Masuk“แล้วฉันจะมีทางไหนรอดบ้าง...แกพอจะหาทางได้ไหมนพ”
เจนภพอับจนไร้หนทาง บริษัทกับบ้านหลังใหญ่นี้จะถูกยึดอีกสองวันข้างหน้าแล้ว
“เรื่องนี้...ผมไม่กล้าที่จะเสนอนายครับ...”
มานพรู้ว่านายของตัวเองนั้น รักลูกสาวมากขนาดไหน หนทางที่เขาจะแนะให้กับนายนั้น นายอาจจะโกรธก็เป็นได้
“มันเป็นเรื่องอะไรกัน...ตอนนี้ฉันจะด่าแกได้ยังไง ลำพังตัวฉันก็ไปไหนไม่รอดแล้ว บอกมาเถอะทางรอดที่แกบอกมันคืออะไร”
“นายอย่าพึ่งโมโหนะครับ...เรื่องนี้เกี่ยวกับคุณหนูครับ”
มานพหยั่งเชิงความรู้สึกของผู้เป็นนายก่อน ถ้าหากเขาพลาดพูดไปเขาอาจจะโดนเป่าหัวก็ได้
“ทำไม...มันเกี่ยวอะไรกับลูกสาวฉัน...แกพูดมาเถอะน่า ฉันไม่ทำอะไรแกหรอก จนป่านนี้แล้ว ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว แกจะมัวอ้ำอึ้งหาพระแสงอะไรวะไอ่นพ!”
“ครับนาย...คือถ้านายให้คุณหนูไปต่อรองกับทางนั้น ผมว่าพอจะมีทางอยู่นะครับ ผมหมายถึง...เอ่อ...อาจจะต้องใช้คุณหนูเป็นตัวล่อทางนั้นก่อนนะครับ คือพอดีวันนี้ผมเห็นนายพริษฐ์นั่นมองคุณหนูเหมือนกับมันกำลังสนใจคุณหนูน่ะครับ ถ้าเกิดว่าให้คุณหนูจัดการเรื่องนี้ ผมว่าเราอาจมีทางรอดนะครับ”
“แกจะให้ฉันคุยกับลูกสาว เพื่อให้ลูกของฉันไปขอร้องมันงั้นหรือนพ...”
เจนภพพยายามคิดตามในสิ่งที่ลูกน้องของเขาเสนอ
“ครับนาย...บางทีคุณหนูอาจจะเต็มใจที่จะช่วยนายก็ได้นะครับ เรื่องนี้นายต้องลองครับ เพราะทางรอดมันไม่มีแล้วครับนาย”
“แล้วฉันจะคุยกับลูกยังไง ไหนแกลองบอกฉันมาซิ”
“นายก็บอกคุณหนูให้ช่วยคุยกับนายพริษฐ์ เพื่อขอผลัดผ่อน อย่างน้อยก็ให้เหลือบ้านหลังนี้เอาไว้ก่อนนะครับ”
“ไอ่หนุ่มนั่นมันไม่ยอมแน่ มันต้องการมาแก้แค้นให้แม่กับพ่อของมัน ฉันว่ามันไม่มีทางที่จะยอมหรอก”
“ถ้านายไม่ลอง นายก็จะไม่รู้นะครับ อย่างน้อยมันก็เป็นทางเดียวที่จะทำให้นายรอดได้นะครับ ลองดูไม่เสียหายครับนาย”
“ตอนนี้ลูกของฉันเสียใจจนไม่อยากที่จะคุยกับฉันแล้ว แกจะให้ฉันเข้าไปคุยยังไงวะนพ”
เจนภพรู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้น มันเกินกว่าที่บุตรสาวของเขาจะให้อภัยได้ เรื่องนี้จึงเป็นการยากมาก ที่เขาจะเอ่ยอะไรออกไป
“นายก็ลองคุยก่อนสิครับ แต่ผมเชื่อว่าคุณหนูต้องช่วยนายได้แน่นอนครับ”
“จริงหรือ...แต่ฉันเองก็ยังไม่กล้าที่จะสู้หน้าลูกของฉันเลย ฉันจะเข้าไปคุยยังไง”
เจนภพรู้สึกกระอักกระอวนใจเป็นอย่างมาก สิ่งที่เขาทำนั้น มันไม่สมควรที่จะได้รับการอภัยด้วยซ้ำ จะให้เขาเอ่ยปากขอร้องลูกสาวของเขาได้อย่างไรกัน
“นายต้องลองก่อนครับ...คุณหนูเธอน่าจะเข้าใจครับ”
“อืม...ฉันจะลองดู...แต่ฉันก็ไม่คิดว่าจะสำเร็จหรอกนะ”
“ครับนาย ดีกว่าไม่ลองครับ”
....................
“วันนี้คุณมนัสบอกพี่ว่า ธัญญ์ไปบ้านนายเจนภพมา เป็นยังไงบ้างธัญญ์ ไหนเล่าให้พี่ฟังบ้างสิ”
พรินทร์มองน้องชายฝาแฝดของตัวเองกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในมือถือแก้วที่มีน้ำสีเหลืองอำพันอยู่ในนั้น พรินทร์รู้ว่าน้องชายของเธอคงกำลังใช้ความคิดอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ผมเอาคืนให้คุณแม่ได้แล้วครับพี่ธารา นายเจนภพมันไม่เหลืออะไรแล้วครับ อีกไม่นานนายเจนภพมันคงต้องตรอมใจ และตายทั้งเป็นเหมือนอย่างที่มันทำไว้กับคุณแม่ครับ”
น้ำสีเหลืองอำพันถูกสาดเข้าไปในลำคอทันทีเมื่อพูดจบ ความแค้นของพริษฐ์นั้นติดอยู่ในใจของเขาตลอด ถึงแม้ปากเขาจะบอกว่าเอาคืนให้กับผู้เป็นแม่เรียบร้อย แต่ภายในใจของเขากลับยังไม่พอใจเท่าที่ควร
“เห็นคุณมนัสบอกว่าลูกสาวของนายเจนภพ ก็รู้เรื่องนี้แล้วเกิดช็อคโดยที่ไม่รู้เรื่องว่าพ่อของตัวเองได้ทำเรื่องเลวร้ายนี้เหรอ”
“ครับพี่ธารา ลูกสาวของนายมนัสไม่ได้อยู่ในแผนของผมเลยครับ ผมรู้ว่านายเจนภพมีลูกสาว แต่ไม่คิดว่านายเจนภพจะปิดบังเรื่องนี้เอาไว้”
พริษฐ์รู้สึกตกใจที่อยู่ดีๆ เธอคนนั้นก็โผล่เข้ามา ตอนที่เขากำลังห้ำหั่นกับพ่อของเธอ นายเจนภพคงรักลูกสาวคนนี้มาก ถึงขั้นปิดเงียบมาตลอด
“นั่นสิ...พี่ว่านายเจนภพคงหวงลูกสาวคนนี้มากนะ ตอนแรกพี่เองคิดว่าลูกของนายเจนภพไปอยู่กับแม่ที่ต่างประเทศซะอีก เหลือเชื่อจริงๆ ว่านายเจนภพจะปิดได้เนียนสนิทขนาดนี้”
“ครับ...ผมเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันครับ”
พริษฐ์พลันนึกถึงใบหน้าอันนวลเนียนนั้นทันที ความรู้สึกของเขาเหมือนโดนกระชากลงจากที่สูง เมื่อบังเอิญได้เห็นดวงตาคู่สวยนั้น เพียงแรกเห็นก็ทำให้หัวใจของเขากระเพื่อมไหวกระตุกวูบ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน พริษฐ์แปลกใจตัวเองเหลือเกิน ความรู้สึกแปลกประหลาดเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน แค่ผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้น...
วันต่อมา...
[คฤหาสน์หลังใหญ่...]
‘พ่อไม่มีทางไหนอีกแล้ว นอกจากลูกคนเดียว พ่อไม่บังคับลูกนะพระพาย ถ้าลูกไม่อยากไปพ่อก็ไม่ว่าอะไร พ่อผิดเองพ่อที่แก้ไขความผิดนี้ไม่ได้ พ่อขอโทษ’ คำพูดของผู้เป็นพ่อยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึงของนันท์นลินอยู่ตลอดเวลา เธอรู้สึกห่อเหี่ยวใจกับสภาพที่พึ่งตนเองไม่ได้เช่นนี้เหลือเกิน ก้อนกลมๆ จุกอยู่ในลำคอ พยายามสะกดความรู้สึกแสบร้อนที่สุดขึ้นมาในดวงตา
ร่างบางกำลังยืนมองเข้าไปข้างในอย่างลังเล สายตาจับจ้องไปยังคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของเธอ ตัวคฤหาสน์ตั้งอยู่บนพื้นที่อันกว้างใหญ่ บริเวณโดยรอบของตัวคฤหาสน์นั้นรายล้อมไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับเขียวขจี บรรยากาศโดยรวมร่มรื่นกลิ่นดอกไม้โชยหอมอบอวล มือบางบีบเข้าหากันแน่น เพื่อรวบรวมพละกำลังของตัวเอง ให้กล้าเผชิญกับความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร และวันนี้นันท์นลินขอมาทำหน้าที่ของลูกให้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้
“คุณคะ”
นันท์นลินเอ่ยเรียกหญิงวัยกลางคนที่กำลังเดินผ่านประตูใหญ่ เธอขับรถมาด้วยตัวเองและจอดไว้ตรงริมถนน นันท์นลินได้ข้อมูลมาจากลูกน้องของพ่อ ให้เธอมาเจอผู้ชายคนเมื่อวานที่เป็นเจ้าของเรื่องราวทั้งหมด
“เรียกป้าหรือคะ”
“ค่ะ...เอ่อ...หนู...จะมาขอพบคุณพริษฐ์ค่ะ”
นันท์นลินไม่รู้จะเริ่มต้นจากประโยคไหนเธอเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก นอกจากจะเอ่ยไปแบบตรงๆ เขาคือคนที่เธอไม่รู้จักและเธอจะต้องมาขอร้องเขา ริมฝีปากชมพูยกขึ้นเป็นรอยยิ้มขมๆ ทำไมมันช่างอึดอัดขนาดนี้นะ
“ไม่นะ! ปล่อยฉัน! แก!”ในเมื่อข้อมือของเธอถูกมัดเอาไว้ รมิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียเมื่อไหร่ เท้าของเธอทำงานแทบจะทันที ทั้งเตะทั้งถีบแบบทุลักทุเลภายในรถยนต์คันหรูสีดำที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันกับแอร์เย็นฉ่ำ “เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ พับผ่าสิ!!” เสียงของภรัณยูคำรามออกมา เขาไม่คิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่หนักหนาที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้ไปเขาคงหลีกหนีผู้หญิงไปสักพัก “แกก็ปล่อยฉันสิ!”เสียงหอบหายใจกระเส่า รมิตาเริ่มหมดแรงตอนนี้สภาพของเธอที่นั่งอยู่ตักของชายแปลกหน้า อกกระเพื่อมไหวภายใต้บราตัวจิ๋ว ทำให้สายตาคมจ้องมาที่เต้าใหญ่คู่นั้นทันที “ปากดีขนาดนี้โดนสักที ก็คงจะดีนะ!” ภรัณยูเริ่มมีความคิดใหม่แทรกเข้ามา สายตาคมกวาดไปทั่วเรือนร่างอันขาวโพลนที่อยู่บนตักของเขา ลมหายใจร้อนสะดุดเข้าที่สองเต้าขาวที่กระเพื่อมขึ้นลงไปมาตามแรงหายใจของเจ้าตัว “ไอ้แมงดา! อย่างแก! ฉันไม่เอาหรอก! อย่าได้แม้แต่จะคิด!” “อ่อ...ปากดีให้ตลอดล่ะกัน! ไอ่แมงดาคนนี้แหละ! จะทำให้เธอร้องไม่หยุด!”สิ้นประโยค มือหนาก็ยกร่างของเธอคร่อมกับบนตักเขาในสภาพที่เขานั่งพิงอยู
ภรัณยูเห็นด้วยกับเพื่อนหมดแล้วตอนนี้ เขามองไม่เห็นทางที่จะกลบเสียงร้องของยัยม้าพยศนี้ได้ยังไง “กรี๊ดดดด! ฉันไม่ไป! แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ธัญญ์! ธัญญ์คะ”เสียงหวีดร้องคร่ำครวญพร้อมกับความเสียใจที่มีต่อคนรักของเธอตอนนี้มันชัดเจนแล้ว พริษฐ์ไม่ได้รักเธอแล้ว คนรักของเธอเลือกอีนังผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้รักรมิตาอีกแล้ว... “มานี่! หยุดร้องได้แล้ว! ผมเหนื่อยแล้วนะ” “แกก็ปล่อยฉันสิ! ไอ้แมงดา!”รมิตาใช้คำพูดหยาบคายด่าทอผู้ชายที่จับเธอไว้แน่น เพื่อหวังให้ชายหนุ่มนี้หมดความอดทน “ยัยผู้หญิงปากปลาร้า! อึ่ม!”ภรัณยูพยายามนับหนึ่งถึงร้อย กลั้นความโกรธอย่างที่สุด มือหนาบีบแขนของเธอเอาไว้แน่น เกิดมาก็ไม่เคยเจอ ผู้หญิงอะไรบ้าชะมัด “รัณ! แกพาเธอเข้าไปเถอะ ฉันจะรออยู่ข้างนอก ไม่ไหวจริงๆ แก้วหูจะแตกแล้ว”นารารัตน์ขับรถมาจอดตรงหลังคลับ ที่ห่างไกลผู้คนพอสมควร พร้อมกับร้องเรียกเพื่อนของเธอ วิธีนี้อาจจะช่วยกลบเสียงยัยหมาบ้านี้ได้ “โอเค เส้นด้าย! แก้วหูฉันระเบิดแล้วเหมือนกัน!” “อีนังบ้า! แกเป็นเพื่อนกับอีนังหน้าด้าน พวกแกกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน! อย่
เสียงทักทายอย่างไม่เป็นมิตรแฝงไปด้วยความเย้ยหยันเมื่อร่างของรมิตาเดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาเหยียดมองจ้องหาเรื่องเต็มร้อย แม้แฟนหนุ่มของเธอจะห้ามเท่าไหร่รมิตาก็ไม่ยอมฟัง เพราะภายในร่างกายของรมิตานั้นร้อนเป็นไฟ บวกกับแอลกอฮอร์ผสมอยู่พอสมควร เธอจะต้องปิดเกมบ้าบอนี้ให้ได้ “แล้วคุณคิดว่าจะเจอดิฉันที่ไหนหรือคะ...ที่นอกจากเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของคุณพริษฐ์แล้ว...ดิฉันเองก็ไม่ค่อยจะมีที่ไปสักเท่าไหร่เลยค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยสิคะ”นันท์นลินก็มีฤทธิ์ของแอลกอฮอร์อยู่ในร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกความกล้าที่มีอยู่ทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนสุมไฟเพิ่มเข้าไปอีก “แก! มันจะมากเกินไปแล้วนะ...แกคิดเหรอว่าธัญญ์เลี้ยงแกไว้และปล่อยให้อยู่สุขสบายแบบนี้...แล้วแกจะมากล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”ความโกรธแล่นปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเจอความพูดตอกกลับจากอีกฝ่าย “แล้วดิฉันจะต้องพูดแบบไหนกับคุณล่ะคะ...ในเมื่อคุณกลับไปถามแฟนของคุณแล้ว คำตอบที่ชัดเจนแบบนั้น คุณก็น่าจะรู้แล้วนะคะ จะต้องให้ดิฉันตอบแบบไหนถึงจะตรงใจคุณคะ”ใบหน้าสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ความมึนตึงเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มทำให้นันท์น
“อะไรของแกรัณ! อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรบ้าๆ ขึ้นมา”นารารัตน์มองเพื่อนชายสุดเฮ้วของเธอ ภรัณยูเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมุทะลุ บ้าดีเดือด ผิดกับรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง หล่อ ขาว คม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ รูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่ถึงกับผอม อกแกร่งกำยำ หุ่นค่อนข้างไปทางสำอางมากกว่าที่ออกแนวชายชาตรี ทำให้ผู้หญิงนับร้อยนับพันมองเพื่อนของนารารัตน์เป็นเกย์มาตลอด “ก็หมายถึงเธอคนนั้น ที่เป็นแฟนของนายพริษฐ์นั่นไง ก่อนหน้านี้เธอจะหาเรื่องพระพายอยู่ไม่ใช่เหรอ...ฉันจะอาสาจัดการให้ เธอจะได้ไม่มายุ่งกับพระพายอีก” “รัณ! นี่แกจะบ้าหรือไง คิดอะไรไม่ออกแล้วใช่มั้ย แกถึงใช้วิธีแบบเผด็จการของแกน่ะ” “พระพายไม่เป็นอะไรหรอกรัณ...ขอบคุณรัณมากเลยนะที่จะช่วยพระพาย...จริงๆ เธอจะโมโหก็ไม่แปลกหรอก เพราะเธอก็ต้องหึงหวงแฟนของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา เป็นใครก็ต้องโกรธกันทั้งนั้นพระพายเข้าใจ” “โอเค...ถ้าพระพายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...รัณเองจะได้สบายใจ เอ้า...ดื่มกันบ้างสิ...ไหนๆ วันนี้เราก็มาเจอกัน...ในรอบเท่าไหร่นะ...รอบสองเดือนน่าจะใช่...มาๆ ชนแก้ว!” “นานจนจำไม่ได้แล้วสิรัณ...โอเค...ด
เสียงร้องครวญอย่างเจ็บปวด พรินทร์ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ ในหัวของเธอก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงสุขสมและเสียวซ่าน แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด หัวใจของพรินทร์เริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาการบางอย่างของเธอกำลังจะตามมา ริมฝีปากบางกัดเม้มเอาไว้เพื่ออดกลั้นกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น “ไม่!! โอ๊ะ! ผมก็ปวด! ธารา!”เสียงทุ้มรอดไรฟันออกมา เอวหนายกขึ้นสูงกดเน้นสะโพกกระแทกแท่งเหล็กฝ่าความคับแคบเข้าไปอย่างแรง! จนทำให้แท่งร้อนแกร่งนั้นทะลุทะลวงเยื้อกั้นเข้าลึกจนสุดลำ! สวบ! มังกรใหญ่กระแทกกระทั้นเสียงดังสนั่น! “กรี๊ดดดด! ไม่นะ! ปล่อย! ฮึก!”เสียงร้องของเธอดังพร้อมกับแท่งร้อนกระแทกเข้ามาช่องทางรักของเธอจนจุก “โอวว์ ซี๊ดดดด...อึ้มมม์ ปล่อยตัวตามสบายธารา!”เสียงหอบกระเส่าสั่งคนตัวเล็ก เมื่อเรือนร่างงามพยายามจะเด้งร่างตัวเองออก จนมือหนาต้องจับล็อคเอวบางเอาไว้แน่น! ตั่บ! เสียงมังกรใหญ่กระทุ้งกระแทกเสียงดังสนั่นจนร่างบางสั่นสะท้านสะเทือน “ฮึก! แต่มันจะ- เจ็บ!”เสียงร้องของหญิงสาวดังลั่นห้อง ช่วงล่างของเธอเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย มือบ
คำหวานถูกหยอดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีบางอย่างที่เป็นความจริง กวินกานต์ไม่ได้โกหกตรงที่เธอเป็นคนสวยและน่ารักเลย เพราะเธอคนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ ใบหน้าขาวนวลเนียนใส ดวงตากลมโตหวานซึ้ง ริมฝีปากบางอวบอิ่มสีชมพู มันทำให้กวินกานต์แอบหลงใหลเคลิบเคลิ้ม แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะชั่วครู่ เพราะว่า กวินกานต์นั้นรักนันท์นลินเกินกว่าที่จะมองหญิงอื่น เขารักนันท์นลินเพียงคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงตอนนี้คือการแก้แค้นเอาคืนนายพริษฐ์ ชายที่พรากคนที่รักไปจากเขา เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง... “อื้อออ...” พึมพําอย่างเคลิบเคลิ้มของหญิงสาวดังขึ้น เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังดูดดุนปากบางอย่างดุเดือด ร่างของพรินทร์ลอยเคว้งขึ้นไปในอากาศ กลุ่มผีเสื้อน้อยใหญ่โบยบินไปทั่วช่องท้อง อันเรียบแบนของเธอ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากเล็ก เกี่ยวกวัดรัดลิ้นบางอย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังกระเพื่อมไหว “ธะ-ธารา ผะ-ผม โอววว์”เสียงทุ้มครวญครางอย่างเจ็บปวด กวินกานต์ไม่คิดว่าร่างงามจะให้ความรู้กระสันถึงเพียงนี้ ความหวานอันดูดดื่มจากเรียวปากสวย ทำให้กวินกานต์ตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวามอย่างง่ายดาย “คะ?” ใ

![เจ้าเวหา [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

![สมิงดำ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



