Home / โรแมนติก / หนี้พิษสวาท / ตอนที่1.ความห่วงใย

Share

หนี้พิษสวาท
หนี้พิษสวาท
Author: มณีภัทรสร

ตอนที่1.ความห่วงใย

last update Huling Na-update: 2025-09-10 12:45:05

[โรงพยาบาลประจำจังหวัด]

“ช่วยด้วยครับ ช่วยภรรยาผมด้วย” เสียงแหบห้าวของผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่ลงจากรถกระบะสี่ประตู มีร่างแบบบางหมดสติอยู่ในอ้อมแขน ตะโกนเรียกขอความช่วยเหลืออยู่หน้าห้องฉุกฉิน

            “คนไข้เป็นอะไรมาครับ” เจ้าหน้าที่ที่มาพร้อมรถเข็นเปลร้องถาม

            “ภรรยาผมตกบันไดครับ” ศิลาบอกกับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะค่อย ๆ วางคนหมดสติลงบนรถเข็นเปล

            “พาคนไข้เข้ามาเลยค่ะ” พยาบาลที่เปิดประตูห้องฉุกเฉินบอกกับเจ้าหน้าที่

            “ช่วยภรรยาผมด้วยนะครับหมอ” ศิลาบอกกับพยาบาลที่เดินออกมาช่วยดันรถเข็นเปล

            “ญาติรออยู่ข้างนอกค่ะ” พยาบาลบอกพร้อมกับปิดประตูห้องฉุกเฉิน

            “ผม...” ศิลายังยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน

            “ทำท่าไหนถึงตกบันไดลงมาได้ครับ” เจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้นเดินมาถามด้วยความสงสัย

            “เออ...คือ” ศิลาลังเลเพราะไม่รู้ว่าจะตอบเจ้าหน้าที่ยังไงดี จะบอกว่าทะเลาะกันแล้วเธอก้าวพลาดตกบันได ก็กลัวเจ้าหน้าที่จะสงสัย เพราะเนื้อตัวของเธอเขียวช้ำไปหมด

            “ไม่เป็นไรครับ ผมถามเพื่อชวนคุย เห็นคุณกังวล เลยชวนคุยให้ผ่อนคลายนะครับ” เจ้าหน้าที่บอกด้วยน้ำเสียงและท่าทางเกรงใจ

            “ครับ” ศิลาขานรับ แล้วหันไปมองประตูหน้าห้องฉุกเฉินตามเดิม

            “กาแฟไหมครับ” คนขับรถที่เดินมาหา ถามเมื่อเห็นเจ้านายดูอิดโรย

            “ขอบใจนะ” ศิลาบอกกับลูกน้อง แล้วหลับตาพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางอ่อนล้า หัวใจเต้นผิดจังหวะกังวลและเป็นห่วงคนที่อยู่ในห้องฉุกเฉินที่สุด

            “กาแฟครับคุณหิน คุณหนึ่งถึงมือหมอแล้ว คงไม่เป็นไรแล้วครับ” มนตรีบอกเมื่อเห็นความกังวลในสายตาเจ้านาย

            “อืม...หวังว่าอย่างนั้น” ศิลาตอบแต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ประตูห้องฉุกเฉิน

            “คุณหินกลับเลยไหมครับ ให้จันทร์มาอยู่เป็นเพื่อนคุณหนึ่งก็ได้ครับ” มนตรีบอกเพราะรู้เห็นเหตุการณ์ เข้าใจสถานะของคนทั้งสอง และรู้ว่าสาเหตุที่หนึ่งฤทัยต้องมาโรงพยาบาลเกิดจากอะไร

            “ไม่เป็นไร นายกลับไปเถอะ ฉันจะอยู่เฝ้าเอง ตอนเช้าค่อยเอารถยนต์มาให้ฉัน” ศิลาบอกกับลูกน้อง โดยสนใจสีหน้าและแววตาประหลาดใจของมนตรีเลยสักนิด

            “คุณหินจะอยู่เฝ้าคุณหนึ่งเหรอครับ” มนตรีถามเพื่อความแน่ใจ

            “มีอะไร”

            “ปะ..เปล่าครับ” มนตรีบอกไม่เต็มเสียงนัก

            “งั้นผมกลับก่อนนะครับ” ศิลาไม่พูดอะไรทำเพียงแค่พยักหน้าให้คนสนิท แล้วหันไปมองประตูห้องฉุกเฉินตามเดิม

            “โรงพยาบาลจะพังไหมหนอ พ่อแก้ว แม่แก้ว ช่วยปกปักรักษาโรงพยาบาลด้วยเถิด” มนตรียกมือท่วมหัว เมื่อพูดจบประโยค แปลกใจไม่น้อยที่เจ้านายอยู่เฝ้าหญิงสาวเอง เพราะปรกติแล้วสองคนนี้ไม่ถูกกัน และไม่เคยพูดจากันดี ๆ เลยสักครั้ง สาเหตุที่ทำให้หนึ่งฤทัยอยู่ในสภาพนี้ก็เพราะเจ้านายเขาไม่ใช่เหรอ

            “คุณคะ ไม่ทราบว่าคนไข้ไปโดนอะไรมาคะ” นางพยาบาลเดินถือแฟ้มเข้ามาถามศิลา เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก

            “เธอตกบันไดครับ” ศิลาตอบพร้อมกับลอบกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นสายตาที่มองมาอย่างจับผิดของพยาบาลวัยกลางคน

            “แน่ใจนะคะว่าเธอตกบันได” พยาบาลถามย้ำ

            “ครับ” ศิลายังยืนยันคำเดิม

            “ค่ะ” พยาบาลขานรับก่อนจะจดอะไรบางอย่างลงแฟ้ม

            “เบื้องต้นคุณหมอ จะการผ่าตัดระบายลิ่มเลือดที่คลั่งอยู่ในร่างกายออกก่อน คุณหมอจะมาถามประวัติคนไข้อีกรอบนะคะ คุณเป็นสามีเธอจริง ๆ เหรอคะ” พยาบาลถามพร้อมกับมองศิลาด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องฉุกเฉินไป

            “เฮ้อ...” ศิลาถอนหายใจออกมา เมื่อพยาบาลเดินลับหลังไป

            “คุณ คุณคะ” เสียงเรียกที่มาพร้อมปลายนิ้วที่สัมผัสลงมาบนไหล่ ทำให้คนที่เผลอหลับไปสะดุ้งตื่น

            “ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ” ศิลาถามทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่มาสะกิดคือใคร

            “ภรรยาคุณปลอดภัยแล้วค่ะ” พยาบาลบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ

            “ผมขอเข้าไปดูภรรยาได้ไหมครับ” ศิลาถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ พร้อมกับลุกขึ้นยืน

            “ภรรยาคุณอยู่ในห้องพักพิเศษแล้วค่ะ ข้ามวันแล้วค่ะคุณ”

สิ้นเสียงพยาบาลศิลาก็พลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู

            “อ่อ..ครับ ผมเผลอหลับไป ขอโทษด้วยนะครับ” ศิลาตอบพร้อมกับลูบลำคอไปมาด้วยความเขินอาย ที่หลับลึกจนไม่รู้ว่าคนไข้ออกจากห้องตอนไหน

            “คืออย่างนี้นะคะ เราต้องแจ้งให้คุณทราบว่า การรักษาเป็นไปด้วยดี ภรรยาคุณพ้นขีดอันตรายแล้ว คุณหมอทำการผ่าตัด และย้ายคนไข้ไปห้องพักพิเศษ แต่เธออาจจะสูญเสียความทรงจำ เนื่องจากศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง”

            “หมายความว่า...เธอความจำเสื่อมเหรอครับ” ศิลาถามด้วยความร้อนใจ

            “แค่ช่วงเวลาหนึ่งค่ะ ความจำเธอจะกลับมาถ้าคุณและคนรอบข้างช่วยฟื้นฟูให้เธอ”

            “ครับ” ศิลาขานรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

            “ตามมาทางนี้ค่ะ ฉันจะพาไปห้องพักพิเศษ”

ศิลาเดินตามพยาบาลไปยังห้องพักฟื้นคนป่วย ในหัวมีแต่คำถาม เธอหนักขนาดนี้เลยเหรอ แล้วเขาจะทำอย่างไรกับเธอต่อดี

ภาพที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ศิลาคิดไม่ตก หนึ่งฤทัยนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยท่าทางเหม่อลอย ศีรษะและตามแขนขามีผ้าพันแผลพันอยู่ ศิลากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง ตาคมเข้มสบกับสายตาว่างเปล่าในดวงตาคู่เศร้า หนึ่งฤทัยมองเขาก่อนจะเบนสายตาไปมองทางอื่น แล้วกลับมามองนิ่งที่เขาเหมือนอยากถาม แต่นึกคำถามไม่ออก

            “เป็นไงบ้าง เจ็บมากไหม” ศิลาเอ่ยถามเมื่อเดินมาหยุดอยู่หน้าเตียง

            “คุณเป็นใครเหรอคะ” เสียงที่หลุดออกมาจากริมฝีปากสีซีแผ่วเบาแต่ศิลาได้ยินชัดเจน

            “ผมชื่อหินเป็นสามีของคุณ” ศิลาเล่นไปตามน้ำ อยากรู้ว่าเธอความจำเสื่อมจริงไหม

ภายในห้องเงียบสนิท เมื่อเขาพูดจบประโยค มีเพียงสายตาของคนตรงหน้าที่มองมาที่เขา มันเศร้าละสับสน จนศิลาตั้งรับไม่ทัน

            “ฉันเป็นภรรยาคุณเหรอคะ ฉันชื่ออะไรเหรอคะ”

            “จำไม่ได้จริงเหรอวะ ใช่ครับเราเป็นผะ...เอ้ยสามีภรรยากัน คุณชื่อหนึ่ง หนึ่งฤทัย แสงแก้ว” ประโยคแรกศิลาพูดกับตัวเองเพราะไม่แน่ใจว่าเธอความจำเสื่อมจริงไหม ชื่อเป็นของเธอแต่นามสกุลเขาเอาของเขาใส่ให้เธอ

            “ฉันชื่อหนึ่งเหรอคะ ฉันจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ” หนึ่งฤทัยบอกเสียงเศร้า มีน้ำตาคลอในดวงตา ที่ยังจ้องมองเขาอยู่อย่างนั้น

            “โอ้ย!” หญิงสาวร้องออกมา พร้อมกับยกมือกุมศีรษะ ศิลาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นอาการของเธอ ร่างสูงเข้ามาประคองเธอเอาไว้ ถ้าเป็นเวลาปรกติเขาคงไม่แตะต้องเธอ

            “จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ พักผ่อนเถอะครับ ค่อย ๆ คิดเดี๋ยวความทรงจำก็กลับมา นอนเถอะครับ ผมอยู่ตรงนี้” ศิลาบอกกับหญิงสาว แล้วประคองเธอลงนอน จังหวะที่ปล่อยมือจากตัวเธอ มือบางเย็นเฉียบก็คว้ามือเขาเอาไว้ ตาคมเข้มมองตรงที่มือเธอจับมือเขาเอาไว้อย่างไม่เชื่อสายตา

            “อย่าทิ้งฉันนะคะ” หนึ่งฤทัยบอกเสียงเศร้า ตากลมโตที่เคยมองเขาด้วยสายตาที่ศิลาเห็นแล้วอยากจะซัดให้สักหมัด ตอนนี้มันเศร้าและสับสนจนหัวใจแกร่งสั่นไหว

            “ครับผมจะไม่ไปไหน ผมจะไม่ทิ้งคุณ” รับปากไปอย่างนั้น แล้วแกะมือเธอออกจากมือของเขา ฝืนยิ้มให้แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้จนถึงคอ

            “ขอบคุณค่ะ” หนึ่งฤทัยเอ่ยขอบคุณเสียงเบา

            “พักผ่อนนะครับ” ศิลาบอกกับเธอแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ ๆ เตียง มือบางเอื้อมมาจับมือเขาเอาไว้ แล้วหลับตาลง ศิลาคือที่พึ่งเดียวของเธอ ในวันที่เธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ยังมีเขาอยู่ข้างกาย หัวใจที่สับสนและหวาดกลัวจนหนาวเหน็บอุ่นขึ้นเมื่อได้กุมมือเขาเอาไว้ หนึ่งฤทัยหลับตาลงถึงแม้จะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ตอนนี่สบายใจแล้วเพราะมีเขาอยู่ข้างกาย

           

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่25.ขโมยลูก

    หนึ่งฤทัยรู้สึกตัวในเวลาต่อมา ตากลมโตมองฝ้าเพดานหลัง ก่อนจะหลับตาลงแล้วคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เมื่อแน่ใจว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล “ฟื้นแล้วเหรอลูก เป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวพ่อตามหมอให้นะ” ภากรถามแล้วเดินมายืนข้างเตียงที่ลูกสาวนอนพักฟื้นอยู่ “คุณพ่อคะ คุณหินล่ะคะ คุณหินไปไหนคะ” ภากรขมวดคิ้วเข้าหากัน ที่ได้ยินลูกถามหาศิลาทันทีที่ลืมตาขึ้นมา “ศิลาพายายแก้วตาไปตั้งแต่เช้า ยังไม่พายายแก้วมาส่งเลย” คำพูดนี้ภากรหวังผลให้หนึ่งฤทัยโกรธ แต่หนึ่งฤทัยกลับเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “หนึ่งมาอยู่โรงพยาบาลได้ยังไงคะ คุณพ่อบอกคุณหินด้วยนะคะว่าหนึ่งฟื้นแล้ว หนึ่งอยากกลับบ้านค่ะ หนึ่งคิดถึงคุณหิน หนึ่งคิดถึงลูก” “หนึ่งว่าอะไรนะ หนึ่งคิดถึงใครนะลูก” ภากรถามเพื่อความแน่ใจว่าเขาฟังไม่ผิด “หนึ่งคิดถึงคุณหินกับลูกค่ะ” หนึ่งฤทัยตอบด้วยน้ำเสียงชัดเจน “พ่อว่า พ่อเรียกหมอมาดูอาการหนึ่งดีกว่า” พูดจบภากรก็กดกริ่งเรียกหมอ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆเพราะหนึ่งฤทัยจะคิดถึงศิลาได้อย่างไร เพราะคนที่ทำให้หนึ่งฤทัยตกอยู่ในสภาพนี้ก็คือศิลา แถมศิลา

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่24.เสียใจจนหมดสติ

    ศิลาพาหญิงสาวพามาโรงพยาบาล ภากรและเลขาตามมาในเวลาต่อมา “ยายหนึ่งเป็นยังไงบ้างคุณหิน” ภากรถามเมื่อพาตัวเองมายืนหน้าห้องฉุกเฉิน แววตาเจ้าเล่ห์หลบแววตาคมดุที่มองมาที่เขาเขม็ง “ทำไมคุณมองผมแบบนี้ล่ะหิน แล้วยายแก้วอยู่ที่ไหน คุณเอาหลานผมไว้ไหน" “ไม่ต้องห่วงแก้ตาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ทันที่ที่หนึ่งฤทัยฟื้น ผมจะพาเธอไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน” “หมายความว่ายังไงหิน เรื่องนี้ให้ยายหนึ่งเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่านะ คืนหลานให้ผมเถอะ เราจะตัดสินใจกันเอง” ภากรบอกกับคนหนุ่ม สิ้นเสียงภากรศิลาก็ยืนขึ้นเต็มความสูง “คุณยังไม่ได้ตัดสินใจอีกหรือคุณภีม ผมนึกว่าคุณตัดสินใจเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้วซีก” “พูดอะไรของคุณ” ภากรถามพร้อมกับหลบตา “ที่คุณคืนทุกอย่างให้ผม ก็เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอคุณภีม คุณรู้ว่าถึงยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบหนึ่งฤทัยกับลูก มันก็เป็นไปตามแผนของคุณแล้วไง ยังต้องการอะไรอีก” “หมายความว่ายังไง” “หมายความว่าผมรู้ทันแผนการของคุณไงครับ ต่อไปนี้เรื่องของผมกับหนึ่งฤทัย คุณไม่ต

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่23.คนที่ร้ายที่สุด

    หนึ่งฤทัยตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าให้ลูก เมื่อตัดสินใจอยู่ที่บ้านแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป การเผชิญหน้าระหว่างเธอกับเขาต้องเกิดขึ้นอีกแน่ ๆ แต่เธอจะมีสติให้มากกว่านี้ เธอจะไม่หวาดกลัว และจะไม่หนีเขาอีกแล้ว ศิลาก็แค่ผู้ชายธรรมดาเท่านั้น คนที่ร้ายที่สุดคือพ่อของเธอต่างหาก ความเสียใจตีตื้นเข้ามาในหัวใจ นอกจากลูกแล้ว พ่อเป็นอีกคนที่เธอรักมากที่สุด ไม่คิดเลยว่าพ่อจะทำแบบนี้กับเธอ “คุณศิลามาขอพบค่ะ” คำพูดของแม่บ้านทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “คุณศิลาขอพบหนึ่งเหรอคะ” ถามเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่รู้ว่าคนที่เขาต้องการพบคือเธอหรือพ่อกันแน่ “ใช่ค่ะ คุณศิลาบอกว่าต้องการพบคุณหนึ่ง” แม่บ้านเน้นย้ำคำพูดของศิลาให้เธอฟัง “คุณศิลาอยู่ที่ไหน” “อยู่ในห้องรับแขกค่ะ” “ไปบอกเขานะคะว่าเดี๋ยวหนึ่งลงไป” แม่บ้านออกไปแล้ว หนึ่งฤทัยถอนหายใจออกมา ตากลมโตมองไปที่ลูกที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง “คุณต้องการพบฉันเหรอคะ” หนึ่งฤทัยถามเมื่อเดินเข้ามาเผชิญหน้าเขาในห้องรับแขก “แก้วตาอยู่ไหน” ศิลาถามเมื่อไม่เห็นคนตัวเล็กลงมาก

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่22.ความรู้สึกที่ติดอยู่ในใจ

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ มีผลกับหัวใจของศิลาไม่น้อย เพราะภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของหนูแก้ตายังติดอยู่ในหัวของเขา สลัดยังไงก็ไม่ออก หนึ่งฤทัยตกใจมากที่เจอเขา เขาเองก็ตกใจมากเช่นกัน หลายปีมานี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขายังนึกถึงเธอ ถึงแม้จะพยายามลืม แต่ก็ลืมเธอไม่ได้สักครั้ง หนึ่งฤทัยยังคงอยู่ในความทรงจำของเขา การเจอกันครั้งนี้ทำให้ศิลาทำตัวไม่ถูก ความรู้สึกในหัวตีกันจนวุ่นวายไปหมด โดยเฉพาะตอนที่ตาของเขาสบเข้ากับตากลมโตคู่เล็กโลกของเขาก็แทบจะหยุดหมุน เมื่อคิดไม่ตกศิลาก็พาตัวเอง ออกไปยังที่ที่เขามักจะไปซ่อนตัวอยู่ในนั้น บ้านท้ายไร่เป็นที่ที่เขาจะมาอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็นอนค้างที่นี่ ที่นี่ยังเป็นเหมือนเดิม มืดและเงียบเหงา ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้มันเป็นคุกกักขังและทำร้ายเธอ หนึ่งฤทัยยังคงเหมือนเดิมมีเพียงสายตาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ในความตกใจและสับสนมันมีความว่างเปล่าอยู่ในนั้น ว่างเปล่าซะจนเขาคิดว่าเธอมองเขาเป็นแค่อากาศเท่านั้น เด็กคนนั้นชื่อแก้วตา ภากรบอกว่าแก้วตาฉลาดเกินวัย อายุแค่สามขวบกว่า ๆ แต่รู้เรื่องทุกอย่าง พูดคุยตอบโต้ได้ทุกอย่าง ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อจนได้มาเห็นกับตา ลูกเขาฉลาดเกิ

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่21.หนูน้อยแก้วตา

    สามปีต่อมา“หนึ่งจะกลับเมืองไทยพร้อมอาหรือเปล่าลูก” อรนภาถามคนที่นอนตะแคงป้อนนมลูกอยู่บนเตียงนอน “หนึ่งยังไม่พร้อมค่ะคุณอา หนึ่งกลัว” หนึ่งฤทัยบอกกับคนที่เดินมาหย่อนสะโพกลงบนเตียงนอนของเธอ “หนึ่งไม่ได้ทำอะไรผิด จะกลัวทำไมลูก” อรนภาบอกกับหญิงสาว พร้อมกับเอื้อมมือมาลูบศีรษะเจ้าตัวเล็กที่หลับพริ้มอยู่กับหน้าอกของแม่ “หนึ่งกลัวผู้ชายคนนั้นจะมาวุ่นวายกับหนูแก้วตานะคะ” หนึ่งฤทัยบอกอรนภาไปตามตรง ตั้งแต่พ่อกับแม่หย่าร้างกัน เธอก็ถูกส่งตัวมาอยู่กับอาที่ต่างประเทศ อรนภาจึงเป็นเหมือนแม่คนที่สองของเธอ “เขาเป็นคนบอกเองว่าไม่ต้องการลูก หนึ่งจะเก็บเอาไว้หรือเอาลูกออกก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ไม่ต้องกลัวนะลูกอาจะอยู่ข้าง ๆ หนึ่งเสมอ” “ขอบคุณค่ะอาอร” หนึ่งฤทัยพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา “เป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไม” อรนภาถามด้วยความตกใจ “หนึ่งดีใจนะคะ ที่หนึ่งมีอาเป็นแม่ของหนึ่งอีกคน ถ้าวันนั้นหนึ่งไม่มีคุณอา หนึ่งคงไม่ได้เก็บหนูแก้วตาเอาไว้ หนึ่งขอบคุณอาอรนะคะ ที่ดูแลหนึ่งกับลูกมาตลอด” “ไม่ต้องคิดมากนะลูก อะไรที่ม

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่20.ปรับความเข้าใจ

    ศิลาเดินทางมากรุงเทพฯ อีกครั้ง ปลายทางของการเดินทางครั้งนี้คือบ้านของภากร “ผมคิดไว้แล้วว่าคุณต้องมา” ภากรพูดขึ้น เมื่อศิลาเดินเข้ามาในห้องโถงของบ้าน “หนึ่งฤทัยอยู่ไหน” ศิลาถาม “คิดถึงยายหนึ่งเหรอหิน” ภากรไม่ตอบคำถาม แต่ถามคำถามกลับมา “ผมถามว่าหนึ่งฤทัยอยู่ไหน เรียกเธอลงมาพบผมเดียวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” “ยายหนึ่งไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก กลับฝรั่งเศสตั้งแต่วันที่กลับมาจากเชียงรายเลย ผมเองก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเหมือนกัน” “ไม่จริง!” “ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องโกหกคุณ ยายหนึ่งกลับฝรั่งเศสไปแล้ว ไม่เชื่อก็ตามไปสิ” “ไม่! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น” เขาไม่ได้อยากเจอเธอถึงขนาดจะต้องบินข้ามฟ้าไปหาขนาดนั้น “เดี๋ยวก่อนหิน” ภากรเรียกชายหนุ่มเอาไว้ เมื่อเขาจะก้าวเท้าออกจากบ้าน “อะไร” ศิลาถาม ตาคู่คมจ้องมองซองสีน้ำตาลในมือภากรเขม็ง “เอกสาร...” ภากรตอบเสียงราบเรียบ “อย่าคิดว่าจะให้ผมรับผิดชอบอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นกับหนึ่งฤทัยมันก็แค่ความใคร่” คำพูดของศิลาทำให้หัวใจของคนเป็น

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status