LOGIN"คำโกหก" หนึ่งคำที่สร้างขึ้นเพื่อเอาตัวรอดแต่กลับผูกมัดพวกเขาไว้ในนาม... ทว่าพันธะที่ตามมากลับลึกซึ้งเกินควบคุม จนพวกเขาข้ามเส้นไปสู่ความสัมพันธ์ทางกายที่ไม่มีวันกลับมาเป็นพี่น้องได้อีกตลอดกาล! ทว่าความสัมพันธ์อันบริสุทธิ์ต้องสั่นคลอน เมื่อผลพวงจากความผิดพลาดของพี่ชายเมขลา ทำให้เธอกลายเป็นเป้าหมายอันตราย วายุจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ และในสถานการณ์ที่จวนเจียนจะเอาชีวิตไม่รอด... วายุจะก้าวข้าม 'เงาของสายลม' ที่อยู่ในใจเมขลาได้อย่างไร ในเมื่อเขาเองก็คือ 'สายลม' คนนั้นที่เธอรักมาตลอด? และพันธะที่เกิดขึ้นจากคำโกหกและความร้อนแรงทางกายนี้ จะนำพาพวกเขาสู่รักแท้ที่นิรันดร์ได้หรือไม่? นิยายเรื่องนี้ สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามไม่ให้ผู้ใดลอกเลียนแบบดัดแปลง ทำซ้ำหรือนำข้อมูลส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่หรืออ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต การฝ่าฝืนละเมิดสิทธิ์์มีโทษตากฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด ปล. นิยายเรื่องนี้เป็นภาคต่อ เรื่องพลาดรักเมฆินทร์ สามารถติดตามได้ที่ facebook:นามปากกาคุณน้ำอิง เพจ:facebook Writer Kunnameaing Tiktok:Writer Kunnameaing
View Moreหมู่บ้านชนเผ่า ในความเงียบสงบที่เหลืออยู่ มีเพียงเสียงลมพัดกระทบหน้าต่างไม้เบา ๆ เมขลาจัดการจัดท่านอนให้วายุอย่างสบายที่สุด ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างฟูก เธอถือถ้วยยาต้มสีดำเข้มที่หมอจัดเตรียมไว้ ความหอมฉุนของสมุนไพรทำเอาใจคอไม่ดี “พี่วายุ... ลืมตาหน่อยนะคะ... ถึงเวลาต้องกินยาแล้ว” “ทำยังไงดี! ไม่ได้สติแบบนี้...จะกินยาได้ยังไง ถ้าเป็นพล๊อตนิยายหรือในซีรีย์จีน...นางเอกต้องยกถ้วยยาซด แล้วก็...หยี...ไม่ได้ ๆ สิ เราไม่ใช่นางเอกหนิ” เธอพึมพำกับตัวเอง ขณะนั้นวายุพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ดวงตาที่ยังคงพร่ามัวมองมาที่เมขลา ใบหน้าของเขาตอนนี้ซีดเซียวและอ่อนแรงกว่าที่เธอเคยเห็น แต่แววตาที่มองกลับมานั้นกลับจริงจังอย่างน่าประหลาด เขาพยายามจะยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “พี่...ฟื้นแล้ว! ทานยาหน่อยนะคะ” เมขลาน้ำเสียงรู้สึกโล่งใจ “อื้อ!...ขมชะมัด... ไม่มีลูกอมแก้ขมบ้างเหรอ?” เขาเอ่ยเสียงออดอ้อนติดแหบพร่าคล้ายเด็กน้อยที่ไม่อยากกินยา หัวใจของเมขลาเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ เธอวางช้อนลงชั่วครู่ ยกศีรษะของวายุขึ้นอย่างระมัดระวังที่สุด แล้วใช้ช้อนตักยาค่อย ๆ ป้อนเข้าสู่
"เมาอะไรขนาดนี้ ใครอุ้มไปไหนจะรู้ไหม... เด็กดื้อเอ๊ย" เขาบ่นเบา ๆ อย่างเอ็นดู ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น... "ลม!... อยู่กับเมย์ก่อนสิ อย่าเพิ่งไป" แขนเรียวคว้าคอแกร่ง ดึงโน้มร่างเขาลงมาประทับจูบอย่างจู่โจม... วายุเบิกตากว้าง รีบกระชากผลักหญิงสาวให้นอนราบลงบนโซฟา "เมย์! เราเมามากนะ รู้ตัวไหม!" เมขลาค่อย ๆ ลืมตาที่ปรือปรอย "ทำไม! ทีกับคนอื่นพี่ทำไมทำได้... กับเมย์ทำไม ๆ" เสียงเธออ้อแอ้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ "เมย์... นี่พี่วา...เองนะ พี่ชายหมายเลขสองของน้องเมย์ไง ตั้งสติหน่อย!" "ทำไม... คิดว่าเมย์เมาจนจำหน้าพี่ไม่ได้เหรอ!" "เมย์! พักผ่อนก่อนนะ สร่างเมาแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้าน" เขาพูดพร้อมกับจะลุกอีกครั้ง มือเล็กดึงขอบกางเกงรอบเอวของชายหนุ่ม กระชากเขากลับมาจนร่างเขามาพิงตรงโซฟา เธอรีบคุกเข่าคร่อมเอวแกร่งของเขาไว้ทันที แขนเรียวโอบคอแกร่งล็อกไว้ให้สบตากัน "ไหน... ขอดูหน้าชัด ๆ ซิ... อืออออ... ก็ใช่นี่... ใช่แล้วไม่ผิดอย่างแน่นอน" "อะไร!... เมย์! ตั้งสติหน่อยสิ" เสียงวายุเริ่มแหบพร่าเมื่อถูกล็อกในระยะประชิด "ทำไมคะ... กับคนอื่นพี่ยังกะล่อนใส่... เมย์อยากให้พี่กะล่อนใส่
“พี่... ตอนนั้นพี่ไม่รู้จะคิดยังไงดี” วายุสารภาพ “ทุกอย่างมันดูเหมือนจริงไปหมด ทั้งคำพูดของไอ้กรณ์ ทั้งที่พี่ก็เห็นพวกน้องสนิทกันขนาดไหน...” “เอาสมองส่วนไหนคิดคะ ถามจริง!...” ทันใดนั้น... ว้ายย...! เมขลากรีดร้องออกมาขณะที่เท้าของเธอเหยียบพลาดบนก้อนหินขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้ใบไม้แห้ง ด้วยน้ำหนักที่กำลังแบกรับร่างของวายุอยู่ ทำให้แรงเหวี่ยงเสียศูนย์ไปอย่างรวดเร็ว วายุที่แม้จะบาดเจ็บและอ่อนแรง แต่สัญชาตญาณก็ทำงานทันทีที่รู้สึกว่าร่างกายกำลังจะตกลงไป เขารีบออกแรงกอดเมย์ไว้แน่นสุดกำลัง พลิกตัวให้ร่างของเขาทับอยู่ด้านบนเพื่อรับแรงกระแทกทั้งหมด ทั้งคู่กลิ้งลงไปตามทางลาดชันของไหล่เขาอีกครั้ง ร่างกายปะทะกับพุ่มไม้ ก้อนหิน และรากไม้ที่ยื่นออกมาอย่างจัง วายุได้ยินเสียงเมขลาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพียงแวบเดียว ก่อนที่เขาจะใช้ความแข็งแกร่งที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อเป็นเกราะกำบังให้เธออย่างเต็มที่ เขากอดศีรษะเธอซบเข้ากับหน้าอกของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะของเธอไปกระแทกกับโขดหินที่ขรุขระ การกลิ้งตกลงเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง... จนกระทั่งเสียงทุกอย่างเงียบลง พวกเขามาห
วายุและเมขลาขับรถลงมาจากยอดดอยได้สักพักแล้ว บรรยากาศภายในรถเริ่มเงียบลงหลังจากที่ทั้งคู่แลกเปลี่ยนบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความโล่งใจในการกลับมาคืนดีกันของเมฆินทร์และจารวี แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดของหุบเขาที่คืบคลานเข้ามาพร้อมความเงียบสงัด “พี่วายุ... เราทิ้งพวกเขาไว้แบบนี้จะดีเหรอคะ” เมขลาถามขึ้นอีกครั้ง แม้จะรู้ว่าวายุทำไปเพื่อพี่ชายและเพื่อนรัก แต่ในใจเธอก็ยังกังวล “ดีกว่าเยอะ” วายุตอบพร้อมกับหันมายักคิ้วให้ “ปล่อยให้เขาได้คุยกันบ้างเถอะน่า ตั้งหลายเดือน กว่าพวกนั้นจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ซักที เมย์ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นหรอกน่า... มาอยู่กับพี่แล้วต้องผ่อนคลายสิครับ” เธอส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับความกะล่อนของเขา แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงมีความคิดมากอย่างเห็นได้ชัด “เมย์ไม่ได้เครียดเรื่องนั้นค่ะ เมย์คิดเรื่องที่พี่เมฆเล่าเรื่องชายชุดดำต่างหาก พี่เมฆบอกว่ามันพูดกับจี๊ดว่า ‘จำฉันไม่ได้เหรอ’ ถ้าเป็นพวกโรคจิตตามติดผลงานจะพูดแบบนี้เหรอคะ” วายุเปลี่ยนสีหน้าให้จริงจังขึ้นเล็กน้อย “พี่ก็ว่าไอ้เมฆคิดถูกนะ ลักษณะการจู่โจมมันไม่เหมือนพวกคลั่งไคล้ แต่มันเหมือนคนที่