูจากความสามารถของไท่จื่อในยามนี้แล้ว ต้าเฉวียนย่อมยิ่งใหญ่กว่าเคย ขันทีเฒ่าอายุห้าสิบกว่าปีแล้ว ไม่รู้หรอกว่าตนจะมีชีวิตอยู่จนถึงวันนั้นหรือไม่ แต่ในวันนี้...สิ่งใดทำแล้วดีต่อตนเอง แม้ไม่ใช่หน้าที่ ผู้เฒ่าก็ขอเสนอหน้า!

     เสิ่นกงกงยืดตัวขึ้น กระแอมไอเบา ๆ หนึ่งครั้งเพื่อเรียกเสียง กำลังจะเงยหน้า ทว่าไม่ทันได้อ้าปาก พลันต้องหดตัวงอหลังลงตามเดิม เมื่อหูได้ยินพระสุรเสียงของโอรสสวรรค์ เจ้าชีวิตของราษฎรต้าเฉวียนตวาดดังลั่นจนได้ยินมาถึงด้านนอก บ่งบอกถึงโทสะที่กำลังก่อเกิด

     น้อยครั้งนัก ฝ่าบาทไหนเลยจะมีโทสะให้พบเห็น แน่นอนว่า...ผู้เฒ่าตระหนกอยู่ไม่น้อย เสิ่นกงกงเหลียวมองไปรอบบริเวณ เจตนาไม่มองไปทางด้านหลังของตนเอง ด้วยหน้าที่ขันทีเฒ่าไม่ได้พูดอะไร

    ขันทีนางกำนัลในห้องทรงพระอักษรเป็นดั่งจักจั่นยามเหมันต์ [2]เงียบเสียจนแทบไม่ได้ยินเสียงหายใจ เชื่อว่าหากเข็มตกกระทบพื้นสักหนึ่งเล่ม คงจะได้ยินเป็นแน่ เพราะเงียบงันไร้เสียงเช่นนี้ ทุกถ้อยคำดำรัสรับสั่งของบทสนทนาด้านในจึงได้ยินชัดเจนผ่านหูคนทุกผู้

  

[1] ไม่ถอยหลังในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดี

[2] เงียบไม่มีเสียง เหมือนจักจั่นยามเหมันต์ หากเป็นกรณีตรงข้ามกัน เสียงดังวุ่นวาย จะใช้คำว่า จักจั่นยามวสันต์

[3] ทำในเรื่องไม่สมควรทำ พูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูด

[4] ถูกนินทา เป็นเป้าสายตา

[5] ก้าวเท้าสู่ราชสำนัก

[6] เรื่องใหญ่จะพังลงเพราะเรื่องเล็กไม่ได้

[7] อดทนมาจนใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว ต้องอดทนและมีสติให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นจะเกิดความผิดพลาดไม่ประสบความสำเร็จตามความตั้งใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๕ ว่าอย่างไรเล่า

    เสียงถวายพระพรแก่ไท่จื่อเป็นภาพน่าดู ศีรษะที่ก้มลงเพราะถูกบังคับ ไหนเลยจะเทียบเท่ากับศีรษะที่ก้มลงด้วยความเต็มใจ ฮ่องเต้สองแคว้นใหญ่ทั้งหยางและปิง มองพระพักตร์กันในทันใด คนที่ในภายภาคหน้าจะได้ครองบัลลังก์มังกรแห่งต้าเฉวียน แม้ชื่อเสียงคือพญามัจจุราช แต่กลับมองขาดเรื่องการซื้อใจคน น่านับถือ! รอจนเหตุการณ์ทุกอย่างปกติ ประชาชนทุกคนลุกขึ้น จับจ้องยืนมองอย่างเต็มที่ ตั้งแถวเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องให้ใครสั่ง เฉินอวี้รีบวิ่งมาหาสหาย ยังไม่ทันพูดก็ได้รับคำถามก่อน “เมื่อครู่นางมองดูข้าหรือไม่” เฉินอวี้กระพริบตามองคนสับปลับตรงหน้า ที่ชอบกล่าววาจาค่อนแคะว่าเขาเสแสร้ง พูดเอาดีเข้าตัวว่าตนไม่ชอบแสดงละคร ดูเอาเถิด…หวังจะได้ทั้งใจประชาชนและหญิงคนรักในคราวเดียว โลภมากไปหน่อย แต่ก็ทำได้ดีจริง ๆ “ไม่มีที่ติ” ตอบไม่ตรงคำถาม แต่เหมือนจะตอบได้ตรงใจ โม่เทียนอวี่ยักไหล่ มองไปหาสหายอีกคน สือหม่าซีซวนกำลังจ้องเขาอยู่เช่นกัน สายตาของโม่เทียนอวี่สั่งให้สื่อหม่าซีซวนพาหยางลู่อิงฮวาไปให้ไกล ๆ สหายทำตามคำสั่งทันที ส่วนอีกฝั่งทางก็สะดวก เพราะเฉินอวี้รู้ทันว่าเข

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๔ ว่าอย่างไรเล่า

    ให้เขาคาดเดาความชั่วของฝั่งตรงข้ามผิดบ้างได้หรือไม่ ไร้ข้อสงสัยต้องเป็นมู่ฮองเฮาหรือผู้เฒ่ามากเล่ห์แซ่มู่ที่ส่งมา ครั้งนี้คงหมดสิ้นคำกล่าวอ้าง จะส่งคนแอบติดตามมาก็ไม่ได้ เขาไม่เคยให้ใครติดตามนอกจากเจี้ยนฉางและถางจี้ เสด็จปู่เล็ก หยางลู่ซูจิ้งฮ่องเต้ ก็มีองครักษ์อยู่มากมาย พวกนั้นจึงส่งคนมาซึ่งหน้า คงจะอ้างว่าคุ้มกัน ทหารมาใหม่ดันฝูงชนที่มุงดูผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย ดันออกไปให้ห่างไกลไม่ไว้หน้า เด็กน้อยหรือคนแก่ชรา แม่ค้าพ่อค้าประชาชน ถูกกีดกันเหมือนไม่ใช่คน สมควรแล้วหรือ… ท้ายที่สุดแล้วสมควรหรือไม่สมควร คนทั้งหมดทั้งมวล ล้วนมองเขาไม่ดี คุ้มครองโม่เทียนอวี่ไท่จื่อ ภายในอย่างไรไม่รู้ ภายนอกทหารคุ้มกันพวกนี้คือคนของโม่เทียนอวี่ไท่จื่อ คนตระกูลมู่ปราดเปรื่อง หนึ่งส่งคนมาตามติดได้ สองทำลายชื่อเสียง พญามัจจุราชไม่ใช่ความหมายที่ดีนัก ลงมือหนึ่งครั้งคับคั่งผลลัพธ์ ยิ่งทหารคุ้มกันโหดร้าย โม่เทียนอวี่ไท่จื่อก็ยิ่งโหดร้าย เสียงก่นด่าดุดันขู่เข็ญตะคอกบอกว่าจะควักลูกตา ประทุษร้ายร่างกาย ขี่ม้ามาเร็วไวไม่ทันให้ตั้งตัว แขกต่างแคว้นต่างแดนล้วนแต่เป็นฮ่องเต้ ทำเช่น

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๓ ว่าอย่างไรเล่า

    “เขา...” อวี่เทียนเหมยทวนคำ เขาที่ตรัสนี้คือใครชวนให้สงสัย ใครจะพาอันฉินไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทถึงห้องบรรทมได้ มีไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาต “ก็ว่าที่สามีเจ้านั่นไง” ข้อสงสัยยังไม่กระจ่างแจ้ง หน้าต่างฝั่งทางนางก็ถูกเคาะเป็นจังหวะ อวี่เทียนเหมยไม่ได้เปิดม่าน รู้ว่าคนที่เคาะคืออวี่หลางซาน นางเอียงศีรษะตั้งท่ารอฟัง เสียงจากน้องชายดังเข้าหูบอกกล่าว “ไท่จื่อเสด็จมา พี่รองจะลงจากราชรถหรือไม่” ไท่จื่อ อีกแล้วหรือ.... องค์หญิงหยางลู่อิงฮวาครั้งนี้ก่อนกลับแคว้นหยาง ฮ่องเต้แคว้นหยางพระบิดาของนางเสด็จมารับกลับถึงที่ ต้าเฉวียนกับแคว้นหยางอย่าเอ่ยอ้างความสัมพันธ์ แนบแฟ้นแม่นมั่น เป็นที่รู้กันว่าองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของแคว้น เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง หยางลู่อิงฮวาคิดอย่างไรไม่รู้ บังคับขู่เข็ญเอาพระบิดามาอ้าง หาเรื่องเที่ยวชมเมือง มีแขกก็ต้องมีเจ้าบ้าน จะมีใครเหมาะสมมากกว่าโม่เทียนอวี่ ผ้าพันแผลยังไม่ถูกแกะ แต่องค์รัชทายาทเดินเหินไปทั่ว แน่นอนว่าถ้าโม่เทียนอวี่มา เฉินอวี้ขอลาไม่ได้ ต้องถูกบังคับมากกว่าใครคือสือหม่าซีซวน องค์หญิงแคว้นหยางเดินไม่ห่างแม่ทัพน้อยตระ

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๒ ว่าอย่างไรเล่า

    สาวน้อยน่ารักส่งยิ้มให้จนตาหยี อันฉินฮ่องเต้แย้มพระโอษฐ์ตามในทันใด สาวน้อยตอบว่า“อวี่ไฉฟงเพคะ” “มีพันธะใดหรือไม่” ตรัสถามพี่สาวของสาวน้อยก่อนจะทำสิ่งใดต่อไป ทอดพระเนตรเห็นอวี่เทียนเหมยส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม อันฉินฮ่องเต้ลิงโลดในพระทัยเหลือประมาณ อวี่เทียนเหมยเคยชินแล้วกับการเกี้ยวพาไม่เลือกหน้าของฝ่าบาทแคว้นปิง นางไม่ทัดทาน หาใช่เพราะไม่คัดค้าน ปล่อยให้อันฉินฮ่องเต้รู้ฤทธิ์ของน้องสาวนางเองดีกว่า ได้ยินอวี่ไฉฟงตอบคำถามของอันฉินฮ่องเต้แล้ว อวี่เทียนเหมยก็กลั้นยิ้ม “ไม่มีเพคะ” สาวน้อยเสียงใส พระทัยของฮ่องเต้แคว้นปิงสั่นไหว ตรัสถามด้วยความรีบร้อน “สนใจไปเที่ยวแคว้นปิงหรือไม่” “ฝ่าบาท...สามวันก่อนเกี้ยวพี่สาวหม่อมฉัน วันนี้มาเกี้ยวหม่อมฉัน ความจริงก็ค่อนข้าง...” อวี่ไฉฟงรอยยิ้มไม่คลายไปจากใบหน้า นางพูดต่อไปว่า “กล้าหาญจนน่าทึ่ง” ‘ว่าแล้วอย่างไรเล่า!’ คำชื่นชมที่แฝงเจตนาด่าทอว่าหน้าไม่อายนี้แยบยลแบบให้รู้ว่าด่า แต่เอาผิดไม่ได้ พี่สาวน้องสาวไม่ต่างกันจริง ๆ อันฉินฮ่องเต้สรวลดังลั่น ไม่ได้นึกโกรธเคืองแต่อย่างไร จริงใจต่อกันไว้จึงจะดี “ขึ้นมาเถิด” ภา

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๕/๑ ว่าอย่างไรเล่า

    วันนี้หนาวมากกว่าทุกวัน หนาวจนต้องสวมเสื้อคลุมทับสองชั้น หิมะที่คาดการณ์ว่าจะตกเริ่มปรากฏเค้าลาง บริเวณโดยรอบมีบรรยากาศมืดมน เหลียวมองไปทางใดล้วนแต่น่าหดหู่ อย่างไรก็ตาม…นัดเอาไว้แล้ว ก็ต้องไป ผิวหนังช่วงอากาศเย็นไม่ว่าใครก็เป็น ค่อนข้างแห้งไร้ความชุ่มชื้น บำรุงดีเพียงใด ก็ยังทำให้หงุดหงิดใจยามจ้องมอง อวี่เทียนเหมยชโลมผิวด้วยน้ำมันจากดอกไม้ จนกลิ่นหอมลอยออกมานอกเสื้อคลุม มือทั้งสองข้างปลายนิ้วเย็นเฉียบ เย็นทั้งมือและเท้า เจียถิงยื่นมือมาจับคลำสำรวจอยู่ชั่วครู่ ก่อนสาวใช้จะรีบไปเอาถุงมือกับถุงเท้ามาใส่ให้ อวี่เทียนเหมยจึงค่อยรู้สึกอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย มีเพียงเจียถิงและซูผิงรู้เรื่องราวทั้งหมด ว่าอวี่เทียนเหมยไปทำอะไรมา สาวใช้ทั้งสองน้ำตาเอ่อคลอ ในวันที่นางเดินออกจากตำหนักบูรพาพร้อมด้วยเลือดเต็มหน้า อวี่เทียนเหมยสั่งกำชับเข้ม ห้ามแพร่งพรายให้ใครรู้ ก้าวเท้าเข้าตำหนักบูรพา ปากกล่าววาจาล่วงเกินเจ้าของตำหนัก ไม่แตกต่างจากการรนหาที่ตาย เป็นเรื่องใหญ่ซึ่งรู้ถึงหูผู้ใด ต้องถูกตำหนิอย่างไม่มีข้อยกเว้น ทำลงไปแล้วมาคิดทบทวนย้อนหลัง อวี่เทียนเหมยพบว่าเรื่องราวทั้งหลายไม

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๒๔/๔ สมดังใจ

    เรียบร้อยเสร็จสิ้น ม้วนกระดาษไม่รอให้หมึกแห้งถูกส่งคืน ราวกับว่าคนเขียนไม่อยากให้อยู่ในสายตา เฉินอวี้รับม้วนกระดาษมามองสำรวจรอบแรก หน้าที่ต่อไปเป็นของตนเอง คนแซ่เฉินยิ้มอย่างน่าชัง เมื่อเห็นว่าตำแหน่งฮองเฮายังไม่เปลี่ยนแปลง ว่าจะไม่พูดแล้วแต่อดไม่ได้ เยาะเย้ยถากถางเล็กน้อยเพื่อความสะใจส่วนตัว “ถามนางแล้วหรือไม่ เหมือนจะได้ยินมาว่ายินยอมแต่ไม่ยินดี” โม่เทียนอวี่ใบหน้าเรียบตึง ได้ยินแล้วถามไปเพื่ออะไร หากไม่ใช่เพราะหมายว่าจะกวนโทสะ ‘ช่างหัวเฉินอวี้เถิด’ สนใจเพียงแค่สิ่งที่ควรจะสนใจก็พอ สาบานว่าต่อให้เหมยเอ๋อร์จะปฏิเสธเขาอีกกี่พันครั้ง เขาก็ไม่พร้อมรับฟัง! “นั่งฟังมาตั้งนาน ขอถามได้หรือไม่” ทุกคนในห้องต่างพากันหันไปมองสือหม่าซีซวนที่ยกมือขึ้นมาตั้งท่าถาม “นางที่ว่านี้คือใคร” เหมือนจะรู้เรื่องแต่แท้จริงแล้วไม่รู้เรื่อง เฉินอวี้ธุระตนเสร็จเรียบร้อย เขาปัดเสื้อผ้าหันหน้าออกทางประตู ไม่มีคำพูดใด เดินผ่านสือหม่าซีซวนไปโดยไม่หันมองเสียเลยด้วยซ้ำ พูดคุยมาตั้งนาน นั่งฟังไม่ส่งเสียง สวรรค์โหดร้าย ให้ความสามารถแก่สหายของเขามามากมาย แต่กลับลืมให้สมอง…สือหม่าซีซวนไม่เข้าใจตั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status