ไพลินออกเดินทางจากคอนโดแต่เช้า หญิงสาวขับรถมุ่งหน้าไปยังเส้นทางสายตะวันออก เธอขับรถแบบสบายๆ กว่าจะถึงบ้านยายก็น่าจะใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าเวลาปกติที่สบายดีอาจขับเร็วกว่านี้ ห่วงความปลอดภัยของตัวเองช้าหรือเร็วก็ถึงบ้านยายเหมือนกัน เมื่อเช้าโทรถามอาการยายกับเพื่อนพยาบาล เบาใจที่บัวชมพูดูแลยายให้เป็นอย่างดี
บัวชมพูเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอ สองสาวเรียนด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถมจนจบมัธยมปลาย บัวชมพูอยากเป็นหมอ แต่ด้วยว่าที่บ้านมีอาชีพทำนาทำสวนพ่อกับแม่ไม่สามารถส่งเสียให้เรียนหมอได้ เธอเลยเบนเข็มมาเรียนพยาบาลแทน อย่างน้อยก็ได้รักษาคนช่วยคนเหมือนกัน บ้านบัวชมพูอยู่คนละอำเภอกับไพลิน บัวชมพูสอบติดพยาบาลได้สมใจ ส่วนเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาลได้ที่กรุงเทพฯในคณะที่อยากได้ เวลาที่ยายไม่สบายบัวชมพูจะช่วยอำนวยความสะดวกที่โรงพยาบาลให้ทุกอย่าง ยกเว้นว่าวันไหนที่เพื่อนเข้าเวรดึก
อีกแปดสิบกิโลเมตรก็จะถึงบ้านยาย มีโทรศัพท์มาจากที่ทำงาน ไพลินจอดรถข้างทางเพื่อรับสาย
“สวัสดีค่ะพี่กรองมี มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พายถึงไหนแล้ว”
“อีกแปดสิบกิโลเมตรก็จะถึงบ้านยายแล้วค่ะพี่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไรจ๊ะพี่เป็นห่วง เพิ่งจะสร่างไข้ฝากเยี่ยมยายด้วนนะพาย ถึงบ้านแล้วส่งข่าวด้วยนะขับรถดีๆ ล่ะเพื่อนๆ เป็นห่วง”
“ขอบคุณมากค่ะพี่กรอง ฝากขอบคุณทุกคนด้วยนะคะ”
กรองกาญวางสายไปแล้ว ไพลินคิดว่าตัวเองโชคดีได้หัวหน้างานดี ได้เพื่อนร่วมงานดีทุกคน เธอไม่คิดเลยว่าจะย้ายไปทำงานที่อื่น ทั้งที่เธอเองมีความสามารถอายุยังน้อย ออกไปหางานที่เงินเดือนสูงกว่านี้ ก็ยังได้แต่เลือกที่จะไม่ไป
ไพลินขับรถอีกไม่นานก็ถึงโรงพยาบาล ที่นี้เป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด เป็นโรงพยาบาลศูนย์ของภาคตะวันออก สะดวกสบายทุกอย่าง อยู่ห่างจากบ้านของเธอเกือบสี่สิบกิโลเมตร วันนี้บัวชมพูอยู่เวรเช้าไพลินดีใจเกือบห้าเดือนที่ไม่ได้เจอกับเพื่อน ทั้งสองพูดคุยกันแค่ทางโทรศัพท์ต่างคนต่างก็ยุ่งกับงาน เวลาเธอกลับบ้านมาหายายมักจะตรงกับบัวชมพูเข้าเวรดึกตลอด แต่ครั้งนี้โชคดีเพื่อนของเธอทำงานกลางวัน
“พายถึงไหนแล้วพูรออยู่กับยายที่ห้องพิเศษ”
“กำลังจะถึงแล้วแป๊ปเดียว”
ไพลินจองห้องพิเศษให้ยายได้อยู่อย่างสบาย บัวชมพูจัดการเรื่องพยาบาลเฝ้าไข้ให้ด้วย สองสาวโผเข้าสวมกอดกันอย่างคิดถึง
“พายเราไปคุยกันฝั่งโน้นก่อนดีกว่า ยายหลับอยู่ พูอยากให้ยายพักผ่อนเยอะๆ”
“ขอบใจนะพูที่เป็นธุระให้พายตลอดเลย”
“ไม่เป็นไรพูเข้าเช้าไม่เป็นไรหรอกจะมาเกรงใจอะไรเรื่องแค่นี้นิดหน่อยเอง”
“พูตกลงยายเป็นอะไร ทำไมช่วงนี้ยายไม่สบายบ่อยจังเลย “
“เบาหวาน ความดัน โรคคนแก่ พูไม่แนใจ่ว่าจะมีอย่างอื่นไหม พรุ่งนี้หมอมาตรวจสามโมงเช้ายังไงพายลองสอบถามคุณหมอดูนะ”
“หวังว่าจะไม่เจออะไรมากกว่าที่เป็นอยู่นะ พายใจคอไม่ค่อยดีเลย”
“อย่าเพิ่งคิดมาก พรุ่งนี้พูหยุดเดี๋ยวคืนนี้พูมานอนเป็นเพื่อนเฝ้ายายด้วยกันนะ”
“ได้ๆ พายขอบใจพูมากเลยนะ ช่วยเหลือทุกอย่างเลย”
“พายนี่เราเป็นเพื่อนกันนะ สมัยก่อนยายก็มีบุญคุณกับพูมากรวมถึงพายด้วย มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน พูไปทำงานก่อนเลิกงานแล้ว จะมาใหม่ เรื่องเสื้อผ้ากับอาหารเย็นไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพูจัดการเอง”
บัวชมพูตบไหล่เพื่อนเบาๆ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
ไพลินเข้าห้องไปนั่งข้างเตียงคนป่วย ยายจันเป็นยายแท้ๆ ของเธอ ยายกับตามีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของเธอ ไม่นานตาก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ ยายกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว โชคดีที่ยายมีทรัพย์สมบัติตกทอดมาจากตาทวดยายทวดอีกที ยายเป็นครู ทำให้มีเงินเลี้ยงลูกสบายๆ พอแม่เธอแต่งงานกับพ่อเธอได้ไม่นาน แม่เธอก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เหมือนตา ไม่นานพ่อเธอก็มีภรรยาใหม่ ยายไม่ยอมให้พ่อเธอพาเธอไปอยู่กับแม่ใหม่ ท่านอาสาเลี้ยงเธอเอง
“พายเหรอลูก มาแล้วเหรอนี่กี่โมงแล้ว”
“พายมาสักพักแล้ว เห็นยายหลับพายเลยไม่ปลุกจะได้พักผ่อนเยอะๆ”
“ยายดีขึ้นเยอะแล้วลูก ไม่เป็นไรแล้วอยากกลับบ้าน”
“พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าคุณหมอจะมาตรวจรอฟังหมอก่อนเขาจะว่ายังไงถ้าสบายดีแล้วเราก็ค่อยกลับบ้านกันนะคะยาย”
“วุ่นวายไปหมดเลยนะ แล้วนี่พายหยุดงานเหรอลูกถึงมาได้”
“หยุดจ๊ะยายพายจะอยู่จนกว่ายายจะหายดี หรือไม่ก็พาพายายไปอยู่ที่คอนโดด้วยดีกว่า สักเดือนยายสบายดีแล้วค่อยกลับมาบ้านสวนดีไหมจ๊ะ”
“ก็ดีเหมือนกันนะลูก พายจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงยายมาก ขับรถไกลๆ แบบนี้ยายเป็นห่วง”
ยายจันไม่อยากให้หลานสาวคนเดียวขับรถไปมาไกลๆ แบบนี้ หญิงชราไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย สามีของยายก็เสียชีวิตด้วยอุบัติรถยนต์ แม่ของไพลินก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถ ถึงแม้ว่าจะผ่านมาหลายปีมากแล้ว ยายก็ยังกลัวไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวคนเดียว
ไพลินคือแก้วตาดวงใจของยายจัน สงสารต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเด็ก พ่อก็ไปมีภรรยาใหม่ พ่อของพายเคยมาขอลูกไปอยู่ด้วย แต่ไพลินไม่ยอมไป ยืนยันว่ายังไงก็จะอยู่กับยาย สุดท้ายพ่อของพายก็ยังดูแลตลอดเรื่องเงินและเรื่องความสะดวกต่างๆ นี่ถ้ารู้ว่ายายจันไม่สบายเขาจะต้องเข้ามาจัดการให้ยายจันไปอยู่โรงพยาบาลดีที่ทันสมัยในกรุงเทพฯแน่ๆ
ยายจันไม่อยากยุ่งกับเขามากนัก เพราะภรรยาและลูกใหม่ของเขาชอบมาวุ่นวายกับหนูพายของยาย
“งั้นเราพักที่บ้านสวนสักสองวัน แล้วก็เข้ากรุงเทพฯเลยนะคะ” ไพลินดีใจ แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆ ยายก็ตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย ปกติยายจะไม่ค่อยไปไหนไกลๆ นานๆ เลย ห่วงบ้านห่วงสวนมาก หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็คือยายกลัวว่าพ่อจะรู้ เพราะถ้าพ่อรู้ว่ายายไม่สบาย พ่อต้องมาหา และเมื่อพ่อมาหายายกับเธอ ภรรยาใหม่ของพ่อต้องไม่พอใจแน่ๆ ดังนั้นสู้ไม่ให้พ่อรู้ดีกว่า เธอกับยายจะได้ไม่ต้องวุ่นวายรำคาญใจ แต่ถึงยายกับเธอจะพยายามไม่ติดต่อพ่อ บางวันอยู่ๆ พ่อก็โผล่มาเยี่ยมยายที่บ้านสวนบ่อยๆ
เกือบหนึ่งทุ่มบัวชมพูหอบหิ้วข้าวของมาเต็มสองมือ
“พูขนอะไรมาเยอะแยะไปหมดเลย ทำไมไม่โทรมาพายจะได้ออกไปรับ”
“ไม่เป็นไรหรอกหอพูอยู่ในเขตโรงพยาบาลนี่แหละปั่นจักรยานมาแป๊ปเดียว นี่พูซื้ออาหารมาด้วยนะหลายอย่างเลย มากินกันเลยดีกว่า”
“มาค่ะยาย พูเลือกซื้ออาหารที่ยายกินได้ และเราสองคนชอบ พูได้พักแล้วเดี๋ยวพูไปนอนบ้านยายด้วยนะคะ”
“ดีเลยลูกแบบนี้ยายหายเร็วแน่ๆ เลยนานแล้วนะที่พูกับหนูพายไม่ได้เจอกัน”
“พูคิดถึงบ้านสวนของยายเสมอไม่เคยลืมเลย คิดตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่จะได้ไปนอนบ้านยายอีก”
“ไปคราวนี้ยายจะทำกับข้าวอร่อยๆ ให้กิน” ยายจันพูดคุยอย่างอารมณ์ดี
ทั้งสามคนกินอาหารที่บัวชมพูซื้อมา ยายจันกินข้าวได้เยอะมากคงเป็นเพราะดีใจที่หลานสาวมาหาเป็นกำลังใจที่ดีของยายจัน หลังกินข้าวเสร็จพยาบาลเข้ามาตรวจอาการของยายจัน จัดยาหลังอาหารให้ ทั้งสามคนพูดคุยเรื่องเก่าๆ กันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะยายอารมณ์ดีมาก
“ยายคะพูไม่เคยลืมเลยสมัยก่อนเวลามีปัญหาเรื่องค่าเทอมพูรบกวนยายอยู่บ่อยๆ”
“ช่างเถอะน่าอย่าคิดมากเลยหนูพูก็เหมือนหลานยายคนหนึ่ง ช่วยเหลือกัน”
สมัยที่บัวชมพูเรียนมัธยมบ้านเธออยู่อีกอำเภอ การเดินทางลำบากที่บ้านทำไร่ทำสวน ยายจันเอ็นดูเห็นว่าเป็นเด็กเรียบร้อยขยันมากและยังเป็นเพื่อนสนิทของหนูพาย ยายก็อดสงสารไม่ได้ ยายจันชวนบัวชมพูมาพักที่บ้านด้วยเช้าก็ไปโรงเรียนพร้อมกับไพลิน เสาร์อาทิตย์กลับบ้านไปหาพ่อแม่ แต่ส่วนมากบัวชมพูไม่ค่อยกลับ รอกลับช่วงปิดเทอมใหญ่
“พูน้องชายใกล้จบหรือยังเหลืออีกกี่ปีพายจำได้ว่าพูมีน้องชายอีกคน”
“ใช้พูมีน้องชายอีกคนตอนนี้กำลังเรียนวิศวะไฟฟ้าปีสอง เหลืออีกสองปีก็จะจบแล้ว”
“อีกไม่นานหรอกอดทนเอานะพู พายเอาใจช่วย แล้วพูไม่อยากเรียนต่อแล้วเหรอ”
“อยากมากเพราะถ้าพูเรียนสูงกว่านี้ ตำแหน่งหน้าที่การงานดีกว่านี้ เงินก็คงเยอะขึ้น พูอยากให้พ่อกับแม่สบาย ไม่อยากให้ทำสวนแล้ว เขาเหนื่อยทำมาเยอะแล้ว”
“คนกตัญญูแบบพูตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้หรอก สักวันพูจะสบายพายเอาใจช่วย”
“ขอบใจนะพายมีแต่พายนี่แหละที่คอยให้กำลังใจ แล้วพายเป็นยังไงบ้างงานที่ทำ สุขภาพเป็นยังไงบ้าง”
“พายเหรอสบายดีสบายมากด้วย ที่ทำงานก็ดีเรื่องหัวใจยังไม่มีใครเหมือนเดิม เหมือนเดิมทุกอย่างเลย ห่วงก็แต่ยายอย่างเดียวนี่แหละ”
“แต่ยายบอกว่าจะไปอยู่กับพายที่กรุงเทพฯแล้วนี่”
“ใช้ไม่รู้ว่ายายคิดอะไรอยู่ แต่พายดีใจนะเคยคิดว่าถ้ายายไม่ยอมไปอยู่ด้วย พายจะหางานแถวใกล้ๆ บ้านเราทำ เงินเดือนน้อยแต่ได้อยู่ใกล้ยายได้ดูแลยายแค่นี้พายก็มีความสุขแล้ว”
“แล้วเรื่องพ่อเป็นไงบ้างพาย ยังติดต่อกันอยู่ไหมพูเห็นทางโน้นเขาดูไฮโซกันมากเลย ทำตัวรวยสุดๆ”
“ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันเลย พายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา กับพ่อก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกันหรอก นานๆ ถึงได้เจอกัน พายไม่อยากยุ่ง เบื่อไม่อยากให้เขามาคอยเหน็บแนม”
“ดีแล้วล่ะ ต่างคนต่างอยู่สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย “
“พายสงสารพ่อนะ แต่ถ้าจะมีปัญหาก็ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เดือนหนึ่งเจอกันกินข้าวด้วยกันครั้งสองครั้งก็พอ”
ยายจันยังไม่หลับ นอนฟังสองสาวคุยกันเบาๆ หญิงชรารู้ว่าตัวเองแก่มากแล้ว เห็นทีว่าจะต้องจัดการเรื่องเอกสารทุกอย่าง เรื่องทรัพย์สินทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ ถ้าหากว่าเป็นอะไรไปจะได้ไม่ต้องห่วงมาก
ไพลินสะดุ้งตื่นกับเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นาฬิกาบอกเวลาตีสอง ตั้งใจฟังว่าเสียงเคาะห้องใคร อยู่โรงแรมเป็นแบบนี้ กลางค่ำกลางคืนอาจจะได้ยินเสียงเคาะประตูห้องข้างๆ หรือข้างห้องอาจจะเมาก็ได้ ฟังไปฟังมาเหมือนเสียงดังที่หน้าห้องเธอ หญิงสาวตกใจแดนไทยมาเคาะห้องเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตายโหงข้างห้องมิด่าแล้วเหรอเนี้ย“คุณมาทำอะไรป่านนี้คะ ไม่ต้องเคาะแล้วค่ะ ชาวบ้านชาวช่องเขาจะด่าเอา”“ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รับสาย ปล่อยให้ฉันเคาะประตูตั้งนาน”“ฉันหลับค่ะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย” ไพลินยังงัวเงียเดินไปเปิดไฟกลางห้องหน้าตาของเธอเวลานี้เหนื่อยหน่ายมาก เพิ่งหลับไปสมองและร่างกายเธอต้องการพักผ่อน แต่เวลานี้คืออะไร อยู่ๆ แดนไทยก็มาปรากฏตัวที่นี่อะไรของเขา มีเรื่องด่วนอะไรกัน“ทำไมไม่ชาร์ตโทรศัพท์ แล้วจะได้ยินไหมเวลามีคนโทรมา” แดนไทยค้นหาสายชาร์ตจัดการเรียบร้อย“จะมีไว้ทำไมโทรศัพท์ มีแล้วไม่ใช้ไม่ต้องมีดีกว่ามั้ง ถ้าเธอรับสาย ฉันก็ไม่ต้องมาที่นี่”“ไพลิน” เขาหันกลับมาอีกทีหญิงสาวก็นอนตะแค
รถเลี้ยวเข้าประตูบ้าน เลิศวัฒนากิจ ไพลินพยายามปรับอารมณ์ ทำได้ดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา การมีสติทำให้เธออยู่ได้ในทุกสถานการณ์และใช้มาตลอด“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า พี่ดา”“คิดถึงจังเลยหนูพายสบายดีนะลูก” คุณดรุณีเข้ามากอดไพลิน“สบายดีค่ะคุณป้า”“ดีใจนะหนูพาย ป้าเขาลงมือทำกับข้าวเองเลยนะ” คุณทัตเทพทักทายไพลิน“มาน้องพายคิดถึงจังเลย นี่พวกเราคุยกันอยู่นะว่าจะไปเยี่ยมน้องพายที่บ้าน พ่อบอกว่าจะไปหาดูที่ดินแถ้วบ้านน้องพายจ๊ะ ปีหน้าว่าจะไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว”“เหรอคะ เรื่องที่ทางนี่พายไม่รู้เลยค่ะ ปกติก็อยู่แต่บ้าน”“ไม่เป็นไรหรอกลูก ลุงกับป้าแค่จะรบกวนช่วงที่ไปดูที่ดิน จะแวะพักที่บ้านหนูพายสักคืนสองคืนแค่นั้นแหละ เห็นว่าเสาร์ อาทิตย์ หนูพายกลับบ้านใช่ไหมลูก”“เอ่อ....ค่ะ” ไพลินจำต้องตามน้ำผู้ใหญ่พูดขนาดนี้แล้วจะปฎิเสธได้ยังไงระหว่างที่ทุกคนทักทายพูดคุยกัน มีอีกคนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ท่าทางสบายใจมากกว่าใคร หลังจากนั้นไพลินก็เหมือนหล
ท่าทางที่ไพลินกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยฝีมือการทำของแดนไทยนั่นทำให้คนทำแอบยิ้มอย่างพอใจ “ขอบคุณนะคะ ฉันขอตัวไปทำงานต่อ ไม่ช่วยล้างนะคะขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขา และกลับไปทำงานเหมือนเดิม นั่งทำงานต่อกระทั่งสามทุ่ม แดนไทยยังไม่เข้ามาด้านใน เขารักษาสัญญาปล่อยให้เธอทำงานอย่างสบายใจ เวลาที่มีสมาธิหญิงสาวทำงานได้เยอะมาก“ไงหิวเหรอ” แดนไทยเงยหน้ามองคนที่เดินออกมาจากห้อง เขาเดาว่าไพลินหิว”หญิงสาวไม่ตอบ แต่เดินผ่านเขาเข้าไปในห้องครัว ได้กลิ่นขนมปังปิ้งทาเนยไม่นานหญิงสาวก็ยกขนมปังปิ้งและนมออกมาวางที่ตั่งใกล้ๆ ที่แดนไทยนั่งทำงาน“ฉันทำมาเผื่อค่ะ ตอบแทนที่คุณทำกับข้าวให้ฉันกิน เนยเยอะนิดนึงนะคะฉันชอบ คุณจะกินแยมไหมคะมีสัปปะรดกับสตรอเบอรรี่ แยมหม่อนก็มีนะคะอันนี้ฉันทำเอง เป็นหม่อนในสวน”แดนไทยไม่ตอบเขาพยักหน้าอย่างเดียว“ทำงานเหรอคะ งั้นฉันแบ่งไว้ให้นะคะ ฉันจะเข้าไปทำงานต่อ”แดนไทยติดคุยงานทางเมลกับลูกค้าต่างประเทศ ได้แต่เพียงพยักหน้าให้ไพลินเขานั่งทำงานต่อ เที่ยงคืนแดนไทยเก็บโน๊ตบุ๊ค เข้าไปใน
บ้านสวนเวลาสี่ทุ่มสิบนาที ไพลินที่กำลังนั่งวาดรูปเหมือนของลูกค้าต่างประเทศเพลินต้องตกใจกับเสียงแตรรถ พร้อมเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หญิงสาวมองหาโทรศัพท์ เธอแทบจะไม่ได้พกติดตัวเพราะอยู่บ้านตลอด ไม่ได้ติดต่อใคร คุยกับลูกค้าแค่ทางเมลเท่านั้น“สวัสดีค่ะ”“ไพลินฉันเอง ลงมาเปิดประตูรั้วให้หน่อย”“คุณมากับใครคะ”“ทำไม จะไม่ให้ฉันเข้าบ้านเหรอ นี่กี่ทุ่มแล้วไพลิน อย่าใจดำนักเลยฉันเหนื่อย”ไพลินวางโทรศัพท์ไว้ที่เบาะ ลงไปเปิดประตูรั้วบ้าน เธอเหมือนจะลืมเขาไปแล้วจู่ๆ เขาก็โผล่มา คราวนี้มีเรื่องอะไรอีก เขามาแบบนี้ เธอจะได้ทำงานแบบมีความสุขไหม หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด ก่อนที่จะไขกุญแจรั้วปล่อยให้รถเขาเข้ามาจอดด้านใน“สวัสดีค่ะ” ไพลินยกมือไหว้คนที่เพิ่งลงมาจากรถแดนไทยรับไหว้เขามองไพลินไม่วางตา ถ้าอีกฝ่ายสังเกตจะเห็นว่าดวงตาของเขาเป็นประกายฉายแววดีใจออกมาชัดเจนมาก“ส่งมาค่ะฉันช่วยถือ” ไพลินยื่นมือไปรับสัมภาระของเขาที่ขนลงจากรถเต็มสองไม้สองมือ“ส่งกุญแจมา เดี๋
แดนไทยหายออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้า เขาแวะไปที่สำนักงานทนายความ เซ็นเอกสารให้คุณอำพล เข้าบริษัทฯเพื่อจัดการงานและประชุมช่วงบ่ายเขาแวะไปที่คอนโดนั่งดื่มอยู่คนเดียว อยู่ตรงไหนก็คิดถึงแต่ไพลิน หัวใจวุ่นวายไปหมด เวลาอยู่ใกล้ไพลินเขาก็เป็นอีกอารมณ์ทั้งหมั่นไส้หมั่นเขี้ยวอยากพูดคุยด้วย อยากพูดดีๆ ด้วย แต่ปากเขามันไม่ดีคอยแต่จะพูดแดกดัน พยายามจะทำให้ใจเย็นๆ แต่ก็ยากทุกครั้ง หงุดหงิดในใจ อะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมดทุกอย่างจริงๆ หรือบางทีเขาต้องเริ่มทำสมาธิ หัดสวดมนต์ใหม่เพื่อที่จิตใจจะได้สงบลงบ้าง แต่นั่นแหละที่เขาร้อนรุ่มเพราะกิเลสตัณหา ซึ่งมันน่าจะยากถ้าใช้ธรรมะเข้าข่ม ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครเลยจริงๆ ถ้าไพลินมีใจให้เขาบ้างสักนิดก็คงดี นึกย้อนหลังไปที่เขาทำไม่ดีไม่น่าใจร้อนเลย ถ้าจะรอให้ไพลินคิดที่จะมีใคร เขาคงรอไม่ไหวหรอกเข้าใจว่าไพลินเพิ่งจะโต แต่ผู้หญิงบางคนก็แต่งงานเร็วนี่นา บางคนยังเรียนไม่จบก็แต่งแล้ว บางจบเรียนจบรับปริญญายังไม่ได้ทำงานด้วยซ้ำก็แตงงานเลย แต่ไพลินมีแต่งานๆ อย่างเดียว และตั้งใจว่าจะยังไม่มีใคร แบบนี้น่าจะยากกว่าจะเจอคนถูกใจ แต่ก็ไม่แน่ถ้าบังเอิญหญิงสาวเจอคนถูกใจจริง ก็
ตีห้าของวันใหม่ไพลินตื่นเช้าทำกับข้าวใส่บาตรตามปกติเธอใส่บาตรคนเดียว ด้วยความรีบเธอลืมกรวดน้ำ แต่ไม่เป็นไรหรอก ยายเคยสอนไว้ว่า การกรวดน้ำไม่ได้ทำให้ใครได้บุญ บุญสำเร็จด้วยใจของเราแล้ว การกรวดน้ำถือเป็นกุุศโลบาย เธอจำได้ จริงๆ ยายอธิบายมากกว่านี้เจ็ดโมงเช้าทั้งสองคนกินข้าวเช้าด้วยกันเสร็จแล้ว ไม่นานช่างเข้ามาทำการติดเหล็กดัดและมุ้งลวด ช่างเข้ามาทำงานหลายคนมาก บ่ายสามโมงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ไพลินโอนจ่ายค่าแรงทั้งหมดเพราะไม่อยากให้แดนไทยจ่าย“อะไรคะ” ไพลินรับกระดาษจากแดนไทยมาหนึ่งแผ่น เธอก้มหน้าอ่านเอกสารนิ่งๆ“เอกสารชุดนี้เธอเก็บไว้หนึ่งชุด และภายในหกเดือนที่เธอทำงานที่บริษัทฯฉันจะไม่มาวุ่นวายกับเธออีกสบายใจได้ ทุกอย่างคุณอำพลจะเป็นคนคุยกับเธอ ส่วนเอกสารในกล่องนี่เดี๋ยวจะมีพนักงานมารับไป ช่างทำงานเสร็จแล้วฉันจะกลับเลย ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะมาวุ่นวายอีก เสื้อผ้าและของใช้ฉันเก็บหมดแล้ว”“ขอบคุณสำหรับสัญญา ฉันไม่ส่งนะคะ” ไพลินยกมือไหว้เขาแดนไทยหิ้วกระเป๋าลงบันไดไป ไม่นานไพลินลงไปปิดประตู้รั้วหน้าบ้าน รู้สึกสบายใจ พรุ่งนี้ไปทำบุญที่วัดแล้วกวาดลานวัดดีกว่าหญิงสาว เดินชมสวนด้วยความสบายใจสั