แชร์

บทที่ 19 ข้าเจ็บปวดยิ่งนัก

ผู้เขียน: เฟยหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-22 01:18:48

ร่างอรชรถูกจับให้นั่งคุกเข่าในที่โล่งแจ้งเพื่อเตรียมรับโทษ โทษของนางแม้จะถูกลดทอนให้เหลือน้อยนิดด้วยการถูกโบยด้วยลำไม้ไผ่ที่มีท่อนเล็กไม่ถึงขนาดไม้พาย แต่ก็ยังหนักหนาเกินกว่าที่สตรีตัวเล็ก ๆ จะรับได้ไหว

นางกำกระโปรงที่หน้าเข่าไว้แน่นและหลับตาทั้งที่หยดน้ำตายังไหล เพื่อไม่ให้มองเห็นการลงโทษนี้

เพี้ยะ เพี้ยะ

เสียงลำไม้ไผ่กระทบแผ่นหลังดังจนนกบนต้นไม้แตกรัง ด้วยแรงจากบุรุษที่มีอยู่มากทำให้เหมยลี่ล้มคะมำด้วยความเจ็บและแสบไปทั้งหลังจนเหมือนกระดูกร้าว นางร้องไห้เสียใจกับการถูกลงโทษที่ไม่เป็นธรรมเอาเสียเลย แต่มิอาจทำการอันใดได้ ในเมื่อนางมิมีสิทธิ์ในเรือนนี้

“การทำโทษของเจ้ายังไม่หมด เจ้ารีบไปตัดฟืนเสีย” บุรุษที่เป็นคนรับใช้เช่นกันพูดขึ้น

ใบหน้าเปียกปอนของหญิงอัปลักษณ์มองอีกฝ่ายด้วยความโกรธเคืองอยู่ไม่น้อย นางไม่มีเรี่ยวแรงลุกขึ้นแล้วจักให้รีบไปได้เยี่ยงไร

“เหมยลี่มาข้าช่วย”

ฮุ่ยชิวที่มายืนมุงอย่างไม่รู้เรื่องราว เมื่อเห็นสตรีผู้น่าสงสารถูกลงโทษเยี่ยงนี้จึงรีบมาประคอง

“เจ้าจักไปช่วยนางทำไม” หญิงนางหนึ่งพูด พลางมองหญิงอัปลักษณ์ราวกับเป็นสิ่งชั่วร้าย

“หากเจ้ามิมีน้ำใจก็หุบปากเสีย” ฮุ่ยชิวหันไปต
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 43 เปลวเพลิงอบอุ่น

    บุรุษรูปงามแบกร่างอรชรวิ่งผ่านสายฝนเข้าไปหลบหนาวอยู่ในถ้ำที่อยู่ใกล้ ก่อนเหมยลี่จักป่วยกายไปมากกว่านี้ เซียวจ้านจึงรีบก่อฟืนไฟให้ในที่แห่งนี้อบอุ่นและมีแสงสว่าง เพียงแค่ขยับมือกวาดผ่านไม้แห้งที่สุมเป็นกองเปลวไฟก็พลันลุกโชนขึ้นง่ายดายสายตาเฉี่ยวมองหน้าผากที่มีบาดแผล เซียวจ้านจึงรีบหาสมุนไพรมาบดและทาให้ พร้อมดึงผ้าคาดเอวมาพันรอบศีรษะ แต่พอหลุบตามองเสื้อผ้าที่หญิงอัปลักษณ์ซึ่งในยามนี้บางและเปียกจนแนบเนื้อ ใบหน้าสะอาดพลันแดงระเรื่อเสียจนต้องรีบหันหน้าหนี“นะ...หนาว” คนสลบละเมอพูดเสียงหวานแผ่วเบาราวกระซิบ เมื่อหันกลับไปมองก็ได้เห็นเหมยลี่กำลังปากสั่นตัวสั่นเทาคล้ายกับอาการของคนจับไข้“เจ้า” เซียวจ้านนึกเป็นห่วงพลางจับต้นแขนเล็กไว้มั่น“นะ...หนาว”“ข้าจักทำเช่นไรดี หากปล่อยให้เจ้าสั่นกายอยู่เยี่ยงนี้ เจ้าคงได้สิ้นลมหายใจแน่” เซียวจ้านไม่เคยรู้สึกว่าตัวเขาจนตรอกเช่นนี้มาก่อน เขามิรู้ว่าจักต้องทำเช่นไรดีให้ร่างอรชรแสนบอบบางอบอุ่น คิดพลางเอื้อมมือหมายจักจับดึงเสื้อผ้าเปียกปอนออกแต่ก็ต้องรั้งมือไว้“มิได้ ข้าจักทำเช่นนี้มิได้” เซียวจ้านตบตีกับความคิด เขาเพียงแค่อยากนำผ้าเปียกบนกายนางมาผึ่งไฟให

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 42 คุณชายขี่ม้าขาว

    แววตาแห่งความสะใจฉายให้เห็นในความมืด อู๋ท่งยืนมองอยู่หลังกอไผ่ก่อนเดินย่างกรายออกมาเพื่อชื่นชมคนขับรถม้า“เจ้าทำได้ดีมาก นางตายแล้วรึไม่” อู๋ท่งพูดเสียงเบาราวกระซิบ“ข้ามิแน่ใจ แต่ผาสูงชันเช่นนี้หากมิตายก็คงพิการ แต่ถ้านางรอดกลับมาพวกเราจักไม่เป็นภัยดอกรึ” ชายขี้ขลาดตาขาวพูด เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าควรมีจิตสำนึกที่ดี“มิเป็นเยี่ยงนั้นดอก ใครจักไปเชื่อคำของหญิงอัปลักษณ์เพียงผู้เดียวกัน เจ้ากับข้ารีบกลับไปยังเรือนตระกูลกู้ก่อนเถิด มิเช่นนั้นจักโดนท่านแม่ทัพสงสัยเอาได้” อู๋ท่งพูดพร้อมเดินกลับไปยังรถม้าอย่างมิคิดกลับหลัง ทำให้ชายผู้เป็นคนลงมือตามคำสั่งต้องเร่งฝีเท้าตามไปหน้าผาชันเป็นเหวลึกแต่ก็ยังมีพื้นที่ให้ร่างของหญิงอัปลักษณ์ตกลงมาบนต้นไม้ใหญ่ก่อนกลิ้งไปตามพื้นแล้วสลบลงไป เหมยลี่เจ็บและจุกกายจนขยับไปไหนมิได้ นางพยายามปรือตามองผ่านความมืดมิดก่อนที่เปลือกตาจะดับสนิทไปในไม่ช้าทางด้านเซียวจ้านที่เร่งควบม้าตามหาหญิงอัปลักษณ์ด้วยความร้อนใจ เขาได้พบกับรถม้าซึ่งมีตราประจำตระกูลกู้ติดอยู่ นั่นทำให้บุรุษบนหลังม้ารีบไปไปดักหน้าขวางทางไว้โดยพลันเสียงม้าร้องลั่นเมื่อถูกเชือกดึงรั้งอย่างกะทันหัน คนขับร

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 41 ช่วยข้าด้วย

    แม่ทัพมู่หยางเดินทางกลับมาด้วยความร้อนใจ ถึงเขาจักยินดีเมื่อได้รู้ข่าวว่าภรรยาเอกได้ตั้งครรภ์แล้วก็ตาม ทว่าอีกใจหนึ่งก็นึกอยากกลับไปถามหญิงคนลวงให้รู้แล้วรู้รอด ว่านางลวงหลอกสมอ้างเป็นบุตรสาวคนเล็กของผู้ครองแคว้นอันรึไม่เมื่อเดินทางมาถึงยังเรือนตระกูลกู้ บุรุษร่างสูงพลันจ้ำเท้าเข้าไปอย่างมิรีรอ เพื่อมุ่งหน้าไปหาหญิงอัปลักษณ์ โดยมิสนใจต้าเหนิงเลยด้วยซ้ำ“ท่านพี่จักไปที่ใดรึเจ้าคะ” ต้าเหนิงเห็นหน้าสามีที่ผ่านเลยไป ราวกับเห็นนางเป็นเพียงอากาศธาตุก็ยิ่งเจ็บแค้นใจอยู่มิน้อย ทั้งที่นางตั้งหน้าตั้งตารอถึงเพียงนี้ และในท้องของนางก็ยังมีบุตรของตระกูลอีกด้วย“ข้า...” มู่หยางมิสามารถพูดออกมาได้“ท่านพี่มิดีใจรึเจ้าคะที่ข้าตั้งท้องบุตรของเรา” ภรรยาเอกเยี่ยงนางถูกลดความสำคัญลงไปอย่างเห็นได้ชัด แล้วเยี่ยงนี้จักให้นางอยู่นิ่งเฉยได้เยี่ยงไร“ข้าดีใจ ดีใจที่สุด” มู่หยางเดินมาหาต้าเหนิง“ถ้าเช่นนั้นท่านพี่ก็จงรีบไปหาท่านแม่ และขุนนางท่านอื่นที่มารอร่วมยินดีกับพวกเราเถอะเจ้าค่ะ” ต้าเหนิงรีบดึงแขนสามีมู่หยางปรายตามองไปยังหลังเรือนอีกหน ก่อนเดินตามภรรยาเอกไป พลางคิดว่าไม่ช้าก็เร็วเขาคงมีเวลาได้คุยกับหญิ

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 40 แผนล่อลวง

    “เจ้าควรพักนะต้าเหนิง” ฮูหยินชิงชิงเดินเข้ามาหา เมื่อเห็นว่าสะใภ้เอกกำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมงาน“ท่านแม่ ข้าอยากให้งานในวันนี้ออกมาดีเจ้าค่ะ อีกอย่างวันนี้ท่านพี่ก็ได้กลับมาเสียที” ต้าเหนิงพูดด้วยรอยยิ้ม นางดีใจอย่างหาที่สุดมิได้ เพราะต้องการเห็นสีหน้าของสามีว่าจักดีใจเช่นไรเมื่อรู้ว่านางตั้งครรภ์แล้ว“แต่เจ้ายังท้องอ่อน ๆ อยู่ มิควรขยับตัวมากมายเช่นนี้ ไปพักเสียทางนี้ข้าเป็นคนจัดการเอง”“เจ้าค่ะท่านแม่” ต้าเหนิงจำเป็นต้องเชื่อคำ นางจึงเดินเข้าไปพักในห้องของตัวเองส่วนฮูหยินชิงชิงได้เป็นคนดูแลสถานที่ให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมต้อนรับผู้มาเยือน ก่อนหันไปหานางรับใช้คนสนิทเพื่อวานบางอย่าง“เจ้าอู๋ท่ง”“เจ้าคะ?” อู๋ท่งรีบตอบรับ“หาเรื่องให้หญิงอัปลักษณ์ผู้นั้นออกไปให้พ้นเรือนเสีย ข้ามิอยากให้นางต้องมาขวางหูขวางตาแถวนี้ เดี๋ยวคนอื่นคงได้หวาดกลัวจนสาปแช่งเรือนข้าให้ป่นปี้”“เจ้าค่ะ แต่หากท่านแม่ทัพถามหาล่ะเจ้าคะ”“ก็จงบอกว่านางหนีตามชู้ไปแล้ว เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่าต้องพานางไปให้ไกลเพียงใด”“เจ้าค่ะ”อู๋ท่งรับคำอย่างว่าง่าย แล้วรีบเดินไปหาหญิงอัปลักษณ์โดยทันที ส่วนฮูหยินชิงชิงทำพียงมองนางรับใช้แค่ห

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 39 ความจริงเริ่มปรากฏ

    สายตาคู่หนึ่งแอบจดจ้องมองสองสามีภรรยาอยู่หลังพุ่มไม้ เมื่อเห็นว่าทั้งสองคุยกันจนเสร็จพลางพากันเข้าไปในบ้าน ปลายเท้าจึงขยับออกแล้วหันหลังกลับ คิ้วหนาขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย ดวงตาเหม่อมองไปเบื้องหน้า พลางคิดสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจเมื่อได้ยินชื่อของสตรีผู้น้อยมาจากที่แห่งใดมู่หยางจึงแอบสะกดรอยตามจางเหว่ยมาถึงบ้าน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นนั่นเอง และชื่อของหญิงผู้นี้คุ้นหูซะจนต้องสืบหาความจริงให้กระจ่าง“ข้าว่าข้าต้องรู้จักนาง” มู่หยางพึมพำกับตัวเอง พลางเดินกลับไปยังฐานทัพ เพื่อสืบหาความจริงที่ว่า มิรู้เป็นเพราะเหตุใดกันแน่ถึงอยากเสาะหาความจริงในเรื่องนี้ ทั้งที่มิจำเป็นและมีสิ่งที่สำคัญกว่านั่นคือการปราบกบฏเหมือนอย่างคราวที่ไปสู้รบยังแคว้นอัน จนปราบผู้ครองเมืองได้สำเร็จ“แคว้นอัน!” เมื่อนึกถึงแคว้นอันขึ้นมา มู่หยางก็เริ่มคิดว่ากำลังใกล้ความจริงเข้ามาทุกที เขาจึงเดินไปค้นสมุดบันทึกรายชื่อวงศ์ตระกูลของแคว้นอันมากางดูสายตาคมมองตัวหนังสือที่ถูกเขียนด้วยปลายพู่กัน จนหยุดสายตามาเจอกับชื่อหนึ่งเข้าซึ่งชื่อตรงกับสตรีผู้น้อยคนนั้นมิมีผิด “บุตรสาวคนเล็กเยี่ยงนั้นรึ” ดวงตาของท่านแม่ทัพเบิกกว้างด้วยค

  • หญิงอัปลักษณ์เช่นข้าขอเกิดเป็นปลาเค็มดีกว่าเป็นภริยาของท่าน   บทที่ 38 ความกังวลของฟู่ฟู่

    ฟู่ฟู่นิ่งค้างไปชั่วขณะ นางมิคิดเลยว่าท่านแม่ทัพจักลั่นวาจานี้ออกมา หรือว่าเขาจักรู้แล้วว่านางคือคนจากแคว้นอัน ใบหน้านวลมีเหงื่อผุดด้วยความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก นางมิรู้จักแก้ต่างว่าเยี่ยงไรดี แต่คงต้องปฏิเสธออกไปหน้าตาเฉยเพื่อมิให้อีกฝ่ายจับได้“มิใช่ข้าเกิดละโตที่นี่ ท่านอย่ามาตามตื๊อข้าให้เสียเวลาเลย ข้าขอตัว” ฟู่ฟู่รีบเดินหนี ทว่าคนขายาวขยับตัวคล่องแคล่วมายืนขวางทางนาง“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ควรเล่าให้ข้าฟังได้” มู่หยางมองใบหน้าสตรีอ่อนเยาว์อย่างพินิจ ขณะที่ฟู่ฟู่เอาแต่ก้มหน้าหลบสายตาเขาข้าจักทำเช่นไรดีฟู่ฟู่คิดในใจนางกำลังตกที่นั่งลำบากและเหมือนถูกท่านแม่ทัพกำลังต้อนให้ติดกับหากเป็นเช่นนั้นความลับทั้งหมดคงได้แตกแน่ นางมิอยากกลับไปเป็นภรรยารองของผู้ใดในเมื่อมีจางเหว่ยอยู่แล้วทั้งคน“เจ้าคิดจักทำอันใดกับภรรยาข้า!” ในที่สุดก็มีเสียงสวรรค์เปิดทางให้นางจางเหว่ยส่งเสียงเข้มพร้อมเดินมาขวางบุรุษแปลกหน้าซึ่งเขาพินิจดูแล้วว่าเป็นผู้ใด จึงคอยกันให้ฟู่ฟู่หลบไปอยู่ด้านหลังเขา สายตาเอาเรื่องจ้องไปยังท่านแม่ทัพที่ยามนี้แต่งกายเหมือนคนธรรมดา แต่ความมีสง่าราศีปกปิดความสูงศักดิ์ไว้มิมิด“ขออภัยท่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status