ณัฐชยาเหมือนถูกปิดกั้นทุกอย่างที่เมืองไทย หญิงสาวยังไม่รู้ข่าวเรื่องธัญชยากับติณณ์ด้วยซ้ำ ว่าทั้งคู่จะเปลี่ยนสถานะจากคู่หมั้นไปเป็นบ่าวสาว เรื่องนี้ไม่มีใครบอกเธอแม้แต่ผู้เป็นบิดา เนื่องจากมนตรีเข้าใจว่าลินดาจะบอกเอง เพราะได้พูดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ธัญชยาหาทางออกให้ตัวเองได้อย่างแยบยล เธอกลับคิดว่านี่คือเรื่องราวดีๆ ที่เธอจะมอบให้ณัฐชยาน้องสาว เป็นของขวัญชิ้นพิเศษจากเธอผู้เป็นพี่ ธัญชยาตัดสินใจหลอกให้ณัฐชยากลับมาเมืองไทยโดยให้เหตุผลว่าผู้เป็นบิดากำลังป่วยหนักมาก อาจจากไปได้ทุกเมื่อ อยากให้ณัฐชยากลับมาดูใจบิดาทันที ผู้เป็นพี่ระบุวันกลับเป็นวันที่เธอต้องแต่งงานกับติณณ์พอดี เมื่อวางสายจากพี่สาวที่โทรศัพท์มาแจ้งข่าวด้วยตัวเอง ณัฐชยาถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้น ใจสั่น ตัวสั่นไปหมด ก่อนจะตั้งสติจองตั๋วเครื่องบิน ไรอันที่แวะมาหารู้เรื่องเข้าจึงช่วยเธอเก็บของแล้วไปส่งยังสนามบิน“เดินทางดีๆ นะซอ ถึงแล้วโทรหาผมหน่อยก็ได้” อันที่จริงแล้วไรอันนั้นอยากไปเมืองไทยพร้อมกับณัฐชยา แต่ชายหนุ่มติดธุระสำคัญจึงไปกับเธอไม่ได้ “อืมม์...ไปก่อนนะ” พูดจบณัฐชยาก็เดินเข้าไปยังอาคารผู้โดยสารทันที หญิงสาวใจร้อนดั่งเปลว
หลังเสร็จสิ้นพิธีฉลองมงคลสมรสก็ได้เวลาส่งตัวเข้าหอ มนตรี ลินดา และนัยนา รวมถึงญาติผู้ใหญ่คนอื่นๆ เข้ามาอวยพรบ่าวสาวด้วยประโยคอันเป็นมงคลในการครองชีวิตคู่ จากนั้นพวกเขาก็ออกไปจากห้องเพื่อให้คู่รักข้าวใหม่ปลามันได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน“พี่ติณไปอาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวพิณขอแกะผมก่อน”“ครับ” ติณณ์เอ่ยรับสั้นๆ อย่างไม่เซ้าซี้ เพราะวันนี้เขานั้นผิดหวังหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่ไม่ได้พบณัฐชยาในงาน จึงไม่ได้ถามหญิงสาวอย่างที่ตั้งใจไว้ เมื่อเห็นติณณ์เข้าไปในห้องน้ำแล้ว ธัญชยาก็รีบออกจากห้องหอ ซึ่งที่หน้าห้องมีมารดายืนรออยู่แล้ว ทั้งคู่หายเข้าไปในห้องที่อยู่ติดกับห้องส่งตัว ซึ่งในนั้นมีณัฐชยาที่ถูกขังไว้นานหลายชั่วโมงจนตอนนี้เธอค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วหลังจากที่ฤทธิ์ของยาสลบรอบสองหมดฤทธิ์ไป หญิงสาวงุนงงทันทีที่ได้สติ ว่านี่เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ ทำไมถึงมานอนในห้องที่ไม่คุ้นตานี่ได้ แล้วมารดากับพี่สาวหายไปไหน เธอจำได้ว่าก่อนหน้าเธอเหมือนจะรู้สึกตัวแล้วรอบหนึ่ง แต่กลับหมดสติไปอีก เพราะมีใครก็ไม่รู้เอาผ้าขนหนูมาปิดกึ่งปากกึ่งจมูกสิ่งที่ทำให้ณัฐชยาตกใจมากไปกว่านั้น คือ ตอนนี้เธอไร้ซึ่งอิสระ เพราะถูก
ธัญชยาและลินดากำลังมีความสุขกับอนาคตอันสดใสที่รออยู่ ผิดกับณัฐชยาที่ตอนนี้เหมือนตกอยู่ในนรกทั้งๆ ที่ยังหายใจ เพราะแม้จะถูกแก้มัด แต่ณัฐชยากลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหลบหนี ร่างกายร้อนรุ่ม รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่ถูก แค่ถูกเสื้อผ้าตัวที่สวมใส่เสียดสีร่างกาย ณัฐชยากลับรู้สึกราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน ถึงจะรู้ว่าเธอต้องเจอกับติณณ์ แต่ต้องไม่ใช่สถานการณ์แบบนี้“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย” เสียงร้องขอความช่วยเหลือของ ณัฐชยานั้นแสนจะแผ่วเบา น้ำตายังคงไหลนองอาบแก้ม เพราะเธอเหมือนคนไร้หนทางให้หนีรอด ณัฐชยาตะเกียกตะกายพาตัวเองลงจากเตียงจนหล่นตุ้บลงไปกองกับพื้นพรมข้างๆ เตียง ยิ่งดิ้นรนณัฐชยาก็เหมือนวิ่งเข้าหากับดัก เพราะตอนนี้ยาที่ถูกบังคับให้กินเข้าไปกำลังออกฤทธิ์มากขึ้น เรี่ยวแรงที่จะใช้หนีกลับไม่มี ร่างกายทวีความร้อนรุ่มราวกับเธอนั้นเป็นไข้สูง ความร้อนนี้มาพร้อมกับความต้องการแปลกๆ ที่วิ่งพลุ่งพล่านอยู่ในกายสาว เธอไม่เข้าใจว่าต้องการอะไร แต่รู้แน่ๆ คือกำลังทรมานติณณ์ที่กลับออกมาจากห้องน้ำหลังใช้เวลาทำความสะอาดร่างกายและนั่งเหม่อคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องแต่งงานที่เพิ่งเสร็จสิ้นไ
“ซอเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นไหม”“ไม่” ณัฐชยาส่ายหน้าให้ เธอคิดว่าหากแช่น้ำเย็นๆ จะช่วยให้อาการประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นลดน้อยลงไป แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น เพียงแค่สบตาติณณ์เธอก็ยังมีความร้อนวูบวาบอยู่เช่นเคย ณัฐชยาขาดความยับยั้งชั่งใจ เธอคว้าลำคอติณณ์โน้มชายหนุ่มให้มาใกล้ ก่อนจะเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน แม้จะจูบไม่เป็นแต่ก็คงไม่ยากอะไรหากเธอจะทำ นั่นส่งผลให้เส้นความอดทนของติณณ์ขาดผึงลงทันทีติณณ์อุ้มณัฐชยาขึ้นจากอ่างจากุชชี่ พร้อมทั้งถอดชุดแต่งงานที่เปียกชื้นออก เมื่อร่างกายไร้อาภรณ์ห่อหุ้มณัฐชยาก็ยิ่งเขินอายจนร่างกายแดงก่ำตั้งแต่ใบหน้าจรดปลายเท้าก็ว่าได้ เธอยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองไว้ แรงเสียดสีของเสื้อผ้าดูจะสู้สัมผัสจากมือของติณณ์ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ติณณ์ค่อยๆ วางณัฐชยาลงบนเตียง ก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเธอไว้“รู้ใช่ไหมว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น”“ซอรู้”“พี่จะไม่หยุดจนกว่าซอจะบอกให้หยุด”“ค่ะ” เสียงแหบพร่าเอ่ยรับ เพราะร
“พี่รักซอนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองคน พี่ก็ยังรักซอไม่เปลี่ยนแปลง” คำว่ารักจากติณณ์นั้นมีค่ามาก ณัฐชยาโอบกอดชายหนุ่มไว้ แล้วจูบเขาเบาๆ เป็นการขอบคุณ ติณณ์ข่มใจให้อดทนเพื่อรอเวลาให้ณัฐชยาปรับตัว ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ขยับสะโพกอีกครั้ง คราวนี้ต่อให้มีช้างทั้งโขลงก็คงฉุดความต้องการเขาไม่ได้แน่ กระทั่งสามารถส่งตัวเองเข้าหาเธอได้ลึกสุด ความเจ็บปวดในครั้งแรกที่ณัฐชยาได้รับ ตอนนี้แปรเปลี่ยนมาเป็นความเสียวซ่านเกินบรรยายณัฐชยาครางกระเส่าดูน่าอายกับเสียงที่เกิดขึ้นนี้ แววตาเธอพร่าเลือนและคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้จริงๆ แก่นกายของติณณ์กำลังดำดิ่งอยู่ในช่องทางรักที่ตอดรัดเป็นจังหวะ สะโพกสอบบิดเกร็งยามส่งตัวเองเข้าหาเธอ มีทั้งเร่าร้อน ดุดัน และอ่อนหวานชวนให้สะท้าน แม้จะเป็นเซ็กซ์ครั้งแรกแต่ณัฐชยาก็เร่าร้อน ส่วนหนึ่งคงมาจากยาที่ธัญชยาให้เธอกินเข้าไป และส่วนหนึ่งคือความรู้สึกที่แท้จริงของเธอเอง“ซอจ๋า...ซอ” ติณณ์เอ่ยเรียกชื่อณัฐชยาด้วยน้ำเสียงขาดๆ หายๆ ขณะที่ขยับสะโพกเขาก็โน้มตัวลงไปดูดดุนหน้าอกเธอ บางครั้งก็มอบจูบให้ ติณณ์ส่งณัฐ
โชคชะตาของคนเรานั้นไม่แน่ไม่นอนเสมอ ณัฐชยาตื่นขึ้นมาในเช้าวันที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ มองเพดานห้อง ก่อนจะหันมองติณณ์ที่นอนอยู่ข้างๆ นั่นทำให้เธอน้ำตาไหลนองหน้าทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาเมื่อคืน สุดท้ายสิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาคือความเจ็บช้ำทั้งกายและใจ ณัฐชยาสับสนว่านี่เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ ทำไมมารดาและพี่สาวถึงทำกับเธอแบบนี้ เมื่อสงสัยจึงต้องการหาคำตอบณัฐชยาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง เพียงแค่เท้าสัมผัสกับพื้นพรมเพื่อทรงตัว ความเจ็บปวดก็วิ่งสู่บริเวณกลางลำตัวจนเธอต้องนิ่วหน้า ก่อนจะข่มความเจ็บปวดไว้แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำ หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวม แม้จะเป็นชุดแต่งงานที่ยังคงเปียกชื้นของธัญชยาพี่สาวก็ตามที หัวใจเธอบอบช้ำขณะยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจก สิ่งที่เสียไปไม่อาจเรียกคืนได้อีกแล้ว ก่อนจะพาตัวเองออกจากห้องน้ำ ยืนมองติณณ์ที่ตอนนี้ยังคงหลับสนิท“ซอรักพี่ติณนะคะ” แม้จะรักแต่ก็ใช่ว่าจะสามารถครอบครองได้ ติณณ์นั้นได้ชื่อว่าแต่งงานกับธัญชยาแล้ว ถึงคนที่ถูกส่งตัวเข้าหอจะเป็นเธอก็ตามที ณัฐชยายืนปาดน้ำตา ก่
“พ่อดีใจที่ติณพูดออกมาแบบนี้ ซอคือผู้ถูกกระทำที่น่าสงสารที่สุด” มนตรีถอนหายใจออกมาหนักๆ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเกิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ขึ้นภายในครอบครัวของเขาได้ หลังคุยกับมนตรีเรียบร้อย ติณณ์ก็ขึ้นไปหาณัฐชยาบนห้องนอน“คุณติณ”“ซอเป็นยังไงบ้างครับป้าอ้วน” เสียงทุ้มๆ เอ่ยถามกับป้าอ้วนที่นั่งเฝ้าณัฐชยาอยู่ข้างๆ“หลับมาหลายชั่วโมงแล้วค่ะ จนป่านนี้ก็ยังไม่ตื่น”“ผมเฝ้าซอต่อเองครับ ป้าอ้วนไปพักเถอะ”“ค่ะ” ป้าอ้วนเอ่ยรับ ก่อนจะปลีกตัวออกไปเพื่อให้ทั้งสองอยู่ด้วยกัน ป้าอ้วนไม่ได้สงสารเพียงแค่ณัฐชยาเท่านั้น ยังสงสารติณณ์ด้วยที่ต้องตกเป็นเครื่องมือของธัญชยาแบบนี้ เนื่องจากป้าอ้วนเองก็รู้นิสัยใจคอของธัญชยาดีว่าเป็นคนแบบไหน ที่อยากแต่งงานกับติณณ์เพียงเพราะต้องการเอาชนะณัฐชยา แต่เมื่อได้มาครองแล้วกลับทอดทิ้งและผลักไสติณณ์คืนให้ณัฐชยาอีกส่วนณัฐชยานั้นก็ดีเกินไป ถูกมารดา ถูกพี่สาวแท้ๆ ทำร้ายจิตใจมาตั้งแต่เด็กๆ จนโตป่านน
“ใครโทรมาครับ”“เพื่อนค่ะ” หญิงสาวเอ่ยตอบโดยที่ไม่หันมองหน้าติณณ์ด้วยซ้ำ“สนิทกันมากไหม”“มาก” ณัฐชยาตอบลากเสียงยาว ติณณ์มองเธอด้วยแววตาดุๆ บ่งบอกว่าไม่พอใจ“สนิทมากเท่าพี่หรือเปล่า”“มากกว่า” พูดจบณัฐชยาก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปโดยมีติณณ์ตามมาไม่ห่าง ทั้งคู่เหมือนพ่อแง่แม่งอน แม้จะโกรธเคืองกัน แต่ภายในแววตาก็ยังคงแฝงไว้ด้วยความรัก ป้าอ้วนอยากเห็นทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน ไม่อยากให้เข้าใจผิดเพราะมือที่สามคืนนั้นติณณ์นอนค้างที่บ้านของณัฐชยา แต่หญิงสาวก็ตั้งแง่ไม่ยอมพูดด้วยง่ายๆ ไล่ชายหนุ่มไปนอนบนโซฟา ซึ่งติณณ์ก็ไม่ค้านอะไร ยอมทำตามที่ณัฐชยาบอกทุกอย่าง แต่ตกกลางคืนชายหนุ่มกลับได้ยินเสียงสะอื้นไห้ จนต้องลุกมาดู จึงรู้ว่าที่มาของเสียงสะอื้นนั้นดังมาจากณัฐชยา“ซอ...เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” “เปล่าค่ะ ซอไม่ได้เป็นอะไร” ณัฐชยาพลิกตัวนอนตะแคงข้าง หัน
“ฝากไว้ก่อนเถอะ รอลูกหลับ ซอหนีพี่ไม่พ้นแน่”“บ้า” ณัฐชยามองค้อนสามี ก่อนจะอุ้มบุตรชายขึ้นแล้วขยับไปนั่งให้นมอีกทาง เมื่อเจ้าตัวเล็กอิ่มก็ได้เวลาหลับต่อ และคงหลับยาวถึงเช้าตามเคย ณัฐชยาถือว่าโชคดีที่ลูกคนนี้เลี้ยงง่าย ไม่งอแงทำให้แม่หรือพ่อเหนื่อยมากนักเมื่อให้นมลูกเสร็จ ติณณ์ก็พาณัฐชยากลับลงไปชั้นล่าง แล้วให้พี่เลี้ยงขึ้นมาเฝ้าบุตรชายแทน ค่ำคืนของการฉลองยังอีกยาวไกล และเมื่อกลับขึ้นมาพักผ่อน ติณณ์ก็ทำตามที่ได้พูดไว้ ชายหนุ่มรุกเร้าคุณแม่มือใหม่อย่างณัฐชยาจนเธอเร่าร้อนไปทั้งตัว จะว่าไปก็เกือบๆ สี่เดือนที่ติณณ์นั้นไม่ได้ล่วงเกินณัฐชยาเลย ใช่ว่าจะมีเพียงชายหนุ่มเท่านั้นที่ต้องการเธอ ณัฐชยาเองก็ต้องการติณณ์ไม่แพ้กัน“พี่ติณ” ณัฐชยาครางกระเส่า เมื่อติณณ์กำลังหยอกเย้ากับหน้าอกของเธอจนตั้งชัน รูปร่างของณัฐชยาดูอวบอิ่มขึ้น หน้าอกเต็มไม้เต็มมือกว่าแต่ก่อน ยิ่งถูกติณปลุกเร้าก็ยิ่งตอบสนอง เม็ดยอดสีสวยถูกสามีหนุ่มใช้ปากร้อนๆ ดูดดุนเล่นสลับบีบเฟ้นเป็นจังหวะณัฐชยาบิดเร้า ร้าวรานกับความวาบหวามเสียวซ่านที่กระจายไปทั่วร่างก
วันแรกที่กลับจากโรงพยาบาล ณัฐชยาแวะไปเยี่ยมธัญชยาที่โรงพยาบาล จากผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าสวยจนเป็นดารานักแสดงได้อย่างสบายๆ ผิวนวลเนียนเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ตอนนี้ธัญชยากลับดำคล้ำ ผิวแห้ง ผมร่วง ดูน่าเวทนาผิดไปจากธัญชยาคนก่อนจนแทบจำไม่ได้ พอเห็นหน้าหลานชายเธอก็ยิ้มอย่างยินดี“ชื่ออะไร”“น้องเติมเต็มค่ะพี่พิณ” ณัฐชยาก้มมองบุตรชายที่หลับพริ้มในอ้อมกอด ติณณ์นั่งมองทั้งสองพี่น้องอยู่ห่างๆ เพราะอยากให้เวลาส่วนตัวแก่คนทั้งคู่“เติมเต็ม ชื่อน่ารักมากเลยนะ หน้าตาก็น่าชัง เหมือนซอกับพี่ติณคนละครึ่ง” ธัญชยายิ้มให้หลานชาย เธอยื่นมือจะไปสัมผัสแก้มยุ้ยๆ แต่จำต้องดึงมือกลับ ณัฐชยาสงสารพี่สาวจึงเอ่ยขึ้น“พี่พิณอุ้มหลานนะคะ”“ไม่ดีกว่า ตัวพี่สกปรก” พูดจบธัญชยาก็ขยับหนี“พี่พิณทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ”“พี่สกปรกจริงๆ ไม่ต้องอุ้มหลานหรอก แค่ได้นั่งมองหน้าพี่ก็ดีใจแล้ว” รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนมุมปาก แ
“ลูกผมหล่อมากนะครับหมอ ดูสิ จมูกโด่งเป็นสันเชียว” คนขี้เห่อเอ่ยขึ้น ณัฐชยาส่ายหน้าให้ติณณ์“หล่อค่ะ” หมอเอ่ยรับ เพราะลูกใครใครก็ชมว่าหล่อว่าน่ารักทั้งสิ้น เมื่อตรวจเสร็จหมอก็ให้ฟิล์มใบหน้าเจ้าตัวเล็กแก่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ได้เชยชม ติณณ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ปลาบปลื้มกับใบหน้าบุตรชาย ก่อนจะโทรศัพท์ไปบอกเรื่องนี้ให้มารดาและผู้เป็นยายรู้ทันที“จริงเหรอติณ เป็นผู้ชายเหรอ”“ครับแม่ อาวุธเด่นชัดมาก”“พี่ติณ...ทะลึ่ง” ณัฐชยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เหน็บชายหนุ่มไปแรงๆ ที่พูดอะไรทะลึ่งๆ แบบนั้น“ฝากบอกซอให้ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ใกล้คลอด แม่กับยายจะลงไปกรุงเทพฯ”“ครับแม่” เสียงมีความสุขของติณณ์เอ่ยรับ ก่อนที่ชายหนุ่มจะคุยกับมารดาและยายครู่หนึ่ง จากนั้นจึงวางสายไปแล้วหันมายิ้มให้ณัฐชยา อยู่ๆ ก็โน้มตัวลงไปจูบหน้าท้องนูนเบาๆ“พ่อรักลูก รักแม่ของลูกมากนะครับ โตขึ้นมาต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื
“ดื่มสิ” แต่อยู่ๆ ธัญชยากลับยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อณัฐชยาคว้าตัวไปกอด“ขอบคุณนะคะพี่พิณ ขอบคุณที่ดีกับซอแบบนี้ ซอรักพี่สาวคนนี้มากนะคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซอก็รักพี่พิณ เพราะพี่คือพี่สาวของซอ”“ซอ” คำพูดของณัฐชยาทำให้ความคิดร้ายๆ ของธัญชยาหายไป ณัฐชยาผละออกจากพี่สาวเล็กน้อยเพื่อดื่มนม แต่จังหวะที่ปากแก้วกำลังจรดกับริมฝีปากอิ่ม ธัญชยาก็กำลังจะแย้ง แต่เสียงของติณณ์ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำก็ดังขึ้นเสียก่อน“พี่สาวกับน้องสาวคู่นี้ทำอะไรกันครับ”“อ้อ...พี่พิณเอานมมาให้ซอดื่มค่ะพี่ติณ ยังอุ่นๆ อยู่เลย” ณัฐชยาหันไปตอบสามี ธัญชยาตกใจเพราะไม่คิดว่าติณณ์จะอยู่ในห้องด้วย ทั้งๆ ที่วันนี้เธอถามณัฐชยาแล้วว่าชายหนุ่มจะกลับตอนไหน ซึ่งคำตอบคือดึก เธอจึงตัดสินใจลงมือปลิดชีพน้องสาววันนี้ แต่ตอนนี้ความคิดบ้าๆ นั่นหายไปแล้ว“แต่ซอพึ่งดื่มนมไปแก้วใหญ่นี่ครับ ดื่มอีกจะไหวเหรอ”“ไม่เป็นไรค่ะ ซอดื่มได้”&l
ลินดาพยายามฟื้นฟูร่างกายจนเกือบจะกลับมาเดินได้ โดยมี ณัฐชยาคอยดูแลไม่ห่าง แม้จะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตามที ในทุกๆ วันเธอถามหาธัญชยาจนมนตรีไม่รู้จะหาเหตุผลใดๆ มาอ้างดี สุดท้ายก็จำต้องพูดความจริงออกไปในวันที่ลินดาพร้อมจะรับฟังทุกอย่างแล้ว“ลูกพิณเป็นเอดส์เหรอคะ” ลินดาเอ่ยทวนประโยคที่ได้ยินจากสามี มนตรีได้แต่พยักหน้ารับว่าใช่“ต่อให้ลูกเป็นอะไร เราก็จะไม่ทิ้งแก”“ขอบคุณนะคะคุณ ฉันไม่ดีเอง ฉันเป็นแม่ที่ไม่ดี”“คุณไม่ผิดหรอก ถ้าจะผิดเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ผมเองก็เป็นพ่อที่ไม่ดีเหมือนกัน” มนตรีกุมมือของภรรยาไว้“ตอนนี้ฉันรู้สึกผิดมาก โดยเฉพาะผิดต่อซอ ฉันทำผิดกับลูกคนนี้ไว้มากจริงๆ”“แต่ผมรู้ว่าซอไม่เคยคิดโทษคุณเลย นั่นก็เพราะว่าซอรักและหวังดีกับคุณมาก คุณคือแม่ที่ดีที่สุดของแก ผมอยากให้คุณมอบความรัก ความเอ็นดูให้ซอบ้าง แค่ครึ่งที่คุณมอบให้พิณก็ยังดี”“คุณมนตรี” แววตาของลินดาดูอึ้งไปที่ได้ยินสามีร้องขอแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด“ผมค
แบรดทำท่าจะแย้ง แต่ธัญชยากลับโน้มตัวลงมาปิดกั้นเสียงพูดนั้น พร้อมกับขยับสะโพกขึ้นลงให้รัวเร็ว ถี่กระชั้นมากขึ้นจนสติของแบรดกระเจิดกระเจิง ตอบสนองเธอกลับไปอย่างถึงอกถึงใจ เสียงซี้ดปากดังต่อเนื่อง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ ผสมผสานความเร่าร้อนก็ยิ่งทวีความวาบหวามยิ่งขึ้นธัญชยาทำตามใจตัวเองทุกอย่าง เธอชอบอะไรแบบไหนก็จัดแบบนั้นให้แบรด จนชายหนุ่มอดที่จะเอะใจความคุ้นเคยนี้ไม่ได้ว่าเคยได้รับจากใครมาก่อน แต่ความคิดนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อความเสียวซ่านเข้ามาทำให้สติหลุดลอย แบรดไม่อยากให้เธอคุมเกมฝ่ายเดียว จึงรีบเด้งตัวขึ้นแล้วรั้งธัญชยาลงไปนอนราบ ส่งตัวเองเข้าหาเธอในจังหวะหนักๆ สลับโน้มตัวลงไปจูบปาก มือก็คลึงหน้าอกไม่ได้หยุด“ฉันไม่ไหวแล้ว” ธัญชยาพยายามอดกลั้น แต่ความเร่าร้อนของแบรดก็ทำให้เธอยอมแพ้ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เพราะชอบที่ให้คู่นอนถึงสวรรค์ก่อนหลายๆ รอบ“ไม่ไหวก็ถึงเลย” แบรดไม่ต้องเอ่ยธัญชยาก็นำหน้าชายหนุ่มไปแล้วหนึ่งยก ความชื้นแฉะที่ไหลออกมาจากร่างกายเธอทำให้เขารู้ว่าธัญชยาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล
“ผลเลือดเป็นบวก...เป็นบวก” ธัญชยาเพ้อพูดผลตรวจเลือดซ้ำไปซ้ำมา สีหน้าเหม่อลอย สมองมึนงง เพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อไป“พิณลูก” มนตรีลูบใบหน้าบุตรสาวเบาๆ“ผลเลือดเป็นบวก...เป็นบวก” ประโยคซ้ำๆ ยังดังมาจาก ธัญชยา นั่นทำให้หัวใจของมนตรีเจ็บปวดที่สุด ไม่คาดคิดว่าธัญชยาจะป่วยแบบนี้“พี่พิณใจเย็นๆ นะคะ ซอถามคุณหมอแล้ว ถ้าพี่พิณรับยาต้านติดต่อกันก็จะหาย”“ไม่! แกโกหกฉัน ฉันเป็นเอดส์ มันรักษาไม่หาย ฉันเป็นเอดส์ แกได้ยินไหมฉันเป็นเอดส์” ธัญชยาปัดมือของณัฐชยาออกห่าง มนตรีจึงเอ่ยขึ้นอีกคน“หายสิพิณ ลูกต้องหาย”“คุณพ่อไม่ต้องมาโกหก พิณรู้ พิณไม่ได้โง่” เสียงเกรี้ยวกราดของธัญชยาดังขึ้น เธอหวาดระแวงทุกอย่าง กังวลอาการป่วยของตัวเองจนไม่รับรู้ความจริงอะไรทั้งนั้น ฝังใจว่าสิ่งที่เป็นไม่มีวันรักษาหาย“ลูกพิณ” มนตรีคว้าตัวธัญชยาเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะไม่รู้จะปลอบโยนบุตรสาวด้วยวิธีไหน ธัญชยาร้องไห้จนเผลอหลับไป ณัฐชยาแอบปาดน้ำตาอีกคน ติณณ์ยืนกุมมือภรรยาอยู่
หลังจากที่นอนไม่ได้สติมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ ลินดาก็ค่อยๆ รู้สึกตัว เธอเห็นสามี ณัฐชยา และติณณ์ แต่กลับไม่เห็นธัญชยาแม้แต่เงา ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจบุตรสาวคนโปรดจึงเกิดขึ้น“คุณแม่รู้สึกตัวแล้วเหรอคะ เจ็บตรงไหนไหม”“ไม่ลูก” ลินดารู้สึกตื้อๆ ในอก เพราะรู้ตัวว่าทำไม่ดีกับ ณัฐชยามาตั้งมาก แต่วันนี้คนที่คอยดูแลเธอเป็นอย่างดีกลับคือ ณัฐชยา“คุณแม่ปลอดภัยแบบนี้ ซอก็หมดห่วง” ณัฐชยาแอบปาดน้ำตา เพราะลินดาคือมารดา ต่อให้มารดาจะไม่รักเธอยังไง เธอก็ตัดขาดจากมารดาไม่ได้ และตอนนี้เธอกำลังจะกลายเป็นแม่คนด้วยแล้ว ก็ยิ่งรักลินดามากขึ้น“รีบหายเร็วๆ นะคุณลินดา จะได้มาช่วยกันเลี้ยงหลาน”“หลาน...ซอท้องเหรอลูก”“ค่ะคุณแม่” ใบหน้ายิ้มๆ ของณัฐชยาเอ่ยรับ เธอลูบท้องที่ภายในมีเจ้าตัวเล็กเติบโตอยู่ แต่พอรู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์อาการแพ้ท้องที่เคยมีกลับไม่มี“แม่ดีใจด้วยนะซอ” ลินดาอ้าแขนรับบุตรสาว ณัฐชยาเดินเข้าไปใกล้แล้วโน้มตัวลงไปกอดกับมารดา อ้อมกอดที่ณัฐชยาโหยหามาตลอด ตอนนี้เ
“แม่ไม่เป็นอะไรซอ ลูกล่ะ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามฟังดูอ่อนโยนอย่างที่ณัฐชยาไม่เคยได้ยินมาก่อน แค่นี้กลับทำให้เธอตื้นตันในความห่วงใยที่มารดามีให้“ไม่ต้องไปห่วงมันหรอกค่ะคุณแม่ ยายซออึดและถึกจะตายไป โดนแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ” ไม่พูดเปล่า ธัญชยายังตามมาจิกหัวของณัฐชยาไปแล้วตบตีเธออีกครั้งราวกับต้องการหาที่ระบายอารมณ์ ยิ่งณัฐชยาไม่ตอบโต้ใดๆ แบบนี้ ธัญชยาก็ยิ่งได้ใจติณณ์ที่กลับบ้านมาก่อนเวลาเพราะใจนั้นรู้สึกห่วงณัฐชยามาก ชายหนุ่มได้ยินเสียงเอะอะโวยวายคล้ายคนทะเลาะกันอยู่ชั้นบนจึงรีบขึ้นมาดู จนรู้ว่าต้นเสียงนั้นมาจากห้องนอนของเขา ชายหนุ่มรีบก้าวไป และเมื่อเปิดประตูสิ่งที่เห็นก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับช็อก เพราะตอนนี้ธัญชยากำลังตบตีณัฐชยา ผู้ซึ่งเป็นภรรยาของเขานั่นเอง“ทำอะไรน่ะพิณ” ติณณ์รีบเข้าไปห้ามใช้ตัวเองปกป้อง ณัฐชยา ธัญชยารีบเก็บมือที่เงื้อขึ้นจะฟาดหน้าของณัฐชยาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ลืมนับอย่างอัตโนมัติ พร้อมกับทำหน้าทำตาไม่รู้ไม่ชี้“พิณไม่ได้ทำอะไรนะคะ พิณไม่รู้เรื่อง”“นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับคุณแม่&rdq